@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร มณีสวาท ตอนที่ 2 วันที่ 27 ม.ค. 56

อ่านละคร มณีสวาท ตอนที่ 2 วันที่ 27 ม.ค. 56

สุบรรณได้รับอนุญาตให้กลับบ้านในเช้าวัน ถัดมา นาถสุดาอาสาขับรถให้ โดยแวะที่บ้านเธอก่อนตามคำขอของพ่อที่อยากเจอญาติหนุ่ม สุบรรณชัก สีหน้าไม่พอใจแต่ไม่กล้าขัดญาติสาวเพราะรู้ว่าเธอจะไม่สบายใจ พันเอกนรินทร์ยื่นเชือกกล้วยที่ลงคาถาแล้วให้หลานชายทันทีที่เห็นหน้า

“เชือกกล้วยลงน้ำมัน ป้องกันอันตรายจากสิ่งชั่วร้าย โดยเฉพาะจากงู”

สุบรรณมองเชือกในมืองงๆ พันเอกนรินทร์รู้ว่าหลานชายคงไม่เชื่อง่ายๆเลยแกล้งบอกว่าปีเกิดเขาชงกับปีนี้ซึ่งเป็นปีงู ต้องสวมสร้อยเพื่อแก้เคล็ด อดีตนายทหารดึงเชือกในมือหลานชายมาคล้องคอให้และพูดเสียงอ่อน



“อารู้...คนรุ่นใหม่อย่างเธออาจจะไม่เชื่อ แต่เรื่องพวกนี้ ไม่เชื่อก็อย่าลบหลู่”

สุบรรณนิ่งเงียบไม่ตอบ...แต่ในใจคิดไปแล้วว่าเป็นเรื่องไร้สาระสิ้นดี!

เพราะเหตุการณ์ประหลาดที่ทำให้เขาเกือบจมน้ำ ทำให้สุบรรณครุ่นคิดเรื่องที่พันเอกนรินทร์พูดทิ้งท้ายไว้ตลอดเช้า อำนาจรับหน้าที่ขับรถให้เหมือนเคย มองสร้อยที่คอเจ้านายหนุ่มด้วยสายตาแปลกใจ ไม่คิดว่าชายหนุ่มจะสวมไว้และพันเอกนรินทร์จะมีความรู้ด้านไสยศาสตร์ สุบรรณถอดสร้อยวางไว้ในรถและสั่งให้มือขวาคนสนิทพาไปเฮือนภูจำปา...วันนี้เขาต้องตามหาตัวเจ้าอุรคาให้เจอ... เกิดอะไรกับเขากันแน่ที่ร้านอาหารริมน้ำนั่น

ชรายุออกมาต้อนรับสุบรรณกับอำนาจด้วยสีหน้าไม่รับแขก มือขวาคนสนิทชักสีหน้าไม่พอใจเมื่อเห็นท่าทางมึนตึงของสาวใช้บอกว่าเจ้าอุรคาไม่อยู่ สุบรรณยืนยันจะรอ ชรายุไม่ห้าม บอกให้รอที่ด้านนอกแล้วหมุนตัวกลับขึ้นเฮือน อำนาจจะตามไปเอาเรื่องเพราะเคืองแทนเจ้านาย สุบรรณยกมือห้ามและเดินไปรอด้านในอย่างมาดมั่น ชรายุรออยู่แล้วด้วยแววตามีเลศนัย...และแล้วเหยื่อก็ติดเบ็ด!

สุบรรณเข้ามาในเฮือนอย่างถืออภิสิทธิ์ตามด้วยอำนาจ ทั้งสองหยุดชะงักเมื่อได้ยินเสียงครืดคราด ปรากฏงูร่างยักษ์พุ่งมาหา แผ่แม่เบี้ยขู่ฟ่ออย่างเอาเรื่อง อำนาจควักปืนจะยิงแต่สุบรรณห้ามไว้เพราะรู้ว่าพวกตนเป็นฝ่ายบุกรุก นักการเมืองหนุ่มค่อยๆหาทางเลี่ยงออกไปตามด้วยมือขวาคนสนิทที่อดไม่ได้ ยิงปืนใส่งูไปสองสามนัด งูใหญ่ทำท่าจะฉกจนอำนาจลนลานหนีไม่คิดชีวิต ชรายุกลายร่างเป็นคนทันทีที่ลับร่างทั้งสอง หัวเราะเสียงดังอย่างชอบใจ

