@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร คุณสามี(กํามะลอ)ที่รัก วันที่ 26 ธ.ค 2555

อ่านละคร คุณสามี(กํามะลอ)ที่รัก วันที่ 26 ธ.ค 2555

“เดี๋ยวยัยพิมมันจะใจแข็งเกินไป” ฤชวีอมยิ้ม
“ครับ” ฤชวีลวกหัวใจให้พิมภายิ้มๆ พิมภามองสบตาฤชวีรู้สึกเขินๆ “ได้แล้วครับ หัวใจแบบ ไม่แข็ง”
ฤชวีบอกพร้อมกับคีบให้พิมภา พิมภารับมากินแบบเขินๆ
“ขอบคุณค่ะ”
พิมมาลากับภาณุวัฒน์มองหน้ากัน ภาณุวัฒน์รู้ว่าพิมมาลาให้เดินแผนการต่อ

“พิม ลูกกับคุณต้นก็แต่งงานกันมาหลายเดือนแล้วนะ คิดกันหรือยังว่าจะเอายังไงต่อ”
จู่ๆ ภาณุวัฒน์ก็ถามขึ้นมา พิมภาและฤชวีถึงกับชะงัก



“ก็แต่งงานกันแล้ว ต้องเอาไงต่อด้วยเหรอจะพ่อ”
“พ่อเขาหมายถึง คิดกันหรือยังว่าจะมีหลานให้พ่อกับแม่อุ้มได้เมื่อไหร่”
พิมภากับฤชวีมองหน้ากัน ฤชวีอึกอัก แต่พิมภาโชว์ความเนียนตอบคำถามภาณุวัฒน์ทันที
“เราปรึกษากันว่า รอให้งานของพิมก้าวหน้ากว่านี้แล้วค่อยคิดเรื่องลูกจ้ะ”
“ปรึกษากัน แล้วคุณต้นเห็นด้วยรึเปล่า”
“เห็นด้วยสิจ๊ะ คุณต้นเองนั่นแหล่ะที่อยากให้เราพร้อมกว่านี้อยากให้เราสองคนมีบ้านหลังเล็กๆ ซักหลัง ลูกๆ จะได้วิ่งเล่นในสวน”
“อืมม ก็ดีนะ ถือว่าเป็นการวางแผนครอบครัวระยะยาว”
“พ่อแม่มีอะไรรึเปล่าจ๊ะ” พิมภาชักสงสัย
“ก็ตั้งแต่ที่...เกิดเรื่องเอกพล พ่อกับแม่ก็เป็นห่วงว่าถ้าลูกมีชีวิตคู่จริงๆ ลูกจะประคับประคองครอบครัวตัวเองได้มั๊ย”
พิมมาลาได้ยินชื่อเอกพลแล้วรู้สึกแค้นนิดๆ
“คุณต้นเป็นคนดี ไม่เหมือนนายเอกพลหรอกจ้ะ” ฤชวีได้ยินพิมภาพูดว่าเขาเป็นคนดี อดรู้สึกดีใจไม่ได้ “พิมเชื่อว่า ครอบครัวที่มีคุณต้นคอยนำทางจะต้องเป็นครอบครัวที่มีความสุข พิมเชื่อว่าคราวนี้พิมมองคนไม่ผิดจ๊ะ”
พิมมาลา ภาณุวัฒน์ และภัทรพลมองหน้ากัน
“แม่ก็เชื่อแบบนั้น แม่กับพ่อก็อยากเห็นคุณต้นดูแลลูกไปจนแก่เฒ่า”
“แน่นอนค่ะแม่” พิมภาคล้องแขนฤชวี
“สงสารคุณต้น” ภัทรพลพูดขึ้นลอยๆ
“อะไรอีกพี่ภัทร ตั้งแต่ใจแข็งใจอ่อนเมื่อกี้แล้วนะ พิมยังไม่ได้คิดบัญชีเลยนะ”
“ก็แกมันเป็นแบบนี้ไงยัยพิม ขนาดกับพี่กับเชื้อแกยังไม่ยอมให้เลย”
“แต่ผมยอมครับ” ฤชวีบอก พิมภามองหน้าฤชวีแบบนึกว่าเขาจะเข้าข้างเธอ
“อะไรของคุณอีกคน”
“ก็ถ้าคุณพิมเป็นฝ่ายไม่ยอม ผมเป็นฝ่ายยอมเองก็ได้ครับ” พิมภาอึ้ง ดีใจที่ฤชวีพูดเอาใจ “จะได้จบ”
พิมภาถึงกับเซ็ง
“คุณต้น คุณก็อีกคนนะ”
“ยอมๆ มันไปก็แล้วกันคุณต้น แต่ถ้ามันมีเรื่องอะไรที่คอขาดบาดตายพ่อกับแม่จะช่วยคุณต้นไม่ให้ยัยพิมมันรังแกคุณต้นเอง ไม่ต้องห่วง”
“อ้าวซะงั้น นี่พิมเป็นนางมารร้ายขนาดนั้นเลยเหรอจ๊ะ”
“ใช่”
ภาณุวัฒน์ พิมมาลา ภัทรพลบอกออกมาพร้อมกัน พิมภาหน้าเสีย ฤชวีอดขำพิมภาไม่ได้ พิมภาทำอะไรคนอื่นไม่ได้เลยหันมางอนฤชวีแทน
“คุณต้น”
“จำไว้นะยัยพิม แกได้เจอคนดีๆ แล้ว ถ้าคราวนี้แกก่อเรื่องอีกพ่อกับแม่ไม่มีทางอภัยให้แกอีกแน่ๆ” ภาณุวัฒน์บอกเสียงจริงจัง
“แหม พิมเหรอจะกล้ารังแกลูกเขยสุดที่รักของคุณพ่อคุณแม่ เล่นออกตัวปกป้องกันซะขนาดนี้” พิมภาคล้องแขนฤชวีอีก คราวนี้เอาหัวซบไหล่ฤชวีโชว์หวานด้วย “ใช่มั้ยคะ คุณสามี”
ฤชวีนึกถึงฐานะตัวเองที่เป็นแค่สามีกำมะลอจึงทำหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก ภัทรพลส่งสายตาให้พิมมาลากับภาณุวัฒน์ดูฤชวี

