@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละครย่อ พรพรหมอลเวง [2]

อ่านละครย่อ พรพรหมอลเวง [2]

วันต่อมาที่โรงเรียน บี๋ แอบเรียกน้องเมย์มาหลอกถามเรื่องปฐวี น้องเมย์เลยถามกลับว่าครูบี๋ชอบน้าหนูใช่ไหม เดี๋ยวช่วยให้บี๋อายมากคิดไม่ถึงว่าเมย์จะฉลาดขนาดนี้ พอแยกจากบี๋มาก็มาเจอนาวินอีก นาวินไม่รู้ว่าตันหยงเพิ่งแยกจากบี๋ ก็แกล้งชวนไปซื้อขนมแล้วชวนไปทานกับครูบี๋ ตันหยงจึงรู้อีกว่านาวินแอบชอบบี๋เพื่อนของเธอ ระหว่างพักตันหยงจึงนั่งเขียนแผนผังความสัมพันธ์ของรักสามเส้า แต่ถ้าให้เลือกช่วยเธอก็ต้องช่วยเพื่อนของเธอก่อน
ดังนั้นตันหยงจึงเริ่มเป็นแม่สื่อให้กับบี๋และปฐวีไปทานข้าวหลังเลิกเรียน แต่ปฐวีดันชวนนาวินไปด้วยกันสุดท้าย เมื่อแยกกันตันหยงจึงได้รู้ว่าปฐวียังไม่ชอบใคร แต่ก็มีที่แอบชอบอยู่ซึ่งไม่ว่าจะหลอกถามยังไง ปฐวีก็ไม่พูด เพราะเขาคิดว่าคงไม่ได้เจอกับสาวสวยคนนั้นอีกแล้ว เมื่อคุยกันไปปฐวีก็เริ่มสังเกตว่า หลานสาวตัวน้อยของเขานี่ความคิดโตเกินวัยไม่น้อยเลยนะ ปฐวีเริ่มทำเป็นมาสอนการบ้านน้องเมย์ แต่ต้องอึ้งที่เปิดสมุดเล่มไหนมาน้องเมย์ก็ทำถูกหมด แถมลายมือยังพัฒนาไปเร็วมาก

พิรามมาเฝ้าตันหยงแบบเช้าถึงเย็นถึงจนพัดชาเริ่มทนไม่ไหว และสุดท้ายเธอก็ขอเป็นฝ่ายจากไปและลาออกจากบริษัทไป พิรามบอกข่าวดีทั้งๆที่ร่างของตันหยงยังหลับอยู่
ทางด้านแพทย์เจ้าของไข้ตันหยงก็นำผลเรื่องการรักษาไปปรึกษากับ ปฐวีๆจึงเข้ามาช่วยดูอาการ พอเห็นว่าหญิงสาวที่หลับอยู่คือตันหยง ปฐวีเริ่มเช็คประวัติและรู้ว่าเธอเกิดอุบัติเหตุในคืนที่เขาต้องกลับมาดูแลน้องเมย์ ปฐวีพยายามตรวจเช็คอย่างละเอียดตามสายของศัลยกรรมประสาทที่เขาเชี่ยวชาญ แต่ก็ไม่พบว่าจะต้องรักษาด้านไหน ปฐวีจึงขอโอนคนไข้คนนี้มาดูแลเองยังความสบายใจมาให้หมอเจ้าของไข้มาก แต่ปฐวีก็เฝ้าดูอยู่ได้ไม่กี่วันเขาก็ได้พบกับพิราม ที่แนะนำตัวเองว่าเป็นคู่หมั้นของตันหยง แต่แม้ว่าจะยังไงปฐวีก็ยืนยันจะรักษาตันหยงต่ออย่างดีที่สุด

วันหนึ่ง เป็นวันเกิดน้องเมย์ ปฐวี ประภัสสร เมธี ถามว่าอยากได้อะไร น้องเมย์ตอบเพียงว่าอยากทำบุญใส่บาตรก็พอ เล่นเอาผู้ใหญ่อึ้งกันไป และขณะทำบุญอยู่นั้นช่วงที่น้องเมย์รีบศีลจากพระ ปฐวีก็เห็นร่างของตันหยงจนเขาเองก็งงและไม่เชื่อสายตาตัวเอง ปฐวีเอาเรื่องนี้มาปรึกษานาวินแม้นาวินไม่อยากจะเชื่อ แต่เขาเองก็พอรู้มาเหมือนกันทั้งจากครูบี๋และครูคนอื่นๆว่าเมย์มีพัฒนาการต่างกับเมื่อก่อนจนแทบจะเรียกได้ว่าคนละคนกันเลย แต่สุดท้ายปฐวีก็สรุปในทางวิทยาศาสตร์ว่าเกิดจากการกระทบกระเทือนของสมองตอนเกิดอุบัติเหตุ เรื่องทั้งหมดที่คุยกันบี๋เองก็แอบได้ยิน จึงกลับมาถามหาความจริงกับเมย์ ซึ่งตันหยงก็ยืนยันว่าเธอไม่ใช่เมย์ แต่เธอคือตันหยงที่เป็นเพื่อนของบี๋ บี๋ยังไม่ปักใจเชื่อตันหยงจึงพิสูจน์ด้วยการออกไปช้อปปิ้งกับบี๋และบรรยาได้ทุกสถานที่ๆพวกเธอเคยไปสมัยอยู่มหาวิทยาลัย สุดท้ายบี๋เป็นลมตันหยงต้องช่วยพยาบาล เมื่อฟื้นขึ้นบี๋ก็อายเรื่องที่ตันหยงรู้ว่าเธอชอบปฐวี ตันหยงบอกว่านาวินก็ชอบบี๋นะ แต่บี๋บอกไม่เอาชอบปฐวีมากกว่า ตันหยงบอกได้จะช่วยให้ แต่พูดไปก็รู้สึกแปลกๆกับหัวใจตัวเอง