คืนเดียวกันนั้นที่วังนาเคนทร์...ภุชคินทร์แกะผ้าพันแผลที่ศีรษะออก เห็นร่องรอยแผลจางๆจากการโขกกับหินบนพื้นที่ร้านอาหารริมน้ำ ครุ่นคิดถึงเรื่องที่คาใจตลอดหลายคืนที่ผ่านมาเกี่ยวกับเจ้าอุรคา เสียงเคาะประตูดังขึ้น นารีวรรณมาตามไปพบหม่อมภาณีให้ช่วยเลือกเครื่องประดับไปงานเปิดร้านของเจ้าประกายคำ ราชนิกุลหนุ่มยิ้มให้แม่อย่างประจบและบอกว่าเธอใส่ชิ้นไหนก็สวย หม่อมภาณีปลื้ม อารมณ์ดีที่ลูกชายสุดที่รักชม

“แต่แม่อยากใส่ให้ถูกกาลเทศะมากกว่า เจ้าประกายคำ เป็นเจ้าภาพ เราควรให้เกียรติ มิใช่ทำตัวข่มท่าน”

“คุณแม่กลัวเด่นเกินเจ้าของงานค่ะพี่ชาย ยิ่งช่วงนี้มีข่าวรอยเท้าพญานาคที่วัง นักข่าวเห็นคุณแม่ทีไร ขโมยซีนเจ้าของงานแน่ๆค่ะ” นารีวรรณแซวแม่บุญธรรมยิ้มๆ

สามคนแม่ลูกช่วยกันเลือกจนได้เครื่องประดับมุกชุดกำลังงาม ไม่มากและไม่น้อยเกินไป ภุชคินทร์หยิบแหวนมุกมาดูแล้วต้องสะดุ้ง เมื่อแหวนมุกกลายเป็นอัญมณีแปลกตา เขาปล่อยแหวนลงพื้นด้วยความตกใจ หม่อมภาณีกับนารีวรรณมองหน้าชายหนุ่มคนเดียวของวังงงๆ ภุชคินทร์เห็นท่าไม่ดี รีบกลบเกลื่อนว่าตาฝาดเพราะพักผ่อนน้อยและขอตัวกลับไปที่ห้องทันที โดยมีสายตาของแม่กับน้องสาวมองตามอย่างเป็นห่วง

ภุชคินทร์สะบัดหน้าไล่ความคิดฟุ้งซ่านและข่มตานอน ไม่นานก็เข้าสู่ห้วงนิทราและรู้สึกตัวอีกครั้งที่ริมน้ำโขงเหมือนความฝันครั้งก่อนๆ แต่ครั้งนี้ได้ยินเสียงต่อสู้ของอะไรบางอย่าง ท่ามกลางความมืดและกระแสน้ำเชี่ยวกรากของลำน้ำโขง เขาเห็นพญานาคตัวผู้กับพญาครุฑ ต่อสู้กันอย่างดุเดือดเพื่อปกป้องพญานาคตัวเมีย ด้วยพละกำลังที่เหนือกว่า พญาครุฑฉกตัวพญานาคตัวเมียไปได้และทำร้ายพญานาคตัวผู้จนกระอักเลือดออกมาเป็นสีเขียวเข้มจัดหรือที่เรียกว่าพลอยนาคสวาท พญานาคตัวผู้ไม่ยอมแพ้ ฮึดสู้จึงโดนเหวี่ยงกลับและกระอักเลือดออกมาเป็นสีเขียวอ่อนกว่าครั้งแรกหรือที่เรียกว่ามรกต และครั้งสุดท้ายพญานาครวบรวมแรงที่เหลือพุ่งเข้าหาพญาครุฑแต่โดนสวนกลับจนกระอักเลือดออกมาเป็นสีเขียวจางๆปนเลือดหรือที่เรียกว่าครุฑธิการ

