@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร คุณสามี(กํามะลอ)ที่รัก[2] วันที่ 13 ธ.ค 2555

อ่านละคร คุณสามี(กํามะลอ)ที่รัก[2] วันที่ 13 ธ.ค 2555

พิมภาเก็บข้อมูลจากอาหารที่ตรีวิญสั่ง
“ทอดมันหน่อกะลาของที่นี่ก็อร่อยนะคะ”
“งั้น ขอทอดมันหน่อกะลาด้วยครับ เท่านี้ก่อนครับ” ตรีวิญส่งเมนูคืนให้บริกร “ที่จริงคุณพิมมีนัดอยู่แล้วรึเปล่าครับ”
“เปล่านี่คะ อ๋อ โทรศัพท์เมื่อกี้เหรอคะ คนดูแลบ้านโทรมาน่ะค่ะ”
“สนิทกันมากใช่มั้ยครับ”
“ทำไมเหรอคะ” พิมภาถามอย่างแปลกใจ

“ก็ผมเห็นคุณพิมคุยไป ยิ้มไป เหมือนเวลาที่คุยกับคนที่สนิทสนมกันมาก”
“สนิทที่ไหนล่ะคะ กวนประสาทพิมจะตาย คุยด้วยก็เสียเวลา”



“แต่คุณก็ยอมเสียเวลาคุยกับเค้า”
พิมภาอึ้ง เพราะจริงอย่างที่ตรีวิญพูดทุกอย่าง
“คุณตรีวิญช่างสังเกตจังนะคะ”
“สังเกตเพื่อการวิเคราะห์ครับ”
พิมภาชะงักไปนิดนึง ที่ได้ยินว่าตรีวิญบอกว่าที่จับสังเกตพิมภาเพราะต้องใช้ในการวิเคราะห์คน
“แล้วคุณตรีวิญวิเคราะห์พิมว่าไงค่ะ”
“คุณพิมเป็นคนรอบคอบ ใส่ใจผู้ร่วมงานดูจากที่คุณให้ข้อมูลที่ผมน่าจะสนใจอย่างตรงจุด ถึงจะดูเป็นคนเอาจริงเอาจังแต่คุณก็มีมุมสนุกสนาน ดูจากที่คุณยอมเสียเวลาคุยกับคุณดูแลบ้านที่คุณบอกว่ากวนประสาทคุณ”
“นี่คุณใช้จิตวิทยาวิเคราะห์พิมเหรอคะ” ตรีวิญยิ้ม ไม่ตอบ “งั้น ขออนุญาตนะคะ...คุณตรีวิญมั่นใจในตัวเองสูง ดูจากที่พิมให้คุณเป็นคนสั่งอาหาร คุณก็สั่งโดยไม่ลังเล แต่ก็พร้อมเปิดรับรับข้อเสนอแนะที่ประโยชน์ เพราะคุณก็ยอมรับในสิ่งที่พิมเสนอ ที่สำคัญถึงไปอยู่เมืองนอกหลายปีแต่ก็ไม่ได้ทำให้คุณเสียความเป็นไทยไปเลย ดูจากที่คุณเลือกสั่งอาหารไทยและสุดท้าย คุณเป็นคนประมาณการและคาดการณ์ได้ดี ดูจากอาหารที่สั่งแค่พอสำหรับสองคน ไม่มาก ไม่น้อยเกินไป”
ตรีวิญยิ้มเป็นการยอมรับการวิเคราะห์ของพิมภา
“คนรอบคอบอย่างคุณ ไม่น่าปล่อยให้ใครมาใส่ร้ายได้”
“ตอนที่เกิดเรื่อง พิมกำลังยุ่งกับการจัดการปัญหาส่วนตัวอยู่ค่ะ”
“ผมเชื่อว่าคุณเป็นมืออาชีพพอที่จะรู้ว่า เราต้องแยกระหว่างงานกับเรื่องส่วนตัว” พิมภาอึ้ง “เราอยู่ในโลกของการแข่งขัน คุณก็รู้ว่าเราพลาดไม่ได้” ตรีวิญเตือนพิมภาด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ “ทุกอย่างแก้ไขได้ครับ ใช้ความผิดพลาดครั้งนี้พัฒนาตัวเองนะครับคุณพิม”
“ค่ะ”
“เราเป็นทีมเดียวกันแล้ว เราจะช่วยกันแก้ปัญหานี้ครับ”
พิมภารู้สึกอุ่นใจที่ได้ยินว่าตรีวิญจะไม่ทิ้ง

