@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร เหนือเมฆ2 ตอนที่ 1-2 วันที่ 6 ธ.ค. 55

อ่านละคร เหนือเมฆ2 มือปราบจอมขมังเวทย์ ตอนที่ 1

ทั้งสองต่อสู้กันด้วยลีลาสวยงาม แต่ขมังเวทย์มีลีลาการต่อสู้รวดเร็วกว่าแสงกล้าเสมอในทุกท่วงท่า แสงกล้าโดนเล่นงานจนย่ำแย่แต่ก็ยังสู้ไม่เลิก ไม่ยอมแพ้ แต่ในที่สุดแสงกล้าก็ล้มลงกองกับพื้น ปืนแสงกล้าหลุดออกจากมือ ไถลออกไปกับพื้น

ขมังเวทย์ ยิ้มเหี้ยมตรงเข้าไปกระชากแสงกล้าลอยขึ้นด้วยมือเดียว แสงกล้าดิ้นเต็มแรง ขาแสงกล้าลอยเหนือจากพื้นสะบัดไปมา ขมังเวทย์ขว้างร่างแสงกล้าออกไป กระทบกับผนังอย่างแรง แสงกล้าศีรษะกระทบกับผนัง... ล้มคว่ำ ขมังเวทย์เดินตรงไปที่แท่นเก็บตรีศูลวัชระ จ้องไปที่ตรีศูลวัชระ ฉับพลันระบบป้องกันก็เปิดออก ขมังเวทย์ยิ้มพอใจ

ตำรวจภายนอกศูนย์เดินตรวจรอบ ๆ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ดวงตาของแต่ละคนดูเหม่อลอยคล้ายโดนสะกด ขมังเวทย์เดินออกมาอย่างท้าทายไม่เกรงกลัว ตำรวจเหล่านั้นเปิดทางให้ขมังเวทย์เดินผ่านไป และเมื่อขมังเวทย์เดินผ่านตำรวจกลุ่มไหนไปแล้ว ตำรวจกลุ่มนั้นก็จะล้มร่วงลงไปแทบพื้น หมดสติทันที



บริเวณถนนทางเข้าอาคารศูนย์ศิลปะ ครามขี่มอเตอร์ไซค์เข้ามาอย่างรวดเร็ว มีไมค์วิทยุติดอยู่บริเวณหมวกกันน็อก “กำลังจะถึงอาคารศูนย์ศิลปะ..ภายในห้องจัดแสดงเป็นยังไงบ้างหมวดแสงกล้า” ไม่มีเสียงตอบรับ ครามเริ่มนิ่วหน้า “เกิดอะไรขึ้นหมวดแสงกล้า..รายงานด้วย...”

ครามรีบจอดรถบริเวณริมถนนด้านหน้าอาคาร ถอดหมวกกันน็อกออกแล้วกระชากปืน รีบออกไปอย่างรวดเร็ว ทันใดนั้นสัญญาณเตือนภัยของศูนย์ฯ ดังลั่น ครามรับรู้ได้ถึงความผิดปกติ รีบวิ่งไปยังอาคารจัดแสดงอย่างรวดเร็ว

ภายในห้องจัดแสดง แสงกล้าในสภาพย่ำแย่ เพิ่งกระชากสัญญาณเตือนภัยของศูนย์ เปิดสัญญาณเตือนภัยนั้น แสงกล้ายกวิทยุขึ้นรายงานคราม

“ตรีศูลวัชระถูกโจรกรรม ผู้ต้องสงสัยกำลังหนีออกไปทางหลัง สกัดจับด่วน” แสงกล้ารายงานเสร็จก็หมดแรง หมดสติล้มคว่ำไปทันที

ครามกระชากปืนเตรียมพร้อม วิ่งไปทางด้านหลังตามที่แสงกล้าบอก ครามเห็นขมังเวทย์กำลังเดินอยู่ไกลออกไป มีคลื่นพลังงานเป็นทางรอบ ๆ ทางเดินนั้น ครามยิงกระหน่ำเข้าใส่ขมังเวทย์ เปรี้ยง ๆ ๆ ๆ ๆ ขมังเวทย์หันมาเห็นเข้า รีบเดินไปอีกทางหนึ่ง

“ขอกำลังสนับสนุน..ผู้ต้องสงสัยโจรกรรมตรีศูลวัชระกำลังหนีไปทางอาคารก่อสร้างริมน้ำ” ครามพูดวิทยุเสร็จก็รีบตามขมังเวทย์ไปอย่างรวดเร็ว

