@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร ทรายสีเพลิง ตอนทีี่ 4/6 วันที่ 19 ส.ค. 57

อ่านละคร ทรายสีเพลิง ตอนทีี่ 4/6 วันที่ 19 ส.ค. 57

“ไม่ใช่ ฉันไม่นึกว่าคุณจะมีสิ่งนี้เป็นเจ้าของ คุณแสนจะ modern แสนจะ liberal แต่นี้..นี่มันตึกแบบ colonial …classic มันไม่ใช่คุณ เออ...ถ้าเป็น” ทรายหันขวันมาทางบุรี “บุรี”
บุรีเดินถอยออกไปก้าวหนึ่งอย่างอัตโนมัติ
“ถ้าเป็นบุรีฉันจะไม่แปลกใจเลย”

“ทำไมอ่ะ?”
“เพราะหน้าตาแบบบุรีน่ะ อยู่ตึกแบบเนี้ย เข้ากั๊น..เข้ากัน”
ฌานพูดกับบุรี “ทรายว่าแกแก่ว่ะ”
บุรีเซ็ง “ฉันรู้แล้ว” ชายหนุ่มเปลี่ยนเรื่อง “ไปดูข้างในดีกว่า ผมต้องรีบกลับ”


ฌานยกแขนตรงหน้าทรายให้ทรายควงแขนเดินไปที่บ้านพร้อมเขา บุรีเดินตามมองทรายที่ควงฌานอย่างสนิทใจ เหมือนไม่เคยปั่นหัวพัชระมาก่อน

ทั้งสี่คนเดินเข้าตึกอย่าช้าๆ ชี้ชวนกันดูสภาพโดยรอบ
เมื่อถึงหน้าประตูตึก ทั้งหมดยืนคอย คนเฝ้าตึกค่อยๆ เปิดประตูหนาหนักออกทั้งสองด้าน เห็นความงามของตึก มองเข้าไปจากภายนอก
“ฌาน ที่พ่อเลี้ยงคุณเรียกคุณให้กลับไปสิงคโปร์วันนี้ มันเกี่ยวอะไรกับที่นี่รึเปล่า?” ทรายถามอย่างสงสัย
ฌานชะงักไปนิดนึงทันที แววกังวลเผยออกมา

ในเวลาเดียวกัน ในห้องประชุม ที่บริษัท นอร์แมน หว่อง สิงคโปร์
ภาพบนวิดีโอ ที่ฉายไปยังจอขนาดใหญ่ยักษ์เป็นภาพ Bird eye’s view ของแม่น้ำเจ้าพระยา ที่คดเคี้ยวไปตามเส้นทาง มีเสียงของนอร์แมนบรรยาย “เหมือนการทอดตัวของพญามังกร ทางนี้หัว..ทางโน้นหาง”
ภาพผ่านไปเรื่อยๆ ถึงสะพานพุทธ ภาพหยุด
“มีข่าวลือ...ฟังกันเพลินๆนะ เขาลือกันว่านักการเมืองที่ทำหน้าที่เปิดสะพานข้ามแม่น้ำแห่งนี้โดนปฏิวัติรัฐประหารทุกคน”
“คุณลุงเลยอยากลองท้าว่าจะโดนปฏิวัติบ้างใช่ไหมคะ ?” ลิซ๋าสัพยอก
“อย่างคุณลุงฉันไม่เคยโดนปฏิวัติ มีแต่ไปปฏิวัติเศษดินให้เป็นกองทอง” อลันพูดขึ้น
เสียงคนในห้องหัวเราะ
นอร์แมน หว่อง กดให้ภาพเคลื่อนไหว “นอกจากเป็นที่ติดแม่น้ำแล้ว ..ที่ดินนี้ยังมี....”
ภาพไปเรื่อยๆ จนถึงตึกของฌาน ภาพหยุดที่ตึกทั้งหลัง ตั้งตระหง่านงดงามในแสงอาทิตย์

