@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร แรงปรารถนา ตอนที่ 4/5 วันที่ 9 ม.ค. 56

อ่านละคร แรงปรารถนา ตอนที่ 4/5 วันที่ 9 ม.ค. 56

สุอาภาพยักหน้า พราวพิไลมองเพื่อนสงสัยแล้วก็เลยลองหยั่งเชิง
“แต่จะว่าไป การที่คุณรมณีไม่ยกคุณรวีพรรณให้พิท มันก็เข้าแผนแกเป๊ะ
ไอ้ที่อดทนทำเป็นเพื่อนแสนดีกับเค้ามาตลอด มันก็ไม่เสียเปล่า ในที่สุดก็สมหวัง แกน่าจะดีใจไม่ใช่เหรอ”
สุอาภานิ่งงันไป
“ฉันก็นึกว่าจะเป็นอย่างนั้น แต่พอเอาเข้าจริง เวลาฉันเห็นพิทเสียใจ ฉันกลับรู้สึกเสียใจยิ่งกว่า ฉันแย่มากที่ทำกับพิท ตอนนั้นฉันเอาแต่โมโหก็เลยทำอะไรลงไปโดยไม่คิด แล้วดูสิว่า ตอนนี้ทุกอย่างมันเลวร้ายไปหมดเพราะฉัน..ฉันคนเดียว”

สุอาภาพูดแล้วจะร้องไห้ พราวพิไลจับไหล่สุอาภา
“ที่แกเป็นแบบนี้ เพราะแกรักเค้าจริงๆใช่มั้ย”
สุอาภาอึ้ง เงียบไปชั่วอึดใจแล้วหันไปมองพราวพิไล
“ฉันไม่รู้ ฉันรู้แต่ว่า...ฉันอยากให้เค้าเป็นของฉัน อยากให้เค้าอยู่ใกล้ๆ อยากสัมผัสจับต้องตัวเค้า อยากเห็นเค้าตลอดเวลา นี่เรียกว่ารักรึเปล่าพราว”



“โธ่...แต”
พราวพิไลดึงสุอาภาที่หน้าเศร้าสุดๆเข้ามากอดด้วยความสงสาร

เวลากลางคืน ภายในห้องรับแขก ศรีพิไลกำลังโทรศัพท์สีหน้าดีใจ
“นี่เป็นข่าวดีที่สุด แล้วไว้หนูรวีกลับมา เราค่อยนัดเจอกัน”
ศรีพิไลหันไปเห็นภูวดลที่หัวเสียกลับเข้ามา ศรีพิไลแปลกใจ ลุกเดินมาหา
ภูวดลมาพร้อมกับกลิ่นเหล้าฉุนจนศรีพิไลต้องผงะ
“เพิ่งสี่ทุ่ม ทำไมกลับไวจังเลยล่ะลูก นี่ลูกดื่มหรืออาบมาเนี่ย”
ภูวดลหงุดหงิดบอก
“อุบัติเหตุนิดหน่อยครับแม่”
“อย่าเพิ่งอารมณ์เสียเลยนะลูกรัก แม่มีข่าวดีที่จะทำให้ลูกแฮปปี้”
ภูวดลหันไปมองแล้วถาม
“อะไรครับ”
“วันนี้ไอ้พิทยามันพาคุณนพไปสู่ขอหนูรวี”
ภูวดลฉุนกึก
“นี่นะครับเรื่องที่ทำให้ผมแฮปปี้”
“ฟังให้จบก่อนสิ รมณีไม่ยกหนูรวีให้มัน แถมยังตอกพวกมันกลับหน้าหงาย เรื่องที่ไอ้พิทยาแอบไปมีกิ๊กมีกั๊กกับนังสุอาภา นี่มันคงไม่กล้ามายุ่งกับหนูรวีอีกแล้ว แม่ล่ะสะใจจริงๆ แฮปปี้ขึ้นมั้ยล่ะจ๊ะลูกจ๋า”

