@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร คุณสามี(กํามะลอ)ที่รัก[2] วันที่ 23 ธ.ค 2555

อ่านละคร คุณสามี(กํามะลอ)ที่รัก[2] วันที่ 23 ธ.ค 2555

นันทิกานต์เหลือบไปเห็นลัลนาที่เดินออกมาจากในห้างกำลังจะไปที่รถ
“ไม่รู้สิ แต่ที่นี่ก็มีคนที่พี่ภัทรอยากให้ลงจากคานไม่ใช่เหรอ”
ภัทรพลมองตามสายตานันทิกานต์เห็นว่าลัลนากำลังจะเดินไปที่รถ ทันใดนั้นมีโจรจะกระชากกระเป๋าลัลนา
ลัลนาไม่ยอมเกิดการยื้อแย่งกัน ลัลนากระชากกระเป๋ากลับมาได้แต่ก็เซ ภัทรพลเข้ามารับตัวลัลนาไว้ได้ทัน

โจรจะเข้ามาเล่นงาน ภัทรพลส่งตัวลัลนาให้นันทิกานต์ประคองไว้ แล้วเอากระเป๋าลัลนาฟาดหน้าโจรอย่างจัง แล้วถีบซ้ำจนโจรเสียหลักวิ่งหนีไป
“แอร์เมสของฉัน”
ภัทรพลเซ็ง ส่งกระเป๋าคืนให้ลัลนา
“ของแบรนด์ไม่พังง่ายๆ หรอกน่า”
“ขอบคุณ”
ลัลนาจะเดินหนีไปแต่เจ็บเพราะข้อเท้าซ้นจะล้ม นันทิกานต์เข้าไปประคองอีก ภัทรพลเข้าไปนั่งตรงหน้าลัลนาแล้วจับข้อเท้าลัลนาข้างที่เจ็บขึ้นมาดู



“คุณจะทำอะไร”
“ก็ผมจะดูให้ บวมนิดๆ สงสัยจะเส้นพลิก” ภัทรพลนวดเบาๆ ลัลนามองภัทรพลที่จับข้อเท้านวดให้อย่างเต็มใจ ลัลนาอึ้งนิด ๆ ประทับใจ “แบบนี้เจ็บมั้ย”
“เจ็บ ยิ่งนวดก็ยิ่งเจ็บ” ลัลนาชักเท้าออก
“ไปหาหมอมั้ย ฉันจะพาไป” นันทิกานต์ถาม
“ไม่ต้อง ฉันจะกลับบ้าน”
“งั้นผมจะพาไปเอง แนนกลับไปทำงานก็แล้วกัน”
“ฉันเอารถมา” ภัทรพลจิ้มที่ข้อเท้าลัลนา “มันเจ็บนะ”
“โดนแค่นี้ยังร้อง แล้วจะขับรถได้ยังไง”
“ได้”
“อย่าฝืนเลยน่า เดี๋ยวตายไม่คุ้ม เอาเป็นว่าฉันจะไม่บอกใครว่าวันนี้ เธองดปากดีและฟังพวกฉัน 1 วัน”
นันทิกานต์บอกแล้วส่งตัวลัลนาให้ภัทรพลประคอง แล้วเดินออกไปปล่อยให้เป็นหน้าที่ภัทรพลจัดการ
“ยังไงคุณทีนี้ จะให้ผมไปส่งมั้ย” ลัลนายังท่ามากแต่จะขยับเดินก็ไม่ไหว “หนึ่ง...สอง...สาม”
ลัลนานิ่งไม่ยอมตอบ ภัทรพลปล่อยลัลนาแล้วเดินหนีไป ลัลนาอึ้ง ทำอะไรไม่ถูก แล้วก็สติแตกร้องไห้ซิกๆ ภัทรพลรู้อยู่แล้วว่าต้องเป็บแบบนี้ อมยิ้ม แล้วเดินกลับมาหาลัลนา
“จะแสดงฤทธิ์อะไรให้ดูสถานการณ์บ้าง ยืนยังไม่มีปัญญาอย่าหยิ่งไม่ถูกเวลา”
ลัลนาสะอึกแต่ก็ไม่กล้าแผลงฤทธิ์ ยอมให้ภัทรพลพาไปที่รถ

