@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร ไฟมาร ตอนที่ 4/3 วันที่ 14 ก.ย. 55

อ่านละคร ไฟมาร ตอนที่ 4/3 วันที่ 14 ก.ย. 55

ลูกน้องจะลากกาวินทร์ลงมา จัดการซ้อมจัดหนักชนิดรุมยำบาทา จนทรุดตัวลงไปนอนกองกับพื้น กาวินทร์ยังพอมีสติ เห็นสุขหฤทัยเดินถือขวดน้ำเข้ามา
“ถึงแกจะไม่อยากมีเรื่องกับฉัน แต่ฉันอยากมีเรื่องกับแก” สาดน้ำเข้าใส่หน้ากาวินทร์เต็มๆ “จำไว้! ถ้าน้องแกยังหน้าด้านมายุ่งกับแฟนฉัน มันโดนดีแน่”
สุขหฤทัยหันหน้ากลับออกไป พร้อมลูกน้อง กาวินทร์มองตาม สีหน้าโกรธจัด

รุ่งเช้าขณะที่กรรณนรีเดินลงบันไดมาจากบนบ้าน เห็นพ่อทำแผลให้พี่ชาย ยินเสียงเกริกบ่น
“พ่อล่ะกลุ้มจริงๆ เมื่อไหร่แกจะเลิกนิสัยใจร้อนอย่างนี้ซะทีแก้ว”
“ก็พวกมันหาเรื่องผมก่อน”
กรรณนรีอยากรู้ “ใครพี่แก้ว”
กาวินทร์เงยหน้ามองหน้ากรรณนรีอย่างไม่พอใจ แต่เกริกพูดแบบระอา
“จะใคร? ก็พวกที่ผับล่ะสิ ใช่มั้ย? กินเหล้าเข้าไปเมา แล้วก็เที่ยวแย่งผู้หญิง”
“ผมไม่เคยหาเรื่องใครก่อน ถ้าไม่จำเป็น” กาวินทร์โกรธเดินออกไปขึ้รถ
เกริกมองตามอย่างหัวเสีย “ดูมันทำกับพ่อกาว ดูมัน” ตะโกนไล่ส่ง “แย่งผู้หญิงจำเป็นมาก



เลยใช่มั้ยแก้ว เฮ้อ”
กรรณนรีมองตามกาวินทร์อย่างไม่พอใจ ก่อนจะตามออกไป เกริกนั่งอยู่แป๊บ ถอนใจเฮือกเดินตามออกไปอีกคน

กรรณนรีเดินตามกาวินทร์ที่ผลุนผลันไปที่รถ ร้องถาม
“ทำไมพี่แก้วชอบทำให้พ่อกลุ้มใจ”
“คำถามนี้ แกควรถามตัวเองมากกว่ากาว”
กรรณนรีมองอย่างงงๆ กาวินทร์ถามอย่างฉุนเฉียว “แกไปยุ่งกับไอ้สรวงทำไม”
กรรณนรีตกใจ “ก็กาว...ต้องทำงานกับเค้า”
กาวินทร์เย้ย “งานอะไร? มันถึงได้ถูกเนื้อต้องตัวแกยังกับผู้หญิงราคาถูก”
กรรณนรีตกใจที่ถูกพี่ชายด่าแรงๆ “พี่แก้ว”
“ไม่ต้องมาตีหน้าซื่อ รู้เอาไว้” ชี้หน้าตัวเอง “ที่ฉันเป็นแบบนี้ก็เพราะเมียไอ้สรวงมันทำ” โมโหมาก “แกนะแกกาว ทำไมเป็นคนแบบนี้ แม่เป็นเมียน้อยไม่พอ แกยังจะหน้าด้านเป็นเมียน้อยเค้าอีก”
เกริกเดินออกมา ส่วนอีกมุมคือสองป้าที่จะเดินเข้าบ้านพอดี สามคนได้ยินเต็มหู
กรรณนรีน้ำตาคลอ พูดใส่หน้าพี่ชายเสียงสั่น “กาวไม่ได้เป็นเมียน้อยใคร และไม่เคยคิดจะเป็นด้วยถ้าคนที่กาวรัก เค้ามีเมียอยู่แล้ว กาวยอมกัดลิ้นตัวเองตาย ดีกว่าไปเป็นเมียน้อยเค้ารู้ไว้”
กรรณนรีวิ่งออกไป กาวินทร์หัวเสียเดินไปขึ้นรถ เกริกอึ้ง สองป้ามองเห็นใจ

