@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร รากบุญ2 ตอน รอยรักแรงมาร ตอนที่ 12/3 วันที่ 23 ก.ค. 57

อ่านละคร รากบุญ2 ตอน รอยรักแรงมาร ตอนที่ 12/3 วันที่ 23 ก.ค. 57

มยุรีลูบหัวลูกด้วยความเอ็นดู “ทีงี้ล่ะมาปากหวาน”
ขณะนั้นเอง เจติยาก็เดินซึมๆกลับเข้ามาในบ้าน
นทียิ้มแย้ม “อ้าว พี่เจ มาทันเวลาข้าวเย็นพอดีเลย”

เจติยาหน้าเศร้าๆ “พี่ไม่หิว นทีกับแม่กินเถอะ พี่ขอขึ้นไปนอนพักก่อนนะ”
เจติยาเดินเลี่ยงขึ้นข้างบนไป
นทีมองตามด้วยความงุนงง “พี่เจเค้าเป็นอะไรรึเปล่าแม่”
มยุรีไม่สบายใจที่เห็นท่าทีของลูกสาวก็พอจะรู้ว่ามีปัญหาหนักแน่



ลาภิณเดินเข้ามาในห้องอาหารบ้านตอนหัวค่ำด้วยสีหน้าบึ้งตึง ลาภิณทิ้งตัวนั่งที่เก้าอี้หัวโต๊ะ คนรับใช้เข้ามาคดข้าวให้ลาภิณ พอคดเสร็จคนรับใช้ก็กำลังจะคดข้าวให้เจติยาต่อ
ลาภิณสั่งเสียงแข็ง “ไม่ต้อง”
“วันนี้คุณเจไม่มากินข้าวด้วยเหรอคะ”
ลาภิณทำหน้าบึ้งตึง ตวาด ห้วน “วันไหนเค้าก็ไม่กิน”
คนรับใช้หน้าเสียปนงง “ค่ะ”
ลาภิณลุกพรวดจนเก้าอี้หงายล้มโครมไป คนรับใช้ถอยห่างไปกลัวๆ รอจนลาภิณเดินออกไปค่อยตั้งเก้าอี้ขึ้น ลาภิณเดินหัวเสียขึ้นชั้นบนทันที

มยุรีเดินออกมาจากข้างในเพื่อจะมาปิดประตูบ้าน แต่พอออกมามยุรีก็เห็นเจติยายืนเศร้าๆอยู่ที่ประตู สายตามองออกไปข้างนอกบ้านด้วยดวงตาเหม่อลอย เศร้าๆ
“ตื่นแล้วเหรอเจ”
เจติยาหันมาพูดกับแม่หน้าเศร้าๆ “เจไม่ได้หลับหรอกค่ะแม่ เจแค่เหนื่อย ก็เลยอยากนอนพัก”
มยุรีหน้าขรึมลงด้วยความเป็นห่วง “มีอะไรอยากจะเล่าให้แม่ฟังมั้ย”
เจติยาน้ำตาคลอก่อนจะเข้าไปกอดแม่ด้วยความรัก และอยากระบายความอึดอัดทุกข์ใจให้แม่ได้รู้
มยุรีกอดลูกแน่นแล้วลูบหัวลูกด้วยความรักและเอ็นดู
มยุรีน้ำตาคลอตามเพราะเป็นห่วงมาก “มีเรื่องอะไรไม่สบายใจเล่าให้แม่ฟังซิลูก”
เจติยาน้ำตาคลอเสียงสั่นเครือ “เจไม่อยากเอาเรื่องไม่สบายใจมาเล่าให้แม่ฟังเลยค่ะ”
มยุรีจับไหล่เจติยาแล้วดันออกมาจ้องหน้าก่อนจะยิ้มบางๆ “แม่เป็นแม่นะเจ ลูกมีเรื่องอะไร แม่พร้อมรับฟังเสมอ อย่ากลัวแค่ว่าจะทำให้แม่ไม่สบายใจเลยลูก” มยุรีหน้าขรึมลง “เจมีปัญหากับคุณต้นใช่มั้ย”
เจติยาร้องไห้สะอึกสะอื้นพร้อมกับพยักหน้ารับ
“ทะเลาะกันเรื่องอะไรเหรอลูก”
มยุรีชะงัก เมื่อเห็นน้ำตาของเจติยาไหลออกมาเป็นเลือดสดๆ
มยุรีตกใจสุดขีด “เจ!!”
ใบหน้าของเจติยาค่อยๆ บิดเบี้ยวเหมือนละลายเยิ้มแบบเทียนไข ตามเนื้อตัวของเธอเน่าเฟะ ทั้งเลือดทั้งหนองไหลออกตามตัว มยุรีตกใจสุดขีดก่อนจะเจ็บแปลบที่หน้าอกเพราะโรคหัวใจกำเริบขึ้นมาทันที
มยุรีค่อยๆทรุดลงเพราะเจ็บบริเวณหัวใจจนหายใจไม่ค่อยออก “ช่วย...” มยุรีพูดไม่ออก
มยุรีทรุดลงกับพื้นก่อนจะสลบไสลไป เจติยาจะกลายร่างเป็นกสิณพร้อมกับมองไปที่มยุรีด้วยความสะใจ
เจติยาได้ยินเสียงแม่เรียกชื่อเธอก็วิ่งลงมาพร้อมกับนทีที่วิ่งตามหลังลงมา เจติยากับนทีลงบันไดมาก็เห็นแม่นอนสิ้นสติอยู่ แต่กสิณไม่อยู่แล้ว
เจติยาตกใจสุดขีด “แม่”
เจติยาและนทีรีบเข้ามาดูอาการมยุรีทันที เจติยาเข้าไปจับชีพจรมยุรี
นทีเป็นห่วงแม่สุดๆ “แม่เป็นอะไรพี่เจ”
“ไม่รู้เหมือนกัน สงสัยจะหน้ามืด แกรีบไปเรียกรถแท็กซี่ พาแม่ไปหาหมอเร็วๆเข้าเถอะ”
นทีรีบวิ่งออกไปจากบ้านอย่างเร็ว เจติยาปลดเสื้อผ้าให้สบายก่อนจะบีบนวดมยุรีไปมาให้ผ่อนคลายด้วยความเป็นห่วงสุดๆ
เจติยาพยายามเรียกสติ “แม่คะ ได้ยินเจมั้ยคะ”

