@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร แรงปรารถนา ตอนที่ 9/6 วันที่ 19 ม.ค. 56

อ่านละคร แรงปรารถนา ตอนที่ 9/6 วันที่ 19 ม.ค. 56

“ผมไม่รู้ว่าห้ามได้หรือห้ามไม่ได้ ผมรู้แต่ว่า งานแต่งงานของเราถูกเลื่อนขึ้นมาให้เร็วมากขึ้นกว่าเดิม ต้องขอบคุณคุณอย่างมากที่ทำให้ทุกอย่างได้ดั่งใจผม”
รวีพรรณกำมือแน่นด้วยความโมโห แต่ยังไม่ทันพูดอะไรออกมา คู่นอนของภูวดลก็เข้ามากอดภูวดลจากข้างหลัง รวีพรรณถึงกับอึ้ง
“ทำไรอยู่อ่ะคะคุณดล คิตตี้รอนานแล้วนะ”
“อีกไม่เกินหนึ่งนาทีผมจะตามเข้าไป นอนรอผมบนเตียงได้เลยนะจ๊ะ”
คิตตี้ปรายตามองรวีพรรณแล้วก็เดินเข้าไป ภูวดลหันมา

“พรุ่งนี้เรามีนัดลองชุดแต่งงาน ถ้าคุณไม่ไป คงรู้นะว่าจะเกิดอะไรขึ้น”
ภูวดลยิ้มมุมปากร้ายกาจแล้วปิดประตูใส่หน้ารวีพรรณอย่างแรง รวีพรรณโมโหสุดๆ
“นึกว่าแค่นี้จะทำให้ฉันกลัวงั้นเหรอ ยังไงฉันก็ไม่มีวันแต่งงานกับคุณ”

ภายในห้องนอน สุอาภาเปิดผ้าห่มเตรียมจะนอน แต่หันไปเห็นผ้าม่านยังไม่ได้ปิด เลยเดินมาจะปิดผ้าม่านประตูบานเลื่อนตรงระเบียง แต่กลับเห็นไฟสว่างออกมาจากห้องรับแขกข้างล่างก็แปลกใจ


