@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร เหนือเมฆ 2 วันที่ 8 ธ.ค. 55

อ่านละคร เหนือเมฆ 2 มือปราบจอมขมังเวทย์ วันที่ 8 ธ.ค. 55

“ถ้าไม่อยากเจ็บตัว...อยู่นิ่ง ๆ ความจริงคืนนี้เราสองคนน่าจะมีอะไรสนุก ๆ ทำ ถ้าหมอไม่สู่รู้มากเกินไป อยู่เฉย ๆ แล้วหมอจะสบาย สบายจนไม่อยากจะตื่นมารู้จักโลกความจริงอีกเลย”

“ยาเสพติด”

“ดอกเตอร์แพรไพลินยังคงฉลาดเป็นกรด น่าเสียดายที่หลงผิดเสพยาเกินขนาดฉลองที่ตัวเองปิดคดีได้เร็วเกินคาด”

“ไม่นะ...ไม่”

กิตดึงตัวแพรไพลินเข้ามาใกล้ กำลังจะแทงเข็มฉีดยาลงไปที่แขนของแพรไพลิน แพรไพลินดิ้นสุดแรง เอาหัวโขกกิตจนเขาร้องลั่น เข็มตกลงพื้น กิตบันดาลโทสะตบแพรไพลินคว่ำสลบไป

“ทำไมต้องทำอะไรให้ยาก...ชอบเจ็บตัวรึไง”

กิตจะก้มลงเก็บไซรินจ์ ทันใดนั้นมีแสงไฟสว่างจ้าตบเข้ามาจากทางด้านหลัง พร้อมกดแตรดังลั่น เหมือนจะให้จอด



กิตหันไปมอง “ใคร”

“รถมาจากรีสอร์ท แต่ไม่ใช่รถของทีมนิติเทค”

“พวกชอบแส่เรื่องชาวบ้าน ได้เลย...จัดให้เต็ม” กิตกระชากปืนออกมาจากเสื้อ

ที่แท้เป็นนภาที่กำลังขับรถตามมา กิตชะโงกออกมาจากกระจกรถด้านหน้า ระดมยิงเข้าใส่เปรี้ยง ๆ ๆ ๆ นภารีบหักรถหลบทันที เธอพูดโทรศัพท์ผ่านหูฟัง สั่งการไปยังปลายสายบอกให้รีบส่งกำลังสนับสนุนมาด่วนที่สุด

นภาขับรถต่อไปพร้อม ๆ กับกระชากปืนออกมาเตรียมพร้อม กิตชะโงกหน้าออกมายิงรถนภาอีกครั้ง นภาพยายามยิงต่อสู้สกัดไม่ให้กิตหนีออกไปได้ หมวดที่ขับรถอยู่มองไปทางกระจกส่องข้าง เห็นหน้านภาที่กำลังยิงต่อสู้ชัดเจน

“งานเข้าแล้วล่ะผู้กอง คนที่ผู้กองกำลังจัดหนักน่ะ ผบ.นภา..เมียนายกฯ งานนี้ถ้าจัดไม่ถึงตาย...เราก็ตายล่ะ”

“จัดหนัก...จัดเต็ม”

หมวดส่งกระเป๋าอาวุธให้กิต กิตรับมาเปิดออก เห็นมีอาวุธสงครามเต็มไปหมด เขาหยิบอูซี่ออกมาแล้วชะโงกออกไปยิงกราดเข้าใส่รถของนภาทันที

รถสองคันไล่ล่ากันมา กิตชะโงกกราดอูซี่เข้าใส่รถของนภา นภาพยายามบังคับรถหลบหลีกแต่ไม่สำเร็จ กระสุนปืนกราดถูกฝากระโปรงรถเปิดออกควันโขมง รถนภาเสยเข้าที่ข้างทาง นภาลงจากรถ ตามยิงเข้าใส่รถของกิต สกัดอย่างไม่ลดละ

กิตชะโงกหน้าออกมาจากรถ โยนระเบิดเข้าใส่ ลูกระเบิดตกลงพื้น กลิ้งหมุนติ้วตรงมายังรถนภา นภารีบกระโดดหลบไปอีกทาง พร้อม ๆ กับระเบิดทำงาน