ภัทรพลขับรถมาจอดที่หน้าบ้านลัลนา ลัลนารีบจะลงเข้าไปในบ้านแต่เดินลำบาก
“ผมช่วยดีกว่า”
ภัทรพลพาลัลนาเข้าไปในบ้าน
“ไม่ต้องดีกว่าค่ะ”
“นึกว่าคุณรู้เรื่องแล้ว ว่าไม่ควรออกฤทธิ์ผิดเวลา”
ความเข้มของภัทรพลทำให้ลัลนาไม่กล้าเถียง
“ฉันไม่ได้ออกฤทธิ์ค่ะ แต่”
“แต่อะไรก็เรื่องของคุณ”
ภัทรพลไม่สนใจพาลัลนาเข้าบ้านไป

ลัลนาเข้าบ้านมากับภัทรพลเห็นว่าข้าวของของตัวเองถูกขนมาวางไว้ นวลจันทร์ซึ่งเป็นเมียหลวงออกมากับคนใช้กำลังให้คนใช้ขนของ
“นี่มันอะไรกันคะแม่” ลัลนาถามขึ้นมา
“ฉันจะเอาบ้านนี้เป็นเรือนหอให้ลูกชายฉัน”
ลัลนาโมโหมาก
“พ่อให้บ้านนี้กับแม่ฉัน”
“แต่ชื่อเป็นของพ่อเธอ ซึ่งก็คือผัวฉัน ฉันเป็นเมียหลวงฉันมีสิทธิ์จะไล่พวกกาฝากออกจากที่ของฉัน ขนของออกไป”
“ไม่ได้นะ”
“ปล่อยเค้าเถอะลัล” วรรณา แม่ของลัลนาบอก
“เดี๋ยวก่อน” ภัทรพลขัด ทุกคนชะงักรวมทั้งลัลนา “คุณลัลนาอยู่ที่นี่มากี่ปีแล้วครับ”
“ยี่สิบปี”
“งั้นตามกฎหมายแล้ว ใครก็ไล่คุณออกจากบ้านไม่ได้”
“แกเป็นใคร” นวลจันทร์ถามอย่างไม่พอใจ
“ผมเป็นใครไม่สำคัญ แต่ถ้าพวกคุณไม่ออกไป ผมก็โทรแจ้งความเลยครับ ข้อหาบุกรุก”
“แกกล้าเหรอ”
“เราเพิ่งเคยเจอกันครั้งแรก คุณไม่รู้หรอกครับว่าความกล้าผมมีมากแค่ไหน” ภัทรพลส่งสายตาท้าทายนวลจันทร์ “ให้ตำรวจตัดสินก็ได้ครับ ว่าใครผิดใครถูกและใครจะถูกเชิญให้ออกไป”
“แก!”
“ผม ภัทรพลครับ เผื่อเจอกันอีกคุณจะได้จำได้ว่าผมแสบแค่ไหน จะได้ไม่เสียเวลามาทะเลาะกับผม ยังไงครับให้โทรแจ้งตำรวจเลยมั้ย”
นวลจันทร์จำต้องถอยออกไป
“สักวันจะไล่พวกแกแม่ลูกออกจากชีวิตผัวฉันให้ได้”
นวลจันทร์ออกไป ลัลนาเข้าไปหาวรรณา
“ไม่เป็นไรแล้วนะคะแม่”
ลัลนากอดแม่ วรรณาเป็นลม ภัทรพลรีบเข้าไปช่วยพยุง ภัทรพลมองลัลนารู้สึกว่าชีวิตลัลนาดูจะมีอะไรที่ซับซ้อนอยู่

ตรีวิญขับรถเข้ามาส่งพิมภาที่หน้าบ้านชุติภา
“พิมมีนัดมากราบคุณย่าของคุณต้นน่ะค่ะก็เลยทานอาหารกลางวันกับคุณตรีวิญไม่ได้”
“ไม่เป็นไรครับ รีบเข้าไปเถอะครับ เดี๋ยวคุณต้นจะรอ”
“ค่ะ ขอบคุณมากค่ะ”