ขณะที่ครามวิ่งตามขมังเวทย์ขึ้นไปบนอาคาร ได้มีรถตำรวจจำนวนมาก แล่นมาจอดหน้าอาคาร มีตำรวจพุ่งลงมาจากรถ แยกกำลังออกรายล้อมอาคารไว้

น้ำใสลงมาจากรถข่าว รีบรายงานข่าวสีหน้าตื่นเต้น “ขณะนี้ดิฉันอยู่ที่หน้าอาคารก่อสร้างของศูนย์ศิลปะแห่งเอเชียค่ะ ตำรวจสำนักงานสืบสวนพิเศษกำลังรุกไล่ผู้ต้องสงสัยโจรกรรมวัตถุโบราณตรีศูลวัชระ น่าจะจับตัวได้แน่ค่ะ”

กองกำลังตำรวจหลายสิบนายกระจายออกรายล้อมตึกทั้งหลัง และบางส่วนกำลังวิ่งขึ้นไปด้านบน

“ผู้ต้องสงสัยอยู่บนดาดฟ้าตึกค่ะ ขณะนี้ตำรวจตัดสินใจบุกขึ้นไปแล้ว” น้ำใสเงยหน้าขึ้นไปมองบนดาดฟ้าตึกฯ

ขมังเวทย์ยืนตระหง่านอยู่ที่ริมดาดฟ้า ยืนนิ่งเหมือนไม่สะทกสะท้านกับสิ่งที่เกิดขึ้น ครามขึ้นมาถึงที่ดาดฟ้า กระชับปืนในมือแน่น ค่อย ๆ เคลื่อนตัวเข้าไปหาขมังเวทย์

“ยอมมอบตัวซะดี ๆ ยังไงแกก็หนีไปไหนไม่รอด”

ขมังเวทย์ยืนนิ่ง หัวเราะก้องฟังแล้วน่ากลัวมาก ท้องฟ้าเหนือตึกจู่ ๆ บังเกิดเมฆดำปกคลุมไปโดยรอบ ลมพัดแรงคล้ายมีพายุ ครามมองไปรอบ ๆ ตัวด้วยแววตาวิตกพอสมควร พอดีกับกองกำลังตำรวจสนับสนุนมาถึง ครามส่งสัญญาณบอกให้ตำรวจล้อมขมังเวทย์ไว้

ขมังเวทย์เดินตรงเข้าไปหาตำรวจที่รายล้อมอยู่นั้น ตำรวจกดกระสุนยิงเข้าใส่รัว เปรี้ยง ๆ ๆ ๆ ขมังเวทย์ไม่สะทกสะท้านราวกับคงกระพัน ตรงเข้าใส่ตำรวจต่อสู้ด้วยมือเปล่า ดูเหมือนโจรขมังเวทย์จะเคลื่อนตัวได้เร็วกว่าตำรวจก้าวหนึ่งเสมอ คิวบู๊ดูล้ำและสวยงาม ตำรวจล้มคว่ำสู้ไม่ได้

ในที่สุดตำรวจทั้งหมดที่ล้อมอยู่ล้มคว่ำไม่เป็นท่า ขมังเวทย์หันขวับเข้ามาเผชิญหน้ากับคราม ครามถอยอย่างระแวดระวังและมีมาด ขมังเวทย์พุ่งเข้าใส่ทันที ครามยิงออกไปเปรี้ยงแต่ไม่โดน ขมังเวทย์ชกเข้าใส่ครามผลัวะเดียว ร่างครามลอยเคว้งอย่างรวดเร็ว แหวกอากาศ...ร่วงลงไปจากดาดฟ้าคล้ายตกลงไปยังพื้นเบื้องล่าง

ครามลอยเคว้งคว้างแหวกอากาศ ตกลงมาจากด้านบน ร้องลั่น ร่างครามตกลงที่ด้านล่างอาคารก่อสร้าง ตรงเบาะอากาศที่สำนักงานสืบกำลังกางอยู่พอดี ผู้คนด้านล่างฮือฮาเมื่อเห็นสภาพที่ครามตกลงมาจากด้านบน ตำรวจต่างพากันเข้าไปยังเบาะอากาศนั้น เพื่อจะช่วยครามขึ้นมา ครามยังอยู่ในสภาพหมดสติ