หน้าจอในเครื่องแมคบุ๊ก...เป็นภาพการออกแบบห้างสรรพสินค้า พิทยาจริงจังกับการทำงานที่โต๊ะอาหารในห้องรับแขก สุอาภาเดินลงบันไดมาเห็นก็เดินมาหา
“ยังไม่นอนอีกเหรอ”
พิทยาเงยหน้าบอก
“พรุ่งนี้ผมมีพรีเซนต์งานน่ะครับ ก็เลยต้องเตรียมตัวให้พร้อม”
พิทยายกแก้วกาแฟจะดื่มแต่หมด พิทยาลุกขึ้นจะเดินไปชงกาแฟเพิ่มแต่สุอาภารู้ใจ เดินมาคว้าแก้วจากมือพิทยา
“ฉันชงให้เอง นายทำงานเหอะ”
พิทยายิ้มและพยักหน้า นั่งลงทำงานต่อ สุอาภาเดินไปชงกาแฟ
สุอาภาหันหลังกลับมา
“กาแฟที่อร่อยที่สุดในโลกได้แล้ว”
พิทยาลุกขึ้นเดินมาหาสุอาภาเป็นจังหวะเดียวกับที่สุอาภายื่นแก้วมาพอดี ทำให้แก้วกาแฟกระแทกตัวพิทยา กาแฟหกใส่ พิทยาร้องลั่นเพราะร้อน
“โอ๊ย!”
สุอาภาตกใจมาก รีบวางแก้วกาแฟลงบนโต๊ะ
“ฉันขอโทษ นายเป็นไง”
“ทั้งร้อนทั้งแสบ”
พิทยารีบถอดเสื้อออกมา สุอาภาหน้าตาตื่นที่เห็นรอยแดงบนตัวพิทยา
“เดี๋ยวฉันไปเอายามาทาให้นะ”
สุอาภารีบเดินออกไป พิทยาเอามือพัดตรงที่โดนกาแฟลวก
สุอาภากับพิทยานั่งกันอยู่ที่โซฟา สุอาภากำลังเอายาทาตรงที่บริเวณที่โดนน้ำร้อนลวกให้พิทยา เธอรู้สึกอายๆไม่ค่อยกล้ามองเต็มตา ทำให้ทายาไม่ถูกจุด
“คุณแต”
“ห๊ะ”
“ผมไม่ได้เจ็บตรงนั้น”
สุอาภาหันมาดู เห็นทายาตรงที่อื่นก็ยิ้มแหยให้พิทยา แล้วก็ทายาตรงที่พิทยาโดนน้ำร้อนลวก สุอาภาทายาด้วยความตั้งใจและนุ่มนวล พิทยามองสุอาภาแล้วก็เผลอยิ้มออกมาอย่างรู้สึกดี สุอาภาเงยหน้าเห็นพิทยายิ้มพอดี พิทยารีบหุบยิ้มแทบไม่ทัน
“ยิ้มอะไร”
“ยิ้มคุณนั่นแหละ คุณน่ารักมากขึ้นกว่าแต่ก่อนเยอะเลยรู้ตัวมั๊ย”
พิทยาอึ้งไปที่ตัวเองหลุดปากชมสุอาภาออกมา ทั้งคู่ต่างเขิน สุอาาภาทำตลับยาหลุดมือตกลงพื้น สุอาภาก้มลงเก็บ จังหวะเดียวกันพิทยาก็จะก้มเก็บ สุอาภาหยิบตลับยาได้เงยหน้าขึ้นมา หน้าผากสุอาภาเสยคางพิทยาเข้าเต็มๆ ทั้งคู่ร้องลั่น
“โอ๊ย!”
สุอาภาจับหัวตรงด้านหน้าที่ติดกับหน้าผาก พิทยาจับคาง สองคนมองหน้ากันแล้วก็พากันหัวเราะออกมาในความซุ่มซ่ามของตัวเอง
“ไหนดูสิว่าหัวโนรึเปล่า”
พิทยาขยับเข้ามาจนตัวติดกับสุอาภา แล้วจับหัวสุอาภามาดู
“หัวโนมั๊ยอ่ะ” สุอาภาถาม
พิทยาอมยิ้มแล้วแกล้งพูด
“ปูดเป็นลูกมะกรูดเลย”
สุอาภาตกใจเงยหน้ามองพิทยา
“จริงเหรอ”
พิทยาแกล้งทำหน้าเครียด
“จริง...ท่าทางจะไม่ยุบง่ายๆด้วยนะ”
สุอาภาหน้าเสียด้วยความกังวล
“เหรอ ถ้าเอาผมปิดไว้ จะเห็นรึเปล่า”
สุอาภารีบเอาผมมาปิดตรงด้านหน้าทำให้สุอาภาดูตลกมากจนพิทยาอดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้ สุอาภาเริ่มเอะใจ เห็นพิทยาหัวเราะไม่หยุดก็รู้ทันที
“นายหลอกฉันเหรอ”
“ถือเป็นการเอาคืนที่คุณชอบหลอกผมบ่อยๆก็แล้วกัน”
พิทยายังหัวเราะไม่เลิก สุอาภาเอานิ้วทายาป้ายปากพิทยา พิทยาสะดุ้ง
“เฮ้ย!”
สุอาภาหัวเราะ
“สมน้ำหน้า อยากแกล้งฉันทำไม”
พิทยาชี้หน้าเอาเรื่อง สุอาภาชักฝ่อรีบลุกขึ้นยืน
“จะทำอะไรฉัน”
พิทยาไม่ตอบ แต่ลุกขึ้นยืน สุอาภารีบหันหลังวิ่งหนี สองคนวิ่งไล่กันเป็นเด็กๆ จังหวะหนึ่งสุอาภาหลบได้แล้วเฉียด พิทยาลื่นล้มก้นกระแทกพื้น
สุอาภาแลบลิ้น
“แบร่ๆ”
สุอาภาหัวเราะชอบใจวิ่งหนีขึ้นบันได พิทยามองตามยิ้ม แววตาเป็นประกายมีความสุข