กิ่งแก้วอ่านทรีทเม้นท์นิยายเล่มใหม่ของฤชวี ฤชวีรอฟังคอมเม้นต์จากกิ่งแก้ว มิ้นท์ลุ้นไปด้วย กิ่งแก้วอ่านจบแล้วก็ลุกหนีไปที่ริมหน้าต่างหันหลังให้ฤชวี
“กิ่ง นิยายเล่มใหม่ของผมมันไม่สนุกขนาดนั้นเลยเหรอ”
กิ่งแก้วหันหน้ามาปาดน้ำตาที่คลอๆ อยู่
“ใครว่าล่ะ โดนมากเลยต้น กิ่งอ่านแค่ทรีทเม้นท์ยังสงสารพระเอกขนาดนี้ ถ้าต้นลงมือเขียนมาแบบเต็มๆ มีหวัง กิ่งน้ำตาแตกไปสามวันแน่”
ฤชวีกับมิ้นท์อดขำกิ่งแก้วไม่ได้
“กิ่งชอบผมก็ดีใจ”
“งั้นมิ้นท์เตรียมออกแบบปกไว้ได้เลย”
“ไม่ใช่แค่กิ่งนะที่ชอบ กิ่งเชื่อว่าผู้หญิงไม่ต่ำกว่าล้านคนต้องกดไลท์ให้กับนิยายเรื่องนี้ของต้น พระเอกที่เป็นตัวแสบในสายตานางเอก แต่ที่จริงยอมทำทุกอย่างเพื่อความสำเร็จของนางเอก แถมนางเอกไม่เคยจะชายตามอง เพราะมีชายในฝันอยู่แล้วเค้าก็เลยเป็นได้แค่”
“สามีกำมะลอ”
กิ่งแก้วทำหน้าทั้งซึ้งทั้งปลื้ม แต่มิ้นท์รู้ดีว่าฤชวีหมายถึงความสัมพันธ์ระหว่างฤชวีกับพิมภา
“ต้นคิดคำนี้ได้ยังไงน่ะ มันโดนมากเลย”
มิ้นท์พยายามจะส่งสายตาห้ามกิ่งแก้วไม่ให้ถาม แต่ว่าไม่ทัน
“มีคนช่วยคิดน่ะ”
กิ่งแก้วมองหน้าฤชวีที่จ๋อยไป แต่ว่าก็สายไปแล้ว ฤชวีแอบรู้สึกเจ็บๆ ที่นึกถึงคำว่าสามีกำมะลอที่พิมภาชอบเรียกฤชวีโดยที่ไม่รู้ความหมาย เสียงมือถือฤชวีดังขึ้น เห็นว่าเป็นสายของเกษมโทรเข้ามา ฤชวีปลีกตัวมารับสาย
กิ่งแก้วยังปลื้มกับงานของฤชวี ในขณะที่มิ้นท์แอบสนใจอาการของฤชวี
“ได้ข้อมูลแล้วใช่มั้ยคุณเกษม ขอบคุณมากครับ งั้นรีบส่งเลยนะครับ ที่สำคัญขอให้เป็นความลับที่สุด” ฤชวี
วางสาย
“คุณเกษมได้ข้อมูลแล้วเหรอ”
“อืม คุณพิมจะได้เลิกกลุ้มซะที ยิ่งได้ข้อมูลคนที่คิดร้ายกับคุณพิมเร็วเท่าไหร่ คุณพิมก็จะยิ่งพ้นมลทินเร็วเท่านั้น”
“ทุ่มเต็มที่ขนาดนี้ไม่ได้ใจให้มันรู้ไป”

ฤชีวียิ้ม มิ้นท์กับกิ่งแก้วสบตากันยิ้มๆ แล้วมองฤชวีว่าเป็นเอามาก
เมื่อกลับถึงห้องทำงาน พิมภาเตรียมข้อมูลสมุทัยเวชศาสตร์ให้กับตรีวิญอย่างอารมณ์ดี นันทิกานต์แอบมองอาการพิมภาแบบเซ็งๆ


