@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร รากบุญ2 ตอน รอยรักแรงมาร ตอนที่ 16/5 วันที่ 27 ก.ค. 57

อ่านละคร รากบุญ2 ตอน รอยรักแรงมาร ตอนที่ 16/5 วันที่ 27 ก.ค. 57

“ผมว่าคุณอรเข้าใจนะครับว่าทำไม เพียงแต่คุณอรไม่ยอมรับมากกว่า”
พิมพ์อรหงุดหงิด “ถึงสิ่งที่ฉันทำ มันจะไม่ถูกใจคุณพ่อ แต่ฉันก็ทำไปเพราะรักคุณพ่อ ต้องการให้คุณพ่ออยู่กับฉัน มันผิดมากนักรึไง”

ชาครมองหน้าพิมพ์อรนิ่งก่อนจะส่ายหน้าช้าๆ “แต่ผมว่าไม่ใช่ความรักหรอกครับ คนเราถ้ารักใครจริง ก็ต้องเห็นแก่ความสุขของๆคนนั้นสำคัญที่สุด แต่ที่คุณอรทำคือความเห็นแก่ตัว รักตัวเองไม่อยากเห็นตัวเองเสียใจมากกว่า”
พูดจบพิมพ์อรก็ตบหน้าชาครจนหน้าหันด้วยความโกรธจัดทันที


“เงียบซะทีเถอะ”
กสิณยิ้มเยาะอย่างสะใจ
พิมพ์อรโกรธจัด “อย่าพูดว่าฉันไม่รักคุณพ่ออีกนะชาคร ในโลกนี้ไม่มีใครรักคุณพ่อเท่าฉันอีกแล้ว จำเอาไว้”
ชาครหันไปมองพิมพ์อรด้วยน้ำตาคลอเบ้าซึ่งก็ไม่ได้เจ็บอะไรมากแต่เขารู้สึกเสียใจที่พิมพ์อรหลงเดินทางผิดจนทำร้ายตัวเองและคนรอบข้าง โดยที่เขาไม่สามารถช่วยอะไรได้เลย พิมพ์อรชะงักไป พอเห็นชาครน้ำตาคลอก็รู้สึกผิดขึ้นมา ชาครเดินเลี่ยงออกไปจากห้องโดยไม่พูดอะไรแม้แต่คำเดียว พิมพ์อรได้แต่มองตามด้วยความรู้สึกเสียใจอยู่เหมือนกัน
ชาครเดินมาถึงบันไดโดยกำลังจะขึ้นไปที่ห้องนอนของตัวเอง พิมพ์อรเดินตามมาเรียกไว้
“เดี๋ยว”
ชาครหันกลับไปมอง
พิมพ์อรจะขอโทษก็เสียฟอร์มจึงทำหน้าบึ้งและโกรธๆ “โกรธฉันเหรอ”
“คุณอรก็ทราบ ว่าต่อให้ฆ่าผม ผมก็ไม่มีทางโกรธคุณอร”
พิมพ์อรถอนใจ “เธอก็น่าจะรู้ สำหรับฉันแล้ว ไม่มีใครสำคัญเท่าคุณพ่อ” พิมพ์อรหน้าเศร้าลง “ไม่มีใครรักฉันเหมือนที่คุณพ่อรัก” พิมพ์อรหยุดเล็กน้อยด้วยสีหน้าน้อยเนื้อต่ำใจ “ไม่ใช่สิ ไม่มีใครรักฉันเลยตะหาก นอกจากคุณพ่อ” พิมพ์อรจ้องหน้าชาคร “แล้วเธอจะให้ฉันทนดูคุณพ่อต้องตายต่อหน้าต่อตาโดยไม่ทำอะไรเลยได้ยังไง”
“ไม่จริงหรอกครับ” ชาครมองหน้าพิมพ์อรนิ่ง “ยังมีคนรักคุณอร รักมากด้วย แต่คุณอรไม่มองมากกว่า” ชาครมีสายตาตัดพ้อแต่ก็ซ่อนความเจียมตัวเอาไว้
พิมพ์อรเห็นสายตาชาครก็รีบหลบตาทันที เธอพอจะเข้าใจแต่ก็ทำใจรับไม่ได้
ชาครรวบรวมความกล้า “คุณอรครับ ผม...”
พิมพ์อรตัดบท “ไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้วชาคร ขึ้นไปนอนพักผ่อนได้แล้ว และก็จำเอาไว้” พิมพ์อรจ้องหน้า “เธอเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของฉัน”
ชาครหน้าขรึมลงเพราะเสียใจแต่ก็พยายามกดเอาไว้ “ครับ”
ชาครเดินขึ้นไปข้างบน พิมพ์อรมองตามหลังชาครไปด้วยสีหน้าไม่สบายใจ

