@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร ทรายสีเพลิง ตอนทีี่ 3/3 วันที่ 17 ส.ค. 57

อ่านละคร ทรายสีเพลิง ตอนทีี่ 3/3 วันที่ 17 ส.ค. 57

กี้เดินเข้ามาผลักหน้าติ่งด้วยความหมั่นไส้ “เขาต้องการนางแบบถ่าปกนิตยสาร ไม่ใช่ท่าโพสนกกระยางปวดตาปลาอย่างแก”
ทุกคนขำติ่ง ส่วนพัชระยืนนิ่งได้แต่มองทราย
“ไปเถอะทราย ไปนะทุกคน” ฌานตัดบท

“ไปนะคะ แล้วพบกันใหม่”
“ทรายจะมาอีกเมื่อไหร่ครับ” พัชระบอกลาทรายด้วยความหวังจะเจอกันอีก
“เร็วที่สุด ถ้ารู้ว่ามีคนอยากให้มา” ทรายแกล้งมองพัชระเหมือนมีความหมาย แล้วมองไปทางฌานให้ฌานเข้าใจว่าทรายหมายถึงฌาน เพื่อไม่ให้ฌานสงสัย


รถของฌานแล่นมาจอดริมสวนสาธารณะใต้สะพานข้ามแม่น้ำ ทรายมายืนพิงที่หน้ากระโปรงรถมองวิวแม่น้ำ ฌานเดินออกจากรถมายืนพิงหน้ากระโปรงรถข้างทราย เหลือบมองทราย แล้วมองไปที่สะพาน ข้ามแม่น้ำที่อยู่เหนือตัวคนทั้งสอง
“คุณรู้ไหม ..บางครั้งเวลาผมมองสะพานนั่น ผมก็รู้สึกกลัว”
ทรายหัวเราะ “อารมณ์ไหนเนี่ยฌาน”
“ผมพูดจริงๆ นะ เวลาที่เราอยู่ใกล้อะไรที่ใหญ่โตมากๆ จนต้องแหงนหน้ามอง เราจะรู้สึกว่ามันน่ากลัว เหมือนคุณไง บางครั้งผมก็รู้สึกว่าคุณอยู่แค่นี้ แต่เวลาจะแตะ ก็กลับรู้สึกว่าคุณช่างห่างจากผมเหลือเกิน”
ทรายมองฌานอย่างรู้ทัน “อยากรู้อะไร ?”
“ผมเห็นนะ ตอนในร้านนั่น ..บอกผมหน่อยสิทราย คุณพยายามจะทำอะไร ?”
“ถามแปลกจัง ฉันก็กำลังทำความรู้จักกับเพื่อนๆของคุณ สังคมของคุณ แล้วก็.... พยายามทำให้ เขาชอบฉัน”
“อย่างนั้นหรือ...........?”
ฌานทำเสียงรำพึง “คนอย่าง แซนดี้ ดาลตัน คนอย่าง ศรุตา พรหมมาสตร์นารายณ์ ต้องใช้ความพยายามด้วยหรือเวลาทำ อยากจะให้ใครชอบแค่ยืนอยู่เฉยๆทุกคนก็ยินดีเดินเข้ามาหาแล้ว”
ทรายมองฌานอย่างแกล้งยียวน “ขนาดนั้นเชียว”
ฌานส่ายหน้าด้วยความอ่อนใจ เพราะรู้จักอีกทรายอย่างทะลุปรุโปร่ง “รู้ตัวไหมว่าคุณเหมือนระเบิดนิวเคลียร์ ..สว่างจ้าจนแสบตา ใครไม่ระวัง ตัวก็ถูกความร้อนหลอมจนละลายไม่มีเหลือแม้แต่กระดูก...ยังไม่ทัน รู้ตัวด้วยซ้ำ”
ทรายหัวเราะคิก เอียงตัวมาทางฌานจับมือฌานมาจ้องมอง พลิกฝ่ามือขึ้นคลี่นิ้วของฌานออกทีละนิ้ว แล้วสอดมือตัวเองจับกระชับแน่น “แต่ฌานก็ยังอยู่..ครบถ้วนดี นี่ไง” ทรายชูมือขึ้นแล้วเอามาจุ๊บเล่นๆทีหนึ่ง
ฌานมีสีหน้าปวดร้าวอึดอัดใจหนึ่งก่อนที่จะถอนใจยาว
“มีอะไรหรือฌาน วันนี้ฌานพูดแปลกๆ ถามเหมือนคู่รักขึ้หึง”
ฌานรู้สึกหงุดหงิดระหว่างที่เขาหวงและรักทรายอย่างจริงจัง แต่ทรายกลับทำเป็นเล่น ปั่นหัวเขาเพื่อสนุกเท่านั้น ฌานจับไหล่ทราย “แล้วมันไม่ใช่เหรอ? ..ถ้าคุณบอกว่าไม่ใช่ ไหนบอกสิว่าผมอยู่ในฐานะอะไร ถ้าคุณไม่อยากให้ผมไปจากคุณตลอดชีวิต คุณรู้ใจผมทุกอย่านะทราย คุณเล่นกับผมอย่างนี้ทำไม...คุณอยากให้มันเป็นยังไง ผมก็เป็นแล้ว ผมไม่เคยแสดงตัวว่าผม...ยังไงกับคุณเพราะคุณไม่ต้องการ แต่อย่าทำอย่างนี้ต่อหน้าผม ...อย่าทำอีกเป็นอันขาด”
ทรายสะบัดไหล่ตัวเองออกจากมือฌานอย่างหงุดหงิดขึ้นมา “ฌาน! ระหว่างเรามันก็เป็นแบบนี้มาตลอด เราเข้าใจ.. เรายอมรับข้อเสนอระหว่างกัน ไม่มีข้อแม้ คุณมีเกมของคุณ ฉันก็มีเกมของฉัน แต่ก็คงจะมีซักวันในอนาคตที่เราจะรู้สึกว่าพอเสียทีใช่มั้ยฌาน คุณกับฉันจะรอวันนั้น..”
“วันนั้น” ฌานครางด้วยน้ำเสียงที่ไม่มีความหวัง
“วันที่เราอยากจะหยุดชีวิตสนุกแบบนี้ พร้อมจะเริ่มชีวิตใหม่ด้วยกัน”
ฌานมองทรายว่าสิ่งที่ทรายพูดมันเป็นจริงได้แค่ไหน ทรายมองฌานอย่างอ้อนวอนขอให้รอ ฌานถอนใจเพราะสุดท้ายเขาก็ยินยอมให้ทรายทุกที ฌานเอื้อมไปกอดทรายไว้เป็นคำตอบ
ทรายยิ้มสุดท้ายจากฌานที่เกือบพยศเธอก็ควบคุมทุกอย่างไว้ได้

