@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร แรงปรารถนา ตอนที่ 10/5 วันที่ 20 ม.ค. 56

อ่านละคร แรงปรารถนา ตอนที่ 10/5 วันที่ 20 ม.ค. 56

“คุณอาให้พี่มาตาม น้องแตลงมาก่อน มันอันตราย”
สุอาภาหน้างอบอก
“ลงก็ได้ พิทรับด้วยนะ”
พิทยาตกใจยังไม่ทันได้ตั้งหลัก สุอาภาก็กระโดดลงมาทับพิทยาซะก่อน
“โอ๊ย!”
พิทยาหงายหลังล้ม จมลงไปในกองใบไม้ใต้ต้นชมพู่มะเหมี่ยว ลืมตามาเห็นสุอาภาฟุบอยู่บนตัวก็ตาโต
“น้องแต! เป็นอะไรหรือเปล่า น้องแต! น้องแต”

พิทยาใจเสีย พยายามเขย่าตัวสุอาภา แต่อยู่ๆ สุอาภาก็เงยหน้ามายิ้มให้
“แฮ่!โดนหลอกแล้ว”
พิทยาชะงักกึก หน้าสุอาภาอยู่ห่างกันแค่คืบ พิทยาจ้องหน้าสุอาภาที่ส่งยิ้มร่าเริงมาให้เหมือนตกอยู่ในภวังค์



ใบหน้าของสุอาภาอยู่ตรงหน้าพิทยา เธอขมวดคิ้วงงๆ โบกมือเรียกสติพิทยาที่ยืนเหม่ออยู่
“พิท พิท!”
พิทยาคืนสติ
“ครับ ครับ”
“เหม่ออะไรน่ะ”
“เอ่อ เปล่าครับ แค่... แค่คิดเรื่องงานน่ะ ผมว่าเราเข้าบ้านกันดีกว่า แดดเริ่มร้อนแล้ว”
พิทยารีบเดินนำสุอาภาเข้าไป เธอแหงนหน้ามองฟ้าที่ไม่มีแดดสักนิด ก่อนจะขมวดคิ้วสงสัยแล้วเดินเข้าบ้านตามไป

พิทยาเดินหายเข้าไปข้างใน ทิ้งให้สุอาภาเดินดูบรรยากาศในตัวบ้าน เธอมองไปรอบๆ เห็นกรอบรูปบนชั้นวาง สุอาภาเดินเข้าไปดูใกล้ๆ มีทั้งรูปครอบครัว รูปสุอาภาเดี่ยว และรูป สุอาภาที่ถ่ายกับพิทยาตอนเด็กตรงระเบียงหน้าบ้าน หน้าตามอมแมมเล็กน้อย
สุอาภาหยิบกรอบรูปขึ้นมามองแล้วไล้นิ้วลงไปที่ใบหน้าพิทยาตอนเด็ก

ในอดีต ใบหน้าพิทยาในสภาพมอมแมมมีเศษใบไม้ติดหัว ยืนมองหน้านพอย่างรู้สึกผิด ข้างๆ มีสุอาภาในสภาพมอมแมมไม่ต่างกันยืนทำหน้าไม่รู้ร้อนรู้หนาว นพมองสภาพเยินๆ ของพิทยากับสุอาภาก็ถอนหายใจเซ็งๆ แล้วหันมามองคาดโทษลูกสาว
“ซนใหญ่แล้วนะยัยแต ถ้าพิทรับไม่ทันจะทำยังไง”
สุอาภายิ้มอ้อนรีบเข้ามากอดขานพอย่างประจบทันที
“พิทเก่งจะตาย ต้องรับแตได้อยู่แล้ว แล้วป๋าให้พิทไปตามแตทำไมคะ”
“รีบเปลี่ยนเรื่องเชียวนะ”
สุอาภายิ้มหวานทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ นพถอนหายใจแล้วขยี้หัวสุอาภาอย่างอ่อนใจก่อนจะยิ้มให้ แล้วปัดเศษใบไม้เศษดินตามหัวตามตัวออกให้
“ป๋ากำลังเห่อกล้องใหม่ เมื่อกี้ถ่ายใหญ่กับต่ายไปแล้ว เหลือแค่แตกับพิทที่ยังไม่มีรูป.. มาถ่ายรูปกันดีกว่า พิทด้วย มานี่สิ”
นพกวักมือเรียกพิทยา พิทยาเดินเข้ามาหาอย่างเกร็งๆ นพเห็นเลยยิ้มให้แล้วปัดเศษใบไม้เศษดินออกให้เหมือนกัน ก่อนจะดันให้พิทยาไปยืนข้างสุอาภา แล้วหยิบกล้องออกมา
“เอ้า พูดว่า ชีส นะ หนึ่ง สอง สาม ชีส”
สุอาภาพูดเสียงดัง “ชีส”
พิทยาทำแค่ยิ้มบางๆ ให้กล้อง
นพมองพิทยากับสุอาภาผ่านหน้าจอแล้วกดชัตเตอร์