นทีเดินมองหาภาณุวัฒน์ออก ภาณุวัฒน์ยืนหันหลังรออยู่ที่มุมหนึ่งนทีจึงรีบเดินเข้าไปหา
“วัฒน์ ทำไมไม่เข้าไปที่บ้านล่ะ”
ภาณุวัฒน์สวมแว่นดำหันมามองนทีก่อนจะถอดแว่นออกให้เห็นชัดๆ ว่าใบหน้าของภาณุวัฒน์เขียวช้ำ
ไปทั้งหน้า
นทีตกใจมาก “ไปโดนอะไรมาวะ”
ภาณุวัฒน์หน้าเศร้า
“อย่าบอกนะว่าฝีมือพ่อแกอีกแล้ว” นทีถาม
ภาณุวัฒน์พยักหน้ารับอย่างเศร้า เสียใจมาก
“เรื่องคราวก่อนยังไม่จบอีกเหรอ ผ่านมาตั้งหลายวันแล้วนะ” นทีว่า
ภาณุวัฒน์พูดหน้าเศร้า “เรื่องใหม่ เราสอบได้บีไปตัวนึง พ่อโกรธมาก หาว่าเราไม่ตั้งใจเรียนก็เลยตีเรา”
นทีงง “ได้บียังไม่พอใจอีกเหรอ”
ภาณุวัฒน์เครียดมาก “เราทนไม่ไหวแล้วนที เราทำทุกอย่างตามที่พ่อต้องการแล้วนะ แต่มันก็ไม่เคยดีพอสำหรับพ่อซะที” ภานุวัฒน์น้อยใจสุดๆ “ไม่รู้เราจะเกิดมาทำไม ตายๆไปซะก็ดี”
นทีรีบปลอบใจเพื่อน “เฮ้ยๆ ใจเย็น อย่าเพิ่งคิดมากขนาดนั้นสิวะ”
ภาณุวัฒน์เครียดหนัก “เราไม่อยากกลับบ้านแล้วนที อยากหนีไปให้ไกลๆ เลย”
นทีมองหน้าเพื่อนด้วยสีหน้าเป็นห่วงไม่รู้ว่าจะช่วยเหลือเพื่อนได้ยังไง

นทีกำลังเปิดหน้าต่างในบ้านเพื่อระบายอากาศ โดยมีภาณุวัฒน์ยืนมองไปรอบๆ
“หลังจากแม่เราเสีย เราก็ย้ายไปอยู่กับพี่เจ บ้านหลังนี้เราก็เลยให้คนเช่า แต่เค้าจะย้ายเข้ามาต้นเดือนหน้า ช่วงนี้ว่างแกก็อยู่ที่นี่ไปก่อนละกัน” นทีบอก
ภาณุวัฒน์พยักหน้ารับ “ขอบใจมากนะนที”
“ไม่เป็นไร”
“แกอย่าบอกใครว่าเราอยู่ที่นี่ได้มั้ย”
“ทำไมล่ะ” นทีถาม
ภาณุวัฒน์หน้าเครียด “เราไม่อยากเจอใคร โดยเฉพาะพ่อ” ภานุวัฒน์เสียใจและน้อยใจ “ถ้าเป็นไปได้ เราไม่อยากเจอเค้าอีกเลยตลอดชีวิต”
“เฮ้ยไม่เอา ที่พ่อเค้าทำไปก็เพราะหวังดีกับแก” นทีหน้าแหยไปเล็กน้อยก่อนจะพยายามแถ “แต่เค้าอาจจะแสดงความหวังดีแรงไปหน่อย จริงๆ เพราะเป็นห่วงแหละ”
ภาณุวัฒน์ส่ายหน้า “เค้าไม่ห่วงเราหรอก เราทำเค้าผิดหวังมาก บางที ถ้าเราตายไปซะได้ พ่อเค้าคงดีใจมากกว่า” ภานุวัฒน์น้ำตารื้นขึ้นมาท่วมตา
“กะอีแค่สอบได้บีตัวเดียวเนี่ยนะ ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกมั้ง”
ภาณุวัฒน์หน้าเจื่อนก่อนจะหลบสายตา เพราะยังมีความจริงอีกอย่างที่ตนปกปิดเอาไว้ ไม่ให้นทีรู้
“เออ แกอยู่คนเดียวไปก่อนนะ เราไปส่งรายงานอาจารย์ก่อน บ่ายๆ ก็กลับแล้ว”
ภาณุวัฒน์พยักหน้ารับ นทีเดินออกไปจากบ้าน
ภาณุวัฒน์มองตามนทีไป พอนทีไม่อยู่ เขาก็ยิ่งรู้สึกเหงาและโดดเดี่ยวมากขึ้นไปอีก ภาณุวัฒน์ได้แต่เดินไปมองตามหลังนทีจนลับตา

