@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร แรงปรารถนา ตอนที่ 5 วันที่ 9 ม.ค. 56

อ่านละคร แรงปรารถนา ตอนที่ 5 วันที่ 9 ม.ค. 56

ปวีณาหัวเสียแล้วกรองทิพย์ก็หันไปเห็นบวรยืนอยู่ กรองทิพย์ตกใจมาก
“คุณใหญ่!”
ปวีณาหันไปเห็นบวรก็หน้าเสีย บวรได้ยินทุกอย่างแล้วเดินเข้ามา
“เธอไม่มีสิทธิ์มาวิจารณ์น้องสาวฉัน เธอคงลืมไปมั้งว่าเธอเป็นแค่ลูกจ้าง ฝากคุณทิพย์สั่งสอนให้ด้วยนะครับ คราวหน้าถ้าผมได้ยินอีกคงต้องให้มีการเซ็นต์ใบตักเตือน”
บวรหันไปมองปวีณาอย่างไม่พอใจแล้วก็เดินออกไป ปวีณาโมโห หัวเสียแต่ไม่กล้าเถียง
“พูดแค่นี้นึกว่าฉันจะกลัวเหรอ”

“หยุดได้แล้วแป๋ว!”
แป๋วหน้าหงิกหน้างออย่างเซ็ง กรองทิพย์ได้แต่ส่ายหัวอย่างเอือมๆ

ภายในห้องทำงาน พิทยาเก็บของเสร็จ หันไปเจอบวรยืนอยู่
“คุณใหญ่!”
“ฉันช่วย”
“ไม่ต้อง”
ยังไม่ทันพูดจบประโยค บวรก็พูดสวนขึ้นมา
“ให้ฉันช่วยเถอะ เพราะไม่รู้ว่าหลังจากวันนี้ ฉันจะได้เจอกับแกอีกรึเปล่า”



พิทยานิ่งงัน บวรเดินมาตรงหน้าพิทยา
“ให้ฉันพูดอะไรหน่อยได้มั้ย แกก็รู้มาตลอดว่าฉันเป็นกลางแค่ไหนระหว่างแกกับยัยแต ถ้าแตทำผิด ฉันก็ดุด่ามันเสมอ แตยังเด็กมากทำอะไรไม่คิด เป็นคนเก่งแต่ปาก พอเอาเข้าจริงมันก็วิ่งหนีไม่ยอมสู้ ฉันยอมรับว่าครั้งนี้แตทำเกินไป แต่มันเสียใจจริงๆที่ทำให้แกกับรวีมีปัญหากัน”
“ผมขอโทษนะครับคุณใหญ่ แต่ผมให้อภัยคุณแตไม่ได้จริงๆครับ”
บวรถอนหายใจกับความใจแข็งของพิทยา
“งั้นฉันก็ขอให้แกโชคดี ฉันเห็นแกเหมือนน้องชายแท้ๆนะพิท ถ้าเดือดร้อนก็บอกฉัน ฉันพร้อมช่วยแกเสมอ”
“ขอบคุณมากครับคุณใหญ่”

บวรตบบ่าพิทยา แล้วช่วยกันยกกล่องออกไปจากห้องด้วยกัน
พราวพิไลเข้ามาในห้องนอนเห็นสุอาภายังไม่ลุกจากเตียง ก็พุ่งเข้ามากระโดดทับตัว สุอาภาสะดุ้งตกใจหันไป

“ไอ้พราว! ไอ้บ้า! ฉันตกใจหมด”
พราวพิไลลุกขึ้นนั่งคุกเข่า
“ดีใจจังที่แกด่าได้แสดงว่าไม่ได้เป็นอะไรมาก”
“พี่ต่ายโทรไปเล่าให้แกฟังเหรอ”
“อือ...พี่ต่ายเค้าเป็นห่วงกลัวแกจะเฉา เลยโทรให้ฉันมาอยู่เป็นเพื่อน ลุกขึ้นแต่งตัวได้แล้วจะได้ไปชอปปิ้งกัน”
“ฉันไม่ไป”
“ถ้าแกไม่ลุกไปแต่งตัวดีดี ฉันจะจับแกแก้ผ้าแล้วแต่งตัวให้”
สุอาภายังนิ่ง
“ไม่ลุกเหรอ”
พราวยื่นมือจะมาถอดเสื้อ สุอาภาตกใจรีบลุกขึ้นทันที
“แกเอาจริงเหรอเนี่ย”
พราวพิไลกอดอกและพยักหน้า สุอาภาบอก
“ลงไปรอฉันข้างล่าง”
“ก็แค่เนี้ย”
พราวพิไลลุกขึ้นแล้วก็เดินออกไป สุอาภาถอนหายใจ

