@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร ตะวันทอแสง ตอนที่ 5 วันที่ 22 ก.ย. 55

อ่านละคร ตะวันทอแสง ตอนที่ 5 วันที่ 22 ก.ย. 55

“บ้าที่สุด! ด่าไปก็เหมือนด่าก้อนหิน ไม่มีความรู้สึก” ว่าแล้วยูโฮะก็เดินปึงปังออกไปทันทีเลย

คำพูดของยูโฮะที่เหมือนทำอะไรเขาไม่ได้ แต่ แท้จริงแล้วมันบาดลึกลงในหัวใจ แววตาเขาเศร้าลง ค่อยๆ หย่อนตัวลงนั่งกลางห้องที่ว่างเปล่าและเงียบเหงา ผู้ชายที่ดูเป็นคนโหดเหี้ยมในสายตาของยูโฮะ แท้จริงแล้วกลับ กลายเป็นผู้ชายที่น่าสงสารและไม่มีใครเข้าใจแม้แต่คนเดียว
ยูโฮะเดินกระฟัดกระเฟียดออกมาเห็นพักตร์วิมลในชุดใหม่ที่หน้าตึก เธอตั้งใจจะเดินผ่านไปอย่างไม่ใส่ใจ แต่ที่สุดก็ทำไม่ได้ เนื่องจากน้ำเสียงเย้ยเยาะของพักตร์วิมลลอยมากระทบหู

“เสียใจด้วยนะ ที่โดนภัคตัดความสัมพันธ์แบบไม่มีเยื่อใย”

“ฉันต่างหากที่ต้องแสดงความเสียใจกับหล่อน ตอนนี้ฉันหลุดออกมาจากการรอคอยที่สิ้นหวังแล้ว เหลือแต่หล่อนที่ยังมีความหวังลมๆแล้งๆไปวันๆ”

รสาสะพายกระเป๋าเตรียมจะไปทำงานที่เรือนเล็กเดินออกมาได้ยินพอดี เธอหยุดฟังสองสาวโต้วาทีกันไปมา

“เชอะ แพ้แล้วไม่ยอมรับความจริง”

“ป้านั่นแหละไม่ยอมรับความจริง...ความจริงก็คือผู้ชายอย่างภคพงษ์ เถลิงยศ ไม่เคยคิดจะรักใคร และไม่คิดจะจริงจังกับใคร...ผู้หญิงก็เป็นเหมือนนาฬิกา เสื้อผ้า แว่นตา ที่เขาเลือกมาใส่ในแต่ละวัน ถ้าเบื่อก็วางทิ้ง อยากใส่เมื่อไหร่ก็หยิบมาใส่ ฉันจะไม่ยอมเป็นสิ่งของของเขาอีกแล้ว เชิญป้าอยู่กับความฝันไปคนเดียวเถอะ ฉันลาก่อน”

ยูโฮะผลุนผลันกลับไปอย่างหัวเสียสุดๆ พักตร์วิมลเบ้หน้าไม่แคร์ หาว่ายูโฮะทำตัวเป็นเด็กขี้แพ้ชวนตี...แต่รสาที่ยืนหลบมุมฟังอยู่เห็นด้วยกับยูโฮะ เธอมองเข้าไปในบ้านอันใหญ่โตของภคพงษ์ด้วยอคติที่เพิ่มมากขึ้น

ooooooo

วาริชพอใจที่วันนี้พิมพรรณใส่เสื้อผ้าชุดที่ตนซื้อให้มาทำงาน ทึกทักถือว่าเป็นการตอบตกลงคบหากัน แต่พิมพรรณยังไม่อยากให้เราทั้งคู่รีบร้อน ค่อยๆศึกษากันไปอย่างที่เขาบอกเมื่อวานจะดีกว่า

“ได้ครับ ผมไม่ใจร้อนอยู่แล้ว แค่พิมให้โอกาสแค่นี้ผมก็ดีใจมากๆแล้ว งั้นผมขอทำหน้าที่ของตัวเองอย่างเต็มที่นะครับ เริ่มจากเย็นนี้ผมขอไปส่งพิมที่บ้านนะครับ”

