@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร ตะวันฉายในม่านเมฆ ตอนที่ 13/4 วันที่ 16 ม.ค. 56

อ่านละคร ตะวันฉายในม่านเมฆ ตอนที่ 13/4 วันที่ 16 ม.ค. 56

ตะวันฉายสวนทันที “รู้สึกอะไร?”
เมฆจะพูดว่าหวั่นไหวแต่ก็ไม่ยอมพูด “รู้สึกอะไรก็ช่าง มันเรื่องของผม”
“พอเถอะคุณเมฆ ต่อไปนี้เราต่างคนต่างอยู่ได้มั้ย ในเมื่อคุณบอกเองว่าไม่อยากเห็นฉัน งั้นก็ช่วยคิดว่าฉันเป็นอากาศ แล้วไม่ต้องมายุ่งกับฉันอีก เพราะฉันเองก็ไม่อยากยุ่งกับคุณเหมือนกัน”
ตะวันฉายพูดจบก็ผลักเมฆแล้วเดินออกไป
เมฆเปรย “คิดว่าเป็นอากาศเหรอ ใช่สิ ผมถึงขาดคุณไม่ได้ไง”
เมฆมองตามตะวันฉายอย่างจ๋อยๆ

วงของเมฆกำลังเล่นดนตรี เมฆแอบเหลือบมองตะวันฉาย ตะวันฉายค้อนใส่เมฆแล้วหันไปคุยเล่นยิ้มกับยุทธการอย่างร่าเริง เมฆหมั่นไส้จึงเล่นคีย์บอร์ดแรงขึ้นโดยเปลี่ยนเป็นเพลงเร็วและแรงแบบกะทันหัน นิคกับเอวามองหน้ากันเลิ่กลั่ก แล้วพยักหน้าส่งซิกให้กันก่อนจะปรับดนตรีตามเมฆ



เวลาผ่านไป ยุทธการเอากระดาษมาเขียน ตะวันฉายจะมองแต่ยุทธการไม่ให้ดูได้แต่ยิ้มให้เธอ แล้วเรียกพนักงานมารับกระดาษไปส่งให้วงเมฆ
“พี่ขอเพลงน่ะไม่มีอะไรหรอก” ยุทธการบอก
ตะวันฉายยิ้มรับ
วงเมฆเล่นจบ คนดูปรบมืออย่างชอบใจรวมทั้งยุทธการด้วย แต่ตะวันฉายแอบเบ้หน้าให้เมฆ
นิคพูดใส่ไมค์
“วันนี้ผมมีคุณตำรวจหล่อใส สไตล์เกาหลี เค้าจะขอขึ้นมาแจมกับเราซักเพลง” นิคผายมือไปทางยุทธการ “พี่ชายที่น่ารักของพวกเรา เชิญพี่ยุทธครับ”
ตะวันฉายมองยุทธการอย่างงๆ เพราะไม่รู้มาก่อน ยุทธการเดินขึ้นไปบนเวที นิคส่งกีต้าร์ของเขาให้
“ผมขออนุญาตร้องเพลงให้กับผู้หญิงคนหนึ่งนะครับ”
ยุทธการร้องเพลงจนจบ คนดูปรบมือ
“ที่จริงที่ผมร้องเพลงนี้ไม่ใช่แค่เพื่อบอกความรู้สึกที่ผมมีต่อเธอ แต่ผมอยากจะบอกเธอว่า.....ซัน แต่งงานกับพี่นะ”
เมฆ นิค เอวา และตะวันฉายอึ้งไป นิคกับเอวาสะกิดกันให้คอยแอบดูเมฆ เมฆยืนช็อค
คนดูทั้งเฮทั้งกรี๊ด และเป่าปากกันเฟี้ยวฟ้าว
ยุทธการคืนกีตาร์ให้นิค แล้วเดินผ่านเมฆลงเวทีกลับไปที่โต๊ะก่อนจะยื่นแหวนให้ตะวันฉาย ตะวันฉายเหลือบมองเมฆ พอเห็นตะวันฉายมองมาเมฆก็หันหน้าหนีทำเป็นเก็บโน้ตไม่สนใจ ตะวันฉายฉุนที่เมฆไม่สนใจเลยหันมายิ้มให้ยุทธการ
ตะวันฉายตัดสินใจถอดแหวนของเมฆออกพร้อมกับรับแหวนของยุทธการมาใส่แทน เมฆที่ทำเป็นไม่สนใจเห็นตะวันฉายถอดแหวนของตัวเองก็ชะงัก เขาเจ็บปวดมากจึงเดินลงจากเวทีไปท่ามกลางเสียงปรบมือของคนทั้งผับ
นิคแอบคุยกับเอวา
“นี่พี่ยุทธเขาทำอะไรของเขาอ่ะ”
นิคยักไหล่ “พี่ยุทธน่ะฉันว่าไม่ต้องสงสัย เขาก็ชัดเจนมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว วันนี้ซันมันไม่มีใครเขาก็ต้องจีบเป็นธรรมดา แต่ที่ฉันสงสัยคือไอ้ซัน”
“จริงด้วย ปกติซันมันรักคนยากจะตาย ทำไมวันนี้มันเร็วไปไหม เมื่อกลางวันยังไม่เห็นจะตอบอะไรพี่ยุทธ พอกลางคืนรับปากแต่งงานเฉยเลย”
“ไปถามมันกันดีกว่า ฉันก็อยากรู้ว่ามันคิดอะไร”
นิคกับเอวาเก็บของแล้วรีบลงจากเวทีไป