ฌานแหงนหน้าขึ้นมองยอดตุก นิ่ง สายตาหมองหม่น
“ผมเกิดที่บ้านนี้ บ้านหลังนี้สร้างมากว่าเจ็ดสิบปีแล้ว เจ้าของบ้านคือ บรรพบุรุษของผม เป็นทหาร เป็นนักรบ ท่านได้รับพระราชทานที่ดิน ให้สถาปนิกอิตาเลียนเป็นคนออกแบบคุมก่อสร้าง”
ทรายมองนิ่งด้วยสายตาใคร่ครวญ บุรีมองฌานอย่างพิจารณาว่าฌานกำลังกังวลเรื่องอะไรอยู่
ทรายมองไปทั่วๆ “กว้างจัง ที่ดินทั้งหมดเท่าไรคะฌาน”
ในห้องประชุมบริษัทนอร์แมน หว่อง สิงค์โปร์
“ที่ดิน 10 ไร่ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ตึกทรง colonial หรูหราเหมือนคาสเซิลในยุโรป เป็นสมบัติเก่าของพ่อชาร์ลส์”
อลันมองอย่างหมั่นไส้
“อ๋อ ..ที่ดินที่เป็นบ้านพ่อของชาร์ลส์นั่นเอง ลิซ่าก็คลับคล้ายคลับคลาว่าเคยเห็นที่ไหน เป็นที่ที่ชาร์ลส์บอกว่าเขาควรได้ แต่พวกอาแย่งไป แล้วคุณลุงจะทำยังไงกับที่ดินนี้คะ? ..ยกให้ชาร์ลส์จัดการเหมือนที่ผ่านมาไหมคะ? ..ชาร์ลส์คงดีใจ”
อลันหัวเราะสะใจ ลิซ่ามองอลันอย่างสงสัย “หัวเราะอะไร?”
นอร์แมนหัดไปพูดกับหุ้นส่วนต่อ “ตอนแรกผมคิดว่าจะทำคอนโดอยู่เหมือนกัน แต่อลันทักขึ้นมาว่า...”

ฌานมองบ้านด้วยสีหน้ากังวล “เขาบอกว่าตอนนี้ภาวะเศรษฐกิจของเมืองไทยไม่น่าลงทุน มีคอนโดขึ้นแข่งกันเยอะ ถ้าจะทำเป็นหมู่บ้านก็ขายไม่ออกเยอะ ฉันเลยคิดว่าป๋าอาจจะ...”

ย้อนกลับที่เหตุการณ์ในห้องประชุมสีหน้าอลันยิ้มสะใจ “ขายที่ดินผืนนั้นเก็งกำไรดีกว่า”
สีหน้านอร์แมนพยักหน้ากับหุ้นส่วนทุกคนบอกว่าเห็นด้วยกับที่อลันพูด ลิซ่ามองอลันที่ยิ้มสะใจฌาน ลิซ่าหมั่นไส้เพราะรู้ว่าอลันจงใจแกล้งฌาน