“เมื่อสักครู่ดิฉันได้ยินเสียงปืน เกิดการปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจกับผู้ต้องสงสัย ร่างของตำรวจตกลงมาด้านล่างค่ะ”

จู่ ๆ ทุกสิ่งก็หยุดนิ่ง น้ำใสที่กำลังรายงานข่าวอยู่ก็หยุดนิ่ง คนโดยรอบไม่เคลื่อนไหวแม้แต่น้อย ขมังเวทย์เดินออกมาจากอาคารเห็นน้ำใสที่ยืนรายงานข่าวนิ่ง ๆ อยู่ก็รีบเดินตรงเข้าไปหา เอานิ้วไล้ไปตามใบหน้าน้ำใส ดวงตา จมูก และแก้มทั้งสองข้าง เหมือนชื่นชอบ

“ฮึ ๆ ๆ” ขมังเวทย์เดินผละจากน้ำใสออกไป แล้วเดินขึ้นรถตำรวจแล้วขับออกไปอย่างท้าทาย แล้วบรรยากาศหยุดนิ่งค้างจึงกลับมาเป็นปกติดังเดิม

ภายในห้องสอบสวน อาคารสำนักงานสืบสวนพิเศษ พ.ต.ต.หญิง รวิ อิงคพัฒน์ ผบ. สำนักงานสืบสวนพิเศษกำลังจ้องหน้าแสงกล้าที่ได้รับการพยาบาลเบื้องต้นแล้ว สีหน้าไม่เชื่อสิ่งที่แสงกล้ากำลังให้ปากคำ ด้านหน้ามีโต๊ะประชุมและคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กวางอยู่

“ร้อยตำรวจตรีแสงกล้า จะให้ฉันเชื่อว่าคนที่ขโมยโบราณวัตถุชิ้นนั้นอยู่ยงคงกระพัน ยิงแทงไม่เข้างั้นเหรอ งมงาย นี่มันยุคไหนแล้ว”

“ผมมั่นใจว่าคนร้ายรายนี้ใส่เสื้อเกราะ”

“ถึงจะใส่เสื้อเกราะ แต่ถ้าโดนกระหน่ำยิง แรงปะทะจากกระสุนต้องทำให้จุกจนแทบสลบ”

แสงกล้าถอนหายใจเบื่อหน่าย ขยับเข้าไปกระชากโน้ตบุ๊กบนโต๊ะเข้าหาตัว รัวนิ้วอย่างรวดเร็ว ไม่นานนักภาพกราฟิกสวยงามเสื้อเกราะทันสมัยหลายมุม หมุนไปมา พร้อมคุณสมบัติภาษาอังกฤษก็ขึ้นพรึ่ดเต็มหน้าจอ

“เสื้อเกราะยู-เอส-วันทาวซัน ทอจากเส้นใยสังเคราะห์ไททาเนียม ป้องกันแรงปะทะได้มากกว่าเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ คนใส่จะไม่มีแม้กระทั่งรอยช้ำ” แสงกล้าหมุนหน้าจอโน้ตบุ๊กให้รวิดูแบบเหนือชั้นกว่า “เป็นถึงผู้บริหารสำนักงานสืบสวนพิเศษ นอกจากจะมีเส้นสายทางการเมือง คุณต้องมีฝีมือ มีความรู้กว้างไกล เพราะที่นี่เป็นสำนักงานสืบสวนพิเศษ ไม่ใช่โรงพักรับแจ้งเหตุคดีมโนสาเร่”

รวิบันดาลโทสะปิดฝาโน้ตบุ๊กหน้าแสงกล้าทันที “แล้วไอ้ตำรวจหน้าใหม่ที่เพิ่งเข้ามาไม่กี่เดือน รู้มั้ยว่าเสื้อเกราะรุ่นนี้มีใช้เฉพาะประเทศที่ผลิต หาซื้อไม่ได้ทั่วไปตามตลาดนัด โจรในจินตนาการของนายจะไปเอามาจากไหน”

“ไม่ใช่หน้าที่ที่ผมต้องรู้”

“อย่าคิดว่าสอบได้อันดับหนึ่งจะมากร่างแถวนี้ได้ ที่นี่คือโลกแห่งความจริง.. ไม่ใช่ทฤษฎี”

