@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร แรงปรารถนา ตอนที่ 12/2 วันที่ 23 ม.ค. 56

อ่านละคร แรงปรารถนา ตอนที่ 12/2 วันที่ 23 ม.ค. 56

“คุณจะมาพูดส่งๆแบบนี้ไม่ได้นะ”
สุอาภามองหน้าพิทยา คิด แล้วก็ตัดสินใจ
“ฉันอยากรู้ว่า ถ้าคุณรวีแต่งงานกับนายภูวดล นายจะหย่ากับฉันรึเปล่า”
พิทยาอึ้งกับคำถามของสุอาภา แต่ยังไม่ทันตอบ เสียงมือถือดังก็ดังขึ้น พิทยากดรับสาย
“ฮัลโหล โทรมาทำไม ทำไมผมต้องเชื่อคุณ”
สุอาภามองอย่างสงสัย พิทยาฟังแล้วก็อึ้ง ก่อนจะกดวางสาย สีหน้าเป็นกังวลอย่างเห็นได้ชัด
“ใครโทรมา”

“ภูวดล”
สุอาภาผงะ
“เค้านัดให้ผมออกไปพบตอนนี้ ถ้าผมไม่ไป ผมจะเสียใจ”
“มันเป็นแผนของหมอนั่นมากกว่า นายอย่าไปนะพิท”
พิทยาคิดนิดนึง
“แล้วถ้าเกิดมันทำอะไรรวีล่ะ”
พิทยาดูเป็นห่วงรวีพรรณมากจนสุอาภาใจเสีย



ภายในลานจอดรถแห่งหนึ่ง เวลากลางคืน รวีพรรณใส่แว่นดำหันไปมองรอบๆ อย่างระวัง เพราะกลัวมีคนเห็น เธอยืนไม่อยู่สุข ไม่นานนักข่าวเดินมาหา
รวีพรรณเห็นก็รีบเข้าไปหาทันที
“รีบรับไปซะ”
นักข่าวรับเงินมา แล้วมองไปทางด้านหลังรวีพรรณเห็นภูวดลแอบหลบอยู่หลังเสา นักข่าวหันมาทางรวีพรรณ
“มันน้อยไป”
รวีพรรณชะงัก
“ก็เราตกลงกันเท่านี้ ยังมาเรียกร้องอะไร”
“พูดดีดีกับผมหน่อยสิครับ เกิดผมโมโหแล้วเผลอหลุดปากเรื่องนี้ออกไป คุณจะเป็นฝ่ายเสียหาย”
รวีพรรณไม่พอใจที่โดนหักหลัง
“ต้องการเพิ่มเท่าไหร่”
นักข่าวมองรวีพรรณสีหน้าครุ่นคิด

พิทยารีบขับรถมาตามทาง สีหน้าร้อนรนกังวลใจมากๆ สุอาภานั่งอยู่ข้างๆ หันไปมองพิทยา เธอเห็นความห่วงใยของพิทยาที่มีต่อรวีพรรณก็ยิ่งตอกย้ำให้เจ็บปวด