เช้าวันต่อมา พิทยากำลังทำข้าวต้มอยู่ในครัว สุอาภาเดินเข้ามาเห็น
“ทำไร”
พิทยาหันไปบอก
“ข้าวต้ม”
สุอาภานิ่งมองข้าวต้ม พลางนึกย้อนกลับไป
“คุณแตคงไม่ชอบทานรสหวาน”
“ใช่ค่ะ พิททำหวานไปหน่อยนึง”
“นี่เป็นรสชาติของฉันค่ะ พิทคงเคยชิน เพราะเค้าทำให้ฉันทานบ่อยๆ”
สุอาภาคิดนิดนึงแล้วพูดออกไป
“ฉันไม่ชอบข้าวต้มที่นายทำ มันหวานเกินไป”
“แล้วคุณอยากทานรสชาติไหนล่ะ”
“อืมม์...ไม่รู้สิ”
“เอ้า..ถ้าไม่รู้ แล้วผมจะทำให้ถูกใจคุณได้ไง ถ้างั้นก็มาทำด้วยกัน คุณจะได้หัดทำข้าวต้มเป็นอีกหนึ่งอย่างนอกจากการชงกาแฟ”
สุอาภามองพิทยาอย่างเห็นด้วย

พิทยาตักข้าวต้มใส่ช้อนเป่าให้หายร้อน แล้วยื่นไปให้สุอาภาชิม สุอาภาชิมแล้วก็ส่ายหน้าไม่ชอบ ก่อนจะยืนนึก..แล้วก็หันไปหยิบซีอิ๊วเหยาะลงไป ตามมาด้วยพริกไท พริกป่น น้ำส้มสายชู เห็นอีกทีข้าวต้มก็เต็มไปด้วยพริก
พิทยามองแบบไม่น่ากิน แต่สุอาภาภูมิใจมาก ตักข้าวต้มขึ้นมา เป่าให้หายร้อนแล้วยื่นไปตรงหน้าพิทยาส่ายหน้า สุอาภายื่นช้อนไปใกล้เพื่อให้พิทยากิน พิทยากล้าๆกลัวๆแต่ก็กินเข้าไป
พิทยานิ่งไปสองวินาทีแล้วหันไปมองสุอาภาพร้อมกับยกนิ้วโป้งบอกว่าอร่อย สุอาภาดีใจ

สุอาภากับพิทยายืนอยู่ด้วยกัน บนโต๊ะมีข้าวต้มโรยหน้าด้วยไข่เจียวสองชามวางอยู่
“นี่เรียกว่าข้าวต้มสูตรคุณหนูกระแต นายห้ามทำข้าวต้มสูตรนี้ให้ใครทานเด็ดขาด นอกจากฉันคนเดียว”
พิทยาอมยิ้ม
“ครับคุณหนูกระแต ว่าแต่ทานได้เหรอยัง ผมหิวแล้ว”
พิทยาจับท้องตัวเองที่ร้องดังออกมาพอดี สุอาภาขำ เธอกับเขากำลังจะนั่งลงทานข้าวต้ม แต่เสียงรวีพรรณดังขึ้น
“สวัสดีค่ะ”
สุอาภากับพิทยาเห็นรวีพรรณถือถุงเดินเข้ามา สุอาภาแอบเซ็งนิดนึงที่รวีพรรณมาขัดจังหวะ
“ประตูบ้านพิทไม่ได้ล็อก รวีก็เลยเดินเข้ามา นี่กำลังจะทานอาหารเช้ากันเหรอคะ”
“ครับ”
“น่าทานจังเลย”
สุอาภาหันไปมองพิทยาว่าจะชวนรวีพรรณทานมั๊ย พิทยานิ่งไป คำพูดของสุอาภาดังขึ้น
“ห้ามทำข้าวต้มสูตรนี้ให้ใครทานเด็ดขาด นอกจากฉันคนเดียว”
“รวีทานด้วยกันมั๊ย”
สุอาภาแอบใจแป้ว พิทยาพูดต่อ
“แต่ว่าข้าวต้มหมดแล้ว ผมจะไปทำอย่างอื่นให้ทาน”
สุอาภาดีใจแอบยิ้มออกมาคนเดียว
“ไม่ล่ะค่ะ รวีแค่เอาของมาคืนคุณแต เสร็จแล้วก็จะกลับ”
รวีพรรณหยิบชุดนอนออกมาจากในถุงที่ถือมาวางบนโต๊ะ
“นี่ค่ะ...ชุดนอนของคุณใส่สบายมากเลย ฉันอยากได้แบบเดียวกับคุณฝากซื้อได้มั๊ย”
“ฉันไม่แน่ใจว่ามันยังมีขายอยู่รึเปล่า”
“ว้า...น่าเสียดายจัง ถ้าฉันขอ คุณจะให้ฉันมั๊ย”
“ฉันใส่มาหลายครั้งแล้ว คุณไม่ถือเหรอคะ”
“ถ้าฉันต้องการ...ต่อให้เคยถูกใช้มาแล้ว ฉันก็ไม่ถือหรอกค่ะ”
รวีพรรณพูดแล้วก็ปรายตามองพิทยาแว๊บนึง สุอาภารู้สึกแปลกๆกับคำพูดของรวีพรรณ แต่พิทยาไม่คิดอะไร รวีพรรณเปลี่ยนเรื่อง หันไปทางพิทยา
“รวีต้องไปทำงานแล้ว ไม่ใช่สิต้องบอกว่า รวีไปทำงานวันนี้เป็นวันสุดท้าย รวีลาออกมาดูแลร้านอาหารเต็มตัว ต่อไปนี้เราคงได้เจอกันบ่อยขึ้น”
สุอาภาชะงักไป มองรวีพรรณที่ยิ้มให้พิทยา