สุอาภายืนถือรูปแล้วมองแล้วอมยิ้ม พิทยาเดินออกมาพร้อมเสื้อผ้าในมือ
“คุณแต ในตู้มีเสื้อผ้าทิ้งไว้นิดหน่อย คุณแตเอาไปเปลี่ยนก่อนนะครับ”
สุอาภาสะดุ้ง รีบวางกรอบรูปแล้วเดินมารับเสื้อผ้า
“ขอบคุณนะ”
สุอาภายิ้มให้พิทยาแล้วเดินหายเข้าไปในบ้าน พิทยาเดินไปที่โทรศัพท์บ้าน แล้วหยิบมากดโทรออก

บวรคุยโทรศัพท์ด้วยสีหน้ายินดี
“แกกับแตอยู่ที่บ้านพักตากอากาศ !”
“ครับ เมื่อคืนคุณแตขับรถมาหาผมที่ไซต์งานแล้วเกิดอุบัติเหตุนิดหน่อย”
บวรตกใจ
“แล้วแตเป็นอะไรมากหรือเปล่า”
นพ วรรณวดี และณีที่นั่งฟังอยู่ท่าทางตกใจตาม
“ไม่เป็นอะไรมากครับ แค่เจ็บขานิดหน่อย” พิทยาบอก
บวรถอนหายใจโล่งอก
“รถคุณแตผมให้คนเอาเข้าอู่ให้แล้วคงต้องซ่อมอีกหลายวัน แล้วตอนนี้ที่ไซต์งานก็ยังไม่เรียบร้อย ผมกับคุณแตคงจะพักอยู่ที่นี่ซัก 2-3 วันนะครับ”
บวรยิ้มกรุ้มกริ่มบอก
“ไหนๆแกสองคนก็อยู่ที่นั่นแล้ว ถือโอกาสเปลี่ยนที่ฮันนีมูน..เอ๊ยเปลี่ยนที่ทำงานจากทะเลมาเป็นภูเขาแทนเลยสิ”
พิทยาขมวดคิ้วครุ่นคิด
“แต่คุณแตไม่ชอบภูเขา”
บวรยิ้มขำ
“งั้นเอาไว้ฮันนีมูนครั้งที่ 2 พวกแกก็ค่อยไปทะเลแบบที่ยัยแตชอบก็ได้ ครั้งนี้ก็เป็นภูเขาแบบที่แกชอบไปก่อน”
“แต่ว่า”
“เอาน่า ... เชื่อฉัน แค่นี้นะ ฉันไม่อยากกวนเวลาจู๋จี๋ เอ้ย..กวนเวลาทำงานของแก โชคดีนะน้องรัก”
บวรวางสายแล้วหัวเราะกับนพ วรรณวดีและณี … พิทยาวางโทรศัพท์ ครุ่นคิดอยู่ครู่แล้วถอนใจอย่างช่วยไม่ได้

สุอาภาเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว เธอเดินลงมามองหาพิทยา สุอาภาได้ยินเสียงพูดคุยกันและเสียงรถที่หน้าบ้าน กำลังจะเดินออกไปดู แต่พิทยาเดินผ่านประตูเข้ามาพอดี ในมือมีโน้ตบุ๊ก กระเป๋าแบบ และอุปกรณ์ที่ใช้ในการทำงาน พิทยาเห็นสุอาภาก็ยิ้มให้
“คนงานเอารถมาส่งพอดีเลยครับ”
พิทยาเดินเอาของไปวางที่โต๊ะ
สุอาภาดีใจบอก
“เหรอ ดีเลย งั้นเดี๋ยวฉันจะออกไปซื้อเสื้อผ้า ของใช้ แล้วก็อาหารนะ นายอยากได้อะไรเป็นพิเศษหรือเปล่า”
“คุณแตจะไปคนเดียวเหรอครับ ให้ผมไปเป็นเพื่อนมั๊ย”
“นายทำงานเถอะ ลืมไปแล้วหรือไงว่าฉันมันช็อปปิ้งมาเนียตัวแม่ แค่นี้สบายมาก ตกลงนายไม่เอาอะไรนะ”
“ครับ ขับรถดีๆนะครับ”
สุอาภายิ้มรับแล้วเดินออกไป พิทยามองตามอย่างเป็นห่วง ก่อนจะตัดใจหันมาตั้งใจทำงาน

ภายในห้างสรรพสินค้า สุอาภาเดินเลือกซื้อของกินของใช้อย่างตั้งใจ หยิบนู่นนี่ใส่รถเข็นเป็นว่าเล่น
เธอเดินเข้าออกร้านเสื้อผ้า เลือกเสื้อผ้าให้ตัวเองและพิทยาอย่างสนุกสนาน เธอหิ้วของเต็มสองมือเดินผ่านแผนกชุดชั้นในสุภาพบุรุษ สุอาภาชะงัก ฉุกคิดขึ้นมาได้แล้วทำหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก
“รู้งี้ให้พิทมาด้วยก็ดี”
สุอาภายืนลังเลอยู่หน้าแผนก ก่อนจะพยักหน้าแววตามุ่งมั่น
“เอาวะ”
สุอาภาเดินตรงกำลังจะเข้าไปในแผนก แต่พอมีลูกค้าผู้ชายสองคนเดินตัดหน้าเข้าไปก่อน สุอาภาก็เกิดใจฝ่อ เบรกกึก แล้วเลี้ยวไปแอบยืนตั้งหลักอยู่ตรงมุมแทน สุอาภาถอนหายใจ สีหน้าหนักใจปนเซ็ง
“โอ๊ย แค่กางเกงในผู้ชายเองนะ ไม่เห็นมีอะไรน่าอายเลย คุณหนูกระแตซะอย่างจะมากลัวอะไรกะแค่การซื้อกางเกงในให้สามี เอ้ย...”
สุอาภาทำตาโตตกใจที่หลุดปาก
“...ให้ ให้พิท ใช่ ให้พิท โอเค รีบซื้อรีบกลับ ลุย!”
เธอเรียกกำลังใจให้ตัวเองเสร็จ สุอาภาก็เดินตรงดิ่งเข้าไปในแผนกทันที

