@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร ดาวเกี้ยวเดือน ตอนอวสาน(3) วันที่ 28 ก.ย. 56

อ่านละคร ดาวเกี้ยวเดือน ตอนอวสาน(3) วันที่ 28 ก.ย. 56

“ฉันไม่เคยรู้เลยว่าตอนอยู่กับอร นายต้องทุกข์ใจมากขนาดนี้ ฉันคิดว่านายมีความสุข...เหมือนตอนที่เราคบกัน”
จันทรภานุค่อยๆหรี่ตาขึ้นมองเพื่อคอยเช็คว่าศิวะจะหันมาไหม ระหว่างนั้นเขาก็แก้เชือกที่มัดมือไปด้วย
ประกายดาวพูดต่อ “ศิวะ...ฉันไม่เคยลืมเรื่องของเราเลยนะ ถึงมันจะน้อยนิด แต่มันก็อยู่ในความทรงจำของฉัน เราตกลงเป็นแฟนกันวันแรก คือที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา วันศุกร์ที่ 23 กันยาปี 48 เวลาหกโมงเย็นยี่สิบนาที”

“ปี48 ? ไม่น่าใช่ กูว่าน่าจะปีเมื่อ..” ศิวะจะนับนิ้ว
“อย่าเถียงฉัน เรื่องนี้ฉันความจำดีกว่านาย วันเกิดฉัน นายยังจำไม่ได้เลย วันนั้นนายหล่อมาก นายขอฉันเป็นแฟน”