ฤชวีกำลังล้างจานอยู่ในครัว พิมมาลาเข้ามาช่วย
“มาแม่ช่วย แล้วยัยพิมล่ะ”
“ผมไล่ไปอาบน้ำแล้วครับ คุณพิมมือหนัก เมื่อกี้ก็ทำจานแตกไปสองใบ”
ฤชวีพูดถึงพิมภาแล้วก็อดยิ้มไม่ได้ พิมมาลารู้สึกได้ถึงความจริงใจที่ฤชวีมีให้พิมภา
“คุณต้นคงไม่ลืมที่พ่อกับแม่ขอไว้ใช่มั้ย” ฤชวีชะงัก “ไม่มีใครรู้เรื่องการแต่งงานกำมะลอครั้งนี้ ทุกอย่างยังเป็นความลับเหมือนเดิม”
“แต่ผมไม่อยากโกหกคุณพิม”

“ไม่มีแต่ คุณต้นไม่ได้โกหกอะไรยัยพิม คุณต้นแค่ไม่ได้รับอนุญาตให้บอกอะไรยัยพิมทั้งนั้น เข้าใจมั๊ยจ๊ะ”
ฤชวีเข้ามาในห้องดมๆ เสื้อตัวนอกของตัวเองรู้สึกว่ามีกลิ่นเหม็นของอาหารติดอยู่ ฤชวีถอดเสื้อเหลือแต่เสื้อกล้าม พิมภาอาบน้ำเสร็จเดินออกจากห้องน้ำพอดีจึงเห็นรูปร่างกำยำของฤชวีจากด้านหลัง พิมภาอดตาโตไม่ได้แต่ก็เขิน ฤชวีหันมาพอดี ฤชวีนึกว่าพิมภาตกใจ
“ขอโทษครับ ผมลืมตัวไป”
“ไม่เป็นไร๊” พิมภาบอกเสียงสูง แล้วก็เดินเช็ดผมไม่กล้าสบตาฤชวี ฤชวีจะหยิบเสื้อมาใส่ใหม่ “ไม่ต้องหรอก มันเหม็นไม่ใช่เหรอ”
“ครับ แต่”
“บอกว่าไม่เป็นไรไง กล้ามคุณไม่มีผลอะไรกับฉันหรอกน่า”
พิมภาพูดไปเช็ดผมไปโดยไม่รู้ว่าอาการท่าทางของเธอเซ็กซี่โดยไม่ได้ตั้งใจ จนฤชวีอ้าปากค้าง
“แต่มีผลกับผมนะ” ฤชวีบอกอย่างลืมตัว
“อะไรนะ” พิมภาหันมา ฤชวีจึงรู้สึกตัว
“เอ่อ...คือ ผม กำลังงงกว่าคุณกล้าพูดแบบนั้นกับพ่อแม่คุณได้ยังไง”
“ฉันก็ต้องพูดเอาตัวรอดไว้ก่อน พ่อแม่ฉันลางสังหรณ์สุดยอด คุณก็รู้ คิดดูคน ที่ไหนจะฝันแม่นได้ขนาดนั้น แต่พิมภาซะอย่างไม่มีทางยอมให้ความแตกแน่”
“คุณไม่อยากให้ความแตกเหรอครับ” ฤชวีจ้องหน้าพิมภา จนเธอต้องหลบหน้า
“ก็ไม่อยากน่ะสิ”
“แต่ถ้าความแตก ผมจะได้ไม่ต้องมาเป็นสามีกำมะลอของคุณไงครับ หรือว่าคุณพิม”
