@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร ดาวเกี้ยวเดือน ตอนอวสาน(2) วันที่ 28 ก.ย. 56

อ่านละคร ดาวเกี้ยวเดือน ตอนอวสาน(2) วันที่ 28 ก.ย. 56

“เปล่าค่ะ ที่ดาวมาวันนี้ ดาวจะมาบอกว่า เรื่องที่ดาวเคยพูดว่าดาวอยากมีลูกแต่ไม่อยากมีสามี ดาวไม่เชื่อเรื่องชีวิตคู่ ดาวเปลี่ยนความคิดไปนานแล้ว” ประกายดาวบอก
“แต่คุณดาวเคยให้สัมภาษณ์ไว้แบบนั้น”
“ถ้าได้ดูคำให้สัมภาษณ์ดาวตั้งแต่ต้นจนจบ ไม่ใช่ดูเฉพาะส่วนที่ตัดต่อมาครึ่งๆ กลางๆ ทุกคนก็จะรู้ว่านั่นคือสิ่งที่ดาวเคยคิดมาก่อนที่ดาวจะรู้จักผู้ชายคนหนึ่ง เขาคนนั้นทำให้ความคิดของดาวเปลี่ยนไป เพราะสอนให้ดาวรู้จักความรักที่แท้จริง สอนให้ดาวรู้จักคุณค่าของชีวิตที่เกิดมาสมบูรณ์แบบ”

“สมบูรณ์แบบ โอ๊ะโอ...พูดถึงเขาคนนั้นชิมิคะ” แอนตี้ถาม
ประกายดาวไม่ตอบ
จันทรภานุตั้งใจฟัง
ประกายดาวพูดต่อ “คำว่าสมบูรณ์แบบไม่ใช่เรื่องของรูปร่างหน้าตา เงินทอง เปลือกภายนอก แต่สมบูรณ์ แบบในแง่ความรักจากครอบครัว มันจะดีจริงหรือคะ ถ้าคุณเกิดมาหล่อเป๊ะเหมือนอั้มอธิชาติ สวยเซี้ยะเหมือนเจนนี่เทียนโพธิ์สุวรรณ ฉลาดเป็นกรดเหมือนสตีฟจ๊อบ แข็งแรงบึกบึนเหมือนบัวขาว แต่คุณไม่เคยรู้ว่าคุณเกิดมาจากใคร แล้วเด็กจะคิดยังไง ถ้ารู้ว่าเขาเกิดมาจากการสเปิร์มที่แม่ไปวิ่งล่ามาไม่ได้เกิดจากความรักของพ่อแม่เหมือนเด็กคนอื่น ดาวอุปถัมภ์เด็กกำพร้าหลายคน พวกเขาสอนให้ดาวรู้ว่า ถ้าเลือกเกิดได้ พวกเขาขอเกิดมีพ่อแม่ ไม่ได้มีใครอยากเกิดมาเป็นเด็กกำพร้า แต่พวกเขาเลือกเกิดไม่ได้”


“แต่ถ้าแต่งงาน ต้องหย่าร้าง กลายเป็นแม่ม่ายผัวหย่า มันเจ็บปวดนะคะ” แอนตี้บอก
“เกิดมาเป็นเด็กไม่มีพ่อ เจ็บปวดกว่าค่ะ เราในฐานะพ่อแม่สามารถเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกได้ จงทำเถอะค่ะ ถ้าคุณคิดว่ารักเขาอย่าหยิบยื่นความขาดให้ลูกของคุณเลย”
“แสดงว่าตอนนี้คุณดาวตัดสินใจที่จะไม่ล่าสเปิร์ม แต่จะเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกของคุณดาว”
“ค่ะ ลูกของดาวจะต้องเกิดจากความรักของดาวกับคนที่ดาวรักและรักดาวเท่านั้น”
แอนตี้ถามต่อ “ตอนนี้คุณดาวเจอเขาคนนั้นแล้วใช่ไหมคะ”
ประกายดาวเศร้า
“ค่ะ ดาว "เคย" เจอเขาแล้วค่ะ ดาวถึงอยากขอให้ทุกคนเชื่อดาว อย่าไปล่าสเปิร์มของใครเลย เพราะวันหนึ่งคุณอาจจะเผลอรักเขาขึ้นมา แล้ววันนั้นคุณจะเป็นคนที่เสียใจมากที่สุด”