“อีบ้า ! มึงต่างหากที่ขอกูเป็นแฟน”
“บ้า ฉันไม่เคยขอผู้ชายเป็นแฟน นายนั่นแหละขอฉัน”
“มึงบอก กูเป็นผู้ชายคนแรกที่มึงขอเป็นแฟน มึงขอ”
“นายขอ”
เชือกที่มือจันทรภานุเริ่มหลุดแล้ว
ศิวะไม่พอใจ “โว้ย !!! กูจะมาเถียงกับมึงเพื่ออะไรเนี่ย กูจะยิงไข่ไอ้จันทรภานุ”
ศิวะจะหันไปยิงจันทรภานุแต่ประกายดาวร้องกรี๊ด ศิวะชะงักแล้วหันกลับมามองประกายดาว
“เด็ก !” ประกายดาวมองต่ำไปข้างๆ ตัวศิวะ “ศิวะ ฉะ...ฉันเห็นเด็กผมจุกยืนอยู่ข้างๆ นาย”
ศิวะก้มมองตามประกายดาวแต่ไม่เห็นอะไร
“เขาต้องเป็นวิญญาณลูกของนายกับคุณรสที่แท้งไปแน่ๆ” ประกายดาวว่า “มิน่า...นายถึงเจอเรื่องแย่ๆ ต้องเพราะผลกรรมที่นายทำให้เขาไม่ได้เกิดแน่ๆ นายต้องทำบุญให้เขานะศิวะ ไม่งั้นเขาอาจจะขี่หลังนายไปตลอดชีวิต”
“หยุดพูด !”
“จริงนะศิวะ เขาร้องไห้ไม่หยุดเลย เขาคงไม่อยากให้พ่อทำผิดอีก นายไม่สงสารลูกนายบ้างหรือไง”
“กูบอกให้หยุดพูด !”
ศิวะปราดเข้าไปตบหน้าประกายดาวอย่างแรง จันทรภานุเผลอร้องออกมา
“อย่า !”
ศิวะชะงักแล้วหันไปมองจันทรภานุ จันทรภานุจ้องหน้าศิวะอย่างเอาเรื่อง
“ถ้านายแตะต้องคุณดาวซ้ำอีกแค่ครั้งเดียว นายเห็นดีกับฉันแน่” จันทรภานุโกรธจัด
“อ๋อ อีดาว...ที่มึงเพ้อเจ้อมายาวเหยียด เพราะมึงรู้ใช่ไหมว่าไอ้จันทรภานุฟื้นแล้ว ฉลาดกันนัก อย่ามีลูกสืบพันธ์กันอีกเลย”
ศิวะเล็งปืนจะยิงจันทรภานุ จันทรภานุแก้เชือกที่เหลืออย่างเร็วแต่เหมือนเชือกจะยังไม่ยอมหลุด
ประกายดาวร้องห้าม “ศิวะอย่า !!”
ศิวะยิงปืนปัง เชือกที่มือจันทรภานุหลุดพอดีพร้อมๆ กับเสียงปังที่ดังขึ้น จันทรภานุกระโดดหลบกระสุนได้ทันอย่างเฉียดฉิว ประกายดาวร้องกรี๊ด
ศิวะหันไปจะยิงจันทรภานุ จันทรภานุลุกขึ้นมารวบปืนศิวะทำให้ร่างจันทรภานุโดนเป้าศิวะ ศิวะเจ็บปวดมากแต่ก็อดทนไม่ยอมปล่อยมือ ทั้งสองยื้อแย่งปืนกันไปมา
ประกายดาวเป็นห่วง “คุณชายระวังค่ะ”
จันทรภานุกับศิวะยื้อแย่งปืนกัน ทันใดนั้นเสียงปืนก็ดังปัง จันทรภานุกับศิวะสะดุ้งและตาเหลือก แต่ยังไม่รู้ว่าใครโดนยิง
“คุณชาย คุณชายเป็นอะไรไหมคะ คุณชาย !” ประกายดาวร้องถาม
ประกายดาวดิ้นจะไปหาจันทรภานุให้ได้ทำให้ล้มทั้งเก้าอี้ทั้งคน ประกายดาวเจ็บจากแรงกระแทกแล้วถึงเห็นว่าเลือดไหลออกมาจากท้องตนเอง ประกายดาวเริ่มเจ็บ จันทรภานุกับศิวะเห็นก็ตกใจ
“คุณดาว !”
จันทรภานุชกศิวะและเตะหลายครั้ง ครั้งสุดท้ายศิวะกระเด็นไปทางเสาทำให้เป้ากระแทกเสา ศิวะเจ็บมากจนทรุดล้มลงอย่างไม่มีแรง
จันทรภานุปราดเข้าไปหาประกายดาว
“คุณดาว ! คุณดาว !”
