@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร ดาวเกี้ยวเดือน ตอนอวสาน(1) วันที่ 28 ก.ย. 56

อ่านละคร ดาวเกี้ยวเดือน ตอนอวสาน(1) วันที่ 28 ก.ย. 56

จันทรภานุกำลังจะหันไปมองตาม แต่ประกายดาวดึงแขนจันทรภานุเอาไว้
จันทรภานุงง “ไปไหน”
“ฉันต้องการคุยกับคุณชายตามลำพังค่ะ”
ประกายดาวดึงมือจันทรภานุให้เดินออกไป

หญิงนิ่มยื้อยุดห้ามไม่ให้นันทินีเข้าไปในร้าน แต่นันทินีก็จะเข้าให้ได้
“หญิงพาไปทานร้านอื่นค่ะ มีสเต็คเนื้อโกเบชิ้นละสองหมื่น หญิงเลี้ยงเองค่ะ”
“ไม่ต้องเอาของกินมาล่อ พี่ไม่ได้เห็นแก่กิน พี่เห็นแก่ผู้ชาย ปล่อย ! พี่จะไปหาคุณจันทรภานุ” นันทินีมองเข้าไปในร้าน
นันทินีเห็นว่าจันทรภานุกับประกายดาวหายไปแล้ว


“หายไปไหน”
นันทินีจะเข้าไปข้างใน แต่หญิงนิ่มขวางเอาไว้
“พี่นันกลับไปเถอะ ยังไงๆ หญิงก็ไม่ให้พี่นันเข้าไปหาพี่ชาย พี่ดาวกับพี่ชายต้องปรับความเข้าใจกัน เขาสองคนจะได้กลับมารักกันเหมือนเดิม”
“กินปลาบ้างนะคะคุณน้อง จะได้ฉลาดสักที นังดาวมันสตรอเบอรี่ มันแกล้งทำดีเพื่อจะมารีดสเปิร์มของคุณจันทรภานุ ยังจะอยากได้มันเป็นพี่สะใภ้อีก โง่ !”
“หญิงโง่ก็ยังดีกว่าให้พี่ชายตกนรกไปทั้งชีวิต กลับไปเถอะค่ะพี่นัน อย่าพยายามตื้อ พี่ชายอีกเลยะ พี่ชายไม่ได้รักพี่นัน ไม่มีวันจะรักด้วย ถ้าพี่นันตื้อพี่ชายไม่เลิก พี่ชายจะไม่ใช่แค่ไม่รัก แต่จะเกลียดพี่นันเลยด้วย”
“เกลียดไม่กลัว กลัวไม่ได้กิน ถอยไป !”
นันทินีผลักหญิงนิ่มอย่างแรงจนหญิงนิ่มกระเด็นล้มลงไปกองกับพื้น นันทินีจะเข้าไปในร้าน แต่หญิงนิ่มโผเข้าไปกอดขานันทินี
“อย่าเข้าไป !”
“โอ๊ย ! อีนังน้องหญิง พูดไม่รู้เรื่องใช่ไหม !”
นันทินีฟาดมือตบหน้าหญิงนิ่มเต็มแรง หญิงนิ่มกระเด็นและปล่อยมือออกจากขานันทินี นันทินีดูมือตัวเองข้างที่ตบหญิงนิ่ม
“แหม่...ไม่คิดว่าได้ตบอีพวกเลือดสีน้ำเงินจะสะใจขนาดนี้ ไหนๆ จะไม่ได้ร่วมวงศาขณาญาติกันแล้ว ขออีกทีก็แล้วกัน”
นันทินีกระโดดคร่อมร่างหญิงนิ่มแล้วง้างมือจะตบ แต่พงศ์จันทรโผล่มาคว้าแขนนันทินี แล้วกระชากนันทินีเข้าไปชิดก่อนจะตะคอกใส่หน้านันทินี
“อย่าแตะต้องหญิงนิ่ม !”
พงศ์จันทรผลักนันทินีจนนันทินีกระเด็นล้มไปชนกระถางต้นไม้ล้มระเนระนาด
“ว้าย !” นันทินีร้อง
พงศ์จันทรปราดเข้าไปดูหญิงนิ่ม หญิงนิ่มหน้าซีดและมีเลือดซิบที่มุมปาก
นันทินีด่า “ไอ้บ้า ! ไอ้รังแกผู้หญิง ! ไอ้ไม่เป็นสุภาพบุรุษ !”
“ถ้าคุณเป็นผู้ชาย ผมชกหน้าคุณไปแล้ว” พงศ์จันทรบอก
“ทำโชว์แมน รู้หรอกว่าคิดอะไรอยู่ กลับบ้านไปเอาหน้าต้มข้าว รอกินกับไข่แดงของนังนี่เลยไป”
พงศ์จันทรจะพุ่งเข้าไปใส่นันทินี นันทินีผงะด้วยความกลัว เธอรีบคว้ากระเป๋าสะพาย แต่ยังไม่วายปากดี
“ฝากไว้ก่อนเถอะ ไอ้ตุ๊ดๆๆ” นันทินีวิ่งหนีออกไป
พงศ์จันทรย่อตัวดูแผลที่มุมปากของหญิงนิ่ม
“เจ็บมากไหม”
หญิงนิ่ม ส่ายหน้า “ฉันคิดว่าคุณจะไปกับน้องน้ำหวาน ไม่กลับมาซะอีก”
“คุณอยู่ที่นี่ ผมจะไม่กลับมาได้ยังไง”
พงศ์จันทรสบตาหญิงนิ่มอย่างมีความหมาย หญิงนิ่มหลบสายตาพงศ์จันทรแล้วมองเข้าไปในร้าน
“พี่ดาวกับพี่ชายเป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้”
พงศ์จันทรก็อยากรู้เหมือนกัน