ตันหยงขอให้บี๋พาไปหาร่างของเธอที่โรงพยาบาล และตันหยงถึงได้รู้ว่าที่แท้ก็อยู่โรงพยาบาลเดียวกัน และที่นั่นทั้งสองได้เจอกับพิราม ตันหยงขอให้บี๋ปิดเรื่องนี้ไว้ก่อนอย่าเพิ่งบอกใคร ตันหยงจึงได้รู้ว่าพิรามยังรักเธออยู่ ทุกครั้งในยามว่างไม่ว่าจะเช้าเย็นหรือวันหยุดพิรามจะมาอ่านหนังสือให้ฟัง หรือมาเฝ้าเธอคอยจับพลิกตัว และดูแลไปถึงพ่อกับแม่ของตันหยงด้วย บางครั้งตันหยงก็ได้รับรู้ถึงความรู้สึกลึกๆของพิรามว่าที่เขายังรักเธอและครอบครัว ก็เพราะเขาไม่มีพ่อแม่อีกแล้ว เขาจึงรู้สึกว่าตันหยงและพ่อแม่คือครอบครัวของเขาที่เขาจะไม่ยอมเสียไปอีก ตันหยงเริ่มรู้สึกสับสนว่าจะเอาอย่างไรดีกับความรู้สึกที่มีต่อพิราม และยิ่งเมื่อเธอรู้ว่าปฐวีเป็นแพทย์เจ้าของไข้ ตันหยงก็แสดงออกถึงความสนใจในอาการของผู้ป่วยรายนี้เป็นอย่างมากจนปฐวีแปลกใจ ตันหยงมักจะขอปฐวีตามมาดูแลตันหยงอยู่เรื่อยๆ จนตันหยงเริ่มรู้ว่าที่แท้ผู้หญิงที่ปฐวีแอบชอบก็คือเธอนั่นเอง และเมื่อมาบ่อยๆก็ได้เจอกับพ่อและแม่ของเธอเอง ตันหยงในร่างของน้องเมย์ขอเข้าไปกอดกับพ่อและแม่ร้องไห้ ซึ่งทั้งสองแม้จะงงแต่ก็กอดเด็กหญิงแน่น เล่นเอาพิราม ปฐวีและพ่อแม่ของตันหยงงงไปตามๆกัน

วันนั้นขณะนั่งรถของปฐวีกลับบ้าน ตันหยงอารมณ์ดีนั่งฮัมเพลงไปเรื่อยจนปฐวีแปลกใจเพราะเพลงที่เธอร้องหรือเธอเลือกฟังมันเป็นเพลงผู้ใหญ่ น้องเมย์เองก็บอกตรงๆว่าถ้าวันหนึ่งเขาพบว่าเธอไม่ใช่หลานของเขาล่ะ ปฐวีได้ฟังก็อึ้งไป เพราะนึกถึงร่างของตันหยงที่เขาเคยแอบเห็นตอนใส่บาตร รวมทั้งสิ่งแปลกๆที่เกิดขึ้น แต่ปฐวีก็คิดว่าไม่มีทางที่เรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้น

ปฐวี มาถามเรื่องความสัมพันธ์ของบี๋กับตันหยง และได้รู้ว่าทั้งคู่เป็นเพื่อนสนิทกันมาก แต่บี๋ก็โกหกทำเป็นไม่รู้เรื่องว่าตันหยงอยู่ในร่างของน้องเมย์ตามที่ตันหยงขอร้องไว้ เพราะเธอเกรงว่าถ้าถึงตอนนี้แล้วเกิดปฐวีรู้ความจริง เขาอาจจะห่างเธอไปและเธอคงไม่มีใครเป็นเพื่อน เป็นคู่คิด เป็นคนคอยให้คำปรึกษา

วันหยุด เมธีกลับมาบ้าน น้องเมย์ต้องการให้พ่อกับแม่ออกไปข้างนอกด้วยกัน แต่เมื่อเจอปรางค์ทิพย์ก็พูดเหน็บให้ครอบครัวแตกแยกอีก เพราะปรางค์ทิพย์ถามว่างานเมธียุ่งอะไรนักหนาถึงต้องไม่กลับบ้าน เมธีไม่อยากต่อปากต่อคำด้วย ยิ่งกลายเป็นยั่วให้ปรางทิพย์โกรธ ปรางค์ทิพย์ยุให้ประภัสสรเข้าใจว่าที่เมธีไม่ยอมกลับมากินข้าวที่บ้าน และไปต่างจังหวัดบ่อยๆเป็นเพราะแอบไปมีบ้านเล็กบ้านน้อยอยู่ข้างนอก ประภัสสรได้แต่นั่งฟังพี่สาวพูดน้ำตาคลอเบ้า ตันหยงสงสารประภัสสรเหลือเกินแต่ไม่รู้จะช่วยยังไง เพราะประภัสสรเป็นคนหัวอ่อนหูเบาเชื่อคนง่าย แต่ที่ทำให้ตันหยงทนไม่ได้คือปรางค์ทิพย์พูดจาดูถูกเมธีว่าที่มาแต่งงานกับประภัสสร เพียงแค่อยากเกาะประภัสสรยกฐานะตนให้ดีขึ้นคงไม่ใช่เพราะความรัก ตันหยงทนไม่ไหวจึงเดินเข้ามาต่อว่าปรางค์ทิพย์ในแบบที่ผู้ใหญ่ต่อว่าตำหนิกัน จนทำให้ปรางค์ทิพย์ถึงกับอึ้งจนกลายเป็นโกรธแค้นไล่ตีน้องเมย์ แต่ตันหยงก็วิ่งไปมาอย่างรวดเร็วจนปรางค์ทิพย์ตามไม่ทัน ประภัสสรเองก็ตกใจกับคำพูดของลูกสาวตัวเอง จึงพยายามห้ามน้องเมย์ไม่ให้พูดแบบนั้นกับผู้ใหญ่ ตันหยงก็พูดว่าปรางค์ทิพย์ไม่ทำตัวเป็นผู้ใหญ่ให้น่านับถือ จนสุดท้ายเมื่อเห็นว่าวิ่งไล่ตีเด็กไม่ทัน ปรางค์ทิพย์จึงไปฟ้องคุณหญิงปรงทองว่าน้องเมย์ด่าเธอ
เมื่อคุณหญิงปรงทองถามความเป็นมาทำไมถึงด่าผู้เป็นป้า

