อ่านละคร รากบุญ2 ตอน รอยรักแรงมาร ตอนที่ 1 วันที่ 2 ก.ค. 57
หลังผ่านเรื่องราวเลวร้ายกันมามาก ในที่สุด...เจติยานักแต่งศพสาวประจำบริษัททำศพนิราลัย ก็ได้พบรักและแต่งงานกับลาภิณหรือต้น เจ้าของนิราลัยคนปัจจุบัน ชีวิตแต่งงานของคู่รักข้าวใหม่ปลามันน่าจะดำเนินไปได้ด้วยดี ถ้าในหลังวันแต่งงานจะไม่มีร่างไร้วิญญาณของพิสัย น้าชายของลาภิณถูกส่งเข้ามาทำศพ!
หลายวันต่อมา...เจติยายืนมองภาพถ่ายหน้าโลงศพของพิสัย...ด้วยแววตาเพ่งพินิจ การตายของเขาถูกพิสูจน์ว่าเป็นเพราะอุบัติเหตุ แต่ลางสังหรณ์บางอย่างทำให้เธอไม่แน่ใจ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ นอกจากปล่อยเวลาจนถึงวันเผา
ทวีกับโอ้เอ้ ทีมงานร่วมแต่งศพของเจติยามาเตือนว่าถึงเวลาเคลื่อนศพพิสัยไปเผา เจติยารับคำเนือยๆ ตั้งท่าจะเดินตามเพื่อนร่วมงานทั้งสอง แต่จู่ๆวิญญาณของพิสัยก็ปรากฏตัวพร้อมคำถามเสียงห้วน
“ตำรวจเขาพิสูจน์แล้วว่าคุณตายเพราะอุบัติเหตุจริงๆ ไม่มีใครฆ่าคุณทั้งนั้นแหละ ไปผุดไปเกิดเสียทีเถอะค่ะ”
วิญญาณพิสัยโกรธมาก ตะคอกใส่เจติยา “ไม่จริง ...ฉันถูกฆ่าตาย ถึงฉันจะไม่รู้ว่ามันเป็นใคร แต่มันไม่ใช่อุบัติเหตุแน่นอน ถ้าเธอไม่ยอมหาฆาตกรให้ฉัน ฉันก็จะตามรังควานไม่ให้ชีวิตเธอได้อยู่เป็นสุขเลย!”
ขาดคำก็หายวับไป เจติยาถอนใจเหนื่อยหน่าย พร้อมกับการมาถึงของลาภิณที่มาตามเจติยาไปร่วมงาน แต่เมื่อเห็นสีหน้าตื่นๆของภรรยา ก็นึกรู้ว่าคงเป็นวิญญาณพิสัยมาก่อกวนให้หาตัวฆาตกร เหมือนที่เคยทำหลายครั้งก่อนหน้านี้ เจติยาพยักหน้ารับเซ็งๆ ลาภิณมองไปรอบห้อง นึกเคืองแทนภรรยาจนต้องโพล่งออกไป
“ผมรู้ว่าน้าได้ยินที่ผมพูด เลิกตามรบกวนพวกเราเสียทีเถอะ ผมไม่ได้ทวงบุญคุณอะไรหรอกนะครับ แต่พวกเราจัดงานศพ ทำบุญและจะจัดเผาศพให้น้าวันนี้ เราตั้งใจทำทุกอย่างให้ครบถ้วนดีที่สุดแล้ว แล้วน้าจะเอายังไงอีก ที่จริง...ผมไม่ควรจะทำให้เลย ควรปล่อยให้น้าตายอย่างศพอนาถาไร้ญาติด้วยซ้ำ”