ประกายดาวดึงมือจันทรภานุเข้ามาหลบหลังพุ่มไม้ ประกายดาวแอบมองเข้าไปในร้านประหนึ่งเป็นสายลับ
“ถ้ากลัวใครจะมาเห็นมากนัก มีอะไรก็รีบพูดมาเถอะ” จันทรภานุบอก
“ฉันขอโทษที่ทำให้คุณเดือดร้อน” ประกายดาวพูด
“ไม่เป็นไร ผมเดือดร้อนอีกไม่นาน เดี๋ยวคนก็จะลืม”
“แล้วคุณชายล่ะคะ จะลืมได้หรือเปล่า”
“ได้สิ เวลาจะทำให้ผมลืม...ลืมทุกสิ่งทุกอย่างที่เคยเกิดขึ้น ลืมด้วยว่าเคยรักคุณ”
ประกายดาวใจหายวาบ
“คุณจะให้ฉันทำยังไง คุณถึงจะยกโทษให้ฉัน”
“ถ้าผมไม่ยกโทษให้คุณ ผมไม่มายืนอยู่ตรงนี้”
“งั้นเรากลับไปเป็นเหมือนเดิมไม่ได้หรือคะ ฉันสัญญา ฉันจะไม่โกหก ไม่ทำให้คุณผิดหวังในตัวฉันอีกแล้ว”
“ครั้งหนึ่งผมเคยรักผู้หญิงคนหนึ่ง มันเป็นความรักที่ดีมาก แต่แล้วมันก็ถูกทำลายลง เพราะความไม่จริงใจ ผมให้โอกาสเธอแก้ตัว เพราะผมเชื่อว่าความรักของผมจะทำให้เธอรู้จักความจริงใจ แล้วมอบมันกลับคืนมาให้ผม เราจะได้รักกันตลอดไป แต่สุดท้ายผมก็รู้ว่าความรักเปลี่ยนแปลงใครไม่ได้ โดยเฉพาะกับคนไม่จริงใจ ผมไม่อยากเจ็บอีกแล้วประกายดาว”
จันทรภานุหันหลังจะเดินไป ประกายดาวมองตามจันทรภานุแล้วน้ำตาก็ไหลพรากเมื่อนึกถึงเรื่องราวดีๆ ระหว่างเขากับเธอ

ประกายดาวปล่อยโฮ
“คุณชาย !”
ประกายดาวโผวิ่งเข้าไปสวมกอดจันทรภานุจากทางด้านหลัง จันทรภานุยืนนิ่งปล่อยให้ประกายดาวกอด
ประกายดาวกอดจันทรภานุแล้วเอาหน้าแนบแผ่นหลังของเขาก่อนจะหลับตาร้องไห้สะอึกสะอื้น ปล่อยให้ร่างกายและหัวใจอยู่กับผู้ชายคนนี้ ก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า
“สักวันฉันจะลืมคุณเช่นกันค่ะ”
ประกายดาวปล่อยแขนแล้วหันหลังเดินออกไปอย่างเข้มแข็ง จันทรภานุเหลียวกลับไปมองตามอย่างเศร้าสร้อย