ด้านหน้าโรงแรมในวันต่อมา เบลบอยยกกระเป๋าของแด๊ดดี้กับแม่ทั้งสองคนกำลังจะกลับอเมริกา
“ตามที่ทรายขอเวลาไว้ ไม่เกิน 3 เดือน”
“ค่ะ ไม่เกิน 3 เดือน ทรายจะกลับไป”
“เป็นทรายคนเดิมของแม่นะที่จะกลับไป”
“ค่ะ เป็นทรายคนเดิมของแม่”
ทรายกอดกับแม่นิ่งอยู่สักครู่ก่อนจะพูดต่อ “รักแม่นะคะ”
ดวงตาพยักหน้าพร้อมกับกรีดน้ำตานิดหนึ่ง “รักลูกนะ ไปลาแด๊ดดี้”
แด๊ดดี้กอดทราย สอดเช็ค 1 ใบใส่มือทราย ทรายมองตัวเลขร้องถามอย่างตกใจกับยอดเงินในเช็ค “แด๊ดดี้ โอ...ให้ทรายทำไมเยอะแยะ”
“แด๊ดดี้รู้ว่า Mission ของหนู in the next three months ต้องใช้เงินเยอะ”
“หนูมี”
“แต่แด๊ดดี้อยากให้”
“ขอบคุณค่ะ หนูจะใช้เงินของแด๊ดดี้ ทำให้ mission ของหนูสำเร็จ”

