@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร เหนือเมฆ 2 มือปราบจอมขมังเวทย์[2] วันที่ 22 ธ.ค. 55

อ่านละคร เหนือเมฆ 2 มือปราบจอมขมังเวทย์[2] วันที่ 22 ธ.ค. 55

แสงกล้ายังคงนิ่งไม่ได้สติอยู่อย่างนั้น
"ฉันเป็นหมอ ฉันรู้ดีว่ากระแสไฟแค่นี้ทำอะไรหมวดไม่ได้หรอก ฉันบอกให้ลุกขึ้นมา”
แสงกล้ายังหลับตาไม่ได้สติอยู่อย่างนั้น แพรไพลินชักใจไม่ค่อยดีแต่ยังไม่ไว้ใจอยู่ เธอเอานิ้วมาอังที่จมูกของแสงกล้าแล้วนิ่วหน้านิดหนึ่ง
แพรไพลินพูดเสียงแผ่ว
“ไม่หายใจ”

แพรไพลินตกใจรีบเอามือแตะที่คอของแสงกล้าเพื่อตรวจชีพจรให้แน่ใจ แสงกล้าลืมตาขึ้นทันที คว้าข้อมือเธอที่จับชีพจรอยู่ที่ตรงคอ แล้วดึงเข้ามาหาตัว กอดเต็มแรง



“แกล้งพี่ต้องโดนลงโทษ”
แสงกล้าหอมแก้มแพรไพลินแบบเต็ม ๆ ทันที ทั้งซ้ายขวา ซ้ายขวาจนเธอตกใจ
“ว้าย”
แพรไพลินผลักแสงกล้าออกเต็มแรง แสงกล้าหัวเราะชอบใจ
"กลิ่นดอกเตอร์หอมชื่นใจ ... ฮ่า ๆ ๆ"
แสงกล้ายิ้มหัวเราะแล้วเดินหนีออกไป แพรไพลินชี้หน้าแสงกล้าแบบอาย ๆ แล้วเอามือเช็ดแก้มไปมา

ร.ต.ต. แสงกล้า อภิไชยเดินสำรวจห้องแลปในทาวน์โฮมที่ยังมีร่องรอยของการต่อสู้ แต่ไม่พบอะไรที่เป็นหลักฐานได้เลย เขาเปิดโน้ตบุ๊กของแพรไพลิน พบว่าข้อมูลภายในเครื่องหายไปทั้งหมด โหลดอะไรไม่ขึ้นเลย มีแต่เคอร์เซอร์กระพริบถี่ ๆ
"เรียบร้อย เครื่องคอมพิวเตอร์ของหมอเดี้ยงสนิท ไม่เหลือข้อมูลอะไรเลย"
พญ. แพรไพลิน นวิยากุลพยายามหาหลักฐานประกอบอื่น ๆ แต่ไม่พบ
"ปลอกกระสุนที่ฉันได้มาก็หายไปด้วย"
แสงกล้า นึกขึ้นได้เรื่องคมศรขึ้นมาได้ ก็พูดประชด
“น่าเสียดาย สุดที่เลิฟอุตส่าห์หามาให้”
"อะไรนะ"
"ปละ...เปล่า พอดีเพิ่งนึกขึ้นมาได้ว่าเห็นภาพบาดตาบาดใจ"
"อย่าเพิ่งไร้สาระน่า”
แพรไพลินพยายามกดคีย์บอร์ดจะโหลดข้อมูลกลับคืนมา แต่ไม่ได้ผล โน้ตบุ๊กดับพรึ่บไปอีก
"ท่าทางจะกู้ข้อมูลมายากแล้วล่ะ เราคงต้องเริ่มกันใหม่"
แพรไพลินนิ่งคิดและนิ่วหน้าพยายามรื้อฟื้นความจำ
“น่าเสียดาย ก่อนเกิดเรื่อง ฉันน่าจะพบความจริงเกี่ยวกับฆาตกรที่ฆ่าผู้กองครามแล้ว แต่ฉันจำอะไรไม่ได้เลย"
“งานนี้คงขอหลักฐานใหม่เพิ่มจาก ผ.บ.รวิ ลำบาก”
แพรไพลินมีสีหน้ามุ่งมั่นบอก
“ลำบากยังไงฉันจะต้องพิสูจน์ให้ได้ ว่าใครอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้”