ที่ลานจอดรถ รวีพรรณยังต่อรองกับนักข่าว
“ขอเพิ่มอีกซักหมื่นแล้วกัน”
รวีพรรณไม่พอใจ
“มากเกินไป!ฉันให้ได้แค่ห้าพัน”
นักข่าวลังเล เหลือบมองภูวดลที่หลบอยู่ด้านหลังรวีพรรณนิดนึง ภูวดลส่ายหัวไม่ให้รับข้อเสนอ รวีพรรณเห็นนักข่าวมองด้านหลังก็สงสัย หันขวับไปเห็นภูวดลแอบอยู่ก็ตกใจมาก
รวีพรรณหันไปทางนักข่าว
“นายรวมหัวกันหลอกฉันเหรอ”
นักข่าวกลัวลนลานบอก
“ผมไม่เกี่ยว เค้าบอกให้ผมทำ ผมไปล่ะ”
นักข่าวรีบวิ่งออกไป รวีพรรณหันไปมองภูวดลด้วยความโมโหมาก ภูวดลเดินออกมาพร้อมกับถือมือถือในมือ
“ถึงไอ้พิทยาจะมาไม่ทันเห็นด้วยตาตัวเอง แต่ผมอัดทุกอย่างเอาไว้ในนี้หมดแล้ว”
ภูวดลชูมือถือขึ้นมา รวีพรรณหน้าตาตื่นตระหนก
รวีพรรณชะงัก
“คุณนัดพิทมา”
ภูวดลดูนาฬิกาข้อมือ
“ใช่และน่าจะใกล้ถึงแล้วด้วย”
รวีพรรณพูดไม่ออก โกรธที่เสียรู้ภูวดล ภูวดลเดินมาตรงหน้า
“คุณทำให้ทุกคนประณามว่าเป็นความผิดของผม เพราะฉะนั้นมันก็ถึงเวลาที่ไอ้พิทยาจะได้เห็นตัวตนที่แท้จริงของคุณซักที!”

รวีพรรณอึ้งหน้าเสีย เหมือนจะแพ้
พิทยารีบขับรถมาในลานจอดรถ แต่กลับเจอรถคันหนึ่งถอยออกมาจากช่องจอดรถ พิทยาจำต้องเบรกและรอด้วยความกังวลใจมาก
ภูวดลยิ้มให้รวีพรรณราวกับผู้ชนะ เธอมองมือถือในมือภูวดลแล้วก็ตัดสินใจพุ่งเข้าไปแย่งมือถือ ภูวดลตกใจ ไม่นึกว่ารวีพรรณจะกล้าเข้ามาแย่ง ภูวดลไม่ยอมปล่อย
“เอามาให้ฉัน”
“ฝันไปเถอะ! ว่าผมจะให้”
ภูวดลกับรวีพรรณแย่งมือถือกันไปมาจนทำให้มือถือหล่นพื้นกระเด็นออกไป ภูวดลกับรวีพรรณหันไปมองที่มือถือพร้อมกัน
รถคันที่ออกจากช่องจอดขับออกไป พิทยารีบขับออกไปทันที
รวีพรรณกับภูวดลกระโจนเข้าไปเก็บมือถือพร้อมกัน แต่ภูวดลหยิบขึ้นมาได้ก่อน รวีพรรณดึงแขนภูวดลมากัดเต็มแรงจนเขาร้องลั่น
“อ๊าก!”
มือถือร่วงจากมืออีกครั้ง รวีพรรณรีบก้มลงเก็บมือถือขึ้นมา ภูวดลตกใจจะคว้าตัวรวีพรรณ แต่รวีพรรณรีบวิ่งหนีออกไป ภูวดลโมโหมาก
“บ้าเอ๊ย!”
ภูวดลรีบวิ่งไล่ตามรวีพรรณไปติดๆ
รวีพรรณวิ่งลงมาทางลงรถ แต่เพราะใส่ส้นสูงเลยทำให้วิ่งไม่ถนัด ข้อเท้าพลิก รวีพรรณถึงกับกะเผลก เจ็บมาก หันไปเห็นภูวดลวิ่งไล่ตามมาก็ฝืนใจวิ่งหนีต่อ
พิทยาขับรถวนขึ้นมา ทั้งพิทยาและสุอาภาต่างร้อนใจ
รวีพรรณรีบวิ่งมาแต่เพราะเจ็บเท้าเลยวิ่งช้า ทำให้ภูวดลตามมาทัน คว้าแขนรวีพรรณเอาไว้ รวีพรรณหน้าตื่นตกใจมาก
“คิดว่าจะรอดงั้นเหรอ”
ภูวดลจะแย่งมือถือ แต่รวีพรรณกำมือถือไว้แน่น
“ช่วยด้วยค่ะ ช่วยฉันด้วย”
“แหกปากไปก็ไม่มีใครได้ยินหรอก”
รวีพรรณกำลังจะแย่ ภูวดลกำลังจะแย่งมือถือไปจากมือรวีพรรณสำเร็จ แล้วแสงไฟจากหน้ารถพิทยาส่องมาที่สองคน ทั้งเขาและเธอเห็นรถพิทยาแล่นมา รวีพรรณดีใจมาก รีบผลักภูวดลแล้ววิ่งไปที่รถพิทยาทันที
“พิท...ช่วยรวีด้วย!”
รถพิทยาจอด..พิทยากับสุอาภารีบลงจากรถ เขาเข้ามาหารวีพรรณแล้วพาให้ออกห่างภูวดล จังหวะนั้นรวีพรรณรีบเก็บมือถือภูวดลใส่กระเป๋าสะพายตัวเอง โดยที่ไม่มีคนเห็น สุอาภาเข้ามาประคองรวีพรรณเอาไว้
พิทยาหันไปมองภูวดลด้วยสายตากร้าว รวีพรรณรีบพูดต่อทันที
“คุณภูวดลจะทำร้ายรวี”
พิทยาโมโหมาก
“ฉันไม่ได้ทำอะไร! ผู้หญิงคนนั้นต่างหากที่เป็นคนทำ ถ้าแกไม่เชื่อ มือถือฉันอยู่ในกระเป๋านั่น เอาออกมาดูได้เลย”
“ไม่มีใครเชื่อที่คุณพูดหรอก ผมเห็นแก่คุณนายจันทร์จำนง ผมจะไม่เอาเรื่องคุณ แต่ถ้ามีครั้งหน้า เรื่องถึงตำรวจแน่”
ภูวดลอึ้ง พิทยาเดินไปที่รถ ทั้งสามคนขึ้นไปนั่งในรถ รวีพรรณหันไปมองภูวดลด้วยแววตาสะใจ ภูวดลได้แต่กำมือแน่นด้วยความแค้นมาก พิทยากลับรถแล้วก็ขับออกไปทันที ภูวดลเตะพื้นด้วยความหัวเสีย

