@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร เหนือเมฆ 2 มือปราบจอมขมังเวทย์ วันที่ 20 ธ.ค. 55

อ่านละคร เหนือเมฆ 2 มือปราบจอมขมังเวทย์ วันที่ 20 ธ.ค. 55

ป้ายโฆษณาพังปลิวว่อน สัญญาณไฟจราจรสลับเขียวเหลืองแดงต่อเนื่อง รถยนต์เบรกไม่ทัน ขับพุ่งชนกลางสี่แยกไฟแดง เกิดความวุ่นวาย..
ทุกคนออกจากรถมายืนมองท้องฟ้าที่ผิดปกติน่ากลัว เมฆดำแผ่ขยายบดกินเนื้อที่ท้องฟ้าที่สดใส เพิ่มขึ้นไปเรื่อย ๆ
ท้องฟ้าเหนือวัดยังคงสดใสอยู่ รถของแสงกล้าแล่นเข้ามาจอดที่ลานหน้าวัดหัวลำโพง จ่าสมิงออกจากฝั่งคนขับ แสงกล้าเปิดประตูออกมามองด้วยความแปลกใจ
“มาวัดทำไม”

สมิงไม่ตอบเดินเข้าไปในบริเวณวัด
แสงกล้าเดินตามเข้ามา สมิงไหว้บูชา แล้วเอากระดาษไปแปะไว้ที่โลงศพ สวดแผ่เมตตาขอพร...แล้วเดินผ่านแสงกล้าไป...
สมิงหยอดเหรียญบริจาคลงในตู้ ไหว้อธิษฐานแล้วก็เดินไปหยอดตู้อื่น แสงกล้าเดินเข้ามาจับมือสมิงไว้



“ไม่ใช่เวลาทำบุญ เราต้องไปทำคดีสืบหาความจริง”
“นี่แหละชีวิตจริง... ถ้าคิดจะสู้กับมาร เราต้องรีบทำบุญเสริมสร้างความดี บุญไม่มีบารมีไม่เกิด”
จ่าสมิงเอามือแสงกล้าออกแล้วเดินไปหยอดเงินทำบุญในที่ตู้ต่อไป แสงกล้าเดินตามไป
“สู้กับโจรผู้ร้ายต้องใช้สมอง ไม่ได้ใช้บุญ”
“นับแต่วินาทีนี้เป็นต้นไปไม่มีอะไรแน่นอน เราอาจจะต้องตายในวันนี้หรือพรุ่งนี้ไม่มีใครรู้”
จ่าสมิงเอาเงินยัดมือแสงกล้า
“ทำบุญซะ...ตายไปจะได้มีบุญติดตัวไปฝากยมบาล”
แสงกล้าไม่อยากขัดจึงเอาเงินหยอดตู้ ทันทีที่เงินร่วงลงตู้ ใบหน้าแสงกล้ากระจ่างเหมือนมีพลังบางอย่างทำให้รู้สึกอิ่มบุญอิ่มใจ แสงกล้ายิ้มออกมาแล้วหันไป แต่สมิงหายไป
“สมิง”

แสงกล้ามองหาสมิง เห็นด้านหลังของสมิงกำลังยื่นเงินให้คน ก็คิดว่าสมิงทำทาน
“ทำบุญแล้วทำทานเหรอ”
สมิงหันมาพร้อมชูล็อตเตอรี่
“พรุ่งนี้รวย ?!”
แสงกล้ามีสีหน้าผิดหวังมากที่เห็นสมิงยังคงบ้าหวย
“เมื่อคืนฝันว่าได้คั่วโคโยตี้สองคน รวมผมเป็นสาม เตียงเดียวกันมีตั้งหกขา
สองสามหก แหม...ไม่น่าบอกหมวดเลย เลขเคลื่อน ตีเป็นเลขอื่นดีกว่า”
สมิงหันไปเปลี่ยนล็อตเตอรี่...แสงกล้ามองด้วยความผิดหวัง
“ไร้สาระ”
แสงกล้าเดินนำออกไปทันที สมิงหันมามองแสงกล้าแล้วอมยิ้มที่แกล้งยั่วได้ แต่เมื่อสมิงเงยมองฟ้าก็เห็นเมฆดำสนิทเคลื่อนมาปกคลุมฟ้าสดใส บังเกิดประกายสายฟ้าแปลบปลาบไปทั่ว
สมิงเปลี่ยนจากรอยยิ้มเป็นอาการสะพรึงกลัวกับสิ่งที่จะเกิดขึ้น