จันทรภานุเดินงุ่นง่านไปมาอย่างร้อนใจ มิลินทร์ จิตสุภางค์ และแดนดินก็นั่งอยู่หน้าห้องฉุกเฉินด้วย ทุกคนเป็นห่วงประกายดาว สุรีย์กับหญิงนิ่มวิ่งเข้ามา
“ชาย ! ชายเป็นอะไรไหมลูก”
“ผมปลอดภัยดีครับ” จันทรภานุตอบ
“ถ้าชายไม่เป็นอะไรแล้ว กลับวังกันเถอะนะ แม่กลัวมีนักข่าวมาเห็นชายเฝ้าผู้หญิงคนนั้นอยู่อย่างนี้ แล้วจะเอาไปเขียนข่าวเสียๆ หายๆ อีก”
แดนดินไม่พอใจ “กรุณาพูดถึงน้องสาวผมดีๆ หน่อยนะครับหม่อม อย่าลืมว่าน้องสาวผมอุตส่าห์เสี่ยงตายไปช่วยลูกชายหม่อม”
“ทำดีหวังผล” สุรีย์ว่า
แดนดินสวน “ผลอะไร”
“เป็นสะใภ้วังนพรัตน์”
“ทำไมครับ เป็นสะใภ้วังนพรัตน์แล้วจะบินได้ ดำดินได้ หรือว่าจะมีหูเพิ่มอีกข้าง”
สุรีย์โกรธ “นี่ !”
“หม่อมครับ เราสองคนพี่น้องเป็นคนธรรมดามีความสุขดีแล้วครับ ไม่เคยจะอยากเอายศฐาบรรดาศักดิ์มาให้เมื่อยคอ เดินไปไหนก็ต้องเชิดคอ เราพอใจในสิ่งที่เราเป็นแล้วครับ”
“งั้นก็อย่ามายุ่งกับลูกชายฉันสิ” สุรีย์บอก
จันทรภานุปราม “หม่อมแม่”
“ไม่เป็นไรครับคุณชาย ได้คุยกันตรงๆ ก็ดีเหมือนกัน หม่อมครับ...น้องสาวผมอาจจะเคยทำอะไรแปลกๆ ไปบ้าง แต่สิ่งที่มันทำเพราะมันอยากมีลูก ไม่ได้อยากเป็นสะใภ้วังนพรัตน์ แล้วดาวก็รักคุณจันทรภานุ ต่อให้คุณชายเป็นแค่ คุณจันทร์ นายจันทร์ หรือไอ้จันทร์ ดาวก็รัก”
มิลินทร์เสริม “ใช่ค่ะ ขนาดลินทร์บอกว่าให้ดาวโทรแจ้งตำรวจ รอให้ตำรวจไปช่วยคุณชาย ดาวก็ไม่ยอม เพราะกลัวว่าศิวะจะทำร้ายคุณชาย ดาวห่วงคุณชายมากกว่าห่วงตัวเองอีก”
“ถ้าเป็นไปได้ ผมอยากจะสั่งให้ดาวเลิกรักคุณชาย เราทุกคนจะได้สบายใจ แต่ตอนนี้ ผมโคตรจะแน่ใจว่าน้องสาวผมรักคุณชายมาก รักแบบที่ไม่เคยรักใครมาก่อน ผมอยากเห็นมันมีความสุข ถ้าวันนี้มันรอด ผมขอให้หม่อมเปิดใจกับน้องสาวผมได้ไหม ยอมให้มันได้พิสูจน์ตัวเองว่ามันจริงใจและรักคุณชายมากแค่ไหน แล้วถ้าวันหนึ่งมันทำให้หม่อมผิดหวัง ผมจะไปลากคอมันกลับมาตีให้ตายเอง” แดนดินพูดหนักแน่น
สุรีย์นิ่งไปแต่ยังไม่ทันจะตอบอะไร หมอก็ออกมาจากในห้อง
จันทรภานุเข้าไปถาม “หมอครับ คุณดาวเป็นยังไงบ้างครับ”
“ปลอดภัยดีแล้วครับ ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง”
ทุกคนดีใจ
“ผมเข้าไปหาคุณดาวได้ไหมครับ” จันทรภานุถาม
“ครับ”
จันทรภานุวิ่งเข้าไปในห้องทันที จิตสุภางค์กับมิลินทร์เดินตามเข้าไป สุรีย์ หญิงนิ่ม และแดนดินยืนมองอยู่หน้าห้อง
สุรีย์เห็นจันทรภานุกอดและจับมือประกายดาวด้วยความรักสุดหัวใจ
“ถ้าไม่เห็นแก่น้องสาวผม ก็เห็นแก่คุณชายเถอะครับ” แดนดินบอก
สุรีย์ยังนิ่งเฉยโดยอยากจะคาดเดาว่าเธอกำลังคิดอะไร

