@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร รากบุญ2 ตอน รอยรักแรงมาร ตอนที่ 11/4 วันที่ 22 ก.ค. 57

อ่านละคร รากบุญ2 ตอน รอยรักแรงมาร ตอนที่ 11/4 วันที่ 22 ก.ค. 57

นิษฐาพยายามผลักฟางออกไป ยังโกรธไม่หาย “เธอจะมาไม้ไหนอีก อย่ามายุ่งกับฉัน” นิษฐารวบรวมแรงผลักฟางออกไปจนได้แล้วรีบเปิดประตูรถแล้วขับออกไป
ฟางตามไปทุบรถนิษฐา “อย่าเพิ่งไปพี่ฐา... พี่ฐา ช่วยฟางด้วย”

นิษฐาไม่สนใจ ขับรถหนีไปจนได้ ฟางได้แต่มองตามโดยทำอะไรไม่ได้ ทันใดนั้น ประสิทธิก็เข้ามาล็อกคอและปิดปากฟางไว้ไม่ให้ร้อง
เอ๋เดินออกมาหาฟาง “ฉันบอกแกแล้ว ถ้ารู้ความลับของฉัน ก็ต้องช่วยฉันทำงาน อย่าคิดหนีเป็นอันขาด”
“มันคงคิดว่ามีแฟนเป็นตำรวจแล้วจะปกป้องมันได้ล่ะมั้ง”


ฟางกลัวสุดขีด จะร้องให้คนช่วย ก็ไม่มีเสียงออกมาแม้แต่น้อย
เจติยาเล่าเรื่องทั้งหมดให้นิษฐา เอ๋ และประสิทธิฟัง ทั้งสองสบตากันหน้าซีดเผือด ในขณะที่นิษฐาเองก็ตกใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น
ประสิทธิตกใจมาก “แกรู้ขนาดนี้ได้ยังไง แกเห็นเหตุการณ์เหรอะ”
“ฉันรู้เพราะวิญญาณของฟาง มาเล่าให้ฉันฟัง”
เอ๋หัวเราะเยาะ ไม่เชื่อ มองเจติยาด้วยสายตาเหี้ยมเกรียม “โกหก” หันไปสั่งประสิทธิ “ฆ่าปิดปากมันซะ”
ประสิทธิจะยิงเจติยา แต่ทันใดนั้น ลาภิณที่แอบเข้าไปใกล้ประสิทธิ ก็เข้าล็อกตัวประสิทธิจากทางด้านหลัง แล้วล็อกแขนประสิทธิ ก่อนจะแย่งปืนมา ขณะเดียวกับที่อยุทธ์ที่เข้าล็อกตัวเอ๋และแย่งมีดมาจากเอ๋ พร้อมกับจับตัวเอาไว้
นิษฐาวิ่งเข้าไปหาเจติยา “เจ”
เจติยากอดเพื่อนไว้ โล่งอกที่มาช่วยนิษฐาได้หวุดหวิด “ไม่ต้องกลัวนะฐา ฉันโทรบอกพี่ผู้กองแล้ว ตำรวจกำลังตามมาช่วยเรา”
ลาภิณ และอยุทธ์ จับทั้งคู่ล็อกแขน แล้วจะพาไปมัด ประสิทธิฉวยโอกาสสะบัดตัวหลุด แล้วแย่งปืนมาจากลาภิณ พร้อมกับชกลาภิณล้มคว่ำไป ประสิทธิเล็งปืนไปที่ลาภิณ กะยิงให้ตาย
“อย่ายิง” เจติยาวิ่งถลาเข้าไปขวางหน้าลาภิณไว้ ท่ามกลางความตกใจของทุกคน
ลาภิณช็อก เหมือนภาพที่เจติยาขวางหน้าตนเพื่อรับกระสุนแทน เป็นเดจาวูที่เคยเห็นมาก่อน ในตอนที่เจติยาเคยรับกระสุนที่พิสัยยิงมาแทนลาภิณ
ประสิทธิกำลังจะเหนี่ยวไก แต่ทันใดนั้นเองก็มีเสียงปืนดังขึ้น เจติยาสะดุ้งเฮือกเหมือนโดนยิง ประสิทธิเป็นฝ่ายถูกยิงจนล้มคว่ำ ตำรวจ 3-4 คน ที่เป็นคนยิง ก็กรูกันเข้ามาจับตัวประสิทธิกับเอ๋ไว้
เจติยาตั้งสติได้ก็เข้าไปหาลาภิณ “คุณต้น เป็นอะไรรึเปล่าคะ”
ลาภิณหลุดจากภวังค์ เป็นห่วงเจติยามาก “เจโดนยิงรึเปล่า”
“เปล่าค่ะ เจปลอดภัยดี”
ลาภิณโผเข้ากอดเจติยาแน่น เจติยาอึ้งๆ ไม่อยากเชื่อความรู้สึกตัวเองนัก “ผมห่วงคุณแทบแย่ นึกว่าคุณจะโดนยิงเหมือนตอนที่น้าพิสัยยิงคุณซะแล้ว”
เจติยาดีใจผละกอดออกมา จ้องหน้าลาภิณ น้ำตาท่วมตา “คุณต้น ...คุณต้นจำเจได้แล้วใช่มั้ยคะ”
ลาภิณจ้องหน้าเจติยา “ทำไมผมจะจำเจไม่ได้ เจเป็นภรรยาของผม คุณคือผู้หญิงที่ผมรักมากที่สุด”
เจติยาร้องไห้โฮออกมาสวมกอดลาภิณไว้แน่น นิษฐาดีใจจนน้ำตาคลอตาม ส่วนอยุทธ์ดูจ๋อยๆ ไป
ลาภิณและเจติยายังคงสวมกอดกันอยู่อย่างหวงแหนไม่ยอมปล่อย
กสิณกรีดร้องลั่นด้วยความเจ็บปวด กสิณทรุดลงกับพื้นด้วยใบหน้าเปลี่ยนเป็นเน่าเละและน่าสะพรึงกลัว กสิณขบกรามแน่นด้วยความเคียดแค้นเพราะยังไงตนก็ไม่มีวันยอมแพ้เจติยาเด็ดขาด

