@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร รากบุญ2 ตอน รอยรักแรงมาร ตอนอวสาน(1) วันที่ 30 ก.ค. 57

อ่านละคร รากบุญ2 ตอน รอยรักแรงมาร ตอนอวสาน(1) วันที่ 30 ก.ค. 57

“กสิณไม่ได้อยู่ในอำนาจของคุณพิมพ์อรตั้งแต่ต้นแล้วล่ะค่ะ แล้วเค้าก็ไม่ได้อยู่ในอำนาจของใครด้วย ไม่มีมนุษย์ที่ไหนเป็นนายกิเลส มีแต่กิเลสเท่านั้นที่เป็นนายของมนุษย์” เจติยาหันไปพูดกับพิมพ์อร “ฉันพูดถูกมั้ยคะคุณพิมพ์อร”
พิมพ์อรมีท่าทางกลัวๆ เมื่อนึกถึงเรื่องนี้

เหตุการณ์ในอดีต พิมพ์อรกำลังระเบิดอารมณ์ใส่กสิณอยู่
พิมพ์อรโมโห “ฉันเคยบอกแล้วใช่มั้ย ว่าชาครเป็นเพื่อนฉัน แล้วทำไมยังคิดจะฆ่าเค้าอีก”
กสิณยิ้มบางๆ “แต่ถ้าฉันไม่ทำอะไรซักอย่าง ชาครอาจจะทำลายแผนการเราทั้งหมดก็ได้นะจ๊ะพิมพ์อร”
พิมพ์อรตวาดแว๊ด “ฉันบอกว่าไม่ก็คือไม่ ฟังไม่รู้เรื่องเหรอ”


“อันที่จริง เมื่อวานเธอก็ไม่น่าขัดขวางฉันเลยนะจ๊ะ ถึงเธอจะปรากฏตัวในร่างที่ฉันสร้างขึ้น แต่มันก็น่าสงสัยอยู่ดี”
พิมพ์อรโมโห “นี่เธอจะกวนประสาทฉันไปถึงไหน ฉันสั่งให้...”
ทันใดนั้น ก็มีมือล่องหนโผล่ขึ้นมาจากดิน แล้วกระชากคอพิมพ์อรไปทางด้านหลังทันที พิมพ์อรกรี๊ดลั่นด้วยความตกใจและหวาดกลัว ทันใดนั้นก็มีมือล่องหนอีกข้างยื่นออกมาจากต้นไม้ตรงเข้าจิกหัวพิมพ์อรดึงขึ้นจนสองเท้าลอยพ้นพื้น พิมพ์อรดิ้นรนทุรนทุรายอยู่กลางอากาศ
พิมพ์อรทั้งเจ็บทั้งกลัว “ฉันเป็นเจ้านายเธอนะ เธอกล้าทำร้ายฉันเหรอกสิณ”
กสิณหัวเราะคิกๆ “ไร้เดียงสาซะจริงนะจ๊ะ คิดว่าผู้ที่มีพลังอำนาจอย่างฉัน จะลดตัวไปเป็นทาสเธอจริงๆน่ะเหรอพิมพ์อร” กสิณพูดเสียงแข็งอย่างทรงอำนาจ “เธอต่างหากที่เป็นข้ารับใช้ของฉัน” กสิณเดินเข้าไปหาพิมพ์อร แล้วยื่นมือไปลูบไล้ใบหน้าของพิมพ์อร
พิมพ์อรหวาดกลัวจับใจ นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่เธอกลัวถึงขนาดนี้
กสิณพูดต่อ “หมดเวลาให้ขนมหวานแล้ว จำไว้นะจ๊ะพิมพ์อร เธอ...จะได้ทุกสิ่งที่เธอต้องการ แต่ชีวิตแล้วก็วิญญาณของเธอ” กสิณเสียงเข้ม “ต้องเป็นของฉัน” กสิณมีแววตาอำมหิต

