@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร คุณสามี(กํามะลอ)ที่รัก[2] วันที่ 15 ธ.ค 2555

อ่านละคร คุณสามี(กํามะลอ)ที่รัก[2] วันที่ 15 ธ.ค 2555

“มันเบี้ยวไม่ยอมจ่าย มันขู่ว่าจะให้เราชดใช้ค่าเสียหายที่มันต้องถอนสินค้าออกก่อนที่นารีจะฟ้อง สูญเงินเป็นล้านเพราะความโง่ของเธอแท้ๆ”
เอกพลไม่สนใจเดินไปนั่งที่โต๊ะที่ตั้งด้านนอกติดกับโต๊ะของพิมภาด้านใน เอกพลนั่งที่เก้าอี้ฝั่งเดียวกับพิมภา ปราสินีมองอย่างน้อยใจที่เอกพลไม่สนใจ ปราสินีกลับต้องตามไปนั่งลงง้อฝั่งเดียวกับฤชวี
“เพราะยัยพิมต่างหาก ถ้ามันไม่มายุ่ง เราก็สบายแล้ว อย่าให้เจอนะ”
พิมภาลดเมนูลง
“นี่นายเลือกได้หรือ...” พิมภาชะงักที่เห็นปราสินี “ยัยปลา”
“พิม”

เอกพลหันมองตามสายตาปราสินีเห็นพิมภา
“พิม”
เอกพลรีบลุกแล้วเดินเข้าไปในร้านไปหาพิมภาทันที ฤชวีเห็นพิมภาหน้าตึงจึงถามขึ้นมา
“ใครเหรอครับคุณพิม”