ฤชวีแอบมีความหวังว่าพิมภาจะมีคำตอบที่น่าชื่นใจ แต่พิมภาก็ยังปากแข็งทั้งที่ใจน่ะเริ่มหวั่นไหว
“ฉันไม่อยากให้ความแตกเพราะไม่อยากเห็นพ่อแม่เสียใจ”
ฤชวีเดินเข้าหาพิมภา ทั้งสายตาและกล้ามของฤชวี ทำเอาพิมภาแทบตั้งหลักไม่อยู่
“แค่นั้นเหรอครับ” ฤชวีเดินเข้าหาพิมภาช้าๆ “ไม่มีเหตุผลอื่นใช่มั้ยครับ”
พิมภาอึ้งไปไม่ยอมรับ
“ไม่มี”
ฤชวีผิดหวังนิดหน่อย แล้วถอยออกมา
“แต่ที่คุณวาดโครงการขึ้นมาโกหกพ่อแม่คุณแบบนั้น คุณไม่กลัวท่านจะเสียใจเหรอครับ”
พิมภาอึ้งที่ถูกฤชวีย้อน แต่ไม่ยอมแพ้
“ไม่ต้องมาว่าฉันเลย คุณเองก็เนียนใช่ย่อย”
“ถ้าจะบอกว่าผมไม่ได้เนียน แต่ผมเผลอล่ะครับ”
“เผลอ?”
“รู้มั้ย บางทีผมก็เผลอคิดว่ามันเป็นเรื่องจริงๆ”
ฤชวีจ้องพิมภาตาหวานเชื่อมอย่างไม่รู้ตัว พิมภาหวั่นไหวกับสายตาของฤชวี ทั้งสองคนจ้องหน้ากันโดยที่ไม่รู้ตัวว่าขยับเข้าใกล้กันเข้าไปเรื่อยๆ แล้วก็เป็นพิมภาที่รู้ตัวก่อน
“คุณนี่ศิลปินจังนะ เจอเรื่องอะไรก็อินไปเรื่อย”
ฤชวีได้ยินสิ่งที่พิมภาพูดแล้วรู้สึกเจ็บ
“คุณคิดแบบนั้นเหรอครับ”
ฤชวีมองหน้าพิมภาแบบอยากรู้คำตอบจริงๆ พิมภาอึ้งไม่รู้จะตอบยังไง ฤชวีเดินไปหยิบผ้าขนหนูจะเข้าไปอาบน้ำ
“คุณต้น” ฤชวีชะงัก แต่ไม่หันมามอง “แต่ฉันก็ไม่ได้โกหกพ่อแม่ฉันทั้งหมดหรอกนะ เรื่องที่บอกว่าคุณเป็นคนดี...ฉันพูดจริง”
“ครับ” ฤชวีเดินเข้าห้องน้ำไป พอเข้ามาในห้องน้ำฤชวีปิดประตูแล้วพึมพำออกมาเบาๆ “เป็นคนดี แต่คุณก็ไม่รัก”
พิมภาที่อยู่ข้างนอกพึมพำออกมาเบาๆ เช่นกัน
“ฉันพูดจริงนะคุณต้น คุณเป็นคนดีจริงๆ ดีจน...ฉัน” เสียงโทรศัพท์มือถือฤชวีดัง พิมภาไปดูเห็นว่าเป็น ชุติภาโทรมา พิมภาชั่งใจแล้วสุดท้ายก็กดรับสาย “สวัสดีค่ะ”