ในเวลาต่อมา สุอาภาเดินออกมานอกตัวบ้านกับพราวพิไล
“วันนี้ฉันจะทำหน้าที่เป็นโชเฟอร์ให้แกเอง บัญชามาได้เลยว่า คุณผู้หญิงจะไปพารากอน เอ็มโพเรียม หรือ เซ็นทรัลเวิลด์”
“ฉันไม่อยากไปห้างฯ”
พราวพิไลนิ่วหน้า
“แล้วแกจะไปไหน”
สุอาภาหันไปมองพราวพิไล

ภายในโซนออฟฟิศ ของมูลนิธิฯ พิทยาก้มหน้าไหว้จันทร์จำนงแล้วก็เงยหน้าขึ้นมา
“ผมต้องขอกราบประทานโทษที่ผมไม่สามารถช่วยงานคุณนายได้จนจบ”
“ที่ฉันว่าจ้างบริษัทของคุณ เพราะฉันต้องการให้คุณมาเป็นสถาปนิกให้ ในเมื่อคุณไม่เป็นให้ฉันแล้ว ก็ป่วยการที่ฉันจะจ้างต่อ” จันทร์จำนงบอก
พิทยาชะงัก
“แต่ทางบริษัทมีสถาปนิกเก่งๆหลายคนนะครับ”
“ฉันไม่ต้องการ”
พิทยาหน้าเสีย จันทร์จำนงพูดมัดมือชก
“เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน ฉันจะจ้างคุณให้มาดูแลงานต่อ ตกลงตามนี้แหละนะ ส่วนเรื่องบริษัทของคุณ ฉันจะคุยกับคุณนพเอง”
พิทยาไม่กล้าปฏิเสธ
“เออ...ครับ”
“คุณพิทยา คุณกับฉันมันเกินคำว่านายจ้างกับลูกจ้างไปแล้ว ฉันเห็นคุณเหมือนลูกเหมือนหลานคนหนึ่ง ถ้ามีปัญหาอะไรก็พูดกันตรงๆ จะได้ช่วยกัน”
จันทร์จำนงจับแขนพิทยา เขามองเห็นแววตาที่เอ็นดูของจันทร์จำนงก็รู้สึกอบอุ่นในหัวใจขึ้นมาอย่างประหลาด

พราวพิไลทำหน้าเหวอสุดๆ ที่สุอาภาพาเธอมาที่มูลนิธิจันทร์จำนง
“ฉันขอถอนคำพูดที่บอกว่าแกไม่เป็นอะไร ฉันว่าแกเป็นมากเลยอ่ะ แกมาที่นี่ทำไมเนี่ย”
“ไม่รู้สิ...อยู่ดีดี ฉันก็คิดถึงที่นี่ขึ้นมา”
พราวพิไลสีหน้างงมาก เด็กที่เคยหกล้ม เห็นสุอาภาก็จำได้ ดีใจวิ่งเข้ามาทัก
“พี่คนสวย...”
สุอาภาหันไปเห็นเด็กก็จำได้เช่นกัน พราวพิไลมองแปลกใจ
“จำหนูได้มั้ย”
“จำได้สิ แผลหายดีเหรอยัง”
“ดีแล้วมีรอยแผลเป็นนิดเดียวเอง”
สุอาภายิ้มและพยักหน้า พราวพิไลมองเพื่อนอย่างแปลกใจที่เวลาอยู่กับเด็กแล้วกลับอ่อนโยนลงมาก พลันสายตาหันไปเห็นพิทยาเดินมากับจันทร์จำนง พราวพิไลชะงัก รีบสะกิดเพื่อน สุอาภาหันไปเห็นพิทยาก็อึ้ง
พิทยาเองก็เช่นเดียวกัน แววตาที่พิทยามองเธอยังเต็มไปด้วยความเกลียดชัง จันทร์จำนงเห็นปฏิกิริยาของสุอาภากับพิทยาก็ได้แต่แปลกใจ พิทยารีบหันไปทางจันทร์จำนง
“ผมลาล่ะครับ”