นภาถลาออกมาจากที่ซ่อน มองตามรถกิตออกไป เห็นรถกิตกำลังตีโค้งลงจากเนินเชิงเขานั้น นภาไม่ยอมแพ้ วิ่งตรงไปยังอีกด้านหนึ่งของเชิงเขา วิ่งตัดแนวทิวไม้อย่างรวดเร็ว ต้องการจะไปดักรถของกิต

รถของกิตเลี้ยวลัดเลาะ วนมาตามทางคดเลี้ยวตามแนวเชิงเขา นภาวิ่งมาดักที่ถนนด้านหน้าได้สำเร็จ หญิงสาวดึงแมกกาซีนออกมาจากปืนพก เปลี่ยนเป็นแมกกาซีนที่บรรจุกระสุนเต็ม กระชากไกปืนเตรียมพร้อม

หมวดมองภาพตรงด้านหน้าที่นภายืนขวางถนนอยู่ไกลออกไป “แสบสันสมเป็นอดีต ผบ.สำนักงานสืบฯ กัดไม่ปล่อย”

“ขับชนไปเลย”

หมวดเหยียบกดคันเร่งเต็มแรง เพิ่มความเร็วรถขึ้นไป กิตชะโงกหน้าออกไปที่นอกหน้าต่างอีกครั้ง ยิงกระหน่ำเข้าใส่นภาที่ยืนอยู่ทางด้านหน้ารถ นภาไม่กลัวเกรง ยืนประจันหน้ารถกิตที่กำลังพุ่งเข้ามาใส่ ลั่นกระสุนปืนในมือไม่นับ

รถของกิตพุ่งเข้ามาใกล้นภามากขึ้นเรื่อย ๆ พร้อม ๆ กับที่กิตชะโงกหน้าออกมายิงกระสุนเข้าใส่นภาแบบไม่นับที่เบาะหลังข้าง ๆ กิต แพรไพลินเริ่มรู้สึกตัวขึ้น มองไปรอบ ๆ รับรู้ได้ถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้น แพรไพลินถลาไปต่อสู้กับกิตที่กำลังชะโงกตัวเองอยู่เต็มแรง กิตเสียหลักจะตกจากรถ แพรไพลินฉวยโอกาสนั้น เปิดประตูรถแล้วกระโดดลงจากรถ หมวดหันมามอง กิตพาตัวเองกลับมาในรถ

นภาเห็นเหตุการณ์ที่แพรไพลินโดดออกจากรถ พอรถเข้ามาในระยะที่นภาต้องการ นภาก็เล็งปืนนิ่ง ยิงเข้าใส่รถที่แล่นอยู่ กระสุนปืนของนภาเจาะเข้าที่กลางศีรษะหมวดคว่ำลงกับพวงมาลัย รถไร้การควบคุม กิตตกใจพยายามจะเข้าไปบังคับรถ แต่ไม่เป็นผล รถเริ่มหมุนพลิกคว่ำ

รถกิตพุ่งหมุนเข้ามาหานภามากขึ้นเรื่อย ๆ นภาจ้องมอง คำนวณจังหวะการหมุนของรถ รถเข้ามาใกล้เรื่อย ๆ นภาก้มตัวหมอบลง รถหมุนข้ามศีรษะของนภา ตกลงไปด้านล่าง รถระเบิด

ที่ระเบียงบ้านพักนภา ขณะที่แพรไพลินกำลังได้รับการปฐมพยาบาลจากเจ้าหน้าที่คนหนึ่ง ตำรวจท้องที่กำลังสอบถามพนักงานคนอื่น ๆ ตำรวจทั้งหมดเป็นตำรวจของสำนักงานสืบฯ กุ๊บกิ๊บให้ปากคำกับตำรวจคนหนึ่ง ให้ปากคำไปทำตาหวานไป เพราะตำรวจคนนั้นหุ่นล่ำหน้าตาดี

นภาเดินเช็ดหน้าเช็ดตาออกมา เป็นจังหวะเดียวกับที่แพรไพลินได้รับการปฐมพยาบาลเสร็จเรียบร้อยพอดี เสียงโทรศัพท์มือถือกุ๊บกิ๊บดังขึ้น กุ๊บกิ๊บดึงขึ้นมาดูแล้วหน้าเหรอหรา รีบเดินเข้าไปหาแพรไพลิน

“หมอคะ...โทรศัพท์หมอค่ะ จากคุณเพชรแท้...คุณแม่คุณหมอค่ะ”