ชุติภาได้ยินเสียงพิมภาเป็นคนรับสายก็ไม่พอใจ
“เธอมารับโทรศัพท์หลานชายฉันทำไม”
“คุณต้นอาบน้ำอยู่น่ะค่ะ พิมก็เลยรับแทน คุณย่ามีอะไรรึเปล่าคะ”
“มันไม่ใช่เรื่องของเธอ”
พิมภาได้ยินชุติภาตอบแบบนี้ อารมณ์ขึ้นทันที สีหน้าแสดงอารมณ์ว่า “กูว่าจะไม่แล้วนะ”
“สามีภรรยาก็เหมือนคนๆ เดียวกัน เรื่องของคุณต้นก็เป็นเรื่องของพิมเหมือนกันนะคะคุณย่า”
“พิมภา เธอ”
“ถ้าคุณย่าไม่มีอะไร พิมขออนุญาตวางสายนะคะ พอดีคุณต้นจะให้ช่วยถูหลังให้น่ะค่ะ ถ้าคุณย่าจะให้พรพิม ขอยกยอดไปคราวหน้านะคะ”
พิมภากวนประสาทชุติภาจนหนำใจแล้วรีบกดวางสาย
“จะถูหลังให้ผมจริงๆ เหรอครับ”
พิมภาหันไปเห็นฤชวีที่อาบน้ำเสร็จแล้วก็ตกใจ
“คุณต้น”
“ว่าไงครับ”
ฤชวียิ้มกรุ้มกริ่มรอคำตอบจากพิมภา

ชุติภายังอึ้งๆ ที่โดนพิมภาเล่นงาน
“ฉันจะต้องเขี่ยแกให้กระเด็นจากชีวิตหลานชายฉันให้ได้ พิมภา”
ชุติภาบอกอย่างนึกแค้น ขณะนั้นสินีนาฏนั่งจิบชาสมุนไพรอยู่ รอดูชุติภาจัดการพิมภาอย่างที่บอก
“แล้วถ้าหลานชายเธอเป็นฝ่ายไม่ยอมให้เขี่ยเมียเขาออกไปล่ะ เธอจะทำยังไง”
“ตาต้นต้องเลือกย่า ไม่ใช่เมีย”
“พูดยากนะ เขานอนคุยกันทุกคืน ขนาดเธอโทรไป เมียเขายังไม่ยอมให้เธอคุยเลย เธอจะไปทำอะไรเขาได้”
“ยัยพิมภา ทั้งก้าวร้าว ร้ายกาจ ไม่รู้ตาต้นไปหลงกลได้ไง”
ชุติภาคิดหนัก สินีนาฏเห็นว่าเข้าทางจึงพูดยุแยงต่อ
“จะว่าไป ถูกเลี้ยงมายังไงก็เป็นแบบนั้น อยู่ที่พ่อแม่สอนมานะ ร้ายกาจแบบนี้ พ่อแม่ก็คงใช่ย่อย แล้วถ้าทางโน้นเข้ากับเธอไม่ได้ล่ะ...ผัวเมียเขาเลิกกันมานักต่อนักแล้วนะ เพราะครอบครัวฝ่ายชายกับฝ่ายหญิงเข้ากันไม่ได้”
ชุติภาคิดตาม
“งั้นฉันคงต้องเจอกับพ่อแม่ยัยพิมภาซักหน่อยแล้ว”
สินีนาฏขอตัวกลับ สินีนาฎลุกออกพร้อมรอยยิ้มร้ายกาจ