ภายในโรงพยาบาล พยาบาลออกมาหาพิทยากับสุอาภาที่รอตรงหน้าผ้าม่านที่กั้นเตียง
“เรียบร้อยแล้วค่ะ”
“ขอบคุณครับ”
“นายเข้าไปหาคุณรวีเถอะ”
พิทยาเดินเข้าไปหารวีพรรณ ผ้าม่านปิดไม่สนิท สุอาภามองเห็นจากด้านนอก
“มันเกิดอะไรขึ้น ทำไมเค้าต้องทำร้ายคุณ”
“รวีต่อว่าเค้าเรื่องที่เค้าวางแผนทำให้คุณแตเสียชื่อเสียง รวีขอให้เค้าโทรไปแก้ข่าว แต่เค้าไม่ยอม เค้าโมโห พอเค้าทำอะไรไม่ได้ เค้าก็เลยทำร้ายรวี”
พิทยามองรวีพรรณที่แกล้งทำสะอื้นอย่างสงสารมาก สุอาภาเองก็ได้ยิน
“รวีอยากช่วยคุณแต ไม่อยากให้คุณแตต้องมามัวหมองเพราะข่าวที่ไม่เป็นความจริง รวีขอโทษที่รวีทำไม่สำเร็จ”
“ไม่ต้องขอโทษ ไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น คนชั่วอย่างนายภูวดล ซักวันต้องได้รับผลกรรมที่ตัวเองก่อเอาไว้ คราวหลังรวีอย่าทำแบบนี้อีก มันอันตรายมากนะครับ”
รวีพรรณพยักหน้าแล้วก็ร้องไห้ พิทยาได้แต่จับแขนรวีพรรณปลอบใจ สุอาภาเห็นภาพตรงหน้าก็ได้แต่เศร้าลงไปอีก

