@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร พรพรหมอลเวง ตอนที่ 1 วันที่ 2 ก.พ. 56

อ่านละคร พรพรหมอลเวง ตอนที่ 1 วันที่ 2 ก.พ. 56

แอร์โฮสเตสกำลังเดินดูแลความเรียบร้อย ของผู้โดยสารตามทางเดินบนเครื่องบิน ตันหยงนั่งยิ้มอยู่ในขณะที่ผู้โดยสารรอบตัวกำลังหลับไหล พนักงานต้อนรับเดินเข้ามาถาม

“ต้องการอะไรหรือเปล่าคะ”
“ไม่ค่ะ ขอบคุณ...เอ่อ..นี่อีกกี่ชั่วโมงจะถึงเมืองไทยคะ” ตันหยงถาม
“ประมาณ 2 ชั่วโมงค่ะ” พนักงานยิ้ม
“ขอบคุณค่ะ”

ตันหยงยิ้มตอบและแสดงอาการตื่นเต้นที่จะได้กลับเมืองไทย เจ้าหน้าที่เดินไป ตันหยงยิ้มแล้วหยิบไอแพดออกมาเปิดดู ที่หน้าจอเป็นรูปตันหยงกับพิรามยืนยิ้มอยู่คู่กัน

เหตุการณ์ในอดีตที่มาของรูปหวานย้อนกลับมาในห้วงคำนึงของตันหยง ครั้งนั้นพิรามบรรจงสวมแหวนให้ตันหยง ทั้งสองมีความสุข ส่วนผู้ใหญ่ของทั้งสองฝ่ายต่างก็ปลาบปลื้มยินดี ทั้งคู่ยิ้มให้กันอย่างมีความสุข ช่างภาพถ่ายรูป พิรามซับเหงื่อให้ตันหยง



ที่มุมหนึ่งในงานเลี้ยงของพิธีหมั้น
“ผมอยากแต่งงานกับหยงเร็วๆจัง” พิรามบอก
“เราก็หมั้นกันแล้วไงคะ” ตันหยงยกนิ้วให้พิรามดู
“หมั้นแล้ว คุณก็จะทิ้งผมไปเรียนต่อ ตั้ง 2 ปี” พิรามยิ้มอ้อน
ตันหยงใช้สองมือแตะแก้มพิรามแล้วยื่นหน้าเข้าหา “แค่ 2 ปีเอง”
“ให้ผมบินไปส่งคุณ ผมขอดูแลให้เรียบร้อยจนถึงวันเรียน”
“อย่าเลยค่ะ ใครรู้เข้า...”
“มันจะดูไม่ดี!” พิรามพูด ทั้งสองหัวเราะออกมา “อีกแล้ว... ไม่ดียังไง เราหมั้นกันแล้ว ไม่เห็นน่าเกลียดตรงไหนเลย ให้ผมไปนะ” พิรามอ้อน
ตันหยงพูดด้วยน้ำเสียงชัดเจน แต่ยิ้มน้อยๆ “หมั้นแล้ว แต่ยังไม่ได้แต่ง !” ตันหยงซีเรียสขึ้นมา “แล้วคุณก็ขึ้นเป็นผู้บริหารต่อจากคุณพ่อคุณแล้ว ไหนจะบริษัทของตัวเองอีกนะคะ ไม่ต้องห่วงหยง”
พิรามจนมุมจึงถอนใจ “สัญญาว่าเราจะคุยกันทุกวัน”
“หยงกลัวว่าคุณนั่นแหล่ะ จะยุ่งจนไม่มีเวลาคุยกับหยง”
“สำหรับหยง ผมว่างเสมอ” พูดจบพิรามก็สวมกอดตันหยง
“ห่างคุณแค่คืนเดียว ผมก็แทบจะขาดใจแล้ว นี่ตั้งสองปีเชียวนะ คุณตั้งใจจะทรมานผมใช่มั๊ย” พิรามก้มลงจะจูบตันหยง
ตันหยงดันหน้าพิรามไว้ “ก็ได้ ก็ได้ หยงสัญญาค่ะ ปล่อยก่อนเร็ว เดี๋ยวใครมาเห็นเข้า...”
สุดนภานำทีมเพื่อนๆโห่ร้องพร้อมทั้งโผล่ออกมาจากที่ซ่อนแล้วก็ปรบมือให้
“พวกเรา น่าสงสารมดแถวนี้จังเลย สงสัยจมน้ำตาลตายแน่” สุดนภาแซว
ตันหยงเขินสุดๆ พิรามมองตันหยงด้วยความรัก