ทางด้านพิมภา เธอยังทำหน้าไม่ถูก ไม่รู้จะตอบคำถามฤชวียังไง
“ว่าไงครับ คุณบอกคุณย่าผมไปแล้วนะว่าจะถูหลังให้ผม”
“คือฉัน”
ฤชวียิ้มๆ แล้วเดินมาที่เตียง เตรียมตัวจะนอน
“อ้าว”
“ผมล้อเล่นครับ ผมอาบน้ำเสร็จแล้ว แต่ถ้าคุณพิมจะ...”
“ไม่ย่ะ นอนๆ”
พิมภาเองก็เดินไปที่เตียงเตรียมตัวจะนอน
“คุณย่าว่าอะไรคุณหรือเปล่า ผมขอโทษนะครับ”
“คุณต้น เลิกขอโทษได้แล้ว คุณก็รู้ว่าคุณย่าคุณเป็นยังไง และฉันเป็นยังไง คุณย่าคุณใส่มาฉันก็อดไม่ได้ที่จะสวนไปอยู่ดีแหล่ะเอาเป็นว่าเจ๊า คุณไม่ต้องคิดมาก” ฤชวีนิ่ง “อย่าลืมสิ ว่าต้นเหตุของเรื่องทั้งหมดมันคือฉัน แต่ถ้าคุณรู้สึกผิด ก็ชดเชยให้ฉันด้วยการความสะอาดคนเดียวหนึ่งอาทิตย์ จัดมื้อเย็นเป็นซีฟู้ดเด็ดๆ ให้ฉัน แล้วก็...ทำขนมอร่อยๆ ให้ฉันกิน แล้วก็...”
“พอๆ แล้วครับ ผมไม่ได้รู้สึกผิดขนาดนั้น” พิมภากับฤชวีหัวเราะพร้อมกันอย่างมีความสุข จากนั้นทั้งคู่ก็มองหน้ากันด้วยสายตาอ่อนโยน “นอนกันนะครับคุณพิม”
“ฮะ”
“ผมหมายถึง ต่างคนต่างนอนกันนะครับ”
พิมภาเก้อเขินพยายามทำปกติ
“เออ เอาสิ คุณก็นอนของคุณฉันก็นอนของฉันเนอะ”
ฤชวีกับพิมภาล้มตัวลงนอนหันหลังให้กันเขินๆ
“กู้ดไนท์ครับคุณพิม”
“ไนท์”
พิมภาพูดได้สั้นๆ แค่นั้น เพราะเขิน ฤชวีดับไฟหัวเตียง

พิมภากับฤชวีนอนเงียบๆ ในความมืดแต่สายตาดูมีความสุข แต่แล้วจู่ฤชวีกับพิมภาก็หันหน้ากลับมาพร้อมกันโดยไม่ได้ตั้งใจ ฤชวีกับพิมภามองตากัน พิมภาหลับตาทำเป็นหลับ ฤชวีหลับตา...ฤชวีกับพิมภาหลับตาอยู่ใกล้ๆ กัน ดูอบอุ่นมีความสุข
วันต่อมาเอกพลเข้าบริษัทแต่เช้าและกำลังเอาอกเอาใจการะเกตุ
“ที่จริง เมื่อวานนี้พอคุณยายคุณกลับไปแล้ว โทรเรียกผมกลับมาก็ได้นี่ครับ”
“ไม่เป็นไร นึกว่าฉันต้องระบายกับคุณคนเดียวหรือไง” เอกพลหน้าเสีย “แล้วไหนล่ะผู้ช่วยที่หามาให้”
เอกพลยังไม่ทันตอบ เสียงมือถือเอกพลดัง
“คงจะมาแล้วครับ” เอกพลบอกการะเกตุแล้วกดรับสาย “มาแล้วเหรอปลา”