พิมภารีบลงจากรถ ตรีวิญได้แต่มองพิมภาอย่างเศร้าๆ
พิมภาเข้ามาหาฤชวี ฤชวีเห็นพิมภาก็ดีใจ
“คุณพิมมาแล้วเหรอครับ”
“ค่ะ ขอโทษนะคะคุณต้นพอดีงานเพิ่งเสร็จ”
“ไม่เป็นไรครับ”
“คุณย่าคุณล่ะคะ”
“ท่านขึ้นไปเอนหลัง”
“ท่านคงจะรอฉันนานไปหน่อย” พิมภามีสีหน้าเครียดๆ “คุณว่าย่าคุณจะจำฉันได้มั้ย เรื่องที่สมุยน่ะ”
“ไม่ต้องกลัวนะครับ ผมจะไม่ให้คุณย่าทำอะไรคุณแน่ไว้ใจผมนะครับ” พิมภามองฤชวีแล้วก็จับมือฤชวี “มีอะไรรึเปล่าครับ”
“มาพบคุณย่าสามีทั้งทีต้องแสดงให้แนบเนียนหน่อยจริงมั้ย”
ฤชวีกุมมือพิมภาตอบ
“เมียแกมาแล้วเหรอตาต้น” ชุติภาออกมาเห็นพิมภาก็นึกได้ว่าเคยเจอกันที่สมุย “เป็นเธอนี่เอง”
ชุติภามองพิมภาด้วยสายตานิ่ง ยังไม่แสดงว่าดีหรือร้าย พิมภาถึงจะหวั่นใจแต่ก็เก็บอาการ ฤชวีแสดงท่าทีให้พิมภาอุ่นใจ