ที่บ้านของคุณหญิงศิริ ทนายนั่งอยู่โซฟา โดยมีเสาวนีย์นั่งเคียงคู่กับศก ลูกศรนั่งอยู่ข้างๆ โดยมีทรายนั่งถัดห่างออกไป
เสาวนีย์จับมือศกแล้วยิ้มให้ลูกศรเพี่อเป็นการแสดงความเป็นครอบครัวเดียวกัน เสาวนีย์จงใจให้ทรายรู้สึกแปลกแตกแยกออกไป
เสาวนีย์ปรายตามองทราย ซึ่งทรายเองก็เหลือบมองเสาวนีย์ ศกและลูกศรที่นั่งด้วยกันดั่งครอบครัว ทรายมองภาพตรงหน้าด้วยความรู้สึกเจ็บแต่เก็บความรู้สึกไว้ ทรายเหลือบมองเสาวนีย์อย่างรู้ทัน
ทนายเปิดพินัยกรรมอ่าน “พินัยกรรมฉบับนี้ ข้าพเจ้า คุณหญิงศิริ พรหมาตร์นารายณ์ ขอทำคำสั่งครั้งสุดท้ายของข้าพเจ้าไว้ในพินัยกรรม ฉบับนี้ ดังต่อไปนี้ ข้อ ๑. เมื่อข้าพเจ้าถึงแก่ความตายแล้ว ข้าพเจ้าขอยกทรัพย์ที่ยังเหลือเป็นสิทธิ์ของข้าพเจ้า ที่ดิน 2 แปลงขนาด 1 ไร่ที่จังหวัดปทุมธานีให้แก่ นายศก พรหมาตร์นารายณ์ ส่วนบ้านพรหมาตร์นารายณ์นั้น ข้าพเจ้าได้มอบให้นาย ศก พรหมาตร์นารายณ์ ในขณะที่ข้าพเจ้ามีชีวิตอยู่เรียบร้อยแล้ว ส่วนที่ดิน 5 แปลง อันได้แก่ ที่นนทบุรี พัทยา ชลบุรี สมุทรสงคราม และนครปฐมอย่างละ 1 ไร่ รวมทั้งที่ดินริมคลองด้านข้างบ้านพรหมาตร์นารายณ์ซึ่งมีการปลูกบ้านให้เช่า ข้าพเจ้ามอบให้นางเสาวนีย์ พรหมาตร์นารายณ์ เรียบร้อยแล้ว”
เสาวนีย์ปรายตามองทราย ประจวบเหมาะกับที่ทรายสบตากับเสาวนีย์พอดี เสาวนีย์เหยียดยิ้มราวกับผู้ชนะ
ทรายรู้สึกราวกับเสียงของเสาวนีย์กึกก้องในหูทรายอีกครั้งเมื่อครั้งตอนที่เสาวนีย์แก้แค้นที่ทรายผลักลูกศรตกน้ำ “จำไว้นะศรุตา! แกกับแม่แกไม่มีทางชนะฉันกับลูกศรได้ ต่อให้แกกับแม่แกมาก่อนฉันกับลูก แต่แกกับแม่แกก็เป็นได้แค่เศษทรายเหมือนชื่อแก! ไม่มีวันขึ้นมาเชิดหน้าเป็นที่หนึ่งเหนือ ฉันกับลูกได้หรอก”
ทรายพยายามนิ่งเก็บอารมณ์ฟังทนายอ่านต่อ
“ส่วนสังหาริมทรัพย์อันได้แก่เงินในบัญชีของข้าพเจ้าจำนวน 1 ล้านบาทและทองคำน้ำหนัก 20 บาท ที่อยู่ในตู้เซฟห้องนอนข้าพเจ้า ข้าพเจ้าขอมอบให้ นางสาวศรวณี พรหมาตร์นารายณ์”
ลูกศรเหลือบมองทรายอย่างรู้สึกกังวลเพราะเป็นห่วงความรู้สึกกลัวว่าทรายจะน้อยใจ ที่ย่าไม่ให้อะไรเลยเอ่ยปากถามทนายความด้วยความเป็นห่วง “แล้วพี่ทรายกับป้าดวงล่ะคะ? คุณย่าให้อะไร? ..ถ้าคุณย่าไม่ให้อะไร พี่ทรายเอาของศรไปก็ได้ค่ะ ศรยกให้พี่ทราย”