เมฆเดินเข้ามาในห้องพักนักดนตรี นักดนตรีอีกวงยิ้มให้แล้วเดินออกไปที่เวที เมฆถือสมุดโน้ตมาวางที่โต๊ะแล้วทรุดตัวลงนั่งด้วยความเศร้าใจ ยุทธการเปิดประตูเข้ามาเห็นเมฆ แต่เมฆไม่ทันได้สนใจ
“ขอโทษที่ไม่ได้บอกคุณเมฆก่อนครับ” ยุทธการพูด
เมฆสะดุ้ง “เอ่อ...อะไรนะครับ”
“ก็ที่วันนี้ผมขอซันแต่งงาน คุณเมฆไม่โกรธใช่ไหมครับ”
“ผมจะโกรธทำไมล่ะครับ”
“แสดงว่าคุณเมฆไม่ได้รักซันอย่างที่ซันว่า”
เมฆนิ่งไม่ตอบ
“งั้นคุณเมฆคงไม่ว่าอะไรถ้าผมกับซันจะแต่งงานกัน”
“เอ่อ...ครับ มันไม่เกี่ยวกับผมอยู่แล้ว”
“อย่าพูดขนาดนั้นสิครับ ยังไงคุณเมฆก็ต้องเกี่ยว เพราะผมนับคุณเป็นเพื่อนคนหนึ่งแล้ว”
“ขอบคุณครับ งั้นผมก็ขอแสดงความยินดีด้วยครับ”
“จะให้ดี ช่วยเล่นดนตรีในงานแต่งงานของเราได้ไหมครับ ผมอยากได้คุณเมฆ นิคแล้วก็เอวามาเล่น คนอื่นผมไม่เอาครับ ให้เกียรติเราสองคนด้วยนะครับ”
เมฆอึดอัดจนพูดไม่ออก

