อ่านละคร รอยฝันตะวันเดือด ตอนทีี่ 6 วันที่ 22 ส.ค. 57
“เอาเปรียบคนไข้ที่เค้าต้องการเตียงรักษาอยู่นะคะ”“ถ้าผมยอมคืนเตียงนอนให้กับคนไข้ คุณมายูมิจะไปทานข้าวกับผมสักมื้อได้ไหมครับ”
มายูมินิ่งเงียบ ลังเลที่จะตอบ พยาบาลแอบลุ้น ว่ามายูมิจะตอบว่ายังไง
“ถ้าคุณหายและฉันว่าง ฉันจะไปทานข้าวกับผู้กองค่ะ”
ยูจิรีบลุกขึ้นด้วยความตื่นเต้น
“ตอนนี้ผมรู้สึกว่าหายแล้วครับ”
“ว้า...งั้นผมนอนเจ็บอย่างเดิมดีกว่า”
ยูจิทำทีล้มตัวลงนอนอย่างคนหมดแรง ท่าทางอ้อน น่ารัก ๆ พยาบาลแอบหัวเราะคิกคักคนเดียว มายูมิยิ้มนิด ๆ รู้สึกดีกับยูจิ
ในห้องประชุม...หมอหลายคนเริ่มทยอยเข้ามานั่งประจำที่ของตนในห้องประชุม มายูมิเดินเข้ามา ตรงมานั่งข้าง ๆ นานะที่โบกมือเรียก
“แวะไปเยี่ยมว่าที่แฟนมาแล้วเหรอ” นานะถามทันทีที่มายูมินั่งลง
มายูมิค้อนขวับ
“ฉันกับผู้กองยูจิเป็นเพื่อนกัน”
“ตอบเหมือนดาราเลย...เป็นเพื่อนที่ห่วงใยกันดีเนอะ”
“ฉันห่วงเฉพาะคนที่ดีกับฉัน”
“คุณริวก็ดีกับเธอสารพัด แล้วทำไม...”
“เลิกพูดถึงผู้ชายคนนั้นสักที ฉันไม่อยากได้ยิน”
มายูมิขยับท่านั่ง เตรียมพร้อมประชุมร่วมกับคุณหมอคนอื่น ๆ นานะมองมายูมิอย่างเหนื่อยใจ
มายูมินิ่งมองไปเบื้องหน้า ไม่ต้องการพูดเรื่องริวอีกต่อไป
ความสวยงามของญี่ปุ่นในยามค่ำคืน...จุนโกะอยู่ในห้องพัก เก็บเสื้อผ้าในตู้ใส่กระเป๋าเสื้อผ้า และกวาดเครื่องสำอางบนโต๊ะเครื่องแป้งเทลงในกระเป๋า อย่างเร่งรีบ ร้อนรน
เธอเอากล่องใส่เงินที่ซ่อนอยู่หลังตู้ลงมาเปิด นับเงินทั้งหมดใส่กระเป๋าเงินสะพาย ก่อนนึกขึ้นได้
“ตั๋วรถไฟ”
จุนโกะกวาดสายตามองหาตั๋วรถไฟตรงหน้าโต๊ะแป้ง เห็นตั๋วรถไฟตกอยู่กับพื้น จึงรีบหยิบขึ้นมา ยิ้มอย่างโล่งใจ แล้วหอบกระเป๋าเสื้อผ้า เปิดประตูออกมาอย่างเร่งรีบ นาบุยืนอยู่พร้อมกับลูกน้องมิซาว่า หน้าตาเหี้ยมเกรียมมาก
“จะไปไหน” นาบุถามเสียงเข้ม จุนโกะหน้าตื่น ตกใจมาก
จุนโกะถูกนาบุเหวี่ยงติดฝาผนัง เธอถูกซ้อม ทาคาโอะตามมายืนตรงหน้า สะบัดมีดพกประกายวาววาบควงมีดเล่นไปมาอย่างใจเย็นใกล้หน้า
“คิดจะหนีฉันเหรอ”
จุนโกะมองมีดพกด้วยความหวาดกลัว
“ฉันเปล่า...”