วิญญาณพิสัยโมโหมาก แผลงฤทธิ์ทำลายข้าวของแตกกระจาย ลาภิณยิ่งโกรธแหวกลับอย่างไม่กลัว
“ผมไม่กลัวหรอกนะ อาละวาดไปเลย วันนี้ผมจะได้ไม่ต้องเผาศพให้”
ข้าวของถูกพังไม่เลิก เหมือนอารมณ์เดือดพล่านของวิญญาณพิสัย ลาภิณจะพูดต่อ แต่ถูกเจติยาปิดปากไว้ “หยุดได้แล้วคุณพิสัย ฟังฉันนะ...ฉันจะลองสืบเรื่องการตายของคุณอีกครั้ง...พอใจหรือยังคะ”
ทุกอย่างจึงสงบลง แต่ทันใดนั้น...โลงของพิสัยก็พลิกตกจากแท่น พร้อมกับร่างไร้วิญญาณของเขากลิ้งออกมานอนหงายหน้าซีดเผือด โชว์รอยเย็บแผลอันน่าสยดสยองที่คอ เจติยาโผกอดลาภิณแน่น...ดูท่างานนี้คงไม่จบง่ายๆ
งานเผาศพของพิสัยถูกเลื่อนไปก่อนเพื่อสืบหาตัวฆาตกรอีกครั้ง ลาภิณไม่ชอบใจนัก เป็นห่วงเจติยาที่ต้องทำเรื่องเสี่ยงๆอีก โดยเฉพาะตอนที่เขากำลังจะไม่อยู่ ต้องเดินทางไปติดต่อธุรกิจที่เมืองจีนหลายวัน เจติยาจัดกระเป๋าให้สามีพลางอธิบายเหตุผลของตัวเองอย่างใจเย็น
“เจตั้งใจแล้ว จะช่วยวิญญาณทุกดวงที่มาขอความช่วยเหลือ ไม่ว่าเขาจะเป็นใครก็ตาม ถ้าคุณพิสัยเขามั่นใจว่าตัวเองถูกฆ่าแล้วมาขอความช่วยเหลือ เจก็มีหน้าที่ต้องหาตัวฆาตกรออกมาให้ได้ เพื่อให้วิญญาณเขาหลุดพ้น”
“แล้วถ้าเจทำไม่ได้ล่ะ น้าพิสัยเขาจะทำร้ายเจหรือเปล่า”
เจติยาปิดกระเป๋าเดินทางแล้วยิ้มบางๆให้สามี “ไม่หรอกค่ะ ไม่มีกล่องรากบุญแล้ว ไม่มีวิญญาณที่ไหนมีอำนาจขนาดนั้นหรอกค่ะ คุณพิสัยก็ทำได้แค่หลอกให้เราตกใจเท่านั้นล่ะค่ะ”
ลาภิณไม่วางใจนัก แต่ไม่อยากพูดมากให้ภรรยาสุดที่รักอารมณ์เสีย เลยเปลี่ยนมาโอบรอบเอวบาง ส่งสายตากรุ้มกริ่ม “อย่าพูดเรื่องเสียอารมณ์กันเลย เรามาเปลี่ยนเรื่องคุยดีกว่า เราจะไม่ได้นอนเตียงเดียวกันตั้งหลายคืนนะ”
เจติยายิ้มเขิน แม้จะใช้เวลาด้วยกันมาระยะหนึ่ง แต่คำหยอกล้อของสามีก็ทำให้หน้าแดงได้ทุกครั้ง หญิงสาวเฉไฉเลี่ยงไปขึ้นเตียงแล้วชวนให้นอนแต่วันเพราะเธอต้องทำงานแต่เช้า ส่วนเขาต้องไปสนามบินตั้งแต่เช้ามืด ลาภิณรู้ทัน ก้าวตามไปขึ้นเตียงแล้วโอบกอดภรรยาอย่างหวงแหน...กอดเฉยๆก็ได้ อย่าหันมาปล้ำเขาเองแล้วกัน!