จันทรภานุเริ่มใจอ่อน
“ถามใจตัวเองดีๆ นะชาย แกจะปล่อยให้ผู้หญิงคนนี้ออกไปจากชีวิตแกจริงๆ เหรอ” อภิเชษฐ์ว่า
“ถ้าฉันทำอย่างงั้น ฉันคงโง่มาก”
จันทรภานุเริ่มยิ้มออก

แอนตี้พูดต่อ “ถ้างั้นข่าวเม้าท์ที่ว่าคุณดาวเตรียมจะบินไปล่าสเปิร์มของหนุ่มตาน้ำข้าวก็ไม่จริงสิคะ”
“ไม่จริงค่ะ ดาวจะบินไปเที่ยวพักผ่อน”
“ไปเมื่อไหร่คะ”
“เร็วๆ นี้ค่ะ”

จันทรภานุ อภิเชษฐ์ และต้นอ้อตกใจ
“มัวช้าอะไรอยู่ล่ะเพื่อน ไปโลด” อภิเชษฐ์บอก
จันทรภานุยิ้มแล้วรีบลุกออกไป

มิลินทร์นั่งดูประกายดาวอัดรายการ สักพักมือถือของประกายดาวก็สั่นที่หน้าจอขึ้นว่า "จันทรภานุ" มิลินทร์เห็นก็ตื่นเต้น
“คุณชาย !” มิลินทร์รับสาย “ค่ะคุณชาย ดาวยังอัดรายการอยู่ คุณชายมีธุระอะไรกับดาวหรือคะ”

จันทรภานุวางสายขณะเดินฉับๆ ไปที่รถ อภิเชษฐ์กับต้นอ้อเดินตามมา
อภิเชษฐ์ถาม “ว่าไงบ้าง”
“คุณดาวบินสี่โมงเย็น” จันทรภานุบอก
“อีกสองชั่วโมง แสดงว่าคุณดาวถ่ายรายการเสร็จปุบก็ต้องรีบไปสนามบินทันที งั้นซิ่งไปเลยเพื่อน”
“ตอนนี้รถติดไม่ขยับ รถคุณชายซิ่งไม่ทันหรอกค่ะ” ต้นอ้อบอก
อภิเชษฐ์กับจันทรภานุแปลกใจ

จันทรภานุใส่หมวกกันน็อคนั่งซ้อนมอเตอร์ไซด์ด้วยท่าทางเก้ๆ กังๆ เพราะไม่เคยนั่งมอเตอร์ไซต์วินมาก่อนเลย
“ตกลงจะให้พาไปไหน” คนขี่ถาม
จันทรภานุยังไม่ตอบแต่เขาใช้เสิร์ชหาตำแหน่งที่อยู่ของห้องอัดรายการ หน้าจอมือถือพิมพ์ในหน้ากูเกิ้ลว่า "แผนที่ ห้องอัด รายการผู้หญิงถึงผู้ชาย" จันทรภานุดูแล้วบอก
“ไปเหม่งจ๋ายครับ”
มอเตอร์ไซต์เร่งคันเร่ง จันทรภานุแทบหงายหลัง