นิคกับเอวาลากตะวันฉายมาคุยที่มุมหนึ่งของลานจอดรถ
“ทั้งหมดนี่ คิดดีแล้วเหรอ” นิคถาม
“ดีไม่ดีก็ตอบไปแล้วอ่ะ” ตะวันฉายบอก
“ซัน ฉันว่าแกสิ้นคิดมากๆเลยว่ะ ถ้าแกรักพี่ยุทธฉันจะไม่ว่าเลย แต่นี่แกรักพี่เมฆ”
“ใครบอกล่ะ ความรักของฉันที่มีต่อเค้ามันหมดไปแล้ว ตอนนี้ฉันรู้แล้วว่า รักคนที่เค้ารักเราดีกว่า คนที่ฉันจะรักคือพี่ยุทธ ไม่ใช่นายเมฆอีกต่อไปแล้ว”
ตะวันฉายหันไปเห็นเมฆยืนอยู่เธอก็ชะงักทันทีเพราะยังแคร์ความรู้สึกเมฆอยู่
“ยินดีด้วยนะ” เมฆพูด
ตะวันฉายหยิบแหวนของเมฆจากกระเป๋ายัดใส่มือคืนให้เมฆ
“แหวนของคุณค่ะ มันคงไม่เหมาะกับฉัน คุณเก็บไว้ให้ผู้หญิงที่คนอยากแต่งงานด้วยจะดีกว่า”
เมฆรับแหวนมาจากมือตะวันฉายอย่างจ๋อยๆ
ตะวันฉายทนมองหน้าเมฆไม่ไหวเพราะรู้สึกปวดใจไม่แพ้กัน เธอเลยตัดใจเดินออกไปทันที นิคและเอวาทำตัวไม่ถูกจึงรีบผละออกไป เมฆมองตามตะวันฉายด้วยความเสียใจ

นิคกับเอวานั่งกินก๋วยเตี๋ยวอยู่ด้วยกัน เอวานั่งเหม่อไม่ยอมกิน
“ฉันมองไม่ออกเลยว่าสามคนนี้จะจบลงยังไง” เอวาเปรยขึ้น
“โห...ไอ้ซันคืนแหวนพี่เมฆ แล้วไปรับแหวนพี่ยุทธนี่ยังไม่เรียกว่าจบอีกเหรอวะ”
“แกว่ามันจะเป็นแบบนี้เหรอ ไอ้ซันมันจะมีความสุขกับคนที่มันรักแบบพี่ชายเนี่ยนะ แล้วพี่เมฆจะมีความสุขที่เสียไอ้ซันไปเหรอ ตลอดเวลาที่อยู่กันมาพี่ยุทธไม่เห็นความดีความน่ารักของเพื่อนเราบ้างรึไง”
“แกถามฉันแล้วฉันจะไปถามใครวะ”
เอวากินต่อไม่ลง นิคเลยคีบลูกชิ้นในชามเอวามากิน เอวารีบตีมือแต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร

เมฆเดินเข้ามาในห้องทำงานอย่างเศร้าๆ ขณะที่เสียงของอิงฟ้าดังก้องในความคิดของเขา
“ถ้าเมฆยังหลอกตัวเอง แล้วก็ทำร้ายคุณซันแบบนี้ ซักวันเมฆเองนั่นแหละที่ต้องจะเสียใจ”
เมฆหันไปทุบผนังแล้วทรุดลงร้องไห้ด้วยความเสียใจ
เขานึกถึงภาพตอนที่ยุทธการเดินไปยื่นแหวนให้ตะวันฉาย ตะวันฉายถอดแหวนเมฆแล้วใส่แหวนของยุทธการ

ตะวันฉายนั่งซึมที่เตียงนอนดูแหวนของยุทธการที่นิ้วตัวเอง
“ไอ้ซันเอ๊ย...แกทำบ้าอะไรลงไปเนี่ย”
ตะวันฉายนั่งนิ่งน้ำตาไหล ในขณะที่เมฆก็พิงตัวกับโซฟาแล้วน้ำตาก็ไหลออกมาเหมือนกัน