“ใช่..เพราะในตำรา ไม่เคยระบุวิธีการเข้าสู่ตำแหน่งผู้บัญชาการโดยนักการเมือง”

รวิตบโต๊ะโครม “ถ้าไม่หยุดหมิ่นประมาทผู้บังคับบัญชา นายได้ออกจากราชการแน่”

“ถ้ากลัวก็คงไม่พูด”

“ผู้การอินทนนท์พ่อเลี้ยงของนายค้ำกะลาหัวได้ไม่นานนักหรอกนะ อย่าพลาดให้ฉันเห็น”

“หมดเรื่องสอบสวนแล้วใช่มั้ย ผมจะไปทำงาน”

แสงกล้าลุกขึ้นอย่างไม่สนใจ กำลังจะเดินออกไปแต่กลับถูกรวิเรียกตัวไว้

“เดี๋ยว..ฉันจะส่งตัวนายไปตรวจสอบสภาพจิตที่นิติเทค”

“อะไรนะ”

“ก้าวร้าว.. ขาดการอดกลั้น.. อีคิวต่ำ ถ้าไม่ผ่านการตรวจสภาพจิตจากนิติเทคฯ สิบผู้การอินท
นนท์ก็ช่วยอะไรนายไม่ได้” รวิพูดเยาะแล้วเดินผ่านแสงกล้าออกไปทันที

ที่เคาน์เตอร์ภายในสำนักงานสืบฯ ครามเพิ่งได้รับการปฐมพยาบาลมาเช่นกัน ท่าทางยังบาดเจ็บไม่น้อย จับที่หัวไหล่ตัวเอง ดาบแหบเดินเข้ามาหากับจ่าหวาน

“ผู้กองเป็นไงบ้าง”

“มึน ๆ นิดหน่อย”

“นึกไงไปโดดบันจี้จัมพ์เล่น เสียวดีมั้ยฮิ ๆ”

ครามไม่ตอบ แต่จ้องหน้าจ่าหวานแบบดุ ๆ จนจ่าหวานหน้าม้านไป “น่าแปลกที่ฉันจำอะไรไม่ได้เลย จำได้แค่ตามผู้ต้องสงสัยขึ้นไปบนดาดฟ้า หลังจากนั้นเหมือนทุกอย่างถูกลบออกไปจากสมอง”

“เหมือนผมกับไอ้หวาน จู่ ๆ สลบไปได้ยังไงก็ไม่รู้”

ครามสีหน้าครุ่นคิด หันไปมองอีกด้านหนึ่ง เห็นตำรวจหญิงกำลังยื่นแฟ้มส่งตัวให้แสงกล้ารับไว้ ครามได้ยินแสงกล้าถามถึงเรื่องสถาบันนิติเทคจึงเดินเข้าไปแตะไหล่แสงกล้าแล้วอธิบายแทน

“นิติเทคฯ เป็นหน่วยงานใหม่ของสำนักงานสืบฯ ทำหน้าที่วิเคราะห์ พิสูจน์หลักฐานอาชญากรรมโดยใช้เทคโนโลยีทางวิทยาศาสตร์ ทำให้การสอบ สวนหาตัวคนร้ายทำได้ง่ายขึ้น”

“แล้วมันเกี่ยวกับสภาพจิตยังไงครับ”

“เจ้าหน้าที่ทุกคนของสำนักงานสืบฯ ต้องผ่านเกณฑ์ทดสอบจากนิติเทคฯ ไม่อย่างนั้น.. ตกงาน!!

“งั้นเลยเหรอ”

ตำรวจหญิงพูดยิ้ม ๆ “ไม่มีอะไรน่ากลัวหรอกค่ะหมวด หมอไพลิน ผอ.นิติเทคฯ น่ารักนะคะ”

แสงกล้าแทบกลั้นหัวเราะไม่ทัน “ผอ.ชื่ออะไรนะ...”