จันทรภานุปิดแฟ้ม เก็บของกำลังจะออกไปจากห้องทำงาน แต่สุรีย์เดินเข้ามา
“ชายจะไปไหน”
“ไปเยี่ยมคุณดาวครับ หม่อมแม่มีธุระอะไรกับผมหรือครับ”
“แม่ตัดสินใจแล้ว ชายต้องแต่งงาน ไม่งั้นเราตัดขาดกัน”
จันทรภานุไม่สบายใจ

วันต่อมา จันทรภานุประคองประกายดาวมานั่งที่ม้านั่งกลางสวน จันทรภานุประคบประหงมประกายดาว โดยจันทรภานุถือกล่องใส่ขนมคัพเค้กมาด้วย
“ค่อยๆ นั่งครับ เดี๋ยวสะเทือนแผล”
“ฉันหายดีแล้วค่ะ ถ้าไม่เชื่อให้ฉันไปเตะไอ้ศิวะในคุกให้ดูเลยก็ได้”
“อโหสิกรรมให้เขาเถอะครับ ตอนนี้เขาก็รับผลกรรมของเขาไปแล้ว”
“ค่ะ ว่าแต่คุณชายพาฉันมาที่นี่ทำไมคะ ทำไมไม่พากลับคอนโด”
จันทรภานุเครียด “ผมมีเรื่องสำคัญจะคุยกับคุณ แต่กินขนมก่อน เดี๋ยวค่อยคุยกัน” จันทรภานุพูดพร้อม
เปิดกล่องขนม
“ฉันก็สงสัยอยู่ว่าคุณชายถือกล่องอะไรมา”
“คุณบ่นตลอดว่าอยากกินขนมเค้ก ตอนนี้คุณหายแล้ว ผมก็ต้องรีบให้รางวัลสิ”
“ไม่ป้อนฉันเหรอคะ”
“ผมอยากให้คุณทานเอง”
ประกายดาวรับขนมคัพเค้กและช้อนมาตักกิน ประกายดาวชำเลืองมองจันทรภานุแล้วนึกถึงอดีต
เธอนึกถึงตอนที่เคยคุ้ยหาแหวนในเค้ก แต่ไม่เจอ
ประกายดาวอมยิ้มแล้วคิดในใจ
“นั่นแน่...คิดจะหลอกให้เราตายใจ ไม่คิดว่าจะใช้แผนนี้ขอเราแต่งงานใช่ม้า”
ประกายดาวตักเค้กกินและควานหาของในเค้กแต่ก็ไม่มีแหวน
จันทรภานุถาม “คุณหาอะไรครับ”
“ปะ...เปล่าค่ะ ฉันอิ่มแล้ว ตกลงคุณชายมีอะไรจะคุยกับฉันคะ”
จันทรภานุยังไม่ทันพูดอะไรต่อ ก็มีเสียงเด็กร้องไห้งอแง
“ฮือๆๆ”
ประกายดาวกับจันทรภานุหันไปก็เห็นเด็กกระโดดจะเอาลูกโป่งที่ลอยติดอยู่บนต้นไม้ ประกายดาวกับจันทรภานุลุกขึ้นไปหาเด็ก ประกายดาวย่อตัวลงไปโอ๋เด็ก
“โอ๋ๆๆ ไม่ต้องร้องนะคะ เดี๋ยวพี่เอาลูกโป่งให้”
จันทรภานุเอื้อมมือจับปลายเชือกลูกโป่ง ส่วนประกายดาวเล่นอยู่กับเด็ก จันทรภานุเดินเข้ามายื่นลูกโป่งให้ประกายดาว ประกายดาวรับแล้วพูดกับเด็ก
“ลูกโป่งมาแล้ว”
แต่จันทรภานุไม่ยอมปล่อยมือ ประกายดาวแปลกใจ เด็กน้อยวิ่งออกไป ประกายดาวมองตามแล้วเรียก
“น้องคะ”
ประกายดาวจะปล่อยมือจากเชือกลูกโป่ง แต่จันทรภานุใช้มืออีกข้างจับมือประกายดาวแล้วพลิกฝ่ามือประกายดาวให้หงาย
จันทรภานุเอ่ยถาม “พร้อมหรือยัง”
ประกายดาวงง “อะไรคะ”
จันทรภานุคลายมือข้างที่กำเชือกลูกโป่งออก แหวนที่สอดอยู่ในเชือกลูกโป่งไหลลงสู่ฝ่ามือ ประกายดาวอึ้ง
จันทรภานุพูด “แต่งงานกับผมนะ”
ประกายดาวพูดไม่ออกและจะร้องไห้
“ตกลงเถอะนะ ไม่งั้นหม่อมแม่จะตัดขาดกับผม”
ประกายดาวแปลกใจ