“ได้ค่ะ”

“ก่อนจะกลับบ้านขออนุญาตพาไปทานข้าวด้วยได้ไหมครับ” วาริชเริ่มได้คืบจะเอาศอก พิมพรรณยิ้มอายๆด้วยความอ่อนต่อโลก

“ก็ได้ค่ะ แต่ไม่นานนะคะ พิมไม่อยากกลับบ้านดึก”

“ได้ครับ ผมรู้ว่าที่บ้านพิมเข้มงวด และพิมก็ไม่เคยออกนอกลู่นอกทาง ผมไม่ทำให้พิมต้องเสียแน่ๆครับ”

“ขอบคุณนะคะที่เข้าใจ พิมขอตัวไปทำงานก่อนนะคะ วาริชจะใช้คอมฯก็เชิญตามสบายเลยนะคะ”

วาริชรับคำ มองตามเธอไปด้วยรอยยิ้มที่ยากจะหยั่งรู้ถึงความนึกคิดข้างใน...

ขณะเดียวกันนั้นที่กรุงเทพฯ รสากำลังง่วนอยู่กับงานที่เรือนเล็ก สายใจเดินนำหน้าปุยนุ่นเข้ามาพร้อมขวดน้ำอัญชันสีสวยที่ต้มเอง

“วันนี้อากาศร้อนๆ ป้าก็เลยเก็บดอกอัญชันหลังบ้านมาต้มกับใบเตยให้คุณภัค แล้วก็แบ่งมาให้คุณรสาด้วยค่ะ”

รสาไหว้ขอบคุณสายใจ ปุยนุ่นไม่รอช้ารินน้ำอัญชันใส่แก้วส่งให้รสาชิมความหอมหวานชื่นใจ ระหว่างนี้สายใจเกริ่นเรื่องวุ่นวายเมื่อเช้าว่าไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ตนไม่อยากให้รสาเข้าใจผิดว่ามีผู้หญิงมาตบตีแย่งคุณหนูของตนแบบนี้เป็นประจำ

“ใช่ค่ะ” ปุยนุ่นเสริมขึ้นด้วยสีหน้าจริงจัง “ปกติคุณภัควางตัวกับผู้หญิงทุกคนดีมากนะคะ ให้เกียรติทุกคน และทุกคนก็ให้เกียรติคุณภัค ไม่มีใครกล้ามาราวีแบบนี้เลยนะคะ แต่กับคุณยูโฮะกับคุณแพตเนี่ยแรงจริงๆค่ะ”

“ป้าไม่อยากให้คุณรสารู้สึกไม่ดีกับคุณหนู เพราะเรื่องเมื่อเช้าน่ะค่ะ”

“ป้าใจไม่ต้องห่วงนะคะ รสไม่เอาเรื่องงานมาปนกับเรื่องส่วนตัว เรื่องที่เกิดขึ้นจะไม่ส่งผลไม่ดีกับงานที่รสรับผิดชอบอยู่แน่นอนค่ะ”

สายใจกับปุยนุ่นยิ้มรับด้วยความสบายใจ ทันใดนั้นเปลี่ยนวิ่งกระหืดกระหอบมาบอกรสาว่าคุณภัคให้มาเชิญไปที่เรือนใหญ่มีเรื่องงานจะปรึกษา แต่พอรสาไปถึง ภคพงษ์กลับตั้งท่าพูดถึงเหตุการณ์เมื่อเช้าจนรสาต้องขัดขึ้นเหมือนไม่ยินดียินร้ายและไม่ได้สนใจกับเรื่องนี้

“จะไม่มีผลต่อการทำงานของดิฉันแน่นอนค่ะ... เปลี่ยนบอกว่าคุณมีเรื่องงานจะปรึกษา”

“อาเผด็จบอกว่าคุณต้องการนำเฟอร์นิเจอร์เก่าในเรือนหลังเล็กบางชิ้นมาซ่อมแซมและนำกลับมาใช้ใหม่”

