@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร รอยฝันตะวันเดือด ตอนทีี่ 1 วันที่ 13 ส.ค. 57

อ่านละคร รอยฝันตะวันเดือด ตอนทีี่ 1 วันที่ 13 ส.ค. 57

ในขณะเดียวกัน คาซูมะยังสาธยายถึงฮารุมิอุระให้ริวฟัง ว่าเป็นอดีตนักค้าอาวุธสงครามรายใหญ่ที่ผันตัวมาทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เพราะต้องการล้างภาพสีเทาของตัวเองในอดีต...

ระหว่างนั้น ฮารุกำลังตัดสินความยูตะ ลูกน้องที่ขโมยทองคำแท่งอ้างว่าลูกป่วยหนัก ฮารุไม่สนใจความจำเป็นเหล่านั้น กลับหาว่า ถ้าวันนี้ทรยศได้ วันหน้าก็อาจทรยศอีก เขาตัดสินลงโทษด้วยการเททองที่กำลังหล่อด้วยความร้อน กรอกปากยูตะอย่างเลือดเย็น


ริวฟังเรื่องราวจากคาซูมะแล้วถอนใจ “คลื่นใต้น้ำกำลังจะกลายเป็นคลื่นลูกใหญ่ที่เป็นภัยร้ายแรง ถ้าเจ้าหน้าที่บ้านเมืองอ่อนแอ บ้านเมืองคงต้องลุกเป็นไฟอีกครั้ง”

โคจิแทรกว่า โอะซะมุกำลังลำบาก ถูกเบื้องบนขัดขวางการทำงานทุกอย่าง สาเหตุมาจากยื่นฟ้องยามา–โมโต้ เพราะเขาเป็นนักการเมืองที่พัวพันกับสิ่งผิดกฎหมายทุกรูปแบบ และเชื่อว่าเมื่อเจ็ดปีที่แล้ว ยามาโมโต้อาจอยู่เบื้องหลังมิซาว่ากับซะโต้ โค่นล้มโอะนิซึกะ...ริวหนักใจ

วันเดียวกัน โอะซะมุอธิบายให้นายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ฟังในที่ประชุม โดยกางแผนที่เมืองซึ่งถูกแบ่งเป็นสามสี พื้นที่สีขาวเป็นของโอะนิซึกะ พื้นที่สีส้มเป็นของมิซาว่าและพื้นที่สีน้ำเงินเป็นของมิอุระ...มิซาว่ากับ

มิอุระเริ่มขยายธุรกิจจนมีปัญหาปะทะกันบ่อย...มาซารุ โคบายาชิ นายตำรวจที่ดูเอาจริงเอาจังกับหน้าที่แย้งว่า กลุ่มไหนก็ไม่น่ากลัวเท่ากลุ่มโอะนิซึกะ

โอะซะมุค้าน “โอะนิซึกะเป็นตระกูลซามูไร เป็นสายเลือดนักรบของจักรพรรดิที่ช่วยทางการปกป้องดูแลเมืองนี้มาตั้งแต่บรรพบุรุษ”

มาซารุอ้างหน้าที่ปกป้องบ้านเมืองเป็นของตำรวจ ไม่ใช่ตระกูลใคร โอะซะมุยืนยันว่าโอะนิซึกะให้ความร่วมมือกับทางการมาตลอด มาซารุสวน “ร่วมมือกับทางราชการหรือกับคุณ”

นายตำรวจท่านหนึ่งเห็นว่าสงครามระหว่างโอะนิซึกะกับมิซาว่าและซะโต้เมื่อเจ็ดปีก่อน ทำให้ผู้ใหญ่หลายคนเกรง โอะนิซึกะจะเป็นภัยต่อชาวเมือง

“ถึงคุณจะรอดจากการถูกตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อหาร่วมมือกับโอะนิซึกะ แต่พวกเราก็ยังจับตาดูพฤติกรรมของคุณอยู่” มาซารุยังปรักปรำโอะซะมุทำให้บรรยากาศอึดอัด

หลังจากเสร็จการประชุม ฮิโระเปรยกับโอะซะมุว่า ดูเหมือนมาซารุตั้งใจจะเล่นงานเรา

“มาซารุ โคบายาชิ เป็นตำรวจรุ่นเดียวกับฉัน เราขับเคี่ยวกันมาตั้งแต่สมัยเป็นนักเรียนตำรวจ เขาเถรตรงและเคร่งครัดกฎระเบียบมาก” โอะซะมุถอนใจแต่ไม่กลัวเกรง เพราะหน้าที่ของตนคือดูแลบ้านเมืองให้สงบสุข ประชาชนไม่ถูกคนชั่วรังแก