เหตุการณ์ในอดีตย้อนกลับมา
สุรีย์พูดกับจันทรภานุ
“แม่ตัดสินใจแล้ว ชายต้องแต่งงาน ไม่งั้นเราตัดขาดกัน”
จันทรภานุไม่สบายใจ
“หม่อมแม่ครับ...”
สุรีย์พูดขัดคอ “ชายต้องแต่งงานกับผู้หญิงคนนี้” สุรีย์ส่งมือถือให้จันทรภานุ
จันทรภานุรับมือถือไปดูก็เห็นว่ารูปในมือถือเป็นรูปของประกายดาว
สุรีย์ยิ้ม
“ถ้าเชื่อในการตัดสินใจของชาย ถ้าชายรักผู้หญิงคนนี้ แสดงว่าเธอดีพอที่แม่จะรักด้วย”
จันทรภานุกอดสุรีย์

ประกายดาวยิ้มทั้งน้ำตา
“ค่ะ ฉันจะแต่งงานกับคุณชาย”
จันทรภานุจับแหวนไว้แล้วปล่อยให้ลูกโป่งลอยไป เขาบรรจงใส่แหวนที่นิ้วนางข้างซ้ายของประกายดาว ประกายดาวโผกอดจันทรภานุ

ที่งานแต่งงานในสวนของประกายดาวกับจันทรภานุ บนเวทีมีตัวอักษร D&J รอบๆ ตกแต่งด้วยดอกกุหลาบสีขาว ที่มุมอาหาร เชาจกของกินเข้าปากแล้วเคี้ยวตุ้ยๆ จิตสุภางค์โผล่มาห้ามสามี โดยที่ลูกๆ ทั้งหมดของจิตสุภางค์ก็มาด้วย
“เฮียเชา ! เขาให้กินน้อยๆ เป็นมารยาท กินซะปอบลง ใครเห็นเข้าเขาจะหาว่าเมียไม่สั่งสอน” จิตสุภางค์ว่า
“ก็มันอร่อยนี่ ของโปรดผมทั้งนั้น” เชาบอก
“ชอบเหรอ งั้นเอาใส่ถุงเก็บไปกินที่บ้าน” จิตสุภางค์ดึงถุงพลาสติกออกจากกระเป๋า
“ไม่มีใครน่ารักเหมือนเมียผมอีกแล้ว เดี๋ยวคืนนี้ให้รางวัล ไม่ต้องป้องกันด้วย เราจะได้มีน้องให้ไอ้ตัวเล็กอีก”
“มีลูกอีก !”
บรรดาลูกๆ ยั้วเยี้ยของจิตสุภางค์เกาะเป็นลิงเป็นค่าง จิตสุภางค์โมโหจึงเอาถุงพลาสติกยัดปากเชา
“ไอ้บ้า ! พูดออกมาได้ว่าจะมีลูกเพิ่ม แค่คิดก็ขนลุกแล้ว”
จิตสุภางค์จูงลูกเดินหนีไป เชางงแต่ก็วิ่งตามไปง้อเมีย
อภิเชษฐ์ที่ยืนอยู่ในงานมองไปด้านหนึ่งก็เห็นต้นอ้อใส่ชุดราตรีสั้น แต่งหน้าแต่งตา ทำผมเป๊ะเดินเข้ามาในงาน อภิเชษฐ์ตะลึงและไม่อาจละสายตาได้ แต่จู่ๆ ต้นอ้อที่สวมรองเท้าส้นสูงก็เท้าพลิก ต้นอ้อล้มลง
อภิเชษฐ์ตกใจ “หมวด !”
อภิเชษฐ์ปราดเข้าไปหาและหัวเราะ
ต้นอ้อโกรธ “ขำมากไหมคะผู้กอง”
ต้นอ้อลุกขึ้นแต่ก็ลุกไม่ไหวเพราะเจ็บข้อเท้า
“ไม่ขำแล้วก็ได้” อภิเชษฐ์บอก
จู่ๆ อภิเชษฐ์ก็ช้อนตัวต้นอ้อแล้วเดินออกไป ต้นอ้อเหวอ

