@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร ดาวเคียงเดือน ตอนที่ 11 วันที่ 4 ส.ค. 57

อ่านละคร ดาวเคียงเดือน ตอนที่ 11 วันที่ 4 ส.ค. 57

ดาริกาพึมพำว่ามาได้ยังไงเนี่ย กุสุมาคาดว่าคงแอบมาตอนเราไปตลาด พอทั้งสองเดินเข้าไป คุณจันทร์ก็ไหว้กุสุมา

“คุณจันทร์มาตั้งแต่เมื่อไหร่คะ” กุสุมาถามเขาบอกว่ามาเมื่อกี๊นี้เอง ตาทศบอกว่ามาถึงก็ซ้อมเลย นี่แค่วอร์มเดี๋ยวจะต่อด้วยท่าแม่ไม้มวยไทย 15 ท่า ดาริกาโวยว่า 15 ท่าเป็นอาทิตย์ละมั้งถึงจะสอนจบ

“อ้าว...ก็คุณจันทร์เขาจะมาอยู่หลายวันเลยไม่ใช่เหรอ” ตาทศถาม ดาริกาเหวอบอกว่างั้นต้องคุยกันหน่อยแล้วล่ะ ว่าแล้วลากคุณจันทร์ออกไปที่ริมน้ำ พูดขึงขังว่า

“ฉันไม่ได้อนุญาตให้คุณมาแต่คุณก็ยังมา แล้วยังมีหน้ามาขอค้างอีกร้ายจริงๆ พอเสร็จธุระก็กลับได้แล้ว”


“ดีครับ กว่าจะเสร็จธุระก็สามวันแน่ะ งั้นผมเอากระเป๋าขึ้นไปจัดเสื้อผ้าบนบ้านเลยนะ” ดาริกาโวยว่าบอกว่าไม่ให้ค้าง แล้วธุระอะไรจะอยู่ตั้งสามวัน? “ผมกำลังมารีเสิร์ชหาข้อมูลแถวนี้ไปใช้กับห้างแกรนด์ของผม...ก็อย่างที่ผมเคยบอก ผมต้องการเรียนรู้ชีวิตลูกค้าชนชั้นกลาง โดยใช้คุณเป็นตัวอย่าง นะ...ให้ผมค้างสองสามคืนเอง รับรองจะติดใจ”

พูดแล้วโมเมไปบอกตาทศว่าดาริกาอนุญาตแล้ว ทั้งกุสุมาและตาทศพาซื่อบอกให้ขึ้นบ้านไปจัดข้าวของเลย

“ตา...แม่...หนูไม่ได้อนุญาตสักหน่อย” ดาริกาตามมาบอก กุสุมาร้องอ้าว ตาทศพูดขำๆว่า

“ตื๊อดีว่ะไอ้เจ้านี่ เขาหน่วยก้านดีนะ แรงเตะ แรงหมัดใช้ได้ ว่าแต่ไม่เป็นเกย์แน่นะ” ตาทศถามกุสุมา

ดาริกาตามขึ้นไปบนบ้าน คุณจันทร์หยิบมือถือขึ้นมาบันทึกไปบรรยายไปว่ามีอะไรที่ต้องทำบ้าง

“สำรวจสินค้าตลาดสด ดูกลุ่มผลิตผลทางเกษตร ศึกษาระบบซื้อขายสินค้าโอทอปของท้องถิ่น” ถูกดาริกาประชดว่ากิจกรรมเยอะนะคะ “ครับ...นี่ผมยังศึกษาวิถีไทยชาวบ้านด้วยนะ เริ่มตั้งแต่พรุ่งนี้ผมจะตื่นเช้าตักบาตรที่วัดกับตาทศ คุณจะไปร่วมด้วยก็ได้นะ จะทำบุญเลี้ยงพระเพล ถวายผ้าไตร กลางคืนเห็นว่ามีงาน...”

