อ่านละคร รอยรักหักเหลี่ยมตะวัน ตอนอวสาน[จบ] วันที่ 3 ส.ค. 57
พยาบาลยิ้มรับคำ เก็บอุปกรณ์ทำแผลเดินออกไป มายูมิมองหน้าเขา“คุณต้องได้รับบาดเจ็บเพราะเข้ามาช่วยฉันแท้ๆ ต้องขอบคุณมากนะคะ”
“ไม่เป็นไรครับ...แผลแค่นี้มันไกลหัวใจ” ยูจิยิ้มอย่างเป็นมิตร “คุณเรียนหมออยู่ที่นี่เหรอ”
“ฉันเพิ่งสอบเข้าได้น่ะค่ะ”
“คุณ....”
มายูมิก้มหัว
“มายูมิ ทากาฮาชิ...ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ”
ยูจิก้มหัวเช่นกัน
“ยูจิ โคบายาชิ...ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันครับ”
ทั้งสองมองหน้ากันด้วยแววตาที่เป็นมิตร
หลายเดือนผ่านไป..ไร่องุ่นของแพรวดาวอยู่ในหุบเขาที่สวยงามของจังหวัดทางภาคเหนือในประเทศไทย...แพรวดาว พ่อ แม่ ยืนมองคนงานกำลังหักร้างถางพง เพื่อเตรียมปลูกองุ่น บนเนื้อที่กว้างไกลสุดสายตา กลางหุบเขา
“ทำไร่องุ่นมันหนักมาก แน่ใจว่าจะไหวหรือลูก” แม่ถามอย่างเป็นห่วง
“หนูอยากทำฝันของทาเคชิให้เป็นจริงค่ะ”
พ่อปลอบ
“ฝันร้ายผ่านไปแล้ว...เก็บความทรงจำในอดีตไว้เตือนสติตัวเอง แต่เราต้องใช้ชีวิตอยู่กับปัจจุบันอย่างรู้คุณค่านะลูก”
“ขอบพระคุณพ่อกับแม่ที่เข้าใจหนูนะคะ”
แพรวดาวเข้าไปกอดพ่อกับแม่ รู้สึกอบอุ่นที่มีที่พึ่งทางใจ น้องชายของเธอวิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาบอก
“คนที่พี่แพรวดาวนัดสัมภาษณ์งานมาถึงแล้วครับ”
พ่อหันไปถาม
“ใช่คนที่บอกว่าอบรมเรื่องปลูกองุ่นและบ่มไวน์มากจากอเมริกาหรือเปล่า”
“ใช่ค่ะคุณพ่อ...เดี๋ยวหนูมานะคะ”
แพรวดาวรีบขอตัวเลี่ยงออกไป
แพรวดาวเดินมาถึง เห็นชายร่างสูงสวมหมวกปิดมาเกือบครึ่งหน้า ยืนหันหลังมองทัศนียภาพที่สวยงามอยู่
“คุณตะวันใช่ไหมคะ”
“ขอโทษที่มาก่อนเวลา...ผมทนคิดถึงคุณไม่ไหว”
แพรวดาวประหลาดใจกับน้ำเสียงที่อบอุ่นคุ้นเคย ตะวันหันกลับมา กุมมือเธอเบา ๆ แพรวดาวก้มมองมือนั้น นึกโกรธที่ชายแปลกหน้าไร้มารยาท แต่ก็รู้สึกหัวใจไหววูบผิดปกติ
“คิมิที่รักของผม”
แพรวดาวเงยหน้าขึ้นมองตะวันใกล้ ๆ ตะลึงงันด้วยความช็อก
“ทาเคชิ คุณยังไม่ตาย...”
แพรวดาวลูบมือไปตามใบหน้าและตัวของเขา ชายหนุ่มจับมือของเธอมาวางตรงหัวใจของเขา
“หัวใจของผมเต้นทุกวินาทีเพื่อคุณ หัวใจของคุณนำทางผมมาที่นี่”
ทาเคชิคลี่ยิ้ม สายตาบ่งบอกว่าคิดถึงหญิงคนรักมากเกินบรรยาย
“ทาเคชิ...”