พิทยาไม่ทักและไม่มองสุอาภาอีก รีบเดินออกไปอีกทางทันที สุอาภาเศร้ามาก จันทร์จำนงเริ่มสงสัย
บริเวณม้านั่งข้าวสนามเด็กเล่น สุอาภากับพราวพิไลไหว้จันทร์จำนง

“อย่าบอกนะว่าจะมาลาฉันอีกคน”
สุอาภาชะงัก
“พิทเค้ามาลาคุณนายเหรอคะ”
“ใช่...แต่ฉันรั้งเค้าได้สำเร็จ เค้าตัดสินใจทำงานให้ฉันต่อ”
สุอาภาโล่งอกบอก
“โชคดีนะคะที่คุณนายรั้งเค้าเอาไว้ได้ ช่วยดูเค้าให้ด้วย”
“ให้คนแก่อย่างฉันดูคนหนุ่มเนี่ยนะ เธอมาดูเค้าเองดีกว่ามั้ง”
“แม้แต่หน้าฉันเค้ายังไม่มอง เค้าคงยอมหรอกค่ะ”
“ขอโทษทีเถอะนะที่ต้องถาม มันเกิดอะไรขึ้นระหว่างเธอสองคน”
สุอาภาเงียบไปอึดใจแล้วบอก
“ฉันทำผิดกับพิทเอาไว้มาก”
“แล้วเธอสำนึกผิดรึเปล่า”
“ค่ะ ถ้าพิทให้โอกาสฉันในการแก้ตัว ฉันก็พร้อมจะทำทุกอย่าง”
“แล้วทำไมต้องรอเค้าให้โอกาส”
สุอาภากับพราวพิไลชะงักมองหน้ากันแล้วก็หันกลับไปมองจันทร์จำนงอีกครั้ง
“เธอมีโอกาสอยู่ตลอดเวลาคุณสุอาภา มันอยู่ที่ว่า เธอจะใช้โอกาสอย่างไรทำให้คุณพิทยาอภัยให้เธอ ถ้าเธออดทนได้ ต่อให้ต้องใช้เวลานานเป็นเดือน เป็นปี ฉันว่ามันก็คุ้ม ดีกว่าต้องมานั่งเสียใจและโทษตัวเองไปตลอดชีวิต”
สุอาภาฟังที่จันทร์จำนงพูดแล้วก็คิดตาม

บริเวณลานจอดรถ สุอาภาหันมาทางพราวพิไลด้วยสีหน้ามุ่งมั่นมาก
“ฉันจะทำให้พิทกับคุณรวีคืนดีกัน”
“ถ้าเค้าดีกัน คุณพิทก็จะอภัยให้แก”
“ฉันไม่หวังว่าพิทจะอภัยให้ฉันเพราะตั้งแต่ฉันจำความได้ ฉันทำร้ายพิทมาตลอด ครั้งนี้ฉันจะทำเพื่อเค้า ถ้าพิทมีความสุข ฉันก็มีความสุข”
พราวพิไลอึ้ง สุอาภายิ้มแววตาเริ่มมีความหวัง