ooooooo
ลาภิณลากกระเป๋าเดินทางไปเช็กอินพร้อมคุยมือถือกับเจติยาที่กำลังพักทานอาหารเช้า หลังจัดการแต่งศพไปแล้วจำนวนหนึ่ง เขาทำหน้านิ่วเมื่อได้ยินว่านวัช ผู้กองหนุ่มรูปหล่อ อดีตคนแอบรักเจติยาแต่ปัจจุบันเป็นแฟนของนิษฐาเพื่อนสนิทของเธอ แวะมาหาเพื่อคุยเรื่องคดีของพิสัย อดหึงไม่ได้ตามประสาคนหลงภรรยาจนโงหัวไม่ขึ้น
“อย่าคุยกันตามลำพังนานนักล่ะ...หวง”
“ทำเป็นพูดดีไปเถอะ คุณนั่นแหละ ฉายเดี่ยวไปเมืองจีนแบบนี้ คงได้เหล่สาวหมวยเพลินจนลืมบ้าน”
“ไม่มีทางหรอก ผมหลงเสน่ห์สาวหน้ากลมตาคมจนถอนตัวไม่ขึ้นแล้ว”
เจติยายิ้มเขิน แม้จะไม่เห็นหน้า แต่ก็พอเดาแววตากรุ้มกริ่มของเขาได้ดี ลาภิณคงจะต่อปากต่อคำกับเธออีก ถ้าไม่เหลือบเห็นสาวสวยจัดเดินผ่านมา เขาขยับตัวมองตามจนเหลียวหลัง ตามประสาผู้ชายชอบดูผู้หญิงสวย แต่ไม่คิดอะไรเกินเลยกว่านั้น ความเงียบจากปลายสายทำให้เจติยานึกสงสัย สัญชาตญาณบางอย่างผลักให้ถามออกไปตามใจคิด ลาภิณสารภาพเสียงอ่อยว่าเผลอมองตามสาวสวยแถวนี้ เจติยาเลยอดหมั่นไส้ไม่ได้
“แค่นี้นะ...แล้วยายนั่นน่ะ ไปเซี่ยงไฮ้กับคุณด้วยหรือเปล่า”
น้ำเสียงที่ถูกปั้นให้เข้มไม่ได้ทำให้ลาภิณกลัว ขำมากกว่าเพราะรู้ว่าเจติยาคงแหย่ไปแบบนั้นเอง แล้วก็จริงเมื่อเธอหลุดหัวเราะ สองหนุ่มสาววางสายหลังจากนั้นไม่นาน ลาภิณอมยิ้มอารมณ์ดี กำลังจะลากกระเป๋าที่ไม่ได้เช็กอินเข้าด้านใน แต่บังเอิญได้ยินบทสนทนาของสาวสวยคนเดิมกับสาววัยรุ่นคนหนึ่ง ได้ความว่าสาวสวยปฏิเสธจะถ่ายภาพให้ ลาภิณเลยเสนอตัวถ่ายแทน ก่อนจะลากสัมภาระจากไป โดยไม่ได้หันกลับมามองสาวสวยเลยแม้แต่น้อย
ชายหนุ่มรูปงามลากกระเป๋าผ่านไปแล้ว พิมพ์อรสาวสวยทายาทเจ้าของบริษัทก่อสร้างยักษ์ใหญ่จากสิงคโปร์ มองตามจนเหลียวหลัง อดประทับใจในความหล่อและความมีน้ำใจของเขาไม่ได้ แต่ธุระของวนันต์พ่อของเธอที่เพิ่งวางสายไปทำให้ต้องรีบ เลยละความสนใจไว้แค่นั้น ก่อนจะหมุนตัวไปขึ้นรถเพื่อออกจากสนามบิน
หลังทำธุระสำคัญของบริษัท พิมพ์อรจึงกลับเข้าบ้านไปหาพ่อ โดยมีชาครเลขาหนุ่มคนสนิทตามประกบไม่ห่าง วนันต์หอบร่างทรุดโทรมเพราะป่วยเป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงมารอรับลูกสาวคนโต หัวเรี่ยวหัวแรงคนสำคัญของเขาเวลานี้ พลางบ่นกับเธอเซ็งๆว่าอดเป็นห่วงบริษัทแม่ที่สิงคโปร์ไม่ได้ พิมพ์อรส่ายหน้ายิ้มๆแล้วปลอบ