ในหมู่บ้านทุกอย่างคลี่คลายหลังจากจับคนร้ายได้แล้ว ตำรวจเพียงแต่สอบปากคำ ลาภิณนั่งพักอยู่ที่ใต้ต้นไม้ เจติยาเดินเข้าไปหาลาภิณพร้อมน้ำอัดลมกระป๋องนึง
เจติยายื่นน้ำอัดลมให้ “น้ำค่ะคุณต้น”
ลาภิณรับน้ำอัดลมมาด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม “ขอบใจจ้ะ”
เจติยามองลาภิณนิ่งเพราะรู้สึกเหมือนได้สามีคนเดิมกลับมา เธอทั้งรักทั้งเป็นห่วงสุดๆ เจติยามีน้ำตา
ท่วมตาขึ้นมาอย่างกลั้นไม่อยู่
ลาภิณมองเจติยาแบบงงๆ “ทำไมมองผมแบบนี้ล่ะเจ ทำเหมือนกับ...”
ลาภิณยังพูดไม่ทันจบ เจติยาก็เข้าไปกอดลาภิณไว้ทันทีราวกับกลัวว่าลาภิณจะจำตนไม่ได้อีก ลาภิณอึ้งอยู่ครู่นึงก่อนจะกอดเจติยาตอบด้วยความรักที่มีเต็มเปี่ยม อยุทธ์เดินผ่านมาพอดี อยุทธ์ชะงักไปแล้วก็แอบจ๋อยไปเล็กน้อยก่อนจะเดินเงียบๆ เลี่ยงไปเพราะไม่อยากขัดจังหวะ
ลาภิณยิ้มเอ็นดู “เป็นอะไรของคุณ ปกติเจขี้อายจะตาย มากอดผมยังงี้ ไม่กลัวใครมาเห็นเหรอ”
เจติยายิ้มๆ ก่อนจะคลายกอด เธอจับมือลาภิณพร้อมจ้องตา “คุณต้นจำไม่ได้เลยเหรอคะว่าช่วงที่ผ่านมาเกิดอะไรขึ้นกับคุณต้นบ้าง”

ลาภิณส่ายหน้า “ผมยังงงอยู่เลยว่าตามคุณมาที่นี่ทำไม...เล่าให้ผมฟังหน่อยสิเจ”
เจติยายิ้มบางๆ ด้วยความดีใจมาก “ช่างมันเถอะค่ะ ไม่มีอะไรน่าจดจำหรอกคุณหายเป็นปกติเหมือนเดิมก็ดีแล้ว”
เจติยาสวมกอดลาภิณอีกครั้งอย่างมีความสุข ทันใดนั้น ลาภิณก็ผลักตัวเจติยาออกไปทันที
ลาภิณหน้าตาบึ้งตึง “เป็นบ้าอะไรของเธอ มากอดฉันทำไม”
เจติยาอึ้งปนงง
ลาภิณไม่พอใจ “เสร็จงานแล้วไม่ใช่เหรอะ งั้นก็รีบๆกลับได้แล้ว” ลาภิณจ้องหน้าอย่างตำหนิ “แล้วทีหลังอย่าทำแบบนี้อีก เดี๋ยวมีคนเอาไปพูดเข้าหูพี่อร ฉันขี้เกียจมีปัญหา” ลาภิณเดินหัวเสียเลี่ยงออกไป
เจติยาหน้าเสียไปเพราะลาภิณจำเธอได้เพียงครู่เดียวก็กลับสภาพเดิมอีกแล้ว