ชุติภามองพิมภาไม่วางตา พิมภาทำตัวไม่ถูกได้แต่ยกมือไหว้สวัสดีชุติภา
“สวัสดีค่ะคุณย่า”
“นี่คุณพิมภาภรรยาผมครับคุณย่า”
ฤชวีแนะนำ ชุติภาจึงเปิดฉากก่อน
“เธอ...ฉันเคยเจอกับเธอที่สมุย ฉันประทับใจมาก”
ชุติภาตั้งใจจะเขี่ยเรื่องที่สมุยขึ้นมาให้พิมภาร้อนตัว
“คือเรื่องวันนั้น...”
พอเห็นว่าพิมภาร้อนใจจะขอโทษ ชุติภาก็เปลี่ยนเกมไม่ยอมพูดเรื่องที่สมุย
“ช่างมันเถอะ ใครจะไปรู้ล่ะ ว่าวันข้างหน้าเราจะต้องมาเจอกันอีกโดยเฉพาะเจอกันแบบนี้” ฤชวีรู้ว่าชุติภาจงใจเปิดฉากเล่นงานพิมภา ฤชวีมองหน้าพิมภาแบบขอให้ใจเย็นก่อน “แสดงว่าที่สมุย แกไปด้วยกันใช่มั้ย อยู่กันก่อนแต่งรึเปล่า”
“เปล่าครับ” ฤชวีรีบตอบ เพราะรู้ว่าชุติภาหมายถึงอะไร “ตอนที่ไปสมุย เราก็พักกันคนละห้องครับคุณย่า”
“มาบอกย่าทำไม ย่าดูออกว่าคุณพิมภา ภรรยาแกน่าจะเป็นผู้หญิงที่รักนวลสงวนตัวอยู่พอสมควร” ชุติภามองหน้าพิมภาแล้วยิ้ม แต่เป็นรอยยิ้มที่พิมภารู้สึกไม่ไว้ใจเลย “ถ้ายังไม่แต่งงานกันถึงนอนห้องเดียวกัน แกกับภรรยาก็คงจะกุมมือกันหลับไปจนเช้า ไม่เกิดอะไรขึ้น ใช่มั้ยคุณพิมภา” พิมภารู้สึกมั่นใจว่ากำลังถูกเล่นงาน “แปลกนะ คนที่รู้จักคิดอย่างแกสองคน ทำไมถึงแต่งงานกันโดยไม่บอกผู้หลักผู้ใหญ่” ชุติภามองหน้าทั้งสองคน “หรือว่ามันเป็น ความผิดพลาด”
ถึงชุติภาจะพูดโดยที่ไม่รู้เรื่องระหว่างพิมภากับฤชวี แต่มันก็แทงใจดำทั้งคู่อย่างจัง พิมภารับไม่ได้กับคำว่า เป็นเพราะความผิดพลาดจึงลืมตัวคิดแก้เผ็ดชุติภากลับบ้าง
“ขอโทษจริงๆ ค่ะคุณย่า ถึงเราสองคนจะรู้ดีว่าน้ำกับน้ำมันไม่ควรอยู่ใกล้กันแต่เราก็...พลาด จนได้ คุณต้นก็เลยข้ามขั้นตอนที่จะพาพิมมาให้คุณย่าพิจาณาก่อน เรา พลาด จริงๆ คุณย่าเดาถูกค่ะ”
ชุติภาไม่คิดว่าจะถูกพิมภาย้อนแบบนี้ พิมภาจะพูดต่อ แต่ฤชวีบีบแขนพิมภาไว้เบาๆ
“แต่ถึงยังไง คุณพิมก็คือคนที่ผมเลือกแล้วอยู่ดีครับคุณย่า”
“ย่าก็เห็นใจในความผิดพลาดครั้งนี้นะ” ชุติภาเห็นการะเกตุที่เดินเข้ามาพอดี “แต่แค่รู้สึกว่าแบบนี้มันไม่ยุติธรรมกับคนที่ย่าอุตส่าห์เลือกไว้ให้แกแล้ว”
พิมภามองหน้าฤชวีอย่างอยากรู้ว่าชุติภาหมายถึงใคร การะเกตุเข้ามาในวงสนทนา
“นี่เกตุมาสายไปรึเปล่าคะ” พิมภาตกใจที่เห็นว่าการะเกตุปรากฏตัวที่นี่ การะเกตุหันมายิ้มร้ายให้พิมภา “สวัสดีค่ะคุณต้น คุณพิมภา”
การะเกตุยิ้มให้ฤชวีกับพิมภา พิมภารู้สึกไม่ชอบรอยยิ้มนั้นเลยสักนิด

ที่บ้านลัลนา วรรณาได้สติ ค่อยๆ ลุกขึ้นนั่ง ลัลนาประคองแม่อย่างเป็นห่วง
“เป็นไงบ้างคะแม่”
“ดีขึ้นแล้วลูก” วรรณามองภัทรพล “ขอบคุณมากนะคะคุณ...”
“ภัทรพลครับ”
“ค่ะ คุณภัทรพล” วรรณามองหน้าลัลนาอย่างถามว่าภัทรพลเป็นใคร
“เพื่อนลัลเองค่ะแม่”
วรรณายิ่งมองทั้งคู่ด้วยความแปลกใจ
“คุณลัลขาแพลงผมก็เลยพามาส่งครับ”
“ขอบคุณจริงๆ ค่ะ วันนี้ถ้าไม่ได้คุณ ฉันกับลูกคงแย่ แล้วเป็นอะไรมากมั๊ยลูก ไปหาหมอรึยัง”
วรรณาจับดูที่เท้าของลัลนาอย่างไม่รังเกียจ ลัลนาชักเท้าหนีแม่เบาๆ เพราะไม่อยากให้แม่จับเท้าตัวเอง ภัทรพลมองออกว่าลัลนารักและให้เกียรติวรรณาแค่ไหน และรู้สึกว่าลัลนาตรงหน้าต่างกับลัลนาที่เคยเห็น
“ไปหาหมอมั้ยครับคุณลัล”
“ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวลัลไปเอง”
ลัลนาจะพูดต่อแต่ภัทรพลไม่ฟัง
“ขออนุญาตพาคุณลัลไปหาหมอนะครับคุณแม่”
“ค่ะ รบกวนด้วยนะคะ”
ภัทรพลกับวรรณาตกลงกันโดยไม่ถามความเห็นลัลนาเลย
“แต่”
“ไปครับคุณลัล”
“รีบไปเถอะลูก เดี๋ยวจะบวมกว่านี้”
ภัทรพลไม่รอให้ลัลนาพูดอะไรอีก พาลัลนาออกไป