แพรไพลินกำลังเดินออกมาส่งแสงกล้าที่หน้าทาวน์โฮมเพื่อเดินทางกลับ
“แหม บอกตามตรงนะ ผมละภูมิใจในความมุ่งมั่นของแฟนผมคนนี้จริง ๆ มันต้องกล้า ซ่าส์ มีกึ๋นอย่างงี้ สมกับเป็นดอกเตอร์ขวัญใจผม”
"ใครเป็นแฟนคุณ"
"ก็...ก็"
“พูดจาเลอเทอะ ไปเช็กสมองหน่อยมั้ย ฉันทำใบส่งตัวให้”
“เปลี่ยนเป็นเช็กคลื่นหัวใจได้มั้ย อยากให้ดอกเตอร์รู้ว่า หัวใจผมมันเต้นจังหวะ ไอ...ไอ...”
แสงกล้าสบตาแพรไพลิน เพชรแท้เดินเข้าบ้านมาพอดี สีหน้าเข้มมองมาด้วยความไม่พอใจ
"ทำไมยังตามป้วนเปี้ยนลูกสาวฉันไม่เลิก"
แสงกล้าหันไปเห็นเพชรแท้
“ไอเกลียดยูโซมัช เวรี่มัชแหง ๆ ... ลองหน้าแบบนี้”
เพชรเท้าเดินเข้ามาใกล้ แสงกล้ายิ้มนำไป
“ไปห่าง ๆ ลูกสาวฉัน”
“ห่างไม่ได้ ผมชอบอยู่ใกล้คนเก่งไม่ภูมิใจเหรอครับที่มีลูกสาวทั้งเก่ง ทั้งสวย" แสงกล้าพูดพลางหัวเราะ
“ไม่มีใครเคยสอนมารยาทให้รึไง”
“ถ้าจะด่าถึงพ่อถึงแม่ก็ต้องบอกตรง ๆ ผมกำพร้า ไม่มีพ่อแม่สั่งสอนมาตั้งแต่เกิด"
แพรไพลินพูดขัดขึ้น
“แม่มาทำไมคะ มีอะไรจะมาสั่งแพรเหรอคะ”
"เข้าไปคุยกันข้างใน"
เพชรแท้มองแพรไพลินด้วยสีหน้าไม่พอใจ ก่อนปรายตามองแสงกล้าแบบเหยียด ๆ

ภายในทาวน์โฮม แพรไพลินมองแม่ที่หน้าตาซีเรียส
“ทำไมถึงไม่คบกับคุณจักร ไอ้หมวดบ้า ๆ บอ ๆ นี่มันช่วยให้ชีวิตแกดีขึ้นได้รึไง"
"เพราะแพรคิดไม่เหมือนแม่ไงคะ แพรไม่คบคนที่ผลประโยชน์"
"คุณจักรเค้าชอบแก"
"แต่แพรไม่ชอบ เกลียดด้วยซ้ำ"
"ทำเพื่อแม่ไม่ได้ใช่มั้ย"
"ถ้าแม่จะจับแพรใส่กล่องผูกโบว์ ส่งเป็นของกำนัลให้คนที่ทำธุรกิจด้วย แม่ไม่น่าเสียเงินส่งแพรเรียนถึงดอกเตอร์”
"เพราะแม่อยากให้ของขวัญชิ้นนี้ ทั้งสวยทั้งมีสมอง มีคุณค่าที่จะไม่เป็นแค่ของเล่นชั่วคราว"
แพรไพลินมองแม่ เพชรแท้เดินเข้าหา
“แม่รู้ว่าบังคับลูกไม่ได้ แต่แม่ก็พลาดงานประมูลดาวเทียมดวงใหม่ไม่ได้เหมือนกัน เพราะนั่นคืออนาคตทุกอย่างในชีวิตแม่”
แพรไพลินชะงักนิดหนึ่ง เพชรแท้พยายามเอาน้ำเย็นเข้าลูบ
“แพร...แม่ไม่ได้บังคับให้ลูกแต่งงานกับคุณจักร แค่เอาใจ...ยอมไปไหนมาไหนกับเค้าบ้าง แค่ทำให้เค้าพอใจเล็ก ๆ น้อย ๆ ถ้าลูกยอมเสียสละทำให้แม่ถือว่ามันคือความกตัญญูจากลูกนะ"
เพชรแท้เล่นเกมส์กดดันและแสร้งยิ้มอารีแล้วเดินออกไป แพรไพลินสีหน้าเครียด