ลาภิณเดินเครียดคุยกับเจติยาออกมาจากข้างในบ้าน
เจติยาไม่สบายใจ “โทรมาแต่เช้าแบบนี้ จะมีอะไรรึเปล่าคะคุณต้น”
ลาภิณหน้าเครียด “ไม่รู้เหมือนกัน แต่ก่อนหน้านี้ ตึกใหม่ก็ไม่เคยมีปัญหาอะไรเลย ไม่เข้าใจเหมือนกัน ว่าทำไมต้องเรียกให้ผมไปดูด้วย”
พอเจติยาและลาภิณเดินออกมาที่หน้าระเบียงบ้านก็ต้องแปลกใจที่เห็นภาณุยืนอยู่หน้าประตูรั้ว
ลาภิณแปลกใจ “คุณภาณุ...”
ลาภิณและเจติยายกมือไหว้แล้วเดินเข้าไปหา
ภาณุหน้าเครียด “ลูกชายผมมาที่นี่รึเปล่า”
ลาภิณกับเจติยาหันมามองหน้ากันด้วยความแปลกใจ
“เปล่านี่คะ มีอะไรรึเปล่าคะ”
เจติยาและภาภิณเปิดประตูเดินออกไปคุยหน้าบ้าน
ภาณุถอนใจแล้วก็หน้าเครียดๆ “เรามีปัญหาทะเลาะกันนิดหน่อย ผมเห็นว่าระยะหลังเค้าสนิทกับน้องชายคุณ ก็เลยมาถามดู”
“ถ้ามีอะไร คุณภาณุโทรมาก่อนก็ได้ครับ จะได้ไม่ต้องเสียเวลาเดินทางมาด้วยตัวเอง”
ภาณุโมโห “ผมใจร้อน อยากเจอตัวมัน เลี้ยงดีไม่ได้ดี ต้องเอาเลือดโง่ๆ ออกจากหัวมันซะบ้าง”
เจติยาหน้าเสีย “ใจเย็นๆนะคะ ถ้าคุณวัฒน์ติดต่อมา เจจะโทรหาคุณภาณุทันทีเลย”
ภาณุพยายามระงับอารมณ์ “รบกวนด้วยนะครับ”
ภาณุเดินขึ้นรถแล้วขับออกไปอย่างหัวเสีย
“นทีออกไปแต่เช้าแล้วใช่มั้ย” ลาภิณถาม
“ค่ะ” เจติยาคิดอยู่ครู่นึง “แต่เจคงไม่โทรตามน้องนะคะ ถ้าคุณภาณุยังแรงอยู่ยังงี้ เจว่ารอให้ใจเย็นลงทั้งสองฝ่ายก่อนดีกว่าค่ะ”
ลาภิณพยักหน้ารับอย่างเห็นด้วย
ลาภิณเดินเข้ามาในตึกใหม่ แล้วเขาก็ต้องตกใจเมื่อเห็นตึกใหม่สร้างเสร็จเรียบร้อยแล้วเพียงแต่ยังเป็นตึกว่างๆ ที่ยังไม่ได้ตกแต่งเท่านั้น ลาภิณมองไปรอบๆ ก็เห็นทวีและโอ้เอ้ยืนคุยกันอยู่เลยรีบเดินเข้าไปหา
โอ้เอ้ตื่นเต้น “ตึกสร้างเร็วมากเลยนะครับคุณต้น ไม่กี่เดือนก่อน ผมผ่านมายังเห็นเทปูนกันอยู่เลย”
“พวกร.ป.ภ.เล่าว่าช่วงนี้มีคนงานสามผลัด ทำงานกันทั้งวันทั้งคืนเลยนะครับ ทำไมคุณต้นต้องเร่งขนาดนี้ล่ะครับ” ทวีถาม
“ผมไม่ได้เร่ง” ลาภิณแปลกใจ “ผมก็ยังงงอยู่เลย ทำไมมันถึงได้เสร็จเร็วขนาดเนี้ย”
ทันใดนั้น พิมพ์อรและชาครก็เดินออกมาจากข้างใน
“แล้วไม่ดีเหรอคะ ที่เสร็จเร็วกว่ากำหนด”
ทุกคนหันมองไปทางพิมพ์อรและชาคร พิมพ์อรยิ้มบางๆ ก่อนจะหันไปมองชาครเพื่อสั่งให้พูดแทน
ชาครหน้าเครียด “ตามสัญญาแล้ว หลังจากส่งมอบงาน ทางนิราลัยจะต้องจ่ายเงินงวดสุดท้ายให้เรา ถ้าคุณลาภิณตรวจงานแล้วไม่มีปัญหาอะไร ผมก็ขอให้โอนเงินงวดสุดท้ายภายในเจ็ดวันด้วยนะครับ”
ลาภิณหน้าเครียดขึ้นมา “ผมเข้าใจแล้ว ไม่ต้องห่วงนะครับ ถึงฐานะการเงินของผมตอนนี้จะเสี่ยงอยู่บ้าง แต่ผมกันเงินก่อสร้างตึกไว้หมดแล้ว ภายในเจ็ดวัน คุณได้เงินตามสัญญาแน่”
พิมพ์อรยิ้มบางๆ “ดีค่ะน้องต้น ตรงไปตรงมายังงี้ เราจะได้ทำธุรกิจด้วยกันอีก” พิมพ์อรมีสีหน้าเยาะเย้ยเล็กๆ “ถ้าน้องต้นยังมีโอกาสนะคะ” พิมพ์อรยิ้มหยันอยู่ในที
พิมพ์อรเดินเชิดนำออกไปแม้แต่หางตาก็ไม่แลลาภิณ
ชาครเดินมาหยุดข้างๆ ลาภิณแล้วพูดเบาๆ “คุณอรต้องการบีบคุณทุกทาง แล้วก็คงหนักขึ้นเรื่อยๆ ผมก็คงทำได้แค่เตือนคุณเท่านั้น เสียใจด้วยนะ”
ชาครเดินตามพิมพ์อรไป
ทวีไม่สบายใจ “ถ่วงเวลาจ่ายเงินออกไปหน่อยไม่ดีกว่าเหรอครับคุณต้น คนกันเองแท้ๆ เรามีเงินก้อนอยู่ในมือ จะได้เอาไว้หมุนทำอย่างอื่นได้”
“อย่าเลยครับลุง ผมไม่อยากเป็นหนี้บุญคุณเค้า” ลาภิณตัดบท “เราไปตรวจตึกกันดีกว่าครับ จะได้ดูว่ามีปัญหาตรงไหนบ้าง” ลาภิณเดินนำไป
โอ้เอ้กระซิบถามทวีด้วยสีหน้ากังวล “ผมจะตกงานมั้ยลุง เพิ่งผ่อนมอเตอร์ไซค์ได้ 2 งวดเอง”
ทวีเครียดแทนเจ้านาย “ไม่รู้โว้ย เอ็งกลัวนักก็ไปต่อคิวซื้อเสื้อวินหน้าปากซอยซะ” ทวีส่ายหน้าแล้วเดินตามลาภิณ
โอ้เอ้เดินตาม “ไอเดียไม่เลว” โอ้เอ้จะเดินออกไปจากตึก
“ไอ้โอ้เอ้ มานี่” ทวีเรียก
โอ้เอ้จ๋อยๆ เซ็งๆ แล้วก็เดินตามทวีไปช่วยตรวจงานตึกต่อ