“พอ...นึกถึงสวัสดิภาพฉันบ้างไหม” ดาริกาขัดขึ้น เขาถามว่าเรื่องอะไรหรือ? “คุณแม่คุณไง ถ้าท่านรู้ว่าลูกชายท่านมาค้างบ้านสัปเหร่อหลังป่าช้า ท่านคงเป็นลมตาย ก่อนตายก็คงฆ่าฉันก่อน”

“ปล่อยท่านเถอะครับ ท่านจะต้องรู้เสียทีว่า ยิ่งท่านบังคับผมมากเท่าไหร่ ผมก็จะดิ้นให้หลุดมากขึ้นเท่านั้น”

ดาริกาถามว่าต้องดิ้นอีกกี่เฮือก เพราะตอนนี้ก็พาแพ็ทมาให้เขาอีกรายแล้วแถมยังขู่ให้ตนลาออกไปเร็วๆ คุณจันทร์ขอให้อดทนอีกหน่อยเหลือเวลาไม่ถึงปี ให้ตนพิสูจน์เรื่องงานของตนให้ได้ก่อน วันนั้นตนจะขอแต่งงานกับเธอต่อหน้าท่าน และจะบอกท่านด้วยว่า ที่ตนประสบความสำเร็จครั้งนี้เป็นเพราะเธอทั้งสิ้น

“ท่านจะเชื่อเหรอคะ”

“ต้องเชื่อซีครับ เพราะชีวิตนี้ผมไม่รักใครและแต่งงานกับใครเด็ดขาด นอกจากคุณ”

ดาริกาฟังเคลิ้ม ปล่อยให้คุณจันทร์ดึงเข้าไปกอดแนบแน่น

กุสุมากับตาทศแอบดูอยู่ ตาทศบอกว่าเชื่อแล้วว่าเขาไม่ใช่เกย์

ooooooo

รุ่งขึ้น คุณจันทร์ในชุดแบบชาวบ้าน ไปช่วยขายข้าวแกงที่เต็นท์ข้าวแกง นอกจากฝีมือทำอาหารของดาริกาจะดึงดูดลูกค้าแล้ว ลีลาเชียร์แขกของคุณจันทร์ก็เป็นเสน่ห์เรียกลูกค้าเข้าร้านกันเนืองแน่น

แต่เพราะยังมือใหม่ คุณจันทร์ยกถาดอาหารไป หลายอย่างเลยจำไม่ได้ว่าใครสั่งอะไรบ้าง เขาประกาศอาหารแล้วถามว่าโต๊ะไหนสั่ง ด้วยลีลาร่าเริงขี้เล่นปากหวานของเขาทำให้ลูกค้ายิ้มอย่างเอ็นดู บางรายหยอกว่าน่าจะแถมรูปหล่อกลับไปด้วย

ที่ร้านสุดสวาท เจ้าตัวนั่งเงียบเหงาหาวนอน สุดหล่อเอาแต่เล่นเกม สุดที่รักมองร้านดาริกาเซ็งๆถามแม่ว่าเด็กเสิร์ฟเป็นใคร สวาทบอกว่าคงเป็นผัวใหม่กระมัง สามแม่ลูกกระแนะกระแหนดาริกากันเจ็บแสบ แต่ดาริกา กุสุมาและตาทศต่างมองหน้ากันยิ้มๆ แล้วตั้งหน้าตั้งตาขายอาหารกันมือเป็นระวิง ขายดีจนคุณจันทร์บอกว่า

“แม่ครับ ตาครับ คนสั่งเพิ่มเพียบเลย ผมว่าวันนี้เราขายดีเกลี้ยงร้านแน่ๆ” ตาทศถามว่าทำไมถึงเสิร์ฟคล่องอย่างกับมืออาชีพเลย “ผมกำลังใช้กลยุทธ์ในการขายมาลองปฏิบัติจริงดูน่ะครับ นี่ครับ ข้าวที่สั่งเพิ่ม” พูดพลางยื่นรายการให้ดู