อยุทธ์เดินคุยปลอบใจเจติยามาตามมุมสวยงามของหมู่บ้าน
“ผมว่าถ้ามองในแง่ดี คุณต้นก็ค่อยๆหลุดจากอำนาจมันทีละนิดแล้วล่ะ ต่อไปก็คงจะจำคุณเจได้เหมือนเดิมเองล่ะครับ” อยุทธ์ว่า
เจติยาถอนใจทำหน้าเศร้าๆ “ค่ะ เจก็หวังยังงั้น”
อยุทธ์ยิ้มรับ “ถ้างั้นรีบชำระเหรียญกันดีกว่าครับคุณเจ ไม่แน่นะครับ ชำระเหรียญคราวนี้เสร็จ คุณต้นอาจจะหายเป็นปกติก็ได้”
เจติยายิ้มรับก่อนจะหยิบเหรียญออกมาจากกระเป๋า เหรียญของเจติยาลอยขึ้นช้าๆ เจติยาเอื้อมมือไปกำเหรียญไว้ก่อนจะรวบรวมสมาธิเพื่อชำระเหรียญ
ขณะนั้นมีแสงสว่างปรากฏขึ้นที่รอบมือที่กำเหรียญของเจติยา แต่เพียงครู่เดียวแสงสว่างก็หายไป
อยุทธ์แปลกใจ “เกิดอะไรขึ้นครับ”
เจติยาแปลกใจปนสงสัย “ชำระเหรียญไม่ได้ค่ะ”
“อ้าว ทำไมล่ะครับ หรือว่ายังทำภารกิจไม่สำเร็จ”
เจติยามีสีหน้าครุ่นคิดว่ายังไม่บรรลุภารกิจตรงไหน

นิษฐาหน้าบึ้งตึงไม่พอใจ
“ฉันขอบใจแกมาก ที่ช่วยให้ฉันหลุดจากการเป็นผู้ต้องสงสัย แต่เรื่องอื่น” นิษฐาใช้หางตามองไปทางนวัช “แกเข้าข้างคนอื่นมากไปรึเปล่าเจ”
นิษฐากำลังคุยกับเจติยา โดยมีนวัชอยู่ใกล้ๆ บริเวณโถงบ้านนวัชตอนกลางคืน
นวัชยังเคืองปนน้อยใจนิษฐาอยู่ “พี่บอกเจแล้ว พูดกับคนไม่มีเหตุผล เสียเวลาเปล่า”
นวัชและนิษฐาหันไปจ้องหน้ากัน โดยที่ต่างฝ่ายต่างก็ทิฐิแรงด้วยกันทั้งคู่
เจติยาเข้ามาห้ามทัพ “พอกันทั้งคู่เลย ถ้าขืนยังทะเลาะกันอยู่ยังงี้ งานฉันก็ไม่เสร็จกันพอดี”
“งานอะไรของแกอีกยะ” นิษฐาถาม
“แกกับพี่ผู้กอง ไม่มีใครสงสัยแล้วใช่มั้ย ว่าฉันติดต่อกับวิญญาณได้จริง”
“พี่เลิกสงสัยมานานแล้วล่ะ” นวัชบอก
“เห็นกับตามาหลายครั้ง ถ้าไม่เชื่อแกก็ไม่รู้จะว่าไงแล้ว” นิษฐามองหน้าเจติยา “แล้วแกถามทำไม”
เจติยามีสีหน้าขรึมลง “ตอนนี้วิญญาณของฟางอยู่กับเราที่นี่”
นวัชและนิษฐามองไปรอบๆ ด้วยท่าทางกลัวๆ แต่ก็ไม่เห็น
“ฟางเค้าก็ต้องการขอโทษแกกับพี่ผู้กอง” เจติยาหันไปมองข้างๆ “ใช่มั้ย ฟาง”
นวัชและนิษฐาหันมองตามสายตาเจติยาแต่ก็ไม่เห็นใครดูเหมือนเจติยาพูดอยู่คนเดียว ทันใดนั้นเสียงฟางก็ดังขึ้น “ค่ะ”
นวัชและนิษฐามองเห็นวิญญาณฟางยืนอยู่ระหว่างกลางของคนทั้งคู่
ฟางมีสีหน้าเศร้าเพราะรู้สึกผิด “ผู้กองกับฟางไม่เคยมีอะไรกัน ทุกอย่าง เป็นความตั้งใจของฟางที่จะให้พี่ฐากับผู้กองเข้าใจผิดกัน”
เหตุการณ์ในอดีตย้อนมา นิษฐากำลังนั่งอ่านหนังสือนิทานให้เด็กๆฟัง นิษฐาอ่านไปแสดงท่าประกอบไปด้วย เด็กๆหัวเราะ ชอบอกชอบใจกันยกใหญ่ ฟางยืนแอบดูอยู่ด้วยสายตาเกลียดชัง
ฟางอธิบาย “หนูอิจฉาพี่ฐามาตลอด เพราะพี่ฐามีแต่คนรัก แต่หนูไม่มีใครเลย”
ผู้หญิงที่นิษฐาเคยช่วยเหลือ เอาของขวัญมาให้นิษฐาเป็นการขอบคุณในโอกาสพิเศษ นิษฐารับของขวัญแล้วพูดคุยด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส ฟางที่ยืนอยู่ใกล้ๆ เบือนหน้าไปมองทางอื่นเพราะไม่อยากเห็นภาพที่นิษฐาถูกรุมรักแบบนี้