ภุชคินทร์มองภาพตรงหน้าอย่างตื่นตะลึง จำได้แม่นว่าสีเลือดครั้งสุดท้ายเหมือนกับแหวนมุกของหม่อมภาณีไม่ผิดเพี้ยน พญานาคตัวผู้ดิ้นเร่าด้วยความเจ็บปวดก่อนขาดใจตาย ในขณะที่พญานาคตัวเมียถูกพญาครุฑฉุดกระชากกรีดร้องแทบไม่เป็นภาษาด้วยความร้าวรานใจ ภุชคินทร์ได้แต่ยืนตาค้างอยู่กับที่ก่อนที่สติของเขาจะดับวูบลง...

ภุชคินทร์สะดุ้งตื่นในเช้าวันใหม่เพราะเสียงโทรศัพท์ จากเฟื่องวลี ชายหนุ่มมองชื่อบนหน้าจอด้วยความเซ็งจัด ตัดสินใจไม่รับและเข้าห้องน้ำอย่างหัวเสีย ขณะเดียวกันที่บ้านภิงคาร...เฟื่องวลีรอสายอย่างอดทนแต่สุดท้ายก็ถอดใจเพราะไม่มีคนรับสาย เฟื่องฟ้าปลอบลูกไม่ให้คิดมาก บอกว่าผู้ชายเหมือนกันหมดทั้งโลกที่แพ้มารยาหญิงรวมทั้งภิงคาร เฟื่องวลีเข้าใจความนัยของแม่ ทำตาโตเพราะไม่คิดว่าแม่จะจีบอดีตสามีพี่สาว เฟื่องฟ้าไม่ยี่หระและพูดอย่างมาดมั่น

“ผีพี่สาวแท้ๆของแม่คงไม่ว่าหรอก ถ้าแม่จะทำหน้าที่เมียของท่านภิงคารแทน”

“งั้นฟีบี้จะพยายามฉกหัวใจของพี่ชายมาให้ได้และหาทางเปิดตัวเป็นคู่หมั้นในวันเปิดร้านของเจ้าประกายคำ”

สองแม่ลูกมองตากันอย่างเข้าอกเข้าใจ...อีกไม่นานทุกอย่างจะต้องเป็นของเราสองคน

ooooooo

และแล้วงานเปิดร้านของเจ้าประกายคำก็มาถึง แขกผู้มีเกียรติทยอยเข้างานอย่างไม่ขาดสาย ประกายเพชรและความงามของเครื่องประดับมากมายล้อกับแสงไฟโชว์ความอลังการของงาน ครอบครัวภุชคินทร์ทักทายเจ้าประกายคำด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม หลังจากนั้นหม่อมภาณีกับนารีวรรณจึงเข้าไปในงาน ส่วนภุชคินทร์ขอไปเดินเล่นข้างนอกสักพัก

ภุชคินทร์ยังคาใจเรื่องความฝันประหลาดเมื่อหลายคืนก่อน ข้องใจเหลือเกินที่เห็นแหวนมุกของแม่เหมือนกับสีเลือดของพญานาคที่กระอักออกมาจากการสู้กับพญาครุฑ ราชนิกุลหนุ่มครุ่นคิดคนเดียวเงียบๆในสวนของโรงแรม เหลือบเห็นเจ้าอุรคาในชุดงดงามแปลกตาเดินผ่านเข้าไปในงาน เขาตัดสินใจตามแต่ไม่ทันสักที

ภุชคินทร์ตามเจ้าอุรคาไปเรื่อยๆอย่างไม่รู้ตัวจนกระทั่งมีมือหนึ่งฉุดข้อมืออย่างแรง เขาหันขวับอย่างหงุดหงิดและเปลี่ยนเป็นหัวเสียทันทีเมื่อเห็นเฟื่องวลีเกาะแขนเขายิ้มๆ หญิงสาวบอกว่าเขากำลังจะตกดาดฟ้า ชายหนุ่มไม่เชื่อและกวาดตามอง เห็นตัวเองยืนหมิ่นเหม่บนขอบตึกก็หน้าซีดด้วยความตะลึง เฟื่องวลีไม่ทันสังเกต กระชับแขนที่คล้องอยู่และลากเขากลับเข้าไปในงานโดยที่ชายหนุ่มไม่ได้สะบัดออกหรือปัดป้องเหมือนเคย