ประกายดาวในสภาวะอกหักเดินอย่างมุ่นมั่นไปหน้าร้าน สวนกับพงศ์จันทรและหญิงนิ่ม
พงศ์จันทรถาม “คุณดาว เป็นยังไงบ้าง”
ประกายดาวไม่ตอบแต่เดินจากไป พงศ์จันทรกับหญิงนิ่มแปลกใจและเป็นห่วง

ประกายดาวเดินออกไปนอกร้าน ผู้หญิงสาวสองคนลงจากรถแล้วหันมาเห็นประกายดาว
“นั่นประกายดาวสาวล่าสเปิร์มนี่ อ้ายๆๆ ไอดอลของฉัน หยิบป้ายไฟมาเร็วแก๊”
ประกายดาวไม่สนใจอะไร เธอมุ่งมั่นเดินต่อไป

ประกายดาวเดินๆ ไปเรื่อยๆ ผ่านตลาด สะพานพุทธ ฯลฯ

จันทรภานุขับรถมาด้วยความเศร้า ประกายดาวเดินอยู่ริมถนน รถจันทรภานุใกล้จะวิ่งผ่านประกายดาว
แต่ทันใดนั้นก็มีรถเมล์วิ่งแทรกมาตรงกลาง ทำให้จันทรภานุกับประกายดาวมองไม่เห็นกัน รถจันทรภานุเคลื่อนออกไป ประกายดาวก็ยังมุ่งมั่นเดินต่อไป

รถมิลินทร์ขับมาเบรคเอี๊ยดริมทางเท้า มิลินทร์กับจิตสุภางค์ลงจากรถแล้ววิ่งย้อนมาหาประกายดาวที่นั่งซึมอยู่ริมถนน
มิลินทร์ถาม “ไอ้ดาว มานั่งทำอะไรตรงนี้”
“ปวดขา” ประกายดาวบอก
“สม กระแดะเดินมาซะไกล จะไปลงแข่งเดินทนหรือไงยะ” จิตสุภางค์ว่า
“ฉันเข้าใจแล้วว่าทำไมอกหักแล้วต้องเดิน” ประกายดาวบอก
“อกหัก ? สรุปว่าแกกับคุณชาย...”
จิตสุภางค์พูดต่อ “เกมส์โอเว่อร์”
ประกายดาวปล่อยโฮ สองเพื่อนสาวกอดปลอบใจ

สุรีย์วางสายโทรศัพท์ด้วยความหงุดหงิด
“ชายนะชาย ทำให้แม่ขายหน้าอีกแล้ว เมื่อคืนทิ้งหนูน้ำหวานไปได้ยังไง ไม่เป็นสุภาพบุรุษเอาซะเลย”
“แต่พี่ชายบอกว่าน้องหนูน้ำหวานหายไปเองนะคะ พี่ชายไม่ได้ทิ้งซะหน่อย” หญิงนิ่มบอก
“ไม่ต้องมาแก้ตัวแทนกันเลย ทำไมนะ...ผู้หญิงดีๆ ไม่รู้จักมอง ทำไมต้องไปรักไปชอบผู้หญิงไม่จริงใจอย่างประกายดาวด้วย”
“ความรักบังคับกันไม่ได้หรอกค่ะหม่อมป้า คนบางคนเราไม่อยากรัก แต่หัวใจก็ดันรักซะถอนตัวไม่ขึ้น”
“หญิงกำลังมีความรักหรือเปล่า”
หญิงนิ่มอึกอัก
จู่ๆ เสียงหัวเราะของนันทินีก็ดังขึ้นจากหน้าวัง ทุกคนหันไปมอง
นมพรสงสัย “เสียงใคร”
สุรีย์ หญิงนิ่ม และนมพรเดินออกมาจากในวังก็เจอนันทินียืนหัวเราะลั่น
“ฮ่าๆๆ ลูกคนขายน้ำเต้าหู้สะใจโว้ย”
“ท่าทางพี่นันจะบ้าไปแล้ว โทรเรียกรถพยาบาลเถอะค่ะ”
“ถ้าจะมีคนบ้าคงเป็นคนวังนี้มากกว่า เอาใครไม่เอาดันไปลูกสาวคนขายข้าวขาหมูที่ตอแหลเก๊งเก่งมาเป็นลูกสะใภ้ เอ๊ะ หรือคนตอแหลเหมือนกันก็ต้องอยู่ด้วยกัน”
หญิงนิ่ม ไม่พอใจ “มันจะมากไปแล้วนะคะพี่นัน”
“แหม...ตั้งแต่มีแฟนเป็นคาสโนว่า ทำเก่งนะคะ ระวังจะเสียตัวฟรี แล้วจะหาว่าพี่ไม่เตือน”
หญิงนิ่ม โมโห “พี่นัน !”
“ออกไปจากวังฉันเดี๋ยวนี้ แล้วห้ามกลับมาเหยียบที่นี่อีก ไม่อย่างงั้นฉันจะ...”
“จะแจ้งตำรวจหรือคะ” นันทินีถาม
“เอาน้ำร้อนมาสาด”
“จัดไปตอนนี้เลยดีกว่าค่ะ” นมพรวิ่งกลับเข้าไปข้างในแล้วตะโกน “ใครอยู่แถวนี้ เอาน้ำร้อนมาเร็ว”
นันทินีชักกลัว
“ไม่ต้องมาไล่หรอกย่ะ ฉันไปแน่ แล้วฉันจะไม่กลับมาที่นี่อีก เพราะที่นี่มีแต่คนโง่ๆ ไม่เหมาะสมที่คนฉลาดอย่างฉันจะต้องมาเหยียบ ขอให้มีความสุขกับสะใภ้ตอแหลและหลานเขยบ้ากามนะเพคะ”
นันทินีย่อตัวถอนสายบัวอย่างกวนประสาท ทันใดนั้นก็มีน้ำสาดใส่นันทินีโครมใหญ่จากนมพร
“น้ำร้อนไม่มี เอาน้ำธรรมดาก่อนแล้วกัน” นมพรบอก
นันทินีร้องกรี๊ด