สมิงเดินตามแสงกล้าด้วยสีหน้าและแววตาไม่ค่อยดีนัก
“ไสยดำกลับมาแบบเต็มรูปแบบแล้ว มันรอคอยเวลานี้มาทั้งชีวิต เมื่อไหร่ที่รวบรวมศาตราวุธได้ครบ ความชั่วที่ไม่เคยปรากฏจะครอบงำโลกใบนี้”
แสงกล้าหยุดเดินแล้วหันมาถาม
“รู้ใช่มั้ย... พวกมันเป็นใคร จ่าเคยรู้จักมัน. เคยปะทะกับมัน ก็น่าจะรู้ว่าทำลายพวกมันยังไง”
สมิงนิ่งมองแสงกล้า ก่อนจะตอบน้ำเสียงเรียบ ใบหน้ากวนตามแบบของจ่าสมิง
“ถ้ารู้มากขนาดนั้น ผมจะมายืนให้หมวดซักทำสากกะเบือทำไมครับ”
แสงกล้ามองสมิงที่เดินออกไปอย่างไม่เข้าใจเท่าใดนัก

ทางเดินกว้างที่ทอดยาวออกไป ลมพัดวูบแรงเศษใบไม้กระจาย สมิงที่เดินอยู่หยุดเดินกระทันหัน
แววตาเขม็งมองไปโดยรอบ
แสงกล้า เห็นสมิงหยุดเดินก็ไม่ได้สนใจกลับเดินผ่านสมิงไป

ขมังเวทย์เพ่งไปที่เพชรยอดสังข์เบื้องหน้าด้วยแววตาที่น่ากลัว

ร.ต.ต. แสงกล้า อภิไชยกำลังก้าวเดินไปเบื้องหน้า งูเห่าตัวเขื่องโผล่พรวดมาด้านหน้า แผ่แม่เบี้ยน่ากลัวกำลังจะฉกแสงกล้า แสงกล้าหยุดเท้าไม่ทัน

ภายในโถงพิธีกรรม แววตาขมังเวทย์ยังคงแข็งกร้าว

ร.ต.ต. แสงกล้าผงะ งูเห่ากำลังพุ่งเข้าหาที่ข้อเท้า แต่ทันใดนั้น รองเท้าเก่า ๆ เน่า ๆ ถูกปามาจากด้านหลัง และโดนเข้าที่หัวงูอย่างแม่นยำ งูถึงกับนอนนิ่งไม่ไหวติง
แสงกล้าหันขวับไป เห็นจ่าสมิงยืนเขย่งขาอีกข้างที่ไม่ได้ใส่รองเท้า เมื่อเขาหันกลับไปอีกที ไม่เห็นงู เห็นแต่รองเท้าสมิงอยู่บนกองเลือดดำ
“เฮ้ย...”
จ่าสมิงเดินมาเก็บรองเท้าของตัวเองไปใส่ แสงกล้ามองอย่างอึ้ง ๆ กองเลือดดำซึมหายลงไปกับพื้น ต่อหน้าแสงกล้ากับสมิง
“งู... งูหายไปไหน”
แสงกล้าแววตาเครียดหันไปมองสมิง
“นี่มันคือไสยดำ... ที่จ่าพูดถึงใช่มั้ย”