พอออกมาหน้าบ้าน ลัลนาพูดโดยไม่มองหน้าภัทรพล
“ขอบคุณมากค่ะ สำหรับเรื่องทุกอย่างวันนี้” ภัทรพลหยุดนิดนึง “แต่นี่ไม่ใช่ต่อหน้าแม่ลัลแล้ว ลัลไปหาหมอเองได้ คุณไม่ต้อง...”
“ผมก็ว่าจะเลิกประคองคุณอยู่พอดี” ภัทรพลตัดบท ลัลนาหน้าเสียเพราะไม่คิดว่าภัทรพลจะทำจริงๆ “ผมว่าเขยกไปแบบนี้มันช้า ขอโทษนะครับ” ภัทรพลอุ้มลัลนาไปที่รถ “แบบนี้เร็วกว่า คุณจะได้ถึงมือหมอซะที”
“คุณภัทร”
ลัลนาพยายามขัดขืน
“ตอนนี่คุณเจ็บ ให้ผมดูแลคุณดีกว่า บอกตรงๆ ผมเป็นห่วง”
“ลัลมีอะไรน่าเป็นห่วงค่ะ”
“เอาตรงๆ นะครับ ตอนนี้ที่บ้านคุณก็มีเรื่องยุ่ง คุณก็เจ็บ บ้าๆ บอๆ อย่างคุณผมกลัวจะรับสถานการณ์ไม่ทัน ให้ผมดูแลคุณดีกว่า”
“คุณภัทร”
ลัลนาจะเอาเรื่องภัทรพล แต่เจอสายตาภัทรพลที่ทำให้รู้สึกอุ่นใจอย่างประหลาด ลัลนาหลบตา
“ไปหาหมอนะครับคุณลัล”
ภัทรพลทำให้ลัลนารู้สึกอบอุ่นมากขึ้นในยามที่รู้สึกว่าไม่มีใคร
“ค่ะ”

ลัลนาไม่กล้าสบตาภัทรพล ภัทรพลอุ้มลัลนาไปที่รถ
ส่วนที่บ้านชุติภา พิมภากับการะเกตุมองหน้ากันแบบไม่มีใครยอมใคร แต่ต่างฝ่ายยังเก็บอาการ ฤชวีกลัวจะมีเรื่องจึงกระซิบกับพิมภา