ต้นอ้อกำลังเดินเข้าร้าน อภิเชษฐ์เดินตามมาขวางหน้า
“เดี๋ยวหมวด”
“คะ ?”
“หมวดมีเรื่องกลุ้มใจหรือเปล่า บอกผมได้นะ หมวดเป็นลูกน้องผม ถ้าผมพอจะช่วยอะไรได้ ผมก็จะช่วย”
ต้นอ้อจ้องหน้าอภิเชษฐ์แล้วตัดสินใจพูด
“ฉันแอบชอบผู้ชายคนหนึ่งค่ะ”
“ว่าแล้ว ! ถึงว่าชอบนั่งยิ้มคนเดียว ว่าแต่ใครคือผู้โชคร้ายคนนั้น ?”
ต้นอ้อเชิดหน้า
“ผมล้อเล่น หมวดชอบใครล่ะ บอกผมสิ เดี๋ยวผมช่วยชงให้หมวดสมหวังกับเขา”
ต้นอ้อเซ็ง
“วันหลังอย่าไปคุยอวดใครอีกนะคะว่ามีสายตาแหลมคม เพราะขนาดฉันอยู่ใกล้ผู้กองทุกวัน ผู้กองยังไม่รู้เลยว่าฉันชอบใคร” ต้นอ้อเดินออกไป
อภิเชษฐ์มองตามแล้วคลี่ยิ้ม
“เมื่อไหร่จะเลิกปากแข็งสักที ผมใจจะขาดอยู่แล้ว”

มอเตอร์ไซด์แล่นมาจอด จันทรภานุกอดเอวคนขี่แน่น โดยที่สภาพของจันทรภานุทั้งมอมแมม หัวฟู ชายเสื้อหลุดจากเอวไม่เหลือมาดคุณชายเลย จันทรภานุลงจากรถ ถอดหมวกกันน็อคแล้วล้วงกระเป๋าเงิน
“เท่าไหร่ครับ” จันทรภานุถาม
“เจ็ดสิบ”
จันทรภานุเปิดกระเป๋าตังค์ก็เห็นว่ามีแต่บัตรเครดิตและแบงค์พัน จันทรภานุหยิบแบงค์พันส่งให้วินมอเตอร์ไซค์
“ไม่ต้องทอนครับ”
จันทรภานุวิ่งเข้าไปข้างใน คนขี่มอเตอร์ไซต์จูบแบงค์พันด้วยความดีใจ
จันทรภานุวิ่งเข้ามาในห้องสตูดิโอแล้วหอบแฮ่กๆ จิตสุภางค์กับมิลินทร์หันไปเห็นจันทรภานุ
“คุณจันทรภานุ ! ไปฟัดกับใครมาวะ”
“คุณจันทรภานุมาจริงๆ ด้วย”
“แกรู้ได้ไงว่าคุณชายจะมา”
“คุณชายโทรมาหาไอ้ดาวถามเรื่องดาวไปเมืองนอก ฉันก็เลยโกหกว่าไอ้ดาวจะไปเย็นนี้ แต่ความจริงแล้วมันไปพรุ่งนี้ คิคิๆๆ”
จันทรภานุเดินเข้ามาหาสองสาว
“สวัสดีค่ะคุณจันทรภานุ มาหาไอ้ดาวเหรอคะ”
“ครับ” จันทรภานุตอบ “ผมมีเรื่องต้องปรับความเข้าใจกับคุณดาว”
จิตสุภางค์กับมิลินทร์มองหน้าอย่างรู้กันว่ามีข่าวดีแน่ๆ มิลินทร์หันไปหาโปรดิวเซอร์แล้วกระซิบบอกอะไรบางอย่าง โปรดิวเซอร์พยักหน้ารับอย่างชอบใจแล้วเขียนบนกระดาษ