นภาชะงักไปทันทีที่ได้ยินชื่อนี้ เพราะเพชรแท้เคยเป็นเพื่อนรักของนภานั่นเอง

“โทรฯมาสามครั้งแล้ว บอกว่าโทรฯเข้ามือถือคุณหมอ คุณหมอไม่ยอมรับสาย”

“ฉันไม่ว่าง”

“แต่คุณหมอไม่ได้ทำอะไร.. ว่างแล้ว”

แพรไพลินลุกขึ้นทันทีด้วยความไม่พอใจฉันไม่ว่าง ต้องรีบไปสรุปหลักฐาน”

แพรไพลินเดินกลับไปที่พักด้วยความรู้สึกไม่ค่อยดี เธอยังมีความไม่เข้าใจกับแม่อยู่มาก นภาเดินตามเข้ามาทางด้านหลัง พร้อมกับผ้าขนหนูผืนเล็ก ๆ แพรไพลินหันมาเห็นนภาก็ยิ้มต้อนรับ นภาส่งผ้าขนหนูให้แพรไพลิน

“ขอบคุณค่ะ ถ้าไม่ได้คุณนภา หนูคงแย่ คุณนภาทราบได้ยังไงคะว่าหนูกำลังตกอยู่ในอันตราย”

“สัญชาตญาณตำรวจมั้งจ๊ะ แต่ถ้าไม่ได้หนูสำนักงานสืบฯ คงยังจับตัวผู้กองกิตกับพวกไม่ได้”

“หนูคงทำไปตามสัญชาตญาณ”

“งั้นเราก็เป็นพวกทำงานตามสัญชาตญาณเหมือน ๆ กัน ฮึ ๆ น่าเสียดายที่ฉันออกจากราชการแล้ว ไม่อย่างนั้นคงมีโอกาสทำงานกับหนู” นภามองหน้าแพรไพลินแบบพินิจพิจารณา แล้วเอ่ยปากถาม “หนูเป็นลูกสาวของเพชรแท้ใช่มั้ยฉันเคยเป็นเพื่อนกับเพชรแท้สมัยเรียนมัธยม นึกไม่ถึงว่าจะมีลูกโตเรียนจบดอกเตอร์แล้ว เป็นยังไงคุณแม่สบายดีมั้ย..ไม่ได้เจอกันนานเลย”

“เอ้อ.. หนูไม่ค่อยได้พบคุณแม่นักหรอกค่ะ”

นภาเห็นอาการอึกอักของแพรไพลินก็พอเดาได้ว่าน่าจะมีปัญหากันอยู่ “ทะเลาะกันใช่มั้ย”

“เอ้อ...คือ...”

“ถ้าถึงขั้นเสี่ยงชีวิตเจียนตายยังไม่บอกแม่เนี่ย ไม่ใช่เรื่องธรรมดาแน่ ๆ อย่าหาว่าฉันละลาบละล้วงเลยนะ ลูกสาวฉันก็คงอายุพอ ๆ กับหนูเห็นหนูแล้วฉันก็อดคิดถึงลูกสาวไม่ได้ ฉันกับฟ้า...เราเคยมีเรื่องไม่เข้าใจ ไม่มองหน้ากันหลายสิบปี สุดท้ายไม่เคยมีใครมีความสุข หนูรู้มั้ย...ในวันที่เราลดทิฐิหันมาทำความเข้าใจกัน เราถึงพบว่าบนโลกใบนี้ไม่มีใครรักกัน...เท่ากับเราสองแม่ลูกอีกแล้ว” นภายิ้มให้กับแพรไพลิน แล้วเอามือแตะบ่าเธอไว้เป็นเชิงให้กำลังใจ

“หนูแพร หนูอยู่ในท้องแม่เพชร เป็นส่วนหนึ่งของกันและกันมาตลอด 10 เดือน เชื่อฉันเถอะ ระหว่างแม่กับลูกไม่มีอะไรทำลายความผูกพันระหว่างกันไปได้ปรับความเข้าใจกับแม่ซะเถอะนะ”

แพรไพลินนิ่งคิดตามนภา นภายิ้ม ๆ ให้กับแพรไพลินก่อนจะเดินออกไป แพรไพลินคิดตามคำพูดของนภา ตัดสินใจหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา เลือกเบอร์โทรศัพท์ที่มีชื่อ “แม่เพชรแท้” ระบุอยู่ คล้ายกำลังตัดสินใจจะโทรฯออก แต่ในที่สุดแพรไพลินไม่โทรฯ วางโทรศัพท์คว่ำหน้าไว้ตรงนั้น