ทวีกับโอ้เอ้เดินออกมาจากห้องต่างๆภายในตึกใหม่ ทั้งสองเข้ามาหาลาภิณที่ยืนรออยู่
“เป็นยังไงบ้างครับลุง เรียบร้อยดีมั้ยครับ” ลาภิณถาม
“ดีครับ ทั้งช่องระบายน้ำระบายอากาศ รวมทั้งห้องฆ่าเชื้อก็เรียบร้อยดีครับ” ทวีบอก
ลาภิณพยักหน้ารับ “ก็สมกับเป็นมืออาชีพดี เร่งงาน แต่ก็ไม่มีอะไรพลาด”
ทวีไม่สบายใจ “เอ่อ คุณต้นจะไม่เลื่อนการจ่ายเงินงวดสุดท้ายไปก่อนจริงๆ เหรอครับ”

อ่านละคร รากบุญ2 ตอน รอยรักแรงมาร ตอนที่ 16/5 วันที่ 27 ก.ค. 57

ละครรากบุญ2 บทประพันธ์โดย : ช่อมณี
ละครรากบุญ2 บทโทรทัศน์โดย : เอกลิขิต
ละครรากบุญ2 กำกับการแสดงโดย : ธรธร สิริพันธ์วราภรณ์
ละครรากบุญ2 ผลิตโดย : บริษัท ทีวีซีน แอนด์ พิคเจอร์ จำกัด
ละครรากบุญ2 ควบคุมการผลิตโดย : ณัฏฐนันท์ ฉวีวงษ์
ละครรากบุญ2 ออกอากาศทุกวันจันทร์-อังคาร เวลา 20.15 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ละครรากบุญ2 เริ่มออกอากาศตอนแรก วันอังคารที่ 8 กรกฎาคม 2557 นี้
ที่มา ไทยรัฐ