แพรวดาวปล่อยโฮ โผเข้ากอดทาเคชิด้วยความดีใจ ซบใบหน้าบนแผ่นอกของเขาด้วยความรักท่วมท้น ทาเคชิประทับริมฝีปากของเขาที่หน้าผากของเธอ ไล่เรื่อยลงมายังแก้มนวล ด้วยความคิดถึงแทบขาดใจเช่นกัน สักพัก แพรวดาวนึกขึ้นได้
“คุณยังไม่ตาย แล้วร่างในงานศพคุณเป็นใคร”
ทาเคชิ นึกย้อนถึงอดีตในคืนวันนั้น
โกดังคลังสินค้าในอดีต...เคนอิจิ พุ่งตรงฝ่าเปลวไฟเงื้อดาบเข้ามาหาทาเคชิ
“ไอ้ทาเคชิ”
ทาเคชิ ทาโร่ หันขวับไปเห็น ตกใจมาก
“โซเรียว”
ทาโร่ออกแรงฮึดเฮือกสุดท้าย โผลุกขึ้นเอาตัวบังดาบที่เคนอิจิฟาดลงมา จนร่างทาโร่ทรุดร่วงลงกับพื้น ทาเคชิอาศัยจังหวะนั้น คว้าดาบของตัวเองด้วยมือข้างหนึ่ง แทงออกไปเสียบทะลุท้องเคนอิจิ และบิดข้อมือสุดแรง เคนอิจิสะดุ้งเฮือก ตาเหลือก เลือดสด ๆ ไหลออกมุมปาก ล้มลงขาดใจในทันที ทาเคชิประคองกอดแพรวดาวที่ยังสลบไม่ได้สติ เขาหันไปมองทาโร่ที่อาการปางตาย เป็นห่วงทาโร่ที่พยายามพลิกตัวอย่างยากลำบาก
“อดทนไว้นะทาโร่...ฉันพานายกับเซโกะออกไปจากที่นี่”
ทาโร่ยิ้มอย่างโล่งใจเมื่อเห็นแพรวดาวปลอดภัยอยู่ในอ้อมกอดทาเคชิ เขากระซิบเสียงแหบพร่า
“ได้โปรดดูแลโอคุซัง แล้วให้ผมตายแทนโซเรียว”
เสียงของทาโร่เริ่มขาดเป็นห้วง ๆ ใกล้สิ้นใจ
“โซเรียวจะมีความสุขกับโอคุซังที่เมืองไทย อย่าทำให้เธอเสียน้ำตาอีกเลย ผมขอร้อง...”
ทาเคชิมองเห็นความรักที่ฉายในแววตาทาโร่ เป็นรักที่เต็มไปด้วยความเสียสละ แม้ทาโร่จะไม่พูดออกมา และเมื่อเขาก้มลงเห็นใบหน้าซีดเซียวของแพรวดาว ที่ต้องเจ็บตัวเพราะเขา ก็ยิ่งทำให้เขารู้สึกเจ็บปวดไปกับเธอ
“ฉันจะทำทุกอย่างเพื่อให้เซโกะมีความสุข...ฉันสัญญา”
ทาโร่ยิ้มจาง ๆ จวนเจียนสิ้นใจ พยายามถอดแหวนประจำตระกูลที่นิ้วเขาออก แต่ถอดเท่าไรก็ถอดไม่ออก ไฟรอบตัวเริ่มโหมขึ้น ทาเคชิวางตัวแพรวดาวลงแล้วถอดเสื้อโค้ทของเขาสวมลงไปบนร่างทาโร่พร้อมกับวางดาบประจำตระกูลของเขาไว้ในมือทาโร่ เป็นเครื่องยืนยันทำให้คนคิดว่าเป็นศพทาเคชิ
“ทาโร่...ฉันจะไม่มีวันลืมบุญคุณของนาย ได้โปรดยอมรับการแสดงความขอบคุณจากฉันด้วย”
ทาเคชิก้มศีรษะให้ทาโร่ด้วยความนับถือในน้ำใจ ทาโร่ยิ้มให้และมองแพรวดาวเสมือนเป็นการอำลาครั้งสุดท้าย
“ลาก่อนครับ...โอคุซัง”
ทาโร่จ้องมองหน้าแพรวดาว แล้วดวงตาค่อยๆ ปิดลงไปพร้อมกับชีวิตที่จบสิ้นลงแล้ว...