นทีวิ่งพรวดพราดออกมาที่หน้าบ้านจนเกือบโดนแท็กซี่ชน รถแท็กซี่เบรกได้ทันชนิดเส้นยาแดงผ่าแปด
คนขับลงจากรถมาด้วยความโกรธจัด “ไอ้เด็กบ้า อยากตายนักรึไงวะ”
นทีรีบเข้าไปหาคนขับ “พี่ๆ ช่วยพาแม่ผมไปส่งโรงพยาบาลที”
ขณะนั้น ผู้โดยสารรถแท็กซี่ก็เปิดประตูรถลงมาซึ่งก็เป็นอยุทธ์นั่นเอง
“เกิดอะไรขึ้นนที”
นทีเป็นห่วงแม่สุดๆ “แม่เป็นลม ไม่รู้ว่าเป็นอะไรครับพี่”
อยุทธ์บอกคนขับแท็กซี่ “รอก่อนนะพี่” อยุทธ์จ่ายค่าแท็กซี่
แท็กซี่กดมิเตอร์ใหม่รอ อยุทธ์รีบวิ่งตามนทีไปยังบ้านเจติยาทันที
เวลาผ่านไป มยุรีกำลังหลับสนิทอยู่บนเตียงคนไข้ในโรงพยาบาลตอนกลางคืน โดยมีอุปกรณ์ช่วยชีวิตติดอยู่เต็มตัวไปหมด พยาบาลคอยเช็คอุปกรณ์และสายระโยงระยางค์ต่างๆ เจติยา นที และอยุทธ์กำลังยืนฟังหมออธิบายอยู่ใกล้ๆเตียงคนไข้
“คนไข้มีอาการของโรคหัวใจกับความดันสูงนะครับ โชคดีที่มาส่งโรงพยาบาลได้ทัน แต่ก็คงต้องเฝ้าดูอาการอย่างใกล้ชิดนะครับ”
“ค่ะ” เจติยายกมือไหว้ “ขอบคุณมากค่ะคุณหมอ”
หมอรับไหว้ก่อนจะเดินออกจากห้องไอซียูไปพร้อมกับพยาบาล
นทีเป็นห่วงแม่สุดๆ “แม่ไม่เป็นอะไรแล้วใช่มั้ยพี่เจ”
เจติยาหน้าเครียดเพราะรู้ว่าแม่อาการหนักมากเลยไม่กล้าตอบน้องชาย
อยุทธ์รีบตอบแทน “นอนอยู่โรงพยาบาล ใกล้หมอยังงี้ ไม่ต้องห่วงแล้วล่ะนที”
นทีนิ่งไปเพราะรู้ว่าอยุทธ์พยายามปลอบเขา เจติยาเข้าไปกุมมือแม่ไว้เพราะเป็นห่วงแม่สุดๆ เธอทนไม่ได้ถ้าจะต้องเสียแม่ไปแต่ก็ไม่รู้จะช่วยแม่ยังไง มยุรียังคงหลับสนิทและเต็มไปด้วยอุปกรณ์ช่วยชีวิตเต็มตัว