แต่ตันหยงก็บอกไปตามความจริงว่าเพราะว่าปรางค์ทิพย์มาด่าว่าพ่อเธอก่อน ทำให้ปรางค์ทิพย์ที่นั่งอยู่ข้างๆใจเสีย แต่คุณหญิงก็นึกชมหลานสาวตัวน้อยที่วันนี้ดูจะฉลาดมีเหตุผลและเอาตัวรอดเก่งทันคนเกินเด็ก แต่เนื่องจากปรางค์ทิพย์เป็นผู้ใหญ่กว่า คุณหญิงจึงตัดสินลงโทษหลานสาวด้วยดารตีสามที เมื่อปรางค์ทิพย์เห็นว่าไม่สามารถทำอะไรน้องเมย์มากไปกว่านี้แล้ว จึงขอเป็นคนตีน้องเมย์เองให้สมกับกับความแค้นที่โดนด่า ประภัสสรเจ็บปวดแทนลูกน้อยเพราะตั้งแต่เธอและเมธีเลี้ยงลูกมาไม่เคยตีลูกเลยสักครั้ง จนเสียงของปฐวีดังขึ้นชายหนุ่มมองหน้าคนที่ตีหลานสาวคนโปรดของเค้าอย่างไม่พอใจ ปฐวีพยายามขอร้องคุณหญิงให้หยุดการตี แต่ก็ไม่สามารถหยุดได้เพราะอาจจะทำให้คุณหญิงเสียคำพูด ครั้งสุดท้ายปรางค์ทิพย์จึงตีน้องเมย์เบาก่อนสองครั้งก่อน เพราะรู้ดีว่าทั้งสองคนสนิทกันมากเธอต้องเกรงใจปฐวี
เมื่อถูกตีเสร็จตันหยงก็รีบเข้าไปกอดปฐวี เพื่อต้องการให้ความจ็บหายไป

ปฐวีเองก็รู้สึกเจ็บปวดแทนหลานสาวเหมือนกัน จึงปลอบใจหลานสาวด้วยการพาน้องเมย์ไปทานไอศกรีมที่ห้างสรรพสินค้าดังแห่งหนึ่ง หลังจากทานเสร็จสองน้าหลานก็พากันไปซื้อของขวัญทั้งตุ๊กตา ชุดสวยๆของประภัสสรที่น้องเมย์และปฐวีช่วยกันเลือกซื้อ เพื่อใส่ในงานครบรอบวันเกิดแปดสิบปีของคุณหญิงปรงทอง ที่ใกล้จะถึงเพียงแค่ไม่อีกวันข้างหน้านี้ซึ่งจะจัดที่บ้านของขวัญชิ้นสุดท้ายที่ตันหยงแสนจะดีใจคือสร้อยข้อมือที่ปฐวีซื้อให้ แต่พอกลับมาจากทานไอศกรีมถึงบ้าน ก็รู้ว่าเมธีและประภัสสรทะเลาะกันเรื่องที่เธอโดนตี ประภัสสรโทษว่าที่ลูกถูกตีเป็นเพราะเขาที่ไม่สามารถอยู่ปกป้องลูกสาวได้ ทำให้เมธีสำนึกผิดสงสารลูกสาวจนแทบจะไปหาเรื่องปรางค์ทิพย์ถึงที่บ้าน ตันหยงรู้ว่าเมธีรักน้องเมย์มากเพียงใด จึงพยายามทำให้เมธีใจเย็นลงด้วยการจ้อเล่าเรื่องที่วันนี้ปฐวีพาเธอไปซื้อของขวัญเยอะแยะ พร้อมทั้งอวดขวัญให้เมธีและแระภัสสรลืมเรื่องที่ทะเลาะกันเมื่อครู่นี้ ปฐวีนึกชมหลานสาวในใจกับการแก้ปัญหา เมื่อเห็นว่าพี่สาวและพี่เขยไม่ทะเลาะกันแล้วจึงขอลากลับบ้าน โดยไม่ลืมที่จะหันมากอดและหอมแก้มหลานสาวก่อนกลับบ้านเหมือนทุกครั้ง ทำให้ใจของตันหยงเต้นแรงอย่างประหลาดที่ยากจะอธิบายความรู้สึก หลังจากเหตุการณ์ที่น้องเมย์ถูกตีทำให้เมธีอยู่ติดบ้านมากขึ้น แต่ก็ยังมีปากเสียงกับประภัสสรลับหลังลูกสาว ต่อหน้าก็พูดกันดีเหตุการณ์ซ้ำๆซากๆจนตันหยงเบื่อที่จะพูด ทั้งที่ประภัสสรรับปากกับลูกสาวว่าจะพูดดีๆกับเมธี แต่พอเอาเข้าจริงๆกับทำไม่ได้อย่างที่รับปากไว้

วันหนึ่ง เมธี ที่ต้องไปพบลูกค้าและได้เจอกับนักร้องสาวสวยเอาใจเก่ง เมธีจึงเผลอไผลไปกับเธอ สุนันท์ พยายามเอาอกเอาใจเมธีทุกอย่าง และสัญญาว่าจะไม่เรียกร้องอะไรจากเมธี แต่อีกทางก็อ้างความลำบากลำบนจนเมธีต้องหาบ้านให้และรับแม่กับน้องของสุนันท์จากต่างจังหวัดมาเลี้ยงดูด้วย