ภูวดลยิ้ม รู้สึกดีขึ้นมาอย่างมาก...ก่อนจะนึกอะไรออก
วันต่อมา เสียงมือถือสุอาภาดังขึ้น สุอาภาเห็นเบอร์ไม่คุ้นก็แปลกใจ แต่ก็กดรับสาย ยังไม่ทันพูดอะไร เสียงปลายสายก็ดังออกมา

“สวัสดีครับคุณกระแต”
สุอาภาชะงัก สีหน้าไม่สบอารมณ์ขึ้นมาทันที
“คุณภูวดล”
ภูวดลยิ้มมุมปาก
“ดีใจจังที่คุณจำเสียงผมได้”
สุอาภาหน้าตึง
“โทร.มาทำไม”
“ผมโทรมาขอโทษเรื่องเมื่อคืน ผมเมาก็เลยพูดจาอะไรออกไปโดยไม่คิด”
“แค่นี้ใช่มั้ยที่จะโทรมา”
“เดี๋ยวก่อนสิครับ ยังมีอีกหนึ่งเรื่อง ขอแสดงความยินดีด้วยนะครับ”
สุอาภานิ่วหน้าถาม
“เรื่องอะไร”
ภูวดลเดินมาแต่งตัวหน้ากระจกภายในห้อง พลางคุยโทรศัพท์ไปด้วย
“ก็แผนของคุณที่ทำให้นายพิทยาไว้วางใจ แล้วก็ค่อยๆแทรกซึมทำลายความสัมพันธ์ของคุณพิทยากับคุณรวียังไงล่ะครับ ในที่สุดคุณก็ทำสำเร็จ”
สุอาภาเงียบ อึ้งไปเลย
“แสดงว่าผมพูดถูก...ถึงทำให้คุณพูดไม่ออก”
สุอาภาโมโหมาก ภูวดลหน้ากวน
“นี่ถ้าคุณพิทยารู้ เค้าจะโกรธคุณมากขนาดไหนน้า อาจจถึงขั้นขอไม่มองหน้าคุณอีกเลยตลอดชีวิต”
สุอาภาตกใจ
“อย่านะ”
ภูวดลยิ้มพอใจ
“กลัวเหรอ”
สุอาภาทำใจดีสู้เสือ
“ไม่ได้กลัว เพราะยังไงพิทก็ไม่มีทางเชื่อคุณ!”
“ถึงจะไม่เชื่อ แต่มันก็ต้องมีลังเลกันบ้าง จะลองดูมั้ยล่ะ”
สุอาภาเริ่มกลัว
“อย่านะ!”
ภูวดลยิ้มพอใจ
“ฉันต้องทำยังไง คุณถึงจะไม่บอกพิท”
ภูวดลหน้าเจ้าเล่ห์ร้ายกาจ

บรรยากาศปาร์ตี้ซัมเมอร์ริมสระว่ายน้ำในร้านอาหารกึ่งผับ ผู้คนมากมายกำลังเล่นกันอย่างสนุกสนาน
สุอาภาเดินเข้ามาแล้วมองไปรอบๆ สีหน้าหวาดระแวง ไม่นานภูวดลเดินมาหาสุอาภา
“ขอบคุณนะครับที่ให้เกียรติมางานปาร์ตี้ของผม”
“คุณก็รู้ว่าฉันไม่ได้เต็มใจมา เพราะฉะนั้นไม่ต้องมาขอบคุณ”
สุอาภาจะเดินเข้าไป ภูวดลจับแขนสุอาภาเอาไว้ เธอหันขวับ
“เดี๋ยว...ผมว่าคุณใส่ชุดนี้ไม่เหมาะนัก”
สุอาภาก้มมองตัวเอง แล้วก็เงยหน้ามองภูวดลแปลกใจ