เกริกคว้าขวดเหล้าออกมาเทใส่แก้งเพื่อดื่มย้อมใจ สองป้าตามมา ป้าจักจั่นหัวเราะแหะๆ
“แก้วอาจจะแฉแต่เช้า แต่พ่อเกริกไม่ต้องดื่มแต่เช้าก็ได้นะ”
เกริกจะดื่ม สองป้าคว้าห้ามไว้
“น่า! อย่าคิดมาก ฉันว่ากาวมันไม่ได้เป็นเมียน้อยเหมือนแม่มันหรอก อุ๊ปส์!” ป้าจักจั่นว่า พลางถลึงตาใส่ ป้าตั๊กแตน ก่อนจะหันมาพูดกับเกริก “จริง!ฉันว่ากาวไม่ได้เป็นเมียน้อยใครหรอก ท่าทางไอ้หนุ่มคนนั้นยังไงก็ไม่มีเมีย”
เกริกตกใจ “คนไหน”
ตั๊กแตนรีบรายงาน “ก็ไอ้หนุ่มหน้ามลคนหล่อที่เคยมาหาพ่อเกริกไง”
จักจั่นเสริม “วันนั้นที่มาเค้าคงอยากคุยกับพ่อเกริกล่ะ คงสำนึกผิด กะสารภาพกับพ่อตา”
เกริกชักจะงงหนัก “สำนึกผิด สารภาพอะไรป้า”
“ก็ที่เค้ากอดจูบกาวไง” ปั้นจักจั่นว่า
“ดีไม่ดี เค้าอาจจะคุยกับพ่อเกริก เรื่องของกาวแต่งงานก็ได้นะ” ป้าตั๊กแตนบอก
“ก็เป็นไปได้ หน้าบ้านยังเท่านี้ ป่านนี้คงไปถึงไหนต่อไหนกันแล้ว” ป้าจักจั่นผสมโรง

เกริกตาเหลือก ตกใจมากกับเรื่องที่ได้ฟัง
ขณะนั้น นพคุยอยู่กับเลขาที่หน้าห้องทำงานสรวง

“ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์นี้ผมไม่ว่างนะ ถ้าจะประชุมขอเป็นจันทร์หน้าแล้วกัน”
“ค่ะ”
จังหวะนั้นกรรณนรีเดินหน้าบึ้งตึงเข้ามา พอมาถึงก็ไม่มองและไม่ทักใคร เลขาร้องลั่นเข้ามาห้าม
“คุณคะ เข้าไปไม่ได้นะคะ”
“ฉันมีธุระด่วนกับคุณสรวง” กรรณนรีบอกเสียงดัง
“คุณสรวงติดงานอยู่ค่ะ”
“ฉันก็มีงาน จะคุยกับเค้าเหมือนกัน” กรรณนรีเปิดประตูเดินเข้าไป อาการฉุนเฉียว
“เอาละเว้ย นายสรวง งานเข้า”
กรรณนรีบุกเข้าไป เลขามองหน้านพเป็นเชิงถาม นพพยักหน้าให้เลขาทำนองปล่อยไป เลขาตกใจ