สุอาภาเดินหน้าตามุ่งมั่นเข้ามา พยายามกลบความอายไว้สุดฤทธิ์ เหลือบไปเห็นพนักงานหญิงกำลังเดินผ่านมา สุอาภายิ้มโล่งกำลังจะเดินเข้าไปหา แต่พนักงานหญิงดันเดินไปหาลูกค้าชาย 2 คนที่เข้ามาก่อนหน้า สุอาภาเซ็ง พนักงานชายรีบเดินเข้ามาหาทันที
“สวัสดีครับคุณผู้หญิง รับอะไรดีครับ”
สุอาภามองหน้าพนักงานชายที่ยิ้มต้อนรับเต็มที่ก็เกิดฝ่อขึ้นมาอีก พูดอึกอัก
“ฉันจะมาซื้อ...เอ่อ...ซื้อ...”
สุอาภาเขินไม่กล้าพูดเลยชี้ไม้ชี้มือไปที่กางเกงในในหุ่นแทน พนักงานชายมองตามแล้วพยักหน้ายิ้มๆ
“อ๋อ กางเกงในคุณผู้ชาย ต้องการแบบไหนไซส์ไหนดีครับ”
สุอาภาตาโตก่อนจะกลืนน้ำลายเอื๊อก ยิ้มแหยๆให้พนักงานชายที่ยิ้มมองมา เธอทำเป็นมั่นใจ
“แล้วมันมีแบบไหนบ้างล่ะ”
“รอสักครู่ครับ”
พนักงานชายหยิบกางเกงในแต่ละแบบมาวางเรียงราย
“เรามีทั้งแบบ ฮาล์ฟบรีฟ บิกินี่ บ๊อกเซอร์ แทงก้า แล้วก็จีสตริง”
สุอาภาตาโต เสียงดัง
“จีสตริง!”
ลูกค้าชายที่เลือกสินค้าอยู่หันมาสองสุอาภาแบบยิ้มๆ สุอาภาอายมาก
“ได้เลยครับ รับกี่ตัวดีครับ”
“เอ่อ คือ ไม่ใช่ ฉันเอาแบบ...”
สุอาภาหันซ้ายหันขวา เห็นหุ่นโชว์ แล้วรีบชี้ไปที่กางเกงในในหุ่น
“แบบ...แบบนั้น แบบนั้นแหละ! ไซส์นั้น สีนั้นเลยละกัน
พนักงานชายผายมือไปทางหุ่น
“คุณผู้หญิงตาถึงมากครับ นี่เป็นรุ่นล่าสุดของเรา ผลิตด้วยเทคโนโลยีที่ได้มาตรฐาน เนื้อผ้านาโนอิออนผสมผ้าไรคราและอีลาสติกไฟเบอร์ มีความหนาเพียง 0.3 มิลลิเมตร ออกแบบให้มีความยืดหยุ่นสูง โปร่งสบายไม่บีบ…”
สุอาภาตัดบทเสียงดัง
“โอเค! ฉันเอาอันนี้แหละ เอามาสองโหลเลย รีบๆ จัดให้หน่อยนะ ฉัน เอ่อ ฉันรีบ”
พนักงานชายยิ้มหวาน
“ได้ครับ”
พนักงานชายเดินออกไป สุอาภาถอนหายใจอย่างโล่งอก

สุอาภาเก๊กหน้านิ่งรับถุงจากพนักงานชายแล้วรีบเดินออกมาด้านหน้าแผนก ก้มมองถุงในมือแล้วอดเขินไม่ได้

เวลาต่อมา ภายในบ้านพักตากอากาศ สุอาภาเก๊กหน้านิ่งยื่นถุงเสื้อผ้าให้พิทยา พิทยารับมาเปิดดูแบบผ่านๆแล้วยิ้มให้สุอาภา
“ขอบคุณนะครับ”
สุอาภาไม่ยอมสบตาเขา สายตามองไปทางอื่นแทน
“ฉันกะๆไซส์นายมา ไม่รู้ว่าจะพอดีหรือเปล่า ลองใส่ดูละกัน”
สุอาภาเหลือบมามองพิทยาที่ยิ้มให้ แล้วหลบสายตาอย่างเขินๆ

สุอาภากำลังเก็บของเข้าตู้เย็น พิทยาในชุดที่สุอาภาซื้อให้ก็เดินเข้ามา เธอมองแล้วยิ้มอย่างพอใจ
“ใส่ได้พอดีทุกอย่างเลยครับ คุณแตเลือกเก่งจัง”
สุอาภามองพิทยาที่ชมแถมยิ้มวิบวับแปลกๆ ให้ก็เขินจัด เธอยิ้มเจื่อนๆ แล้วหันไปเทน้ำยกขึ้นดื่มแก้เขิน
“แต่บางอย่างคราวหลังไม่ต้องซื้อมาเยอะก็ได้นะครับ คุณจะให้ผมเปลี่ยน เช้า กลางวัน เย็น หรือจะให้อยู่ที่นี่ต่อทั้งเดือนเลยเหรอไง”
สุอาภาที่ดื่มน้ำอยู่ถึงกับสำลัก มองหน้าพิทยาสีหน้าเหรอหราด้วยความอาย … พิทยาเห็นก็อมยิ้มขำๆ กับท่าทางไปไม่ถูกของสุอาภา … เธอเหมือนจะนึกคำแก้ตัว แต่อยู่ดีๆ ก็จามออกมาใส่พิทยาเต็มๆ พิทยาชะงัก
“เอ่อ...ฉันขอโทษ...ฉัน...”
สุอาภาจามออกมาอีก ... พิทยารีบเดินเข้ามาหา แล้วเอามือแตะหน้าผากวัดไข้อย่างเป็นห่วง เธอมองพิทยาอึ้งๆ
“ตัวรุมๆ สงสัยจะไม่สบายแล้วจริงๆ เมื่อคืนก็ตากฝน แล้ววันนี้ก็ออกไปตากแอร์ทั้งวันอีก”
พิทยาชะงักเมื่อก้มลงมาสบตาสุอาภาที่มองมา เธอเขินเลยขยับตัวออกห่าง
“เอ่อ... เดี๋ยวผมทำอะไรให้ทานดีกว่า คุณแตจะได้กินยา”
“งั้นฉันไปรอข้างนอกนะ”
สุอาภารีบเดินลิ่วๆออกไปทันที พิทยาพรูลมหายใจอย่างโล่งอก แล้วตั้งสติหันไปหาวัตถุดิบทำอาหาร