แต่พอสวาทรู้ว่าไอ้หนุ่มเสิร์ฟคนนั้นคือหม่อมหลวงจันทรกานต์ก็หาว่าดาริกาทำเสน่ห์ใส่เขา ตาทศบอกว่าใช่ ให้สวาทลองไปทำดูบ้าง ง่ายๆแค่จุดธูปดอกเดียวไหว้พระ ทำทาน รักษาศีล เจริญสมาธิภาวนา คิดดี ทำดี นั่นแหละเสน่ห์ที่นังดาวมันใช้ล่ะ สวาทฟังแล้วเบ้หน้าว่าแค่สัปเหร่อปลดระวางไม่ต้องมาเทศนาให้เหม็นขี้ฟัน แล้วสะบัดกลับร้านไป

พอกลับถึงร้านตัวเองที่เงียบราวกับป่าช้า สวาทก็สั่งสุดที่รักให้เอาเบอร์ของดำรงพ่อของดาริกามา สุดที่รักกดเบอร์ส่งให้ทันที สวาทรับโทรศัพท์ไปจิกตามองไปทางเต็นท์อาหารของดาริกาอย่างหมายมาด

ooooooo

อาร์ตี้กลับมาทำงานบริษัทวรางค์อีกครั้ง ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากทุกคน อาร์ตี้ขอบคุณทุกคนที่ฉุดตนขึ้นจากการทำลายตัวเองด้วยน้ำเมา และขอทุกคนว่าถ้าตนหวนกลับไปดื่มอีกให้เตะกันคนละทีเลย

นอกจากนั้น อาร์ตี้ขอบคุณวรางค์เป็นพิเศษที่ฉุดตนขึ้นจากน้ำเมาเป็นครั้งที่สองสัญญาว่าจะไม่มีครั้งที่สามที่สี่แน่นอน และยังมีผลงานดีไซน์เล็กๆเป็นพิเศษให้วรางค์โดยเฉพาะอีกด้วย นั่นคือการ์ดแต่งงานที่มีชื่อ วรางค์กับอาร์ตี้คู่กัน

ขณะทุกคนกำลังมุงดูการ์ดอย่างตื่นเต้นนั่นเอง แพ็ทเดินมาทักว่าดูอะไรกันอยู่หรือ วรางค์จึงบอกน้องๆ ให้ไปทำงานกันได้แล้ว พอทุกคนแยกย้ายกันไปทำงาน แพ็ทก็ต่อว่าอาร์ตี้และวรางค์ว่าทำไมไม่บอกตนสักคำว่าจะกลับไปถ่ายทำโฆษณากาแฟ “ภูตะวัน” ของตนได้แล้ว

วรางค์เชิญแพ็ทไปคุยกันที่ห้อง แพ็ทบอกว่าเวลาตนไม่มากพูดตรงนี้เลย อาร์ตี้จึงบอกว่าเรายุติโปรเจกต์กาแฟภูตะวันแล้ว เพราะเราคงตอบสนองความต้องการของเธอไม่ได้โดยเฉพาะที่ให้ตนรับบทพระเอก แพ็ทบอกว่าแบบนี้เรื่องยาวแล้วและขอคุยส่วนตัวกับอาร์ตี้ที่ห้องทำงาน

แพ็ทตำหนิและต่อว่าอาร์ตี้ว่าทำไมทำกับตนแบบนี้ อาร์ตี้ชี้แจงว่าเพราะเธอมีเจตนาไม่บริสุทธิ์ คืนนั้นตนเมาก็ลากไปค้างด้วยทั้งคืน ตัดบทว่า

“พอเถอะครับ เราจบกันเท่านี้ แล้วค่าเสียหายทางเรายินดีชดใช้ให้ เชิญครับ” อาร์ตี้ผายมือเชิญออกไป แพ็ทใช้แผนเด็ดโผกอดอาร์ตี้ร้องไห้รำพันว่า เรื่องความรักไม่มีอะไรชดใช้ได้ ถูกอาร์ตี้ผลักออกแล้วขอตัวออกไปเลย แพ็ทเช็ดน้ำตามองตามอาร์ตี้ไปขำๆ