ภายในออฟฟิศ สินีนาฎมองซองขาวในมือก่อนจะเงยหน้ามองรวีพรรณ
“แน่ใจแล้วเหรอว่าจะลาออก”
รวีพรรณพยักหน้าสีหน้ามั่นใจ
“วันแต่งงานของฉัน..ใกล้เข้ามาทุกที นั่นเท่ากับว่าเวลาของฉันเหลือน้อยลง สิ่งที่ฉันต้องทำในตอนนี้ก็คือแย่งพิทคืนมาให้เร็วที่สุด”
“เธอยอมสละอนาคตตัวเองเพื่อผู้ชายคนเดียวเลยเหรอ”
รวีพรรณมองสินีนาฎ
“ที่ผ่านมาฉันปล่อยให้ชีวิตขึ้นอยู่กับความต้องการของคนอื่นมามากพอแล้ว ต่อไปนี้ฉันจะทำทุกอย่างที่ฉันอยากทำ ชีวิตฉัน..มันไม่มีอะไรจะเสียอีกแล้วสิ”
สินีนาฎมองรวีพรรณอย่างไม่เข้าใจ แววตารวีพรรณเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น

ภายในร้านเวดดิ้ง ภูวดลในชุดเจ้าบ่าวดูนาฬิกาข้อมือด้วยสีหน้าไม่พอใจมาก พนักงานร้านเดินมาหา
“ไม่ทราบว่าเจ้าสาวจะมาเหรอยังคะ”
“ขอผมโทรตามก่อน”
ภูวดลหยิบมือถือออกมากดโทรออก แต่รวีพรรณปิดเครื่อง ภูวดลโมโหมาก
“กล้าทำแบบนี้กับผมเหรอรวีพรรณ”