เพชรแท้เดินฉับ ๆ ไปขึ้นรถ พอรถออก แสงกล้าค่อย ๆ โผล่หน้าออกมาจากมุม ๆ หนึ่ง มองไปที่แพรไพลินที่มองตามรถแม่ออกไปด้วยสายตาเครียด
แพรไพลินสีหน้าเครียดหันมา เห็นแสงกล้าเข้ามายืนมองอยู่เงียบๆ
"ทำไมยังไม่กลับไปอีก หรือจะรอสมน้ำหน้าฉัน"
“ผมไม่ได้มาสมน้ำหน้าคุณ ถึงไม่มีพ่อแม่ แต่ผมก็นึกออกว่าความทุกข์ที่คุณเจอมันเป็นยังไง”
"ขอบคุณที่เข้าใจฉัน"
“ถ้าจะมีอะไรให้ช่วยก็บอกได้นะ ขอแค่คุณเปิดใจรับฟังความคิดของผมบ้างก็พอ”
แพรไพลินกับแสงกล้าที่มองสบตากัน อย่างรู้สึกใกล้ชิดและผูกพันกันมากขึ้นเรื่อย ๆ
"ผมกลับบ้านดีกว่า คุณจะได้พักผ่อน"
แพรไพลินพยักหน้ารับรู้ แสงกล้าหันหลังเหมือนจะเดินออกไปแล้วเหมือนคิดอะไรขึ้นมาได้
"อ้อ... ผมลืมบอกไปอีกเรื่องนึง"
"อะไรคะ"
แสงกล้า อมยิ้มแล้วบอก
“กลิ่นแก้มดอกเตอร์หอมชื่นใจมั่ก ๆ"
แพรไพลินซัดเพี้ยะเข้าที่แขนของแสงกล้า แล้วยิ้มเขิน ๆ
"บ้า"
"นี่แหละ... ผมอยากได้รอยยิ้มแบบนี้แหละ ยิ้มให้เยอะ ๆ เจ๊ไพลิน โลกจะลดมลพิษทางอารมณ์ ถ้าเรามีรอยยิ้ม เจ๊มีเสน่ห์ที่รอยยิ้ม บ๊ายบาย”
แสงกล้าทำท่าทะเล้นกรุ้มกริ่มเข้าใส่แพรไพลินก่อนเดินออกไป ทิ้งให้แพรไพลินมองตามแล้วยิ้ม ๆ เธอกำลังชอบผู้ชายคนนี้มากขึ้นโดยไม่รู้ตัว