“ผู้ชายมักมากกับเพื่อนทรยศ”
ฤชวีเข้าใจในทันที เอกพลเข้ามาหาพิมภา ปราสินีตามเข้ามาดึงเอกพล
“พี่เอก”
เอกพลสะบัดจากปราสินี
“พิม สบายดีไหม พี่...”
พิมภาลุกพรวดขึ้น จนเอกพลกับปราสินีผงะด้วยความตกใจ
“ใจถึงจริงๆ เลยนะที่กล้าถามฉันว่าสบายดีไหม”
“พิม พี่อยากอธิบายให้พิมเข้าใจ”
“ฉันบอกแล้วใช่ไหม ถ้าไม่อยากตายอย่ามาให้ฉันเห็นหน้า”
“พิม” เอกพลคว้ามือพิมภามาจับ พิมภาตาลุกเงื้อจะตบ แต่ฤชวีไวกว่าผลักเอกพลออกไป “แกเป็นใครยุ่งอะไรด้วย”
เอกพลถามอย่างไม่พอใจ ฤชวีจับมือพิมภามากุมไว้
“ผมเป็นสามีของคุณพิม”
เอกพลกับปราสินีอึ้ง มองพิมภา พิมภาคล้องแขนฤชวีทันที
“ใช่ นี่คุณต้นสามีของฉัน”
“ไม่คิดว่าเพื่อนจะไวไฟขนาดนี้นะ งานแต่งล่มไม่ถึงเดือนมีสามีเป็นตัวเป็นตนซะแล้ว”
“ผมรักคุณพิมมานานแล้วครับเมื่อโอกาสมาถึงมือผม ผมก็จะไม่ยอมปล่อยคุณพิมไป”
ฤชวีหันมองพิมภาส่งตาหวานให้
“พิมคงรักพี่มาก ถึงประชดพี่รีบแต่งงานทั้งที่ไม่ได้รัก”
เอกพลมองฤชวีพยายามข่มเต็มที่
“คนอย่างคุณไม่มีค่าขนาดนั้นหรอก”
“แล้วพิมจะลืม(เน้น) เรื่องลึกซึ้งของเราได้เหรอ”
“ฉันไม่เคย” พิมภาโกรธแต่เอกพลไม่สนใจหันไปพูดกับฤชวี
“พิมชอบความรุนแรงนิดๆ เขาถึงจะพอใจ คุณคงเหนื่อยหน่อยนะ”
ฤชวียังไม่ทันตอบ พิมภาก็ชกเข้าหน้าเอกพล เปรี้ยง!
“สำหรับปากสกปรกของแก”
ปราสินีเข้ามาผลักพิมภา
“อย่ามาทำแฟนฉันนะ” พิมภายิ้มเยาะ
“ผีเน่ากับโลงผุ สมกันจริงๆ”
“พิมจ๊ะ ทำตัวสุกใสทั้งที่ข้างในมันเป็นโพรง” ปราสินีมองทางฤชวี “สามีเธอคงไม่รู้สินะว่าเธอน่ะผ่านมามากขนาดไหน”
คำพูดของปราสินีสะบั้นความรู้สึกของพิมภา พิมภาหมดความอดทน
“รู้ไหมปลา ฉันไม่เคยรังเกียจที่เธอบอกว่าเธอมาจากสลัม ไม่เคยรำคาญที่เธอเวิ่นเว้อกับความไม่มีของเธอ เพราะฉันคิดว่าเธอเป็นเพื่อน แต่วันนี้เธอทำให้ฉันเห็นแล้วว่าใจเธอมันต่ำ พฤติกรรมน่าสมเพชแค่ไหนตัวตนจริงๆ ของเธอนี่มันเน่าสุดขั้ว เก่งนะที่กลบมาได้เป็นสิบปี”
ปราสินีตากร้าวจิกใส่
“ก็โชคดีที่เธอมันโง่ไง ให้นกเอี้ยงอย่างฉันเกาะหลังได้ตั้งนาน ชอบไหมล่ะ พิมภาเจ้าสาวเขางอกแห่งปี”
ปราสินีหัวเราะสะใจ พิมภาฟิวส์ขาดโกรธจะเงื้อมือตบปราสินี แต่ฤชวีจับมือพิมภาไว้แล้วกดลงเบาๆ ฤชวียืนเหมือนกอดอยู่ด้านหลังพิมภา ฤชวียิ้มออกมา
“ผมมั่นใจว่าผมเป็นคนแรกของพิม ผมรู้ดีว่าพิมมีค่าแค่ไหนไม่อย่างนั้น” ฤชวีพูดกับปราสินี “ผู้ชายของคุณคงไม่มายืนเสียดายอยู่อย่างนี้ จริงไหมครับ” ปราสินีอึ้งหน้าชา “ผมกับคุณพิมมีธุระต้องขอตัวก่อนนะครับ” ฤชวีหันไปยิ้มจูงมือพิมภา “ไปครับพิม”
ฤชวีจูงมือพิมภาออกไป
“พิม”
เอกพลจะตามแต่ปราสินีดึงไว้
“พี่เอก อย่าไปนะ”