แอนตี้กับประกายดาวยืนคู่กัน แอนตี้กำลังพูดปิดรายการ
“ต้องขอบคุณคุณดาวมากนะคะที่วันนี้ให้เกียรติมาออกรายการ "ผู้หญิงถึงผู้ชาย"
แอนตี้อ่านป้ายที่โปรดิวเซอร์ถือซึ่งเขียนว่า "เซอร์ไพร้ส" โปรดิวเซอร์ชี้ไปที่จันทรภานุ แอนตี้ยิ้มเพราะเก็ททันที
“ท้ายรายการนี้นะคะ แอนตี้มีแขกรับเชิญพิเศษที่จะมาช่วยคุณประกายดาวคอนเฟิร์มว่ามีความรักดีแค่ไหน ขอเชิญพบกับคุณจันทรภานุ”
ประกายดาวตกใจ “คุณชาย...”
“ขอเชิญขึ้นมาเวทีเลยค่ะคุณชาย”
จันทรภานุอึ้งและละล้าละลังไม่กล้าขึ้น
จิตสุภางค์กับมิลินทร์พร้อมใจกันผลักจันทรภานุขึ้นไปบนเวที จิตสุภางค์ขยับปากบอกแอนตี้แบบไม่มีเสียง
แอนตี้พูด “โอ๊ะโอ...คุณจันทรภานุมาดเนี้ยบหายไปไหนคะเนี่ย”
“ผมก็เป็นแค่ผู้ชายธรรมดาๆ คนหนึ่ง ที่บังเอิญถูกสอนมาให้รู้จักดูแลตัวเองให้เรียบร้อย แต่ตัวตนของผมไม่ได้เรียบร้อย ไม่ได้เฟอร์เฟ็คอย่างที่ใครคิด” จันทรภานุมองประกายดาว “ผมเอาแต่ใจ เผด็จการ ชอบนอนละเมอตกเตียง มีปัญหาสุขภาพ เพราะเคยไม่ยอมกินผักซะท้องผูกลำไส้มีปัญหา ทุกวันนี้ยังต้องหาหมอทุกๆสามเดือน คุณรู้อย่างนี้แล้ว คุณยังจะอยากมีลูกกับผมอยู่ไหม”
“ต่อให้คุณชายเฟอร์เฟ็คแค่ไหน แต่ถ้าเราไม่ได้รัก มันก็ไม่มีความหมายค่ะ” ประกายดาวบอก
“ผมรักคุณ เรากลับมารักกันเหมือนเดิมได้ไหม”
ประกายดาวอึ้ง คนในห้องส่งส่งเสียงฮือฮา
“แต่คุณจะแน่ใจได้ยังไง ว่าคุณจะให้อภัยฉันจริงๆ” ประกายดาวถาม
“เรื่องที่ผ่านมา ผมจะไม่ลืม แต่ผมจะมองมันในแง่ดีว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้น มันทำให้เราได้รู้จักกัน ทำให้เราได้รักกัน ส่วนเรื่องที่ผมเคยทำไม่ดีกับคุณ ผมขอให้คุณลืม แล้วจำเอาไว้อย่างเดียวว่า...ชีวิตผมขาดคุณไม่ได้”
ทุกคนที่อยู่ในรายการปรบมือ

ภาพความรักหวานชื่นของประกายดาวและจันทรภานุฉายอยู่ในจอทีวี ศิวะที่นอนดูทีวีอยู่กำลังโกรธแค้นมาก
เขานึกถึงตอนที่ประกายดาวแฉให้อรอุมาฟัง
“รู้ตัวบ้างไหมอรอุมา เธอกำลังถูกไอ้ผู้ชายเฮงซวยคนนี้ใช้ความรักที่เธอมีให้เอามาปิดหูปิดตาเธอ เธอถึงทำเรื่องเลวร้ายสร้างเวรสร้างกรรมไว้กับเพื่อนรักของเธอเอง”
เขานึกถึงตอนที่อรอุมากำลังจะยิงเป้าของเขา
“คุณไม่เคยรักฉันอย่างที่ประกายดาวพูดจริงๆ”
อรอุมายิงเป้าศิวะดังเปรี้ยง !

ศิวะปาแก้วใส่กำแพงจนแตก แต่เขาออกแรงมากไปทำให้แผลที่เป้าสะเทือน
“โอ๊ย !”
ศิวะงอตัวด้วยความเจ็บมากซึ่งก็ยิ่งทำให้ศิวะแค้นประกายดาวมากขึ้น
“อีดาว ถ้ากูไม่มีความสุข มึงก็ต้องไม่มี !”