บี๋ที่มาเฝ้าตันหยงและได้เห็นการดูแลเอาใจใส่ของปฐวี ที่มีต่อร่างของตันหยง เริ่มรู้ตัวว่าเธอคงจะไม่มีสิทธิ์ในตัวปฐวี แต่เมื่อสองสาวมาคุยกันมันก็ยิ่งเป็นเรื่องลำบากใจเพราะตันหยงก็ไม่รู้จะอยู่ในร่างของน้องเมย์ไปอีกนานแค่ไหน และถึงโตไปการที่เธอกับปฐวีจะรักกันก็คงเป็นไปไม่ได้เพราะเขาก็ไม่ต่างอะไรกับน้าแท้ๆของเธอ บี๋เข้าใจทุกอย่างแต่จะให้รักคนที่เขารักคนอื่นบี๋ก็ทำไม่ได้ บี๋ของอยู่คนเดียวดีกว่า ตันหยงรู้สึกเห็นใจบี๋มาก จึงแอบวางแผนให้นาวินกับบี๋ได้เจอกัน หรือเวลามีกิจกรรมโรงเรียนก็ให้นาวินบังคับให้บี๋มาอยู่ร่วมสีเดียวกัน

ทั้งปัญหาที่บ้านพ่อแม่ทะเลาะกัน ที่โรงเรียนน้องมิงค์ก็คอยกลั่นแกล้งสารพัด เพราะน้องมิงค์ชอบน้องนนท์อยู่ แต่น้องนนท์ชอบน้องเมย์ จึงทำให้กลายเป็นปัญหารักสามเศร้าของเด็กๆ อารมณ์ที่ไม่ดีทั้งเบื่อทั้งเซ็งมาจากที่บ้านอยู่แล้ว เพราะวันนี้ปฐวีติดธุระมาส่งเธอไม่ได้มาเจอแกล้งแบบเด็กๆ อีกจึงทำให้ตันหยงระเบิดออกมา แม้ใจของตันหยงจะอายุยี่สิบห้าปีแล้ว แต่เมื่อต้องมาอยู่ในร่างเด็กอายุห้าขวบ ทำให้ไม่สามารถตอบโต้แบบที่ผู้ใหญ่ทำได้ ตันหยงจึงประกาศอวดแบบเด็กๆว่าเธอไม่ได้สนใจน้องนนท์เธอมีแฟนแล้ว ซึ่งนั่นทำให้เธอกลายเป็นคนที่เจ๋งในสายตาของเพื่อนร่วมห้อง และทำน้องนนท์และน้องมิงค์กลายเป็นเพื่อนกับเธอ แล้วอาการเบื่อๆเซ็งๆของตันหยงก็หายไป

วันหนึ่งปฐวีแวะมารับเธอกลับบ้าน ระหว่างนั้นแม่น้องนนท์ก็เข้ามาทักน้องเมย์ เพราะลูกชายเธอพูดถึงบ่อยปฐวีจึงทักทายตอบเช่นกัน พอดีรถแม่น้องนนท์เสียปฐวีจึงอาสาพาสองแม่ลูกไปส่วที่บ้าน ระหว่างทางที่ออกจากหมู่บ้านจัดสรรตันหยงบังเอิญเห็นเมธีกำลังยืนกอดจูบกับผู้หญิงคนหนึ่งอายุคงไล่เลี่ยกับเธอ ตันหยงถึงกับช็อคพูดอะไรไม่ออก แม้จะรู้อยู่แล้วว่าเมธีทีบ้านเล็กบ้านน้อย แต่เมื่อมาเห็นกับตาตัวเองทำให้เธออดที่จะเจ็บปวดและสงสารประภัสสรผู้หญิงที่เธอเรียกว่าแม่ไม่ได้ เธอคงจะเจ็บปวดมากหากเธอได้มาเห็นกับตา เหมือนอย่างที่ตันหยงเคยเห็นพิรามคู่หมั้นนอนอยู่กับผู้หญิงอื่นบนเตียง ผู้ก็เหมือนกันทุกคนโลเล ไม่ซื่อสัตย์ ทรยศหักหลัง สรุปคือผู้ชายเลวหมดทุกคนในความคิดของตันหยงในตอนนี้ ทำให้ตันหยงพูดออกมาว่าเกลียดผู้ชาย ปฐวีหันมามองหลานสาวที่นั่งอยู่ข้างแล้วปลอบใจว่าที่เมธีทำลงไปคงมีเหตุผล แต่ตันหยงไม่ฟังพาลคิดว่าปฐวีเข้าข้างผู้ชายด้วยกัน

ก่อนจะถึงบ้านปฐวีขอร้องน้องเมย์อย่าบอกเรื่องที่ไปเจอวันนี้กับใคร เพราะไม่อยากหาพี่สาวต้องเสียใจตันหยงสัญญา หลังจากวันนั้นตันหยงก็งอนทั้งเมธีและปฐวี ทำตัวห่างเหินและหลบหน้าเมธีผู้เป็นพ่อ จนทำให้เมธีร้อนใจต้องถามลูกสาว ตัยหยงบอกเพียงแค่ว่าเมธีย่อมรู้อยู่แก่ใจ แต่ไม่ได้บอกเรื่องที่เธอเห็นเขาในวันนั้น ทำให่เมธีอยู่ติดบ้าน กลับบ้านเร็วทุกวัน และคอยไปรับไปส่งตันหยงจาหกโรงเรียนทุกวัน เอาใจน้องเมย์สารพัด การกระทำครั้งนี้ของเมธีทำให้ครอบครัวของเธอกลับมามีความสุขกันอีกครั้ง

ระยะหลังๆนาวินแอบสังเกตว่าบี๋กับน้องเมย์พูดคุยกันแปลกๆ ไม่เห็นครูกับลูกศิษย์เลย โดยเฉพาะเวลาที่อยู่กันสองคน จึงเอาเรื่องนี้ไปบอกปฐวีๆจึงเข้ามาแอบดูพฤติกรรมทั้งคู่แล้วก็ได้เห็นกับตาตัวเอง แต่ไม่ว่าจะคาดคั้นอย่างไรสองสาวก็ไม่ปริปากพูดเด็ดขาด เพราะถึงตอนนี้ตันหยงกลัวที่ปฐวีจะรู้ความจริงและไม่รักเอ็นดูเธอเหมือนหลานอีกต่อไป

เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วเมื่อช่วงที่น้องเมย์ต้องสอบเพื่อเรียนต่อในชั้นประถมศึกษาปีที่หนึ่ง ตันหยงมั่นใจกับการสอบครั้งนี้มาก และยังตั้งตัวเองเป็นติวเตอร์ให้กับเพื่อนๆนักเรียนในห้องอีกด้วย ในวันสอบสุดท้ายทางโรงเรียนได้มีการเลี้ยงเล็กๆฉลองจบชั้นอนุบาล วันนี้เป็นวันที่เด็กต่างพากันสนุก น้องนนท์เข้ามาสารภาพรักกันน้องเมย์ แต่ตันหยงรู้ทันเพราะน้องนนท์เลี่ยนแบบคำพูด มาจากในหนังสือการ์ตูนญี่ปุ่นที่ตันหยงเคยอ่านมาก่อน หลังจากสอบเสร็จวันประกาศผลสอบน้องเมย์สอบได้ที่หนึ่ง สร้างความฮือฮามากในขณะคุณครูในโรงเรียน ที่ได้คะแนนสอบสูงทุกวิชาราวกับมีปราฏิหาริย์ ครูบางคนลงความเห็นว่าอาจเป็นเพราะอุบัติเหตุครั้งนั้น เลยทำให้สมองของเธอมีรอยหยักเพิ่ม บางคนก็คิดว่าเธอไปผ่าตัดสมองเพิ่มรอยหยักมา ต่างฝ่ายต่างพากันแสดงความคิดเห็นของตน และยังมีการประชุมเพื่อเลื่อนชั้นให้เธอตามความสามารถของเธอ

ในวันรับใบประกาศนียบัตรทุกคนมาแสดงความยินดีกับเธอมาก แต่คนที่เห็นจะอิจฉาเค้าคงหนีไม้พ้นปรางค์ทิพย์ เพราะคุณหญิงปรงทองให้สร้อยทองของเก่าแก่เป็นรางวัลที่สอบได้ที่หนึ่งและไดโล่รางวัลเรียนดี ในขณะที่ลูกสาวเธอได้แค่ตุ๊กตาธรรมดาๆเป็นรางวัลเท่านั้น ด้วยเหตุนี้ทำให้ปรางค์ทิพย์ถึงกับปฏิญาณกับตนเอง ว่าลูกสาวของเธอจะต้องได้ดีกว่าลูกสาวของประภัสสร โดยช่วงปิดเทอมปรางค์ทิพย์ได้จ้างครูสอนพิเศษให้มาสอนลูกสาวทั้งด้านวิชาการและดนตรี ทำให้ลูกสาวทั้งสองไม่มีเวลาเที่ยวเล่นหรือแม้แต่จะพักผ่อนตามประสาเด็กเลย ทุกคนในบ้านรู้กันดีว่าปรางค์ทิพย์ไม่เคยหวังดีกับใคร โดยเฉพาะปรางค์ทิพย์เธออิจฉาประภัสสรมาตั้งแต่สมัยสาวๆเพราะเธอแอบชอบเมธีตั้งแต่สมัยที่มาอาศัยอยู่บ้านใหม่ๆ แต่เมธีกับประภัสสรดันรักกันเธอจึงหมดโอกาส จนถึงปัจจุบัน ที่คอยแวะไปคุยกับประภัสสรที่บ้านแท้จริงก็เพื่อพูดยุให้ครอบครัวทะเลาะกัน

ด้วยความที่ประภัสสรเป็นคนหูเบาเชื่อคนง่าย ปรางค์ทิพย์จึงใช้วิธีพูดคอยทำร้ายประภัสสร เมื่อเกิดปากเสียงทะเลาะกันคนที่สาสมใจก็คงหนีไม่พ้นปรางค์ หลังจากรับใบประกาศนียบัตรเสร็จแล้วคุณหญิงก็พาทุกคนไปทานข้าวฉลองกัน ก่อนกลับบ้านตันหยงขอให้ปฐวีพาไปสวนสนุก ปราค์ทิพย์เริ่มแขวะถึงความอยุติธรรมที่ปฐวีไม่เคยสนใจปรงแก้วปรงขวัญ แต่พอชวนจริงๆเด็กหญิงทั้งสองก็ไม่อยากไป ทำให้ปรางค์ทิพย์รู้สึกขัดใจมาก

ที่สวนสนุก ทั้งสองพากันไปเล่นเครื่องเล่นหลายๆชิ้น พอใกล้กลับปฐวีและตันหยงก็พบเสกสรรสามีของปรางค์ทิพย์ที่พาลูกและภรรยาอีกคนมาเที่ยวสวนสนุก ย้ำกับหลานสาวว่าอย่าพึ่งไปบอกใคร ก่อนแวะพาตันหยงไปเลือกซื้อจี้ใส่สร้อยที่คุณย่าให้เป็นรางวัล ปฐวีเลือกจี้รูปหัวใจให้ตันหยงก่อนกลับบ้าน