เมฆากำลังพูดโทรศัพท์พร้อม ๆ กับเปิดทีวีเช็กข่าวในโทรทัศน์ ซึ่งสกายนิวส์เนตเวิร์กกำลังเสนอข่าวการเมืองภาคค่ำอยู่ มีภาพการสัมภาษณ์จักรที่มุมหนึ่งของพรรคไททิวัตถ์

“นภา ผมเพิ่งรู้ข่าว.. เป็นยังไงบ้าง”

“ไม่เป็นอะไรมากหรอก ไม่ต้องเป็นห่วงฉันหรอกค่ะท่านนายก”

“จะไม่ให้ห่วงสตรีหมายเลขหนึ่งได้ยังไง ขนาดส่งไปพักผ่อน ยังไม่วายไปช่วยเค้าจับโจร อย่าลืมสิ...ว่าคุณไม่ได้เป็นผบ.นภาแล้วนะ”

“อดไม่ได้น่ะค่ะ จะให้อยู่เฉย ๆ ปล่อยให้โจรเล่นงานคนของเราได้ยังไงคะ”

“เออ...เมื่อหัวค่ำหนูฟ้าโทรฯทางไกลมาจากซานฟราน บ่นว่าติดต่อคุณไม่ได้เลยผมไม่ได้เล่าเรื่องนี้ให้ฟังหรอกนะ กลัวแกจะเป็นห่วง...เลยโกหกว่าคุณกำลังสปาไม่สะดวกจะรับสาย”

“เป็นนักการเมือง โกหกได้เหรอคะ ฮึ ๆ รู้ค่ะ รู้...ฉันล้อเล่น ไม่บอกน่ะดีแล้ว กำลังท้องกำลังไส้ไม่อยากให้มีเรื่องต้องเครียด ทางคุณล่ะคะเป็นยังไงบ้าง...ได้ข่าวว่าขัดแย้งกับจักร”

เมฆาเดินมาที่หน้าจอทีวี รองอนันต์กำลังให้สัมภาษณ์ ที่หน้าจอทีวีมีตัวหนังสือระบุว่า “อนันต์ อนัตวานิชกุล รองนายกรัฐมนตรี”

“รองอนันต์น่าจะเอาอยู่ ยังไงผมคงยอมทำตามนายทุนพรรคไม่ได้” เมฆาหันไปดูทีวีที่กำลังเสนอข่าวการให้สัมภาษณ์ของรองอนันต์ด้วยความสนใจ “ดูแลตัวเองด้วยนะ...แล้วพบกันที่กรุงเทพฯ สวัสดีจ้ะ”

รถยนต์คันยาวของจักรแล่นเข้ามาภายในบริเวณบ้านพักรองอนันต์ พอรถจอดบอดี้การ์ดของอนันต์ก็เดินเข้ามาล้อมรถยนต์ไว้ แสดงท่าทางไม่พอใจ จักรก้าวลงมาจากรถ หัวหน้าใส่สูทคนหนึ่งเดินเข้ามาหา

“รองอนันต์แจ้งคุณจักรแล้ว ท่านไม่มีอะไรจะเจรจา เชิญกลับไปได้”

“แต่ฉันมีเรื่องสำคัญ”

“สำคัญยังไงวันนี้ก็พบไม่ได้”

“แน่ใจเหรอ”

“อย่าทำให้ลำบากใจ ผมกำลังพยายามให้เกียรติท่านอย่างที่สุดแล้ว”

“แต่ฉันต้องการพบรองอนันต์...วันนี้ และเดี๋ยวนี้”

“ยังไงก็ไม่ได้”

หัวหน้าหันไปพยักหน้ากับบอดี้การ์ดที่รายล้อมรถอยู่ เหล่าบอดี้การ์ดต่างกระชากปืนออกมาทันที

“คิดจะทำอะไร.. ถ้าใช้สติก่อนใช้อารมณ์ โลกใบนี้คงจะน่าอยู่ขึ้นเยอะ”

หัวหน้ากับเหล่าบอดี้การ์ดหันขวับไปมองอีกด้านหนึ่งของรถ เห็นวิญญู อัคนี ที่ปรึกษาส่วนตัวของจักรก้าวลงมาจากรถด้วยมาดเนี้ยบทุกกระเบียดนิ้ว นิ่ง ๆ จ้องมองไปยังทุกสายตาที่จ้องเขา ที่ดวงตาของวิญญู คล้ายทรงอำนาจบางอย่าง !!!