สุอาภาในชุดดูเซ็กซี่ในธีมซัมเมอร์เดินออกมา ภูวดลมองด้วยสายตาโลมเลียจนเธอรู้สึกได้ ถึงกับกลัวขึ้นมานิดๆ
“คุณเป็นคนสวยจริงๆนะครับคุณสุอาภา น่าเสียดายที่ความสวยของคุณ ยังไม่มีใครได้เชยชม”
ภูวดลจับปลายผมเธอขึ้นมาจะหอม ยิ่งทำให้เธอขยะแขยงรีบผละออกห่าง แต่เขาจับแขนสุอาภาแล้วดึงมาประชิดตัว
“จะทำอะไร”
“ไม่ต้องกลัวว่าผมจะปล้ำคุณ คนอย่างผม...ไม่ชอบฝืนใจใคร แต่คุณอย่าลืมว่าวันนี้เป็นวันของผม คุณต้องทำให้ผมพอใจ ไม่อย่างนั้นข้อตกลงของเราก็สูญเปล่า”
สุอาภาหัวเสียแต่ไม่กล้าทำอะไร ภูวดลยิ้มแบบถือไพ่เหนือกว่า แล้วก็ผลักสุอาภาตกสระว่ายน้ำโดยที่ไม่ทันตั้งตัว สุอาภาพรวดขึ้นมาด้วยความตกใจแทบสำลักน้ำ
ภูวดลหัวเราะสะใจ แล้วก็กระโดดน้ำตามลงไปว่ายน้ำใกล้ๆ สุอาภาฝืนใจมาก ภูวดลสีหน้าพอใจแล้วก็ลอบมองไปที่ผู้ชายคนหนึ่งที่ยกกล้องถ่ายรูปขึ้นมา...สีหน้าเจ้าเล่ห์มีแผนการ

มุมหนึ่งภายในผับ เวลาต่อมา สุอาภาใส่เสื้อผ้าชุดเดิมแล้วเอาชุดที่ภูวดลให้มาคืน
“หวังว่าคงจะทำตามที่ตกลงกันเอาไว้”
ภูวดลไม่ตอบ สุอาภาจ้ำเดินออกไป ไม่นานผู้ชายคนที่ยกกล้องขึ้นถ่ายรูปเดินมาหาภูวดล พร้อมกับยื่นกล้องถ่ายรูปให้ ภูวดลรับมากดเปิดดูด้วยสีหน้าพอใจมาก

พิทยากำลังทำงาน...เสียงเมสเสจดังขึ้น เขาหยิบมือถือเห็นเป็นคลิปเสียงเลยกดเปิดฟัง...เสียงบทสนทนาระหว่างภูวดลกับสุอาภาดังออกมา
“ผมโทรมาแสดงความยินดี”
“เรื่องอะไร”
“ก็แผนการของคุณที่ทำให้นายพิทยาไว้วางใจ แล้วก็ค่อยๆแทรกซึมทำลายความสัมพันธ์ของคุณพิทยากับคุณรวียังไงล่ะ ในที่สุดคุณก็ทำสำเร็จ... แสดงว่าผมพูดถูก...ถึงทำให้คุณพูดไม่ออก... นี่ถ้าคุณพิทยารู้ เค้าจะโกรธคุณมากขนาดไหนน้า อาจจะถึงขั้นขอไม่มองหน้าคุณอีกเลยตลอดชีวิต”
“อย่านะ”
“กลัวเหรอ”
“ไม่ได้กลัว เพราะยังไงพิทก็ไม่มีทางเชื่อคุณ”
“ถึงจะไม่เชื่อ แต่มันก็ต้องมีลังเลกันบ้าง จะลองดูมั้ยล่ะ”
“ฉันต้องทำยังไง คุณถึงจะไม่บอกพิท”
พิทยาอึ้ง ตะลึงงัน เหมือนโดนตีแสกหน้าอย่างแรง! แล้วไม่นานเสียงเมสเสจก็ดังขึ้นมาอีกครั้ง เขากดเปิดเป็นภาพที่สุอาภาไปปาร์ตี้กับภูวดล ยิ่งคอนเฟิร์มชัดว่า บทสนทนานั้นเป็นเรื่องจริง แล้วเสียงมือถือพิทยาก็ดังขึ้น
“ฮัลโหล”
“เสียงและภาพชัดเจนดีมั้ย แกนี่มันน่าสงสาร สูญเสียคนรัก แถมยังถูกคนที่ไว้ใจหลอกซะจนเชื่อสนิท แบบนี้เค้าเรียกว่าโง่รึเปล่านะ ฮ่าๆๆๆ”
พิทยากำมือแน่นด้วยความโกรธและแค้นมาก