เมื่อมาถึงบ้านก็พบว่าคุณหญิงกำลังเตรียมงานกำลังวุ่นวายกันจนปฐวีไม่อยากนอนที่บ้าน จึงขอมานอนที่บ้านพี่สาวแทน ตันหยงจึงเดิมมาที่บ้านก่อนปฐวี เมื่อมาถึงเธอพบว่าคุณประภัสสรกำลังมีแขกอยู่ แต่เมื่อเห็นหน้าแขกตันหยงรู้ทันทีว่าคือสุนันท์บ้านน้อยของพ่อนั่นเอง จึงเดินเข้าไปหาแม่ที่กำลังร้องไห้อยู่ ผู้หญิงที่มาเธอมาเรียกร้องสิทธิ์เมียคนหนึ่งของเมธี และต้องการให้ประภัสสรหย่ากับเมธี ตันหยงทนไม่ได้ที่ผู้คนนี้เข้ามาทำร้ายจิตใจผู้เป็นแม่ถึงที่บ้าน จึงไล่สุนันท์ออกจากบ้านไปอย่างเจ็บแสบจนเกือบจะมีเรื่องกัน ยังดีที่ปฐวีมาช่วยได้ทันและลากผู้หญิงคนนั้นออกไป ส่วนเธอก็เข้าไปดูประภัสสรที่หมดสติไปตันหยงอยู่ดูแลจนประภัสสรได้สตีเธอจึงกลับห้องนอนของเธอ ทิ้งตัวนอนลงอย่างหมดแรงเหนื่อยกับปัหาที่ต้องมาเจอสงสารทั้งประภัสสรและปรางค์ทิพย์ที่สามีไปมีบ้านเล็กบ้านน้อย กระทั้งปฐวีกลับเข้ามาดูหลานสาวที่นอนหมดแรงอยู่บนเตียง สงสารหลานสาวที่อายุแค่นี้แต่ต้องมาเจอเรื่องพวกนี้

จนในที่สุดวันงานวันเกิดครบรอบแปดสิบปีก็มาถึง บี๋กับนาวินก็ได้รับเชิญในฐานะแขกของตันหยงซึ่งปรงทองก็อนุญาต ยังความหมั่นไส้มาให้ปรางค์ทิพย์มากทั้งๆที่ปรงทองก็อนุญาตให้ทุกคนเชิญแขกมาได้ตามใจ เช้าวันนี้ตันหยงถูกปลุกให้ตื่นแต่เช้า เธอเข้าไปช่วยประภัสสรแต่งตัวในห้อง เมื่อเมธีกลับมาจากต่างจังหวัดเพื่อมาให้ทันงานเลี้ยงฉลอง ตันหยงบอกเมธีเรื่องที่สุนันท์เข้ามาเรียกร้องสิทธิ์ถึงที่บ้าน ทำให้เขาตกใจไม่คิดว่าสุนันท์จะกล้าถึงเพียงนี้ และสำนึกผิดอยากขอโทษทั้งลูกสาวและภรรยา แต่เนื่องจากงานทำบุญในตอนเช้ากำลังจะเริ่มจึงทำให้ต้องเก็บเรื่องนี้ไว้ก่อน งานทำบุญเลี้ยงพระที่บ้านในตอนเช้าเริ่มขึ้น ขณะที่นั่งฟังเทศน์ตันหยงแอบปฐวีอยู่ตลอด เสร็จแล้วก็ถวายภัตตาหารแม้จะอยู่ในร่างเด็กแต่เธอก็ดูเรียบร้อย สุดท้ายแล้วจึงรับน้ำมนต์

ตลอดเวลาตันหยงนั่งอยู่ใกล้ปฐวีตลอดมัมทำให้เธอมีความสุข ระหว่างที่ตันหยงนั่งรับน้ำมนต์อยู่คุณหญิงที่มองมาทางหลานสาวก็ต้องตกใจ เมื่อเห็นภาพน้องเมย์นั่งซ้อนภาพตันหยง ท่านก็ไม่เข้าใจว่าทำไมจึงเกิดภาพนิมิตนี้แล้วมันมีความหมายว่าอย่างไร ปรงทองเรียกปฐวีให้มาดูซึ่งปฐวีก็ตกใจที่เห็นร่างของตันหยงนั่งแทนที่น้องเมย์ ซึ่งคราวนี้เขาเห็นได้ชัดมากกว่าคราวก่อน แถมยังมีคนเห็นเหมือนกันอีกคนคือแม่ของเขาเอง ปรงทองจึงเรียกน้องเมย์เข้ามาใกล้แล้วถอดสร้อยพระของรักของหวงที่ท่านใส่มาตั้งแต่ยังสาวให้น้องเมย์ ทำให้หลายคนถึงกับตาโตหนึ่งในนั้นคือปรางค์ทิพย์ที่มองน้องด้วยความเกลียดชัง ปฐวีเริ่มมีอาการแปลกออกไปกับน้องเมย์จนตันหยงเองรู้สึกได้ ปฐวีเริ่มถามคำถามแปลกเช่นน้องเมย์ไม่กินเหล้าเหรอ หรือแม้แต่แกล้งให้ตันหยงไปเรียกเพื่อนมา ซึ่งตันหยงก็ปรึกษากับบี๋ว่าจะเอายังไงดี แต่บี๋บอกให้เฉยๆไปก่อน

เมื่อถึงเวลางานเลี้ยงตอนค่ำบรรดาลูกหลานต่างพากันเปลี่ยนชุดที่ดูหรูหรากันทุกคน ส่วนตันหยงและประภัสสรกลับไปเปลี่ยนชุดที่บ้านตันหยงและปฐวีร่วมมือกันเปลี่ยนโฉมประภัสสรจนกลายเป็นผู้หญิงที่สวย ขนาดที่ว่าเมธีเห็นถึงกับตาค้างตะลึงในการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ของภรรยาย รวมไปถึงบรรดาแขกภายในงานแต่ชมว่าประภัสสรสวยขึ้น เห็นจะมีแต่ปรางค์ทิพย์เท่านั้นที่ค่อยแต่จะอิจฉาและพูดจาไปให้ทางเสียหาย จนกระทั้งถึงเวลาคุณหญิงปรงทองเปิดพิธีงานเต้นร่ำ ปรงแก้วและปรงขวัญลูกสาวของปรางค์ทิพย์ออกมาร่ำอวยพรถวาย ส่วนตันหยงเธอร้องเพลงฝรั่งโดยมีปฐวีช่วยดีดกีต้าร์ให้ สร้างความประทับแก่บรรดาแขกในงาน แต่คนที่จะดูเป็นปลื้มมากกว่าใครคงจะเป็นคุณหญิงปรงทอง เมธี และประภัสสร ส่วนปฐวีก็ยิ่งเพิ่มความสงสัยมากขึ้น