วันต่อมา นิค เอวา และตะวันฉายกำลังดูรูปไอเดียจัดงานแต่งงานกันอยู่ นิคกับเอวามีสีหน้าตื่นเต้น ทั้งสองหยิบรูปนั้นรูปนี้ที่กองอยู่บนโต๊ะขึ้นมาดู
“พี่เอารูปพวกนี้มาให้ซันดูเผื่อเป็นไอเดียงานแต่งของเรา ซันอยากได้งานสไตล์ไหน” ยุทธการถาม
“ซันก็ไม่รู้เหมือนกัน” ตะวันฉายตอบ
ยุทธการ ยิ้ม “ไม่เป็นไร งั้นเอาเรื่องดนตรีก่อน พี่อยากได้วงของพวกเราไปเล่น
“วงพวกเรานี่...พี่ยุทธหมายความว่าไงคะ”
“ก็คุณเมฆ นิค เอวาไง”
ตะวันฉาย นิค และเอวาแปลกใจกับสิ่งที่ได้ยิน
“เอ่อ...พี่ยุทธครับ แล้วพี่เมฆตอบตกลงแล้วเหรอครับ?” นิคถาม
“อ้าว คุณเมฆมาพอดี สงสัยได้คำตอบแล้ว”
ตะวันฉายตกใจ “นี่พี่ยุทธเรียกเขามาด้วยเหรอ”
เมฆเดินเข้ามาในร้านแล้วเดินมานั่งตรงข้ามตะวันฉาย ทั้งสองพยายามไม่มองหน้ากัน นิคกับเอวารู้สึกอึดอัดกับบรรยากาศที่เมฆกับตะวันฉายต่างมึนตึงใส่กัน
เอวาพูดขึ้น “พี่เมฆ...ตกลงพี่จะ”
เมฆรีบสวนขึ้น “ที่ผมมาวันนี้ก็อยากจะบอกคุณยุทธการว่าผมคงไม่เล่นดนตรีให้นะครับ ยังไงผมก็ขอแสดงความยินดีตรงนี้เลยแล้วกัน”
“ไม่เป็นไรครับผมเข้าใจ แต่ถ้าคุณเมฆอยากมาร่วมงานผมก็ยินดีนะครับ”
เมฆลุกขึ้นแล้วเดินไปโดยไม่สนใจตะวันฉาย ตะวันฉายมองตามหลังเมฆไปอย่างเศร้าๆ ยุทธการแอบมองตะวันฉายอย่างสังเกต

ยุทธการ นิค เอวานั่งคุยกันอยู่ในบ้าน โดยที่เอวากับนิคอารมณ์ไม่ดี
เอวาโมโห “พี่ยุทธ เอวาว่าพี่ยุทธทำเกินไปแล้วนะ นี่พี่แอบไปชวนพี่เมฆโดยไม่บอกพวกเรา ทำไมพี่ทำแบบนี้คะ”
“ใช่ครับ พี่ยุทธน่าจะให้พวกเราเป็นคนไปชวน พี่ทำเองมันทำร้ายจิตใจพี่เมฆมากเกินไป”
“ใจเย็นๆสิ ที่พี่ทำน่ะไม่ได้ทำร้ายใครหรอก พี่อยากจะช่วยมากกว่า” ยุทธการบอก
นิคกับเอวาพูดพร้อมกัน “ช่วยเหรอ?”
นิคและเอวามีสีหน้าครุ่นคิด ทั้งสองพยายามผูกเรื่องก่อนจะนึกขึ้นได้
“อ๋ออออ!!”
“ตกลงที่พี่ยุทธขอซันแต่งงาน มันเป็นเรื่องโกหกใช่มั้ย” เอวาถาม
“ใครบอก มันเป็นเรื่องจริง พี่แค่อยากให้ซันกับคุณเมฆเค้าเลิกหลอกตัวเองซักที แต่ถ้าถึงที่สุด คุณเมฆเค้ายังไม่คิดจะทำอะไรเพื่อให้ได้ซันกลับมา พี่อาจจะแต่งงานกับซันจริงๆก็ได้”
“แต่ลองพี่เมฆมาออกตัวแรงแสดงความยินดีซะขนาดนี้ พี่ยุทธยังคิดว่าพี่เมฆจะทำอะไรอีกเหรอครับ” นิคถาม
“ความรักมันไม่ได้เกิดจากการครอบครองอย่างเดียวนะนิค เอาไว้นิคคอยดูก็จะรู้เอง” ยุทธการบอก
เอวาถอนหายใจเอือมๆ
“พี่ยุทธนี่เป็นตำรวจในสายเลือดเลยนะคะ ขนาดนอกงานราชการก็ทำอย่างกับวางแผนล่อซื้อยาบ้า”
“ขอให้แผนของพี่ช่วยให้ซันกับคุณเมฆลงเอยกันได้ก็แล้วกัน แต่เราสองคนต้องช่วยพี่ด้วยนะ”
นิคกับเอวายิ้มให้กับยุทธการ