ประกายดาวสะพายกระเป๋ากล้องเพราะเพิ่งกลับมาจากทำงาน หน้าตาของประกายดาวหงอยๆ พอเดินมาถึงห้องเธอก็ไขกุญแจเปิดเข้าไป เสียงเพลงสุดมันดังกระหึ่มอยู่ในห้อง ประกายดาวแปลกใจก่อนจะพบจิตสุภางค์กับมิลินทร์ที่แต่งตัวเปรี้ยวจี๊ดเข็ดฟันกำลังเต้นอย่างสุดเหวี่ยง
“ดาวกลับมาแล้ว ไปแต่งตัวเดี๋ยวนี้ วันนี้วันศุกร์คืนปล่อยผี เดี๋ยวเราออกไปหาที่แดนซ์ลืมโลกกัน” มิลินทร์บอก
จิตสุภางค์เต้นเข้ามาใกล้มิลินทร์กับประกายดาว
“เฮ้ยๆ ฉันเพิ่งค้นพบ หมวกนี้เป็นหมวกวิเศษ ใครใส่แล้วต้องแดนซ์”
จิตสุภางค์เอาหมวกที่ตัวเองสวมใส่หัวมิลินทร์ มิลินทร์สะดุ้งเหมือนถูกไฟช็อต
“เหย...หยุดไม่อยู่จริงๆ ว่ะ ไอ้ดาวเอาไป”
มิลินทร์วางหมวกบนหัวประกายดาว แต่ประกายดาวเฉยก่อนจะถอดหมวกวางบนโต๊ะ
“ฉันไม่ไปนะ ถ่ายรูปมาทั้งวัน เหนื่อย อยากพัก”
ประกายดาวเดินเข้าห้องแล้วปิดประตู จิตสุภางค์กับมิลินทร์เซ็ง
“ฉันหมดมุขจะช่วยให้มันหายเศร้าแล้วนะ” มิลินทร์บอก
“งั้นคงต้องทำวิธีสุดท้าย” จิตสุภางค์ว่า
“ทำอะไร”
“ทำใจ ปล่อยให้เวลาช่วยเยี่ยวยาไอ้ดาวแล้วกัน”
มิลินทร์พยักหน้าเห็นด้วยแต่เพื่อนทั้งสองก็ยังกลุ้มใจ