แสงกล้าได้ยินว่าผอ.นิติเทคฯชื่อไพลินก็คิดว่าจะต้องเป็นพวกคุณป้า ไว้ผมบ๊อบทรงกะลาครอบ ใส่แว่นขอบกระหนาเป็นนิ้ว แต่งตัวเชย ๆ สวมเสื้อปิดกระดุมถึงคอหอย นุ่งกระโปรงบานคลุมมิดถึงหัวแม่เท้า หารู้ไม่ว่า ดร.แพรไพลิน นวิยากุล มีบุคลิกที่ตรงกันข้ามกับที่แสงกล้าคิดเอาไว้

นภาที่กำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่ที่ระเบียงบ้านพัก มองเห็นบ้านพักที่อยู่ด้านล่างของรีสอร์ทมีเจ้าหน้าที่กำลังขึงริบบิ้นเหลืองปิดล้อมอยู่ที่บ้านพักหลังหนึ่ง เจ้าหน้าที่นิติเทคตรวจสอบหลักฐานรอบบ้าน มีป้ายและเครื่องหมายสถาบันนิติเทคระบุ “ห้ามเข้า!” นภา มองลงไปยังบ้านเกิดเหตุด้วยสายตาสงสัยด้วยสัญชาตญาณของตำรวจ

ผู้กองกิตกำลังช่วยแพรไพลินตรวจสอบหลักฐานอยู่ที่หน้าบ้านพักฯ กิตแอบมองแพรไพลินด้วยแววตาเจ้าชู้ แอบมองเรียวขา เนินอก และแนวเอวสะโพกที่ได้สัดส่วนของแพรไพลิน

“ทันทีที่ได้รับแจ้งเหตุ ผมรีบติดต่อเข้าไปที่สำนักงานสืบทันทีครับ”

“ผู้กองดูคุ้นเคยกับรีสอร์ทนี้”

“ท้องที่จัดสัมมนาที่นี่บ่อย”

แพรไพลินเดินอย่างไม่ระวังตัว มองไปรอบ ๆ เหมือนกำลังพยายามตั้งข้อสังเกตความผิดปกติบางอย่าง

“มีอะไรน่าสงสัยเหรอครับ”

“เปล่าค่ะ ก็แค่ตรวจสอบหลักฐาน” แพรไพลินส่งสายตามองไปทั่ว แสดงให้เห็นแววความฉลาดล้ำของเธอผ่านแววตาจริงจัง

อ่านละคร เหนือเมฆ2 มือปราบจอมขมังเวทย์ ตอนที่ 2

แพรไพลินเดินมองไปรอบ ๆ บ้านพักเหมือนกำลังสังเกตความผิดสังเกตบางอย่าง พลันสายตาแพรไพลินเหลือบไปเห็นแฟ้มเอกสารสองสามแฟ้มที่วางอยู่บนโต๊ะทำงานด้านหนึ่ง หน้าจอคอมพิวเตอร์เปิดอยู่ เจ้าหน้าที่นิติเทคและตำรวจหลายคน กำลังตรวจดูหลักฐานอื่น ๆ ทั้งหมด

ภายในบ้านพักมีร่องรอยการต่อสู้ข้าวของกระจุย ผ้าปูโต๊ะอาหารถูกลากมากองที่พื้น จานชามแตกแพรไพลินหยิบเชิงเทียนสวยงามขึ้นมาจากพื้น เธอพินิจดูนิดหนึ่งแล้วส่งให้กิต กิตรับเชิงเทียนมาแล้วแกล้งทำเป็นบังเอิญจับมือแพรไพลิน แพรไพลินชะงัก แต่กิตทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ส่งหลักฐานให้ตำรวจอีกคนหนึ่งไป แล้วรายงานต่อ

“ผู้จัดการระรินหนีออกไปจากบ้าน หลังจากยิงคู่นอนคนนึงตายตรงนี้”กิตชี้ไปที่จุด ๆ หนึ่ง เห็นยังมีรอยเลือด

แพรไพลินหันไปมอง “คนนึง”

กิตพยักหน้าตอบ พลางทำหน้าเจ้าชู้กรุ้ม กริ่มเหมือนแพรไพลินอ่อนต่อโลก แพรไพลินหันไปถามกุ๊บกิ๊บ

“ส่งศพไปชันสูตรแล้วใช่มั้ย”

“ค่ะ ผลน่าจะออกมาภายในสองชั่วโมง”

“แจ้งนิติเทค..ได้ผลแล้วส่งเข้าเมลฉันเลยนะ”

แพรไพลินเดินเข้าไปในห้องนอน เตียงนอนยับยู่ยี่ บนเตียงมีอุปกรณ์การเสพยากองอยู่ เธอมองไปที่โต๊ะแต่งหน้า มีน้ำหอมและเครื่องสำอางมีชื่อ ที่พื้นมีกระเป๋าถือวางกองอยู่ กระเป๋าถูกรื้อค้น