หลายวันต่อมา ภายในบ้าน รวีพรรณไหว้รมณีกับณรงค์ มีภูวดลยืนอยู่ด้วย รมณีกอดรวีพรรณด้วยความคิดถึงก่อนจะผละออกจากกัน
“ลูกแม่หน้าตาสดใสขึ้นมาก เห็นแล้วแม่ก็สบายใจ ลูกต้องขอบใจพ่อดลเค้ามากๆนะเพราะตอนลูกไม่อยู่ พ่อดลมาหาพ่อกับแม่ทุกวัน”
รวีพรรณหันไปยิ้มให้ ภูวดลยิ้มตอบและรีบพูดเอาใจ
“ไม่ต้องขอบคุณหรอกครับ มันไม่ได้ลำบากอะไรเลย คุณน้าทั้งสองก็เหมือนพ่อกับแม่แท้ๆของผม”
รมณีหันไปยิ้มกับณรงค์
“ฟังแล้วชื่นใจ”
“ให้ลูกขึ้นไปอาบน้ำอาบท่าเปลี่ยนเสื้อผ้าได้แล้ว เราจะได้ออกไปทานข้าวกลางวันด้วยกัน” ณรงค์บอก
“รวีขอตัวนะคะ” รวีพรรณพูดกับภูวดล
ภูวดลส่งยิ้มหวานให้ รวีพรรณดินออกไป ผ่านคนใช้ที่เดินเข้ามาพอดี
“เดี๋ยว” รพีพรรณเรียก คนใช้หยุดเดินหันมา เธอถามต่อ
“ระหว่างที่ฉันไม่อยู่ คุณพิทยามาหาฉันบ้างรึเปล่า”
“ไม่ค่ะ”
รวีพรรณสีหน้าผิดหวังแล้วก็เดินออกไป คนใช้หันมาทางรมณีที่พยักหน้าอย่างพอใจ

ภายในห้องนอน รวีพรรณเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จเดินออกมาจากห้องน้ำ เสียงมือถือดังขึ้น รวีพรรณหยิบขึ้นมากดรับสาย เสียงที่ผ่านมาทางสายทำให้เธอผงะไป
“ฮัลโหล...คุณสุอาภา”
สุอาภาอยู่กับพราวพิไล
“อย่าเพิ่งวางสายนะคะ ฉันมีเรื่องอยากคุยกับคุณ ออกมาพบฉันได้มั้ย”
รวีพรรณสีหน้าไม่พอใจ
“ฉันคงออกไปพบคุณไม่ได้ เพราะฉันไม่มีอะไรจะคุยกับคุณ”
สุอาภารีบพูด รวีพรรณเงียบ
“ฉันรู้ว่าคุณไม่ชอบฉัน แต่สิ่งที่ฉันจะพูด มันเกี่ยวกับพิท”
รวีพรรณวางสายไปเลย สุอาภาชะงัก
“ฮัลโหล...คุณรวี”
สุอาภากดวางแล้วหันไปทางพราวพิไล
“เค้าวางสาย”
“ก็ต้องเข้าใจเค้าแหละแก...แกทำกับเค้าไว้ซะขนาดนั้น เค้าก็คงไม่ชอบแกซักเท่าไหร่”
“แต่ยังไง ฉันก็ต้องหาทางเจอคุณรวีพรรณให้ได้”
สุอาภาสีหน้าตั้งใจและจริงจัง

เวลาต่อมา สุอาภากับพราวพิไลยืนอยู่กับคนใช้ของรวีพรรณ
“คุณรวีออกไปไหน”
คนใช้ดูอึกอักไม่อยากบอก พราวพิไลควักแบ้งค์พันออกมา คนใช้เห็นแล้วก็ตาโต
“จะบอกได้เหรอยัง”

ภายในร้านอาหารของรวีพรรณเวลานั้น รวีพรรณ ภูวดล นั่งด้วยกัน ภาสันต์นั่งหัวโต๊ะ ข้างๆ คือ ศรีพิไล ต่อด้วยรมณี และ ณรงค์ ขณะที่สินีนาฎกับพนักงานกำลังช่วยกันเสิร์ฟอาหาร
“ขาดเหลืออะไรเรียกได้เลยนะคะ”
ทุกคนหันไปยิ้ม สินีนาฎเดินออกไป

ด้านสุอาภากับพราวพิไลเดินเข้ามาด้วยกัน ในจังหวะที่สินีนาฎออกมาเห็นพอดีก็ตกใจรีบตรงเข้ามาหา
“มาที่นี่ทำไม”
“ฉันมาหาคุณรวี”
สุอาภากับพราวพิไลมองหา...เห็นรวีพรรณนั่งอยู่มุมส่วนตัวด้านใน ทั้งสองคนจะเดินเข้าไป แต่สินีนาฎยืนขวางไว้
“พวกแกห้ามเข้าไป...ออกไปจากร้านฉันได้แล้ว”
สุอาภากับพราวพิไลมองหน้ากัน แล้วพราวพิไลก็ล็อกแขนสินีนาฎเอาไว้ ทำให้ลูกค้าหันไปมองเป็นตาเดียว
“แกจับฉันทำไม ปล่อย”
“รีบไปเลยแต”