ทาเคโอะตวาด
“โกหก ถ้าฉันไม่มา ป่านนี้คงหนีออกนอกเมืองไปแล้ว”
จุนโกะหันขวับไปจ้อง สายตาไม่พอใจ
“ฉันไม่อยากถูกตำรวจจับ ทำงานให้แล้ว...ยังจะเอาอะไรอีก”
นาบุเงื้อมือตบ จุนโกะจนล้มไปกองกับพื้นอีกครั้ง เธอเช็ดเลือดที่มุมปากด้วยความตกใจ
“เธอต้องอยู่ต่อ ยังไปไหนไม่ได้”
“แต่พวกมิอุระเห็นหน้าฉันแล้ว”
“มิอุระที่เธอกำลังพูดถึง ตอนนี้อยู่ในคุกทั้งหมด ไม่มีใครเอาผิดกับเธอได้”
“จะให้อยู่ต่อไปทำไม ปล่อยฉันไปเถอะ”
ทาเคโอะยิ้มเหี้ยม
“เพราะเธอเป็นที่โปรดปรานของไอ้แก่มาซารุ ตราบใดที่เธอยังทำงานอยู่กับฉัน ความสัมพันธ์ระหว่างมิซาว่ากับมาซารุมันก็ง่ายในทุกเรื่อง”
จุนโกะมองทาเคโอะด้วยสีหน้าไม่พอใจ แต่ไม่กล้าแสดงออกอะไรมากนัก ติดอยู่ที่หวาดกลัวอยู่มาก
“ฮึๆ มิซาว่าอย่างฉันไม่ใช่คนโหดเหี้ยมอะไร ในเมื่อเธอทำงานดี ฉันก็มีรางวัลให้”
ทาคาโอะหันไปพยักหน้า นาบุยิ้มเอาเข็มฉีดยาออกมาถือในมือ จุนโกะลนลานหนี ถอยกรูดไปติดผนัง
“ไม่นะ...ฉันไม่ต้องการ”
“ไม่ได้ถาม”
ทาคาโอะตวาด เดินเข้าไปหาจุนโกะ แล้วดึงร่างเธอขึ้นมา จ้องหน้าเขม็ง
“ต่อไปนี้...เธอจะไม่มีวันหนีไปไหน เธอจะต้องทำงานอยู่กับมิซาว่าด้วยความยินดีและเต็มใจ”
นาบุถือเข็มฉีดยาย่างสามขุมเข้าไปหาจุนโกะ
“ไม่...อย่านะ”
จุนโกะพยายามกระเสือกกระสนหนี แต่ถูกลูกน้องมิซาว่าพากันล็อกตัวไว้ ทาคาโอะยิ้มเหี้ยม
“เธอจะขาดมันไม่ได้”
นาบุยิ้มเย็น ปักเข็มลงที่แขนจุนโกะสุดแรง จุนโกะกรีดร้องอย่างทรมานแสนสาหัส
“อ๊าย...”
ทาคาโอะนั่งลงข้างจุนโกะ กระซิบข้างหูเสียงนุ่มนวล เยือกเย็น
“ชีวิตเธออยู่ในกำมือของมิซาว่า ทางเดียวที่จะรอดคือปล่อยตัวไปตามธรรมชาติ...ทำตามความต้องการของฉันทุกอย่าง”
จุนโกะตาปรือ เริ่มเบลอเพราะฤทธิ์ยา จนหมดสติไป ทาคาโอะมองร่างไร้สติของจุนโกะอย่างพึงพอใจ
ทาคาโอะเดินออกมาจากที่พักของจุนโกะแล้วหันมาสั่งนาบุ
“โอะนิซึกะมีสัมพันธ์ดีกับมิอุระ ริวต้องหาทางช่วยไอ้ฮารุแน่ๆ”
“น่าจะให้ผมเก็บนังจุนโกะไปซะ”
“ผู้หญิงคนนี้ยังทำประโยชน์ให้เราได้อีกเยอะ จะฆ่าทิ้งให้เสียของทำไม”
นาบุคิดตาม เริ่มเข้าใจ
“เล่นงานไอ้ฮารุได้แล้ว ถึงเวลาสะสางบัญชีเก่า...ริว โอะนิซึกะ”
“มีแผนยังไงครับ”
“จุดอ่อนของผู้ชาย...อยู่ที่คนที่ตัวเองรัก ยิ่งรักมาก ยิ่งทุกข์มาก”
“โอะนิซึกะโซเรียวพัวพันกับผู้หญิงอยู่สองคน หมอมายูมิว่าที่คู่หมั้นกับอาคิโกะดาราสาว แต่ไม่รู้ว่าใครคือตัวจริงกันแน่”
“ก็ไม่จำเป็นต้องรู้นี่”
“หมายความว่า...”