ภูวดลวางสาย...สีหน้าพึงพอใจสุดๆ มีความสุขมากมายที่ได้ทำลายพิทยากับสุอาภาไปพร้อมๆ กัน
พิทยาวางมือถือลงบนโต๊ะด้วยมือที่สั่นเทา ไม่นานสุอาภาเปิดประตูเดินเข้ามา เธอไม่รู้เรื่องที่เขารู้แล้ว

“โทษนะพิทที่ฉันมาเลท เมื่อคืนไอ้พราวมันลากฉันให้ไปเที่ยวเป็นเพื่อนมัน ก็เลยตื่นสาย”
พิทยาเลือดขึ้นหน้าลุกขึ้นมายืน
“เลิกโกหกซักที!”
สุอาภาสะดุ้งตกใจ
“ผมรู้ความจริงทุกอย่างหมดแล้ว”
พิทยาเปิดคลิปเสียงภูวดลกับสุอาภา เธอแทบช็อก รีบปิดทันที
“นายอย่าเชื่อที่ผู้ชายคนนั้นพูด ฉันไม่ได้ทำ...”
พิทยาพูดสวนขึ้นมาทันที
“ถ้าคุณไม่ได้ทำ แล้วคุณออกไปกับเค้าทำไม! แสดงว่ามันเป็นความจริง คุณไม่เคยหยุดคิดที่จะทำให้ผมกับรวีเลิกกัน คุณเจตนาจะทำลายเราสองคนมาตลอด คุณหลอกลวงผมด้วยคำพูด คุณทำดีกับผมเพราะคุณเสแสร้งแกล้งทำ!”
สุอาภาหน้าซีด สีหน้าแย่ แก้ตัวไม่ถูกและรู้สึกโมโหที่โดนภูวดลหักหลัง
“นายฟังฉันก่อน”
“ผมจะไม่ฟังคุณอีกแล้วสุอาภา! คุณทำลายความไว้ใจที่ผมมีให้คุณจนหมดสิ้น จิตใจคุณทำด้วยอะไร มีความสุขมากใช่มั้ยที่เห็นผมกับรวีมีปัญหากัน คนอย่างคุณเคยรู้สึกอะไรกับใครเค้ามั่ง คุณมันเป็นคนไม่มีหัวใจ !”
สุอาภาสะดุ้ง หน้าชากับถ้อยคำของพิทยา
ที่หน้าห้อง กรองทิพย์กับปวีณาได้ยินเสียงก็มองหน้ากันด้วยความตกใจ
“นั่นเสียงคุณพิทยา” ปวีณาบอก
“กับคุณสุอาภา ท่าทางไม่ค่อยดีแล้ว แป๋วรีบไปตามคุณนพกับคุณใหญ่มาเถอะ”
ปวีณาพยักหน้าแล้วก็รีบออกไป กรองทิพย์หันไปมองที่ประตูห้องพิทยาด้วยสีหน้าเป็นห่วงและกังวลมาก ภายในห้องสุอาภาพยายามจะอธิบาย พิทยายิ่งโมโห..กำมือแน่น
“ฉันยอมรับว่าทุกอย่างที่นายพูดคือความจริง แต่พอฉันทำลงไปแล้ว ฉันก็รู้สึกผิดจริงๆ ฉันขอโทษ”
“คำขอโทษของคุณไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้น พอกันที ผมจะไม่ขอพบเจอหน้าคุณอีก”
สุอาภาใจแทบสลาย พิทยาเดินไปเปิดประตู กรองทิพย์สะดุ้งโหยง แล้วเขาก็จ้ำเดินออกไป สุอาภาหันขวับไปมองตาม
“พิท...เดี๋ยวก่อนพิท”
สุอาภารีบเดินตามพิทยา กรองทิพย์งงมากว่าเกิดอะไรขึ้น