“ถ้าเจ้าหน้าที่บ้านเมืองทุกคนคิดอย่างท่าน ประ– ชาชนคงอุ่นใจ สังคมคงสงบสุขกว่านี้”

“ความฝันจะสำเร็จเมื่อเราเริ่มลงมือทำ ถึงการทำดีของเราจะเป็นแค่จุดเริ่มต้นที่เล็กน้อย แต่สักวันจะต้องมีคนเห็นและสานต่อความดีของเรา”

“น่าเสียดาย ถ้าพยานไม่ถูกฆ่าปิดปาก หลักฐานเอกสารไม่ถูกเผาทำลาย นักการเมืองชั่วอย่างยามาโมโต้คงโดนจับไปแล้ว” ฮิโระเสียดาย

โอะซะมุเห็นว่าคนชั่วยังลอยนวล จะไว้ใจใครไม่ได้ ต้องไปเตือนโอะนิซึกะโซเรียวให้ระวังตัว...แล้วในบ่ายวันนั้น โอะซะมุก็โดนคัตโตะกับโซวคนของมิ–ซาว่าลอบทำร้ายระหว่างทาง เผอิญยูจิ โคบายาชิ ผ่านมาช่วยแต่ก็โดนยิงจมกองเลือดไม่ห่างจากโอะซะมุ

ทั้งโอะซะมุและยูจิถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล อาจารย์หมอฮาร่าสั่งมายูมิให้ผ่าตัดยูจิด่วน ส่วนตนจะผ่าตัดโอะซะมุที่อาการสาหัสเสียเลือดมาก

เมื่อริวรู้ข่าวโอะซะมุถูกยิงอาการเป็นตายเท่ากันก็ตกใจ...ในขณะที่ มายูมิพยายามผ่าตัดช่วยชีวิตยูจิได้สำเร็จ ส่วนโอะซะมุอาการหนักเสียเลือดมากจนไม่สามารถยื้อชีวิตไว้ได้ ฮิโระเดินทางมาถึง มายูมิน้ำตาคลอเบ้าไม่รู้จะบอกเขาอย่างไร ที่คนดีอย่างท่านโอะซะมุต้องจากไป

ริวเองก็เสียใจไม่น้อยที่ต้องเสียโอะซะมุไป คาซูมะเล่าว่า โชคยังดีที่ผู้กองยูจิ โคบายาชิ ลูกชายมาซารุ ที่เพิ่งย้ายมาประจำเมืองนี้รอดชีวิต...ริวอยากรู้มากว่าเป็นฝีมือใคร

ooooooo

ในขณะที่ยามาโมโต้สะใจ หมดเสี้ยนหนามอย่างโอะซะมุไปได้ งานผิดกฎหมายของเขาก็จะง่ายขึ้น ต้องปิดบัญชีสายเลือดนักรบซามูไรอย่างโอะนิซึกะเป็นลำดับต่อไป

มายูมิเสียใจ บ่นกับนานะ เพื่อนหมอด้วยกัน ว่าตนเห็นโอะซะมุมาตั้งแต่เด็ก เคารพท่านเหมือนญาติผู้ใหญ่คนหนึ่ง ต้องมาเสียท่านไป ตนทำใจไม่ได้ ออกเวรแล้วขอกลับบ้านก่อน

“ช่วงนี้เมืองเรามีแต่เหตุการณ์ไม่น่าไว้ใจ ระวังตัวด้วยนะมายูมิ” นานะเตือน

เย็นวันนั้น มายูมิเดินกลับบ้านโดยไม่รู้ตัวว่ามีคนสะกดรอยตามตลอดทาง ชายลึกลับคนนั้นแอบถ่ายรูปเธอทุกอิริยาบถ เมื่อเธอขึ้นรถไฟไปแล้ว ชายคนนั้นโผล่ออกมา เขาคือริวนั่นเอง

ริวถือกล้องเดินออกมาจากสถานีรถไฟ คัตสึกับเซกิยืนรออยู่ที่รถ ทั้งสองแซวว่าทำตัวถ้ำมอง ตามดูมายูมิมาเป็นเวลาเจ็ดปี ไม่คิดจะปรากฏตัวให้เธอรู้บ้างหรือ ริวย้อนถามรู้แล้วได้อะไร

“อ้าว...ก็ผู้หญิงส่วนใหญ่เขาชอบให้ผู้ชายดูแลเอาใจใส่ ถ้าคุณหนูมายูมิรู้ว่า โซเรียวเป็นห่วงเธอตลอดเวลา เธอก็คงดีใจ” เซกิให้เหตุผล