สุอาภานั่งรออยู่ที่โซฟา พยายามเก็บอาการไม่ให้เขินแต่คิดแล้วก็แอบยิ้มออกมาจนได้ ผ่านเวลาเล็กน้อย พิทยาเดินออกมาพร้อมถาดข้าวต้ม 2 ชาม สุอาภารีบเก๊กหน้านิ่งๆ พิทยาวางชามนึงหน้าสุอาภา
“ได้แล้วครับ”
“นายก็กินด้วยกันสิ”
สุอาภาชวนแล้วตักข้าวต้มเข้าปาก พิทยามองตามแล้วลงมือกินเหมือนกัน
ผ่านเวลา..ข้าวหมดชาม สุอาภาดื่มน้ำเรียบร้อย พิทยาก็ยื่นยาให้ทันที เธอมองแล้วยู่หน้า
“ฉันไม่ได้เป็นอะไรมากหรอกน่า”
“ยังไงก็ต้องกินครับ กันไว้ก่อน เดี๋ยวจะเป็นหนักกว่านี้”
“จริงๆ นายก็ต้องกินนะ นายก็ยังไม่แข็งแรงเหมือนกัน ถ้าร่างกายไม่หายดี เดี๋ยวนายก็คิดงานไม่ออกหรอก”
“ถ้าคุณแตป่วย ผมก็คิดงานไม่ออกเหมือนกัน”
สุอาภาชะงัก สบตาพิทที่มองมาอย่างจริงจัง เธอแอบเขินทำหน้าไม่ถูก … พิทยายื่นยาให้ ส่งสายตาดุแกมบังคับ
“ถ้าคุณไม่ยอมกินแล้วเป็นหนักกว่านี้ต้องโดนจับฉีดยานะ”
สุอาภาเห็นท่าทางพิทยาก็แอบกลัวแต่ก็ยังนิ่ง
“หรือจะให้ผมจับกรอก”
พิทยาขยับตัว ทำท่าจะพุ่งเข้ามา สุอาภารีบพูดทันที
“กินด้วยกันสิ!”
“แต่ผมไม่ได้เป็นอะไรนี่”
“ก็กันไว้ก่อนไง”
พิทยาเห็นเธอลอยหน้าลอยตาตอบก็อดหัวเราะออกมาไม่ได้ เขาพยักหน้าอย่างจำยอม สุอาภาเลยเชิดหน้าใส่ รับยามามองอย่างแหยงๆ แต่พอเห็นพิทยามองอยู่ เธอทำเป็นกินอย่างสบายๆ แต่กลับกลืนอย่างยากลำบากแล้วรีบดื่มน้ำตามจนแทบสำลัก … พิทยาหัวเราะออกมา สุอาภามองตาเขียว
“ยังกินยายากเหมือนเดิม”
“อย่ามาเปลี่ยนเรื่อง นายก็ต้องกิน กินเดี๋ยวนี้เลย”
พิทยาหัวเราะแล้วกินยาอย่างสบายๆ เสร็จแล้วยักคิ้วให้เธออย่างกวนๆ สุอาภามองค้อน
เขาหัวเราะออกมา สุอาภามองตาเขียว
“กินยาแล้วก็ต้องห่มผ้าอุ่นๆด้วย”
พิทยาเดินไปหยิบผ้าห่มมาห่อตัวสุอาภา เธอเหมือนตกอยู่ในอ้อมกอดของพิทยา เธอตกใจแต่เขาก็ยังคงกอดเธอไว้ สุอาภาเขินมากแต่ก็รู้สึกอบอุ่นใจอย่างที่สุด
“คุณแต...ขอบคุณนะครับที่อุตส่าห์ขับรถเอายามาให้ผมด้วยตัวเอง ผมดีใจจริงๆนะครับที่คุณแตเป็นห่วงผม”
สุอาภาเขินจัด แต่พยายามกลบเกลื่อนความรู้สึก
“ใครว่าฉันห่วงนาย ฉันกลัวนายป่วยจนเสียงาน แล้วบริษัทพ่อฉันจะเสียชื่อไปด้วยต่างหาก”
พิทยารู้ว่าสุอาภาปากไม่ตรงกับใจก็แอบอมยิ้ม สุอาภารู้สึกเขินแปลกๆเลยรีบตัดบท
“นายไปทำงานต่อได้แล้ว เดี๋ยวก็เสร็จไม่ทันหรอก”
พิทยาคลายอ้อมกอดเหลือบมองเธอที่หลบตาแล้วเดินเขินๆออกไป
สุอาภาเหล่มองตามเขาก่อนจะอมยิ้ม ดึงผ้าห่มมาปิดหน้าด้วยความเขิน