พอคิดถึงเหตุการณ์ในอดีต ตันหยงก็ยิ้มแล้วมองหน้าพิรามในไอแพด
“ขอโทษนะ ที่ไม่ได้บอกว่าจะกลับวันนี้ หยงแค่อยากจะเซอร์ไพรส์คุณ”
ตันหยงหยิบไอแพดขึ้นมากอดไว้แนบอก ก่อนจะยิ้มอย่างมีความสุข

ที่ประตูผู้โดยสารขาเข้าของสนามบิน ตันหยงเดินเข้าประตูมา
“ถึงบ้านซะที ..”
ตันหยงมองรอบๆตัวอย่างตื่นเต้น

ปฐวีเดินออกจากประตูมาพร้อมๆ กับตันหยง แต่ต่างคนต่างก็ไม่สนใจกัน ปฐวีก้มหน้าถอดแว่นตาออกมาเช็ด ตันหยงเดินผ่านหน้าปฐวีไป ปฐวีสวมแว่นคืนแล้วเดินไปทางเดียวกับตันหยง

ตันหยงเดินมาถึงก็ล๊อคเก็บรถเข็น แล้วตันหยงพยายามจะดึงรถเข็นออกมาแต่ก็ดึงไม่ออก ปฐวีที่เดินตามมามองเห็นท่าทางตันหยงแล้วยิ้ม
“need a help!” ปฐวีถามแล้วยื่นมือไปดึงรถเข็นออกมาให้ตันหยง ก่อนจะมองหน้าตันหยง
“Thank you.” ตันหยงบอก
ตันหยงกับปฐวีมองหน้ากัน ปฐวียิ้มแล้วก็ชะงัก
“ขอบคุณค่ะ” ตันหยงพูดอีกครั้ง
ตันหยงเข็นรถตัวเองออกไป ปฐวียิ้มเขินๆ
“อ้าว นึกว่านักท่องเที่ยว ที่แท้ก็คนไทย”
ปฐวีขำตัวเองแล้วดึงรถเข็นของตัวเองออกมาก่อนจะเดินไป
ปฐวีและตันหยงเดินไปยืนรอกระเป๋าของตัวเองอยู่คนละฝั่งของสายพานลำเลียงกระเป๋า ปฐวีหันหน้าไปก็เห็นตันหยงกำลังตื่นเต้นและยิ้มมีความสุขที่ได้กลับบ้าน ปฐวีมองแล้วอมยิ้มอย่างมีความสุขตาม

ตันหยงเข็นรถพร้อมสัมภาระของตัวเองพร้อมกับลากกระเป๋าออกมามองหาคนมารอรับ
“ทำไมยังไม่มานะ”
ตันหยงหยิบโทรศัพท์ของตัวเองออกมาโทร.ออก

“คุณแม่คะ”
บุหงากดรับโทรศัพท์ด้วยท่าทางตื่นเต้น ขณะที่พินิจนั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ข้างๆ

“หยงหรือลูก”
บุหงาหันไปสะกิดพินิจ พินิจรีบวางหนังสือพิมพ์แล้วเข้ามาฟังด้วย
“มาถึงนานหรือยัง หนูรออยู่ตรงไหนเนี่ย...”
“หนูเพิ่งมาถึงค่ะ รอตรง ผู้โดยสารออก คุณแม่ถึงหรือยังคะ” ตันพยงถาม
“รอแป๊บนึงนะลูก แม่กำลังเข้าที่จอดรถ สัญญาณไม่ดี...เดี๋ยวแม่โทรหานะจ๊ะ”
บุหงากดปิดโทรศัพท์แล้วหันไปมองพินิจ
“จะเป็นอะไรหรือเปล่าเนี่ย ลูกจะโกรธเรามั๊ย”
“จะโกรธอะไรได้ ขี้คร้าน จะยิ้มหน้าบานน่ะสิ” พินิจบอก
บุหงานึกได้) ไม่ได้การ ต้องโทรแจ้งข่าวก่อน”
“ทำยังกะหนังสายลับเฮ้อ...แม่กับว่าที่ลูกเขยคู่นี้ อะไรก็ไม่รู้”
บุหงาค้อนแล้วรีบต่อโทรศัพท์ทันที พินิจยิ้มแล้วอ่านหนังสือพิมพ์ต่อ