เสาวนีย์หันมาดุ “ลูกศร !!! “
ทรายไม่พูดอะไรมีแต่แววตาที่ยิ้มเยาะมองลูกศรเป็นนัยๆว่า “เศษเงินแค่นั้น ฉันไม่เอาหรอก”
ทนายความรีบพูดต่อ “ใจเย็นๆนะหนูลูกศร ..ลุงยังอ่านไม่จบ ..ส่วนและเครื่องเพชร 1 ชุด มรกต 1 ชุด รวมทั้งบ้านและที่ดินริมคลองติดกับบ้านพรหมาตร์นารายณ์ ข้าพเจ้าขอบให้นางสาวศรุตา พรหมาตร์นารายณ์”
สาวณีย์ปรายตามองทรายอย่างยิ้มๆ รู้สึกว่าตนเองเหนือกว่าทราย
“ข้าพเจ้าขอรับรองว่า ในเวลาที่ทำพินัยกรรมฉบับนี้ ข้าพเจ้ามีสติสัมปชัญญะบริบูรณ์ทุกประการ ข้าพเจ้าได้อ่านและ เข้าใจข้อความนี้ดีตลอดแล้ว …คุณหญิงศิริ พรหมาตร์นารายณ์”
ทราย ศก เสาวนีย์และลูกศรเพิ่งส่งทนายขึ้นรถกลับไป ลูกศรเดินเข้าไปจับมือทรายอย่างดีใจ
“คุณย่ายกบ้านริมน้ำให้พี่ทรายแล้ว พี่ทรายจะกลับมาอยู่กับเราไหมคะ ?”
ทรายนิ่งแล้วเหลือบมองดูอาการของเสาวนีย์ “ต้องถามคุณอาเสาว์ว่าถ้าพี่กลับมา จะรบกวนคุณอารึเปล่า ?”
ศกและลูกศรมองไปทางเสาวนีย์ เสาวนีย์มองหน้าทรายอย่างรู้ทันว่ากำลังโดนเหน็บ
เสาวนีย์ปั้นหน้ายิ้ม “ไม่รบกวนอาหรอก แต่ทรายจะลำบากเปล่าๆ เพราะตอนนี้ที่บ้านริมน้ำ มันกลายเป็นที่ดินตาบอดไปแล้ว”
ศกหันมองเสาวนีย์อย่างไม่พอใจ “อะไรนะคุณเสาว์ นี่คุณขายที่ตรงนั้นไปแล้วเหรอ ?! ผมบอกแล้วไงว่าไม่ให้ขาย! บ้านริมน้ำก็ไม่มีทางสาธารณะเข้าออก แล้วทรายจะอยู่ยังไง”
“ไม่เป็นไรค่ะ” ทรายหันไปยิ้มหวานให้เสาวนีย์ก่อนที่จะพูดประโยคถัดไป “เพราะที่ตรงนั้นทรายซื้อไว้เอง !”
เสาวนีย์ชะงักมองทรายอย่างคาดไม่ถึง ทรายหันมายิ้มหวานให้เสาวนีย์ “ทรายต้องขอบพระคุณคุณอาเสาว์นะคะที่ประกาศขายที่ดินนั่น ทรายถึงได้มีโอกาสคิดที่จะขยายบ้านเพิ่ม”
“ขยายบ้านเพิ่ม?”
“ตกลงพี่ทรายจะมาอยู่กับเราเหรอคะ? ศรดีใจจัง”
“ศร ! มีเรียนต่อไม่ใช่เหรอ รีบไปเปลี่ยนเสื้อผ้าสิ ! เดี๋ยวพัชก็มารับแล้วไม่ใช่เหรอ”
ลูกศรจ๋อยยอมก้มหน้าพยักรับคำเสาวนีย์แล้วเดินเข้าบ้าน โดยมองทรายยิ้มๆ ด้วยความเสียดายที่ ไม่ได้คุยกับทรายต่อ
ทรายมองอาการของเสาวนีย์ออก เอ่ยปากขอตัว “ทรายขอไปดูบ้านของทรายก่อนนะคะ”
ทรายเดินออกไปโดยมีเสาวนีย์มองตามทรายไป