สุขหฤทัยนอนหลับอยู่บนเตียง เสียงมือถือแผดเสียงดังลั่น
“โอ๊ย! ใครโทร.มาแต่เช้า....คุณหญิงแม่แน่เลย”
สุขหฤทัยเอาหมอนปิดหน้าปิดหูตัวเอง ไม่กล้ากดสายทิ้ง เสียงโทรศัพท์ดังไม่หยุด
“คุณหญิงแม่ตามจิกอย่างนี้ มิน่า คุณลุงถึงได้เตลิด เฮ้อ!” จำต้องรับสายทั้งที่ตาหลับ “ขา...คุณหญิงแม่”
“โถ…แค่นิ้วนางโทร.มาบอกตามที่คุณฤทัยสั่ง ไม่ต้องเรียกว่าแม่ก็ได้ค่ะ” เป็นเลขาสรวง ชื่อนิ้วนาง โทร.มา
สุขหฤทัยลืมตา “เธอเองเหรอยัยนิ้วนาง?” ตวาดแว๊ด “โทร.มาทำไมแต่เช้า”
“ก็คุณฤทัยสั่งว่า ถ้ามีผู้หญิงมายุ่งกับคุณสรวงให้รีบโทร.บอก”
สุขหฤทัย ตาโต ตื่น หายง่วงทันที “ใครมายุ่งกับสรวง”
“นักข่าวที่ชื่อกาวค่ะ” เลขาบอก
ฤทัยชะงัก “นังกาว”

สรวงคุยงานอยู่ในห้อง “ผมว่าตรงนี้ยังไม่ค่อยดี แก้แบบใหม่ดีกว่า”
“ครับ” พนักอีกคนบอก
จู่ๆ กรรณนรีเดินหน้าบึ้งเข้ามา สรวงหันไปมอง ก่อนจะพยักหน้าให้พนักงาน สักครู่หนึ่งพนักงานจึงเดินออกไป
ทันทีที่ประตูปิด สรวงก็ถาม
“มีอะไรกรรณรี”
แทนคำตอบ กรรณนรีตบเผียะเข้าที่ใบหน้าสรวงอย่างแรง

ทางด้านมะยมซึงมีที่ท่าทีโรยๆ อาการเหมือนคนไม่สบาย กำลังกวาดสายตามองไปรอบๆ ทุกสิ่งอย่างในกรอบสายตาเห็นเป็นภาพพร่าเลือนไปหมด แถมหมุนติ้วๆ มะยมพูดอย่างอ่อนเปลี้ย
“ไหนแหล่งข่าวบอกว่า พี่ ว. รีเทิร์น น้อง พ. แล้วแอบมาเช่าคอนโดอยู่ด้วยกันแถวนี้ ทำไมไม่เห็นเนี่ย? โอย..คนยิ่งปวดหัวๆ อยู่ ไปเล่นซ่อนหากันที่ไหน” มือถือดังลั่น มะยมรับ “มะยมค่ะ
เป็นนพโทร.มาจากบริษัทสถาปนิก “มีเรื่องอะไรกันคุณ ทำไมจู่ๆ คุณกาวถึงได้บุกมาหานายสรวง”
มะยมงง “กาวบุกหาคุณสรวง”
“ฮื่อ! หน้าตาไม่ดีเลยครับ ไม่รู้มีเรื่องอะไรกัน”
“มะยมอยู่แถวนี้พอดี เดี๋ยวเข้าไปค่ะ” มะยมวางสายไปอย่างงงๆ “มีเรื่องอะไรยัยกาว”

สรวงถอยหลังกรูดหน้าเหวอ ขณะที่กรรณนรีย่างเท้าเข้าไปหา
สรวงงวยงง “ตบผมทำไม”
“ไปถามคุณขี้ไคลแฟนคุณดีกว่า ว่าฉันตบคุณทำไม? ฟังนะ ถึงเค้าจะเป็นแฟนคุณ แต่เค้าไม่มีสิทธิ์ตามไปราวีฉัน ครอบครัวฉัน เพราะฉันไม่ได้เป็นอะไรกับคุณ..โดยเฉพาะ “เมียน้อย” คุณ” กรรณนรีกระแทกเสียงใส่
สรวงงงหนัก “เฮ้ย! เมียน้ง เมียน้อยอะไรกันคุณ ผมยังไม่มีเมีย”
“จะมีไม่มี คุณไปคุยกับคุณขี้ไคลเอง ที่ฉันมาที่นี่ แค่บอก อย่าให้คนของคุณมายุ่งกับฉันอีก” กรรณนรีขึ้นเสียง
“เค้าทำอะไรคุณ”
“ไปถามเค้าเอง” กรรณนรีหันตัวจะกลับ
“คุณน่ะแหละต้องตอบผม”
พนักงาน เดินผ่านไปมามองทะลุกระจกเข้าไป เห็นสรวงคว้ามือกรรณนรี
“มานี่”
“ปล่อยฉันนะคุณ ปล่อย” สรวงไม่สน ลากกรรณนรีออกมา