วันใหม่ เวลากลางวัน ณ อาคารที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ภายในที่ประชุมประกอบด้วย เมฆา ศมศร จักร และรัฐมนตรีจากกระทรวงต่างๆ นับ 10 คน
ดร. เมฆา ฐานรัฐ สีหน้าเครียด คมศรขยับตัวอย่างอึดอัด ส่วนองค์ประชุมอื่นๆภายในห้องกำลังฟังจักร อมตฤทธาด้วยแววตาเห็นด้วยและคล้อยตาม
“ผมขอเสนอให้โครงการส่งดาวเทียมดวงใหม่เป็นวาระเร่งด่วนประจำวันนี้ เราต้องพิจารณาผ่านโครงการ เพื่อหาบริษัทฯจัดซื้อเป็นกรณีพิเศษ”
“แต่ยังมีเรื่องอื่นที่ต้องพิจารณา แผนพัฒนาการศึกษาแห่งชาติ เป็นเรื่องที่รอมานานแล้ว” จักรหันมายิ้มเหี้ยมอย่างเหนือชั้นกว่า
“ท่านต้องทำตามมติที่ประชุม รัฐมนตรีทุกคนมีความเห็นคล้อยตามความต้องการของผม"
คมศรเข้ามาส่งแฟ้มโครงการดาวเทียมวางให้หน้าดร. เมฆา ที่นั่งนิ่ง สีหน้าบึ้งตึง ตรงข้ามกับจักรที่ยิ้ม คณะรัฐมนตรีแต่ละคนแววตาเหม่อลอยต้องมนต์สะกด

ภายในโถงพิธีกรรมในบรรยากาศขรึมขลังและน่ากลัว ขมังเวทย์กำลังจ้องมองไปที่เพชรยอดสังข์ที่เปล่งประกายแสงวาววับ

ดร. เมฆา ฐานรัฐนั่งมองคณะรัฐมนตรีทุกคนที่กำลังนิ่งฟังจักรพูด
“เราจำเป็นต้องเพิ่มดาวเทียม เพื่อผลประโยชน์ของประเทศในทุกด้าน”
ด้านหลังเมฆาที่นั่งหน้าเครียดอยู่ มีเงาควันดำปรากฏขึ้นมา เงาควันดำล่องลอยอบอวลไปทั่วทั้งห้อง เงาดำนั้นกำลังทาบทับลงมาที่ใบหน้าคณะรัฐมนตรีแต่ละคน และทุกคนเพื่อครอบงำความคิดและจิตวิญญาณ
รัฐมนตรีคนหนึ่ง ที่โดนมนต์ดำครอบงำบอก
"ความเห็นของท่านจักรน่าสนใจมาก”
รัฐมนตรีอีกคนหนึ่งสนับสนุน
“ผมสนับสนุน เพราะเป็นการทำเพื่อประเทศชาติอย่างจริงจัง”
“โครงการนี้ลงทุนเพื่อประเทศชาติ ขอให้พวกเราผ่านมติครม.เพื่อดำเนินการอย่าเร่งด่วนเพื่อผลประโยชน์ของประชาชน”
จักรพูดเสร็จแล้วหันขวับจ้องเขม็งไปทางเมฆา และพูดเน้นย้ำเหมือนสะกดจิตให้ทำตาม
“ผมต้องการให้ท่านนายกฯผ่านมตินี้...เพื่อความเป็นเอกฉันท์!”
ดร. เมฆา ฐานรัฐที่นั่งอยู่ ปรากฏควันดำก่อเป็นร่างของขมังเวทย์จาง ๆ ค้ำหัวเมฆาเพื่อชี้นำความคิดของนายกรัฐมนตรี

ภายในโบสถ์ในบรรยากาศเงียบสงบ นภา ฐานรัฐใบหน้าผ่องผุด งดงาม พนมมืออยู่หน้าพระประธานองค์ใหญ่
“ชีวิตนี้ลูกไม่อธิษฐานขอสิ่งใด นอกจากขอให้คุณความดีคุ้มครองผู้มีศีล ผู้เสียสละ และผู้มีจิตยึดมั่นในความดี”
สีหน้าแววตาของนภามุ่งมั่น อธิษฐานจิตอย่างแรงกล้า

ควันดำที่ค้ำร่างเมฆา จู่ ๆ ก็โดนอำนาจบางอย่างก่อตัวขึ้นสลายเงานั้นจนล่องลอยออกจากเมฆาในทันที