พอออกจากห้อง วรางค์ถามอาร์ตี้ว่าเป็นอย่างไรบ้าง เขาตอบไม่สบตาว่าไม่มีอะไรแล้วเดินไปเลย เมื่อแพ็ท ตามออกมา วรางค์เข้าไปขอโทษ แพ็ทฝืนยิ้มบอกว่าไม่เป็นไร พลันก็ได้ยินพวกน้องนางคุยกันเรื่องเจ้าสาวและเพื่อน เจ้าสาว แพ็ทเดินไปถามน้องนางว่าเจ้าสาวอะไร? พอเห็นการ์ดก็อุทาน

“อ้าว...คุณวรางค์ การ์ดแต่งงานนี่คะ ระบุเวลาสถานที่เรียบร้อยแล้วด้วย ยังไงก็ต้องเชิญแพ็ทนะคะ เพราะแพ็ทมีของขวัญชิ้นพิเศษสุดจะมอบให้คุณและอาร์ตี้ ลาล่ะค่ะ...ยายนาง! กลับ!” แพ็ทสั่งเฉียบขาดจนน้องนางต้องลาทุกคนกลับ

ระหว่างลงบันได แพ็ทโทร.ถึงคุณจันทร์บ่นหัวเสียว่าทำไมไม่รับสาย น้องนางเลยเล่าให้ฟังว่า เห็นพี่ๆเขาแชร์รูปให้กันเป็นรูปพี่ชายจันทร์กับพี่ดาว แพ็ทขอดู เป็นรูปคุณจันทร์กับดาริกากำลังรดน้ำต้นไม้กันอย่างสนุกสนาน...คุณจันทร์เสิร์ฟอาหารในร้านดาริกาอย่างทะมัดทะแมง...คุณจันทร์ถ่ายรูปกับกุสุมาและตาทศโดยมีดาริกายืนซบอยู่ข้างๆ

แพ็ทถามน้องนางว่านี่ที่ไหน น้องนางเล่าอย่างสนุกสนานว่าที่บ้านดาริกาเห็นว่าคุณจันทร์จะไปค้างตั้งสองสามคืน

“ยี้...บ้านในป่าช้าน่ะหรือ” แพ็ททำเสียงสยองแสยง แล้วบ่น “คุณจันทร์นะคุณจันทร์ ทำไมใฝ่ต่ำอย่างนี้ แชร์รูปมาให้ฉัน” น้องนางดักคอว่าพี่แพ็ทคงไม่ทำอะไรที่ต่ำช้า อุบาทว์ และสารเลวนะ ก็ถูกตวาด “ส่งรูปมา!!” พอน้องนางส่งรูปให้ แพ็ทยิ้มกริ่มอย่างมีแผน

ooooooo

อรชรให้นักสืบไปสืบพ่อแม่ของข้าวตอก ดอกไม้และข้าวตู ปรากฏว่าพ่อแม่หายสาบสูญไปหมดแล้ว ครั้นจะอุปโลกน์ใครขึ้นมาเป็นพ่อแม่ก็ไม่กล้า กลัวความแตกจะเสียชื่อคุณหญิงของตน

พอดีอิงฟ้าเดินลงมาบอกว่าจะไปทำงาน บอกว่าปุ๊กับเป้าไม่ต้องตามเพราะไปเกะกะที่บริษัท บางวันก็ไปงัดข้อกับยาม ส่งเสียงดังจนคนที่นั่นเขารำคาญจะแย่แล้ว อรชรยอมแต่สั่งว่าคืนนี้ต้องกลับมาทานข้าวกับแม่ อิงฟ้ารับคำแต่อาจต้องรอถึงห้าทุ่ม พออิงฟ้าออกไป ป้าแมวก็สาระแนว่า กลับห้าทุ่มแบบนี้ต้องแว่บไปหาเจ้าปลาจวดแน่ๆเลย