ขมังเวทย์กระอักเลือดสีดำพุ่งออกมาจากปากเป็นสายลงบนพื้น มีซากงูเห่าบนกองเลือดนั้น
แววตาขมังเวทย์ลุกโชนยิ่งกว่ากองไฟ
“ไอ้มงคล โลกนี้ไม่มีที่ให้แกอยู่ร่วมกับฉัน !”
ภาพโชติฌาณต่อสู้กับมงคลอย่างเร้าใจผ่านเข้ามาในความทรงจำ
เทียนรอบห้องดับวูบ เหลือแต่ไฟในแววตาขมังเวทย์ที่ลุกโชน
“ถึงเวลาที่แกต้องชดใช้ด้วยชีวิต..ด้วยวิญญาณ ! ต้องไม่มีอำนาจความดีที่อยู่เหนือข้า ต่อจากนี้ไปจะไม่มีพลังใด ๆ มาขัดขวางความยิ่งใหญ่ของข้าอีกแล้ว”
ขมังเวทย์เคลื่อนมาอย่างเร็วมาหยุดตรงหน้าตรีศูลวัชระและสังข์ไชยมงคลที่ตั้งอยู่บนแท่น และยังมีอีก 2 แท่นที่ว่างเปล่ารอศาสตราวุธชิ้นต่อไป...

บริเวณหน้าทางเข้าโถงพิธีกรรมฯ จักร อมตฤทธาจะเดินไปด้านใน แต่ปราบ บอดี้การ์ดของวิญญูมาขวางไว้
“เข้าไม่ได้ครับ ท่านวิญญูสั่งไว้”
“แกเป็นลูกน้องใคร”
ปราบก้มหน้า แต่ยังไม่ยอมหลบหลีกทางให้จักร ด้วยเพราะเกรงอำนาจของวิญญู
“มันคิดว่ามีเวทย์มนต์แล้วจะอยู่เหนือฉันได้เหรอ ฉันจะทำให้มันรู้ว่าใครเป็นลูกน้อง ใครเป็นนาย !”
จักรจะเดินเข้าไปแต่แล้วต้องหยุดชะงัก แววตาเบิกกว้างด้วยความตกใจที่เห็น ดร. เมฆา ฐานรัฐเดินออกมาจากโถงพิธีกรรม เมฆาจ้องหน้าจักรด้วยแววตาไม่พอใจ
“แล้วคุณเป็นลูกน้องใคร”
“ดอกเตอร์เมฆา... เอ้อ ท่านนายกฯ มาที่นี่ได้ยังไงครับ”
“ฮึ ๆ ๆ”
เมฆาหัวเราะแล้วกลับกลายร่างเป็นวิญญูในชั่วพริบตา
“วิญญ”
“มีของดีกับตัวต้องลองของกันบ้าง”
วิญญูพูดจบก็กลายร่างเป็นปราบ
จักร กับปราบเห็นก็ตกใจ !
“ท่าน...” ปราบโพล่งขึ้น
“เอาเส้นผมมาปลุกเสกอีกล่ะสิ” จักรว่า
วิญญูในร่างปราบบอก
“ต่อไปนี้...ไม่จำเป็นต้องปลุกเสกให้เสียเวลา”
วิญญูคืนร่างเดิมบอก
“อยากเป็นใครก็เปลี่ยนได้.. ด้วยจิตสั่ง !”
วิญญูพูดจบก็กลายร่างเป็นจักร
วิญญูในร่างจักรหัวเราะ
“ฮึ ๆ ๆ”
จักรไม่พอใจเดินเข้าไปยังห้องโถงพิธีกรรม

จักรเดินตรงมายังสังข์ไชยมงคล วิญญูเดินตามเข้ามา
“ต้องเป็นอำนาจคุณไสยจากสังข์ไชยมงคลแน่ ๆ”
จักรจะเข้ามาจับที่สังข์ แต่วิญญูเดินเข้ามายกมือขึ้น จักรร่างถลาออกไปคล้ายโดนกระแทกล้มคว่ำลงไปกองแทบพื้น
“อย่ายุ่งกับเทวาศาสตราวุธ !”
“ลืมไปแล้วเหรอว่าใครเป็นนายจ้าง”
“ไม่ลืม แต่ยังไม่ถึงเวลา”
วิญญูเดินมอง ตรีศูลวัชระ และ สังข์ไชยมงคลแล้วพูดขึ้น
“เหลือเพียง อนันตคทา และ จักระนารายณ์ เมื่อเทวาศาสตราวุธทั้งสี่มารวมกัน ทุกสรรพสิ่งจะตกอยู่ภายใต้อำนาจและจิต”
“ของฉัน !” จักรพูดสวนขึ้นมาทันที
วิญญูเหลือบมองข่มจักรแล้วบอก
“ใช่... ทุกอย่างจะตกอยู่ภายใต้อำนาจและจิตของนายจ้าง ฮึ ๆ ๆ”
วิญญูยิ้มเหี้ยมและหัวเราะอย่างมีเลศนัย