ประกายดาวนอนเศร้าเพราะคิดถึงจันทรภานุ

วันต่อมา จันทรภานุเดินคุยงานกับทีมงาน ระหว่างนั้นจันทรภานุก็มองไปที่มุมหนึ่งในห้างแล้วก็นึกถึงประกายดาว
จันทรภานุนึกถึงตอนที่ประกายดาวล้มในอ้อมกอดของเขา
จันทรภานุสะบัดหน้าไล่ความคิดของตัวเองแล้วทำงานต่อ

จันทรภานุทอดสายตาออกไปนอกหน้าต่างพลางคิดถึงประกายดาว หญิงนิ่มเปิดประตูเข้ามาในห้องพอเห็นท่าทางเศร้าของจันทรภานุเธอก็มองอย่างสงสาร

หญิงนิ่มถอนหายใจเศร้าๆ ระหว่างนั่งกินข้าวกับพงศ์จันทรที่ร้านอาหาร
“คุณเคยถามฉัน ว่าพี่ชายมีข้อเสียอะไร ตอนนี้ฉันรู้แล้ว”
“อะไร?” พงศ์จันทรถาม
“พี่ชายใจแข็งมาก” หญิงนิ่มบอก
“ก็ดีกว่าผู้ชายใจอ่อนง่ายอย่างผมนะ แต่ตอนนี้หัวใจผมเข้มแข็งแล้วนะ ผู้หญิงที่ไหนก็เข้ามาไม่ได้ นอกจากคุณ”
“ไปหลอกเด็กอมมือเถอะ ! ใจแข็งดีกว่าใจอ่อนก็จริง แต่ถ้าใจแข็งแล้วทำให้ชีวิตไม่มีความสุข ใจอ่อนลงมาบ้างก็ได้”
“บอกตัวเองด้วยนะ” พงศ์จันทรบอก
“อะไรนะ”
“เปล่าครับ เอาเป็นว่าเรื่องคุณชาย คุณสบายใจเถอะ ตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่คุณชายกับคุณดาวจะได้รู้ว่าเขาสองคนรักกันจริงหรือเปล่า ถ้าเขารักกันจริงๆ ความรักจะทำให้ทุกอย่างดีขึ้นเอง”

วันต่อมา ประกายดาวเดินคุยโทรศัพท์กับแดนดินมาจากหน้าคอนโดโดยกำลังจะเข้าไปข้างใน
“ดาวจองตั๋วเรียบร้อยแล้วนะพี่ดิน บอกน้องฟ้ากับพี่วัลย์ให้เอาเสื้อผ้ากันหนาวไปเยอะๆ นะ ยุโรปอากาศเย็น” ประกายดาวฟังแล้วตอบ “ทำจงทำใจอะไรเล่า ดาวก็แค่อยากพาไปเที่ยวเปิดหูเปิดตากัน แค่นี้นะ”
ประกายดาววางสายแล้วถอนหายใจเศร้าๆ ก่อนจะเดินเข้าไปในคอนโด พนักงานของคอนโดเดินเข้ามาหาประกายดาว
“คุณดาวคะ มีแขกมารอพบค่ะ”
“ใครคะ”
เด็กผู้หญิงวัยรุ่นคนหนึ่งนั่งคอยอยู่ที่โซฟา พอหันมาเห็นประกายดาวเธอก็รีบวิ่งมาหา
“สวัสดีค่ะพี่ดาว ขอถ่ายรูปคู่อัพลงเฟชก่อนนะคะ” วัยรุ่นสาวส่งมือถือให้พนักงาน “ถ่ายให้หน่อยค่ะ”
“ใจเย็นๆ นะคะน้อง น้องๆ มาหาพี่มีธุระอะไรหรือคะ” ประกายดาวถาม
“หนูเพิ่งถูกผู้ชายทิ้งค่ะ หนูจะไม่มีความรัก ไม่มีแฟนอีก แต่หนูจะมองหาผู้ชายหล่อๆ แล้วไปขอสเปิร์มเขามาทำลูกเหมือนพี่ดาว พี่ดาวให้คำแนะนำหนูหน่อยนะคะ”
ประกายดาวอึ้ง
วันต่อมา แดนดินลงจากรถกระบะ
“เอาต้นไม้มาส่งครับ” แดนดินตะโกนบอก
คนในบ้านยังไม่ทันออกมา ผู้หญิงท้องแก่คนหนึ่งก็เดินอุ้ยอ้ายมาจากบ้านข้างๆ
“คุณเป็นพี่ชายของยัยประกายดาวสาวล่าสเปริมใช่ไหม”
“ครับ”
“ฝากไปด่าน้องสาวคุณด้วยนะ เพราะไอ้ความคิดล่าสเปิร์มบ้าๆ ถึงทำให้ชีวิตฉันปั่นป่วน พอนังพวกผู้หญิงหน้าด้านรู้ว่าฉันท้องแฝดสาม ก็วิ่งโร่มาเข้าคิวขอสเปิร์มผัวฉันกันยาวเหยียด อีผัวฉันก็ไปให้สเปิร์มสนุกสนานเลยสิ บ้านช่องไม่กลับ”
แดนดินทำหน้าไม่ถูก ระหว่างที่ถูกผู้หญิงด่า รถยนต์คันหนึ่งวิ่งผ่านโดยมีสติกเกอร์ติดหลังรถว่า "บ่องตง ! เห็นหน้าเธอแล้วอยากเจอเสปิร์ม” แดนดินหันไปเห็นสติกเกอร์นั้นก็อ้าปากค้าง