ภายในห้องประชุม เวลากลางวัน พิทยากำลังพรีเซนต์แบบร่างแรกให้ทาคาโน่ ภาสันต์ นพ บวร และปวีณาฟัง
ทุกคนตั้งใจฟังพิทยาด้วยสีหน้าบอกความชื่นชม มีภาสันต์เพียงคนเดียวที่เบ้หน้าด้วยความไม่ชอบใจ
พิทยาพรีเซนต์งานเสร็จ ทาคาโน่ปรบมือ ยิ่งทำให้ภาสันต์ไม่พอใจ
“ผมพอใจเกือบ 100 %”
พิทยา นพ บวร แป๋วยิ้ม แต่ภาสันต์ติงขึ้นมา ทุกคนหันไปมอง
“แต่ผมไม่ชอบ ข้อแรก ผมไม่เห็นด้วยเรื่องที่จะสร้างสองตึก ข้อสอง เรื่องขุดสระน้ำด้านหน้าห้างฯ สิ่งที่พูดมามันสิ้นเปลือง”
“ที่ผมสร้างตึกสองตึก และขุดสระน้ำด้านหน้า ผมทำตามหลักฮวงจุ้ย...หน้าน้ำหลังภูเขา“น้ำ”ถือว่ามีสภาพเคลื่อนไหวและมีความเป็นหยาง “ภูเขา”สงบนิ่งและมีความเป็น หยิน เมื่อสองอย่างรวมกัน จะก่อให้เกิดความสมบูรณ์ ซึ่งตึกที่สองเปรียบเหมือนเป็นภูเขา”
“งมงาย”
“หลักฮวงจุ้ยไม่ใช่เรื่องงมงาย แต่เป็นเรื่องของความเชื่อและศรัทธา แต่ที่สำคัญมันเป็นสิ่งที่คุณทาคาโน่ต้องการ”
ภาสันต์หันขวับไปมองทาคาโน่
“คุณพิทยารู้ใจผมมากกว่าหุ้นส่วนของผมซักอีก”
ภาสันต์หน้าแตก!! นพ บวรลอบยิ้มอย่างสะใจ
“คุณเป็นคนเก่งจริงๆ พ่อแม่ของคุณคงจะภูมิใจในตัวคุณน่าดู”
ภาสันต์แทบสะอึก นพมองเหล่ภาสันต์
“ผมไม่มีพ่อ แล้วก็ไม่มีแม่ครับ คุณนพท่านเป็นผู้อุปการะคุณที่เลี้ยงดูผมมา”
คำพูดของพิทยาทำให้ภาสันต์สะท้านเล็กๆ ทาคาโน่หันไปทางนพด้วยสีหน้าทึ่ง
“ขนาดคุณพิทยาไม่ใช่ลูกแท้ๆ คุณยังสั่งสอนเค้าจนได้ดีขนาดนี้ ผมนับถือ ถ้าพ่อแท้ๆของคุณรู้ เค้าคงจะเสียใจที่ไม่ได้เห็นความสำเร็จของลูกชาย”
ภาสันต์ทำหน้าไม่ถูก นพปรายตามอง ภาสันต์รู้สึกเสียหน้าอย่างแรงเลยรีบเปลี่ยนเรื่อง
“เอาเป็นว่าถ้าคุณทาคาโน่โอเค ผมก็ไม่มีปัญหา”
“ผมจะบอกว่าให้คุณปรับอะไรตรงไหนยังไง ไม่เยอะมากหรอก แต่อันนี้เร่งให้ผมเลยนะซักหนึ่งอาทิตย์..เสร็จมั๊ย”
“ถ้าไม่เยอะ ผมคิดว่าเสร็จครับ”
ทาคาโน่คุยงานต่ออีกเล็กน้อย ภาสันต์ได้แต่มองพิทยาด้วยความไม่พอใจ

ภายในออฟฟิศ พิทยาเดินมากับบวร
“สะใจจริงๆตอนเห็นหน้าคุณภาสันต์ แกเห็นรึเปล่า”
“ผมไม่ได้มองครับ แล้วก็ไม่อยากสนใจด้วย”
“ดีแล้วที่แกคิดได้แบบนี้ แกทำงานนี้ให้ดีเลยนะพิท เค้าจะได้เสียใจที่ไม่รับแกเป็นลูก”
พิทยาไม่พูดอะไร แล้วปวีณาก็เดินมาหา บวรมองด้วยความเซ็ง
“คุณพิทคะ ในห้องประชุมเมื่อกี้ คุณพิทสุดยอดมากค่ะ”
บวรเบ้หน้า
“เบื่อพวกประจบ ฉันไปทำงานก่อนนะไม่อยากอารมณ์เสีย”
ปวีณาหันขวับไปมองบวรไม่พอใจ บวรเดินออกไป ปวีณามองตามอย่างไม่พอใจแล้วก็หันมายิ้มให้พิทยา