อภิเชษฐ์อุ้มต้นอ้อมานั่ง
“ผู้กองปล่อยฉันได้แล้ว อายเขา”
อภิเชษฐ์วางต้นอ้อลง ต้นอ้อถอดรองเท้าส้นสูงแล้วก็ร้องซีดเพราะเจ็บ
“ไม่น่าหาเรื่องเลย” ต้นอ้อบอก
“รู้หรือยังว่าหมวดไม่ได้เกิดมาเพื่อสวย”
“ใช่ซี ผู้กองถึงไม่เคยมองฉัน”
“ยอมรับแล้วเหรอว่าชอบผม”
ต้นอ้ออึกอัก “เอ่อ...”
“ยอมรับมาเถอะ ผมจะได้ยอมรับบ้างว่าผมก็ชอบหมวด”
ต้นอ้ออึ้ง “ไม่ตลกนะผู้กอง”
“ก็ไม่ตลกน่ะสิ ผมชอบหมวดมานานแล้วด้วย แต่ผมไม่กล้าบอก กลัวแห้ว”
“แล้วมาบอกอะไรตอนนี้”
“หมวดสวยขนาดนี้ ใครจะอดทนใจไหว”
ต้นอ้อเขิน อภิเชษฐ์ยิ้ม
วงดนตรีเครื่องสายที่มีทั้งไวโอลีนและเชลโล่เริ่มบรรเลง แขกนั่งประจำที่ สุรีย์นั่งข้างหน้า จันทรภานุยืนอยู่หน้าสุดคู่กับบาทหลวง จันทรภานุมองไปที่ทางเดินด้วยสีหน้าตกตะลึง
จันทรภานุเห็นประกายดาวในชุดเจ้าสาวสวยพริ้งค่อยๆ เดินเข้ามาในงาน แขกทุกคนยิ้มปลื้มใจกับประกายดาว โดยเฉพาะมิลินทร์และจิตสุภางค์ที่ร้องไห้กระซิกๆ เพราะดีใจกับเพื่อน
ประกายดาวเดินเข้าไปหาแดนดินที่คอยอยู่กลางทางเดิน ประกายดาวเห็นหน้าแดนดินก็น้ำตาเอ่อจะร้องไห้ แดนดินกอดน้องสาวแล้วก็จะร้องไห้เหมือนกัน
“แกสวยมาก สมแล้วที่เป็นน้องสาวฉัน”
ประกายดาวหัวเราะทั้งน้ำตา แดนดินจูงมือพาประกายดาวไปส่งให้จันทรภานุ จันทรภานุจับมือประกายดาว ทั้งสองยืนจ้องหน้ากัน พงศ์จันทรกับหญิงนิ่มยืนคู่กัน พงศ์จันทรกระซิบถามหญิงนิ่ม
“ทำยังไงคุณถึงจะยอมแต่งงานกับผม”
“พิสูจน์สิว่ารักฉันจริง” หญิงนิ่มบอก
พงศ์จันทรสะกิดสุรีย์แล้วพูด
“หม่อมสุรีย์ครับ...ผมรักหญิงนิ่ม นมพรครับ...ผมรักหญิงนิ่ม”
พงศ์จันทรเริ่มบอกคนที่อยู่รอบๆ หญิงนิ่มรีบห้าม
“พอแล้ว ฉันเชื่อแล้ว แต่ยังไม่แต่งนะ ขอดูไปก่อน”
“ไม่เป็นไรครับ นานแค่ไหนผมก็รอได้”
หญิงนิ่มเขิน จันทรภานุสวมแหวนให้ประกายดาวเสร็จก็บรรจงจูบประกายดาวแผ่วเบา
ประกายดาวคิดในใจ “เฮ้อ...จะมีใครน่าอิจฉาไปกว่าประกายดาวอีกน้า...มีทั้งงานที่ดี ชีวิตที่สนุก มีสามีที่เฟอร์เฟ็คที่สุดในโลก !”
จิตสุภางค์ที่นั่งอยู่ในงานหันหน้ามาพูด
“ผัวฉันก็เฟอร์เฟ็คย่ะ”
เชาที่อยู่ข้างหลังกำลังแอบกินขนมในถุงอย่างมูมมาม
ประกายดาวคิดในใจต่อ “สามีใครใครก็รัก อะๆ เอาใหม่ก็ได้..สามีฉันเฟอร์เฟ็คที่สุดในสายตาของฉัน เพราะเขารักฉันมาก”