ในโรงยิมฯ เย็นวันเดียวกัน น้ำใสกับแสงกล้าในชุดยูโดกำลังกอดรัดต่อสู้กันอยู่ โดยแสงกล้าเป็นคนฝึกยูโดให้กับน้ำใส
แสงกล้ากำลังคิดถึงเรื่องที่เพิ่งเจอมากับสมิงที่ถูกงูเห่าโจมตี และสมิงเล่นงานยามที่โดนของจากขมังเวทย์ น้ำใสฝึกไปบ่นไป

“มาก็สาย... หนำซ้ำมาแล้วยังไม่พูดไม่จา ถามอะไรก็ไม่ตอบ”
น้ำใสขยับจะทุ่ม แต่ทุ่มไม่ได้เพราะแสงกล้าขืนตัวไว้
“อืม...” แสงกล้า รับคำแบบไม่สนใจ
“ตกลงบอกฉันได้รึยังว่าเกิดอะไรขึ้นกับหมวดคราม ทำไมเค้าถึงเป็นอย่างนั้น”
“อืม...”
“นิติเทคฯกับสำนักงานสืบฯ พบหลักฐานอะไรพิเศษบ้างมั้ย”
“อืม...”
“อะไรวะ เอาแต่อืมๆ ... ไม่รู้เรื่องโว๊ย”
น้ำใสทุ่มแสงกล้าเต็มแรงจนเสียหลักล้มลงไป น้ำใสโดดตัวลอยบอก
“ไชโย... เล่นงานแชมป์ยูโดได้อีกแล้ว”
“เก่งแล้วนะเดี๋ยวนี้...”
แสงกล้าลุกขึ้นแล้วขยับจะเดินออกไป
“เดี๋ยวก่อนสิ... จะรีบไปไหน”
“วันนี้เหนื่อยมาทั้งวันแล้ว ขอกลับเร็วหน่อยก็แล้วกัน แล้วอีกอย่างหนึ่ง...เธอก็เก่งมากแล้วด้วย"
แสงกล้าเดินออกไป น้ำใสร้องเสียงหลง
“เดี๋ยวก่อนสิ เดี๋ยวก่อน...”
น้ำใสรีบเดินตามแสงกล้าออกไป

ทั้งแสงกล้าและน้ำใสเปลี่ยนชุดแล้วสะพายเป้เดินออกมายังบริเวณทางเดินหน้ายิมฯ
“แสงกล้ารอฉันด้วย”
“ทำไมต้องรอ”
“อ้าว... ก็จะได้กลับด้วยกันไง”
“ฉันจะกลับไปเคลียร์งานที่สำนักงานสืบฯ”
“งั้นดีเลย... ไปด้วย จะไปหาข่าว”
“อย่าเลย ผบ.รวิเห็นนักข่าวคงไม่ชอบใจนักหรอก”
“แต่ว่า”
“ไม่มีคำว่าแต่ กลับบ้านไปซะ”
น้ำใสยิ้มเอาใจบอก
“ไปส่งหน่อยสิ ฉันเป็นผู้หญิงบอบบางนะ”
แสงกล้า ยิ้มๆบอก
“น้ำใส...เธอเรียกร้องจากฉันมากเกินไปมั้ย เราต่างคนต่างไปเหอะ”
แสงกล้าแกล้งผลักน้ำใสออกไป แล้วเดินไปอีกทาง
“โธ่... อ่อนหวานกับฉันบ้างก็ได้ไอ้เพื่อนบ้า”
น้ำใสมองตามแสงกล้าที่เดินจากออกไป พักหนึ่งสีหน้าก็ซึมลง ถอนหายใจออกมาเบาๆ แล้วเดินออกไป