“คุณพิมภาคะ”
“คะ คุณนันทิกานต์”
แต่พิมภาก็ยังไม่วางมือจากข้อมูล
“กรุณาเก็บอาการหน่อยดีมั้ยค่ะ”
“เก็บอาการเรื่องอะไรคะ”
“ก็ตั้งแต่คุณพิมภากลับจากพาคุณตรีวิญไปตรวจโรงงาน คุณพิมภาก็มีอาการลั้นลาจนน่าหมั่นไส้เหลือเกินค่ะตอนเนี๊ย”
“อ้าว ผิดด้วยเหรอคะ ที่ดิฉันมีความสุขกับการทำงาน”
“ขออนุญาตแก้ไขให้ถูกต้องค่ะ มีความสุขกับคนที่ทำงานด้วยมากกว่า”
“ฉลาดนะค้า สมองดีนะค้าคุณนันทิกานต์เนี่ย”
“มันก็ยังมิสำนึก ลั้นลากับชายที่มิใช่สามี กริยาเช่นนี้ ดิฉันเห็นว่า...เสื่อมค่ะ”
“แค่สามีกำมะลอนะค้า”
นันทิกานต์จ้องหน้าพิมภาดุๆ
“ไอ้พิม ช่วยกรุณานึกถึงตอนที่แกไปอ้อนวอนคุณต้นให้มาช่วยเป็นสามีของแกหน่อย แล้วแกไปเรียกเค้าแบบนั้น แบ่งสมองมาคิดซักหน่อยมั๊ยว่าเค้าจะรู้สึกยังไง”
“จะไปรู้สึกอะไร พ่อนักเขียนนั่นเป็นคนคิดคำนี้ขึ้นมาเองนะ”
“วันนึงนะพิม แกจะต้องเสียใจที่แกทำแบบนี้”
“แกเป็นหมอดูหรือไง ถึงมาเที่ยวทำนายแบบนี้”
“ฉันแช่ง”
“ไอ้แนน”
พิมภากับนันทิกานต์จะทะเลาะกันเดียเข้ามาพร้อมเอกสารปึกหนึ่งพอดี
“พี่พิม มีเอกสารมาส่งให้ค่ะ”
“จากไหน”
“ไม่มีชื่อผู้ส่งค่ะ”
เดียยื่นเอกสารให้พิมภาแล้วก็ออกไป พิมภาเปิดออกดูแล้วตกใจ นันทิกานต์ยื่นหน้ามาดูตกใจไปอีกคน

ที่หน้าห้องวิจัย นิคมเดินออกมาเจอลัลนากับซูซี่ที่ยืนรออยู่ ลัลนากับซูซี่ยิ้มหวานให้นิคม
“คุณลัลมีธุระอะไรกับผมเหรอครับ”
“คุณนิคมค่ะ รองพื้นตัวใหม่กับแป้งวิงค์ของเรา ในฐานะนักวิจัยคุณนิคมคิดว่าเป็นยังไงบ้างคะ”
“คือ ผมมั่นใจมากว่าคุณภาพของเราทิ้งห่างคู่แข่งแน่นอน”
“แล้วพอจะมีทางที่คู่แข่งจะไล่ตามเราทันมั๊ยคะ”
นิคมชักงงกับคำถามของลัลนา ซูซี่
“ก็ถ้ามีใครเอาสินค้าตัวอย่างที่เป็นความลับบริษัทไปให้กับบริษัทคู่แข่ง ก็ไม่ยาก”
“พวกคุณกำลังจะกล่าวหาผม”
“ถ้าคุณยอมสารภาพ ก็แค่ไล่ออก แต่ถ้าไม่ฉันจะแจ้งความ ว่าคุณละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาของบริษัท” นิคมอึ้ง “กล้าทำลายความน่าเชื่อถือในอาชีพของตัวเอง ก็ต้องกล้ายอมรับผลที่จะเกิดนะคุณนิคม”
ลัลนาจ้องนิคมอย่างเอาจริง แสดงความเป็นนางเสือออกมาให้ได้เห็น
“ผมไม่เคยทำเรื่องเลวๆ ผิดจรรยาบรรณอาชีพตัวเองแบบนั้น ก่อนจะกล่าวหาใครคุณต้องมีหลักฐาน ไม่อย่างนั้นผมไม่ยอม”
“แล้วคิดเหรอว่าฉันจะหาไม่ได้”
“มันไม่มีแน่นอน” ลัลนาจ้องนิคม นิคมมองอย่างยืนยันความบริสุทธิ์ของตัวเอง “ถ้าไม่มีธุระแล้วผมขอตัว”
นิคมเดินออกไป
“น้องลัลหาหลักฐานได้แล้วจริงเหรอคะ” ซูซี่หันมาถามลัลนา
“ถ้าจริงแล้วลัลจะมาล้วงตับนายนี่ทำไมล่ะคะ ก็พูดข่มให้แสดงพิรุธไปงั้น เพราะถ้าตัวอย่างจะหลุดได้ก็จากนิคมคนเดียว แต่นายนี่ก็ดูจะมั่นใจว่าไม่ได้ทำ”
“แล้วเอาไงต่อค่ะ”
“งานนี้เราควานต่อมั่วๆ ซั่วๆ ก็เหนื่อยเปล่า ต้องหาแนวร่วมค่ะ”
“ใครคะ แนวร่วม”
“เจ้าทุกข์โดยตรงของเรื่องนี้ไงคะ”