“ยายปุ๋ม ที่ให้ทำตัวเป็นนักสืบ ได้ความอะไรบ้างไหม” อรชรถามปุ๋ม แม่นั่นดี๊ด๊าทันทีว่าสดๆร้อนๆ เมื่อ กี๊นี้เอง แล้วสาธยายที่แอบฟังอิงฟ้าคุยโทรศัพท์ขณะแต่งตัวอยู่ในห้องนอน เล่าราวกับอัดเทปมาว่า

“ใช้งานคุณจันทร์แบบลูกทาสเลยเหรอคะ พี่ดาวน่ะชอบแกล้งพี่ชายเรื่อยเลย เขาว่าแกล้งมากก็รักมาก ฮิๆ พรุ่งนี้จะขายของที่ตลาดน้ำ อุ๊ย...อยู่ใกล้ๆ มูลนิธิด้วย งั้นฟ้าขอไปเที่ยวด้วยนะคะ จะพาเด็กๆไป แน่นอนอยู่แล้ว...คุณพ่อวิวิทธิ์ต้องไปด้วยอยู่แล้ว”

ฟังปุ๋มแล้ว อรชรโกรธมากที่อิงฟ้านัดกับวิวิทธิ์จะไปเที่ยวตลาดน้ำใกล้บ้านดาริกา เอะใจถามว่า คุณจันทร์ชอบดาริกาหรือ? พอเป้าบอกว่าเท่าที่เห็นดูจะสนิทกันเกินเจ้านายกับเลขา อรชรสั่งปุ๊กับเป้าให้ตามอิงฟ้าไปตลาดน้ำและให้รายงานสดอย่าให้พลาดแม้แต่ช็อตเดียว ปุ๊รับคำจะออกไปทันที ถูกป้าแมวด่าว่าจะบ้าหรือ คุณหนูจะไปพรุ่งนี้!

แพ็ทเอารูปที่บังคับเอาจากน้องนางไปให้ดารารายดู ดารารายแทบจะกรี๊ดเมื่อเห็นลูกชายไปอยู่บ้านสัปเหร่อ ทำงานหนักทั้งรดน้ำต้นไม้ ถูบ้าน เสิร์ฟอาหาร เอารูปให้ดูจุดอารมณ์ของดารารายแล้ว แพ็ทบอกว่าตนคงไม่สามารถสานต่อธุรกิจกับคุณจันทร์ได้แล้วรวมทั้งเรื่องที่จะให้ตน...ดารารายตัดบททันทีว่าอย่า เพิ่งปฏิเสธ งานนี้ตนไม่ยอมง่ายๆแน่ ถามว่า

“พรุ่งนี้หนูว่างไหม ไปกับน้าหน่อย” แพ็ทถามว่าจะไปบ้านดาริกาหรือ “ใช่ งานนี้ต้องลงทุนกันหน่อย และน้าจะรื้อฟื้นอาชีพเดิมของน้าด้วย...ตากล้องเอาต์ดอร์มืออาชีพไงจ๊ะ”

แล้วดารารายก็เปิดลิ้นชักหยิบกล้องถ่ายรูปราคาแพงและอุปกรณ์ต่างๆออกมาเพียบ แพ็ทมองแล้วอมยิ้มสมใจ

ooooooo

คืนนี้ดาริกากางมุ้งให้คุณจันทร์นอนที่โถงกลาง เขาถามว่าไม่ให้นอนในห้องหรือ เธอบอกว่าไม่มีห้องเหลือ นอนตรงนี้แหละเย็นสบายดี

คุณจันทร์ดูกระดานดำที่ดาริกาจดเงินที่สะสมไว้เพื่อซื้อที่วัด เห็นใกล้ความจริงแล้ว เขาแสดงความยินดีด้วย

“น้ำพักน้ำแรงของฉันเลยนะคะ ซื้อที่เป็นของเราเสียที จะได้ไม่ต้องเช่าวัดอยู่ แม่กับตาจะได้สบายใจเสียที” เขาถามว่าซื้อที่ได้แล้วจะทำอย่างไรต่อ “เร่ิมด้วยให้ตากับแม่เลิกทำงาน ให้ท่านพักผ่อนเสียที เห็นตากับแม่สบายกายสบายใจฉันก็มีความสุข”