จันทรภานุจูบมือประกายดาวต่อหน้าแขกในงาน
“ประกายดาวคิดต่อ “แล้วเขาคนนี้แหละค่ะที่จะทำให้ฉันสมบูรณ์แบบ เขาจะให้สิ่งที่ฉันรอคอยมาตลอด อ้าย! ตื่นเต้น”

กลีบกุหลาบวางบนเป็นรูปหัวใจอยู่บนเตียงนอน จันทรภานุในชุดแต่งงานถอดพวงมาลัยคล้องคอวางบนโต๊ะ
“คุณดาว ทำไมเข้าห้องน้ำนานจัง เป็นอะไรหรือเปล่า”
ประกายดาวในชุดเจ้าสาวยืนพิงประตูห้องน้ำด้วยความตื่นเต้นมาก
“มะ..ไม่เป็นค่ะ ชุดมันรุ่มร่ามก็เลยทำอะไรไม่ค่อยสะดวก”
“ให้ผมช่วยถอดไหม” จันทรภานุถาม
ประกายดาวรีบบอก “ไม่เป็นไร ! ฉันถอดเองได้ค่ะ”
จันทรภานุยิ้มเพราะเริ่มรู้แล้วว่าประกายดาวเป็นอะไร
“งั้นก็ออกมาเร็วๆ นะ ผมรออยู่”
ประกายดาวหน้าแดงวาบ เธอยืนทำใจ
“อย่าไปกลัวสิประกายดาว ถึงเวลาที่เหมาะสมแล้ว ต้องเข้มแข็ง ต้องสู้เพื่อลูก สู้ๆ”
ประกายดาวสูดลมหายใจเข้าเต็มปอด แล้วเดินออกไปจากห้อง

ประกายดาวเดินออกมาแต่ไม่เห็นจันทรภานุ
“คุณชายคะ คุณชาย อ้าว..หายไปไหน”
จันทรภานุโผล่มาสวมกอดประกายดาวทางด้านหลัง ประกายดาวตกใจจนล้มหงายลงบนเตียง จันทรภานุลงไปนอนคร่อมร่างประกายดาว ประกายดาวตื่นเต้นมาก
“เขินเหรอ”
“คุณชายคะ ฉันอาบน้ำก่อนดีกว่า”
ประกายดาวดันตัวเองลุกขึ้น จันทรภานุดึงตัวมากอด
“ผมอาบด้วย งั้นไม่ให้ไป”
ประกายดาวเขิน “คุณชายน่ะ...”
“ดาว...คุณอยากมีลูกผู้หญิงหรือผู้ชาย”
ประกายดาวตื่นเต้น “คุณชายสั่งได้เหรอคะ”
“สั่งไม่ได้ แต่สัญญาว่าจะมีลูกกับคุณจนครบทั้งชายหญิง เอาสักสิบสองคนดีไหม หญิงหกชายหก ให้พวกเขาออกมาเป็นพยานรักของเรา ว่าผมรักคุณมากแค่ไหน”
จันทรภานุเชยคางประกายดาวขึ้นมาแล้วบรรจงจุมพิตลงบนฝีปากของเธออย่างแผ่วเบา ประกายดาวหลับตาพริ้ม
จันทรภานุถอนปากออกแล้วมองตาประกายดาวอย่างจริงใจ
“ถึงเวลาแล้วที่คุณต้องรู้”
“รู้อะไรคะ”
“รู้ว่ามีลูกด้วยวิธีไหน...ดีที่สุด”
ประกายดาวหน้าแดงวาบ จันทรภานุโน้มตัวไปจูบประกายดาว ทั้งสองล้มตัวลงไปบนเตียง
หลายวันต่อมา จันทรภานุกับประกายดาวไปปีนหน้าผาด้วยกัน
“ประกายดาวคิดในใจ “อูย...ไม่อยากจะเซด มันดีจริงๆ ด้วยค่ะคุณขา คิดอะไรกันคะ...ฉันหมายถึงความรักของฉันกับคุณจันทรภานุค่ะที่ดีมาก แล้วมันก็เพิ่มขึ้นทุกวัน ...ทุกวัน”