ภายในโบสถ์ นภายังพนมมืออยู่หน้าพระประธานองค์ใหญ่กล่าวคำอธิษฐานอย่างจริงจังต่อไป
“ให้ความดีเป็นที่พึ่งของทุกชีวิต ให้ความดีเป็นเกราะคุ้มภัยให้กับคนที่คิดทำประโยชน์สุจริตแก่ประเทศชาติ ให้ความชั่วความเลวที่เกาะกินอยู่บนแผ่นดินนี้สูญหาย พ่ายแพ้แก่พระบารมี และคุณความดีที่ปกปักษ์รักษาประเทศไทย ไม่ว่าอีกนานแค่ไหน.. ความดีจะไม่มีวันพ่ายแพ้ !”

เงาดำเหมือนถูกผลักกระเด็นออกไปจากเมฆา แล้วจางหายไปอย่างรวดเร็ว
"ขอให้เราลงมติกันเลย" จักรว่า
“เราจะไม่ลงมติจากคนแค่หยิบมือในห้องนี้”
จักรชะงัก
“ ผมอยากให้เราทำประชามติ เสียงจากประชาชนจะเป็นคนตัดสินว่าโครงการสำคัญเร่งด่วนจริงหรือไม่"
ดร. เมฆา ฐานรัฐกวาดตามองทุกคนอย่างเป็นคำสั่งสิ้นสุด

นภาก้มกราบอย่างสวยงาม ก่อนจะเงยขึ้นมองพระพักตร์ที่นิ่งสงบ เยือกเย็นของพระประธานในอุโบสถเบื้องหน้า

เมฆาเดินเร็วออกจากห้องประชุม คมศรเดินตาม
"ทำประชามติทั้งประเทศ"
“แต่มันจะนานนะครับ ผมกลัวว่ารองนายกจักรจะรอไม่ไหว”
“นั่นแหละที่ฉันต้องการ ให้รอไป!”
“ลองแบบนี้ โครงการดาวเทียมคงเป็นหมันไปอีกหลายรัฐบาล”
ดร. เมฆา ฐานรัฐเดินนำคมศรออกไปอีกทางหนึ่ง คมศรเดินตามไป จักร อมตฤทธาขยับออกมาจากมุมสุดทางเดินมองตรงมาด้วยแววตาไม่พอใจ

ภายในห้องทำงาน ดร. เมฆา ฐานรัฐที่กำลังเช็คทวิตเตอร์จากมือถือ แล้วเงยหน้ามองคมศรที่บอกว่า
“เราอาจจะขวางโครงการดาวเทียมได้ แต่คุณจักรคงมีอีกหลายเรื่องที่จะเสนอ”
“ไม่ต้องกังวลหรอกคมศร มีอีกหลายวิธีที่เราจะทำให้โครงการไม่โปร่งใสไม่เป็นประโยชน์กับส่วนรวมตกไป”
เมฆายิ้มมองคมศรพูดด้วยแววตา สีหน้ามีความหวังมุ่งมั่นเต็มเปี่ยม
“ที่จริงฉันก็เห็นด้วยว่าต้องมีดาวเทียมเพิ่ม แต่ไม่ใช่เวลานี้ ที่ปากท้องประชาชนกับการศึกษาเป็นเรื่องสำคัญที่สุด เงินเป็นพันล้านเราควรจะเอามาพัฒนาคุณภาพชีวิตคน ให้การศึกษากับเด็กด้อยโอกาส เพื่ออนาคตพวกเค้าจะได้ไม่ต้องถูกหลอกจากพวกมีการศึกษา พวกที่เป็นคนเก่ง..แต่ไม่ใช่คนดี ทำทุกอย่างเพื่อประโยชน์ส่วนตัวและพวกพ้อง"
ดร. เมฆา ฐานรัฐสีหน้าจริงจัง