เฟื่องวลีกระหยิ่มยิ้มสมใจ ควงแขนภุชคินทร์ร่อนไปทั่วงานอย่างภูมิใจ เฟื่องฟ้าได้จังหวะกระซิบบอก นักข่าวว่าลูกสาวคือว่าที่เจ้าสาวของราชนิกุลหนุ่มคนดัง กระจอกข่าวให้ความสนใจรุมถ่ายรูปกันใหญ่ นาถสุดาที่มางานกับไพศิษฐ์ทันเห็นฉากเด็ดของเฟื่องฟ้าที่ติดสินบนนักข่าวก็ทำท่ารังเกียจ ภิงคารกลัวหลานชายเป็นข่าวฉาวจึงเข้าขวาง ภุชคินทร์ได้สติผละตัวออกห่าง ทันใดนั้น...เสียงนักข่าวฮือฮาหน้างาน แขกทุกคนหันไปมอง ปรากฏร่างเจ้าอุรคาเข้างานด้วยท่วงท่าสง่างามดุจนางพญา

เวลาเดียวกัน...สุบรรณที่เพิ่งมาถึงงานพร้อมอำนาจมองตามเจ้าอุรคาตาค้าง ราชนิกุลสาวเดินกรายเข้าไปทักเจ้าประกายคำโดยไม่สนใจแขกคนอื่น ชรายุที่ตามเจ้านายสาวมาด้วย เปิดหีบเครื่องประดับต่อหน้าเจ้าของงานและธารกำนัล เจ้าอุรคายิ้มเย็นและบอกว่าขอนำอัญมณีประจำตระกูลภูจำปามาแสดงในงานนี้ด้วย

“เครื่องประดับต้นตระกูลของฉันจะมีอยู่สามอย่าง คือนาคสวาท มรกต และครุฑธิการ”

นักข่าวส่งเสียงอื้ออึงอย่างตื่นตาตื่นใจ เช่นเดียวกับแขกคนอื่นๆ ยกเว้นเฟื่องฟ้ากับเฟื่องวลีที่มองด้วยความ หมั่นไส้ เจ้าอุรคาหยิบอัญมณีมาอธิบายทีละชิ้นอย่างใจเย็น หม่อมภาณีเห็นในกล่องมีแค่มรกตและครุฑธิการจึงถามหานาคสวาท เจ้าอุรคายกมือลูบไล้ลำคอขาว

ผ่องที่ประดับด้วยสร้อยพร้อมจี้อัญมณีสีเขียวเข้มและบอกว่าอยู่ที่นี่ ทุกคนส่งเสียงฮือฮา มีเพียงภุชคินทร์ที่หน้าซีดเผือดเพราะจำได้ว่าเหมือนกับที่เขาเห็นพญานาคตัวผู้กระอักออกมาครั้งแรก...ปรากฏการณ์ประหลาดเกิดขึ้นกับเขาอีกครั้ง ความรู้สึกมึนงงและเจ็บปวดแผ่ซ่านไปทั่วร่าง พร้อมกับอาการทรุดฮวบของราชนิกุลหนุ่ม ท่ามกลางความตกใจของแขกเหรื่อทั้งงาน!

อ่านละคร มณีสวาท ตอนที่ 2 วันที่ 27 ม.ค. 56

ละครเรื่อง มณีสวาท บทประพันธ์โดย : จินตวีร์ วิวัธน์
ละครเรื่อง มณีสวาท บทโทรทัศน์โดย : ณัฐวัฒน์
ละครเรื่อง มณีสวาท กำกับการแสดงโดย : วรวิทย์ ศรีสุภาพ
ละครเรื่อง มณีสวาท แนวละคร : ตื่นเต้น ลึกลับ
ละครเรื่อง มณีสวาท ผลิตโดย : บริษัท กู๊ด ฟีลลิ่ง จำกัด โดย สมจริง ศรีสุภาพ
ติดตามชมละครเรื่อง มณีสวาท ได้ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