ประกายดาวไหว้หม่อมสุรีย์ แต่สุรีย์เมินไม่ยอมรับไหว้ จันทรภานุนั่งข้างประกายดาว
จันทรภานุปราม “หม่อมแม่คะ”
“แม่เป็นคนจริงใจน่ะชาย ถ้าแม่ไม่อยากรับไหว้ใคร แม่ก็ไม่รับ” สุรีย์บอก
“หม่อมคะ ดาวจะไม่ขอโทษกับสิ่งที่ผ่านมา เพราะดาวกลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว แต่ดาวขอโอกาสให้ดาวได้แก้ตัว ดาวสัญญาค่ะ ว่าปัจจุบันและในอนาคต ดาวจะไม่ทำให้ทุกคนผิดหวังในตัวดาวอีก”
ประกายดาวมองสุรีย์
“นมพร” สุรีย์เรียก “ช่วยไปหยิบพวงมาลัยที่ฉันร้อยไว้มาให้ที ฉันจะไหว้พระ”
สุรีย์ลุกออกไปทันที ประกายดาวจ๋อย จันทรภานุกุมมือประกายดาวเพื่อปลอบใจ

สุรีย์กำลังเดินขึ้นห้อง จันทรภานุเดินตามมา
“หม่อมแม่ครับ...”
“ชายไม่ต้องพูดอะไรแทนผู้หญิงคนนั้นอีก ชายอยากจะรักก็รักไป แต่แม่ไม่รัก แม่รักคนไม่จริงใจไม่ลงจริงๆ อย่าบังคับใจแม่อีกเลย” สุรีย์เดินขึ้นห้องไป
จันทรภานุมองตามอย่างเหนื่อยใจ
ประกายดาวนั่งซึมอยู่ในห้อง จันทรภานุเดินเข้ามายื่นแก้วน้ำส้มให้เธอ
“อดทนไว้นะ สักวันหม่อมแม่จะต้องรักคุณเหมือนที่ผมรัก”
“ฉันไม่เคยคิดเลยว่าชีวิตฉันจะต้องมาปัญหาแม่ผัวลูกสะใภ้เหมือนในละคร”
“หม่อมแม่น่ารัก”
“หือ...อย่างอนสิคะ ฉันไม่ได้ว่าหม่อมสุรีย์ร้ายกาจเหมือนในละครสักหน่อย ฉันเข้าใจค่ะว่าทำไมหม่อมสุรีย์ถึงยังไม่ชอบฉัน ถ้าฉันมีลูกอย่างคุณชาย ฉันก็คงหวงมากๆ เหมือนกัน แต่ไม่ต้องห่วงนะคะ ฉันรักคุณชาย ฉันจะทำเพื่อคุณ ฉันจะทำให้หม่อมสุรีย์รักฉัน”
จันทรภานุยิ้ม
“ด้วยการดีดน้ำมันพรายใส่” ประกายดาวบอก
จันทรภานุหุบยิ้ม ประกายดาวสวมกอดแบบอ้อนๆ
“โอ๋ๆ ฉันล้อเล่นค่ะ ฉันจะรักคุณชายมากๆ สักวันหม่อมสุรีย์จะได้แน่ใจว่าฉันรักคุณชายม้ากมาก ฉันไปอาบน้ำก่อนนะคะ”
ประกายดาวจะลุกขึ้น แต่จันทรภานุดึงแขนประกายดาวให้เธอมานั่งบนตัก
“ง้อแค่เนี่ย ? ผมยังไม่หายงอนเลยนะ ง้อผมอีกสิ ผมชอบเวลาคุณง้อ คุณน่ารักเหมือนลูกแมว”
ประกายดาวเขิน “ไม่เอาหรอกค่ะ ง้อมากๆ เคยตัว”
“ง้อเถอะนะ ถ้าผมไม่อยู่ให้ง้อ แล้วจะเสียใจ”
“ไม่เอา อย่าพูดแบบนี้อีก คุณชายห้ามไปไหน ต้องอยู่กับฉัน”
“ผมอยู่กับคุณเสมอประกายดาว”
จันทรภานุหอมแก้มประกายดาว ประกายดาวหลับตาพริ้ม จันทรภานุเคลื่อนหน้ามาจูบประกายดาวอย่างแผ่วเบา ประกายดาวรู้สึกตัวเบาหวิวเหมือนจะลอยได้ เธอจึงต้องยกแขนรวบโอบคอจันทรภานุเอาไว้ มือจันทรภานุเคลื่อนไหวอยู่บนแผ่นหลังของประกายดาว
ทั้งคู่กำลังจูบกันอย่างดื่มด่ำ แต่จังหวะที่ประกายดาวลืมตา เธอก็เหลือบขึ้นไปเห็นรูปเตี่ยกับม้าบนฝาผนังพอดี ตาของเตี่ยกับม้าเหมือนกำลังจ้องประกายดาวกับจันทรภานุ ประกายดาวสะดุ้งโหยงแล้วรีบลุกขึ้นจากตักของจันทรภานุ
“เอ่อ... คุณชายกลับไปได้แล้วค่ะ ฉันง่วง...หง่าว” ประกายดาวแกล้งหาวปากกว้าง
จันทรภานุอมยิ้มเพราะรู้ว่าประกายดาวเป็นอะไร
“ผมกลับก็ได้” จันทรภานุเดินไปหยุดหน้ารูปเตี่ยกับม้า “ผมขอโทษนะครับ ที่ล่วงเกินคุณดาวไปนิด ก็ลูกสาวคุณพ่อคุณแม่น่ารักเหลือเกิน ผมอดใจไม่ไหวจริงๆ แต่ไม่ต้องห่วงนะครับ เราจะไม่มีอะไรกันมากไปกว่านี้ จนกว่าเราจะแต่งงานกัน”
ประกายดาวทั้งเขินทั้งขำ “คุณชายน่ะ กลับไปได้แล้วค่ะ”
ประกายดาวดึงแขนจันทรภานุให้ออกไปจากห้อง