เมฆ นิค และเอวานั่งคุยกันที่ห้องรับแขกบ้านเมฆ
“ไม่ล่ะ ยังไงพี่ก็ไม่เล่นดนตรีในงานแต่งงานนี้” เมฆย้ำ
“ถ้าพี่เมฆไม่เล่นแล้วเราสองคนจะทำไงล่ะ” เอวาถาม
“พี่จอมไง หรือจะตามรุ่นน้องคนอื่นก็ได้เยอะแยะไป”
“โธ่...พี่เมฆ แต่มันเล่นไม่เข้ามือกันนะครับ แล้วอีกอย่างเวลาซ้อมก็แทบไม่มี เพราะพี่ยุทธเขาเร่งงานน่าดู” นิคบอก
เมฆทำฟอร์มนิ่ง “ทำไมล่ะ เขาจะแต่งวันนี้พรุ่งนี้เหรอ”
“ไม่ใช่ก็เหมือนใช่ครับพี่ เพราะซันมันอยากแต่งให้เร็วที่สุดก่อนผมไปนอก” นิคบอก
เมฆมีสีหน้าจ๋อยลงอย่างเห็นได้ชัด
“เดี๋ยวพี่ต้องไปคุยงานกับพี่จอม ยังไงคืนนี้ค่อยคุยอีกทีก็แล้วกัน”
เอวากับนิคมองตามไปแล้วขำ
“แผนพี่ยุทธท่าจะเวิร์คว่ะ” นิคเปรยกับเอวา

เมฆกับจอมสยามนั่งฟังเพลงเดโมอยู่ในห้องทำงานของจอมสยามด้วยกัน ในมือของจอมสยามมีเนื้อเพลงและเขาก็ร้องไปด้วย
จอมสยามร้อง “ชีวิตที่ถูกเธอทำร้ายทำลายมันพังไป จากนี้ต่อไปคงไม่มีฉันไม่มีเธอ”
เมฆเดินไปปิดเครื่องเสียงแล้วมานั่งหน้าเซ็งๆ
จอมสยามมองหน้าเมฆอย่างงงๆ เมฆก็ยังนั่งนิ่ง
จอมสยามแกล้งส่งเสียงดัง “เฮ้ย”
เมฆสะดุ้ง “เป็นไงครับพี่ โอเคไหมครับ”
“ไม่ ยังไงก็ไม่โอเค สองเพลงที่นายส่งมาทำนองมันสนุกแต่เนื้อมันทุกข์ระทมไปหรือเปล่าวะ ตอนที่เราวางคอนเซปต์กันนายบอกเองว่าจะนำเสนอมุมมองความสุขของความรัก สุขแม้ไม่ได้ครอบครอง แต่นี่มัน...”
เมฆสวนขึ้น “มันไม่มีจริงไงครับพี่จอม”
จอมสยามงง “ห๊า...”
“จนถึงวันนี้ ผมมองว่าความสุขจากความรักมันไม่มี มันมีแต่ความหลอกลวง ถ้าไม่ใช่เราถูกหลอก เราก็กำลังหลอกตัวเอง....หลอกว่าเขารักเรา”
เมฆพูดจบก็นิ่งเงียบ จอมสยามนิ่งมองเมฆอย่างงงๆ เขามองเนื้อเพลงในมือแล้วเกาหัว
“เฮ้ย...เมฆ ที่จริงไอ้ความคิดว่าความรักมันเป็นเรื่องหลอกตัวเองหลอกกันไปมาอะไรกันก็ดีนะ แต่พี่ว่าเราไปทำชุดหน้าไหม”
“ไม่ครับ ผมไม่อยากทำงานที่ผมไม่รู้สึก”
“เอาไงดีวะเนี่ย”
“ผมขอโทษครับ แต่พี่จอมพักโปรเจ็คท์ผมไปก่อนก็ได้ครับ”
“ได้ไงอ่ะ มากันครึ่งทางแล้ว” จอมสยามนึกได้ “เฮ้ย...เอางี้สิ ซันไง นายให้เขาดูหรือยัง ฉันว่าซันเขาต้องช่วยนายแต่งให้ออกมาดีได้แน่ๆ”
“ไม่ล่ะครับ จะไม่มีการแต่งเพลงระหว่างผมกับเขาอีก”
เมฆลุกจากเก้าอี้แล้วเดินออกไปจากห้องทันที
จอมสยามงง “อะไรของมันวะเนี่ย”
จอมสยามรีบลุกวิ่งไปที่ประตูแล้วตะโกนไล่หลังไป
“เฮ้ย...เมฆ จะทิ้งงานอย่างนี้เหรอ”