“คุณทำทุกอย่างให้กับคนที่คุณรัก” ดาริกาบอกว่าอะไรจะมีค่าเท่ากับเห็นคนที่เรารักมีความสุขเล่า เขาเลยอ้อนบ้าง “ใช่ครับ...แล้วเมื่อไหร่จะถึงเวลาของคนรักอย่างผมเสียที”

ดาริกาค้อนเขินๆ บอกให้นอนเถอะ ดึกแล้ว เขาถามว่าไม่อยู่เป็นเพื่อนหน่อยหรือ ดูมันวังเวงเหมือนกันนะ เธอถามขำๆว่ากลัวเหมือนกันหรือ บอกให้นอนเสีย เก็บ ชายมุ้งให้แน่นด้วย เดี๋ยวลมพัดหลุดยุงจะเข้ามาหามเอา

แต่พอดาริกาไปแล้ว คุณจันทร์เหลือบมองฝาโลงเห็นสีเหลืองเหมือนจะเรืองขึ้นมา เขารีบดึงผ้าห่มคลุมโปง พลันหูก็แว่วเสียงกรูเกรียว เสียงเหมือนคนเดิน เสียงเหมือนคนหัวเราะ คุณจันทร์ทนไม่ไหวลุกวิ่งอ้าวไปหาดาริกาบอกว่าตนถูกผีหลอก ตาทศเดาออกว่าเกิดอะไรขึ้น ให้เขานิ่งฟัง แล้วกุสุมาก็อธิบายว่า

“เสียงลูกไม้มันหล่นบนหลังคาน่ะค่ะ ค้างคาวมันมากินชมพู่” ส่วนเสียงหัวเราะ ตาทศอธิบายว่า

“เสียงตุ๊กแกน่ะครับ มันร้องหาคู่” กุสุมาเพิ่มเติมว่าแล้วเวลามันฟาดหางกับฝาบ้าน รวมกับเสียงร้องมันเลย เหมือนเสียงคนหัวเราะ “ที่เรากลัวน่ะ เรากลัวความรู้สึกของเราเอง ก็เลยจินตนาการไปใหญ่โตอย่างที่คุณเป็นอยู่นี่แหละ” แล้วตาทศก็เรียกคุณจันทร์ให้ตามตนไปที่ฝาโลง ให้จุดธูปขอขมาเจ้ากรรมนายเวรเสีย จิตใจจะได้สงบขึ้น ทุกคนทำตาม

“ฝาโลงน่ะ มีเพื่อให้เข้าใจชีวิต ชีวิตมันก็เท่านี้ ตายไปก็เหลือแค่ฝาโลง เหมือนแค่เศษธุลี เตือนสติให้เราตระหนักรู้ว่าความตายอยู่ใกล้เราทุกขณะ เพราะฉะนั้น ดำเนินชีวิตอย่างไรไม่ให้ประมาท ไม่ยึดมั่น ถือมั่น ตัวกูของกู ใช้ชีวิตให้มันพอเพียง รู้จักแบ่งปันไม่ละโมบไม่เบียดเบียน เท่านี้ชีวิตก็มีความสุขแล้ว”

“รู้สึกดีขึ้นไหมคะ” ดาริกาถามเมื่อเห็นเขาสงบและยิ้มออก เขาบอกว่าดีขึ้นเยอะเลยไม่กลัวผีอีกแล้ว แต่พอเธอบอกให้ไปนอนได้แล้ว เขากลับบอกว่านอนคนเดียวมันโล่งๆ รู้สึกไม่คุ้น กุสุมาเลยให้ดาริกามานอนเป็นเพื่อนก็แล้วกัน