“ใช่ค่ะ เป็นเฟอร์นิเจอร์เก่าหายาก บางชิ้นหาไม่ได้แล้ว ดิฉันเสียดายก็เลยจะขอนำไปซ่อมและมาวางรวมกับเฟอร์นิเจอร์ที่ซื้อใหม่ค่ะ”

เขาพยักหน้ารับรู้และชวนเธอออกไปร้านเฟอร์นิเจอร์ รสาดักคอทันทีว่าตนไม่มีเวลาไปดูโอ่งอีกแล้วนะ ภคพงษ์เคืองนิดๆ ชี้แจงกึ่งยอกย้อนว่า

“เมื่อเช้าผมให้ทางร้านมาขนเฟอร์นิเจอร์ที่คุณต้องการซ่อมแซมไปหมดแล้ว เจ้าของร้านเป็นเพื่อนของอาเผด็จ ผมจะพาคุณไปคุยกับเขาเพื่อบอกว่าต้องการจะซ่อมแซมอะไรบ้าง ไม่ได้จะพาไปดูโอ่ง”

“แล้วไป...ที่จริงคุณให้เบอร์ติดต่อมา แล้วดิฉันไปเองก็ได้นะคะ”

“ผมให้เวลาไปเตรียมของ 15 นาที ผมจะรออยู่ที่หน้าตึกใหญ่ กรุณาอย่าช้า ผมไม่ชอบรอ” สั่งเสร็จเขาเดินลิ่วไปทันที รสาส่ายหน้าเหนื่อยหน่ายนายจ้างเอาแต่ใจ ปลอบตัวเองให้ท่องไว้ว่าเป็นลูกจ้างต้องอดทน

เมื่อไปถึงร้านเฟอร์นิเจอร์ของนายเตรียม ภคพงษ์ทักทายเขาอย่างคุ้นเคย ก่อนแนะนำว่ารสาเป็นมัณฑนากรที่ตนเล่าให้ฟัง รสาคาใจว่าเล่าอะไร แต่ก็ยกมือไหว้เตรียมด้วยท่าทีนอบน้อม เตรียมรับไหว้และทักตอบว่ายังเด็กอยู่เลย เหมือนกับที่คุณภัคบอกเป๊ะ

รสาสะดุดกึก คิดในใจว่านายคนนี้เม้าท์อะไรตนไว้บ้าง พอเจ้าของร้านคล้อยหลังเดินนำเข้าไปคุยข้างใน เธอรีบถามภคพงษ์เพื่อเอาคำตอบ แต่นอกจากจะไม่ได้คำตอบแล้วยังต้องขุ่นข้องใจกับรอยยิ้มนิ่งๆของเขาอีกด้วย

เตรียมกับรสาสนทนาเรื่องเฟอร์นิเจอร์กันอย่างถูกคอ โดยมีภคพงษ์เฝ้าสังเกตไม่วางตา รสาทำการบ้านมาดีมากทำให้ยิ่งง่ายต่อการประสานงาน พอลับหลังรสาที่ขอตัวลุกออกไปคุยโทรศัพท์ เตรียมถึงกับชื่นชมรสาให้ภคพงษ์ฟังว่าทำงานเรียบร้อยดีมาก เตรียมรายละเอียดไว้พร้อม แถมยังช่วยประหยัดงบให้เขาได้เยอะเลย

“เด็กคนนี้ฝีมือดีสมกับที่คุณภัคชมไว้จริงๆ”

รสาวางสายจากคัพเค้กกลับมาได้ยินเต็มสองหู เธอมองหน้าภคพงษ์อย่างแปลกใจ เตรียมนั่งหันหลังเพิ่งจะเห็นรสา

“อ้าว คุณรสามาพอดี ผมดูรายละเอียดแล้ว ทุกอย่างครบถ้วนดีมากเลย ผมจะรีบดำเนินการตามแบบ สามอาทิตย์น่าจะเรียบร้อย”