ตันหยงกดวางสายแล้วเดินเข็นกระเป๋าไป เธอมองร้านค้าในสนามบินแก้เบื่อ สองสามีภรรยาชาวต่างชาติเข็นรถเข็นที่มีข้าวของเต็มไปหมดพร้อมกับคุยโวยวายโดยไม่มองคนอื่นมาตามทางเดินอีกฝั่ง
แล้วรถเข็นสองสามีภรรยาชาวต่างชาติก็มาชนรถของตันหยงเข้าอย่างจังจนกระเป๋าเล็กของตันหยงกระเด็นไป ขวดเหล้าในรถเข็นของสองสามีภรรยาหล่นแตก กระเป๋าตันหยงกระเด็นไปตกตรงหน้าปฐวี ปฐวีหยิบขึ้นมามองหาเจ้าของ
“โอ๊ยตายแล้ว... I am sorry” ตันหยงพูด
สองสามีภรรยาโวยวายเป็นภาษาเกาหลี
“นี่คุณ เข็นรถยังไงไม่รู้จักดู ทำข้าวของเสียหาย คุณต้องชดใช้นะ”
ตันหยงพูดเป็นภาษาอังกฤษ “คุณพูดภาษาอังกฤษได้ไม๊ ชั้นฟังไม่รู้เรื่องหรอกแล้วคุณก็มาชนชั้นเองนะ จะโวยวายทำไมเนี่ย ชั้นสิเป็นฝ่ายเสียหายอุตส่าห์ขอโทษตามมารยาทก่อนแล้วนะ ชั้นจะเรียก ซิคิวริตี้ มาคุยแล้วกัน” ตันหยงส่ายหัว
ตันหยงหันมองหา รปภ. แต่ยังไม่เห็น สองสามีภรรยาเกาหลียังโวยวายไม่เลิก ตันหยงเริ่มหงุดหงิด ปฐวีเข็นรถเข็นเดินเข้ามาแล้วหยุดยืนดูเหตุการณ์ สองสามีภรรยาโวยวายไม่หยุด ตันหยงชะงัก
ภรรยาพูดเป็นภาษาเกาหลี “คุณทำของชั้นเสียหายคุณต้องชดใช้ ไม่งั้นชั้นจะแจ้งความ”
ตันหยงชะงักแล้วหันกลับมาโต้ตอบอย่างสุภาพ
“I do not understand. What you say.”
ตันหยงถอนใจด้วยความเซ็ง

หัวหน้าทัวร์วิ่งถือธงกระหืดกระหอบเข้ามาตามลูกทัวร์คู่นี้พร้อมกับส่งภาษาเกาหลีบอกให้รีบไป
“โอย อยู่นี่เอง ยังกะจับปูใส่กระด้ง ไปเร็วๆ --@#$$%%^&*())_” หัวหน้าทัวร์พูดเกาหลีให้ไปเร็วๆ แล้วพยายามต้อนไป
สามีภรรยาเกาหลีแข่งกันฟ้องว่าผู้หญิงคนนี้ชนขวดเหล้าหล่นแตก หัวหน้าทัวร์มองงงๆ แล้วแปล
“อ้าว เค้าบอกคุณชนของเค้าเสียหาย จะให้ชดใช้”
ตันหยงพูดกับหัวหน้าทัวร์ “คุณสองคนนี่เข็นรถเข้ามาชนชั้นเอง แล้วยังจะให้ชั้นชดใช้อะไร ชั้นไม่ได้เป็นฝ่ายผิดนะ”
หัวหน้าทัวร์หันไปพูดกับลูกทัวร์เป็นภาษาเกาหลี “เค้าบอกว่าเค้าไม่ผิด”
“ถ้าไม่ชดใช้ จะแจ้งความ” สองสามีภรรยาเกาหลีบอก
“เค้าบอกว่าคุณต้องชดใช้ ไม่งั้นเค้าจะแจ้งความ”
สองสามีภรรยายิ่งโวยวาย ตันหยงก็เถียงแบบไม่ยอมแพ้
“คุณดูสิคะ เค้ามาชนรถชั้นเอง กระเป๋าชั้นก็กระเด็นไปโน่น อย่างนี้ชั้นยังต้องชดใช้อีกหรือ”
หัวหน้าทัวร์มองซ้ายที ขวาทีแล้วเริ่มเอามือกุมหัว
“โอ๊ย เปลี่ยนอาชีพดีกว่าไม๊เนี่ย”
ปฐวีเดินเข้ามาเสนอ
“ขอดูภาพจากกล้องวงจรปิดสิครับ”
หัวหน้าทัวร์มองหน้าปฐวีแล้วยิ้มดีใจเพราะเห็นด้วย เธอหันไปพูดกับนักท่องเทียวเป็นภาษาเกาหลี
“งั้นไปดูภาพจากกล้องวงจรปิด” หัวหน้าทัวร์พูดไทยต่อ “ไป ไป” หัวหน้าทัวร์จับมือลูกทัวร์ “ไปขอดูภาพจากกล้องวงจรปิดกัน ขอเชิญไปดูพร้อมๆกันเลย” หัวหน้าทัวร์พูดกับตันหยง
“ยินดีค่ะ” ตันหยงบอก
สองสามีภรรยาหันมามองหน้ากันแล้วซุบซิบ
“เราเปลี่ยนใจแล้ว เสียเวลา” สามีชาวเกาหลีพูด
หัวหน้าทัวร์ส่ายหัว “อ้าว เปลี่ยนใจซะแล้ว เฮ้อ. คงไม่มีปัญหาแล้วค่ะ ขอโทษนะคะโอ๊ย จะบ้าตาย งั้นก็ไปไป” หัวหน้าทัวร์พูดเกาหลี “งั้นไปเร็ว ไป ไป” หัวหน้าทัวร์หันมาขอโทษอีกรอบ
ตันหยงพูดกับปฐวี “ขอบคุณนะคะ”