จันทรภานุขึ้นรถแล้วขับออกไป ใครบางคนที่แอบอยู่บริเวณหน้าคอนโดมองตามรถจันทรภานุไป

จันทรภานุขับรถ เขามองไปข้างหน้าก็เห็นร่างคนนอนอยู่บนพื้น จันทรภานุจอดรถแล้วรีบลงไปดูถึงเห็นว่าเป็นคนนอนคว่ำหน้าโดยมีผ้าคลุมท่อนบนอยู่
“คุณ คุณครับ”
คนนั้นไม่ขยับ จันทรภานุตัดสินใจค่อยๆ ดึงผ้าคลุมออกก็พบว่ามันเป็นแค่หุ่น ! จันทรภานุแปลกใจ ทันใดนั้นเขาก็ถูกท่อนไม้ฟาดเข้าที่ท้ายทอยอย่างแรง จันทรภานุทรุดฮวบแล้วสลบเหมือดทันที ศิวะยืนถือท่อนไม้และแสยะยิ้มร้าย

ประกายดาวปิดโคมไฟกำลังจะเข้านอน มือถือของเธอมีสายของจันทรภานุโทรเข้ามา ประกายดาวรับสาย
“ถึงวังแล้วหรือคะ” ประกายดาวฟังแล้วตกใจ “ศิวะ !”