นพยืนหน้านิ่ว มองเข้าไปด้านในและด้านหน้า อาการห่วงหน้าพะวงหลัง
มะยมวิ่งกระหืดกระหอบเข้ามายกมือไหว้พลางถาม “กาวล่ะคะ”
“อยู่ในห้องนายสรวง”
นพพูดแค่นั้นก็ตาค้าง เมื่อเห็นสรวงลากกรรณนรีออกมา กรรณนรีร้องลั่น
“ปล่อยฉันนะคุณสรวง ปล่อย”
นพกับมะยมตกใจตาค้าง สองคนถามในทำนองเดียวกัน แทบจะพร้อมๆ กัน
“อะไรกันสรวง” / “อะไรกันกาว”
สรวงบอกเสียงเข้ม “ผมมีเรื่องต้องคุยกับกรรณรี”
พูดจบสรวงก็ลากกรรณนรีผ่านหน้านพกะมะยมไป สองคนมองหน้ากัน
“จะคุยหรือจะฆ่าหั่นศพกันเนี่ย?” นพว่า
มะยมบอกท่าทีโรยแรง ไม่สบาย “ตามไปดีกว่าค่ะคุณนพ”
“ไป” นพรีบตามไปเร็วรี่

สรวงหน้าเข้มขับรถมาตามทาง ขณะที่กรรณนรีร้องกรี๊ดๆ บอกให้จอดรถ
“หยุดเดี๋ยวนี้นะคุณสรวง คุณจะพาฉันไปไหน”
สรวงตะคอก “สงบสติอารมณ์”
กรรณนรีสวนคำ “ฉันไม่ได้บ้า”
“สิ่งที่คุณทำเค้าเรียกว่าบ้า และคุณกำลังทำให้ผมบ้าเหมือนกัน”
พูดจบสรวงเร่งเครื่องยนต์ รถทะยานไปเร็วกว่าเดิมอีก กรรณนรีร้องลั่น
“หยุดนะคุณสรวง หยุด”

นอกจากสรวงไม่หยุด ยังเร่งเครื่องขับรถแล่นทะยานไปอย่างรวดเร็ว
ส่วนที่ด้านหลัง นพขับรถมาตามสรวงมาติดๆ มีมะยมนั่งมาด้วย นพบ่นงึมงำ

“นายสรวงขับเร็วอะไรขนาดนี้ ผมตามไม่ทันเลย เห็นมั้ยคุณมะยม”
เงียบไม่มีเสียงตอบ นพเหลียวมามอง เห็นมะยมทำท่าผะอืดผะอมก็ตกใจ
“เป็นอะไรคุณ” นพรีบเบนรถเข้าจอดข้างทาง
มะยมตอบแบบไม่มีเสียง “ไม่สบายนิดหน่อยค่ะ”
“ท่าทางคุณไม่ดีเลย เดี๋ยวผมพาไปหาหมอ”
โดยไม่รอคำตอบ นพขับรถมุ่งหน้าสู่โรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดทันที

ไม่นานต่อมามะยมนอนอยู่ในห้องพักผู้ป่วยแล้ว ข้างเตียงมีสายน้ำเกลือห้อยระโยงระยาง
“จะให้ผมโทร.ตามใครมั้ยครับ? คุณพ่อคุณแม่”
มะยมยิ้มให้อย่างอ่อนโยน “พ่อแม่ฉันเสียไปนานแล้วค่ะ”
“เสียใจด้วยนะครับ แล้วเพื่อนที่สตาร์อินเทรนด์” นพถาม
“คงวุ่นกับการทำงานอยู่น่ะค่ะ ขอบคุณมากนะคะ” ฝืนยิ้ม “ชีวิตฉันก็มีแค่นี้แหละ ที่ทำงานกับที่คอนโด ฉันไม่มีใคร”
นพยิ้มเจื่อนๆ รู้สึกสงสารและเห็นใจมะยม
มะยมเปลี่ยนเรื่อง “ห่วงแต่กาว ป่านนี้จะเป็นยังไงก็ไม่รู้”