ปฐวียิ้มก่อนจะหยิบกระเป๋าส่งให้ตันหยง ตันหยงขอบคุณ ทันใดนั้นเสียงโทรศัพท์ของตันหยงก็ดังขึ้น ตันหยงรีบเลี่ยงไปรับ ปฐวียิ้มเจื่อน
“อะไรนะคะ ตรงไหนนะ ได้ค่ะ หยงจะไปตรงประตู 8”
ตันหยงรีบเข็นรถลิ่วออกไปทันที ปฐวีมองตามยิ้มๆ ก่อนจะหันหลังเดินไปอีกทาง
ตันหยงนึกได้จึงหันมามองด้านหลังแต่ก็ไม่เห็นปฐวีแล้ว

ตันหยงเสียดายแต่ก็เดินเข็นรถมุ่งไปที่ประตู 8 ปฐวีกับตันหยงเดินแยกกันไปคนละทาง
ปฐวีมองหาคนมารับแต่ก็ไม่เห็น สักพักก็มีมือเล็กๆ มาสะกิดตัวเขา ปฐวีหันขวับมาเห็นแล้วยิ้ม เห็นเมริน หรือ น้องเมย์ ยืนกระตุกเสื้อของเขาอยู่พร้อมกับยิ้มให้ ปฐวีอุ้มเมรินขึ้นมา

“น้องเมย์ มาก็ไม่บอกน้าก่อน”
“เมื่อกี้น้าวีมองใครเหรอคะ”เมรินถาม
ปฐวียิ้มเขิน “..ก็มองหาสาวน้อยของน้าวีคนนี้ไง”
ประภัสสรเดินยิ้มเข้ามา ปฐวียิ้มทัก
“พี่สร ขอบคุณนะครับอุตส่าห์มารับผม”
“ขอบคุณแม่หลานสาวตัวดีเถอะ บ่นถึงแต่น้าวีจน พี่เริ่มจะน้อยใจแล้ว” ประภัสสรพูดยิ้มๆ
ปฐวีมองเมริน “จริงหรือ แหม คิดถึงน้าวีจริงหรือเปล่า อย่างนี้น้าวีต้องขอหอมให้ชื่นใจหน่อยแล้ว ไหนหอมแบบไหนนะ”
“หอมแก้มซ้าย หอมแก้มขวา หอมโหนก.....” เมรินบอก
“จมูกปุ๊กปิ๊ก” ปฐวีพูด
ปฐวียิ้มแล้วจูบปลายจมูก เมรินยังนิ่ง ปฐวีแกล้งเอาหนวดถูแก้มเมริน เมรินจั๊กจี๋ แล้วสองน้าหลานก็หัวเราะกันคิกคัก
“พอแล้ว วีก็ เล่นเป็นเด็กเชียว ไปป่านนี้ที่บ้านคงคอยแย่แล้วละ” ประภัสสรบอก
“ครับพี่สร เห็นมั๊ย...โดนคุณแม่ดุแล้ว เดี๋ยวกลับบ้าน น้าจะเอาหนวดถูแก้มน้องเมย์ให้หายคิดถึงเลย”
ปฐวีอุ้มเมรินแล้วเดินไป ประภัสสรมองแล้วยิ้มเศร้าๆ