พิมพ์อรหวาดกลัวจนหน้าซีดเผือด มือทั้งสองข้างจับเข้าหากันจนเล็บจิกเข้าไปในเนื้อ ทุกคนต่างหันไปมองหน้ากันเอง หลังจากได้ยินเรื่องที่พิมพ์อรเล่า ต่างคนต่างก็รู้ถึงความน่ากลัวของกสิณเป็นอย่างดี
“สมกับเป็นปิศาจที่เกิดจากกิเลสจริงๆ” ลาภิณส่ายหน้า “เล่นงานได้แม้แต่เจ้าของเหรียญของตัวเอง”
“ไม่น่าล่ะ คุณท่านรู้เรื่องนี้มาตลอด ถึงได้พยายามกันคุณสองคนออกจากเหรียญ แล้วก็ไม่ยอมให้พวกคุณสร้างกล่องรากบุญขึ้นมาใหม่”
“คราวนี้พี่อรคงตาสว่างแล้วใช่มั้ยครับ”
“ใช่ พี่รู้แล้วว่าถูกหลอกมาตลอด กสิณไม่ใช่ทาสของพี่ และคอยหา ประโยชน์จากพี่” อยุทธ์พูดหน้านิ่งๆ โดยมีสายตาแข็งกร้าวเอาจริง “แต่พี่ก็จะใช้งานกสิณต่อไป แล้วก็จะสร้างกล่องรากบุญขึ้นมาให้ได้”
ทุกคนอึ้งไปทันทีที่พิมพ์อรไม่สำนึก
“ถึงขนาดนี้แล้ว คุณยังคิดไม่ได้อีกเหรอคะ” เจติยาว่า
พิมพ์อรตวาดแว๊ด “ไม่ต้องมาสอนฉัน ต่อให้ฉันต้องขายวิญญาณให้ปิศาจ แต่ถ้ามันช่วยคุณพ่อได้ ฉันก็จะทำ”
อยุทธ์อึ้ง “พี่อร...”
พิมพ์อรพูดสวนขึ้น “ตอนที่พี่ตาย แล้วเหลือคุณพ่อเป็นญาติคนเดียวในโลก เธอรู้สึกยังไงบ้างอยุทธ์”
อยุทธ์อึ้งไป เพราะตอนนั้นเขาก็ไม่อยากสูญเสียพ่อจนทำได้ทุกอย่างเหมือนกัน
“ถ้าเธอรู้สึกทรมานใจ ก็ขอให้รู้เอาไว้” พิมพ์อรน้ำตารื้นท่วมตา “ว่าพี่ทรมานมาก่อนเธอหลายปี นับแต่วันที่เธอทิ้งพี่กับคุณพ่อไป เพราะฉะนั้น ไม่ว่ายังไง พี่ก็จะต้องช่วยคุณพ่อให้ได้”
ลาภิณหันไปพูดกับเจติยา “หมดหวังแล้วล่ะเจ เจช่วยอะไรเค้าไม่ได้แล้วล่ะ เค้าไม่ได้แค่ถลำลึก” ลาภิณหันไปมองพิมพ์อร “แต่เค้าเต็มใจกระโจนลงไปเองมากกว่า”
พิมพ์อรขบกรามแน่นเพราะไม่พอใจที่ลาภิณว่าตนแต่เธอก็ไม่ตอบโต้
เจติยาจ้องพิมพ์อรเขม็ง “อีกครั้งเดียว ฉันก็จะชำระเหรียญได้ทั้งหมด แล้วก็จะไม่มีกล่องรากบุญในโลกนี้อีก ยอมแพ้ซะเถอะค่ะคุณพิมพ์อร จะได้ไม่ต้องมีใครรับเคราะห์มากไปกว่านี้”
พิมพ์อรหันไปพูดกับอยุทธ์ “ได้ยินแล้วใช่มั้ยอยุทธ์ ถ้าผู้หญิงคนนี้ทำสำเร็จ เราสองคนก็จะไม่มีคุณพ่ออีกแล้ว”
อยุทธ์มีสีหน้าเคร่งเครียดเพราะลังเลสับสนกับเรื่องนี้มาก
พิมพ์อรหันมายิ้มให้เจติยา “ไปกันเถอะกสิณ”
ทันใดนั้นก็เกิดลมพัดอย่างรุนแรงจนแต่ละคนแทบไม่สามารถลืมตาได้ ลมหมุนขนาดใหญ่เกิดขึ้นรอบตัวพิมพ์อรก่อนที่พิมพ์อรจะหายตัวไปพร้อมกับลมที่ค่อยๆ สงบลง เจติยามีสีหน้าเคร่งเครียดที่เวลาแห่งการตัดสินใกล้เข้ามาแล้ว
พิมพ์อรกำลังคุยกับกสิณด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
กสิณโกรธมาก “ฉันบอกเธอแล้ว ว่าการที่เธอช่วยชีวิตชาคร จะทำให้แผนการที่เราวางไว้ต้องพังพินาศ เธอน่าจะฟังฉันบ้าง”
“แต่เราก็ยังไม่แพ้ไม่ใช่เหรอ ตราบใดที่เจติยายังไม่ได้ชำระเหรียญครั้งสุดท้าย เราก็ยังมีโอกาสชนะได้เสมอ”
“เราจะชนะ ก็ต่อเมื่อได้เหรียญทั้งสามมารวมกันและสร้างกล่องรากบุญขึ้นมาใหม่ได้เท่านั้น”
“ด้านอยุทธ์ฉันจัดการเอง เธอไปจัดการกับเจติยาก็แล้วกัน” พิมพ์อรบอก
กสิณยิ้มแย้ม “พูดอย่างงี้ แสดงว่าเธอมีแผนการอะไรอยู่ใช่มั้ย”
พิมพ์อรยิ้มบางๆ ด้วยสีหน้าแววตาที่ดูเลือดเย็นจนน่ากลัว