สุอาภาพยักหน้าแล้วก็รีบเดินเข้าไป สินีนาฎพยายามจะสลัดให้หลุด แต่สู้แรงพราวพิไลไม่ไหว
ทุกคนกำลังนั่งทานข้าวกันอยู่ ภูวดลตักอาหารเอาใจรวีพรรณ รมณี ศรีพิไลและณรงค์ลอบยิ้มอย่างพอใจ ทันใดนั้นสุอาภาก็จ้ำพรวดพราดเข้ามา ทำเอาทุกคนวงแตก! สุอาภาปรายตามองภูวดลอย่างไม่พอใจ จนภูวดลรู้สึกได้ แต่ไม่สนใจ

“ยัยสุอาภา..มาที่นี่ทำไม” รมณีถาม
สุอาภาไม่สนใจคนอื่นมองหน้ารวีพรรณ
“คุณรวี ฉันมีเรื่องต้องคุยกับคุณ”
“ฉันบอกคุณไปแล้วไง ว่าฉันไม่คุย กรุณาออกไปเถอะค่ะ”
“ฉันไม่ไป”
“คนเค้าไล่แล้ว ยังจะหน้าด้านอยู่อีก” ศรีพิไลบอก
“ฉันไม่ได้คุยกับคุณ อย่าเสนอหน้า”
ทุกคนตกใจ ศรีพิไลแทบจะกรี๊ดออกมา ภาสันต์มองสุอาภาอย่างไม่พอใจ
“ไหนๆก็ไหนๆแล้ว พูดมันซะตรงนี้เลยก็แล้วกัน ระหว่างที่คุณไปต่างประเทศ คุณพ่อของฉันเป็นเถ้าแก่ให้พิท..มาสู่ขอคุณกับแม่ของคุณ”
รวีพรรณตกใจ รมณีกับณรงค์หน้าเหวอ ศรีพิไลกับภูวดลผงะ ภาสันต์นิ่งมอง
“อย่าไปฟังมันนะลูก มันโกหก” รมณีบอก
“ใครกันแน่ที่โกหก ฉันพูดความจริง ให้ฉันสาบานก็ได้ คุณต้องเชื่อฉันนะคุณรวี”
รวีพรรณยังนิ่ง
“ที่ผ่านมาฉันยอมรับว่าฉันอยากทำให้คุณกับพิทเลิกกัน แต่ตอนนี้ฉันสำนึกผิด รู้ว่าสิ่งที่ฉันทำลงไปทุกอย่างมันไม่ถูกต้อง ถ้าฉันอยากแย่งพิทมาจากคุณจริงๆ ฉันไม่บอกเรื่องนี้ให้คุณรู้หรอกนะคะ”
รวีพรรณคิดแล้วก็เห็นด้วยกับสุอาภา หันไปทางรมณี
“แม่คะ...พิทมาสู่ขอรวีจริงเหรอคะ”
รมณีกับณรงค์มองหน้ากันแล้วพูดไม่ออก รวีพรรณรู้ทันทีว่า สุอาภาพูดจริง
“ที่คุณพ่อคุณแม่เร่งให้รวีไปเมืองนอกเพราะเหตุนี้ใช่มั้ยคะ”
“ที่แม่ทำลงไปทุกอย่างเพราะแม่หวังดีกับลูก อยากให้ลูกได้กับคนดีดี”
สุอาภาน้ำเสียงเยาะบอก
“คนดีดีอย่างคุณภูวดลน่ะเหรอคะ”
ภูวดลชะงัก ทุกคนหันไปมองสุอาภาที่หัวเราะกวนๆ แล้วก็เดินมาหา ภูวดลมองสุอาภาไม่ไว้ใจ
“คุณภูวดล นี่คุณไม่ได้บอกพวกเค้าเหรอว่าคืนก่อน คุณชวนฉันไปงานปาร์ตี้ แล้วเราสนุกสุดเหวี่ยงกันมากแค่ไหน”
สุอาภาโน้มตัวลงมาคล้องคอภูวดล ทำให้ศรีพิไล ภาสันต์ รมณี ณรงค์ รวีพรรณตกใจ ภูวดลนึกไม่ถึงว่าสุอาภาจะทำแบบนี้ ศรีพิไลลุกขึ้นโวยวาย
“ไปให้ห่างลูกชายฉันเดี๋ยวนี้”
ศรีพิไลเข้ามาฉุดแขนสุอาภาให้ออกไป เธอหันมาทำหน้ากวน
“ประโยคนี้อย่ามาบอกฉันเลยค่ะ บอกลูกชายคุณจะดีกว่า”
ศรีพิไลอ้าปากค้างหันไปมอง ภูวดลสีหน้าเจื่อน สุอาภายิ้มมุมปากอย่างสะใจ ภาสันต์สุดทนลุกขึ้นยืน
ภาสันต์พูดกับรมณีและณรงค์
“ผมต้องขอโทษด้วยนะครับ ผมคงขอตัวกลับก่อน”
ภาสันต์หันไปมองศรีพิไล ภูวดลแล้วก็เดินออกไปก่อน ทำให้ศรีพิไลต้องหันไปทางรมณี
“ฉันกลับก่อนนะ”
ศรีพิไลจับแขนภูวดลให้ลุกขึ้น ภูวดลมองสุอาภาด้วยความโมโห สุอาภายื่นหน้าท้าทายอย่างไม่กลัว แล้วภูวดลก็เดินออกไปกับศรีพิไล สุอาภาหันมาทางรวีพรรณ
“คุณรวีคะ ฉันยืนยันได้ว่าคนเดียวที่อยู่ในหัวใจของพิทคือคุณ ฉันกลับล่ะค่ะ”
สุอาภาหันไปไหว้แบบกวนๆกับรมณีกับณรงค์
“ลานะคะ”
สุอาภายิ้มแบบผู้ชนะแล้วก็เดินออกไป รมณีกับณรงค์ทำหน้าไม่ถูก รมณีหันไปทางรวีพรรณ
“รวี...”
“พอเถอะค่ะคุณแม่ รวีขอจัดการเรื่องนี้ด้วยตัวเอง”
รวีพรรณลุกเดินออกไป รมณีกับณรงค์หัวเสียมากมาย