ถายในห้องโถงบ้านจักร จักรยืนหน้าบึ้งตึงต่อหน้าเพชรแท้ที่เข้ามาคุยเรื่องโครงการดาวเทียม รอบข้างมีนักธุรกิจการเมืองเกี่ยวข้องอีก3คน
“ไหนคุณว่าจะผ่านมติ ครม.ได้วันนี้ ธุรกิจเสียหายนะคะ”
“อย่าลืมว่าพวกเราอุดหนุนคุณเท่าไหร่ ตอบแทนกันแค่นี้ ทำไมถึงช้านัก” นักธุรกิจการเมืองคนแรกว่า
จักรสีหน้านิ่ง ไม่โต้เถียง ยอมปล่อยให้นักธุรกิจนายทุนพูด
“เคยมีคนเตือน แต่ผมก็มั่นใจว่า คุณจะไม่เหมือนพ่อ” นักธุรกิจคนที่ 2 บอก
“คุณก็รู้ว่าความดีมันกินไม่ได้ ประสบการณ์ตรงเลยไม่ใช่เหรอ”
จักรแววตาวาบขึ้นมาด้วยความโกรธ หันขวับไปทางกลุ่มเพชรแท้กับนักธุรกิจทันที
“เอ้อ... ฉันว่าเราพูดแค่นี้คุณจักรคงจะเข้าใจแล้ว ปล่อยให้ทุกอย่างเป็นการตัดสินใจของคุณจักรดีกว่านะคะ”
เพชรแท้เห็นท่าไม่ดี รีบพยักหน้าให้นักธุรกิจที่เหลือเดินเลี่ยงออกไปพร้อม ๆ กัน จักรหันมาเห็นลูกน้อง ลูกน้องรีบหลบออกไปอย่างรู้อารมณ์ สีหน้าจักรเต็มไปด้วยความเครียด

จักรเดินเข้ามาในห้อง ทิ้งตัวลงนั่งที่โต๊ะทำงานของตัวเอง จ้องตรงไปยังรูปถ่ายใบหนึ่งบนโต๊ะ ภาพของจักรกับพ่อวัยกลางคนถ่ายรูปคู่กันอย่างสนิทสนม เขาคิดถึงเรื่องราวระหว่างตัวเองกับพ่อ

ในบ้านหลังเก่าที่เป็นเรือนไม้สมฐานะของชนชั้นกลาง บ้านหลังนี้ไม่ใหญ่โตนัก อาวุธ อมตฤทธานักการเมืองน้ำดี พ่อของจักร วัยกลางคน กำลังโต้เถียงอยู่กับนักธุรกิจนายทุนพรรค
“ผมช่วยโครงการฮั้วประมูลตัดถนนของท่านไม่ได้” อาวุธบอก
"แต่ผมเป็นนายทุนพรรค"
“ก่อนท่านจะสนับสนุนเรา ผมเคยแถลงนโยบายพรรคให้รู้แล้ว พรรคเราจะเน้นการทำงานเพื่อประชาชนอย่างซื่อสัตย์ เราจะไม่ทำงานการเมืองในระบบเก่า เพราะมันคือต้นเหตุของการทุจริต โกงกินประเทศชาติตัวเอง"
จักร อมตฤทธาในสมัยที่ยังเป็นวัยรุ่นแอบหลบฟังอยู่อีกด้าน

ที่สนามกอล์ฟในอดีต จักรมองอาวุธ ผู้เป็นพ่อกำลังหวดวงสวิง
“พ่อปฏิเสธนายทุนพรรค ไม่กลัวเลือกตั้งคราวหน้าจะลำบากเหรอครับ”
“ลำบากยังไง ก็ดีกว่าให้พ่อโกงชาติเพื่อนายทุน”
อาวุธจับบ่าสองข้างของจักร แล้วพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“จำไว้นะลูก ตลอดชีวิตของเรา อย่าให้อำนาจเงินอยู่เหนือความถูกต้อง”
"ครับ"
“เราต้องทำให้อาชีพนักการเมือง คือที่พึ่งที่แท้จริงของประชาชน”
“ครับพ่อ ผมจะเป็นอย่างที่พ่อเป็นสอน ผมจะเป็นนักการเมืองที่ไม่คอรัปชั่นทำเพื่อประชาชนทุกคน"
จักรยิ้มกับพ่อ
ที่ด้านหลัง มือปืนที่ปลอมเป็นแคดดี้กระชากปืนออกจากถุงกอล์ฟที่แบกมาแล้ว เล็งยิงเปรี้ยง...เข้าที่ด้านหลังอาวุธ
กระสุนลั่นเปรี้ยง เจาะกะโหลกอาวุธ เลือดกระเซ็นเข้าหน้าจักร อาวุธล้มลงทรุดหน้าลงกับพื้นหญ้า เลือดข้นไหลนองบนหญ้าเขียว
"พ่อ ... พ่อ"
จักรก้มลงพลิกร่างพ่อที่ไร้วิญญาณ ตะโกนออกมาด้วยความเจ็บปวด
"พ่อ"