แต่ไม่ใช่ดาริกามาคนเดียว ทั้งกุสุมา ตาทศมานอนเรียงกันเป็นตับ ซ้ำดาริกายังถูกตาทศกับกุสุมานอนกั้นไว้ด้วย

ooooooo

เพราะคุณจันทร์เรียกแขกเก่ง ดาริกาเลยชวนไปขายต้นสมุนไพรและไม้มงคลกันที่ตลาดน้ำ ขณะกำลังจะช่วยกันขนต้นไม้ขึ้นรถ ดำรงก็โผล่มาทักทายตาทศ กุสุมาและดาริกาอย่างยิ้มแย้มแจ่มใส แต่ทั้งสามมองอย่างเสียความรู้สึก

ดำรงแสดงความเป็นพ่อ เป็นเจ้าข้าวเจ้าของดาริกาและตีสนิทกับคุณจันทร์ราวกับรู้จักกันมานาน ดำรงคุยโวอวดความร่ำรวยและบารมีของตำรวจเก่าจนดาริกาอาย

เมื่อดำรงกลับไปแล้ว ดาริกาบอกให้คุณจันทร์คิดใหม่ตัดสินใจใหม่ได้แล้วว่ายังอยากแต่งงานกับตนที่มีพ่อเป็นคนแบบนี้ไหม ถ้าแต่งกันเขาจะต้องถูกขูดรีดไปทั้งชีวิต ถ้าจะถอนตัวก็ยังทัน คุณจันทร์บอกว่าแค่นี้ตนจัดการได้ ทั้งยังพูดอย่างชื่นชมว่า

“ครอบครัวคุณเป็นครอบครัวที่น่ารักที่สุด อบอุ่นที่สุดเท่าที่ผมเคยพบมา ดาริกาไม่รู้หรอกหรือว่าผมมีความสุขแค่ไหนที่ได้มาพักที่นี่ อยู่กับคุณ อยู่กับคุณแม่ คุณตา บ้านที่เต็มไปด้วยความรัก ความห่วงใยที่คนใน ครอบครัวมีให้กันแบบนี้ มันอบอุ่นที่สุดแล้ว”

“ขอบคุณค่ะ ที่ไม่รังเกียจความเป็นฉัน”

“จำไว้นะดาริกา คุณคือสิ่งที่ดีที่สุดในชีวิตผม” คุณจันทร์ดึงเธอไปกอดอย่างรักใคร่

ดาริกาเอาต้นสมุนไพรและไม้มงคลไปวางขายที่ร้านเฮียเขียว เมื่อเฮียเขียวมาเห็นไม้มงคล ดาริกาบอกว่าอยากได้ต้นไหนหยิบไปเลย ทำให้คุณจันทร์ได้เห็นถึงธรรมเนียมอันดีงามของคนค้าขายที่มีน้ำใจแลกเปลี่ยนของกันและเอื้ออารีต่อกัน ไม่ถือเงินตราเป็นพระเจ้า เขาบอกว่าจะจำไปใช้บ้าง

สายๆ อิงฟ้ากับวิวิทธิ์ก็พาเด็กๆมาถึง วิวิทธิ์ทักคุณจันทร์ว่าวันนี้เป็นพ่อค้าเต็มตัวเลย อิงฟ้าดูต้นไม้บอกวิวิทธิ์ว่า “น่าซื้อไปปลูกที่บ้านนะพ่อ” วิวิทธิ์ตอบเต็มปากเต็มคำว่า “ครับ คุณแม่อิงฟ้า” ทำเอาคุณจันทร์และดาริกามองหน้ากันอึ้งๆ

ooooooo

ที่ทางเข้าตลาด ปุ๊กับเป้าซ้อนมอเตอร์ไซค์สุดหล่อกับไอ้เนมาเพื่อติดตามอิงฟ้า ทั้งสองเห็นดาริกากับคุณจันทร์กำลังจัดต้นไม้อยู่ในร้าน

สุดหล่อถามทั้งสองว่ารู้จักหม่อมหลวงหน้าตี๋กับดาริกาด้วยหรือ ปุ๊กับเป้าคุยว่าตนรู้จักดี ไอ้เนถามว่าตามคนบ้านเด็กดีมาทำไมเผื่อตนจะช่วยได้ เพราะตนเป็นคนพื้นที่ ปุ๊กับเป้าสนใจเลยชวนกินกาแฟยกล้อแล้วงัดข้อเล่นกันหน่อย