วันต่อมา เครื่องตรวจครรภ์ในมือประกายดาวขึ้นสองขีด ประกายดาวดีใจจนน้ำตารื้น
“ประกายดาวคิด “เวลาผ่านไปไม่ถึงสามเดือน สเปิร์มของคุณจันทรภานุก็แสดงศักยภาพอันยิ่งใหญ่ ฉันท้องค่ะ”

จันทรภานุอ้วกพุ่งใส่ถังขยะเล็กๆ เพราะแพ้ท้องแทนเมีย หน้าตาของเขาสโลสเลเพราะอาเจียนหนักมาก ประกายดาวลูบหลังให้จันทรภานุด้วยความสงสาร จันทรภานุยิ้มแล้วนอนหนุนตักประกายดาว เขาเอาหน้าแนบกับท้องของประกายดาวแล้วเล่นกับลูก ประกายดาวมีความสุขมาก

หลายเดือนผ่านไป ประกายดาวลูกที่เป็นทารก จันทรภานุเล่นกับลูกด้วย
“ประกายดาวคิดในใจ “นี่ไงคะ ผลิตผลของฉันกับคุณจันทรภานุ น่ารักที่สุดในโลกเลย อุ้ย! ลืมอวด ฉันตั้งชื่อลูกว่าจันทร์เหมือนคุณพ่อเขาค่ะ ถึงจะมีคนคัดค้าน เพราะกลัวงง แต่อย่าคิดว่าจะห้ามฉันได้ ก็แหม..ความสุขของดาวดวงน้อยอย่างฉันคือได้ครอบครองพระจันทร์สองดวงนี่คะ ตั้งแต่นี้ไปฉันมอบชีวิตและความรักให้กับพวกเขา ตอบแทนที่พวกเขาทำให้ชีวิตของฉันสมบูรณ์แบบ”
ประกายดาวมองจันทรภานุที่กำลังเล่นกับลูกอย่างซึ้งใจจนน้ำตาไหล จันทรภานุเงยหน้าขึ้นมาเห็นประกายดาวร้องไห้ก็ยกมือปาดน้ำตาให้และจูบหน้าผากเธออย่างแผ่วเบา
ประกายดาวคิดต่อ “อุต๊ะ ! ลืมบอกไปอีกอย่างค่ะ ลูกของฉันแข็งแรงมาก พัฒนาการดีเยี่ยม ทำท่าจะพูดได้ตั้งแต่ยังไม่ถึงขวบ ดังนั้นประกายดาวสาวล่าสเปิร์มขอการันตีไว้ตรงนี้เลยว่า...สเปิร์มของคุณจันทรภานุเป๊ะเว่อร์”
ประกายดาวหลับตาพริ้มอย่างมีความสุขก่อนจะหันหน้ามายิ้มแล้วกระพริบตา..ปิ๊ง..ปิ๊ง..!

*******อวสาน*******

อ่านละคร ดาวเกี้ยวเดือน ตอนอวสาน(3) วันที่ 28 ก.ย. 56

ละครดาวเกี้ยวเดือน บทประพันธ์โดย : รอมแพง
ละครดาวเกี้ยวเดือน บทโทรทัศน์โดย : ปณธี - สุธิสา วงษ์อยู่
ละครดาวเกี้ยวเดือน กำกับการแสดงโดย : ธรธร สิริพันธ์วราภรณ์
ละครดาวเกี้ยวเดือน ผลิตโดย : บริษัท บรอดคาซท์ ไทยเทเลวิชั่น จำกัด
ละครดาวเกี้ยวเดือน ดำเนินงานโดย : อรุโณชา ภาณุพันธ์
ละครดาวเกี้ยวเดือน ออกอากาศทุกวันพุธ - พฤหัสบดี เวลา 20.25 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3