“คุณพิมครับ”
“ไม่ต้องห่วงค่ะ เมื่อกี้พิมใจร้อนไปหน่อยก็เลยสวนคุณย่าคุณไปพิมไม่ทำแล้วค่ะ” พิมภากระซิบตอบ ฤชวีมองพิมภาอย่างขอบคุณ
“ที่จริง เกตุกับคุณ ภรรยาคุณชื่ออะไรนะคะคุณต้น ปกติเกตุจำชื่อคนไม่ค่อยเก่ง”
“ฉันชื่อพิมภาค่ะ”
“อ๋อ ใช่ คุณพิมภา ขอโทษทีค่ะจำไม่ได้จริงๆ”
“ค่ะ ฉันเข้าใจ ปกติคุณคงจำได้แต่คนที่เป็นเป้าหมายเท่านั้น” พิมภามองหน้าการะเกตุ “หมายถึง คนที่น่าสนใจน่ะค่ะ”
“รู้จักกันมาก่อนเหรอหนูเกตุ”
“เกตุเป็นลูกค้าของบริษัทคุณ...พิมภาใช่มั๊ยคะ”
“ค่ะ”
“โทษทีค่ะ เกตุขี้ลืม เกตุเป็นลูกค้าของบริษัทคุณพิมภาน่ะค่ะเราเคยเจอกันในงานเปิดตัวสินค้าที่เพชรบูรณ์ เกตุยังเจอคุณต้นที่นั่นเลย” การะเกตุจงใจพูดให้ชุติภารู้ว่าเจอฤชวีที่เพชรบูรณ์ ชุติภามองหน้าฤชวี ฤชวีนิ่ง “พูดถึงถ้าไม่ได้สถานที่ของคุณย่ากับคุณต้น ปกติเกตุก็ไม่ค่อยเห็นนารีจัดงานได้ใหญ่โตแบบนี้นะคะ เชิญเกตุมาตั้งหลายครั้ง เกตุถึงไม่เคยไป”
“งานนี้เราเลือกเฉพาะกลุ่มที่คิดว่าจะเป็นลูกค้าชั้นดีของเราได้ค่ะ แต่ถึงเชิญไปแล้ว เราก็จะเลือกอีกทีว่าคิดถูกรึเปล่า นารีเป็นบริษัทไม่ใหญ่นัก แต่ก็มีมาตราฐานค่ะ”
พิมภาสวนกลับการะเกตุ จนการะเกตุหน้าหงาย ชุติภาเห็นว่าการะเกตุกำลังจะพลาดท่า
“แล้วคุณพิมภาทำหน้าที่อะไรในบริษัทนี้”
พิมภารู้ตัวว่าตัวเองกำลังกลายเป็นเป้าของชุติภา
“พิมเป็นแบรนด์เมเนเจอร์ค่ะ”
“ซึ่งตามหน้าที่ก็ต้องคอยซัพพอร์ทลูกค้าอย่างหนูเกตุ”
“เราจะซัพพอร์ตเฉพาะลูกค้าที่เราเลือกแล้ว อย่างที่เพิ่งบอกไปค่ะ”
พิมภาตอบนิ่งๆ อย่างไม่เกรงชุติภากับการะเกตุ
“เป็นพนักงานบริษัท คงเหนื่อยแย่ เอ๊ะขอโทษนะ คุณพิมเป็นคนกรุงเทพรึเปล่า”
“เปล่าค่ะ บ้านเกิดพิมอยู่ที่จันทบุรีค่ะ”
“อ๋อ แต่ก็เก่งนะ ที่ขวนขวายมาทำงานในกรุงเทพได้ ตำแหน่งก็ใช้ได้ขอโทษอีกทีนะ ทางบ้านทำอาชีพอะไร”
“บ้านพิมทำบ่อพลอยค่ะ”
“บ่อพลอย อย่าบอกนะคะว่าใหญ่ที่สุดในเมืองจันทร์”
“บังเอิญว่าใช่ค่ะ แต่ครอบครัวเราก็ไม่ได้ซีเรียสเรื่องนั้นเราซีเรียสที่คุณภาพของพลอยที่ส่งออกสู่ตลาดมากกว่า เพราะหินบางก้อนตอนเราได้มา เรานึกว่าเป็นพลอย แต่พอเจียระไนแล้ว มันก็แสดงตัวออกมาค่ะว่ามันไม่ใช่”
การะเกตุรู้ว่าพิมภาน่าจะประชดเธอ
“เหรอคะ”
“ค่ะ”
“ในครัวมีขนม แต่ย่าใช้เด็กๆ มันไปจัดการกับต้นไม้หลังบ้าน”
“เดี๋ยวผมไปจัดการให้ครับ” ฤชวีรับอาสา
“แกอยู่คุยกับหนูเกตุดีกว่า คุณพิมไปช่วยฉันหน่อยสิ”
พิมภามองหน้าชุติภา แล้วมองหน้าฤชวี พิมภาสบตาฤชวีแบบบอกว่าไม่ต้องห่วง
“เดี๋ยวพิมไปช่วยคุณย่าเองค่ะ”
ชุติภามองยิ้มๆ แต่พิมภาไม่ไว้ใจรอยยิ้มของชุติภาเลย ชุติภาเดินนำหน้าไป พิมภาเดินตามไป ฤชวีมองตามอย่างเป็นห่วงพิมภา ฤชวีหันมาเจอการะเกตุที่ยิ้มให้อย่างอ่อยเหยื่อ