ริวกลับบอกว่า ตนมีความสุขแค่นี้ ไม่ได้อยากให้ใครปลื้ม...กลับถึงบ้าน ริวเอารูปมายูมิที่แอบถ่ายมาตลอดเจ็ดปีออกมาวางเรียงรายดูด้วยความคิดถึง โคจิเข้ามาเห็นอดถามไม่ได้ว่าแค่นี้มีความสุขแล้วจริงหรือ ริวย้อนถาม ตนดูไม่มีความสุขหรืออย่างไร

“คุณหนูมายูมิเรียนจบแพทย์แล้ว ถึงเวลาที่โซเรียวจะกำหนดวันหมั้นและแต่งงานสักที”

“ผู้หญิงข้างกายโอะนิซึกะโซเรียวตกอยู่ในอันตรายทุกคน เจ็ดปีที่แล้วก็มีตัวอย่างให้เห็น ผมไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์นั้นซ้ำรอยอีก” สีหน้าริวขรึมลง

“หลายคนชอบนิยาม...รักแท้คือการเสียสละ แต่ถ้าการเสียสละทำให้คนที่เรารักไม่มีความสุข มันก็อาจไม่ใช่ความรักที่แท้จริง แน่ใจแล้วเหรอครับว่าคุณหนูมายูมิต้องการแบบนี้”

ริวมองรูปมายูมิอย่างครุ่นคิด คืนนั้นเขาเอาสร้อยจี้ดอกเดซี่ที่มายูมิถอดคืนเมื่อเจ็ดปีก่อนออกมาดูอย่าง

รู้สึกผิดในใจไม่หาย...ในขณะที่มายูมิกลับถึงบ้าน เมกุมิน้องสาว เอานิตยสารที่มีบทสัมภาษณ์ริวมาอ่านให้ได้ยินว่า เป็นนักธุรกิจหนุ่มไฟแรงตั้งเป้าขยายธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ในปีหน้าอีกร้อยเปอร์เซ็นต์ เมกุมิชมว่าพี่เขยตนเก่งจริงๆ มายูมิทำหูทวนลมไม่สนใจ เมกุมิยิ่งยั่ว

“นิตยสารอีกเล่มมีข่าวซุบซิบว่าพี่ริวเปลี่ยนคู่ควงใหม่ เป็นดาราสาวเจ้าหญิงแห่งวงการ เอ...สงสัยจะเป็นเพราะคนบางคนไปหักอกพี่ริวก่อนรึเปล่าเนี่ย”

มายูมิทนไม่ไหว แย่งนิตยสารมาวางลงแล้วไล่น้องขึ้นไปนอน พรุ่งนี้ต้องไปเรียนแต่เช้า เมกุมิหัวเราะคิกคัก มิยูกิกับทากาฮาชิ พ่อและแม่เดินมาถามหัวเราะอะไรกัน มายูมิทำไม่รู้เรื่องขอตัว ทากาฮาชิเกริ่นเรื่องโอะซะมุถูกยิง มิยูกิเสริม น่าใจหาย ไม่เสียแรงที่ให้ลูกเรียนหมอเลยมีโอกาสช่วยเจ้าหน้าที่บ้านเมือง ทากาฮาชิเห็นด้วย ต้องขอบคุณโอะนิซึกะโซเรียวที่ขอร้องตน ยอมให้ลูกเรียนหมอตอนนั้น มายูมิเหนื่อยใจขอตัวไปพักผ่อน

หลบเข้าห้องมาได้ มายูมิมองโคโตะเครื่องดนตรีประเภทพิณ แล้วอดคิดถึงริวไม่ได้ จนต้องพึมพำ เมื่อไหร่ชื่อริว โอะนิซึกะจะหายไปจากโลกของตนเสียที สายตาเธอดูเจ็บปวดน้อยใจ

รุ่งเช้า ริวระบายความอัดอั้นด้วยการฝึกเคนโด้ ฟาดดาบไม้ใส่คัตสึและเซกิอย่างดุเดือด จนทั้งสองสะบักสะบอมไปตามๆกัน โคจิเข้ามาปรามเตือนสติ “เคนโด้ไม่ได้เน้นการต่อสู้เพื่อวัดพละกำลัง แต่ต้องสู้ด้วยจิตใจและสมาธิที่เป็นหนึ่งเดียวกับการเคลื่อนไหว”