ตันหยงเข็นรถมาที่หน้าประตูทางออก 8 เธอมองไปรอบๆตัวอย่างผิดหวัง
“อะไรกันนี่ ไหนบอกว่าอยู่ที่ประตู 8 ไง”
ตันหยงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาจะกดโทรออก แต่เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นเสียก่อน ตันหยงกดรับ
“ต้องการให้รถไปส่งที่บ้านหรือเปล่าครับ” เสียงพิรามดังจากปลายสาย
ตันหยงยิ้มดีใจ “พิราม...”
ตันหยงหันกลับไปมองทางด้านหลังก็เห็นพิรามยืนถือโทรศัพท์มองเธออยู่พร้อมดอกไม้ช่อโตในมือ
ทั้งคู่เดินเข้ากัน ตันหยงดีใจมาก
“คุณรู้ได้ยังไง” ตันหยงถาม
“ผมคิดถึงคุณจังเลย ตันหยง”
พิรามเดินมาส่งช่อดอกไม้ให้ตันหยงแล้วทำท่าจะกอดหอม แต่ตันหยงเบี่ยงแก้มหลบ
“นี่มันที่สาธารณะ อายเค้า”
“เฮ้อ....คุณไม่คิดถึงผมหรือ” พิรามถาม
“คิดถึงสิคะ ....ไปกันเถอะค่ะ”
“ก็ได้....ไปครับ”
พิรามเข็นรถให้ตันหยง แล้วทั้งคู่ก็เดินควงแขนกันออกไป

ตันหยงกับพิรามเดินมาขึ้นรถที่จอดอยู่ พิรามเปิดประตูรถให้ตันหยง
“เชิญครับ คุณผู้หญิง”
“ขอบคุณค่ะ คุณผู้ชาย”
ตันหยงขึ้นรถไป พิรามรอจนตันหยงขึ้นรถเรียบร้อยแล้วพิรามก็ขึ้นรถขับออกไป
ตันหยงพยายามจะดึงเข็มขัดมาคาดแต่ก็ติด พิรามขยับตัวมาดึงเข็มขัดเพื่อคาดให้ ตันหยงขยับตัวอย่างอึดอัดเล็กน้อยแล้วบ่นออกมา
“นี่คุณกับคุณแม่ พร้อมใจกันวางแผนแกล้งหยงใช่ไม๊นี่”
พิรามยิ้ม “ทีจะกลับมา ทำไมไม่บอกผม ผมน้อยใจแล้วนะ”
“ไม่ใช่อย่างนั้นนะคะ หยงตั้งใจจะเซอร์ไพร์ซคุณต่างหาก”
“คิดถึงผมไม๊” พิรามแกล้งยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆ
ตันหยงยิ้มอายแต่ไม่ตอบ เธอหันหน้าออกไปอีกทาง พิรามขับรถยิ้มๆ

ปฐวีที่อุ้มเมรินกับประภัสสรเดินเข้ามาที่รถที่จอดอยู่ ลุงสายรีบวิ่งไปรับข้าวของจากปฐวี
“ขอบใจมากนะลุงสาย”
แล้วทุกคนก็ขึ้นรถออกไป