พิทยานั่งทำงานอย่างขมักเขม้น ก่อนจะเหลือบมองนาฬิกา แล้วหันไปมองทางประตูอย่างเป็นห่วง
พิทยาวางงานในมือแล้วลุกเดินออกไป

พิทยาเดินออกมาเห็นสุอาภาหลับอยู่ที่โซฟาในห้องรับแขก พิทยาเดินมานั่งมองหน้าเธออย่างเคลิ้มๆ ยิ้มอย่างเป็นสุขพลางปัดไรผมให้พ้นจากหน้า ก่อนจะค่อยๆ โน้มตัวลงหอมหน้าผากสุอาภาอย่างอ่อนโยน พิทยาพึมพำ
“ถ้าคุณเป็นอะไรไป ผมคงไม่ให้อภัยตัวเอง”

เช้าสดใสวันต่อมา พิทยานอนอยู่บนโซฟา โดยมีสุอาภากอดซุกอยู่ข้างๆ บนตัวทั้งสองคนมีผ้าห่มห่มเอาไว้ สุอาภารู้สึกตัวตื่นขึ้นมาแบบงัวเงียพอเห็นว่า ตัวเองนอนกอดกับเขาอยู่บนโซฟาก็ตกใจมาก
พิทยาลืมตาตื่นขึ้นมาพอดี เห็นเธอนอนกอดอยู่กับเขาก็ชะงัก ต่างคนต่างจ้องหน้ากันเหมือนตกอยู่ในภวังค์ เธอเขินมากจะพลิกตัวลุกจากโซฟาแต่ก็เสียหลักจะหงายตกโซฟา พิทยารีบกอดเอาไว้แน่นด้วยสัญชาตญาณ ทั้งสองคนยิ่งอยู่แนบชิดกันมากกว่าเดิม หน้าผากของสุอาภาชนกับแก้มของพิทยาอย่างไม่ตั้งใจ … สุอาภาจะลุกขึ้น
“เดี๋ยวครับ”

อ่านละคร แรงปรารถนา ตอนที่ 10/5 วันที่ 20 ม.ค. 56

ละครแรงปรารถนา บทประพันธ์โดย อาริตา
ละครแรงปรารถนา บทโทรทัศน์ : ปณธี
ละครแรงปรารถนา กำกับการแสดง : ยุทธนา ลอพันธ์ไพบูลย์
ละครแรงปรารถนา แนวละคร : โรแมนติก - ดราม่า
ละครแรงปรารถนาดำเนินงานสร้าง : บริษัทละครไท จำกัด โดย หทัยรัตน์ อมตวณิชย์
ละครแรงปรารถนา ออกอากาศ : ทุกวันศุกร์-อาทิตย์ เวลา 20.30 น. ช่อง 3 (ต่อจากเหนือเมฆ)
ที่มา manager