มิลินทร์คุยโทรศัพท์กับประกายดาว
“ศิวะจับคุณจันทรภานุไป ?! จับทำไมวะ เรียกค่าไถ่เหรอ”
ประกายดาวคุยโทรศัพท์พร้อมขับรถมาจอดเลียบริมทาง
“ไม่น่าใช่ มันบอกว่ามันอยากเคลียร์กับฉัน”
“เคลียร์กับแกก็เคลียร์ดิ แล้วจะเอาคุณชายไปเป็นตัวประกันทำไม ไม่ชอบมาพากลแล้วนะแก แกโทรแจ้งตำรวจเถอะ”
“ศิวะสั่งว่าไม่ให้บอกใคร ถ้ามันรู้ มันจะฆ่าคุณชาย”
“ไอ้นี่มันปอดแหกจะตาย มันไม่กล้าหรอก”
“แล้วถ้ามันกล้าล่ะ แกไม่ต้องเป็นห่วง ไอ้ศิวะมันทำอะไรฉันไม่ได้หรอก”
ประกายดาวลงจากรถ
“แค่นี้ก่อนนะลินทร์ ฉันมาถึงที่นัดแล้ว เดี๋ยวฉันจะส่งข่าวไป”
ประกายดาวมองหาว่าศิวะอยู่ไหน ทันใดนั้นก็มีขวดกลิ้งมาจากใต้ท้องรถ ประกายดาวก้มลงไปดูก็เห็นเป็นแค่ขวดเปล่าๆ
ทันใดนั้น ศิวะก็โผล่มาโปะยาสลบประกายดาวจากทางด้านหลังโดยที่ประกายดาวยังไม่ทันตั้งตัว เธอพยายามดิ้นสุดแรงเกิดและเสียงร้องอู้อี้ก่อนจะค่อยๆ สลบไป ศิวะยิ้มร้าย