ด้านในตึกบ้านเก่าฌาน ทุกคนเดินดูภายในตึก ทุกห้อง แต่ละห้องมีเครื่องเรือนที่คลุมผ้าไว้ในห้องหนึ่ง ทุกคนมาหยุดยืน
บุรีเอ่ยขึ้น “ฌาน นักธุรกิจอย่างเขา เขารู้ว่าตึกอย่างนี้ ที่ดินขนาดนี้ เขาไม่ควรขาย มันจะทำกำไรให้เขาได้มากว่า ถ้าเขาจะทำเอง”
“ใช่ ทรายเห็นด้วยกับบุรี”
บุรีพยักหน้า ยิ้มให้ทรายนิดๆ “แกไปหาเขา แล้วไปบอกเขาว่า แกจะพัฒนามันด้วยโปรเจ็คที่แกคุยกับฉัน ฉันจะช่วยแกสุดตัวเลย”
ทรายเอื้อมไปจับมือฌานอย่างให้กำลังใจ “ทรายด้วย....ทำอินทีเรียให้”
บุรีมองทรายที่ดูเป็นห่วงฌาน
ฌานจับมือทรายขึ้นมาจูบแล้วมองทรายด้วยสายตาแสดงความรักอย่างหมดใจ “ขอบคุณนะทราย”
“My pleasure.”
บุรีมองทรายที่แสดงความรักกับฌานแล้วรู้สึกไม่พอใจ เพราะรู้สึกเหมือนทรายไม่จริงใจ พยายามปั่นหัวผู้ชายทุกคนอยู่
ทรายเดินมาดูบ้านมุมนึง
บุรีเดินตามทรายมา “ฌานเคยบอกว่าคุณเป็นอินทีเรียให้ Davidson Space & Design แล้วทำไมคุณไม่ทำบ้านคุณเอง”
ทรายหันมายิ้มให้บุรีขำๆ “ฉันเพิ่งเห็นเจ้าของบริษัทที่พยายามจะพูดให้ลูกค้าเอางานไปทำเอง”
“ผมก็แค่อยากรู้ความต้องการของคุณ”
“ฉันก็บอกคุณไปแล้วนี่คะว่าฉันต้องการพัชระ” ทรายมองบุรีด้วยสายตาราวกับเด็กที่กำลังสนุกกับการยั่วโมโหผู้ใหญ่ ทรายคิดอยู่ในใจ “แสดงความรู้สึกมาสิบุรี ว่าคุณกำลังไม่พอใจที่ฉันปั่นหัวพัชระ ปั่นหัวฌาน แสดงมาสิว่าคุณแพ้เสน่ห์ฉันไม่ต่างจากผู้ชายคนอื่น”
บุรีมองทรายอย่างรู้ทัน บุรีพยายามข่มอารมณ์ไม่โมโหอย่างที่ทรายหวังไว้ “เอาอย่างนี้ เพื่อความสบายใจของทุกฝ่าย ผมออกแบบให้ หาช่างให้ ผมมีสถาปนิกกับหัวหน้าช่างคุมงานให้คุณ แต่คุณทำอินทีเรียเอง”
“ที่คุณบอกว่าเพื่อความสบายใจของทุกฝ่าย ..มันหมายถึงใครบ้างคะ?”
“หมายถึงพัชระกับกี้ คุณฝีมือระดับโลก ใครมาทำให้ก็ต้องเกร็ง ผมสงสาร ไอ้กี้มัน ถ้าเขาเกร็งเขาก็ไม่ทำซักที งานคุณจะช้าไปนะทราย”
“ถ้าฉันออกแบบเอง ..มีแค่สองคนนี้เหรอคะที่สบายใจ ...คุณลืมไปอีกคนนะคะ” ทรายมองบุรีอย่างรู้ทัน ”คุณเสาวนีย์” หญิงสาวจงใจเรียกชื่อเต็ม “เขาขอให้คุณมาทำแทนไม่ใช่เหรอ เขากลัวฉันจะแย่งว่าที่ลูกเขยเขารึไง”
บุรีชะงักนิดหนึ่ง “เรื่องนั้นผมไม่รู้ ที่ผมพูด ก็เพื่อความถูกต้อง”
“ความถูกต้อง งั้นคุณบอกฉันหน่อยสิคะ ฉันทำอะไรผิด พัชระทำอะไรผิด ฉันถึงต้องเปลี่ยนความคิดอย่างที่คุณหรือคุณเสาวนีย์ต้องการ”
บุรีชะงักเพราะสิ่งที่ทรายพูดนั่นถูก
ทรายรู้สึกโกรธเสาวนีย์ขึ้นมา “บ้านนั้นเป็นของฉัน ฉันจะไม่ยอมให้เขามายุ่งกับของๆฉันอีกแล้ว” ทรายพูดจบก็เดินออกไปทันที
บุรีมองทรายด้วยความแปลกใจเพราะไม่เคยเห็นทรายแสดงอาการอย่างนี้มาก่อน บุรีเริ่มคิดทบทวนถึงเรื่องราวระหว่างทรายกับเสาวนีย์

ในตอนที่บุรีตอนอายุ 14 ปี คุณครูนารีกับบุรียืนมองท้ายรถของดวงตาที่ขับพาทรายออกจากรั้วบ้านบุรีไปหลังจากที่ดวงตาและทรายลาคุณครูแล้ว
“สุดท้ายสองแม่ลูกก็ทนอยู่บ้านนั้นไม่ไหว ต้องระหกระเหินไปไหนกันก็ไม่รู้ ยายละเห็นใจจริงๆ เรื่องความเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัวแท้ๆ เชียว ทำให้เด็กเกิดมาร่วมรับบาป รับความกดดันทั้งๆที่ไม่ได้มีส่วนรู้เห็น ด้วยสักนิด”
“ยังไงครับคุณยาย”
“แม่ของทรายเป็นลูกเลี้ยงคุณหญิงศิริ ทีนี้คุณหญิงมีลูกชาย แม่ของทรายก็คงใฝ่ฝันไปตามความคิดเด็กสาวว่าถ้าลูกชายคนหญิงรัก ตัวเองก็ยกฐานะได้ คุณหญิงศิริก็หวังจะมัดแม่ทรายไว้ใช้เลยเป็นใจให้ ลูกชายใช้ความรักของแม่ทรายไว้ใช้ แม่ของทรายก็หวังร้อยลูกชายคุณหญิงไว้เลยท้อง จนวันนึงคุณหญิงศิริเจอผู้หญิงที่เหมาะสมกับลูกชาย ก็จัดการตกแต่งใหญ่โต”
“พ่อน้องทรายแต่งงานใหม่ แล้วน้องทรายกับแม่เขาล่ะครับ”
“ก็อยู่บ้านริมคลองไกลบ้านใหญ่ มีฐานะไม่ต่างจากผู้อาศัย หนูทรายน่าสงสารที่สุด ถูกพ่อ-แม่-ย่าใช้เป็นเครื่องต่อรอง เมื่อพ่อมีเมียใหม่ มีลูกใหม่ ย่าก็ไม่สนใจ ทรายก็หมดความสำคัญ”