ในเวลาต่อมา ภูวดลกับศรีพิไลเดินตามภาสันต์เข้ามาในบ้าน ภาสันต์หันขวับไปทางภูวดลด้วยสีหน้าบอกบุญไม่รับ
“จำไว้นะ...แกจะไปทำอะไรกับผู้หญิงคนไหนก็ได้ทั้งนั้น ยกเว้นลูกสาวไอ้นพ! อย่าไปยุ่งกับครอบครัวนี้เด็ดขาด”
ภาสันต์พูดจบก็จ้ำเดินเข้าไป ภูวดลแปลกใจมาก หันไปทางศรีพิไล
“คุณพ่อพูดถูกแล้ว”
“ก็แค่สนุกๆ ผมไม่ได้จริงจังซะหน่อย”
“จะสนุกๆก็ไม่ได้ ลูกก็เห็นแล้วไม่ใช่เหรอว่า นังนั่นมันแสบแค่ไหน ลำพังรมณี แม่ยังพูดแก้ตัวไปได้ แต่กับหนูรวี...แม่เดาไม่ออกว่าเค้ารู้สึกยังไง”

อ่านละคร แรงปรารถนา ตอนที่ 5 วันที่ 9 ม.ค. 56

ละครแรงปรารถนา บทประพันธ์โดย อาริตา
ละครแรงปรารถนา บทโทรทัศน์ : ปณธี
ละครแรงปรารถนา กำกับการแสดง : ยุทธนา ลอพันธ์ไพบูลย์
ละครแรงปรารถนา แนวละคร : โรแมนติก - ดราม่า
ละครแรงปรารถนาดำเนินงานสร้าง : บริษัทละครไท จำกัด โดย หทัยรัตน์ อมตวณิชย์
ละครแรงปรารถนา ออกอากาศ : ทุกวันศุกร์-อาทิตย์ เวลา 20.30 น. ช่อง 3 (ต่อจากเหนือเมฆ)
ที่มา manager