พิมภากับลัลนายืนกอดอกดูเชิงกัน
“ขอบอกไว้ก่อนว่าการปรองดองครั้งนี้จะเกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว เพื่อผลประโยชน์ของบริษัท”
“โอเคดีลตามนั้น เธอรู้ใช่ไหมว่าใครเป็นหนอน?”
“เธอก็รู้ว่าใครจงใจเล่นงานเธอ?”
“กางไพ่มา”
“นายนิคมเป็นคนเอารองพื้นและแป้งตัวอย่างของเราออกไปให้กับคนนอกแน่นอน”
พิมภาได้ยินข้อมูลจากลัลนา มั่นใจในข้อมูลของตัวเองมากขึ้น หันหน้าไปมองนันทิกานต์ นันทิกานต์รู้ว่าพิมภาให้เอาเอกสารออกมาให้ลัลนาดู
“โอเคงั้นเธอดูนี่”
นันทิกานต์เอาเอกสารที่เพิ่งได้มาวางบนโต๊ะ เป็นภาพของปราสินีกับนิคมนัดเจอกันและภาพปราสินีกับเบอรี่ที่นัดพูดคุยกัน
“เป็นนายนิคมจริงๆ”
“เธอสืบได้เก่งมาก”
“เธอชมฉัน รู้ตัวมั้ย”
“รู้ ฉันตั้งใจ แต่ฉันชมตามเนื้อผ้า ไม่ได้ชื่นชมอะไรนัก อย่าจริงจังมาก”
นันทิกานต์เห็นพิมภากับลัลนาตั้งท่าจะใส่กันอีกจึงขัดขึ้นมา
“เอาเรื่องงานของเราต่อมั้ย”
“นั่นสิ เดี๋ยวพี่จะช่วยจำไว้ให้ว่าทะเลาะกันถึงไหนแล้ว”
“โอเคซื้อ” พิมภากับลัลนาพูดพร้อมกัน
“ปราสินีทำงานให้ใคร” ลัลนาถามขึ้นมา พิมภาหันมามองหน้าลัลนา
“เธอไม่รู้เหรอว่าเมเนเจอร์คนใหม่ของบริษัทซันชายน์คือใคร”

ลัลนารอฟังว่าใคร
ที่บริษัทซันชายน์ ปราสินีเดินเข้ามาที่โต๊ะที่มีป้ายหน้าโต๊ะ Brand Manager ปราสินีใช้มือลูบป้ายเบาๆ อย่างสะใจ
“ขอบใจนะพิม ที่ทำให้ฉันเหยียบหัวเธอขึ้นมานั่งบนตำแหน่งนี้ เพื่อนรัก”
เอกพลเดินเข้ามา
“ชอบห้องทำงานที่พี่ให้คนจัดไว้ให้มั้ย”
ปราสินียิ้ม เดินไปหาเอกพล
“คุยกับท่านประธานคิมแล้วใช่ไหมค่ะ ท่านประธานว่าไงบ้าง”
“งานนี้สำเร็จได้ก็เพราะคุณ ท่านประธานจะว่ายังไง นอกจากคุณเก่งมาก”
“แล้วพี่เอกล่ะคะ ไม่เห็นชมปลาบ้างเลย”
“ชมสิครับ” เอกพลกอดปราสินี “ปลาเก่งที่สุด” แล้วหอมแก้มเบาๆ “ขอบคุณนะครับ คนเก่ง”
เสียงโทรศัพท์ดัง ปราสินีรับโทรศัพท์
“โอเคค่ะ แล้วพบกันนะคะ” ปราสินีวางสายแล้วหันมาคุยกับเอกพล “พี่เอกช่วยบอกท่านประธานเพิ่มด้วยว่า นอกจากเราจะทำลายชื่อเสียงของ Naree ได้สำเร็จ ปลายังมีสินค้าใหม่มานำเสนอด้วย”
เอกพลมองอย่างพอใจ