ภายในห้องของจ่าสมิงเวลากลางคืน เขานอนหลับตาอยู่ในแท่นที่คล้ายกับแคปซูลของขมังเวทย์
แต่ไม่ทันสมัยและดูเหมือนจะเก่ากว่ามาก สมิงคล้ายกำลังครุ่นคิดประมวลเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด
ตอนที่เขายื่นมือให้แพรไพลินจับ เธอจับมือเพื่อรักษามารยาท เขานิ่งและรู้สึกว่ามีสิ่งผิดปกติ...มีลูกสะกดในร่างกายของแพรไพลิน
สมิงลืมตาขึ้น แววตาแข็งกร้าวไม่มีแววขี้เล่นเหมือนอย่างที่เคยเป็น
ภาพแพรไพลินโดนบังคับให้ต่อสู้กับแสงกล้า และ สมิงพบลูกสะกดในตัวนักเลงและทำพิธีทำลายลูกสะกด
สมิงนิ่งคิดแล้วพูดกับตัวเอง
“ของที่แกทิ้งไว้ในตัวหมอแพรไพลินจะล่อให้แกออกมา.. ไอ้พญามาร !”
จ่าสมิงสีหน้ามุ่งมั่น

วันใหม่ … ภายในห้องนิรภัยที่เกิดเหตุพญ. แพรไพลิน นวิยากุลร่วมกับเจ้าหน้าที่เนติเทคฯหลายราย กำลังเก็บหลักฐานหลายอย่างภายในห้องนิรภัย
แพรไพลินกำลังนั่งดูคราบเลือดที่ปรากฏอยู่บนพื้นห้อง เพื่อค้นหาความจริงของแพรไพลิน
ที่มุมกำแพงด้านหนึ่ง สายตาใครคนหนึ่งกำลังแอบมองอย่างไม่เป็นมิตร

ผ่านเวลามา อีกมุมหนึ่งภายในห้อง แพรไพลินกำลังสั่งเจ้าหน้าที่คนหนึ่ง
“เก็บปลอกกระสุนทั้งหมด ส่งไปให้ฉันที่เนติเทคฯ ฉันต้องการวิเคราะห์หลักฐานทุกชิ้น"
มุมหนึ่ง พ.ต.ต. หญิง รวิ อิงคพัฒน์เป็นเจ้าของสายตาที่แอบมองแพรไพลินอยู่ สายตาที่มีเลศนัยนั้นมองไปที่ปลอกกระสุนที่เจ้าหน้าที่เนติเทคฯกำลังเก็บไว้เป็นหลักฐาน
เสียงโทรศัพท์มือถือแพรไพลินดังขึ้น
“แพรไพลินพูดค่ะ...”

บริเวณทางเดินในสำนักงานสืบสวนพิเศษ ร.ต.ต. แสงกล้า อภิไชยกำลังเดินพูดโทรศัพท์กับแพรไพลิน
“ทางคุณมีอะไรคืบหน้าบ้างมั้ย”
แพรไพลินเดินเลี่ยงออกมาคุยโทรศัพท์กับแสงกล้าที่มุมหนึ่งในตึก นอกห้องนิรภัย
“ฉันกำลังเก็บหลักฐานอยู่ จะเก็บเอาไปวิเคราะห์ที่เนติเทคฯ แล้วทางคุณล่ะ”
“ไม่ค่อยดี... เจ้าหน้าที่ในห้องควบคุมภาพวงจรปิด เป็นบ้าพร้อมกันทั้งสองคน ให้การอะไรไม่ได้สักอย่าง"
“ไม่มีพยานบุคคลก็ต้องใช้พยานวัตถุ ฉันจะลองสรุปหลักฐานที่หามาได้ทั้งหมด มันน่าจะมีเบาะแสอะไรบ้าง"
“ทางออกของคดีนี้ขึ้นอยู่กับคุณคนเดียวนะ...แพรไพลิน”
“กรุณาเรียกให้ครบด้วยค่ะ”
“อะไรนะ”
“เรียกชื่อฉันให้ครบ”
“โอเคครับ... ดอกเตอร์แพรไพลิน แหม... นิด ๆ หน่อย ๆ ไม่ได้เลยนะ”
“ไม่ได้สิ ฉันไม่ใช่เพื่อนเล่นคุณนะ ถ้าไม่มีอะไรแล้วก็แค่นี้นะ ยังมีเรื่องต้องทำอีกเยอะ”
แพรไพลินพูดจบก็กดปิดมือถือ เดินเข้าไปในห้องนิรภัยเพื่อหาหลักฐานต่อ