“ดาบเดียวในหนึ่งก้าว จัดการคู่ต่อสู้ได้อย่างแม่นยำ...ขอโทษอาโคจิที่ผมไม่มีสมาธิในการฝึกซ้อม” ริวก้มหัวให้โคจิ เหลือบมองลูกน้องทั้งสองที่ทำท่าโอดโอยเกินจริงน่าหมั่นไส้ขำๆ

ooooooo

เช้านี้ มายูมิมาตรวจดูบาดแผลยูจิที่ห้องพักฟื้น เขามองเธออย่างจำได้ว่าเคยเจอมาก่อน ทั้งสองครุ่นคิด เมื่อเจ็ดปีก่อน ยูจิเคยช่วยมายูมิจับคนร้ายกระชากกระเป๋าได้ เขาดีใจมากที่ได้พบเธออีก จึงขอเลี้ยงอาหารตอบแทนที่เธอช่วยชีวิตหลังออกจากโรงพยาบาล เธอยิ้มให้อย่างเป็นมิตร

พอเดินออกมา นานะปรี่เข้าถามได้ยินข่าวริว โอะนิซึกะควงดาราสาวเจ้าหญิงแห่งวงการหรือยัง มายูมิหน้าตึงปัดว่า ตนกับเขาไม่เกี่ยวข้องอะไรกัน การหมั้นเป็นแค่คำสัญญาปากเปล่าของผู้ใหญ่เท่านั้น...ตลอดเช้านั้น มายูมิหงุดหงิดใจเพราะได้ยินแต่พยาบาลในวอร์ดซุบซิบกันแต่เรื่องนี้ ตอกย้ำทำให้เธอลืมเขาไปจากใจไม่ได้เสียที

ในวันนั้น ริวมาเป็นประธานงานแฟชั่นโชว์การกุศล อาคิโกะ คุโดซัง ดาราสาวที่เป็นข่าวกับเขาร่วมเดินแฟชั่นด้วย โคจิกระซิบเตือนริวให้ทำหน้ามีความสุขให้สมกับหน้าที่ประธานของงาน มาซาโตะชี้ให้โคจิดูไฮไลต์บนเวที อาคิโกะเดินในชุดราตรีอลังการ สวมมงกุฎงามสง่าราวเจ้าหญิงในเทพนิยาย

“อาคิโกะ คุโด ลูกสาวของท่านไดกิ คุโด หนึ่งในหุ้นส่วนคนสำคัญของโอะนิซึกะ”

คาซูมะออกความเห็นว่าเธอสวยสง่ามีการศึกษาดี เหมาะเป็นคู่กับโซเรียวของเรา โคจิแย้งว่า ริวมีผู้หญิงในดวงใจอยู่แล้ว สามทหารเสือปรายตามองโซเรียวของพวกเขาอย่างอ่อนใจ การแสดงจบลง โคจิเอาช่อดอกไม้มายื่นให้ริวเพื่อไปมอบให้อาคิโกะ ในฐานะประธานจัดงาน ริวถอนใจจำต้องลุกเดินอย่างสง่าขึ้นไปมอบช่อดอกไม้ให้กับอาคิโกะ นักข่าวรุมถ่ายรูปมากมาย อาคิโกะยิ้มปลื้ม กล่าวเสียงดังเพื่อให้นักข่าวได้ยิน

“ขอบคุณสำหรับดอกไม้จากคนพิเศษของอาคิโกะนะคะ” หญิงสาวหอมแก้มริว ท่ามกลางเสียงฮือฮาของคนในงาน ริวจำต้องปั้นหน้านิ่ง ทั้งที่รู้สึกอึดอัดใจ

เมื่อเสร็จงาน อาคิโกะควงแขนริวเดินยิ้มแย้มออกมา นักข่าวรุมสัมภาษณ์ริว ถือเป็นการเปิดตัวคู่รักใช่ไหม ริวตอบว่าตนมาแค่เปิดงานเท่านั้น นักข่าวจึงถามถึงการหอมแก้มบนเวที อาคิโกะรีบออกตัวแทน “เป็นการขอบคุณสำหรับดอกไม้...จริงๆเราก็ขอบคุณกันแบบนี้เป็นปกติ”

นักข่าวยิ่งถามสนิทกันแบบนี้แสดงว่าคบกันอยู่จริง ริวหน้านิ่งไม่แสดงอาการใดๆ เซกิกับคัตสึช่วยกันนักข่าวเพื่อให้ริวได้เดินไปยังห้องรับรอง นักข่าวขอถ่ายรูปคู่ อาคิโกะรีบซบไหล่ริวแสดงความเป็นเจ้าของ ระหว่างนั้น มีชายชุดดำสวมแว่นอำพรางใบหน้าซุ่มมองอยู่...ทันใด ชายชุดดำก็พุ่งออกมาง้างมีดจะแทงริว อาคิโกะเห็นร้องกรี๊ด คัตสึเข้าขวางโดนมีดถากเข้าที่แขน ริวผลักอาคิโกะหลบ แล้วหันมารับมือกับคนร้าย แต่มีชายหนุ่มคนหนึ่งเข้ามาขวางทางริวเพื่อต่อสู้กับคนร้ายแทนจนจับคนร้ายส่งตำรวจได้...ชายคนนั้นเข้ามาโค้งให้ริว