ลัลนารู้จากพิมภาแล้วว่าเอกพลคือเมเนเจอร์คนใหม่ของซันชายน์
“น้องปลาเป็นแบรนด์เมเนเจอร์ แล้วเอกพลสามีเก่า เอ๊ยว่าที่สามีเก่าของน้องพิม เป็นมาร์เก็ตติ้งเมเนเจอร์ของซันชายน์เหรอคะ”
“ไอ้เอกพลนี่มันเลวจริงๆ เธอนี่ก็โง่เนอะที่จะไปแต่งงานกับมัน”
“กรุณาใช้คำว่าเคย เคยโง่”
“ตอนนี้ฉลาดแล้วว่างั้น”
“ใช่ ฉลาด ถึงได้เลือกมาคุยกับคนฉลาดอย่างเธอ”
“อันนี้ถือว่าฉลาดมาก แล้วเธอจะเอาไงต่อ แจ้งความจับเลยมั้ย”
“ไม่”
“อย่าบอกนะว่ายังซึ้ง ยังอินกับนายนั่น”
“แจ้งจับมันธรรมดาไป ไม่สะใจคุณพิมภาหรอก” นันทิกานต์บอกแล้วมองอย่างรู้นิสัยเพื่อน
“ใช่ ฉันต้องการคำสารภาพจากคนผิด Naree ต้องได้รับการขอโษอย่างเป็นทางการ”
“ร้าย”
“ม้าก มาก”
“แต่ฉันชอบ”
“ฉันก็ว่าแล้วว่าเธอต้องถูกใจ”
“แผนของเธอเป็นไงว่ามา”
พิมภากับลัลนาสุมหัวกันวางแผนการ ซูซี่ยังงงๆ กับท่าทีที่เข้ากันดีเหมือนไม่เคยทะเลาะกันมาก่อนของพิมภาและลัลนา นันทิกานต์เห็นอาการของซูซี่จึงพูดขึ้นมา
“ไม่เข้าใจความสัมพันธ์ของสองคนนี้ ณ เวลานี้หละสิ ผลประโยชน์ต่างตอบแทน ไม่มีอะไรยั่งยืน เดี๋ยวก็ทะเลาะกันใหม่ มิตรภาพเฉพาะกิจเพื่อบริษัท”
“เก๋นะยะ มิตรภาพเฉพาะกิจ”
“ชอบก็เมมไว้”
ซูซี่ท่องเมมคำว่ามิตรภาพเฉพาะกิจไว้ให้ขึ้นใจ

ปราสินีมาหานิคมตามที่นัด
“คุณปลา ตอนนี้คุณปลาไปทำงานที่ไหนครับ”
“ปลายังไม่มีงานหรอกค่ะ แล้วช่วงนี้นิคมงานยุ่งมากไหมคะ”
“ก็เพิ่งวิจัยลิปสติกตัวใหม่สำเร็จน่ะครับ” นิคมหยิบลิปสติกตัวอย่างออกมาให้เห็น “ตัวนี้จะช่วยเติมเต็มร่องบริเวณริมฝีปากให้เต็มอิ่ม มันจะต้องบูมมากแน่ๆ”
“ปลาอยากลองใช้ดูจัง” ปราสินีจะจับมา แต่นิคมขยับเอาเก็บใส่กระเป๋าเหมือนเดิม
“มันยังเป็นความลับอยู่ครับ พรุ่งนี้ผมจะต้องเอาไปเสนอคุณพิม รอเปิดตัวก่อนแล้วผมจะเอามาให้คุณปลานะครับ”
“ค่ะ” ปราสินียิ้มแต่ตามองที่กระเป๋านิคมตลอดอย่างมุ่งหมาย
“คุณปลาครับ ผมไม่ได้ไปงานแต่งของคุณพิม แต่ผมได้ยินเขาพูดเรื่องคุณกับแฟนคุณพิมมีอะไรกัน ผม...”