ลาภิณเปลี่ยนชุดนอนเดินออกมาจากในห้องน้ำ เขามองไปรอบๆห้องแต่ก็ไม่มีเจติยาอยู่แล้ว ลาภิณอดรู้สึกเหงาและเศร้าไม่ได้
ลาภิณรีบหักห้ามความคิด เขาขบกรามแน่นด้วยความเจ็บใจก่อนจะบ่นพึมพำ “อยู่คนเดียวดีกว่าโง่ให้เค้าหลอก”
ทันใดนั้น โทรศัพท์มือถือที่วางอยู่บนหัวนอนก็ดังขึ้น
ลาภิณเดินไปหยิบขึ้นมาดูด้วยความแปลกใจเพราะไม่รู้ว่าตัวเองเมมเบอร์นทีไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่แต่ก็กดรับ นทีคุยโทรศัพท์มือถือกับลาภิณอยู่ที่มุมหนึ่งในโรงพยาบาล
นทีเครียดสุดๆ “พี่ต้น แม่ไม่สบายมาก ตอนนี้อยู่ที่ห้องไอซียู พี่ต้นอยู่ไหนเหรอครับ”
ลาภิณอึกๆอักๆ ใจนึงก็ไม่ไว้ใจเพราะยังฝังใจเรื่องเจติยา แต่อีกใจก็ผูกพันกับนทีกับมยุรีอย่างบอกไม่ถูก “พี่อยู่บ้าน แล้วเค้า เอ่อ เจมีเงินรึเปล่า”
“มีพี่ เรื่องเงินพี่ไม่ต้องเป็นห่วงหรอก แต่...” นทีน้ำตาคลอ “ผมเครียดมากเลยนะพี่ต้น พี่เจก็เอาแต่เงียบไม่พูด อะไรเลย พี่อยุทธ์เค้าก็พยายามจะปลอบใจผม แต่มันไม่ช่วยให้ผมดีขึ้นเลย ผมอยากคุยกับพี่มากกว่า”
ลาภิณหน้าบึ้งเพราะรู้สึกหึงหวงขึ้นมาทันที “นี่คุณอยุทธ์อยู่ด้วยเหรอ”
“ครับ พี่เค้าเป็นคนอุ้มแม่ขึ้นแท็กซี่พามาส่งโรงพยาบาล” นทีตัดบท “พี่ต้นจะตามมาที่โรงพยาบาลมั้ยครับ”
ลาภิณทำหน้าบึ้งตึงพูดน้ำเสียงแดกดันอยู่ในที “คุณอยุทธ์อยู่ด้วย คงไม่เป็นไรแล้วมั้ง”
“แต่ผมอยากให้พี่มานะครับ” นทีเป็นห่วงแม่สุดๆ “ผมกลัวว่าแม่จะเป็นอะไรไป ถ้ามีพี่อยู่ด้วย ผมรู้สึกอุ่นใจกว่า”
ลาภิณมีสีหน้าเคร่งเครียดและระแวงว่าเจติยาจะมาไม้ไหน แต่อีกใจเขาก็เป็นห่วงมยุรีจริงๆเหมือนกัน