“ขอบคุณค่ะ”

“ถ้าเรียบร้อยแล้ว ผมขอตัวกลับก่อนนะครับ... สวัสดีครับ” ภคพงษ์รวบรัดแล้วเดินนำหน้าออกไปเลย

รสายกมือไหว้ร่ำลาเตรียมก่อนตามเขาไป จู่ๆเขาหยุดเดินกะทันหัน ทำเอารสาเบรกเกือบไม่ทัน

“รู้ว่าผมชมคุณกับคนอื่น ทำไมต้องทำหน้าประหลาดใจมากขนาดนั้น”

“คิดไม่ถึงมั้งคะ ก็เลยรู้สึกแปลกใจ”

“แปลกใจแล้วอย่าลืมดีใจด้วย เพราะผมไม่ชมใครง่ายๆ” เขาพูดตรงๆ ยิ้มจริงใจ รสาเห็นรอยยิ้มนั้นแล้วถึงกับปั้นหน้าไม่ถูก ไม่รู้ว่าควรจะรู้สึกอย่างไร...ได้แต่แอบบ่นลับหลังเขาว่า เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย อารมณ์ไหนกันแน่?

ooooooo

ตกเย็นห้าวเตรียมตัวจะไปรับพิมพรรณกลับบ้าน พอดีเธอโทร.บอกเสียก่อนว่าไม่ต้องมาเพราะวาริชจะไปส่ง แต่เขาชวนกินข้าวก่อนแล้วจะเลยไปส่งที่บ้าน ขอร้องห้าวอย่าเพิ่งบอกพ่อ เธอยังไม่อยากให้พ่อรู้ตอนนี้

ห้าวรับปากทั้งที่หนักใจและเป็นห่วง ต่อมาเมื่อพร้อมเห็นห้าวยังไม่ออกไปรับพิมพรรณ จึงซักไซ้ก่อนเดาถูกเผงว่านายวาริชจะมาส่ง แต่ห้าวเฉไฉว่าไม่รู้เหมือนกัน รู้แต่ว่าพิมจะไปกินข้าวกับเพื่อน

“เอ็งลองถามสิว่าใช่หรือเปล่า ถ้าใช่ คราวหน้าจะได้ไม่ให้ไป ข้าไม่ค่อยชอบหน้ามัน หรือถ้าอยากจะไปก็ต้องให้มันมาขออนุญาตกับข้าเอง ถ้ามันไม่กล้ามา ก็ไม่ต้องไป”

“จ้ะ แล้วฉันจะลองถามพิมให้จ้ะ” ห้าวขานรับแต่แอบถอนใจเบาๆ

ค่ำนั้น รสาเข้ามาที่ออฟฟิศเพราะนัดคัพเค้กที่ส่งข่าวว่าได้ข้อมูลแม่ของภคพงษ์เพิ่มเติม ชีวินก็ได้ยินเมื่อตอนกลางวันจึงอยากรู้เหลือเกินว่ารสาคิดจะทำอะไร?


อ่านละคร ตะวันทอแสง ตอนที่ 5 วันที่ 22 ก.ย. 55

ละครเรื่อง ตะวันทอแสง บทประพันธ์โดย : ปิยะพร ศักดิ์เกษม
ละครเรื่อง ตะวันทอแสง บทโทรทัศน์โดย : ณัฐิยา ศิรกรวิไล
ละครเรื่อง ตะวันทอแสง กำกับการแสดงโดย : พีรพล เธียรเจริญ
ละครเรื่อง ตะวันทอแสง ดำเนินการผลิตโดย : อรพรรณ วัชรพล(โพลีพลัส จัดให้)
ละครเรื่อง ตะวันทอแสง ออกอากาศทุกวันศุกร์ เสาร์ และวันอาทิตย์ เวลา 20.25 น.
ละครเรื่อง ตะวันทอแสง ออกอากาศทาง ช่อง 7 สีทีวีเพื่อคุณ
ที่มา ไทยรัฐ