พิทยาเข้ามาในลิฟท์ กดเลขชั้นและกดปิด แต่สุอาภาแทรกตัวเข้ามาในลิฟท์ในทันที ประตูลิฟท์ปิดพอดี เขาผงะจะกดชั้นอื่นเพื่อออกไป แต่เธอยืนขวางไว้แล้วหันไปกดลิฟท์ให้หยุด!
พิทยาในแววตากร้าวจ้องหน้าสุอาภา ทำเอาเธอใจสั่นแต่พยายามไม่หลบตา
“ออกไป! ก่อนที่ผมจะอดใจไม่ไหว แล้วทำอะไรลงไป”
“นายจะตบตีฉัน จะฆ่าฉันให้ตาย ฉันก็ยอม แต่อย่ามาพูดว่าจะไม่ขอเจอหน้าฉันอีก! ฉันรู้ว่าฉันมันเลวมากในสายตาของนาย แต่ครั้งนี้ ฉันสำนึกแล้วจริงๆ ฉันขอโทษสำหรับทุกสิ่งทุกอย่างที่ฉันทำลงไป”
สุอาภาพูดด้วยความเสียใจและเจ็บปวด พิทยายืนมองสุอาภานิ่ง
ลิฟท์ด้านนอก นพ บวร ปวีณา กรองทิพย์ยืนอยู่ด้วยกัน เห็นเลขชั้นหยุดนิ่งไม่เคลื่อนไหว
“ลิฟท์หยุดตรงที่ชั้นนี้หลายนาทีแล้วค่ะ”
กรองทิพย์บอก นพกับบวรมีสีหน้ากังวลใจ
“ตามรปภ.มาเปิดลิฟท์” นพบอก
“ครับ” บวรรับคำ
บวรรีบออกไป นพมีสีหน้าหนักใจ ปวีณากับกรองทิพย์มองหน้ากันเป็นห่วง ภายในลิฟท์ พิทยากับสุอาภายังคงจ้องหน้ากัน สายตาสุอาภาเว้าวอนและขอร้องมากๆ
“หลีกไป...”
สุอาภาส่ายหัว
“ไม่ ฉันจะไม่ออกไป จนกว่านายจะยกโทษให้ฉัน!”
“ผมบอกให้หลีก”
“ไม่ !”
พิทยาโมโหมากกระชากไหล่สุอาภาเข้ามาจ้องหน้าด้วยความโกรธแค้นจนเธออึ้งไป
“ชีวิตผมต้องมาวอดวายเพราะคุณ! แล้วคิดว่าคำพูดแค่ไม่กี่คำ จะทำให้ผมอภัยให้คุณได้งั้นเหรอ ผมไม่ใช่พระอิฐพระปูนที่จะไม่รู้สึกอะไรเลย คุณสร้างรอยแผลลึกให้กับผมแล้ว ต่อให้มันหายเจ็บ มันก็มีแผลเป็น ไว้เตือนให้ผมรู้ว่ารอยแผลนี้มันได้มายังไง”
สุอาภาน้ำตารื้นด้วยความปวดร้าว จนแทบจะทรงตัวยืนต่อไปไม่ไหว
“จำไว้นะสุอาภา...คุณเป็นมารชีวิตของผม ผมเกลียดคุณ เกลียดยิ่งกว่าคนทุกคนที่ผมเคยเกลียด”
สุอาภาน้ำตาไหลอาบแก้มด้วยหัวใจที่แหลกสลาย
“คุณทำให้ผมสูญเสียคนที่ผมรัก แล้วคุณยังทำให้ผมกลายเป็นคนอกตัญญูที่ไม่สามารถอยู่ทดแทนบุญคุณของคนที่เลี้ยงผมมาได้อีก”
พิทยากระแทกสุอาภาจนหลังชนกำแพงข้างลิฟท์เสียงดังปัง!!
สุอาภาอึ้งถาม
“นายหมายความว่ายังไง นายคิดจะทำอะไร”
พิทยาไม่ตอบ
“อย่ามายุ่งเกี่ยวกับผมอีก เพราะผมไม่รู้ว่าผมจะระงับโทสะได้ดีแค่ไหน”
พูดจบ..ประตูลิฟท์เปิด พิทยาหันไปเห็นรปภ.เป็นคนเปิดประตู นพกับบวร ปวีณากับกรองทิพย์ ทุกคนอึ้งกับภาพที่เห็น พิทยาพอเห็นนพก็ได้สติ...ปล่อยสุอาภา
“มันเกิดอะไรขึ้น”
สุอาภากับพิทยาสงบนิ่ง