“แค่ผู้หญิงสองคน มันยากตรงไหนเหรอ”
สายตาทาคาโอะร้ายลึก เจ้าเล่ห์ นาบุยิ้มเหี้ยมรับรู้ความหมายทางสายตาของเจ้านาย
“ทราบแล้วครับ”
“เด็ดหัวใจของ ริว โอะนิซึกะ ได้...ก็เหมือนฆ่ามันให้ตายทั้งเป็น”
ทั้งสองยิ้มร้าย อำมหิต
บ้านโอะนิซึกะเช้าวันใหม่...ริวหันมาถามย้ำอาคิโกะอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ
“จะให้ผมไปเป็นประธานงานเปิดอาคารใหม่ของมูลนิธิเด็กกำพร้า”
“มูลนิธิที่โอะนิซึกะเคยช่วยจัดงานหาทุนให้ไงคะ”
“วันนี้ผมมีงานประมูลที่ดินหลายแห่ง”
“ท่านผู้อำนวยการมูลนิธิและเด็ก ๆ ทุกคนอยากเจอคุณมากนะคะ แต่ถ้าคุณไม่สะดวกก็ไม่เป็นไรค่ะ”
หน้าอาคิโกะสลดลงเล็กน้อย โคจิแทรกขึ้น
“โซเรียวควรจะไปงานของมูลนิธิเด็กกำพร้านะครับ เพราะโอะนิซึกะเป็นประธานจัดงานมาตั้งแต่แรก”
“แล้วงานประมูลวันนี้”
“แค่ผม มาซาโตะ คาซูมะ ไปดำเนินการแทนได้ครับ ถ้าได้ข้อสรุปแล้วจะรีบรายงานให้ทราบเด็ก ๆ คงดีใจมากที่ผู้มีพระคุณของพวกเขาจะไปร่วมงานนี้ด้วย”
อาคิโกะยิ้มชื่นขึ้นมาทันที ริวนิ่ง ลึก ๆ แล้วไม่อยากออกงานร่วมกับอาคิโกะ
ในมูลนิธิเด็กกำพร้า...ริวตัดริบบิ้นดอกไม้เปิดอาคารมูลนิธิเด็กกำพร้าท่ามกลางเสียงปรบมือของทุกคน อาคิโกะประคองกอดแขนริว เดินเคียงข้างเข้าไปชมด้านในอาคารพร้อมผู้อำนวยการและเจ้าหน้าที่ ไทชิ คัตสึ เซกิ ตามคุ้มกันริวไม่ห่าง...ผู้อำนวยการมูลนิธิพาริวเดินเยี่ยมชมห้องนอน...ห้องเรียน...ห้องสมุดของเด็กในมูลนิธิ นักข่าวคอยเก็บภาพคู่ของริวกับอาคิโกะด้วยความสนใจ
ผู้อำนวยการนำริวกับอาคิโกะเข้ามาดูเด็ก ๆ ทานอาหารในโรงอาหารอย่างเอร็ดอร่อย อาคิโกะหันไปเห็นเด็กผู้ชายตัวเล็กคนหนึ่งนั่งกินข้าวอยู่เงียบ ๆ ไม่สนใจใคร เธอจึงพาริวตรงเข้าไปนั่งข้างเด็กชาย ยิ้มอบอุ่น
“อร่อยไหมจ้ะ” อาคิโกะถามอ่อนโยน
เด็กชายพยักหน้ารับ เริ่มรู้สึกถึงความเป็นกันเองจากรอยยิ้มของอาคิโกะ เธอป้อนอาหารให้เด็กชาย ท่าทางใจดี รักเด็กมาก ริวหันไปดูแลเด็กคนอื่น ที่กำลังรับประทานอาหาร เด็กผู้หญิงคนหนึ่งปากมอมแมม ริวช่วยเช็ดปากให้ด้วยความเอ็นดู ทุกคนมองอาคิโกะกับริวด้วยสายตาชื่นชม นักข่าวถ่ายรูปเก็บภาพบรรยากาศ และถือโอกาสเข้าไปสัมภาษณ์ทั้งคู่
อ่านละคร รอยฝันตะวันเดือด ตอนทีี่ 6 วันที่ 22 ส.ค. 57
ละคร รอยฝันตะวันเดือด บทประพันธ์: ณาราละคร รอยฝันตะวันเดือด บทโทรทัศน์ : คฑาหัสต์ บุษปะเกศ, จีรนุช ณ น่าน
ละคร รอยฝันตะวันเดือด ดำเนินงานโดย : ยศสินี ณ นคร
ละคร รอยฝันตะวันเดือด กำกับการแสดงโดย : กฤษณ์ ศุกระมงคล
ละคร รอยฝันตะวันเดือด ผลิต : เมกเกอร์วายกรุ๊ป
ละคร รอยฝันตะวันเดือด แนวละคร โรแมนติก/ดราม่า/แอกชั่น
ละคร รอยฝันตะวันเดือด ออกอากาศทุกวัน ทุกวันพุธ และวันพฤหัสบดี เวลา 20.15-22.45 น.
ละคร รอยฝันตะวันเดือด เริ่มออกอากาศตอนแรกวันพฤหัสบดี 21 สิงหาคม 2557 นี้
ละครเรื่อง รอยฝันตะวันเดือด เป็นเรื่องต่อจากละครเรื่อง รอยรักหักเหลี่ยมตะวัน
ที่มา ไทยรัฐ