สุขหฤทัยแต่งตัวสวยแดฉายก้าวฉับๆ มาในบริษัท มาถึงก็ไม่คุยกับใครเดินตรงไปที่ห้องสรวงทันที
“สรวงคะสรวง สรวง” ไม่เห็นใครในห้อง
เลขารีบถลาเข้ามาหา “คุณฤทัยคะ คุณสรวงไม่อยู่ค่ะ”
“สรวงไปไหน”
“ไม่ทราบค่ะ ออกไปกับคุณกาว”
“แล้วเธอทำไมไม่ห้าม” สุขหฤทัยฉุนกึก
“นิ้วนางจะห้ามได้ยังไงล่ะคะ? คุณสรวงเป็นเจ้านาย อีกอย่างไม่ใช่แค่คุณสรวง คุณนพออกไปกับนักข่าวที่ชื่อมะยมด้วยค่ะ” เลขารายงานทุกเม็ด
สุขหฤทัยตะลึง “หา”
“สองคู่ชู้ชื่นเลยล่ะค่ะ” เลขาว่า

สุขหฤทัยเดินมายังที่จอดรถหน้าบริษัทในอารมณ์ฉุนเฉียว ท่าทีโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยง พลางกดโทรศัพท์
“หนอยแน่ สองคู่ชู้ชื่น พวกผู้หญิงหน้าด้าน รู้ว่าเค้ามีแฟนอยู่แล้วยังจะมาให้ท่าเค้าอีก เจอดีแน่แก”
พอติดต่อใครไม่ได้ สุขหฤทัยจึงโทร.ไปที่บ้านนพ ซึ่งนาภรรยานพ ที่เป็นผู้หญิงสวย ท่าทางดุๆ รับสาย
“มีอะไรถึงได้โทร.มาหาพี่คะ น้องฤทัย”
“ก็คุณนพน่ะสิคะ...ออกไปไหนก็ไม่รู้กับผู้หญิง...สองต่อสอง”
นาหูผึ่ง “สองต่อสอง”
“พี่นาต้องจัดการนะคะ...ไม่อย่างนั้น พี่นาถูกสวมเขาแน่ๆ” สุขหฤทัยใส่ไฟ
นาเรียกจิกด้วยความโมโห “ผู้หญิงคนนั้น มันเป็นใคร”

เวลาเดียวกันนิคนั่งทำงานมือเป็นระวิงอยู่คนเดียวที่ออฟฟิศ ท่าทียุ่งมาก
“หายไปไหนกันหมดวะ ปล่อยให้ฉันทำงานคนเดียว” เสียงโทรศัพท์ออฟฟิศดังนิครับสาย “สตาร์อินเทรนด์ครับ”
“บอกนักข่าวที่ชื่อมะยม อย่ามายุ่งกับสามีฉัน” นาแผดเสียงมาทางสาย
นิคงง ถามสุภาพ “อะไรนะครับ”
“ไม่ได้ยิน หรือแกล้งไม่ได้ยินเพื่อปกปิดให้พรรคพวกกันแน่ บอกนักข่าวที่ชื่อมะยมอย่ามายุ่งกับสามีฉัน”
นิคพยายามเคลียร์ “ผมว่าน่าจะเป็นเรื่องเข้าใจนะผิด”
“ถ้าเข้าใจผิดว่าคุณนพเค้าไม่มีลูกมีเมีย ก็กรุณาเข้าใจให้ถูกด้วย ต่อไปจะได้ไม่ทำหน้าด้าน มายุ่งกับสามีคนอื่นรวมทั้งกรรณรีอย่าไปยุ่งกับคุณสรวง” นาพูดจบก็วางหูใส่
นิคงงหนัก “มาเป็นชุดเลย มะยมกับกาวไปเหยียบตาปลาใครวะเนี่ย”