ยามบ่าย ภายในออฟฟิศ รวีพรรณยืนอยู่หน้าโต๊ะหันหลังให้ประตู เธอกำลังเก็บของบนโต๊ะใส่กล่องกระดาษ เสียงเคาะประตูดังขึ้น รวีพรรณเข้าใจว่าเป็นเลขาฯเลยไม่ได้หันไปมอง
“เข้ามา”
เสียงฝีเท้าดังมาหยุดอยู่ข้างหลัง รวีพรรณแปลกใจว่าทำไมเลขาฯไม่พูด..พอหันไปก็ตกใจ ภูวดลที่ยืนอยู่
“ทำไมไม่ไปลองชุดแต่งงาน! ไม่กลัวที่ผมบอกเหรอ”
“คุณจะทำอะไรฉันได้ จะฆ่าฉันให้ตายเหรอ คุณไม่กล้าหรอกเพราะคนอย่างคุณมันก็ดีแต่พูด”
ภูวดลโมโหมากจับแขนรวีพรรณแล้วดึงเข้ามาใกล้ เธอตกใจ
“ปากดีนักนะ”
ภูวดลไม่ตอบ จะเข้ามาจูบ รวีพรรณเบือนหน้าหลับตาด้วยความกลัว ภูวดลเห็นสีหน้ารวีพรรณก็หัวเราะพร้อมกับปล่อยมือ เธอลืมตาหันมามองอย่างแปลกใจ ภูวดลแค่นยิ้ม
“ผมไม่ทำอะไรคุณหรอก ทำบ่อยๆช้ำกันพอดี เก็บของทำไม อย่าบอกนะว่าคุณลาออก”
“ใช่..ฉันลาออก แต่ไม่ใช่เพราะจะออกมาเตรียมงานแต่งงาน ฉันลาออกเพราะจะได้มีเวลาอยู่กับพิทมากขึ้น”
ภูวดลผงะกำมือแน่นด้วยความโมโห ขยับจะเข้ามาจัดการ รวีพรรณเอากรรไกรออกมาจากในกล่อง หันไปยื่นใส่หน้าภูวดล
“อย่าแม้แต่คิดจะทำอะไรฉันอีก ถ้าฉันหนีจนหลังชนฝาเมื่อไหร่ ฉันจะสู้จนขาดใจ ยังไงคุณก็ไม่มีวันได้ตัวฉันไปอีกครั้งแน่”
รวีพรรณสีหน้าเอาจริง จนภูวดลต้องยับยั้งความโกรธเอาไว้
“แล้วคุณจะเสียใจที่ทำแบบนี้กับผม”
ภูวดลพูดจบก็จ้ำเดินออกไปด้วยความโมโห รวีพรรณรีบเดินไปล็อกประตูแล้วก็หันหลังพิงประตูถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก

ภูวดลเดินออกมาสีหน้าโกรธแค้น แววตาร้ายกาจ พลันนึกอะไรชั่วๆออก ภูวดลเอามือถือออกมากดโทรออก
“มีเรื่องอยากให้ช่วย”

ภายในออฟฟิศนพ …พิทยาเดินหิ้วกระเป๋าใส่แบบและโฟโต้บอร์ดมาที่รถ เปิดประตูรถด้านหลัง เอาของใส่เข้าไป พอกำลังจะหันหลังกลับโดนคนทุบเข้าที่ท้ายทอยเต็มแรง ทำเอาพิทยามึน...หันมาเห็นนักเลง 2 คน แต่ยังไม่ทันตั้งตัวก็เจอรุมอัด

บวรกับปวีณาเดินมาชนกันตรงประตูทางออก ปวีณาแทบกระเด็นหันไปมองบวรไม่พอใจ
“โอ๊ย! ทำไมเดินไม่ดูคะ”
“เธอต่างหากที่เดินไม่ดู ชนมาได้...ฉันเจ็บนะ”
“ฉันเจ็บยิ่งกว่าคุณอีกนะคะคุณใหญ่”
บวรไม่สนใจจะเดินออกไป ก็เจอปวีณาที่ออกตัวพร้อมกัน ชนกันตรงประตูอีก สองคนหันมาโวยใส่กัน
“โว๊ย!”
“ให้ฉันออกก่อนสิ”
“ทำไมฉันต้องให้เธอออกก่อนห๊ะ!”
“เพราะฉันกำลังรีบ”
“ฉันก็รีบเหมือนกัน”

อ่านละคร แรงปรารถนา ตอนที่ 9/6 วันที่ 19 ม.ค. 56

ละครแรงปรารถนา บทประพันธ์โดย อาริตา
ละครแรงปรารถนา บทโทรทัศน์ : ปณธี
ละครแรงปรารถนา กำกับการแสดง : ยุทธนา ลอพันธ์ไพบูลย์
ละครแรงปรารถนา แนวละคร : โรแมนติก - ดราม่า
ละครแรงปรารถนาดำเนินงานสร้าง : บริษัทละครไท จำกัด โดย หทัยรัตน์ อมตวณิชย์
ละครแรงปรารถนา ออกอากาศ : ทุกวันศุกร์-อาทิตย์ เวลา 20.30 น. ช่อง 3 (ต่อจากเหนือเมฆ)
ที่มา manager