ปราสินีวางมือบนมือนิคม
“อย่าไปเชื่อนะคะ พิมกับปลาทะเลาะกันแรงมาก ปลาก็เลยถูกแกล้งจนปลาต้องลาออก” ปราสินีบีบน้ำตา
“อย่าร้องไห้นะครับ ผม ผมเชื่อคุณปลาครับ”
“ขอบคุณค่ะ นิคมดีกับปลาเสมอ ปลา...” ปราสินีจิกตาหว่านเสน่ห์ ปราสินีกุมมือนิคม เป็นการย้ำคำพูด แล้วปราสินีก็ทำเป็นพลาดปัดแก้วน้ำหกใส่เสื้อนิคม “ขอโทษค่ะ ปลามัวแต่ดีใจจนไม่ทันระวัง”
“ไม่เป็นไรครับ ผมขอไปห้องน้ำแป๊บนะครับ”
นิคมขอตัวไปห้องน้ำ ปราสินีได้โอกาสตัดสินใจขโมยตัวอย่างลิปสติกจากกระเป๋าของนิคม ทันทีที่ปราสินีเก็บลิปสติกลงกระเป๋า พิมภา ลัลนา นันทิกานต์เข้ามานั่งประกบและฝั่งตรงข้าม
“สวัสดีจ๊ะปลา”
ปราสินีตกใจแต่เก็บอาการ
“พวกเธอมาทำไม”
“ก็ยายพิมน่ะสิ ไม่สวยเป๊ะเวอร์อย่างฉัน ก็เลยอยากเติมปากเพิ่ม เธอมีลิปใหม่ๆ แนะนำมั๊ย”
ปราสินีชะงักเล็กน้อยเสียงแข็ง
“ไม่มี” ปราสินีจะลุก พิมภากับลัลนายกมือจับไหล่ปราสินีคนละข้างแล้วกดมือพร้อมกันให้ปราสินีนั่งลง
“แท่งที่เธอเพิ่งเก็บลงกระเป๋าเมื่อกี้ไง ของตัวอย่างฉันก็ใช้ได้นะ”
“พวกเธอพูดอะไรกัน”
“แสดงว่าต้องการภาพยืนยัน จัดมาค่ะคุณซูซี่”
ซูซี่เอากล้องที่ซ่อนไว้ข้างหลังออกมาเปิดให้ปราสินีดูเป็นภาพตอนปราสินีขโมยตัวอย่างสินค้า ปราสินีหน้าเสียที่โดนจับได้ ปราสินีจะแย่งกล้องยื้อกับซูซี่แต่พิมภากับลัลนาช่วยกันจับมือปราสินี นันทิกานต์เข้ามารวบจากด้านหลังดึงให้มาติดเก้าอี้
“ปล่อยฉันนะ ยัยแนน” ปราสินีสะบัดแรงมาก
“อื้อหือ ตัวเท่าเมี่ยงแรงบัฟโฟโล่เชียวนะ”
นิคมออกมา ปราสินีเปลี่ยนบทบาทเป็นผู้อ่อนแอทันที
“นิคมคะ ช่วยปลาด้วยค่ะ พวกพิมจะรุมทำร้ายปลา”
“เจ้าบทบาทซะด้วย” ลัลนาหันไปยิ้มกับนิคม “หายโง่แล้วใช่ไหมคะคุณนิคม”
“ครับ”
ปราสินีตกใจมองนิคมว่าหมายความว่ายังไง
“ปลาจ๊ะ เป็นเพื่อนกันมาสิบกว่าปี ฉันไม่คิดเลยนะว่าเธอจะใช้เสน่ห์หลอกใช้ ผู้ชายเก่งแบบนี้ นี่เธอคงหลอกเอาสินค้าตัวอย่างจากนิคมไปให้ทางซันชายน์มาตลอดเลยใช่ไหม”
“หน้าหนอนบ่อนไส้มันเป็นอย่างนี้เอง”
ซูซี่ชี้นิคม

อ่านละคร คุณสามี(กํามะลอ)ที่รัก[2] วันที่ 13 ธ.ค 2555

ละคร คุณสามี(กํามะลอ)ที่รัก บทประพันธ์โดย ปัณณพร
ละคร คุณสามี(กํามะลอ)ที่รัก บทโทรทัศน์โดย สองปุณณณฐ
ละคร คุณสามี(กํามะลอ)ที่รัก กำกับการแสดงโดย เมธี เจริญพงศ์
ละคร คุณสามี(กํามะลอ)ที่รัก ผลิตโดย บ.เมกเกร์ เจ กรุ๊ป จำกัด(โดยคุณนก จริยา แอนโฟเน)
ติดตามชมละคร คุณสามี(กํามะลอ)ที่รักได้ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา manage