หลังจากงานเลี้ยงฉลองผ่านไปเมธีและประภัสสรก็ปรับความเข้าใจกันได้ และไปพากันไปเที่ยวทะเล โดยที่ปฐวีจะตามไปเที่ยวทีหลัง ช่วงนี้ครอบครัวเธอจึงกลับมามีความสุขอีกครั้ง น้องนนท์โทรศัพท์มาชวนตันหยงไปงานวันเกิด เธอจึงรับปากว่าจะไปโดยมีปฐวีเดินเลือกซื้อของขวัญ เพราะเขาไม่สามารถไปร่วมงานวันนี้ได้ เย็นวันนี้เธอจึงให้ลุงแก้วขับรถไปส่งที่บ้านของน้องนนท์ ระว่างนั้นตันหยงเห็นปฐวีที่บ้านของสุนันท์ไหนเขาบอกว่า วันนี้มากับเธอไม่ได้ติดธุระ นี่คงเป็นธุระที่สำคัญของเขาด้วย เธอเสียใจมากจึงวิ่งตากฝนไปไม่ยอมฟังปฐวีที่พยายามจะอธิบาย ตันหยงเดินไปเรื่อยๆจนมาถึงบ้านเดิมของเธอ อยากพบแม่แต่คุณบุหงาไม่อยู่ เธอจึงต้องกลับบ้านของน้องเมย์ เมื่อมาถึงบ้านเธอก็พบว่าเขามารอเธออยู่ก่อนแล้ว ปฐวีเล่าถึงสาเหตุที่ต้องไปพบสุนันท์เพราะเพียงแค่ต้องการไปเสนอเงิน เพื่อให้เลิกติดต่อกับเมธีอีกต่อไป เมื่อปฐวีพูดจบแต่ยังดูเหมือนตันหยงจะไม่ยอมหายโกรธเขา จึงหันหลังกลับเดินออกไปแต่เธอก็เรียกเค้าไว้ก่อน จังหวะที่ปฐวีหันกลับมามองหลานสาว เขาเห็นภาพซ้อนระหว่างน้องเมย์และภาพของตันหยง ซึ่งตันหยงก็ขอให้ปฐวีพาเธอไปโรงพยาบาล แล้วตันหยงก็บอกว่าเธอไม่ใช่น้องเมย์ แต่เธอคือผู้หญิงคนที่นอนอยู่ตรงนี้ ปฐวีเสียใจมากที่รู้ว่าหลานสาวไม่อยู่แล้ว และเขาก็รับไม่ได้ที่ผู้หญิงที่เขาชอบมาอยู่ในร่างนี้ ปฐวีจึงห่างเหินตันหยงไปซึ่งตันหยงก็เข้าใจในความรู้สึกนี้

หลังจากเหตุการณ์เข้าใจผิดระหว่างน้องเมย์กับปฐวีจบลง เมธีก็กลับไปเจรจาตกลงกับสุนันท์ได้โดยเสียเงินไปจำนวนมากพร้อมบ้านหนึ่งหลัง รถหนึ่งคัน เพื่อแลกกับการเลิกกันอย่างถาวร ความสุขก็กลับมาอีกครั้งเมื่อรู้ว่าประภัสสรกำลังจะมีน้อง
เรื่องราวทำท่าจะดูดีสำหรับทุกชีวิตยกเว้นแค่ปฐวีกับน้องเมย์ที่ไม่สนิทกันเหมือนก่อนจนแม้แต่ปรงทองเองก็แปลกใจ แต่แล้ววันหนึ่งเมธีก็ได้รับมอบหมายจากปรงทองให้ช่วยกันกับปฐวีช่วยกันตรวจสองทรัพย์สินเพื่อที่คุณหญิงจะวางมือจากธุรกิจ แต่กลายเป็นว่าเมธีเจอว่า เสกสรรค์ที่ใช้ความเป็นผู้จัดการธนาคารเข้ามาแนะนำการลงทุนให้กับปรงทอง แต่จริงๆแล้วยักยอกเงินไปมากมาย เมธีกับปฐวีจะดำเนินการตามกฎหมายให้เสกสรรถูกจับถ้าไม่นำเงินมาคืน ซึ่งเสกสรรค์ยอมรับว่าทำเองทั้งหมดและจขอคืนเงินพร้อมทั้งขอหย่าขาดจากปราค์ทิพย์ โดยจะเอาลูกๆไปอยู่กับตัวเองและครอบครัวใหม่ที่ต่างจังหวัด ปรางค์ทิพย์ทั้งเจ็บทั้งอายและยิ่งมาเจ็บซ้ำเมื่อปรงทองขอให้เมธาช่วยดูแลกิจการในส่วนของอสังหาริมทรัพย์ต่างๆที่เป็นของปรางค์ทิพย์และประภัสสร ปราค์ทิพย์จึงกลับมายุประภัสสรอีกแต่คราวนี้ประภัสสรไม่เชื่อพี่สาวและเถียงคืน ปรางค์ทิพย์โกรธมากจะทำร้ายประภัสสร ตันหยงเห็นเหตุการณ์จึงเข้ามาช่วยแต่ถูกปรางค์ทิพย์ผลักตกบันไดอีกครั้งท่ามกลางความตกใจของประภัสสรและปรางค์ทิพย์ ปฐวีเข้ามาเห็นเหตุการณ์พอดีก็รีบปฐมพยาบาลและนำส่งโรงพยาบาล