ภายในห้องทำงานของนพ เขาวางมือถือพิทยาลงบนโต๊ะ หลังจากที่ได้ยินเสียงและเห็นภาพ
“การที่นายภูวดลทำแบบนี้เพราะต้องการให้เธอกับยัยแตมีปัญหากัน”
“ผมทราบถึงจุดประสงค์ของเค้า และผมก็ไม่ได้คล้อยตามในสิ่งที่เค้าทำ แต่ประเด็นสำคัญมันอยู่ที่ว่าคุณแตตั้งใจทำให้ผมกับรวีเลิกกันจริงๆ และสิ่งนี้ทำให้ผมไม่สามารถอภัยให้คุณแตได้อีก”
นพนิ่งงันอย่างรู้สึกผิดแทนลูกสาวตัวเอง
“แล้วถ้าฉันจะขอโทษเธอแทนยัยแต”
“ไม่ครับคุณอา...คนที่ก่อเรื่องนี้คือคุณแต”
“แต่น้องก็สำนึกผิดแล้ว และถ้าหนูรวีกลับมา อาจะเป็นคนพายัยแตไปขอโทษหนูรวีด้วยตัวเอง และจะอธิบายทุกอย่างให้หนูรวีฟัง อามั่นใจว่าหนูรวีจะต้องเชื่อคำพูดของอา”
“ทุกอย่างมันสายไปแล้วครับ ต่อให้รวีเชื่อ แต่คุณรมณีกับคุณณรงค์ได้หมดความเชื่อถือในตัวผมไปแล้ว”
“หมายความว่า เธอจะไม่มีวันอภัยให้ลูกสาวฉัน”
พิทยานิ่งเงียบ นพมองพิทยาด้วยความเครียด
สุอาภาสีหน้าหน้าเศร้ามาก มีบวรนั่งอยู่ข้างๆคอยปลอบใจและมองด้วยความสงสาร
“พิทเกลียดแตแล้วพี่ใหญ่ ตอนนี้แตรู้สึกเหมือนมีเข็มนับร้อยทิ่มเข้ามาที่ตัวและหัวใจจนมันปวดร้าวไปหมด”
สุอาภาน้ำตาไหล บวรเข้ามาโอบสุอาภาให้กำลังใจ
“เค้าทำเหมือนแตเป็นตัวอะไรซักตัวที่ไม่มีค่า เค้าว่าแตเป็นมาร ซึ่งมันก็จริงอย่างที่เค้าพูด แตมันนิสัยไม่ดี เห็นแก่ตัว เลว ชั่ว”
“หยุดได้แล้วแต! แตจะว่าตัวเองให้รู้สึกแย่ไปมากกว่านี้อีกทำไม”
“ถ้าพิทตบแตซักฉาด แตก็คงไม่เจ็บเท่านี้หรอกพี่ใหญ่”
สุอาภาซบไหล่บวรร้องไห้ บวรได้แต่ตบบ่าน้องเบาๆแล้วถอนหายใจออกมา
นพเปิดประตูเข้ามา สุอาภากับบวรหันไปมอง
“พิทว่าไงป๋า”
นพเดินหน้าเครียดเข้ามา
“พิทขอลาออก”
สุอาภาช็อกไปเลยแล้วก็ลุกขึ้น
“แตจะไปพูดกับพิท”
นพรีบห้าม
“อย่าแต ตอนนี้พิทกำลังร้อนเหมือนไฟ ส่วนลูกก็เหมือนน้ำมัน อย่าไปเติมเชื้อไฟให้มันลุกลามใหญ่โตไปมากกว่านี้อีกเลย”