แสงกล้าทำหน้าเบื่อหน่ายยกโทรศัพท์มาพูดเหมือนหมั่นไส้เต็มที่
“ยายป้าเอ๊ย คิดว่าผมสนใจนักเรอะ เจ๊ไพลิน!”
แสงกล้ามีสีหน้าหมั่นไส้เสียเต็มประดา ทั้งที่ความจริงก็แอบชอบแพรไพลินอยู่โดยไม่รู้ตัว

ในเวลาต่อมา ภายในห้องคอมพิวเตอร์ของสำนักงานสืบฯ แสงกล้ากำลังเปิดคอมฯเช็กประวัติของแพรไพลินทางอินเตอร์เน็ต
จอคอมฯ ปรากฏภาพของแพรไพลินในอริยาบถต่าง ๆ ที่ลงในนิตยสาร
แสงกล้า อ่านข้อความหน้าจอ
“บทสัมภาษณ์คุณหมอนักสืบแห่งเนติเทค ดอกเตอร์แพรไพลินนวิยากุล”
แสงกล้าอ่านประวัติแพรไพลินด้วยความสนใจ พออ่านไปได้สักครู่ก็พึมพำกับตัวเอง
“ปมเกลียดแม่แรงจริง ๆ เจ๊ไพลิน”
แสงกล้าคลิกเปิดนิตยสารที่มีรูปถ่ายคู่ระหว่างแพรไพลินกับเพชรแท้หลาย ๆ รูป เขาเปิดอ่านไปเรื่อย ๆ ด้วยความสนใจ และมาหยุดตรงภาพของแพรไพลินภาพหนึ่งก่อนพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“ชีวิตคุณก็มีแต่แม่ ทำไมไม่ทำความเข้าใจกัน”
แสงกล้านิ่งคิดเหมือนกำลังตัดสินจะทำอะไรบางอย่าง

ในเวลากลางคืน พญ.แพรไพลินกำลังใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์วิเคราะห์อยู่ที่ห้องแลปของเนติเทคฯ เธอนำภาพที่ได้จากการถ่ายศพผู้กองคราม ทอรุ้ง และ ภาพรอยเลือดในห้องนิรภัยมาตรวจสอบ อีกทั้งเธอยังนำภาพการฆาตกรรมอื่น ๆ มาใช้ประกอบการวิเคราะห์และศึกษาผล
แพรไพลินหันไปกดวิดีโอวงจรปิดดูอีกครั้งหนึ่ง ด้วยแววตาที่พยายามค้นหาความจริงทั้งหมด

เท้าของใครคนหนึ่งเดินมาตามทางเดินบริเวณเนติเทคฯและตรงไปยังห้องแลปของเนติเทคฯ
CUT /
ภายในห้องแลปเนติเทคฯ แพรไพลินเพ่งมองภาพวิเคราะห์ของศพผู้กองคราม เข้าคำนวณในโปรแกรมคอมพิวเตอร์กราฟิก ภาพ 3D จำลองร่างของครามปรากฏบนจอ และมีภาพแสดงทิศทางของกระสุน

อ่านละคร เหนือเมฆ 2 มือปราบจอมขมังเวทย์ วันที่ 20 ธ.ค. 55

เหนือเมฆ2 : มือปราบจอมขมังเวทย์
เหนือเมฆ2 บทประพันธ์ - บทโทรทัศน์ : คฑาหัสถ์ บุษปะเกศ
เหนือเมฆ2 กำกับการแสดง : นนทรีย์ นิมิบุตร
เหนือเมฆ2 ผลิตโดย : บริษัท เมตตามหานิยม จำกัด โดยผู้จัด ฉัตรชัย เปล่งพานิช
เหนือเมฆ2 แนวละคร : ดราม่า แอ็คชั่น แฟนตาซี
เหนือเมฆ2 ออกอากาศทุกวันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ เวลา 20.15 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3
เหนือเมฆ2 เริ่มออกอากาศตอนแรกวันอาทิตย์ที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2555
ที่มา manage