เอกพลพยายามจะปลดมือปราสินี แต่ปราสินีไม่ยอมปล่อย เอกพลมองตามพิมภาไปอย่างเสียดาย
ฤชวีจูงพิมภาออกมาที่รถ พิมภาดึงมือออกจากการจูงของฤชวีแล้วตรงไปที่รถ แต่ฤชวีหยุดเดิน พิมภาพลอยหยุดไปด้วยมองฤชวีว่าหยุดทำไม ฤชวีมองหน้าพิมภาอย่างจับสังเกต
“มองอะไร”
“ที่คุณอารมณ์เสียขนาดนี้ เพราะคุณรักผู้ชายคนนั้นมาก ใช่ไหมครับ”
“ฉัน ไม่ได้รักพี่เอกหรอก”
ฤชวีเดินมาฝั่งคนขับ
“ไม่รัก แล้วทำไมคุณถึงจะแต่งงานกับเขาล่ะ”
“ก็เขาสร้างภาพให้ฉันเห็นมาตลอดว่าเขาเป็นคนดี เขาทำให้ฉันกับครอบครัวเชื่อว่าเขารักฉันและพร้อมจะดูแลฉันไปชั่วชีวิต กว่าจะเห็นธาตุแท้ ก็กลางงานแต่งแล้วน่ะสิ” พิมภาบอกอย่างหงุดหงิด
“ที่คุณยังโมโหอยู่ตอนนี้แน่ใจนะครับว่าคุณไม่ได้รัก”
“ฉันไม่ได้รักแต่ฉันแค้น” พิมภาก้าวขึ้นรถ ฤชวีก้าวขึ้นตาม “ฉันต้องเสียหน้ากับทุกคนในงานแต่งรวมทั้งศัตรูอย่างยัยลัล คนอย่างฉันต้องมี จุดอ่อนเพราะเขา แต่ตอนนี้กรรมก็ตามสนองแล้ว สองคนนั้นหมดอนาคตเพราะทำเลวกับฉัน สุดท้ายฉันก็ชนะเลิศเหมือนเดิม”
ฤชวีหันมองหน้าพิมภาตรงๆ
“รู้ไหมว่าคุณกำลังแพ้”
“ไม่จริง ฉันไม่แพ้”
ฤชวีเปิดที่บังแดดลงมาแล้วเปิดตรงส่วนที่เป็นกระจกส่องหน้า
“ดูสิครับ ว่าคุณกำลังหน้าหงิก จิตใจไม่เป็นสุขเพราะเขา คุณให้เขามามีอิทธิพลเหนืออารมณ์คุณจนคุมตัวเองไม่ได้แสดงว่าคุณน่ะแพ้” พิมภาคิดตาม
“อืม ก็จริง” พิมภาตบหน้าตัวเองเบาๆ “ไม่หงิก ไม่เครียด” พิมภาหายใจเข้าออกลึกๆ “คุณต้น ขอบคุณนะที่คุณช่วยรักษาหน้าฉัน”
“ไม่เป็นไรครับ ผมแสดงสมบทบาทดีไหม”
“ดี...จนเกินไป เมื่อกี้คุณพูดได้ยังไงว่าเป็นคนแรกของฉัน ฉันเสียหายนะ”
“คุณพิมครับ ถ้าผมไม่พูดแบบนั้น ผู้ชายคนนั้นก็จะยิ่งพูดให้คุณเสียหาย”
“อืม ก็จริง เพราะสองคนนั้นแท้ๆ คุณเลยไม่ได้กินข้าวเลย”
“เราไปหาร้านอื่นก็ได้นี่ครับ เดี๋ยวผมเลี้ยงเอง อยากทานอะไรล่ะครับ”
“คุณเป็นเจ้ามือเหรอ งั้นเอาแบบเบาๆ ก็พอ”

ที่ร้านสุกี้ ถาดเครื่องสุกี้สูงเป็นคอนโดหลายชั้นวางตึงลงบนโต๊ะ ฤชวีขยับจัดการทยอยใส่เครื่องสุกี้ลงไปให้ พิมภาไม่สนจัดการคีบกินอย่างเอร็ดอร่อย
“คุณพิม คุณไม่กลัวอ้วนเหรอครับ ทานขนาดนี้”
“ก็ออกกำลังกายสิ ร่างกายเราเองเราต้องรู้จักบริหาร รักษาให้มันสมดุล หุ่นก็จะสมบูรณ์แบบ” พิมภาบอกแล้วก็กินต่อ ฤชวีมองยิ้ม พิมภาเงยหน้าขึ้นมาเห็นจึงระแวง “คุณยิ้มอะไร”
“ผมชอบวิธีคิดของคุณน่ะครับ รู้จักตัวเอง ถ้ารู้จักทุกด้านก็ยิ่งดีนะครับ ว่าแต่คุณอารมณ์ดีขึ้นหรือยัง”
พิมภามองของบนโต๊ะ
“ถ้าได้เกี๊ยวกุ้งอีกสักที่ก็คงพอดี”
ฤชวียิ้ม พิมภาวางช้อน ฤชวียกมือเรียกพนักงานให้มาคิดเงิน
“ทั้งหมด 720 บาทค่ะ”
ฤชวีหยิบกระเป๋าเงินขึ้นมา พิมภาหยิบแบงค์พันส่งให้
“ผมบอกแล้วว่าจะเลี้ยง”
“เขามักพูดกันว่านักเขียนไส้แห้ง แล้วฉันก็กินมากกว่าคุณตั้งเยอะ ฉันจ่ายเอง ไม่อยากรีดเลือดกับปู”
“ไม่ต้องห่วงหรอกครับ เพราะปูอย่างผมน่ะกล้ามใหญ่” ฤชวีหยิบแบงค์พันตัวเองส่งให้พนักงาน
“งั้นก็ ขอบคุณนะ” พิมภาเก็บเงินใส่กระเป๋า ฤชวียิ้ม พิมภาหยิบสมุดขึ้นมาเปิดดู “เดี๋ยวจะตระเวนตามรายชื่อโรงแรมที่เหลือ ถ้าคุณมีธุระอื่น”
“ผมมีเวลาให้คุณพิมทั้งชีวิตล่ะครับ”
“อะไรนะ”
“เอ่อ ผมหมายถึงผมฟรีทั้งวันครับ ไม่มีธุระอะไร”
พิมภามองประมาณว่าแล้วไป