จักร อมตฤทธาถือรูปถ่ายคู่กับพ่อในมือ แววตาของจักรเต็มไปด้วยความคั่งแค้น
“ผมขอโทษที่ผิดสัญญา แต่ชีวิตและความตายของพ่อเป็นข้อพิสูจน์สำหรับผม แค่ความดีอย่างเดียวไม่ทำให้ชีวิตอยู่รอด”
จักรวางรูปพ่อตัวเองลง สีหน้าเข้มมากขึ้น
“ผมไม่ต้องการจะตายเหมือนพ่อ พ่อภูมิใจเถอะ ผมเป็นได้ดีกว่าที่พ่อสอนแน่นอน เพราะเงินกับอำนาจคือเพื่อนที่ดีที่สุด”
แววตาจักร อมตฤทธาเต็มไปด้วยความเกลียดชังและชิงชังต่อโลก

วันใหม่ เวลากลางวัน ภายในห้องส่ง... “เรื่องด่วนเรื่องเด่น.. วิเคราะห์การเมืองไทย” โดยสกายนิวส์ เน็ตเวิร์ค ภายในห้องส่ง น้ำใสกำลังยืนรายงานข่าวสกู๊ปด้วยสีหน้าจริงจัง กราฟิกด้านข้างปรากฏภาพหน้าดร. เมฆา ฐานรัฐประกบกับจักร อมตฤทธาในลักษณะที่กำลังเผชิญหน้ากัน
“ผลการประชุมคณะรัฐมนตรีครั้งที่ผ่านมา มีประเด็นสำคัญที่น่าจับตามองนะคะ แหล่งข่าวของเราจากทำเนียบยืนยันว่า เกิดการขัดแย้งอย่างรุนแรงระหว่างดอกเตอร์เมฆา ฐานรัฐ นายกรัฐมนตรี และ นายจักร อมตฤทธา รองนายกรัฐมนตรีคนที่หนึ่ง ในประเด็นร้อน สัมปทานดาวเทียมดวงต่อไปของประเทศ ดอกเตอร์เมฆายืนกรานจะผลักดันงานด้านการพัฒนาการศึกษาก่อน ในขณะที่นายจักรต้องการยิงดาวเทียมให้เร็วที่สุด ซึ่งผลการประชุมล่าสุดก็คือ ดอกเตอร์เมฆาใช้อำนาจของนายกรัฐมนตรี สั่งให้ทำประชามติทั่วประเทศ ในประเด็นเรื่องนี้เราจะเจาะลึกอีกครั้งช่วงข่าวภาคค่ำวันนี้ค่ะ”