ทรายเดินทอดน่องจะไปทางบ้านริมน้ำ โดยรู้ว่าเสาวนีย์ต้องตามมา
“ถ้าเธออยากได้นายหน้าขายบ้าน อาจัดการให้ได้นะ”
ทรายค่อยๆ หันมายิ้มให้เสาวนีย์ “สมเป็นคุณอาเสาว์จริงๆ คนอื่นดูทรายไม่ออก มีแต่คุณอาที่ดูออกอย่างนี้ที่คนไทยเรียกว่า ..ผีเห็นผี ใช่ไหมคะ”
“ก็ได้ข่าวว่าแม่เธอได้สามีใหม่ ได้ดีอยู่เมืองนอก อาก็เลยคิดว่าเธอคงไม่ต้องการบ้านเก่าอีก”
“ก็ไม่แน่ค่ะ..ทรายเคยบอกเพื่อนทรายว่าทรายรักบ้านหลังนี้มาก เพราะ..มันมีเรื่องราวที่ผูกและพันทรายไว้อยู่”
“แต่ฉันว่าเธอไม่เหมาะกับที่นี่”
“ทำไมล่ะคะ ในเมื่อทรายก็เป็นพรหมาตร์นารายณ์คนนึงเป็นลูกพ่อเหมือนกัน อีกอย่าง..ทรายก็จะได้อยู่ใกล้น้อง พ่อบอกว่าน้องเรียนไม่ค่อยดี อยากให้ทรายสอนให้ศรเก่งได้สักครึ่งของทราย”
เสาวนีย์รู้สึกเหมือนโดนทรายพูดหยามว่าลูกศรโง่กว่าทราย จึงเผลอเหวี่ยงออกไป “ไม่ต้อง! ลูกฉัน! ฉันดูแลเองได้”
“ทรายก็แค่อยากช่วย เพราะเห็นที่สนามบิน..คุณอาบอกว่าอยากให้น้องเก่งเหมือนทราย”
เสาวนีย์ชะงักเมื่อโดนทรายเอาคำพูดของตัวเองมาย้อนให้เจ็บแสบ
ทรายยิ้มใสซื่อเหมือนไม่ได้คิดอะไรกับคำพูดที่พูดไป “เอาเป็นว่าทรายยังไม่ตัดสินใจตอนนี้ ขอทรายดูบ้านก่อน และปรึกษาสถาปนิกก่อน ..ขอตัวนะคะ”

อ่านละคร ทรายสีเพลิง ตอนทีี่ 3/3 วันที่ 17 ส.ค. 57

ละครทรายสีเพลิง บทประพันธ์โดย : ปิยะพร ศักดิ์เกษม
ละครทรายสีเพลิง บทโทรทัศน์โดย : ศัลยา สุขะนิวัตติ์
ละครทรายสีเพลิง กำกับการแสดงโดย : ยุทธนา ลอพันธุ์ไพบูลย์
ละครทรายสีเพลิง ผลิตโดย : ค่าย เมกเกอร์ วาย
ละครทรายสีเพลิง ควบคุมการผลิตโดย : ยศสินี ณ นคร
ละครทรายสีเพลิง ออกอากาศ ทุกวันจันทร์ และ วันอังคาร เวลา 20.15 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ละครทรายสีเพลิง เริ่มออกอากาศตอนแรกในวันอังคารที่ 19 สิงหาคม 2557 นี้
ที่มา ไทยรัฐ