เวลากลางคืน ที่บ้าน .รวีพรรณกำลังดูคลิปที่ภูวดลถ่ายเธอกับนักข่าว แล้วก็ลบทิ้ง เธอมีสีหน้าร้ายกาจมาก

สุอาภานอนไม่หลับ คิดมากเรื่องพิทยากับรวีพรรณ ภาพที่เขามองรวีพรรณด้วยความเป็นห่วงที่โรงพยาบาลผุดขึ้นมา ยิ่งทำให้เธอนอนไม่หลับ จนต้องลุกขึ้นมานั่ง

สุอาภาเดินลงมา แล้วก็ชะงักเห็นพิทยายืนอยู่ที่บริเวณลานกำแพงอิฐหลังบ้าน สุอาภาก้มมองพิทยา เข้าใจว่า พิทยาคงเป็นห่วงรวีพรรณจนนอนไม่หลับ พิทยาถอนหายใจแล้วก็เงยหน้าเห็นสุอาภาพอดี สองคนมองหน้ากัน

สุอาภาเดินมายืนข้างพิทยา
“นอนไม่หลับเหรอ”
พิทยาพยักหน้า
“คุณก็นอนไม่หลับเหมือนกัน”
“เปล่า...ฉันจะลงมาเอาน้ำ นายคงเป็นห่วงคุณรวีมาก”
“ใช่ ผมเป็นห่วงรวีมาก”
สุอาภาใจแป้วลงทันทีที่ได้ยิน
“แต่อีกไม่นาน นายก็คงจะสบายใจได้ซักที เพราะคุณรวีจะไม่ต้องแต่งงานกับนายภูวดล ถ้าเวลานั้นมาถึงเมื่อไหร่ ฉันจะคืนอิสระให้นาย”
พิทยาอึ้ง สุอาภาพูดแล้วก็รู้สึกเจ็บจี๊ดที่หัวใจขึ้นมาทันใด
“เรื่องระหว่างผมกับรวี...เป็นไปไม่ได้อีกแล้ว”
สุอาภาอึ้งที่พิทยาพูดประโยคนี้ออกมา
“ถ้าเป็นเพราะคำสัญญาที่นายรับปากกับป๋าว่านายจะดูแลฉัน ฉันจะไปพูดกับป๋าให้เข้าใจ ฉันอยากเห็นนายมีความสุขกับคนที่นายรัก ไม่อยากเหนี่ยวรั้งนายเอาไว้ไปตลอดชีวิต”
“มันไม่ใช่เพราะคำสัญญาหรือหน้าที่”
สุอาภานิ่วหน้า พิทยาขยับมาใกล้ตรงหน้าสุอาภา
“มันเป็นเพราะผมอยากดูแลคุณ”
พิทยามองสุอาภาด้วยแววตาเต็มไปด้วยความรักที่มีต่อเธอ ทำเอาเธอพูดไม่ออก
พิทยารู้สึกตัวยิ้มแก้เก้อออกมา
“เอ้อ..คุณขึ้นไปนอนเถอะ ผมจะอยู่ตรงนี้อีกซักพัก”
สุอาภามองพิทยายังอึ้งไม่หาย รู้สึกสับสนมาก แล้วก็เดินออกไป
พิทยามองตามสุอาภาแล้วก็ยิ้มอย่างโล่งใจที่ได้พูดออกไป