เมฆขับรถหน้าเครียดแล้วแวะจอดข้างถนน ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรออก
“เอ่อ...นิคเหรอ ตอนนี้ทำอะไรอยู่”
“อยู่บ้านซันครับ พี่เมฆมีอะไรเหรอครับ”
“เอ่อ...คือ...พี่มีธุระจะคุยน่ะ คือเมื่อเช้าพี่ว่าจะคุยแล้วลืม”
“อ้าว...งั้นเอาไงดีครับ คือผมจะไปร้านเวดดิ้งกับซันครับ เห็นซันชวนไปเลือกชุดเจ้าสาว เพราะพี่ยุทธไม่ว่าง พี่เมฆจะไปเจอไหมครับ”
“ฮึ...ไม่เอาดีกว่า”
“น่าจะมาช่วยกันเลือกนะครับ ผมดูไม่เป็นซะด้วย เอวาก็ดันไม่ว่างอีก แต่ถ้าพี่เมฆไม่อยากไปก็ไม่เป็นไร งั้นคุยกันคืนนี้ที่ผับแล้วกัน แค่นี้นะครับ”
“เฮ้ย...เดี๋ยวก่อน งั้นพี่ไปหาแกก็ได้”

นิคกดวางสาย โดยที่เอวายืนอยู่ใกล้ๆ
“เหยื่อติดเบ็ดเรียบร้อยแล้ว” นิคบอก
นิคกับเอวายิ้มเจ้าเล่ห์ให้กัน ตะวันฉายกับยุทธการเดินมาพอดี
“แกสองคนมาทำอะไรตรงนี้ ฉันกับพี่ยุทธจะไปแล้วนะ” ตะวันฉายบอก
“ซัน แกไปกับพี่ยุทธเถอะ ฉันสองคนมีธุระด่วนน่ะ พอดีบริษัทออร์กาไนซ์เขาจะเรียกไปคุยงาน”
“อ้าว...เหรอ” ตะวันฉายพูดกับยุทธการ “หรือเราจะเลื่อนไปวันอื่นดีคะ”

อ่านละคร ตะวันฉายในม่านเมฆ ตอนที่ 13/4 วันที่ 16 ม.ค. 56

ตะวันฉายในม่านเมฆ บทประพันธ์โดย ภาวิน
ตะวันฉายในม่านเมฆ บทโทรทัศน์โดย
กฤษณ์ มงคลเกษม,พิมพ์พชา รุ่งประพันธ์,วิวัฒน์ กฤษณาเวศน์
ตะวันฉายในม่านเมฆ กำกับการแสดงโดย ชาตโยดม หิรัณยัษฐิติ
ตะวันฉายในม่านเมฆ ดำเนินการผลิต ณัฐพงศ์ เหมือนประสิทธิ์เวช
ตะวันฉายในม่านเมฆ ผลิตโดย บริษัท เมคเกอร์ กรุ๊ป จำกัด
ที่มา manager