เหตุการณ์ในอดีตต่อเนื่อง นวัช และนิษฐา เดินควงกันเลือกดูของในห้างสรรพสินค้า ทั้งคู่ต่างก็มีสีหน้ายิ้มแย้มมีความสุข ฟางซึ่งทำงานพิเศษอยู่ที่ห้างฯ ยืนแอบดูอยู่ ด้วยสายตาเกลียดชัง ฟางกำหมัดจนเล็บจิกเข้าไปในเนื้อด้วยความริษยาสุดๆ
“แต่ที่หนูทนไม่ได้มากที่สุด ก็คือการที่พี่ฐามีแฟนที่รักพี่ฐามากขนาดนี้” ฟางตะโกนลั่น “หนูเกลียด เกลียดที่สุด!!”

เหตุการณ์ปัจจุบัน ถ้วยกาแฟบนโต๊ะสั่นสะเทือนตามแรงโกรธเกลียดของฟาง ทุกอย่างในห้องสั่นสะเทือนราวกับเกิดแผ่นดินไหว นวัชกับนิษฐาตกใจที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น
“สงบสติอารมณ์หน่อยฟาง ที่เธอต้องการ คือการขอโทษไม่ใช่เหรอ”
ทันใดนั้นทุกอย่างก็สงบลง
นิษฐาเริ่มตั้งสติ “น้องเค้าอยู่ตรงไหนเหรอเจ”
“ข้างหลังแก” เจติยาตอบ
นิษฐากับนวัชผงะแล้วถอยออก
ฟางยืนหน้าเศร้าๆ อยู่ที่เดิม
นวัชหน้าขรึมลง “พี่ได้คุยกับลุงของฟางแล้ว เลยรู้ว่าเค้ามีปมเรื่องขาดความรักมาตั้งแต่เด็ก น้องเค้ามีพฤติกรรมชอบแย่งแฟนคนอื่นมาตลอด ส่วนเรื่องที่เค้าทำให้พี่กับฐาเข้าใจผิดกัน” นวัชมองไปทางตำแหน่งที่คิดว่าฟางจะอยู่ “พี่อโหสิให้”
ฟางมองนวัชแล้วยิ้มดีใจจนน้ำตาคลอ
นิษฐามองตามไปยังจุดที่นวัชมอง “ฉันก็เหมือนกัน” นิษฐาหน้าขรึมลง “ถึงฟางจะแกล้งฉัน แต่เค้าก็ช่วยชีวิตฉันเอาไว้ ฉันไม่ถือโทษโกรธเคืองอะไรเค้าแล้ว ขอให้เค้าไปสู่สุคติก็แล้วกัน”
ฟางน้ำตาซึมออกมา
เจติยามองไปที่ฟาง “ได้ยินชัดแล้วนะ”
ฟางรู้สึกดีสุดที่ได้รับการอโหสิ “ขอบคุณค่ะ ขอบคุณพี่สองคนมาก หนูคงต้องไปแล้ว ขอให้พี่สองคนโชคดี แล้วก็รักกันแบบนี้ตลอดไปนะคะ”

อ่านละคร รากบุญ2 ตอน รอยรักแรงมาร ตอนที่ 11/4 วันที่ 22 ก.ค. 57

ละครรากบุญ2 บทประพันธ์โดย : ช่อมณี
ละครรากบุญ2 บทโทรทัศน์โดย : เอกลิขิต
ละครรากบุญ2 กำกับการแสดงโดย : ธรธร สิริพันธ์วราภรณ์
ละครรากบุญ2 ผลิตโดย : บริษัท ทีวีซีน แอนด์ พิคเจอร์ จำกัด
ละครรากบุญ2 ควบคุมการผลิตโดย : ณัฏฐนันท์ ฉวีวงษ์
ละครรากบุญ2 ออกอากาศทุกวันจันทร์-อังคาร เวลา 20.15 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ละครรากบุญ2 เริ่มออกอากาศตอนแรก วันอังคารที่ 8 กรกฎาคม 2557 นี้
ที่มา ไทยรัฐ