ปราสินีเดินเข้ามาอย่างเจียมตัว ยืนอยู่ตรงหน้าการะเกตุและออกอาการประหม่าเล็กๆ กับสายตาที่เฉยชาของการะเกตุ ปราสินีสังเกตเห็นเนคไทของเอกพลที่ยังอยู่บนโต๊ะทำงานของการะเกตุ เอกพลมองตามสายตาของปราสินี รีบเก็บมาแต่ทำเป็นนิ่ง ปราสินีมองหน้าเอกพล
“เป็นใครมาจากไหน”
“เป็นรุ่นน้องผมครับ” ปราสินีรู้สึกสะดุดใจกับคำว่ารุ่นน้องของเอกพล แต่พูดอะไรไม่ได้ “เคยช่วยงานผมมาก่อน ก็เลยดึงตัวมาช่วยงานนี้”
“ไหวแน่นะ”
“ปราสินีเป็นคนคล่องครับ”
“คล่อง? เรื่องอะไรบ้างล่ะ”
เอกพลรู้ว่าการะเกตุแอบซักความสัมพันธ์ของเอกพลกับปราสินีนัยที
“เรื่องงานครับ” เอกพลบอกเสียงหนักแน่น ปราสินีรู้สึกเจ็บกับสิ่งที่เอกพลทำแต่แสดงอาการอะไรไม่ได้ “ปราสินีมีความรู้เรื่องธุรกิจเครื่องสำอางดี และที่สำคัญปราสินีเคยเป็นผู้ช่วยของพิมภามาก่อนครับ”
เอกพลนึกว่าบรรยายสรรพคุณเท่านั้นแล้วจะจบ แต่การะเกตุละเอียดกว่านั้น
“แล้วทำไมถึงไม่ทำงานกับพิมภาต่อ”
การะเกตุมองหน้าปราสินีเป็นการบอกว่าให้ปราสินีเป็นคนตอบ
“เรา มีเรื่องขัดแย้งกันนิดหน่อยค่ะ”
“นิดหน่อยแน่เหรอ”
“ค่ะ”
“ฟังดูก็รู้ว่าไม่ใช่” เอกพลกับปราสินีหน้าเสียที่การะเกตุไม่ค่อยเชื่อปราสินี เอกพลส่งสายตาตำหนิปราสินี ปราสินีหลบสายตาเอกพล “แต่ก็ดี” เอกพลกับปราสินีงง “ฉันได้คนที่พิมภาไม่ชอบมาช่วยงาน แถมกลับไปที่นารีในฐานะ
ผู้ช่วยของฉัน สะใจดี ให้มันรู้ไปว่าพิมภาจะไม่อกแตกตาย” การะเกตุมองหน้าเอกพลกับปราสินี “ตกลงฉันรับเธอเข้าทำงาน พร้อมเริ่มงานเลยมั้ย”
“พร้อมค่ะ”
“แล้วนี่เธอโสดหรือว่ามีแฟนล่ะ”
“คะ” ปราสินีงง ที่การะเกตุวกมาถามเรื่องนี้
“ทำงานกับฉันต้องตามใจฉัน งานมันไม่เป็นเวลาจะมาติดลูกติดสามีให้วุ่นวายไม่ได้นะ”
“ปราสินีโสดครับ”
ปราสินีมองหน้าเอกพลอย่างไม่พอใจ
“งั้นก็ดี งั้นเราก็ไปกันได้แล้ว”
การะเกตุเดินนำหน้าไป ปราสินีดึงแขนเอกพลไว้
“พี่เอก”
“ไว้ค่อยคุยกัน”
เอกพลสะบัดจากปราสินี รีบไปเปิดประตูเอาใจการะเกตุ ปราสินีมองอาการของเอกพลออกว่าแอบคั่วการะเกตุอยู่ แต่ทำอะไรไม่ได้จึงได้แต่มองอย่างเจ็บแค้นแล้วตามทั้งคู่ออกไป