โคจิยืนมองแหวนประจำตระกูลที่เคยมอบให้ทาโร่ด้วยความคิดถึง ก่อนสวมไว้ที่นิ้วของตัวเอง...เดินไปยังแปลงดาวเรืองที่เหลือเพียงหญ้าปกคลุมดินอย่างตัดสินใจ คว้าจอบที่วางอยู่ใกล้แปลงดินขึ้นมาขุด ตั้งใจฟื้นแปลงดาวเรืองกลับขึ้นมาใหม่อีกครั้ง….ในที่สุด...แปลงดาวเรือง เริ่มแตกยอด เขายิ้มอย่างดีใจ
ปัจจุบัน...แพรวดาวตกใจมากเมื่อรู้ความจริง
“แสดงว่าคุณอาโคจิรู้มาตลอดว่าร่างที่โดนไฟคลอก จนจำหน้าไม่ได้นั้นคือคุณทาโร่”
“อาโคจิรู้ตั้งแต่เห็นแหวนประจำตระกูลบนนิ้วของศพนั้นแล้ว”
“มิน่า...ในงานศพ ฉันเห็นอาโคจิแอบก้มหน้าเศร้าอยู่ข้างโลงศพของคุณ”
“คุณอาโคจิคงเคารพคุณมากนะคะ ถึงไม่ปริปากบอกใครเลย”
“ความเคารพเป็นแค่ส่วนหนึ่ง แต่ความรักและความเสียสละของพ่อที่มีต่อลูก มันยิ่งใหญ่จนประเมินค่าไม่ได้”
ทาเคชิบอกอย่างเศร้าๆ
แปลงดาวเรือง ในไร่องุ่นแพรวดาว...ดาวเรืองออกดอกบานสะพรั่ง เหลืองอร่ามเจิดจ้า...ทาเคชิประคองกอดแพรวดาวมองแปลงดอกดาวเรืองที่ออกดอกสวยงามตรงหน้าอย่างสุขใจ
“ฉันตั้งใจปลูกดอกดาวเรืองทั้งหมดนี้ เพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งความรักและความเสียสละที่ทาโร่มีให้กับเรา”
“ทาโร่คือคนที่ให้ชีวิตใหม่กับผม”
“คุณทาโร่ให้ความรักกับฉัน...และคืนคนที่ฉันรัก กลับมาหาฉัน”
“คุณรู้ไหม ว่าทำไมผมถึงใช้ชื่อไทยว่า ตะวัน”
แพรวดาวหันมองทาเคชิ รอฟังคำตอบ
“กลอนที่ผมเขียนให้คุณ ผมเรียกตัวเองว่านักรบแห่งตะวัน และคุณก็เป็นดวงดาว ตะวันกับดวงดาวอยู่บนฟ้าด้วยกัน ถ้าไม่มีตะวัน...ก็จะไม่มีดวงดาวเปล่งแสงสว่างในเวลากลางคืน”
แพรวดาวน้ำตาคลอ
“คุณคือดวงตะวันของฉันจริง ๆ ค่ะ”
“คุณก็คือแสงดาว...ที่คอยนำทางนักรบแห่งตะวัน”
“ความรักเป็นสิ่งมีค่ามาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเวลาที่เรากำลังจะเสียมันไป...เราโชคดีที่ได้รับความรักกลับมา”
“ผมสัญญาว่าจะรักษาความรักของเราไว้ ให้สมกับที่ทาโร่ยอมเสียสละความรักให้กับเรา”
ทาเคชิโอบกอดแพรวดาว แนบใบหน้าที่แก้มนวลของเธออย่างอบอุ่น แพรวดาวซุกตัวอยู่ในอ้อมกอดของทาเคชิอย่างมีความสุขที่สุด
4 ปีผ่านไป...ริวเดินตามโคจิและพวกนักท่องเที่ยวที่เดินชมไร่องุ่น หน้าตาริวบ่งบอกว่าเบื่อหน่ายมาก
“กว่าจะหาวันหยุดได้ แทนที่จะพาไปแช่น้ำพุร้อน นอนสบาย ๆกลับพามาทัวร์ชะโงกที่เมืองไทย เดินจนเมื่อยไปหมดแล้ว”
โคจินิ่งๆ มีเลศนัย ขณะนำริวเดินผ่านหน้าบ้านพักของเจ้าของไร่องุ่น ริวและโคจิ เห็นทาเคชิกำลังอุ้มลูกชายคนเล็กวัยขวบเศษไว้ในอ้อมกอด หัวเราะมองลูกชายวัยสามขวบ กำลังวิ่งไล่จับลูกสุนัขอย่างสนุกสนาน
“ได้เวลาทานข้าวกันแล้วค่ะ คุณพ่อ คุณลูก...”