สุขหฤทัยมาโวยวายที่บ้านสรวง กับสุดา
“คุณหญิงแม่จะยอมไม่ได้นะคะ พวกสตาร์อินเทรนด์มันแท็กทีมกัน เหมาผู้ชายไปหมดเลย นังกรรณรีก็ไปกับสรวง นังมะยมก็ไปพี่นพ”
สุดายิ้ม “ก็ดี”
สุขหฤทัยกรี๊ด “จะดีได้ยังไงล่ะคะคุณหญิงแม่”
“มันจะได้เป็นพวกของเราไง”
สุขหฤทัยกรีดเสียง “คุณหญิงแม่! แล้วฤทัยล่ะคะ”
สุดาปลอบ “ใจเย็นๆ ลูก.... อย่างมากนังกรรณรีมันก็เป็นได้แค่ของเล่น ดีเสียอีกจะ
ได้เอานังกรรณรี นังมะยมเป็นพวก เขียนด่านังภาพิศมัน”
“แล้วถ้าสรวงเกิดไปชอบมันจริงๆ ล่ะคะ”
สุดาบอกอย่างมั่นใจ “สรวงไม่ตาต่ำอย่างนั้นแน่”
สุขหฤทัยหลุดปาก “ไม่เหมือนคุณพ่อใช่มั้ยคะ”
สุดาโกรธ “ฤทัย”
สุขหฤทัยไม่หยุด อดเหน็บไม่ได้ “ก็แล้วมันไม่จริงเหรอคะ? ไม่อย่างนั้นคุณพ่อไม่ทิ้งคุณหญิงแม่ไปอยู่กับนังภาพิศหรอก”
สุดาโกรธจนตัวสั่น “หยุด อย่ามาหึงหวงบ้าๆ แล้วทำให้งานใหญ่เสียนะฤทัย ไม่งั้นอย่าว่าเป็นสะใภ้เลย เธอจะไม่ได้เข้าใกล้สรวง”
สองคนมองสบตากัน สุขหฤทัยไม่พอใจนัก แต่จำต้องเงียบ สุดาลดเสียงพูดอ่อนลง
“ยังไงแม่ก็เลือกหนู นังกรรณรีมันเป็นได้แค่ของเล่นสรวง จำไว้”

ไม่นานนักสุขหฤทัยเดินฟึดฟัดตรงมาที่รถ โกรธคุณหญิงสุดา
“เห็นแก่ตัวที่สุด ห่วงแต่เรื่องของตัวเอง กล้าให้ลูกไปอยู่ใกล้นังงูพิษ ซักวันเถอะนังกรรณรีมันจะฉกเอาสรวงไป” ยิ่งคิดก็ยิ่งโกรธสรวงบ่นงึมงำ

“สรวงนะสรวงพานังนั่นไปไหน”
สรวงขับรถพากรรณนรีมาถึงบ้านพักตากอากาศของครอบครัวในตอนเย็นๆ กรรณนรีมองด้วยสีหน้าตกใจ

“บ้านผมเอง”
“ฉันไม่สนว่าบ้านใคร? ฉันจะกลับ”
“ยังกลับไม่ได้ จนกว่าเราจะคุยกันให้รู้เรื่อง”
กรรณนรีเชิดหน้า “ฉันคุยในส่วนของฉันหมดแล้ว อย่าให้แฟนคุณมายุ่งกับฉัน”
“ผมยังไม่มีแฟน” สรวงบอกจริงจัง
“แล้วใครไปตามรังควานฉัน” กรรณนรีพูดอย่างมีอารมณ์
“นี่แหละที่เรายังคุยกันไม่รู้เรื่อง ลงมานี่” เดินอ้อมมาลากกรรณนรีลงจากรถ