คืนนั้นพิมภากับฤชวีลงจากรถจะเดินเข้าคอนโด ซูซี่ซึ่งแอบซุ่มอยู่ใช้กล้องจากมือถือถือภาพเก็บไว้ แชะๆ ๆ ซูซี่มองรูปอย่างพอใจ

“ชัดแจ่ม”
ฤชวีกับพิมภาเดินเข้ามาที่ล็อบบี้ของคอนโด พิมภามีสีหน้าหงุดหงิดจนไม่สนใจสุวิทย์ที่ตะเบ๊ะรับ ฤชวียิ้มให้สุวิทย์ส่งถุงขนมให้

“พี่สุวิทย์ ของฝากครับ”
“ขอบคุณครับ คุณต้น”
พิมภามอง ฤชวีเดินไปส่งถุงขนมให้กับปอยที่เคาน์เตอร์
“คุณปอย ขนมเจ้านี้อร่อยนะครับ”
“ขอบคุณค่ะ คุณต้น”
พิมภาเดินไปหยุดที่หน้าลิฟต์ กดลิฟต์รอ ฤชวีเดินตามมา
“นี่คุณสนิทกับพนักงานที่นี่ถึงขั้นซื้อขนมฝากกันเลยเหรอ”
“ก็พี่สุวิทย์เขาคอยเปิดประตู ดูแลความปลอดภัยให้เรา คุณปอยก็คอยรับจดหมาย ดูแลต้อนรับคนที่มาติดต่อ ตอบแทนเขาบ้างเล็กๆ น้อยๆ”
“เขาได้เงินเดือนเขาก็ต้องทำน่ะสิ”
“สำหรับคุณอาจจะคิดว่าเป็นหน้าที่ แต่ผมคิดว่าเป็นน้ำใจ คิดบวกบ้างสิครับ เดี๋ยวจิตใจจะตายด้านน่ะครับ”
“คุณว่าฉันใจหยาบเหรอ”
“นั่นไง ผมแสดงความเห็นคุณก็ตีความว่าผมว่าคุณ คิดแต่มุมลบ ชีวิตก็จะติดลบนะครับ กำไรความสุขก็จะไม่เหลือเลย”
“ต้องคิดบวกอย่างคุณงั้นสิ” ฤชวียิ้มรับ
“ครับ”
พิมภาเถียงไม่ออก พอลิฟต์เปิดก็เดินหนีเข้าลิฟต์ ฤชวีมองตามยิ้มขำๆ ที่พิมภาเถียงสู้ไม่ได้ก็หนีเข้าลิฟต์

ลิฟต์หน้าห้องพิมภาเปิดออก ป้านงค์ แม่บ้าน กำลังเดินออกมาจากอีกมุม
“คุณพิมครับ”
พิมภาหยิบกุญแจมาไขห้อง
“ฉันไม่อยากเถียงกับคุณ”
พิมภาเปิดประตูแล้วเข้าไป ฤชวียิ้มเดินตามเข้าไป ป้านงค์มองตามอย่างสนใจ