ในเวลาเดียวกัน ที่บ้านภูวดล
ภูวดลเมากลับมาเดินชนข้าวของเสียงดัง ทันใดนั้นไฟในบ้านสว่าง...ภาสันต์กับศรีพิไลเดินออกมา ภาสันต์มองลูกชายด้วยความหัวเสีย แต่ภูวดลกลับยิ้มร่า
“ยังไม่นอนกันอีกเหรอครับ รอผมกลับบ้าน ผมไม่ตายง่ายๆหรอก (เดินไปตรงหน้าภาสันต์) ยังต้องอยู่ให้พ่อจิกหัวใช้ไปอีกนาน”
ภูวดลเดินไปตรงหน้า ภาสันต์หรี่ตามองภูวดลอย่างไม่พอใจ ศรีพิไลรีบเข้ามาห้าม
“ทำไมดื่มมากขนาดนี้ห๊ะ”
“ไม่ดื่มมากแล้วจะเมาได้ไงล่ะแม่”
ภาสันต์กระชากแขนภูวดลเข้ามา
“ปัญหาเก่ายังไม่ทันคลี่คลาย ก็คิดสร้างปัญหาใหม่อีกแล้วเหรอ”
ภูวดลปัดมือภาสันต์ออกทำหน้ากวน
“ถ้าไม่สร้างปัญหา แล้วจะใช่ลูกพ่อได้ไง ฮ่าๆๆ”
ศรีพิไลตกใจกับคำพูดของภูวดล ภาสันต์โมโหสุดๆ กระชากคอเสื้อภูวดลเข้ามาใกล้
“อย่าลืมว่าแกเป็นหุ้นส่วนกับฉัน ถ้าไม่นึกถึงหน้าตัวเอง ก็นึกถึงหน้าฉันไว้บ้าง อย่าให้ไอ้พิทยาหรือคนบ้านนั้นดูถูก หัดโตเป็นผู้ใหญ่ คิดอะไรเองได้แล้ว ไม่ใช่ต้องให้ฉันคอยจัดการทุกอย่าง”
ภูวดลโมโหบอก
“ผมก็ไม่เคยขอให้พ่อจัดการให้นี่”
ภาสันต์กำคอเสื้อภูวดลแน่นแล้วก็ผลักภูวดลออกไป ศรีพิไลรีบเข้ามาประคองลูกเอาไว้
ภาสันต์พูดกับศรีพิไล
“บอกลูกชายคุณให้มันเตรียมตัวสำหรับวันพรุ่งนี้”
ภาสันต์เดินออกไป ภูวดลหันไปมองศรีพิไลด้วยความสงสัย
“พรุ่งนี้อะไรแม่”
ศรีพิไลสีหน้าไม่สู้ดี

วันถัดมา ภายในห้องรับแขก รวีพรรณกำลังดูเครื่องเพชรชุดใหญ่ด้วยสีหน้าประหลาดใจ รมณี ณรงค์ และศรีพิไลนั่งอยู่ด้วย
“คุณน้าเอาเครื่องเพชรมาให้รวีทำไมคะ”
“น้าไม่ได้เป็นคนให้ แต่เป็นพ่อดล...แทนคำขอโทษที่เค้าทำตัวไม่น่ารักกับหนู”
รวีพรรณอึ้งชะงัก รมณีรีบเอาเครื่องเพชรขึ้นมาดูแววตาเป็นประกายอยากได้ แต่ทำฟอร์ม
“เครื่องเพชรชุดนี้ต้องไม่ต่ำกว่าล้าน ฉันว่ามันมากเกินไปสำหรับคำขอโทษ”
“มันไม่มากเกินไป เพราะอีกไม่นานเราก็ต้องเป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว”
“มันก็จริง...”
รวีพรรณตกใจ หันขวับไปมองรมณีเพราะนึกว่าเธอไม่ต้องแต่งงานกับภูวดลแล้ว
“คุณแม่คะ รวีขอคุยด้วยแป๊บนึงได้มั้ยคะ”
รมณี ณรงค์ และศรีพิไลแปลกใจ
รมณีหันไปทางศรีพิไลบอก
“ขอตัวซักครู่นะ”
ศรีพิไลพยักหน้า รมณีเดินออกไปกับรวีพรรณ