แดนดินทุบประตูห้องประกายดาวปังๆๆ ประกายดาวเปิดประตู
“ไอ้ดาว ! แกรูไหมว่าวันนี้ฉันต้องเจออะไรบ้าง "บ่องตง ! เห็นหน้าเธอแล้วอยากเจอสเปิร์ม" , "ถ้านายแน่ขอแค่สเปิร์ม" , "สเปิร์มนี้ดีฝุดๆ" , "เชื่อเลยว่าหน้าอย่างนี้ สเปิร์มต้อง...น่าร๊อกอ่ะ"
“ดาวเจอแรงกว่า” ประกายดาวบอก
“อะไร” แดนดินถาม
"ขอหนึ่งตัว ความเป็นผัวไม่ต้อง"
“อุ้ย! แรงจริง แต่ของฉันแรงกว่าตรงที่โดนด่าว่ามีน้องสาวเป็นบ้า”
“จริงเหรอ”
“เออดิ ไหนแกบอกว่าเรื่องนี้มันจะเงียบไปเอง แล้วนี่อะไร ตอนนี้ผู้หญิงทั้งบ้านทั้งเมืองกำลังจะบ้าตามแกไปหมดแล้ว วิ่งไล่ขอสเปิร์มผู้ชาย ไม่ใช่แค่นั้นนะ แต่พวกบรรดาเมียๆ ก็เดือดร้อน ที่ต้องคอยระวังไม่ให้ใครมาขอสเปิร์มผัวเขา แกเห็นผลจากไอ้ความคิดบ้าๆ ของแกหรือยังดาว แกจะปล่อยไว้แบบนี้ไม่ได้ แกต้อง...”
“หยุด ! ดาวรู้แล้ว ดาวสำนึกผิดแล้ว และดาวก็กำลังจะจัดการกับเรื่องนี้แล้วด้วย”
“แกจะทำยังไง”
ประกายดาวไม่ตอบ