ภายในห้องพิมภา ภัทรพลกำลังนั่งกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป พิมภากับฤชวีนั่งเปิดโน๊ตบุ๊คคนละเครื่องเสิร์ชหาโรงแรม พิมภากับฤชวีต่างคนต่างโทรศัพท์สอบถาม พิมภาวางโทรศัพท์อย่างหัวเสีย
“ไอ้พิม กินอะไรหน่อยมั้ย”
“กินไม่ลงหรอกพี่ ป่านนี้ยังหาที่ไม่ได้เลย”
“วันที่คุณพิมจะจัดงานเต็มทุกโรงแรมเลยครับ ช่วงนี้มีงานแต่งงาน งานสัมมนาเยอะมาก”
“คิดแล้วมันน่าโมโห ไม่รู้ว่ายัยลัลมันรู้ได้ยังไงว่าคุณสุให้ฉันดูแลงาน thank you party แล้วยังรู้ด้วยนะว่าฉันจะไปติดต่อโรงแรมไหน ไปดักหน้าฉันเฉยเลย ถ้ารู้ว่ารั่วจากปากใคร ฉันจะสับให้เป็นชิ้นเลย”
ภัทรพลสะดุ้งนิดๆ แต่กลบเกลื่อน
“แกอย่าทำตัวนิยมความรุนแรงนักเลยน่า เจอกันแล้วเป็นไงเหรอ”
“ก็ฉะกันกลางห้องผู้จัดการโรงแรมน่ะสิ โดนเด้งออกมาทั้งคู่ เครียด ๆ ”
“คุณพิม จะทานอะไรไหมครับ ผมจัดการให้”
“ไม่ล่ะ ฉันปวดหัว”
พิมภาเดินเข้าห้องไป เสียงมือถือภัทรพลดัง ภัทรพลมองแล้วกดรับดีใจหลุดปาก
“สวัสดีครับคุณลัล”
ฤชวีฟังแล้วสะดุดที่ได้ยินชื่อลัลหันมอง ภัทรพลไม่ทันสังเกตเดินออกไปคุยที่ระเบียง

ภัทรพลเดินออกมาที่ระเบียง
“ดีใจจังเลยครับ ที่คุณคิดถึงผม หรือว่าอยากทานโจ๊กอีกครับ”
ขณะนั้นลัลนาอยู่ที่บ้าน เธอทำหน้าเซ็ง
“คืนนี้ไม่ได้หรอกค่ะ ลัลต้องทานข้าวกับคุณแม่ ว่าแต่พิมเขาเป็นยังไงบ้างคะ หาสถานที่ได้หรือยังคะ”
ภัทรพลชะงักไปนิดแล้วยิ้มคุยต่อ
“ยังเลยครับ”
“เหรอคะ ลัลอยากช่วยพิมมากเลยนะคะ เพราะอีกไม่กี่วันก็จะถึงวันงานแล้ว ถ้ามีอะไรที่ลัลช่วยได้ก็อยากจะช่วยเพื่อน”
ภัทรพลรู้ทันแต่แกล้งโง่
“พิมคงดีใจถ้ารู้ว่าคุณลัลห่วงนะครับ พรุ่งนี้คุณลัลสะดวกจะทานมื้อเที่ยงไหมครับ ผมมีร้านอร่อยอยากนำเสนอ”
“ต้องขอดูงานก่อนนะคะ ว่ายุ่งมากไหม เอาไว้พรุ่งนี้ลัลจะโทรหานะคะกู๊ดไนท์ค่ะ”
“เดี๋ยวครับคุณลัล คุณลัลเล่นเฟซบุ๊คไหมครับ”
“ไม่เล่นค่ะ”
“น่าเสียดายนะครับ เพราะในหน้าเฟซผมอยากให้คุณลัลมากดไลค์ แต่ถ้าในชีวิตผมอยากให้คุณลัลกดเลิฟน่ะครับ” ลัลนาถึงกับอึ้ง
“เอ่อ พรุ่งนี้ลัลต้องตื่นเช้าไว้คุยกันใหม่นะคะ” ลัลนาตัดบทแล้ววางสายเลย “เน่าจริง” ซูซี่ขยับเข้ามาหาลัลนาใกล้มาก ลัลนาหันมาตกใจ “พี่ซูซี่ ใกล้ไปมั้ยคะ”
“ก็พี่อยากรู้นี่คะว่าเป็นยังไงบ้าง”
“ยัยพิมยังไม่ได้สถานที่ แล้วรู้หรือยังคะว่าผู้ชายที่อยู่กับพิมเมื่อเช้าเป็นใคร”
ซูซี่ยกโทรศัพท์ขึ้นกดให้ดูภาพพิมภากับฤชวีเดินเข้าคอนโด
“พี่รอตั้งนาน ผู้ชายก็ไม่ออกมานะคะ ว่าแต่น้องลัลให้พี่ไปสืบเรื่องนี้ทำไมคะ”
“ลัลรู้สึกติดใจเรื่องผู้ชายคนนี้”
“ก็น่าติดอยู่นะคะ สูง ล่ำ กล้ามเป็นมัดๆ ขนาดนั้น”
“ลัลหมายถึงว่าสงสัยจะไม่ใช่แค่เพื่อน จำได้ไหมคะเมื่อเช้าสองคนนั้นออกมาด้วยกันจากคอนโด นี่ก็กลับเข้าไปด้วยกัน”
“จริงด้วยค่ะ”
“ลัลต้องสืบให้ได้ว่าผู้ชายคนนั้นเป็นใครกันแน่”
ลัลนาหันมองซูซี่ ซูซี่รู้ทันทีว่าต้องทำอะไร