สุอาภาเศร้าสุดๆ นพได้แต่จับแขนปลอบใจลูกสาว
พิทยาเดินหน้าเศร้าเข้ามาในห้องนอน..พลันเหลือบไปเห็นรูปคู่ตัวเองกับสุอาภาสมัยมัธยม จึงหยิบขึ้นมามองหน้าสุอาภาด้วยความโมโหมาก

พิทยาเงื้อรูปขึ้นมาจะปาทิ้งลงพื้น แต่แล้วก็ชะงักลังเล...ก่อนจะตัดสินใจเก็บใส่ลิ้นชัก ไม่อยากเห็นมันอีก

ขณะเดียวกันสุอาภาหยิบรูปวาดการ์ตูนเด็กชายกับเด็กหญิงที่มีชื่อพิทกับแตที่เคยฉีกออกครึ่งหนึ่งไปขึ้นมาดู แล้วก็ตัดสินใจเอาสก๊อตเทปมาปะให้มันกลับมาคู่กันเหมือนเดิม เธอมองภาพการ์ตูนเด็กชายเด็กหญิงแล้วก็คิดย้อนกลับไปตอนสมัยเด็กๆ
นึกถึงตอนที่พิทยากล่อมให้สุอาภานอน , ภาพเด็กสองคนวิ่งไล่จับกัน, เด็กสองคนมายืนหลบฝนใต้ต้นไม้ใหญ่ พิทยาเอาผ้าเช็ดหน้าออกมาเช็ดน้ำที่เปียกหน้าให้สุอาภา สองคนผลัดกันเช็ดหน้า สุอาภาหนาวสั่น พิทยากอดสุอาภาให้หายหนาว
สุอาภาเอามือลูบไปที่ตัวการ์ตูนพิทยา แววตาเศร้ามาก แล้วก็นึกต่อ...ถึงตอนที่สุอาภาไปไซต์งานกับพิทยา ,ตอนที่ไปกินข้าวด้วยกันที่ริมถนน , ตอนที่ไปชุมชนริมน้ำ, ตอนที่ทำงานประกอบบ้านโมเดลด้วยกัน
สุอาภาเอารูปขึ้นมากอดแนบอก..น้ำตาไหลด้วยความเสียใจอย่างที่สุด

ภายในห้องรับแขก เวลากลางคืน ณีเดินลงมาพร้อมถาดอาหารเช้า นพ บวร วรรณวดีเข้าไปดู
“ไม่ทานซักคำเลยเหรอคะป้า” วรรณวดีถาม
“ค่ะ บอกว่าไม่หิว ไม่อยากทาน ขออยู่คนเดียว ตั้งแต่ป้าเข้ามาทำงานที่นี่ ไม่เคยเห็นคุณหนูเศร้าขนาดนี้เลยนะคะ” พูดแล้วน้ำตาณีทำท่าจะไหล
นพ บวร วรรณวดีมองหน้ากันพลางถอนหายใจ
“สภาพจิตใจแตตอนนี้บอบช้ำมาก ใครก็ช่วยไม่ได้ นอกจากตัวเอง”
“แล้วแตต้องเป็นแบบนี้ไปอีกกี่วันล่ะคะป๋า ถ้าเกิดน้องไม่ดีขึ้น เราจะทำยังไง”
วรรณวดีรับถาดมาจากณีแล้วบอก
“ต่ายจัดการเองค่ะ”
วรรณวดีเดินออกไป ทุกคนมองตามอย่างเป็นห่วง