บุรีมองไปทางที่ทรายเดินจากไป อย่างรู้สึกผิดกับอดีตของทรายที่เขาลืมไป

ทรายเดินมองวิวของแม่น้ำ ดวงตาของทรายแข็งกร้าวด้วยความโมโหเสาวนีย์และบุรี ทันใดนั้นมีดอกไม้ปลิวตกใกล้ๆ กับทราย ทรายก้มลงมองดอกไม้แล้วก้มลงเก็บ ทรายมองดอกไม้อย่างพยายามนึกว่าเป็นดอกอะไร บุรีเดินเข้ามาทางด้านหลังทราย
บุรีพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนขึ้น “นั่นเรียกว่าดอกแก้ว”
ทรายฟังบุรีที่พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนกว่าตอนแรกแล้วรู้สึกดีจนยิ้มออกได้อย่างบอกไม่ถูก ทรายเอาดอกไม้ขึ้นมาดม “หอมจังนะคะ”
บุรีเดินมาหยิบดอกไม้อีกดอกขึ้นมาดม “อืม ..หอม” บุรีหยิบสมุดโน้ตที่พกไว้ในกระเป๋าเสื้อออกมาเก็บดอกไม้ไว้
ทรายมองบุรีเอาดอกไม้พับในสมุดอย่างชะงัก “คุณทำอะไรคะ ?”
“ผมชอบเอาดอกไม้หอมๆ ทับในสมุดหรือหนังสือไว้ มันได้กลิ่นหอมเวลาเปิดอ่าน”
ทรายฟังถึงกับชะงักไปหวนนึกถึงภาพพี่บี

ในตอนที่ทรายยังเป็นเด็กได้เข้าไปห้องของบุรี ทรายมองรอบๆห้องของบุรีแล้วมองไปทางชั้นวางหนังสือที่อยู่สูงกว่าหัวทราย แล้วเห็นหนังสือ “A Midsummer Night’s Dream”
“ทรายขอหนังสือเล่มนั้นได้ไหมคะ คุณครูที่โรงเรียนให้ทรายอ่านทรายชอบมากเลยค่ะ”
“ได้สิ” บุรีเอื้อมไปหยิบหนังสือบนชั้นหนังสือมาให้ทราย
ทรายยกมือไหว้ขอบคุณบุรี แล้วรับหนังสือมาเปิดดู ปรากฏเห็นดอกจำปีสดคั่นอยู่ในหนังสือ “ทำไมดอกจำปีถึงอยู่ในนี้ล่ะคะ”
“พี่ชอบกลิ่นดอกจำปี พี่เห็นคุณยายชอบเอาดอกจำปีใส่หนังสือแล้วกลิ่นติดหนังสือ พี่เลยลองทำบ้าง”

อ่านละคร ทรายสีเพลิง ตอนทีี่ 4/6 วันที่ 19 ส.ค. 57

ละครทรายสีเพลิง บทประพันธ์โดย : ปิยะพร ศักดิ์เกษม
ละครทรายสีเพลิง บทโทรทัศน์โดย : ศัลยา สุขะนิวัตติ์
ละครทรายสีเพลิง กำกับการแสดงโดย : ยุทธนา ลอพันธุ์ไพบูลย์
ละครทรายสีเพลิง ผลิตโดย : ค่าย เมกเกอร์ วาย
ละครทรายสีเพลิง ควบคุมการผลิตโดย : ยศสินี ณ นคร
ละครทรายสีเพลิง ออกอากาศ ทุกวันจันทร์ และ วันอังคาร เวลา 20.15 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ละครทรายสีเพลิง เริ่มออกอากาศตอนแรกในวันอังคารที่ 19 สิงหาคม 2557 นี้
ที่มา ไทยรัฐ