เจติยายืนอยู่หน้าห้องไอซียูแล้วมองผ่านกระจกไปที่แม่ซึ่งนอนอยู่ในห้องไอซียู พยาบาลคนหนึ่งกำลังเข็นรถซึ่งวางยาและเข็มฉีดยาผ่านมา
“ขอทางหน่อยค่ะ”
“ขอโทษค่ะ”
เจติยาเบี่ยงตัวออกเพื่อให้พยาบาลเข็นรถเข้าไปในห้องไอซียู พยาบาลกำลังจะเข็นรถเข้าไป ทันใดนั้นเจติยาก็จับแขนของพยาบาลไว้
พยาบาลหันกลับมาถามเจติยา “มีอะไรเหรอคะ”
เจติยามองหน้าพยาบาลนิ่งอยู่ครู่นึง “เผยตัวจริงมาเถอะกสิณ ฉันเคยเจอเธอมาหลายครั้งแล้ว” เจติยามีสีหน้ามั่นใจ “หลอกกันไม่ได้แล้วล่ะ”
ทันใดนั้น พยาบาลก็กลายร่างเป็นกสิณ
กสิณยิ้มแย้ม “เก่งจริงนะ มิน่า ปราณถึงได้แพ้เธอ”
เจติยาจ้องหน้า “ถึงเธอจะทำให้คุณต้นจำฉันไม่ได้ แล้วยังทำให้ฉันต้องแตกกับเค้า ฉันก็ไม่มีวันขอพรจากเหรียญเด็ดขาด”
พูดจบเหรียญของเจติยาก็ลอยออกมาจากกระเป๋าของเจติยา
“แม้ว่าจะต้องแลกด้วยชีวิตของแม่เธออย่างงั้นน่ะเหรอ” กสิณถาม
เจติยาขบกรามแน่นด้วยความโกรธจัด “ฝีมือเธอจริงๆด้วย”
ทันใดนั้นมือของเจติยาที่จับกสิณอยู่ก็ส่องแสงออกมา แขนของกสิณมีไฟลุกไหม้ท่วม
กสิณเจ็บปวดมากแต่ก็ขบกรามแน่นไม่ยอมร้อง “ถึงฉันจะถูกเธอทำลาย ก็แค่พลังของเหรียญลดลง แต่แม่ของเธอไม่รอดแน่”
เจติยายอมปล่อยมือ กสิณรีบผละออกมาหอบหายใจด้วยความเหนื่อยอ่อน กสิณมองดูมือของตนข้างที่เจติยาจับก็ปรากฏรอยไหม้รูปมือ กสิณเพ่งมองพลังไปที่แผลไหม้แค่เพียงอึดใจแผลไหม้ก็เลือนหายไป
กสิณจ้องเจติยาเขม็ง “ฉันยั้งมือเอาไว้ ไม่งั้นแม่เธอไม่มีลมหายใจมาถึงตอนนี้ได้หรอก”
“เธอยั้งมือ เพราะต้องการใช้ชีวิตแม่ฉันเป็นเครื่องต่อรองต่างหาก” เจติยาว่า
“เธอเข้าตาจนแล้วเจติยา เสียสามี เสียความรัก เหลือก็แต่แม่เธอเท่านั้น” กสิณยิ้มหวาน “แล้วเธอจะทนเห็นแม่ต้องตายต่อหน้าต่อตาได้จริงๆ เหรอ”
เจติยาขบกรามแน่นจนขึ้นสัน เธอรู้สึกว่าถูกกสิณไล่ต้อนจนหมดทุกอย่างแล้วจริงๆ ในที่สุดเจติยาก็ทนไม่ได้จึงเอื้อมมือไปคว้าเหรียญที่ลอยอยู่กลางอากาศมาไว้ในมือ กสิณยิ้มอย่างผู้ชนะที่ในที่สุดก็เอาชนะเจติยาได้สำเร็จ

อ่านละคร รากบุญ2 ตอน รอยรักแรงมาร ตอนที่ 12/3 วันที่ 23 ก.ค. 57

ละครรากบุญ2 บทประพันธ์โดย : ช่อมณี
ละครรากบุญ2 บทโทรทัศน์โดย : เอกลิขิต
ละครรากบุญ2 กำกับการแสดงโดย : ธรธร สิริพันธ์วราภรณ์
ละครรากบุญ2 ผลิตโดย : บริษัท ทีวีซีน แอนด์ พิคเจอร์ จำกัด
ละครรากบุญ2 ควบคุมการผลิตโดย : ณัฏฐนันท์ ฉวีวงษ์
ละครรากบุญ2 ออกอากาศทุกวันจันทร์-อังคาร เวลา 20.15 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ละครรากบุญ2 เริ่มออกอากาศตอนแรก วันอังคารที่ 8 กรกฎาคม 2557 นี้
ที่มา ไทยรัฐ