“หน้าที่พี่ รับทราบค่ะ”
ภัทรพลยืนยิ้มมองโทรศัพท์อย่างพอใจ

“ยิงทุกวันต้องโดนสักวันล่ะน่า” ภัทรพลหันกลับมาแล้วชะงักยิ้มค้างที่เห็นฤชวี “คุณต้น”
ฤชวีมองไม่ได้พูดอะไรแล้วหันกลับเข้าไปในห้อง ภัทรพลรีบเดินตามเข้ามา

ฤชวีเดินมาตรงมุมครัวล้างแก้ว เช็ดจานเงียบๆ ภัทรพลเดินตามมา
“คุณต้น เอ่อ อย่าบอกยัยพิมเรื่อง เรื่อง”
“ที่คุณลัลรู้ข้อมูลโรงแรมจากคุณภัทรน่ะเหรอครับ ถ้าคุณภัทรไม่บอกแล้วคุณพิมรู้เองจะยิ่งโกรธนะครับ มีความลับกับคุณพิมไม่คุ้มหรอกครับ”
“แล้วทีคุณมีล่ะ” ฤชวีชะงัก
“ผมมีความลับอะไร”
ภัทรพลเดินไปหยิบหนังสือนิยายมา ฤชวีมองอย่างไม่เข้าใจ
“เรื่องที่คุณทำตัวเป็นฮีโร่ในมุมมืดไง คนชื่อเกษมเอาหนังสือมาให้คุณเซ็นหลังจากที่เขาทำงานเสร็จตามที่คุณขอ ยัยพิมรู้หรือเปล่าว่าคุณจ้างนักสืบช่วยหาตัวคนที่ใส่ร้ายพิมเรื่องงาน”
“คุณพิมไม่จำเป็นต้องรู้หรอกครับ ผมแค่อยากช่วยคุณพิมเท่านั้น”
ภัทรพลมองอย่างพอใจว่าฤชวีก็ไม่เลว

เช้าวันรุ่งขึ้น ภัทรพลถือถุงขยะจะออกมาทิ้งแล้วชะงักที่ได้ยินเสียง
“คุณพิมหิ้วผู้ชายขึ้นห้องเหรอ”
ภัทรพลขยับออกมาเห็นป้านงค์กับแม่บ้านเม้าท์กันไปทำความสะอาดกันไป
“เห็นกับตา เดินตามกันเข้าไปเมื่อคืน งานแต่งล่มก็เลยประชดชีวิตล่ะมั้ง ผู้หญิงสมัยนี้ไม่มีความอายกันบ้างเลย”
ภัทรพลไม่พอใจ
“ป้าพูดถึงใคร”
ป้านงค์กับแม่บ้านชะงัก เมื่อเห็นภัทรพลก็หน้าเสีย
“เอ่อ”
“ผมจะฟ้องผู้จัดการคอนโดว่าป้านินทาให้น้องผมเสียหาย”
“ป้าไม่ได้เริ่มนะคะ ได้ยินคนอื่นเขาพูดกันมา ว่าอยู่ๆ ก็มีผู้ชายมาอยู่กับคุณพิม”
“นี่เม้าท์กันทุกชั้นทุกแผนกเลยหรือไง”
“ค่ะ”
“ถ้างั้นป้าก็ไปบอกทุกคนเลยนะว่า ผู้ชายคนนั้นชื่อคุณต้น เป็น...”
ป้านงค์กับแม่บ้านรอฟัง