“ผมขอโทษที่ปล่อยให้คนเข้ามาทำร้ายโซเรียว”

“ทำดีแล้วไทชิ...แต่ระวังไว้อย่าง ถ้ามีนักข่าวหรือชาวเมืองทั่วไปอยู่ด้วย เราต้องเลี่ยงการใช้อาวุธทุกชนิด อย่าให้ใครพูดว่า โอะนิซึกะทำตัวเหนือกฎหมาย” ริวกล่าวแล้วเดินไป

ไทชิหันมาเจออาคิโกะยืนหลบอยู่จึงโค้งเชิญให้เธอเดินตามริวไป อาคิโกะเชิดหน้าใส่...โคจิบอกแก่มาซาโตะและคาซูมะว่า ไทชิ คูกิ เป็นลูกชายคนเดียวของมากิ คูกิ อดีตองครักษ์ของอิจิโร่ ถูกส่งไปเรียนการ อารักขาในโตเกียว โคจิเล่าไปก็สะท้อนใจคิดถึงทาโร่ลูกชายที่เสียไป

ในห้องรับรอง ริวนั่งหน้านิ่งดูเย็นชา ต่างจากอาคิโกะที่ระริกระรี้เข้านวดเอาอกเอาใจ ริวเสียงแข็งเชิงตำหนิ “ที่คุณทำบนเวทีมันไม่เหมาะสม ทีหลังอย่าทำแบบนี้อีก”

“ไม่เหมาะสมยังไง ฉันก็แค่ขอบคุณสำหรับดอกไม้” อาคิโกะเข้าซบไหล่ แต่ริวขยับหนี

“อาคิโกะ คุโด นางเอกเบอร์หนึ่งของประเทศ มาถูกเนื้อต้องตัวกับผู้ชายแบบนี้เสียภาพพจน์เปล่าๆ”

“ฉันไม่สน หอมแก้มแค่นี้เล็กน้อยจะตาย ถ้าเทียบกับที่คุณเคยช่วยฉันไว้” อาคิโกะนึกย้อนไปอดีตครั้งที่เธอเพิ่งเข้าวงการ มีรัฐมนตรีโมโตรุนัดเธอมาคุยเรื่องหนังที่เขาออกทุนสร้างจะให้เธอเป็นนางเอก แต่กลับลวนลามเธอ

เผอิญริวอยู่ในห้องอาหารนั้น จึงเข้ามาปกป้องบอกว่าเธอเป็นคนในครอบครัว ตั้งแต่นั้นมา อาคิโกะก็ปักใจว่าตนเป็นคนที่ริวรัก...อาคิโกะกล่าวกับริวว่าถ้าวันนั้นเขาไม่มาช่วยตนไว้ ตนคงแย่ไปแล้ว ริวอ้างว่า รับปากพ่อเธอไว้ว่าจะช่วย ก็แค่ทำตามคำพูด

อ่านละคร รอยฝันตะวันเดือด ตอนทีี่ 1 วันที่ 13 ส.ค. 57

ละคร รอยฝันตะวันเดือด บทประพันธ์: ณารา
ละคร รอยฝันตะวันเดือด บทโทรทัศน์ : คฑาหัสต์ บุษปะเกศ, จีรนุช ณ น่าน
ละคร รอยฝันตะวันเดือด ดำเนินงานโดย : ยศสินี ณ นคร
ละคร รอยฝันตะวันเดือด กำกับการแสดงโดย : กฤษณ์ ศุกระมงคล
ละคร รอยฝันตะวันเดือด ผลิต : เมกเกอร์วายกรุ๊ป
ละคร รอยฝันตะวันเดือด แนวละคร โรแมนติก/ดราม่า/แอกชั่น
ละคร รอยฝันตะวันเดือด ออกอากาศทุกวัน ทุกวันพุธ และวันพฤหัสบดี เวลา 20.15-22.45 น.
ละคร รอยฝันตะวันเดือด เริ่มออกอากาศตอนแรกวันพฤหัสบดี 21 สิงหาคม 2557 นี้
ละครเรื่อง รอยฝันตะวันเดือด เป็นเรื่องต่อจากละครเรื่อง รอยรักหักเหลี่ยมตะวัน
ที่มา ไทยรัฐ