แพรวดาวเดินออกมาตามทาเคชิกับลูก ริวยืนตะลึงอยู่ตรงนั้น จะส่งเสียงเรียกและก้าวตามทาเคชิแต่โคจิรีบจับไหล่ของริวเอาไว้
“เมื่อเขาต้องการชีวิตแบบนี้...เราก็ควรปล่อยเขาไป”
“ทาเคชิยังไม่ตาย” เสียงริวตะกุกตะกัก ตื่นเต้นดีใจ “เขาน่าจะบอกผมว่าเขายังไม่ตาย”
“ทาโร่ยอมสละชีวิต...เพื่อให้ทุกคนเข้าใจว่าเขาคือคุณทาเคชิ ท่านโอะซะมุช่วยประสานงานกับหน่วยราชการลับ ส่งตัวคุณทาเคชิไปอเมริกา เพราะถ้ามีคนรู้ว่าโอะนิซึกะโซเรียวยังไม่ตาย โอคุซังก็จะไม่ปลอดภัย”
“อาโคจิพาผมมาที่นี่ เพื่อให้เห็นกับตาว่าทาเคชิปลอดภัย”
โคจิพยักหน้ารับคำ ริวละล้าละลัง อยากเข้าไปหาทาเคชิด้วยความดีใจ แต่สุดท้ายก็ถอนใจยอมรับ
“ทาเคชิเลือกเส้นทางชีวิตของเขาแล้ว”
ริวกับโคจิหมุนตัวกลับ ตัดสินใจปล่อยให้ทาเคชิใช้ชีวิตในแบบที่เขาต้องการ
ทาเคชิ เหลียวหลังมามองเห็นหลังริวกับโคจิกำลังเดินตามกลุ่มนักท่องเที่ยวไป เขารำพึงกับตัวเอง
“ริว”
จู่ ๆ ริวก็ชะงัก หันหลังกลับมาราวกับได้ยินเสียงในความคิดของใครกำลังเรียกเขา ริวกับทาเคชิประสานสายตากันในระยะไกล แววตาทั้งคู่ถ่ายทอดความรู้สึกห่วงใยระหว่างสายเลือดของพี่น้อง ริวยิ้มและโค้งตัวต่ำ...นิ่งและเนิ่นนาน ให้ ทาเคชิโค้งตัวตอบ นิ่งและเนิ่นนานเช่นกัน ขอบตาแดงร้อนผ่าว คิดถึงริวเช่นกัน ทาเคชิมองตามริวกับโคจิหมุนตัวเดินกลับไปสมทบกับกลุ่มนักท่องเที่ยว ด้วยความรู้สึกอิ่มเอมใจ เมื่อได้เจอญาติที่เป็นเหมือนเพื่อนรักอีกครั้ง
วันใหม่...ห้องทำงานใหญ่ของสำนักงานแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น...ยามาโมโต้นั่งหันหลังอยู่ที่โต๊ะทำงาน ลูกน้องเดินเข้ามาเอาแฟ้มสีดำที่มีสัญลักษณ์ของซะโต้กับมาซาว่า วางลงบนโต๊ะ ยามาโมโต้เอามีดดาบสั้นขึ้นมา กรีดลงบนสัญลักษณ์ของทั้งสองกลุ่มช้า ๆ เยือกเย็นมาก
“มิซาว่ากับซะโต้โดนล้มล้างหมดแล้ว...แต่มันยังไม่จบแค่นี้หรอก”
น้ำเสียงยามาโมโต้ดูร้ายนิ่ง โหดเหี้ยมมาก
“ฉันจะโค่นสายเลือดนักรบซามุไรอย่างโอะนิซึกะให้สิ้นไปทั้งตระกูล จะไม่มีใครขวางเราได้อีกแล้ว อีกไม่นาน...เราจะยิ่งใหญ่ที่สุดในเมืองนี้” ยามาโมโต้ทุบกำปั้นลงบนโต๊ะ รอเวลาจัดการกับตระกูลโอะนิซึกะ
******** อวสาน รอยรักหักเหลี่ยมตะวัน Rising Sun ********
เตรียมพบกับ รอยฝันตะวันเดือด Rising Sun
อ่านละคร รอยรักหักเหลี่ยมตะวัน ตอนอวสาน[จบ] วันที่ 3 ส.ค. 57
ละครรอยรักหักเหลี่ยมตะวัน ประพันธ์โดย : ณาราละครรอยรักหักเหลี่ยมตะวัน บทละครโดย : คฑาหัสต์ บุษปะเกศ, จีรนุช ณ น่าน
ละครรอยรักหักเหลี่ยมตะวัน กำกับโดย : กฤษณ์ ศุกระมงคล
ละครรอยรักหักเหลี่ยมตะวัน ผลิตโดย : ค่าย เมคเกอร์ วาย,บริษัท เมคเกอร์ กรุ๊ป จำกัด
ละครรอยรักหักเหลี่ยมตะวัน ดำเนินงานโดย : ยศสินี ณ นคร
ละครรอยรักหักเหลี่ยมตะวัน ออกอากาศ : ทุกวันพุธ-พฤหัส เวลา 20.15 น.ช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