มุมหนึ่งในบ้าน รมณีหันมาทางรวีพรรณ
“นี่รวียังต้องแต่งงานกับคุณภูวดลอีกเหรอคะ”
“ก็ต้องแต่งสิ ทุกอย่างถูกเตรียมเอาไว้หมดแล้ว เหลือแค่รอวันแต่งเท่านั้น”
“แต่คุณแม่ก็เห็นว่าเค้าทำอะไรเอาไว้ ทำไมแม่ถึงยังอยากให้รวีแต่งงานกับคนเลวพรรค์นั้นอยู่อีก”
รมณีตกใจเพราะรวีเสียงดังมาก
“ชู่ว์!! เดี๋ยวศรีพิไลก็ได้ยินหรอก ไปเรียกพ่อดลเค้าแบบนั้นได้ยังไง เค้าไม่ได้เลว เค้าแค่หลงผิดชั่วครั้งชั่วคราว พอแต่งงานกันไปเค้าก็เลิกเองแหละ”
“คนสันดานแบบนั้น ไม่มีทางเลิกได้หรอกค่ะ”
“หยุดนะรวี!! แม่จะไม่มีวันยอมเสียหน้าเด็ดขาด เราต้องแต่งงานกับพ่อดล ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ทำใจให้ได้ซักที”
รมณีเดินออกไป รวีพรรณกำมือแน่นด้วยความโมโหสุดๆ

รมณีเดินยิ้มแย้มเข้ามาที่ห้องรับแขกอีกครั้ง รวีพรรณเดินหน้าบึ้งตามมาติดๆ
“มีปัญหาอะไรกันรึเปล่า”
“ไม่มีอะไรจ๊ะ รวีเค้าไม่สบายใจที่พ่อดลซื้อของราคาแพงแบบนี้มาให้ก็เลยอยากจะคืน”
รวีพรรณทำหน้าไม่ถูก ศรีพิไลยิ้มแล้วก็ลุกเดินมาหารวีพรรณ
“หนูรวีนี่ช่างน่ารักซะจริง น้าคิดไม่ผิดที่เลือกหนูมาเป็นสะใภ้”
รวีพรรณได้แต่ยิ้มเจื่อนออกมา รมณีกับณรงค์ยิ้มพอใจ
“ว่าแต่ทำไมพ่อดลถึงไม่มาด้วยล่ะครับ หรือว่ายังกลัวยัยรวีโกรธอยู่” ณรงค์ถาม
“ที่เค้าไม่มา เพราะกำลังเตรียมตัว...”
รมณี รวีพรรณ ณรงค์นิ่วหน้าอย่างแปลกใจ
“เตรียมตัวอะไร” รมณีบอก
ศรีพิไลยิ้ม รวีพรรณ รมณีกับณรงค์ยิ่งสงสัย

ภายในห้องแถลงข่าว ศรีพิไลเดินนำ รมณี รวีพรรณ ณรงค์เข้ามาภายในห้อง ทุกคนเห็นภาสันต์กับภูวดลยืนอยู่กับบรรดานักข่าวก็แปลกใจ
สองพ่อลูกหันมาทางรวีพรรณ พวกนักข่าวหันมามองตามพอ เห็นรวีพรรณรีบถ่ายรูป ศรีพิไลจับมือรวี
“ตามน้ามานี่จ๊ะ”

อ่านละคร แรงปรารถนา ตอนที่ 12/2 วันที่ 23 ม.ค. 56

ละครแรงปรารถนา บทประพันธ์โดย อาริตา
ละครแรงปรารถนา บทโทรทัศน์ : ปณธี
ละครแรงปรารถนา กำกับการแสดง : ยุทธนา ลอพันธ์ไพบูลย์
ละครแรงปรารถนา แนวละคร : โรแมนติก - ดราม่า
ละครแรงปรารถนาดำเนินงานสร้าง : บริษัทละครไท จำกัด โดย หทัยรัตน์ อมตวณิชย์
ละครแรงปรารถนา ออกอากาศ : ทุกวันศุกร์-อาทิตย์ เวลา 20.30 น. ช่อง 3 (ต่อจากเหนือเมฆ)
ที่มา manager