“ทางนั้นอยู่ตัวแล้วล่ะค่ะคุณพ่อ ไม่มีอะไรต้องห่วงหรอกค่ะ แล้วเดี๋ยวนี้ข้อมูลข่าวสารเร็วจะตาย มีปัญหาอะไรเราก็แก้ไขได้ทัน อรจะบินกลับไปเมื่อไหร่ก็ได้ สาขาที่เมืองไทยนี่ต่างหากที่เรายังต้องสู้อีกเยอะ”
“ยังไงก็ไม่เกินความสามารถคุณพิมพ์อรหรอกครับ สาขาที่นี่ต้องยิ่งใหญ่ไม่แพ้บริษัทแม่ที่สิงคโปร์แน่ๆ”
คำพูดเอาใจของชาครทำให้พิมพ์อรปลื้ม ส่วนวนันต์เปลี่ยนเรื่องถามถึงธุระตามหาคน ชาครรีบรายงานว่าตามหาทวีพบแล้ว และจะนัดมาให้เจอในวันพรุ่งนี้ วนันต์พยักหน้าพอใจ ก่อนจะรำพึงออกมา
“ยี่สิบกว่าปีแล้วที่ไม่ได้เจอกัน โชคยังดีที่ทวียังไม่ตายตามสารัชไปอีกคน ถือว่ายังไม่สิ้นหวังซะทีเดียว”
ท่าทางโล่งอกของพ่อไม่ทำให้พิมพ์อรสบายใจ ตรงข้าม...กลับกังวลอย่างบอกไม่ถูก แต่เธอก็ปัดมันทิ้งเพราะมีอย่างอื่นสำคัญกว่าต้องจัดการ และเรื่องแรกก็คือไปสำรวจห้องพักแขกในบ้าน ชาครตามมาดูแลและบอกว่าให้เด็กมาทำความสะอาดเตรียมไว้แล้ว อดสงสัยไม่ได้ว่าเจ้านายสาวจะให้ใครอยู่ เพราะสองพ่อลูกต่างก็มีห้องประจำ พิมพ์อรตวัดสายตาดุ เปรยว่าเธอต้องรายงานเลขาอย่างเขาทุกเรื่องเลยหรือ ชาครถึงได้สงบปากและขอตัวออกไป
พิมพ์อรรอจนเลขาหนุ่มลับร่างไปแล้ว จึงหยิบเหรียญสีดำสนิท ด้านหนึ่งมีลวดลายปีศาจพ่นไฟ ส่วนอีกด้านเป็นรูปเหรียญสามเหรียญมีเส้นโยงไปที่กล่องหน้าตาประหลาด ออกมาจากกระเป๋าพร้อมพูดด้วยเบาๆ
“ห้องนี้เป็นของเธอ...ออกมากสิณ”
ขาดคำก็มีควันดำพวยพุ่งจากเหรียญในมือเธอ ก่อนจะรวมตัวกันเป็นร่างสาวสวยนามว่ากสิณ ปีศาจที่เกิดจากกิเลสของเจ้าของเหรียญ ปีศาจสาวมองรอบห้องด้วยสายตาพึงพอใจ พิมพ์อรไม่รอช้าปรับทุกข์เรื่องพ่อ
“ฉันไม่สบายใจเลยกสิณ อาการคุณพ่อทรุดหนักลงทุกที การมาเมืองไทยคราวนี้ จะช่วยชีวิตคุณพ่อได้แน่หรือ”
กสิณแสยะยิ้มร้าย รับรู้ถึงแรงปรารถนาของเจ้านายสาว “แน่สิจ๊ะ...ถ้าเธอได้เป็นเจ้าของกล่องรากบุญและขอพรจากมัน อย่าว่าแต่โรคภัยไข้เจ็บแค่นี้เลย ในโลกนี้... ไม่มีอะไรที่กล่องรากบุญทำไม่ได้!”