“คุณจักรต้องการพบรองนายกอนันต์”

หัวหน้ากับเหล่าบรรดาบอดี้การ์ดยืนตัวนิ่งแข็ง ตาลอยไร้ความรู้สึก วิญญูเดินนำจักรเข้าไปด้วยมาดสุขุม ผ่านพวกบอดี้การ์ดไป เสียงร้องอย่างเจ็บปวดของบรรดาการ์ดดังขึ้น วิญญูที่เดินเข้าไปกับจักรเหลียวหันไปมองเหล่าบรรดาบอดี้การ์ดแต่ละคน เห็นบรรดาบอดี้การ์ด นอนดิ้นทุรนทุรายเจ็บปวดอยู่กับพื้น

อนันต์โกรธจัด ชี้หน้าวิญญูกับจักร พลางถอยกรูดด้วยความหวาดกลัว “ไอ้พวกชั่ว แกคิดว่าเป็นใคร เข้ามาทำร้ายคนของฉันได้ยังไง”

“คนที่เป็นถึงรองนายกฯ จะพูดจะจา ควรระวังปากระวังคำให้มากกว่านี้”

เห็นแววตาดุดันและจ้องเขม็งของวิญญู รองอนันต์ถึงกับผงะชะงักไปนิดหนึ่ง

“ก็แค่มาเจรจา...”

“พวกแกต้องการอะไร”

“ตำแหน่งรองนายกฯ”

“อะไรนะ”

“ท่านรองนายกอนันต์...ท่านทำงานเหนื่อยมามาก ถึงเวลาต้องพักผ่อนอย่างสงบ พัก... ตลอดไป...!!!” วิญญูเน้นย้ำหนักแน่น ไม่ตะโกนเหมือนกระซิบสั่ง

สีหน้าและท่าทางของอนันต์เปลี่ยนไปเป็นคนละคน จากเกรี้ยวกราดกลายเป็นฟังทุกคำพูดของวิญญู

ตอนที่ 3

ครบกำหนดเส้นตายแล้ว แสงกล้ายังไม่ยอมไปตรวจสภาพจิตที่นิติเทคฯ ดาบแหบได้รับคำสั่งให้มาพาตัวแสงกล้าไปที่นิติเทคฯให้ได้ แสงกล้าโวยวายลั่น แต่สุดท้ายถูกดาบแหบบังคับพาขึ้นรถสำนักงานสืบฯไปจนได้

บนถนนแห่งหนึ่ง สมิงกำลังเอาโซ่คล้องที่รถโฟล์คซีร็อคโก้ที่โดนใบสั่ง กำลังจะยกรถออกไป ใกล้ ๆ กันนั้น มีตำรวจจราจรคนหนึ่งกำลังบันทึกเอกสารอยู่

หนุ่มหล่อสาวสวยรีบวิ่งเข้ามาอ้อนวอนตำรวจ “เดี๋ยวครับ...อย่าเพิ่งยก...ผมมาแล้ว”

“ช้าไปแล้วไอ้น้อง กีดขวางการจราจร”

สองหนุ่มสาวช่วยกันอ้อนวอน สมิงบอกให้ตำรวจจราจรลองฟังเหตุผลดูก่อน สองหนุ่มสาวเริ่มยิ้มได้

“นั่นไง...อะลุ้มกันหน่อย เหมือนที่พี่คนนี้เค้าบอกเหอะ”

“ใครเป็นพี่คุณ ผมไม่เคยมีน้องหน้าตี๋”

“นึกว่าเมตตาเพื่อนมนุษย์ด้วยกันเถอะค่ะ จะเอาอะไรเราก็ยอมทั้งนั้น นะคะ...วันนี้วันพระ ...นึกว่าทำบุญ”

พอจบคำว่าวันพระ...ทำบุญ สมิงก็หันขวับมาอมยิ้ม เหมือนถูกใจ “ไม่น่าเชื่อ...เด็กสมัยนี้รู้จักวันพระ น่าเห็นใจเค้าเหมือนกันนะครับแค่ว่ากล่าวตักเตือนดีมั้ยครับหมู่”