อิงฟ้ากับวิวิทธิ์เห็นผู้มาเที่ยวพากันเดินผ่านร้านไปอย่างไม่สนใจ คุณจันทร์เสนอว่าเราต้องมีวิธีเรียกแขก แล้วก็จัดให้ข้าวตอก ดอกไม้และข้าวตูออกไปเต้นเรียกแขก เด็กๆเต้นผิดเต้นถูก คุณจันทร์ ดาริกา อิงฟ้าและวิวิทธิ์เลยโดดลงไปเต้นด้วยอย่างสนุกสนาน

ดารารายกับแพ็ทที่อำพรางใบหน้าเต็มที่เดินมาเห็น ดารารายหาว่าพวกดาริกาเอาเด็กมาขอทาน แพ็ททำเป็นทนดูคุณจันทร์ไม่ได้บ่นว่าพี่ชายเป็นไปได้ถึงขนาดนี้เลยหรือ

นอกจากคุณจันทร์จะเต้นแล้วยังเชียร์แขกอย่างสนุกสนานจนมีคนมามุงดูต้นไม้กันเป็นกลุ่ม บางส่วนก็มายืนดูเด็กๆอย่างเอ็นดู

“คุณจันทร์ ได้ผลแฮะ เด็กๆเรียกคนเข้าร้านได้จริงๆ ไอเดียคุณนี่เจิดจริงๆ สุดยอด ขอบคุณค่ะ” เธอเข้าไปจุ๊บแก้มเขาทีหนึ่งแล้วแยกไปขายของ แพ็ทฟ้องว่า “จูบกันด้วยค่ะน้าดาว” ดารารายถ่ายรูปมือสั่นหน้าซีด

“อีดาว...แกมาขายของอยู่ตรงนี้นี่เอง ไอ้หม่อมหลวงจันทร์ วันนี้แกเสร็จข้าแน่ ฮ่ะๆๆ” เสียงดำรงดังจากข้างหลังดาราราย ทำเอาทั้งดารารายและแพ็ทตกใจ ยิ่งเมื่อเห็นดำรงเข้าไปพูดดุดันกับดาริกาและคุณจันทร์ ดารารายกลัวว่าดำรงจะฆ่าคุณจันทร์แต่ไม่รู้ว่าดำรงเป็นใคร

ooooooo

สุดหล่อกับไอ้เนถามปุ๊กับเป้าว่าต้องการเฉดเด็กสามคนนั้นออกจากบ้านเด็กดีใช่ไหม มันอาสาทำให้แต่ต้องมีค่าใช้จ่าย

อ่านละคร ดาวเคียงเดือน ตอนที่ 11 วันที่ 4 ส.ค. 57

ละครเรื่องดาวเคียงเดือนบทประพันธ์โดย รอมแพง
ละครเรื่องดาวเคียงเดือน บทโทรทัศน์โดย นันทวรรณ รุ่งวงศ์พาณิชย์
ละครเรื่องดาวเคียงเดือน กำกับการแสดงโดย ชนินทร ประเสริฐประศาสน์
ดาวเคียงเดือน ละครแนว รักตลกโรแมนติก ดราม่าคอเมดี้
ละครเรื่องดาวเคียงเดือน ผลิตโดย บริษัท บรอดคาซท์ ไทยเทเลวิชั่น จำกัด
ละครเรื่องดาวเคียงเดือนควบคุมการผลิตโดย คุณอรุโณชา ภาณุพันธ์
ละครเรื่องดาวเคียงเดือนออกอากาศทุกวันศุกร์-เสาร์และวันอาทิตย์ เวลา 20.15-22.45 น.
ละครเรื่องดาวเคียงเดือน เริ่มออกอากาศตอนแรก วันศุกร์ 18 ก.ค.นี้ ทางไทยทีวีสีช่อง3
ที่มา ไทยรัฐ