เจติยายืนอยู่คนเดียวที่ริมคลอง สายตาของเธอเหม่อมองไปในคลอง สมองเต็มไปด้วยปมปัญหามากมาย ลาภิณเดินเข้ามากอดเจติยาจากทางด้านหลัง เจติยาเหลือบตามองลาภิณแล้วทิ้งตัวผ่อนคลายด้วยความรู้สึกใจเบาลงไปบ้าง
ลาภิณมองเจติยาด้วยสายตารักใคร่ “ผมรับรองเลยนะเจ ว่าผมจะไม่มีวันนอกใจเจเด็ดขาด”
เจติยาขำๆ ก่อนจะผละตัวออกมามองหน้าลาภิณ “นึกยังไงถึงมาพูดแบบนี้คะเนี่ย”
“ก็วันนี้ผมเห็นกับตาแล้ว ว่าเจของผมปะติดปะต่อเรื่องเก่งขนาดไหน ขนาดมีพิรุธอยู่ไม่กี่อย่าง เจยังสาวไปถึงความจริงที่ไม่มีใครคิดถึงได้เลย แล้วผมจะกล้านอกใจเจได้ยังไง”
เจติยาขำออกมา
ลาภิณทำหน้าอ้อนๆ “ดีใจจังที่ช่วยให้เจขำได้”
เจติยายิ้มให้ก่อนจะถอนหายใจออกมา “วันนี้เราทำลายแผนเค้าได้ แต่ก็หยุดยั้งพวกเค้าไม่ได้ ไม่รู้ว่าเราจะต้องเผชิญกับการตอบโต้ที่รุนแรงขนาดไหนนะคะ
ลาภิณโอบเจติยาเอาไว้ “ผมยังไม่มั่นใจคุณอยุทธ์นะเจ กลัวเค้าจะยังร่วมมือกับพี่อรต่อ ยังไงเลือดก็ข้นกว่าน้ำ ถ้าเป็นอย่างงั้นจริง เราแย่แน่ๆ”
เจติยามีสีหน้าเคร่งเครียดเพราะกังวลเรื่องนี้อยู่เหมือนกัน

อยุทธ์เดินหนีพิมพ์อรเข้ามาที่โถงบ้านด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
อยุทธ์โมโห “พี่ยังหลอกใช้ผมไม่พอรึไง คราวนี้ต้องการอะไรจากผมอีก”
“พี่ยอมรับ ว่าพี่หลอกใช้เธอเพื่อกล่องรากบุญ แต่มันก็เป็นวิธีเดียวที่จะช่วยคุณพ่อได้ไม่ใช่เหรอ”
“ช่วยคุณพ่อเสร็จ พี่ก็จะใช้กล่องรากบุญสนองความต้องการของตัวเองต่อไปไม่สิ้นสุดใช่มั้ยล่ะ”
พิมพ์อรมีสีหน้าเหนื่อยใจ “พี่จะไม่เถียงเรื่องอุดมการณ์อะไรกับเธออีกแล้ว เลือกมาเลยดีกว่าว่าเธอจะช่วยคุณพ่อหรือไม่ช่วย”
อยุทธ์ขบกรามแน่นแล้วก็นึกถึงคำพูดของพ่อขึ้นมาอีก
เขานึกถึงตอนที่วนันต์รวบรวมแรงอยู่เต็มที่ “ปล่อยพ่อไป อย่าให้พ่อต้องอยู่ ทนเห็น” วนันต์น้ำตารื้นท่วมตา “ลูก ลูกต้องทำเลวเพื่อพ่ออีกเลย”
อยุทธ์กำหมัดแน่น แล้วขบกรามจนขึ้นสัน เขาคิดไม่ตกจริงๆว่าจะเลือกทางไหน
พิมพ์อรหน้าขรึมลง “นี่เป็นครั้งสุดท้าย ที่เธอจะทำเพื่อคุณพ่อแล้วนะอยุทธ์ ที่แล้วมา เธอเห็นแก่ตัวแล้วก็ทำเพื่อตัวเองมาตลอด ถ้าครั้งนี้เธอไม่ช่วยคุณพ่อ เธอก็จะไม่มีโอกาสอีกแล้ว”
อยุทธ์หน้าเครียดเพราะว้าวุ่นใจมาก