ooooooo
เจติยา นวัชและนิษฐานั่งคุยกันเรื่องผลชันสูตรศพพิสัยที่ห้องทำงานในพิราลัย นักแต่งศพสาวอ่านรายงานอย่างตั้งใจ พลางคิดภาพตามถึงช่วงเวลาสุดท้ายของพิสัย ว่าต้องตายอย่างทุกข์ทรมานมากเพียงใด นิษฐาสยดสยองมากเมื่อนึกภาพตามคำบอกเล่าของเพื่อนรักและแฟนหนุ่ม
“พูดแล้วขนลุก โดนลวดตวัดมาตัดคอขาดกระเด็น ถ้าเป็นการฆาตกรรมจริงก็ถือว่าโหดสุดๆ”
เจติยาพยักหน้ารับแต่ยังคาใจบางเรื่อง “แต่มันแปลกนะ ที่จู่ๆลวดจะขาดตอนนั้นพอดี แล้วก็ตวัดไปตัดคอคุณพิสัยพอดีด้วย ที่สำคัญ...แรงตวัดแค่นั้นมันพอจะตัดคอคนได้เลยเหรอคะ”
นวัชสงสัยข้อเดียวกัน แต่ในเมื่อผลชันสูตรออกมาแบบนั้น จึงได้แต่ปลงว่าเป็นอุบัติเหตุที่แนบเนียนมาก นิษฐาสนับสนุนคนรักเต็มที่ เพราะพิสัยก่อกรรมไว้มากเลยโดนกรรมสนอง วิญญาณของพิสัยได้ยินก็โมโห ปรากฏตัวให้เห็นแล้วทุบโต๊ะเสียงดัง แต่มีเพียงเจติยาคนเดียวที่เห็นและได้ยิน วิญญาณร้ายยืนกรานว่าตัวเองถูกฆาตกรรมและขู่ให้นักแต่งศพสาวตามล่าตัวฆาตกรมาให้ได้ เจติยาขนลุก เพราะร่างโปร่งแสงของพิสัยมาแต่ตัวไม่มีหัว!
ฝ่ายพิมพ์อรถือกระเช้าของฝากอย่างดีไปเยี่ยมพ่อปริม ผู้ต้องสงสัยคนสำคัญฆ่าพิสัย ชายชรายิ้มรับ อารมณ์ดีที่มีสาวสวยแวะมาหา แม้จะแวะมาตามมารยาทเพราะเขามีส่วนสนับสนุนให้โครงการใหญ่ของบริษัทเธอก็ตาม
“คุณพิมพ์อรเป็นคนเก่ง แล้วบริษัทของคุณก็มีศักยภาพพอจะทำงานใหญ่ได้ ไม่อย่างนั้นผมคงไม่สนับสนุนหรอก แล้วคุณเองก็เข้ามาถูกจังหวะพอดี...ไอ้สารเลวนั่นมันตายไปซะได้ ถึงจะเป็นอุบัติเหตุก็เถอะ”
พิมพ์อรยิ้มบางๆ ในหัวย้อนภาพไปเมื่อหลายวันก่อน ตอนเธอพยายามจะแนะนำตัวกับพ่อปริมเป็นครั้งแรก เวลานั้นชายชราหัวเสียอย่างหนักจนใครก็เข้าหน้าไม่ติด เพราะคดีความของลูกสาวคนเดียวยังไม่คลี่คลาย พิมพ์อรมองตามหลังชายชราที่ต้องการพึ่งบารมีด้วยแววตาหมายมาด เปรยเสียงเบากับกสิณที่วนเวียนไม่ไกลจากเธอนัก ให้ช่วยไปจัดการเคลียร์ทางให้ที เสียงกสิณลอยเข้ามาในหัว ว่าได้ยินแล้ว...ฉันจะทำให้เขาอารมณ์ดี จนอยากคุยกับเธอเอง
พิสัยถูกฆ่าตายอย่างโหดเหี้ยมไม่กี่วันต่อมา ในสภาพหัวขาดเพราะถูกสายลวดที่ใช้ขึงป้ายโฆษณาเชือด เหตุการณ์ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก จนแม้แต่พิสัยก็จำแทบไม่ได้ว่าตัวเองตายเพราะอะไร ร้อนถึงเจติยาต้องมาช่วยสืบเบาะแส เพราะวิญญาณของพิสัยปักใจจริงจังว่าตัวเองไม่ได้ตายเพราะอุบัติเหตุธรรมดา แต่ตายเพราะถูกฆาตกรรม!