ประกายดาวนั่งสลบคอพับ สักพักเธอก็ค่อยๆ รู้สึกตัวขึ้นมาในสภาพตาปรือเพราะฤทธิ์ยายังทำให้มึนงง ประกายดาวมองไปรอบห้องก็เห็นว่าเป็นตึกร้างเก่าทรุดโทรมและเห็นจันทรภานุยืนสลบถูกมัดติดกับเสาอยู่ ประกายดาวตาสว่างขึ้นมาทันที
“คุณชาย !”
ประกายดาวจะไปหาจันทรภานุแต่ก็ลุกไม่ได้ เธอเพิ่งรู้ตัวว่าตัวเองถูกมัดติดกับเก้าอี้ ประกายดาวพยายามดิ้นให้หลุดจากเชือกแต่ก็ไม่สำเร็จ
“คุณชาย คุณชายคะ”
จันทรภานุไม่รู้สึกตัว ประกายดาวมองไปที่คอเสื้อจันทรภานุก็เห็นรอยเลือดอยู่บนปกคอเสื้อ ประกายดาวไม่รู้ว่าเลือดมาจากไหนแต่แค่เห็นว่าเป็นเลือดก็ตกใจมากแล้ว
“เลือด !” ประกายดาวตะโกนเรียก “คุณชาย ! คุณชาย ! ตื่นสิคะคุณชาย”
เสียงหัวเราะหึๆ ของศิวะดังขึ้น ประกายดาวหันไปก็เห็นศิวะยืนอยู่
“ศิวะ นายทำอะไรคุณชาย”
“ยังไม่ได้ทำ แต่กำลังจะทำ หาพวกเข้าสมาคม...ขันที ทีนี้ไอ้คุณชายไม่ใช่แค่ทำลูกไม่ได้ เป็นผัวมึงยังไม่ได้เล้ย” ศิวะว่า
ศิวะดึงปืนออกมาจากเอวตัวเอง
“อย่านะศิวะ ! ฉันรู้ว่านายเสียสูญเพราะสูญเสียมันไป แต่นายต้องตั้งสติให้ดี ถ้านายทำร้ายคุณจันทรภานุ นายต้องเจอข้อหาพยายามฆ่า นายต้องเป็นขันทีขี้คุก ไม่สมเพชตัวเองหรือไง”
ศิวะตบหน้าประกายดาวดังผัวะ
“กูเป็นแบบนี้ก็เพราะมึง ! มึงทำให้กูสูญเสียความเป็นชาย ชีวิตกูไม่เหลืออะไรแล้ว กูจะไม่มีความสุขอีกแล้ว กูตายทั้งเป็นก็เพราะมึงอีดาว”
“ความสุขที่แท้จริงไม่ได้อยู่ที่เรื่องนั้น ถึงนายจะไม่มีมัน แต่นายยังมีลมหายใจ มีชีวิต แต่ถ้านายทำร้ายคุณจันทรภานุ นายจะไม่เหลืออะไรเลยแม้กระทั่งความเป็นคน” ประกายดาวว่า
“กูไม่มีอะไรต้องเสียอีก มึงก็ต้องสูญเสียเหมือนกู มึงต้องชดใช้ให้กูอีประกายดาว !”
ศิวะชักปืนออกจากเอวแล้วเล็งไปไปที่เป้าของจันทรภานุ เขาหรี่ตากะระยะ ประกายดาวร้อง
“ศิวะ ฉันขอร้อง อย่ายิง นายต้องการอะไรบอกฉัน ฉันให้ทุกอย่าง นายจะเอาเงินไหม สักร้อยล้านเป็นไง ฉันมีให้นะ นายจะฆ่าฉันก็ได้ !”
ปัง ! ศิวะยิงปืนออกไป ประกายดาวกรี๊ดและร้องไห้
“คุณชาย ! คุณชาย !!”
ศิวะหัวเราะสะใจ
“นี่แค่เผาหลอกนะ ถ้าเผาจริงจะสะใจขนาดไหน ฮ่าๆๆ”
ประกายดาวหยุดร้องไห้แล้วมองไปที่กำแพงก็เห็นกำแพงเป็นรูเพราะศิวะไม่ได้ยิงจันทรภานุ แต่ยิงกำแพง ประกายดาวโล่งใจ ศิวะหัวเราะพร้อมกับเดินมายืนหน้าประกายดาวโดยหันหลังให้จันทรภานุ
“ถามจริงเป็นห่วงไอ้คุณชายหรือเป็นห่วงสเปิร์ม”
“ถ้านายรู้จักความรัก นายจะไม่เป็นแบบนี้” ประกายดาวว่า
“กูเคยรักมึง แต่มึงก็ไม่รักกู กูถึงต้องไปแต่งงานกับอีนังอรอุมา...อีผู้หญิงเอาแต่ใจ คอยแต่เอาเงินฟาดหัวกู เพื่อให้กูง้อ แต่ไม่เคยสนใจเลยว่ากูต้องการอะไร แล้วดูมันทำไว้กับกูซิ”
ประกายดาวมองข้ามไล่ศิวะไปที่จันทรภานุ จันทรภานุหรี่ตาขึ้นข้างหนึ่งมาสบตาประกายดาวก่อนจะพยักหน้านิดๆ เพื่อส่งสัญญาณ
ศิวะเห็นว่าประกายดาวมองไปข้างหลังจึงหันหลังไปมองตาม จันทรภานุแกล้งสลบ ประกายดาวร้องไห้โฮเพื่อดึงความสนใจของศิวะ
“ฮือ !!”
ศิวะหันกลับมามองประกายดาว
“ฉันไม่เคยรู้เลยว่าตอนอยู่กับอร นายต้องทุกข์ใจมากขนาดนี้ ฉันคิดว่านายมีความสุข...เหมือนตอนที่เราคบกัน”
จันทรภานุค่อยๆหรี่ตาขึ้นมองเพื่อคอยเช็คว่าศิวะจะหันมาไหม ระหว่างนั้นเขาก็แก้เชือกที่มัดมือไปด้วย

อ่านละคร ดาวเกี้ยวเดือน ตอนอวสาน(2) วันที่ 28 ก.ย. 56

ละครดาวเกี้ยวเดือน บทประพันธ์โดย : รอมแพง
ละครดาวเกี้ยวเดือน บทโทรทัศน์โดย : ปณธี - สุธิสา วงษ์อยู่
ละครดาวเกี้ยวเดือน กำกับการแสดงโดย : ธรธร สิริพันธ์วราภรณ์
ละครดาวเกี้ยวเดือน ผลิตโดย : บริษัท บรอดคาซท์ ไทยเทเลวิชั่น จำกัด
ละครดาวเกี้ยวเดือน ดำเนินงานโดย : อรุโณชา ภาณุพันธ์
ละครดาวเกี้ยวเดือน ออกอากาศทุกวันพุธ - พฤหัสบดี เวลา 20.25 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3