พนักงานของโรงพยาบาลกำลังทำความสะอาดห้องพักผู้ป่วย นิษฐาเดินออกมาจากในห้องน้ำ ทันใดนั้น โทรศัพท์มือถือของนิษฐาก็ดังขึ้น
นิษฐาหยิบขึ้นมาดูเบอร์แล้วก็กดรับ “ค่ะพี่” นิษฐาฟังอีกฝ่าย “พี่ไม่ต้องขึ้นมาหรอกค่ะ ฐาเก็บของเรียบร้อยหมดแล้ว เดี๋ยวฐาลงไปหาพี่เลยดีกว่า” นิษฐาฟังอีกฝ่าย “ฐาค่อยยังชั่วขึ้นเยอะแล้วค่ะ อยากจะกลับบ้านไปหาป๊ากับม๊าเต็มทนแล้ว” นิษฐาฟังอีกฝ่าย “ค่ะ เดี๋ยวเจอกัน”
นิษฐากดวางสายก่อนจะเดินไปหยิบกระเป๋าเสื้อผ้าเล็กๆของตนแล้วออกไปจากห้อง
นิษฐาเดินไปตามทางเพื่อจะไปที่ลิฟท์ พอนิษฐามาถึงลิฟท์ก็กดปุ่ม พอประตูลิฟท์เปิดออกเธอก็เดินเข้าไป นิษฐาหันกลับมาจะกดปุ่มปิดประตู แต่เธอก็ต้องตกใจสุดๆ เมื่อเห็นกสิณยืนอยู่หน้าประตูลิฟท์ ก่อนที่นิษฐาจะได้ร้อง กสิณก็พุ่งเข้ามาหานิษฐาจนประชิดตัว ใบหน้าใกล้จนแทบจะได้ยินเสียงลมหายใจของอีกฝ่าย

นวัชมาจอดรถรอรับนิษฐากลับบ้านอยู่ที่หน้าโรงพยาบาล เขาเดินคุยโทรศัพท์มือถือมาด้วย
“ผมมารับนิษฐาออกจากโรงพยาบาล มีอะไรเร่งด่วนรึเปล่าหมวด” นวัชฟังอีกฝ่าย “อ๋อ สำนวนคดีอยู่ที่จ่ายุทธ หมวดไปเอาได้เลย” นวัชฟังอีกฝ่ายก่อนตอบ “โอเคครับ”
นวัชกดวางสาย ทันใดนั้น เขาก็เหลือบเห็นบรรดาผู้คนเงยหน้าขึ้นมองยอดตึกของโรงพยาบาลและชี้มือชี้ไม้วิพากษ์วิจารณ์กันยกใหญ่ นวัชสงสัยจึงเงยหน้าขึ้นมองตาม เขาเห็นคนๆหนึ่งยืนอยู่บนยอดตึกตรงริมขอบตึก แต่เพราะว่าไกลเลยเห็นไม่ชัดว่าหน้าตาเป็นยังไง นวัชกลัวว่าจะฆ่าตัวตาย เขาเลยกลับไปที่รถก่อนจะเปิดคอนโซลหยิบกล้องส่องทางไกลขนาดเล็กออกมาเพื่อส่องดูว่าคนบนยอดตึกเป็นผู้ชาย ผู้หญิง เผื่อจะช่วยได้ นวัชส่องกล้องขึ้นดูก็เห็นนิษฐายืนอยู่บนยอดตึก
นวัชตกใจสุดๆ “ฐา!”
นวัชรีบวิ่งเข้าไปในโรงพยาบาลทันที