สรวงลากกรรณนรีเข้ามาห้องหนึ่ง แล้วปิดประตู กรรณนรีถอยหลังกรูด
“อย่าเข้ามานะ”
สรวงยั่ว “กลัวเหรอ”
กรรณนรีกลัว จึงคิดแผนการเอาตัวรอด กรรณนรียิ้ม “กลัวทำไม?...ดีใจสิไม่ว่า”
สรวงงง และยิ่งงงหนักที่เห็นกรรณนรียิ้มยั่ว ทำตัวราวกับเป็นนางแมวยั่วสวาทผู้เจนจัดเดินเข้ามาลูบไล้ที่ใบหน้าตัวเอง
“คุณตกหลุมพรางฉัน...ง่ายกว่าที่ฉันคิดไว้ซะอีก” ทอดเสียงอ่อนโยนและหวานซึ้ง “คุณสรวง”
สรวงยิ้มจับมือกรรณนรีเอาไว้ ทำเป็นไม่รู้เรื่อง ถามขึ้น
“หลุมพรางอะไร?”
“ก็หลุมพรางการเป็นเมียของสรวง อริยะวรรตไงคะ? ยั่ว...ให้คุณโมโห เพื่อที่คุณจะได้ปล้ำฉัน....แล้วฉันจะได้ประกาศให้ทุกคนรู้ ว่าฉันเป็นอะไรกับคุณเอาสิคะคุณสรวง..ปล้ำฉันเลยสิคะ...ปล้ำเล้ย...ปล้ำเลย”
สรวงยิ้ม พร้อมกับหัวเราะนิดๆ “เอางั้นจริงเหรอ”
สรวงมองจ้องกรรณนรี ด้วยสายตาโลมเลีย คราวนี้กรรณนรีเป็นฝ่ายกลัวเริ่มถดตัวถอยออกซะเอง
สรวงคว้าตัวกรรณนรีมากอดเอาไว้ “จะหนีไปไหน”
“ปล่อย” กรรณนรีดันตัวออก
“ปล่อยทำไม? ฉันตกหลุมพรางเธอแล้วนี่...อยากให้ฉันปล้ำ...ฉันก็จะปล้ำ” ดึงร่างเข้ามาหา “มานี่” สรวงกระชากร่างกรรณนรีเข้ามากอด สองคนล้มลงบนเตียง
กรรณนรีร้องลั่น รีบผลักสรวงออก “ปล่อยฉันนะคะคุณสรวง ปล่อย”
“ไม่ปล่อย” สรวงแกล้งขู่ “จะปล้ำ” ว่าพลางโน้มหน้าเข้าหา
กรรณนรีกลัวมาก “ปล่อย” ยกสองมือผลัก และดันใบหน้าสรวงออกไปเต็มแรง
สรวงผงะอออก ร้องลั่น “โอ๊ยย!” หันมาจ้องตาขวาง “เธอทำให้ฉันโมโห”
“ก็อย่าปล้ำฉันสิ”
“งั้นเธอก็ต้องฟังฉันดีๆ” กรรณนรีนิ่ง สรวงบอก “ฉันไม่ได้เป็นอะไรกับสุขหฤทัย”
พอได้ฟังลึกๆ กรรณนรี แอบดีใจ แต่ปากดีใส่ “แล้วมาบอกฉันทำไม”
สรวงนึกตาม “จริงสิ...ฉันบอกเธอทำไม ความจริงฉันควรบอกคุณแม่..ท่านจะได้เลิกจับคู่ฉันกับฤทัยเสียที” กรรณนรีมองสรวง แอบดีใจแต่ทำไม่รู้ไม่ชี้

เย็นเดียวกันนั้น สุดานั่งหน้าเครียด อาการโกรธเกรี้ยว แววตามีแต่ความเกลียดชัง กัดฟันกรอด ตะโกนก้องในใจ
“ตายใจไปเลยภาพิศ แกตายใจไปเลย แล้วฉันจะทำให้แกเจ็บแบบกระอักเลือด ด้วยวิธีของแกเอง” สุดาหยิบมือถือขึ้นมา “พล ออกมาหาฉัน เดี๋ยวนี้”