“ชิงทรัพย์...โดนกวาดของมีค่าไปหมด” กิตรีบชิงตอบ

แพรไพลินมองไปรอบ ๆ เห็นสภาพของห้องนอนและห้องโถงที่อยู่ติดกัน กระจุยกระจายเละไปหมด เหมือนเกิดการต่อสู้กันรุนแรง กิตรีบ อธิบายให้ฟังว่าเมื่อคืนระรินคงจะไปหิ้วคู่ขา 2 คนมาจากผับในเมือง เสพยาจนไม่ได้สติ แล้วพอคู่ขาทั้งสองคนคิดจะชิงทรัพย์ จึงเกิดการต่อสู้จนข้าวของภายในห้องกระจายเต็มพื้น ระรินยิงคู่ขาคนหนึ่งตายคาที่ ส่วนคู่ขาอีกคนหนีรอดไปได้ แพรไพลินถ่ายภาพหัวกระสุนที่ฝังอยู่ตรงประตูเก็บไว้ ขณะที่กิตเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าระรินออกดู พบว่าไม่มีเสื้อผ้าติดอยู่ในตู้เลย กิตสันนิษฐานว่าระรินคงกลัวความผิดก็เลยเก็บเสื้อผ้าทั้งหมดแล้วหนีออกไป

“แล้วไม่มีใครได้ยินเสียงปืน” แพรไพลินหันไปถามด้วยความสงสัย

“มีงานแสงสีเสียงที่รีสอร์ทข้าง ๆ แขกที่มาพักคงนึกว่าเป็นเสียงพลุดอกไม้ไฟ”

กุ๊บกิ๊บส่งไอแพดให้แพรไพลิน “แล็บนิติเทคส่งผลชันสูตรศพมาแล้วค่ะ”

แพรไพลินรับไอแพดมาเปิดดู เห็นผลที่เมลส่งมาแล้วนิ่วหน้า มองไปที่หัวกระสุนที่ฝังตรงประตูหน้า กิตสังเกตเห็นจึงเอ่ยปากถามด้วยความสงสัย

“มีอะไรเหรอครับคุณหมอ”

แพรไพลินยิ้มกลบเกลื่อน “เอ้อ...ไม่มีอะไรค่ะ ไม่ใช่ประเด็นสำคัญ เพราะผู้กองปิดคดีนี้ได้แล้ว ผู้จัดการสาวเมายาทะเลาะกับคู่ขา ยิงดับไปคนหนึ่ง แล้วหนีไปอย่างลอยนวล”

“ไม่น่าเชื่อว่าเราจะปิดคดีได้ง่ายอย่างนี้”

แพรไพลินยิ้มตอบแบบโปรยเสน่ห์ “คนจริตต้องกันได้มาทำงานร่วมกัน ก็ไม่เห็นจะมีอะไรยาก”

กิตเคลื่อนตัวเข้ามาใกล้แพรไพลิน แพรไพลินชะงักนิดหนึ่งแต่ยิ้มตอบเหมือนไม่รังเกียจ

กิตเบี่ยงตัวไปกระซิบที่ข้างหูแพรไพลิน “ดินเนอร์กับผมสักมื้อนะครับ”

“เพิ่งทำงานด้วยกันครั้งแรกเนี่ยนะคะ”

“มิตรภาพไม่เกี่ยวกับเวลา ปิดคดีนี้เสร็จ...พรุ่งนี้คุณหมอก็กลับกรุงเทพฯแล้ว ส่วนผมต้องทำงานท้องที่นี้ต่อไป ให้เกียรติผมเลี้ยงข้าวสักมื้อนะครับ” กิตถือวิสาสะจับต้นแขนแพรไพลิน

แพรไพลินยิ้มไม่ตอบรับ เบี่ยงตัวออกไปจากกิต เธอเดินตรงไปที่ประตูเหมือนกำลังจะเดินออกไป กิตส่งสายตามองตามแบบเสียดาย แต่แล้วแพรไพลินกลับหันมายิ้มคล้ายโปรยเสน่ห์ให้กิต

“ฉันไม่ชอบรอ...หกโมงเย็นที่ห้องอาหารรีสอร์ทค่ะ”

แพรไพลินเดินออกไปทันทีด้วยมาดราวกับนางแบบหลุดออกมาจากแคตวอล์ก กิตส่งสายตามองตามแพรไพลินออกไป ด้วยแววตาได้ใจ