เวลาผ่านไป บุหงากอดตันหยงไว้อย่างคิดถึงมาก ตันหยงกอดแม่แล้วผละไปกอดพ่อด้วย
ตันหยงประจบ “หยงคิดถึงคุณแม่กับคุณพ่อมากที่สุดเลย”
“ไม่ต้องมาปากหวานเลยเรา เป็นยังไงบ้างลูก เดินทางปลอดภัยดีนะจ๊ะ” บุหงาถาม
“ค่ะ เริ่มจะมีปัญหาก็ตอนถึงเมืองไทยนี่แหละ คุณพ่อกับคุณแม่ร่วมมือกับพิรามแกล้งหยง”
“แกล้งอะไรกัน ดูพูดเข้า พิรามเค้าอยากจะไปรับหยง แม่ก็เห็นด้วย”
ตันหยงทำงอน “...นั่นแหละค่ะ ร่วมมือกันรุมหยง”
“แล้วลูกวางแผนจะทำอะไรต่อล่ะ เรียนจบแล้ว” พินิจถามขึ้น
“หยงตั้งใจว่าจะทำงานซักพัก”
“ไม่ได้นะ คุณพ่อคุณแม่ครับ ผมขออนุญาตแต่งงานกับหยงนะครับ” พิรามบอก
พินิจกับบุหงามองหน้ากันแล้วยิ้มขำ

ตันหยงกับพิรามเดินคุยกันอยู่หน้าบ้าน ตันหยงทำเป็นงอน
“คุณไม่เคยบอกหยงมาก่อนเลยนี่นา”
“งั้น ผมบอกหยงตอนนี้เลยแล้วกัน”
พิรามจับมือตันหยงไว้ก่อนจะคุกเข่าลงตรงหน้าพร้อมยื่นกล่องแหวนให้เธอ
“คุณตันหยง...คุณจะให้เกียรติเป็นเจ้าสาวของผมได้มั๊ยครับ”
ตันหยงตะลึง เธอเห็นแหวนทับทิมล้อมเพชรอยู่ในกล่องก็ยื่นมือไปแตะแหวนด้วยความตื่นเต้น พิรามแกล้งปิดกล่องงับนิ้วตันหยงไว้ ตันหยงตกใจแล้วตีมือพิราม ทั้งคู่ขำกัน
“อย่าปฏิเสธผมนะหยง ผมขาดใจตายแน่” พิรามรีบบอก
ตันหยงลังเลก่อนตอบ “ค่ะ...หยงตกลงค่ะ”
พิรามเข้ากอดตันหยงด้วยความดีใจ ก่อนจะจับตันหยงหมุนเหวี่ยง ตันหยงร้องลั่น ทั้งคู่หัวเราะกัน
“หยงขอไปบอกคุณพ่อคุณแม่ก่อน”

ตันหยงเดินออกไป พิรามรีบตามไปจับมือแล้วเดินคู่กันไป
บุหงายืนชะเง้อมองลุ้นๆ พินิจนั่งอ่านหนังสือไปมองบุหงาไปแล้วยิ้มขำ บุหงาเห็นตันหยงกับพิรามเดินเข้ามา บุหงารีบทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ พินิจยิ้มขำ

“หยงตกลงแล้วครับ ผมจะให้คุณพ่อคุณแม่มาคุยกับคุณอาอีกครั้งหนึ่งอย่างเป็นทางการ เราจะแต่งงานกันให้เร็วที่สุด” พิรามบอก
ตันหยงเขิน “ใครบอกคุณว่าจะแต่งเร็วที่สุด”
“อ้าว....ไม่รู้ล่ะ คุณอาทั้งสอง ตกลงนะครับ” พิรามถาม
บุหงายิ้มปลื้ม
“แม่ดีใจกับลูกทั้งสองคนด้วยนะจ๊ะ วันนี้อยู่ทานข้าวด้วยกันนะจ๊ะ อาสั่งให้เค้าทำกับข้าวโปรดลูกไว้ตั้งหลายอย่าง”

อ่านละคร พรพรหมอลเวง ตอนที่ 1 วันที่ 2 ก.พ. 56

พรพรหมอลเวง บทประพันธ์ : กิ่งฉัตร
พรพรหมอลเวง บทโทรทัศน์โดย : วรวรรณ ชัยสกุลสุรินทร์
พรพรหมอลเวง กำกับการแสดงโดย : ชุดาภา จันทเขตต์
แนวละคร : โรแมนติก - คอมเมดี้
พรพรหมอลเวง ผลิตโดย : บ. เวฟมีเดีย
พรพรหมอลเวงออกอากาศ ทุกวันศุกร์ - เสาร์ และอาทิตย์ เวลา 20.15 น. ทางไททีวีสีช่อง 3
พรพรหมอลเวง เริ่มออกอากาศตอนแรก ในวันศุกร์ที่ 8 ก.พ 56 (ต่อจาก แรงปรารถนา)
ที่มา manager