ที่บริษัทนารี ลัลนากับซูซี่ยืนรอทีมของการะเกตุอยู่ พิมภากับนันทิกานต์เข้ามา
“โอ๊ย นัดลูกค้าเก้าโมง มายืนตั้งแถวต้อนรับกันตั้งแต่แปดโมง”
“เฮ้ยไอ้แนน แกก็พูดไป เขาอาจจะมากันตั้งแต่เจ็ดโมงก็ได้”
“เออจริง แบบว่ามาตักบาตรทำบุญเอาฤกษ์เอาชัยว่างั้น”
“ก็ใส่ไปได้แค่สององค์เองค่ะ ตอนแรกก็จะใส่ซักสาม พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ แต่ว่าขาดไปหนึ่ง ใจไม่ดีเลยค่ะเนี่ย” ซูซี่บอก พิมภาจึงพูดเย้ยๆ
“ไหนว่าลัลเป๊ะเวอร์ไม่กลัวอะไรไงจ๊ะ”
“พี่ซูซี่ เมื่อเช้าที่เราใส่บาตรกรวดน้ำรึยังคะ”
“ยังค่ะ กรวดเลยมั้ยคะ”
“ไม่ต้องมากรวดน้ำให้ฉัน ให้ฉันแผ่เมตตาให้เธอดีกว่านะ สัตเพสัตตา”
“ยัยพิม”
ลัลนาจะเข้าปะทะพิมภาแต่ซูซี่ดึงลัลนาไว้ การะเกตุกับเอกพลเข้ามา
“คิดดีแล้วเหรอเอกพล ที่เลือกนารีเป็นสายการผลิตให้เรา”
พิมภากับลัลนามองการะเกตุที่มองอย่างเหยียดๆ สองคนอึ้ง เอกพลมองพิมภากับลัลนา
“ถือเป็นการแสดงต้อนรับของบริษัทนารีก็แล้วกันครับ สองคนนี้เขามีหน้าที่ทะเลาะกันโชว์ลูกค้า เพื่อสร้างความมั่นใจน่ะครับ”
พิมภาข่มความโกรธสุดๆ
“คุณเอกพล”
“ผมกับเจ้านายไม่ได้มาเป็นลูกค้าของคุณ คุณพิมภา กรุณาอย่ามายุ่ง...ไม่คิดจะพาเราไปที่ห้องประชุมเหรอครับคุณลัลนา”
ลัลนาจำต้องกล้ำกลืนพูดเชิญให้การะเกตุกับเอกพลไปที่ห้องประชุม
“เชิญค่ะ ฉันจะนำไปที่ห้องประชุม”
“เดี๋ยว รอคนของฉันก่อน”
พิมภา ลัลนา นันทิกานต์ ซูซี่ รู้สึกสะดุดกับคำว่าคนของฉันของการะเกตุ แล้วทั้งหมดก็ต้องอึ้งเมื่อเห็นปราสินีเดินเข้ามา การะเกตุสังเกตุเห็นว่าพิมภา ลัลนา นันทิกานต์ ออกอาการไม่ค่อยพอใจที่เห็นปราสินี
“ปลา”
“นี่ปราสินีผู้ช่วยของฉัน ฉันต้องการให้พวกคนให้เกียรติผู้ช่วยฉันให้เหมือนกับให้เกียรติฉัน” การะเกตุมองหน้าพิมภากับลัลนา “ทำได้มั้ย”
ลัลนาเจ็บใจแต่ต้องยอม
“ได้ค่ะ เชิญที่ห้องประชุมค่ะ”

อ่านละคร คุณสามี(กํามะลอ)ที่รัก วันที่ 26 ธ.ค 2555

ละคร คุณสามี(กํามะลอ)ที่รัก บทประพันธ์โดย ปัณณพร
ละคร คุณสามี(กํามะลอ)ที่รัก บทโทรทัศน์โดย สองปุณณณฐ
ละคร คุณสามี(กํามะลอ)ที่รัก กำกับการแสดงโดย เมธี เจริญพงศ์
ละคร คุณสามี(กํามะลอ)ที่รัก ผลิตโดย บ.เมกเกร์ เจ กรุ๊ป จำกัด(โดยคุณนก จริยา แอนโฟเน)
ติดตามชมละคร คุณสามี(กํามะลอ)ที่รักได้ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา manage