ตรงมุมลับตาคน ในร้านอาหารแห่งนั้น คุณหญิงสุดาหันหน้ามาหาพลที่นั่งอยู่ตรงหน้า คุณหญิงสุดา เล่าแผนการให้กับพลฟัง พลพยักหน้ารับทราบ คุณหญิงยิ้มเหี้ยมพอใจ
ภาพิศนั่งทำผม ต่อด้วยทำเล็บ อยู่ที่ร้านของแฉล้ม อย่างสบายใจ แฉล้มหัวเราะนิดๆ ก่อนจะเอ่ยขึ้น
“ท่านอารักษ์มาอยู่กับคุณ เอาอกเอาใจอย่างนี้ คุณหญิงสุดาคลั่งแน่”
“คุณกำลังจะบอกฉันว่าหมาบ้า...มันจะกัดไปทั่ว”
แฉล้มหัวเราะชอบใจ ย้อนถาม “ไม่กลัวเหรอคะ”
“ไม่ค่ะ ถ้าหมาบ้ามันจะมากัดฉัน ฉันก็จะเอาไม้ทุบมันให้ตาย หลังจากนั้น ฉันจะตัดหัวมันส่งไปสถานเสาวภา”
“แหมๆๆ ตั้งแต่ดึงท่านกลับมาได้เที่ยวนี้ คุณมั่นใจเกินร้อยเชียวนะคะ” แฉล้มเย้า
“เพราะครั้งนี้ไม่ได้มีแค่ฉันคนเดียว” ภาพิศพูดพลางเอามือลูบท้อง “แต่มีลูกของท่านอยู่ใน
ท้องฉันด้วย แล้วลูกคนนี้จะเป็นลูกที่ประจบประแจงท่าน ไม่ได้ออกมายืนค้ำหัวด่า แบบคุณสรวง”
ภาพิศยิ้มอย่างพอใจ โดยไม่ทันสังเกตุเห็นว่าแฉล้มแอบเบ้ปากใส่

ตกตอนกลางคืน จู่ๆ ฝนก็เทสายลงมาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย ที่ด้านนอกบ้านพักตากอากาศของสรวงฝนตกหนัก สรวงยืนมองสายฝน ขณะที่กรรณนรีนั่งซุกอยู่มุมห้อง
“กลับกันได้หรือยัง”
“ได้ยังไง? ฝนกำลังตก”
“มีกฎข้อไหน ห้ามขับรถตอนฝนตก”
สรวงหันมามองกรรณนรี “ไม่มี แต่อันตราย”
กรรณนรีไม่ยอมจะกลับท่าเดียว “ก็ขับช้าๆ สิ”
“ขี้เกียจ” สรวงบอกหน้าตาเฉย
“ฉันขับให้ก็ได้”
“อยากกลับขนาดนั้นเชียว” สรวงชักฉุน
“ใช่” กรรณนรีขึ้นเสียง
“งั้นก็เดินกลับไปเอง” สรวงประชด
“เอ๊ะ! คุณนี่..ทำไมต้องประชดฉันด้วย”
“ไม่ได้ประชด แต่ถ้ารังเกียจฉัน อยากกลับขนาดนั้น ก็เดินกลับไปสิ ฝ่าสายฝนไปเลย”
กรรณนรีจ้องหน้า “อย่าท้านะคุณสรวง”

อ่านละคร ไฟมาร ตอนที่ 4/3 วันที่ 14 ก.ย. 55

ละครเรื่อง ไฟมาร บทประพันธ์โดย : เกตุวดี
ละครเรื่อง ไฟมาร บทโทรทัศน์โดย : พนิดา
ละครเรื่อง ไฟมาร กำกับการแสดง : -
ละครเรื่อง ไฟมาร ผลิตโดย : บริษัทดาราวิดีโอ จำกัด
ละครเรื่อง ไฟมาร แนวละคร : ดราม่าเข้มข้น
ละครเรื่อง ไฟมาร ออกอากาศ : พุธ-พฤหัสบดี เวลา 20.25 น. ทางช่อง 7 สีทีวีเพื่อคุณ
ที่มา manager