ในห้องไอซียู ตันหยงขอโทษปฐวีและทุกคนที่เข้ามาอยู่ในร่างน้องเมย์ ตอนนี้ถึงเวลาที่เธอจะต้องไปแล้ว ประภัสสรถามหาน้องเมย์ ตันหยงบอกว่าน้องเมย์อยู่ข้างบนก่อนเธอแล้ว และตอนนี้เธอคงจะตามไปด้วย พูดจบร่างของน้องเมย์ก็ค่อยๆหลับลงไป ปฐวีรีบมาที่ห้องของตันหยงและเฝ้าร่างของตันหยงพร้อมๆกับพ่อแม่และพิรามจนผ่านไปหนึ่งวันชีพจรของตันหยงก็อ่อนลง ปฐวีบอกให้ทุกคนทำใจ แต่แล้วเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นเมื่อทุกอย่างกลับดีขึ้น ดีขึ้น และดีขึ้นมากจนตันหยงค่อยๆฟื้นขึ้นมา พิรามและพ่อกับแม่ของตันหยงดีใจมาก รวมทั้งปฐวีด้วย ตันหยงขอให้ปฐวีพาเธอไปหาร่างของน้องเมย์ ซึ่งทำให้พ่อกับแม่และพิรามที่รู้เรื่องต่างพากันงงกับสิ่งที่เกิดขึ้น

ที่ห้องพักของน้องเมย์ ปฐวีพาตันหยงเดินเข้ามาท่ามกลางความงุนงงของทุกคน ตันหยกไหว้และทักทุกคนได้อย่างถูกต้องและบอกว่าน้องเมย์จะกลับมาอีกครั้ง เพียงแต่ไม่ใช่ในร่างนี้ ทุกคนไม่อยากเชื่อยกเว้นปรงทองที่เห็นน้องเมยยืนยิ้มอยู่ข้างเตียง แต่บี๋กับนาวินก็มาช่วยยืนยันอีกแรง แล้วเครื่องวัดชีพจรกับหัวใจของน้องเมย์ก็หยุดทำงาน เมธีและประภัสสรเสียใจมากจนเป็นลม ปฐวีต้องเข้าดู

เมื่อฟื้นขึ้นประภัสสรก็ได้รับข่าวดีว่าเธอตั้งครรภ์ได้หนึ่งเดือนแล้ว และในฝันระหว่างที่เธอเป็นลม น้องเมย์ก็มาบอกว่าจะขอมาเกิดอีกครั้งและคราวนี้จะอยู่กับคุณพ่อคุณแม่ไปนานเท่านาน ปรงทองยืนยันว่าจริง ปรางค์ทิพย์เข้ามาขอโทษทุกคน เพราะความโลภความอิจฉาเกือบจะทำให้เธอเป็นฆาตกรไปแล้ว ตันหยงขอบคุณปฐวีที่ดูแลเธออย่างดีตลอดสามเดือน แต่พูดไม่ทันขาดคำพิรามก็ขอพาตัวตันหยงกลับไปยังห้อง ปฐวีจำต้องปล่อยไปด้วยความเศร้า

เมื่อกลับมาบ้าน พ่อกับแม่และพิรามก็คิดจะเตรียมการจัดงานแต่งงานอีกครั้ง บี๋พยายามจะบอกให้ตันหยงคิดดูให้ดีว่าหัวใจของเธอรักใคร ทางด้านนาวินก็รีบไปส่งข่าวให้ปฐวีรู้ แต่ปฐวีก็ไม่สามารถจะเข้าไปแย่งคนรักของใครได้ บี๋ที่พาตันหยงมาแอบฟังความในใจของปฐวีจึงบอกให้ตันหยงคิดเอาเอง จนถึงวันงานแต่งงานของตันหยง ตันหยงตัดสินใจบอกพิรามว่าเธอแต่งงานกับพิรามไม่ได้ เพราะตอนนี้เธอรักปฐวีไปแล้ว พิรามเสียใจมากแต่ก็เข้าใจว่าเป็นตัวเขาเองที่ทำลายทุกอย่างจึงยอมปล่อยตันหยงไป และงานแต่งงานใหญ่โตในวันนั้นก็ต้องยกเลิกเพื่อที่จะมาเป็นงานแต่งงานเล็กๆในวันรุ่งขึ้นระหว่างปฐวีกับตันหยงที่บ้านโภควันต์ รวมทั้งการประกาศหมั้นกันของบี๋และนาวิน ซึ่งบี๋ของนาวินว่าจะไปเรียนโทสองปีกลับมาแล้วค่อยแต่งงาน แต่นาวินไม่ยอมเพราะกลัวมีอาถรรพ์เหมือนตอนพิรามกับตันหยง ซึ่งบี๋ว่าก็ดีน่ะสิ เผื่อจะได้เจอคนใหม่ที่ดีกว่าหล่อกว่าอย่างที่ตันหยงเจอ สุดท้ายนาวินเลยประกาศจะแต่งงานก่อนไปเรียนเอกที่เมืองเดียวกับบี๋ที่ไปเรียนโท และสุดท้ายทุกคนก็มีความสุขชื่นมื่นในงานแต่งงานเล็กๆ แต่อบอุ่นในความเป็นครอบครัวจากทั้งฝ่ายปฐวีและฝ่ายตันหยง

จบบริบูรณ์

พรพรหมอลเวง บทประพันธ์ : กิ่งฉัตร
พรพรหมอลเวง บทโทรทัศน์โดย : วรวรรณ ชัยสกุลสุรินทร์
พรพรหมอลเวง กำกับการแสดงโดย : ชุดาภา จันทเขตต์
แนวละคร : โรแมนติก - คอมเมดี้
พรพรหมอลเวง ผลิตโดย : บ. เวฟมีเดีย
พรพรหมอลเวงออกอากาศ ทุกวันศุกร์ - เสาร์ และอาทิตย์ เวลา 20.15 น. ทางไททีวีสีช่อง 3
พรพรหมอลเวง เริ่มออกอากาศตอนแรก ในวันศุกร์ที่ 8 ก.พ. 56 (ต่อจาก แรงปรารถนา)
ที่มา manager