ชุติภาเข้ามาในครัวจัดขนมไทยโบราณหลายอย่างจากถาดลงจาน
“รู้จักมั้ยขนมพวกนี้”
“รู้จักค่ะ”
พิมภาช่วยจัดขนมใส่จานแต่ดูไม่คล่องนัก
“รู้จักแล้วทานเป็นมั้ย” พิมภาเริ่มแน่ใจว่าไม่น่าใช่คำถามเกี่ยวกับขนม “เท่าที่ฟัง ทางบ้านเธอถึงจะมีฐานะ แต่ก็คงไม่คุ้นกับพิธีรีตรองของสังคมดูจากการที่ทางบ้าน เธอยอมให้เธอแต่งงานกับตาต้นง่ายๆ แบบนี้”
“ทางบ้านพิม ก็เพิ่งรู้หลังจากที่เราจดทะเบียนกันค่ะ”
ชุติภาหันมามองหน้าพิมภา
“ถามจริงๆ เธอต้องการอะไรจากหลานฉัน” พิมภายังไม่ทันตอบอะไร ชุติภาก็ใส่ต่อ “ตระกูลของเราเป็นตระกูลเก่าแก่ ฉันชินนะกับการที่คนหวังที่จะใช้ตระกูลของเราสร้างความน่านับหน้าถือตาให้กับตัวเอง”
“คุณย่าหมายความว่าไงคะ”
“ถ้าบ้านเธอเป็นถึงเจ้าของบ่อพลอย เธอก็คงไม่ได้หิวเงิน แต่คงโหยหายศฐาบรรดาศักดิ์ ความน่านับหน้าถือตาในสังคมมากกว่า”
“พิมไม่อยากเถียงเพราะคิดว่าคุณย่าคงมองคนออก”
พิมภาตอบกลับนิ่งๆ ชุติภาอึ้ง จะโกรธก็ไม่เชิง แต่รู้สึกว่าคำตอบของพิมภามีหลายอย่างที่วิธีคิดเหมือนกับชุติภา
“ออกสิ อย่างเช่นหนูการะเกตุทั้งเก่ง แสนดี มีมารยาท ไม่ก้าวร้าวอย่างเธอ”
พิมภายิ้มให้อย่างมีมารยาท
“คุณย่ามองคนเก่งจริงๆ ด้วยค่ะ” แต่น้ำเสียงและรอยยิ้มของพิมภา บอกให้ชุติภารู้ว่าไม่ใช่อย่างที่พูด เพราะ
พิมภาเคยเห็นฤทธิ์การะเกตุมาแล้ว “เดี๋ยวพิมยกขนมออกไปให้ก่อนนะคะ”
พิมภายกขนมออกไป

การะเกตุเข้ามานั่งใกล้ๆ ฤชวี จ้องหน้าฤชวี
“คุณการะเกตุมีอะไรรึเปล่าครับ”
“พวกนักเขียนเนี่ย ดูมีเสน่ห์จังนะคะ”
“เหรอครับ”

อ่านละคร คุณสามี(กํามะลอ)ที่รัก[2] วันที่ 23 ธ.ค 2555

ละคร คุณสามี(กํามะลอ)ที่รัก บทประพันธ์โดย ปัณณพร
ละคร คุณสามี(กํามะลอ)ที่รัก บทโทรทัศน์โดย สองปุณณณฐ
ละคร คุณสามี(กํามะลอ)ที่รัก กำกับการแสดงโดย เมธี เจริญพงศ์
ละคร คุณสามี(กํามะลอ)ที่รัก ผลิตโดย บ.เมกเกร์ เจ กรุ๊ป จำกัด(โดยคุณนก จริยา แอนโฟเน)
ติดตามชมละคร คุณสามี(กํามะลอ)ที่รักได้ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา manage