พิมพ์อรดึงตัวเองจากอดีต ยกมือไหว้ลาพ่อปริมอย่างชดช้อย แล้วออกมานอกบ้าน ชาครรออยู่แล้วพร้อมคนขับรถ เพื่อพาเจ้านายสาวไปที่อื่นต่อ เวลาเดียวกับที่เจติยากับนวัชมาจอดรถหน้าบ้าน เพื่อสอบปากคำพ่อปริมอีกครั้งเรื่องการตายของพิสัย นวัชมองตามรถของพิมพ์อรผ่านๆและตั้งท่าจะไปหาเจ้าของบ้าน ต่างจากเจติยาที่เบิกตาโพลง เพราะเห็นวิญญาณของพิสัยพุ่งตามรถคันนั้นไปด้วยท่าทีเกรี้ยวกราด
แท้จริงแล้ว...วิญญาณพิสัยเห็นร่างกสิณนั่งอยู่ข้างพิมพ์อร ความจำบางอย่างในห้วงเวลาสุดท้ายของชีวิตผุดขึ้นในหัว แล้ววิญญาณร้ายก็ถึงบางอ้อ เมื่อจำได้ว่ากสิณคือหญิงสาวที่เขาเห็นก่อนตาย ความอาฆาตทะลุถึงขีดสุด ตะคอกถามเสียงกร้าวว่าเธอเป็นคนฆ่าเขาใช่หรือไม่ กสิณหันมาเผชิญหน้ากับวิญญาณพิสัยแล้วโต้อย่างไม่ยี่หระ ว่าเธอแค่ทำตามคำสั่ง เพราะการมีชีวิตของเขาทำให้งานของเจ้านายเธอไม่ราบรื่น
ร่างโปร่งแสงของพิสัยเดือดพล่าน ความแค้นที่ฝังใจทำให้ถลันหาหมายจะบีบคอ แต่กสิณมีฤทธิ์มากกว่า เลยเบี่ยงหลบง่ายๆ แล้วบันดาลให้ร่างของพิสัยเกิดไฟลุกท่วม หัวเราะสะใจที่ได้ยินเสียงร้องโหยหวนด้วยความทรมาน
“แกก็แค่ผีหนีนรกมา ช่างไม่เจียมตัวซะบ้างเลย ในเมื่อรู้แล้วว่าฉันเป็นคนฆ่า ก็ได้เวลากลับสู่นรกเสียที”
ขาดคำวิญญาณพิสัยก็ถูกไฟลุกลามไปทั้งร่างและหายวับไปกับตา เจติยาตามมาทันได้ยินเสียงสุดท้ายของพิสัยที่ร้องขอให้ช่วยเขาจากไฟนรก แต่ก็ช่วยไม่ทัน...ร่างโปร่งแสงของพิสัยสลายไปหมดแล้ว!
ooooooo
การสูญสลายของวิญญาณพิสัยก่อความสงสัยให้แก่เจติยาจนนอนไม่หลับ เมื่อได้พูดโทรศัพท์กับสามีคืนนั้นเลยอดเปรยด้วยความเป็นห่วงไม่ได้ แม้จะไม่ใช่วิญญาณร้าย แต่การหายวับไปโดยไม่ลาก็ดูแปลกไปสักหน่อย ลาภิณปลอบไม่ให้คิดมาก วิญญาณพิสัยอาจจะไปใช้กรรมแล้ว เจติยาไม่ค่อยเชื่อแต่ก็ไม่มีเหตุผลมาพิสูจน์
อ่านละคร รากบุญ2 ตอน รอยรักแรงมาร ตอนที่ 1 วันที่ 2 ก.ค. 57
ละครรากบุญ2 บทประพันธ์โดย : ช่อมณีละครรากบุญ2 บทโทรทัศน์โดย : เอกลิขิต
ละครรากบุญ2 กำกับการแสดงโดย : ธรธร สิริพันธ์วราภรณ์
ละครรากบุญ2 ผลิตโดย : บริษัท ทีวีซีน แอนด์ พิคเจอร์ จำกัด
ละครรากบุญ2 ควบคุมการผลิตโดย : ณัฏฐนันท์ ฉวีวงษ์
ละครรากบุญ2 ออกอากาศทุกวันจันทร์-อังคาร เวลา 20.15 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ละครรากบุญ2 เริ่มออกอากาศตอนแรก วันอังคารที่ 8 กรกฎาคม 2557 นี้
ที่มา ไทยรัฐ