ซูซี่ตกใจมากเมื่อเข้ามาที่ล็อบบี้คอนโดของพิมภาแล้วได้ยินพนักงานคอนโดกำลังเม้าท์กันเรื่องฤชวี
“เป็นสามีน้องพิมเหรอ ต๊าย!” ซูซี่เข้ามาแทรกกลางวงที่สุวิทย์ ปอย ป้านงค์ที่กำลังเม้าท์อยู่ สามคนหันมองซูซี่ว่าเป็นใคร ซูซี่เห็นทุกคนมองอย่างสงสัย “เอ่อ”
“ติดต่อเรื่องอะไรคะ” ปอยถามซูซี่จึงรู้สึกตัว
“เอ่อ เอาของมาให้คุณวันทิพย์น่ะค่ะ”
“ห้องไหนคะ”
“ห้อง 604จ๊ะ”
“คุณคะตึกนี้มี 4 ชั้นค่ะ”
“อ้าวเหรอ นี่สรวงสวรรค์คอนโดหรือเปล่าคะ”
“ไม่ใช่คะ”
“โอ๊ะ ตายงั้นพี่คงมาผิดที่ ขอโทษที” ซูซี่รีบเนียนเดินออกไป จังหวะที่เดินออกซูซี่ยกมือถือขึ้นมากดโทรออก “น้องลัลขา พี่มีข่าวเด็ด”

ที่ห้องพิมภา ภัทรพลตั้งหน้าตั้งตากินทั้งขนมปัง ไข่ดาว ฤชวียกชามซุปเข้ามา ภัทรพลก็คว้ามากิน ๆๆ
“คุณภัทรหงุดหงิดอะไรหรือเปล่าครับ”
“มากเลยล่ะ”
พิมภาแต่งตัวเรียบร้อยสะพายกระเป๋า อีกมือถือสมุดรายชื่อโรงแรมจะไปทำงาน
“ซุปสักนิดนะครับ” ฤชวีบอกพิมภถา พิมภามอง “ซุปผักครับ เบาๆ”
พิมภามองนาฬิกา
“ก็ยังมีเวลา” พิมภานั่งลงวางสมุดกับกระเป๋า แล้วจะกินซุป
“ไอ้พิม” ภัทรพลเรียกน้องสาวเสียงดัง พิมภาถึงกับสะดุ้ง
“พี่ภัทรอยู่แค่นี้จะเสียงดังทำไมเนี่ย”
“แกได้บอกใครๆ หรือเปล่าว่าคุณต้นเป็นสามี”
“เปล่า”
“แล้วทำไมไม่บอก”

อ่านละคร คุณสามี(กํามะลอ)ที่รัก[2] วันที่ 15 ธ.ค 2555

ละคร คุณสามี(กํามะลอ)ที่รัก บทประพันธ์โดย ปัณณพร
ละคร คุณสามี(กํามะลอ)ที่รัก บทโทรทัศน์โดย สองปุณณณฐ
ละคร คุณสามี(กํามะลอ)ที่รัก กำกับการแสดงโดย เมธี เจริญพงศ์
ละคร คุณสามี(กํามะลอ)ที่รัก ผลิตโดย บ.เมกเกร์ เจ กรุ๊ป จำกัด(โดยคุณนก จริยา แอนโฟเน)
ติดตามชมละคร คุณสามี(กํามะลอ)ที่รักได้ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา manage