บริเวณทางเดินในทำเนียบ วันเดียวกัน ดร. เมฆา ฐานรัฐเดินออกมา คมศร สุริยนเดินรายงาน
“เราเริ่มเดินหน้าเรื่องประชามติทั่วประเทศแล้วครับ มีนักวิชาการหลายคนออกมาคัดค้านเรื่องซื้อดาวเทียมทันที สื่อหลายช่องก็พากันเล่นประเด็นนี้”
“ดี... ฉันต้องการให้เสียงคัดค้านดังขึ้นดังขึ้น ไม่ต้องปิดข่าวนะคมศร”
“แต่ภาพพจน์ของรัฐบาลอาจจะติดลบนะครับ”
“ฉันไม่สนใจภาพพจน์ ฉันสนใจความจริง เรายังมีงานอื่นๆที่จะทำให้ประชาชนได้อีก...แล้วเรื่องที่ให้จัดการ”
"เรียบร้อยครับ"
“ขอบใจมาก”
"ท่านแน่ใจเหรอครับ"
ดร. เมฆายกมือเป็นเชิงห้าม
“พวกคุณทำหน้าที่ของคุณไป แต่อย่ารบกวนความเป็นส่วนตัวของฉัน”
"ครับ"
ดร. เมฆาเดินไปขึ้นรถ คมศรพูดกับไมค์ติดปกเสื้อสั่งการ
“ท่านนายกฯกำลังไปที่หมาย ระดับการรักษาความปลอดภัยปกติ ย้ำ ปกติ ท่านต้องการความเป็นส่วนตัว"

บริเวณชายหาดของบ้านพักส่วนตัวริมทะเลของดร. เมฆา ทิวทัศน์สวยงาม เมฆาเดินเข้ามาผ่านประตูด้านนอกสู่ระเบียง นภาในชุดสวย พริ้ว เบาบางหันมา เมฆายิ้ม
“เซอรไพร์สอะไรเหรอคะ ถึงต้องให้คนพาฉันมาถึงนี่” นภาถาม
“ผมไม่ลืมว่าวันนี้เป็นวันอะไร”
นภายิ้มอายบอก
“อายุขนาดนี้แล้ว จะมาสนใจอะไรกับวันเกิด”
“ผมสนใจทุกเรื่องของคุณนะนภา เพียงแต่บางครั้งผมก็แบ่งเวลาไม่ได้ ผมอาจจะบ้างานมากไป แต่ว่า...”
"พอแล้วค่ะ"
นภาเอามือแตะไปที่อกเมฆาแล้วซบลง
"ฟังเสียงทะเลสิคะ"
เมฆายิ้ม รู้แล้วว่านภาไม่อยากให้พูดเรื่องเครียดๆ ทั้งคู่ยืนโอบกอดกันมองบรรยากาศริมทะเลสวยงาม

รถตู้ขนาดใหญ่กำลังวิ่งอยู่บนถนนเลียบหาดสวยงาม ภายในรถ ปราบ บอดี้การ์ดส่วนตัวของจักรหยิบปืนมาตรวจสอบความเรียบร้อย จากนั้นกระแทกแมกกาซีนเข้าไปในปืนแล้วพูดโทรศัพท์
“ทุกอย่างเป็นไปตามกำหนด จะถึงที่หมายภายใน 5 โมงเย็นครับ”

จักรวางหูโทรศัพท์ ด้านข้างวิญญูยืนนิ่งสายตาไม่ค่อยเห็นด้วย
"เตือนแล้วนะ ว่ามันยังไม่ถึงเวลาจบชีวิตของคนดี"

อ่านละคร เหนือเมฆ 2 มือปราบจอมขมังเวทย์[2] วันที่ 22 ธ.ค. 55

เหนือเมฆ2 : มือปราบจอมขมังเวทย์
เหนือเมฆ2 บทประพันธ์ - บทโทรทัศน์ : คฑาหัสถ์ บุษปะเกศ
เหนือเมฆ2 กำกับการแสดง : นนทรีย์ นิมิบุตร
เหนือเมฆ2 ผลิตโดย : บริษัท เมตตามหานิยม จำกัด โดยผู้จัด ฉัตรชัย เปล่งพานิช
เหนือเมฆ2 แนวละคร : ดราม่า แอ็คชั่น แฟนตาซี
เหนือเมฆ2 ออกอากาศทุกวันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ เวลา 20.15 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3
เหนือเมฆ2 เริ่มออกอากาศตอนแรกวันอาทิตย์ที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2555
ที่มา manage