นวัชเปิดประตูดาดฟ้าเข้ามาด้วยความร้อนใจ พอเข้ามาก็เห็นนิษฐายืนหันหลังอยู่ที่ขอบตึกโดยทำท่าเหมือนจะกระโดดลงไป
นวัชตกใจมาก “ฐา อย่าโดดนะ”
นวัชรีบวิ่งเข้าไปหานิษฐาทันทีแล้วรีบดึงนิษฐากลับเข้ามา พอนิษฐาหันกลับมาก็ต้องตกใจสุดขีด เมื่อใบหน้านิษฐากลายเป็นโครงกระดูกตาโบ๋ น่าเกลียดน่ากลัว
นวัชตกใจสุดๆ จึงผงะออกไป “เฮ้ย!!”
โครงกระดูกหันมากรีดร้องโหยหวนก่อนจะค่อยๆ สลายกลายเป็นฝุ่นผงไป นวัชตกใจสุดๆ จึงหันหลังจะวิ่งหนีแต่พอหันกลับไปก็เห็นนิษฐายืนอยู่ข้างหลังตน นิษฐาบีบคอนวัชแล้วยกขึ้นจนสองเท้าลอยพ้นพื้น นวัชพยายามดิ้นรนแต่ก็สู้แรงไม่ไหว
นิษฐายิ้มเหี้ยมก่อนจะพูดเป็นเสียงกสิณ “แกยังมีประโยชน์อยู่ ฉันยังไม่ฆ่าแกทิ้งตอนนี้หรอก”
พูดจบนิษฐาก็เหวี่ยงนวัชปลิวละลิ่วก่อนจะกระแทกลงไปบนพื้นอย่างแรง

โอ้เอ้เข็นศพคลุมผ้าเข้ามาในห้องเพื่อเอามาให้เจติยากับทวี แต่งศพ
“ศพที่สี่ของวันนี้คร้าบ แหม วันนี้กิจการดีจริงๆ” โอ้เอ้บอก
ทวีเตรียมอุปกรณ์ไปบ่นไป “มีคนตายมากๆจะไปดีอะไรล่ะวะ”
“ไม่ได้หมายความว่าอย่างงั้นลุง ผมหมายถึงมีคนมาใช้บริการเราเพิ่มขึ้นต่างหาก” โอ้เอ้บ่นเบาๆ “คนแก่นี่เข้าใจอะไรยากจัง”
ทวีจะเขกมะเหงกใส่โอ้เอ้ แต่โอ้เอ้ระวังอยู่แล้วเลยฉากหลบไปได้อย่างสวยงาม เจติยาเห็นทั้งคู่เถียงกันรายวันก็ยิ้มๆ ก่อนจะเปิดผ้าคลุมศพออก พอเปิดออกเจติยาก็ต้องแปลกใจ เมื่อเห็นเตียงเปล่าๆ โดยไม่มีศพนอนอยู่แม้แต่น้อย
เจติยาแปลกใจ “อ้าว ไม่เห็นมีศพเลยนี่โอ้เอ้”
ทวีกับโอ้เอ้มองตามด้วยความงุนงง
โอ้เอ้งง “จะไม่มีได้ไง ผมเข็นมากับมือเลยนะ”
“เข็นเตียงผิดมาล่ะสิ ไอ้นี่ ไว้ใจไม่เคยได้เล๊ย ไป ไปเอามาใหม่เลย” ทวีว่า
โอ้เอ้กลัวผี “ลุงไปด้วยดิ เกิดศพมันลุกเดินขึ้นมาเดินได้ จะได้ช่วยกันไง”
“ไอ้นี่นี่ กลางวันแสกๆ ยังจะตาแหกอีก” ทวีตัดรำคาญจึงยอมออกไปด้วย “ไปๆ”
ทวีเดินนำโอ้เอ้ออกไปจากห้อง เจติยาปิดผ้าคลุมศพลงตามเดิมก่อนจะหันไปทำงานอื่น
ผ้าบนเตียงค่อยๆนูนขึ้นเป็นรูปคนนอนก่อนที่จะค่อยๆ ลุกขึ้นนั่ง เจติยาหันกลับไปเห็นก็สะดุ้งตกใจ เจติยาเอื้อมมือไปเปิดผ้าออกแล้วก็ต้องตกใจยิ่งกว่า เมื่อคนที่นั่งอยู่คือนิษฐานั่นเอง
เจติยาตกใจสุดๆ “ฐา!!”
นิษฐาหันมาจ้องเจติยา “ช่วยฉันด้วย”