“เราสองคนอยู่ในศีลในธรรม นี่ก็เพิ่งออกมาจากสถานปฏิบัติธรรม”

“ไหนอาราธนาศีลให้ฟังหน่อย”

“อะไรนะคะ”

“อาราธนาศีล! เพื่อยืนยันไงว่าอยู่ในศีลในธรรม ชอบปฏิบัติธรรมจริง ๆ”

หนุ่ม สาว ชะงัก กระอักกระอ่วนเพราะเพิ่งออกจากผับโต้รุ่งมาต่างหาก

สมิงยิ้มรู้ทัน “มุสาวาทา เวรมณี สิกฺขาปทํ สมาทิยามิ โกหก แยกย้ายครับหมู่เดี๋ยวเจอกันที่โรงพัก”

สมิงเดินขึ้นรถยก แล้วขับยกซีร็อคโก้ออกไป ไม่ฟังเสียง หนุ่มสาวยืนเซ็งอยู่ตรงนั้นเอง

ระหว่างทาง แสงกล้าโจรกระชากกระเป๋าหญิงคนหนึ่งริมฟุตปาธ ผู้หญิงร้องโวยวายให้ช่วย แสงกล้าบอกให้ดาบแหบจอดรถ ดาบแหบไม่ยอมจอด แสงกล้าตัดสินใจเปิดประตูรถ ดาบแหบตกใจมาก รีบจอดรถ แสงกล้าโดดลงจากรถวิ่งไล่ตามจับคนร้าย ดาบแหบคิดว่าแสงกล้าวิ่งหนีเพราะไม่อยากไปนิติเทคฯ จึงรีบลงจากรถวิ่งไล่ตามแสงกล้าไป แสงกล้าไล่จับคนร้ายจนได้ ดาบแหบตามมาทัน จึงรู้ว่าแสงกล้าตามจับคนร้าย

“โธ่เอ๊ย นึกว่าหนีไปไหน ที่แท้ก็ไล่จับคนร้าย หลอกให้วิ่งตามซะลิ้นห้อย”

“มาก็ดีแล้ว แจ้งท้องที่ให้มารับตัวไปด้วย”

แสงกล้าส่งคนร้ายให้ดาบแหบ ดาบแหบวิทยุแจ้งท้องที่ จังหวะนั้นเอง แสงกล้าเห็นดาบแหบเผลอ รีบวิ่งหนีไป ดาบแหบหันมา เห็นแสงกล้าหลบไปอีกซอย จะวิ่งตามก็ไม่ได้มีคนร้ายอยู่

แสงกล้าวิ่งหนีดาบแหบไปสักพัก จนคิดว่าดาบแหบตามมาไม่ทัน ก็หยุดวิ่ง เดินอย่างสบายใจ แต่ขณะที่แสงกล้ากำลังเลี้ยวออกจากซอยหนึ่ง มีมือยื่นมาจับแขนแสงกล้า กุญแจมือสับลงบนข้อมือแสงกล้า อีกด้านหนึ่งของกุญแจมือติดกับมือดาบแหบ

“หนีผมไม่พ้นหรอกหมวด ผมบอกแล้วว่ายังไงวันนี้ผมก็ต้องเอาตัวหมวดไปนิติเทคฯ ให้ได้”

ดาบแหบขับรถพาแสงกล้าไปส่งที่หน้าอาคารนิติเทคโนโลยี สำนักงานสืบสวนพิเศษ” ดาบแหบเอากุญแจไขกุญแจมือแสงกล้าออก “อย่าหนีอีกนะหมวด ผมไหว้ละ...ยอมไปตรวจดี ๆ เหอะ”

แสงกล้ารับไหว้แทบไม่ทัน ดาบแหบเอาใบส่งตัวใส่ในมือแสงกล้า

“เอ้านี่...ใบส่งตัว ให้หมอเค้าตรวจแล้วเซ็นรับรองซะ แค่นี้หมวดก็จะหมดทุกข์หมดโศกทำงานสืบสวนได้อย่างเดิมแล้ว”

ดาบแหบชะโงกหน้าไปเปิดประตูให้แสงกล้า แล้วพยักเพยิดให้แสงกล้าลงไป แสงกล้าถอนหายใจยาว แต่ก็ยอมลงไปแต่โดยดี

“เดี๋ยวผมจะเอารถไปจอด แล้วเจอกันครับหมวด”