แพรไพลินเดินกลับไปยังบ้านพักด้วยแววตาครุ่นคิด กุ๊บกิ๊บเดินตามยิ้มแย้มยั่ว

“เสน่ห์เย้ายวนเกินห้ามใจอีกแล้ว ท่า ทางผู้กองกิตชอบหมอมากนะคะ”

“เหรอ”

“โฮ...มองจนตาแทบจะถลนออกมานอกเบ้า ถ้าเป็นกุ๊บกิ๊บ...กิ๊บละลายระทดระทวยไปกองแทบอ้อมอกแล้ว”

“สนใจทานอาหารค่ำฟรี พร้อมบรรยากาศโรแมนติกมั้ย”

กุ๊บกิ๊บมองแพรไพลินแล้วนึกรู้ “โอ๊ะ ๆ ๆ วันนี้มีแคเดิ้ลไลท์ดินเนอร์”

“เจอกันก่อนหกโมงเย็น อย่าช้านะ”

“ว้าวววว”

แพรไพลินยิ้ม ๆ แบบระอากุ๊บกิ๊บหน่อย ๆ แล้วเดินเลี่ยงหนีไป

แสงกล้าเดินมาตามทางเดินที่ทอดยาวออกไปหน้าห้องพัก เขาหันไปมองเห็นถุงน้ำเต้าหู้กับปาท่องโก๋แขวนอยู่ แสงกล้าเดินไปหยิบมาดูสีหน้างง ๆ ว่าใครเอามาให้ จังหวะนั้นเองเสียงโทรศัพท์มือถือแสงกล้าดังขึ้น แสงกล้ากดรับเป็น เอ็มเอ็มเอส มีการส่งไฟล์วิดีโอมาให้ บนมือถือปรากฏภาพของน้ำใสที่ยืนอยู่หน้าห้องดูถุงน้ำเต้าหู้พร้อมกับยิ้มแย้มเข้าใส่

“ยู้ฮูเพื่อนเลิฟ กินน้ำเต้าหู้แก้ช้ำในหน่อยนะ พอดีฉันผ่านมาทำข่าวแถวนี้เลยแวะเอามาให้เพื่อนกิน เป็นห่วงนะจ๊ะ...จุ๊ฟ จุ๊ฟ”

แสงกล้ามองถุงน้ำเต้าหู้แล้วสีหน้าแปลก ๆ รู้สึกว่าน้ำใสแปลก ๆ กับตัวเอง แสงกล้าหิ้วถุงน้ำเต้าหู้เข้าไปในห้องพลางคิดถึงน้ำใส และความผูกพันระหว่างเขาและเธอ

แพรไพลินนั่งอยู่ที่เก้าอี้เหยียดขายาวบริเวณระเบียงห้องพัก ส่งสายตามองทอดยาวไปยังทิวทัศน์ที่สวยงามของรีสอร์ท แล้วจึงก้มมองไอแพดในมือ อ่านประวัติส่วนตัวผู้กองกิตเสร็จ ก็เปิดไปดูเฟซบุ๊กของระริน ในนั้นมีภาพที่โพสต์ล่าสุดระรินถ่ายด้วยตัวเองจากมือถือที่ด้านหลังบ้านพัก แพรไพลินมองภาพนั้นแล้วนิ่วหน้าเมื่อเห็นเวลาที่โพสต์ภาพ

“โพสต์ไว้ก่อนหายตัวไป 6 ชั่วโมง”

อ่านละคร เหนือเมฆ2 ตอนที่ 1-2 วันที่ 6 ธ.ค. 55

เหนือเมฆ2 : มือปราบจอมขมังเวทย์
เหนือเมฆ2 บทประพันธ์ - บทโทรทัศน์ : คฑาหัสถ์ บุษปะเกศ
เหนือเมฆ2 กำกับการแสดง : นนทรีย์ นิมิบุตร
เหนือเมฆ2ผลิต : บริษัท เมตตามหานิยม จำกัด โดยผู้จัด ฉัตรชัย เปล่งพานิช
เหนือเมฆ2 แนวละคร : ดราม่า แอ็คชั่น แฟนตาซี
เหนือเมฆ2 ออกอากาศทุกวันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ เวลา 20.15 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3
เหนือเมฆ2 เริ่มออกอากาศตอนแรกวันอาทิตย์ที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2555
ที่มา เดลินิวส์