นิษฐานั่งอยู่ที่โซฟาด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม โดยมีพิมพ์อรกับอยุทธ์ยืนดูอยู่ใกล้ๆ
อยุทธ์ไม่พอใจ “ทำไมต้องดึงคนไม่เกี่ยวข้องเข้ามาด้วยพี่อร โดยเฉพาะคุณฐากับผู้กอง เค้าสองคนไม่เคยทำอะไรให้เราเลยนะ”
“ช่วยไม่ได้ เจติยาอยากหัวแข็งดีนัก เราเล่นงานพวกมันก็ไม่มีประโยชน์อะไร ก็ต้องใช้วิธีนี้บีบยังงี้นั่นล่ะ” พิมพ์อรว่า
นิษฐายิ้มแย้มก่อนจะพูดเป็นเสียงกสิณ “ตอนนี้เราไม่มีเวลามาใจอ่อนแล้วนะอยุทธ์ เพราะถ้าไม่รีบสร้างกล่องรากบุญให้เร็วที่สุด คงหมดทางช่วยพ่อของเธอสองคนแล้วล่ะ”
อยุทธ์ขบกรามแน่นด้วยความเจ็บใจ
พิมพ์อรมีสีหน้าไม่วางใจ “แต่ถึงเราจะได้เพื่อนรักของเจติยามาเป็นตัวประกัน ฉันก็ไม่มั่นใจว่าเจติยาจะยอมเราง่ายๆ” พิมพ์อรเป็นห่วง “ยังไงเธอก็ต้องระวังให้มากนะกสิณ”
นิษฐาพูดเป็นเสียงกสิณ “ประเมินเจติยาถูกแล้วเหรอจ๊ะพิมพ์อร ที่แล้วมาเธอดูถูกเจติยามาตลอด ถึงได้แพ้ซ้ำซากไม่รู้กี่ครั้ง คราวนี้คงรู้แล้วล่ะสิ ว่าคนที่ทำลายกล่องรากบุญได้ เป็นคนที่พิเศษขนาดไหน”
พิมพ์อรทิ้งค้อนใส่ก่อนจะสะบัดหน้าไปทางอื่นเพราะไม่พอใจที่โดนแขวะ แต่ตอนนี้ก็ไม่กล้าอาละวาดกับกสิณแล้ว นิษฐาแสยะยิ้มร้ายอย่างมั่นใจว่าคราวนี้เอาชนะเจติยาได้แน่
นวัชที่มีสภาพสะบักสะบอมเปิดประตูห้องทำงานลาภิณเข้ามาก็เห็นลาภิณกำลังคุยกับเจติยาอยู่
นวัชร้อนใจสุดๆ “เจ ไอ้ผีนรกนั่น...”
เจติยาพูดสวนขึ้น “เรื่องฐาใช่มั้ยคะ เจรู้เรื่องหมดแล้วล่ะค่ะ”
นวัชแปลกใจ “เจรู้ได้ยังไง พี่โดนมันทำร้าย พอฟื้นขึ้นมาก็รีบมาหาเจที่นี่เลยนะ”
“พี่ผู้กองคะ ตอนนี้วิญญาณของฐาอยู่กับเราที่นี่” เจติยาหันไปมองที่เก้าอี้อีกตัว
นวัชตกใจสุดๆ แต่ก็มองไม่เห็นวิญญาณของนิษฐา “วิญญาณ ฐาตายแล้วเหรอ”
“ยังไม่ตายค่ะพี่ ก็แค่เกือบๆเท่านั้นแหละ”
“ฐาถูกกสิณผลักวิญญาณให้ออกจากร่างตอนตกใจสุดขีด แล้วก็แย่งร่างไป ถ้าเราพาวิญญาณฐากลับเข้าร่างได้ ก็ไม่มีอะไรแล้วล่ะค่ะ”

อ่านละคร รากบุญ2 ตอน รอยรักแรงมาร ตอนอวสาน(1) วันที่ 30 ก.ค. 57

ละครรากบุญ2 บทประพันธ์โดย : ช่อมณี
ละครรากบุญ2 บทโทรทัศน์โดย : เอกลิขิต
ละครรากบุญ2 กำกับการแสดงโดย : ธรธร สิริพันธ์วราภรณ์
ละครรากบุญ2 ผลิตโดย : บริษัท ทีวีซีน แอนด์ พิคเจอร์ จำกัด
ละครรากบุญ2 ควบคุมการผลิตโดย : ณัฏฐนันท์ ฉวีวงษ์
ละครรากบุญ2 ออกอากาศทุกวันจันทร์-อังคาร เวลา 20.15 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ละครรากบุญ2 เริ่มออกอากาศตอนแรก วันอังคารที่ 8 กรกฎาคม 2557 นี้
ที่มา ไทยรัฐ