อีกมุมหนึ่งหน้านิติเทคฯ มีเจ้าหน้าที่เข็นเตียง เข็นศพของเหล่าบอดี้การ์ดของอนันต์หลายคนเข้ามา โดยมีผ้าคลุมปิดหน้าทุกคน เจ้าหน้าที่คนหนึ่งรายงานกับหัวหน้าที่เข้ามาตรวจเอกสาร

“มาจากบ้านรองอนันต์ทุกศพ”

“ค่ะ... ตายประหลาดทุกคน สำนักงานสืบฯ ต้องการผลชันสูตรด่วน”

เจ้าหน้าที่เข็นเตียงเข้าไปในตึก หัวหน้าชะงักเมื่อเห็นเจ้าหน้าที่เข็นเข้ามาอีกเตียงหนึ่ง เป็นรองอนันต์ที่ยังไม่ตาย แต่อาการเหมือนสลบไม่ได้สติ คมศรเดินนำเข้ามาพร้อมกับบอกหัวหน้าเจ้าหน้าที่

“สลบไม่ได้สติตั้งแต่เมื่อคืน คงต้องเอาตัวมารักษาที่นี่” คมศรเดินคุมเจ้าหน้าที่นำรองอนันต์เข้าไปด้านในสถาบันนิติเทคฯ

เจ้าหน้าที่ที่เคาน์เตอร์กำลังวุ่นวายกับเคสที่เพิ่งรับมาจากบ้านรองอนันต์ เจ้าหน้าที่กำลังโกลาหลกับงานเอกสารและระบบคอมพิวเตอร์ กุ๊บกิ๊บกำลังกำชับดูแลให้แต่ละคนทำงาน แสงกล้ายืนละล้าละลังอยู่ที่หน้าเคาน์เตอร์ เพราะเหมือนไม่มีใครสนใจเขาสักคน และเขากำลังจะหงุดหงิด เพราะแต่ละคนเดินผ่านเขาไปหมด

แสงกล้าจะยื่นเอกสารในมือแต่ไม่มีใครสนใจ “ผมมาติดต่อ...” เจ้าหน้าที่ไม่สนใจ แสงกล้าชักจะฉุน กุ๊บกิ๊บเดินเข้ามาหาเอกสารที่เคาน์เตอร์ แล้วชะงักมองหน้าแสงกล้า เธอยิ้มถูกใจ แสงกล้าดีใจที่มีคนสนใจ

“ผมมาจากสำนักงานสืบฯ”

กุ๊บกิ๊บยิ้มหวานรีบแนะนำตัว “กุ๊บกิ๊บค่ะ.. กุ๊บกิ๊บโสดสนิท...ไร้คู่ ไร้คนรู้ใจ 08-2122-2213 ค่ะ”
เจ้าหน้าที่ เข้ามาแทรกพูดกับกุ๊บกิ๊บ “เคสสำคัญเข้ามาแล้วค่ะกิ๊บ”

“แต่น่าเสียดายเรากำลังยุ่ง รอสักครู่ใหญ่ ๆ เลยนะคะ เดี๋ยวจะมายุ่งด้วย อย่าใจร้อนนะคะรูปหล่อ จุ๊บ ๆ”

พูดจบกุ๊บกิ๊บก็รีบเดินตามเจ้าหน้าที่อีกคนไป แสงกล้าหงุดหงิดเต็มที่ทิ้งตัวลงนั่งตรงหน้าเคาน์เตอร์นั้นเอง

อ่านละคร เหนือเมฆ 2 วันที่ 8 ธ.ค. 55

เหนือเมฆ2 : มือปราบจอมขมังเวทย์
เหนือเมฆ2 บทประพันธ์ - บทโทรทัศน์ : คฑาหัสถ์ บุษปะเกศ
เหนือเมฆ2 กำกับการแสดง : นนทรีย์ นิมิบุตร
เหนือเมฆ2ผลิต : บริษัท เมตตามหานิยม จำกัด โดยผู้จัด ฉัตรชัย เปล่งพานิช
เหนือเมฆ2 แนวละคร : ดราม่า แอ็คชั่น แฟนตาซี
เหนือเมฆ2 ออกอากาศทุกวันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ เวลา 20.15 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3
เหนือเมฆ2 เริ่มออกอากาศตอนแรกวันอาทิตย์ที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2555
ที่มา เดลินิวส์