วรรณวดีเข้ามาในห้องเห็นสุอาภายังนอนอยู่บนเตียง
“แตบอกแล้วไงว่าแตไม่อยากกิน”
“ไม่อยากกินก็ต้องกิน”
สุอาภาหันขวับไปเห็นพี่สาวยืนอยู่ก็ลุกขึ้นนั่ง วรรณวดีเดินเอาถาดมาวางบนโต๊ะข้างเตียงแล้วก็นั่งบนเตียงข้างสุอาภา
“พี่รู้ว่าแตเสียใจ แต่แตจะมาประชดตัวเองด้วยการไม่ทานอะไรแบบนี้ไม่ได้ ชีวิตมันต้องดำเนินต่อไป แตมีป๋า มีพี่ใหญ่ มีพี่...ที่อยู่เคียงข้าง ไม่ว่าแตจะทำผิดซักแค่ไหน แตก็ยังเป็นน้องสาวของพี่เป็นลูกของป๋า พี่มีน้องสาวเพียงคนเดียว และพี่จะไม่มีวันยอมให้น้องสาวพี่ต้องเป็นอะไรเด็ดขาด”
สุอาภาอึ้งกับคำพูดของพี่สาวจนน้ำตาแทบร่วง วรรณวดีหันไปหยิบชามข้าวต้ม ตักข้าวต้มขึ้นมายื่นไปตรงหน้า สุอาภากินข้าวต้มทั้งน้ำตา วรรณวดีเช็ดน้ำตาให้น้องสาวแล้วตัวเองก็ร้องไห้ออกมาเช่นกัน

เช้าวันต่อมา ภายในห้องทำงาน พิทยากำลังเก็บของ โดยมีปวีณากับกรองทิพย์ช่วยเก็บ
“งานสมัยนี้ไม่ได้หากันง่ายๆนะคะคุณพิท คุณจะออกไปเตะฝุ่นเหรอไงคะ”
พิทยานิ่งไม่ตอบ กรองทิพย์หันไปตวัดสายตามองค้อนปวีณาไม่ให้พูด
“เธอก็พูดเกินไป คนเก่งอย่างคุณพิท ไม่นานก็ต้องได้งานทำ พี่จะเอาใจช่วยนะคะ”
“ขอบคุณครับ”
ปวีณาหงุดหงิดสุดทน
“แป๋วขอถามอะไรอีกอย่างนะคะ มันคาใจ เพราะคุณสุอาภาใช่มั้ยคะ ถึงทำให้คุณพิทลาออก”
พิทยาชะงัก กรองทิพย์ตกใจที่ปวีณากล้าถาม
“พี่กับแป๋วขอตัวซักครู่นะคะ”
กรองทิพย์ลากปวีณาออกไปจากห้อง พิทยานิ่งไปซักพักแล้วก็ก้มหน้าก้มตาเก็บของต่อ

ภายในห้องชงกาแฟ กรองทิพย์ตีแขนปวีณาเพียะ!! จนเธอสะดุ้งลูบแขนด้วยความเจ็บ
“โอ๊ย...พี่ทิพย์ตีแป๋วทำไม”
“ยังมีหน้ามาสงสัยอีก เธอไปถามคุณพิทเค้าแบบนั้นได้ยังไง”
“ก็มันจริงนี่พี่ทิพย์ แป๋วคิดแล้วไม่มีผิด สงสัยตั้งแต่มาขอฝึกงานแล้ว นี่คงป่วนจนคุณพิททนไม่ไหวก็เลยต้องลาออก นิสัยเสียจริงๆ”
ปวีณาหัวเสียแล้วกรองทิพย์ก็หันไปเห็นบวรยืนอยู่ กรองทิพย์ตกใจมาก
“คุณใหญ่!”
ปวีณาหันไปเห็นบวรก็หน้าเสีย บวรได้ยินทุกอย่างแล้วเดินเข้ามา

อ่านละคร แรงปรารถนา ตอนที่ 4/5 วันที่ 9 ม.ค. 56

ละครแรงปรารถนา บทประพันธ์โดย อาริตา
ละครแรงปรารถนา บทโทรทัศน์ : ปณธี
ละครแรงปรารถนา กำกับการแสดง : ยุทธนา ลอพันธ์ไพบูลย์
ละครแรงปรารถนา แนวละคร : โรแมนติก - ดราม่า
ละครแรงปรารถนาดำเนินงานสร้าง : บริษัทละครไท จำกัด โดย หทัยรัตน์ อมตวณิชย์
ละครแรงปรารถนา ออกอากาศ : ทุกวันศุกร์-อาทิตย์ เวลา 20.30 น. ช่อง 3 (ต่อจากเหนือเมฆ)
ที่มา manager