อภิเชษฐ์ตักอาหารเข้าปากแล้วเคี้ยวตุ้ยๆ อย่างเอร็ดอร่อย ต้นอ้อก็นั่งกินอยู่ด้วย อภิเชษฐ์เงยหน้าเห็นว่าจันทรภานุที่นั่งตรงข้ามแทบจะไม่แตะอาหารเลย อภิเชษฐ์เลยพาลกินไม่ลง เขาหยิบมือถือขึ้นมากดโทรออกแล้วรอฟังสาย
“ฮัลโหลคุณดาว มีคนอยากคุยด้วย”
อภิเชษฐ์ส่งมือถือให้ จันทรภานุเหวอ แต่แล้วก็เห็นหน้าจอมือถือเป็นหน้าหลักเพราะอภิเชษฐ์ไม่ได้โทรออก
จันทรภานุโมโห “ไอ้เชษฐ์ !”
“ดีใจเก้อเลยอะดิ๊”
“ผู้กองจะไปแกล้งคุณชายทำไม”
“ผมไม่ได้แกล้ง ผมแค่อยากให้ไอ้ชายยอมรับใจตัวเองสักที”
“ฉันไม่ได้เป็นอะไร”
“แกอยากได้ความจริงใจจากคนอื่น แต่แกก็ยังไม่มีความจริงใจให้ตัวเองเลย ชาย...ฉันรู้นิสัยแกดี ถ้าตัดสินใจอะไรไปแล้ว แกก็จะทำสิ่งนั้นไปตลอด เหมือนที่มันเคยผิดหวังเรื่องคุณแพท แกก็ตัดสินใจว่ามันจะไม่รักใครง่ายๆ แกจะหนีให้ห่างจากคนโกหก ไม่จริงใจ ตอนนี้แกก็เลยต้องหนีห่างจากคุณดาว ทั้งๆ ที่ใจแกโหยหาคุณดาวจะตายอยู่แล้ว”
“ฉันไม่อยากเสียใจอีก” จันทรภานุบอก
“แล้วตอนนี้แกไม่เสียใจเลย?” อภิเชษฐ์ถาม
จันทรภานุเถียงไม่ออก
“ชาย...ชีวิตคนเราไม่ได้ยืนยาวมากพอที่จะมานั่งแบกความทุกข์เอาไว้หรอกนะเพื่อน อะไรที่ทำแล้วมีความสุขโดยไม่เดือดร้อนคนอื่นก็ทำไป อย่าเอาชีวิตไปติดไว้กับอดีตหรืออนาคต ชีวิตมีแต่วันนี้เท่านั้น”
จันทรภานุคิดตาม
“ไม่ว่าคุณดาวจะเข้าหาแกเพราะหวังอะไรก็ตาม แต่จงเชื่อสายตาอันแหลมคมของฉัน ฉันจับผิด จับพิรุธคนร้ายมาไม่ต่ำกว่าร้อยคน แค่กระพริบตา ฉันก็รู้แล้วว่าคนๆ นั้นคิดอะไรอยู่ ฉันนั่งยันนอนยันให้เลยว่า...คุณดาวเป็นคนดีมาก”
“ใช่ค่ะ” ต้นอ้อพูด “และฉันก็ชื่นชมคุณดาวมากด้วยที่เธอจริงใจต่อความรู้สึกของตัวเอง เธออยากมีลูก เธอก็กล้าหาญพอที่จะคิดหาทางทำให้ตัวเองมีลูกให้ได้ ไม่เหมือนฉัน...”
ต้นอ้อยังไม่ทันพูดอะไร เธอหันไปเห็นประกายดาวออกรายการ "ผู้หญิงถึงผู้ชาย" บนทีวีของร้าน
“คุณดาว !”
จันทรภานุกับอภิเชษฐ์มองตาม
แอนตี้ พิธีกรในรายการพูด “นี่ล่ะค่ะ ประกายดาวสาวล่าสเปิร์มตัวจริงเสียงจริง”
ประกายดาวยิ้มให้กล้อง ผู้ชมในห้องส่งถือป้ายไฟ "สาวล่าสเปิร์ม" และปรบมือ

บนเวที แอนตี้สัมภาษณ์ประกายดาว โดยที่มิลินทร์กับจิตสุภางค์ยืนดูอยู่ด้วย
“ว้าว...มีแฟนคลับมาเชียร์เยอะเลยนะคะ วันนี้คุณดาวมีข่าวดีอะไรมาบอกเราเอ่ย ถึงได้ติดต่อกับทีมงานว่าอยากจะมาขอออกรายการ หรือว่าคุณดาวได้สเปิร์มจากหนุ่มฮอท เฟอร์เฟ็คมาแล้ว”
“เปล่าค่ะ ที่ดาวมาวันนี้ ดาวจะมาบอกว่า เรื่องที่ดาวเคยพูดว่าดาวอยากมีลูกแต่ไม่อยากมีสามี ดาวไม่เชื่อเรื่องชีวิตคู่ ดาวเปลี่ยนความคิดไปนานแล้ว” ประกายดาวบอก

อ่านละคร ดาวเกี้ยวเดือน ตอนอวสาน(1) วันที่ 28 ก.ย. 56

ละครดาวเกี้ยวเดือน บทประพันธ์โดย : รอมแพง
ละครดาวเกี้ยวเดือน บทโทรทัศน์โดย : ปณธี - สุธิสา วงษ์อยู่
ละครดาวเกี้ยวเดือน กำกับการแสดงโดย : ธรธร สิริพันธ์วราภรณ์
ละครดาวเกี้ยวเดือน ผลิตโดย : บริษัท บรอดคาซท์ ไทยเทเลวิชั่น จำกัด
ละครดาวเกี้ยวเดือน ดำเนินงานโดย : อรุโณชา ภาณุพันธ์
ละครดาวเกี้ยวเดือน ออกอากาศทุกวันพุธ - พฤหัสบดี เวลา 20.25 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3