อ่านละคร แค้นเสน่หา ตอนที่ 9 วันที่ 26 ก.ค. 56
จันทร์ต้องรับบทหนักเป็นแม่ครัวใหญ่ ส่วนรุ้งได้รับอนุญาตให้ช่วยเฉพาะหลังเลิกเรียน สาวน้อยยินดีช่วยอยู่แล้วแต่ในใจยังกังวลถึงฉัตต์เหลือเกิน...ถ้าเขากลับมาเห็นบ้านกลายเป็นร้านอาหารจะเกิดอะไรขึ้นทำมาทำไปกิจการร้านอาหารของครอบครัวปัณณธรเป็นไปได้ด้วยดี ทุกคนช่วยกันออกความเห็นและลงมติใช้ชื่อร้านว่าสวนราตรีตามชื่อภรรยาเก่าของพจน์ ลูกค้าชื่นชอบอาหารชาววังและบอกต่อจนร้านได้รับความนิยมในเวลาไม่นานนัก เหล่าคนงานก็กำลังใจดีขึ้น แต่เพราะกิจการรุ่งเรืองทำให้จันทร์ต้องกำหนดมาตรฐานและออกกฎให้ปฏิบัติตาม
ที่บ้าน ผักทุกชนิดต้องล้างหลายๆน้ำจนแน่ใจว่าสะอาด โต๊ะ เก้าอี้ เครื่องปรุงและช้อนส้อม...พวกนี้ต้องสะอาดที่สุด” ทุกคนรับฟังอย่างตั้งใจ “ข้อสอง...ฉันอยากให้ทุกคนทำงานอย่างมีความสุขเพราะสีหน้าเราจะบอก แขกเห็นแล้วก็จะสุขตาม ถ้าใครทำงานไม่มีความสุข...บอกฉัน เราจะคุยกัน”
ร้านอาหารสวนราตรีได้รับความนิยมจนลูกค้าแน่นขนัดทุกวัน ทุกคนยกเว้นคุณหญิงเพ็งฝึกฝนวิชา
ในครัวกันอย่างขะมักเขม้น โดยเฉพาะรุ้งที่เรียนรู้การทำอาหารสูตรต่างๆของแม่ได้รวดเร็วจนกลายเป็นผู้ช่วยคนสำคัญนอกเหนือจากตำแหน่งผู้จัดการร้าน จันทร์ภูมิใจในตัวลูกมากแต่ก็กลัวจะเหนื่อยจนไม่มีแรงเรียน
“ลูกไหวอยู่แล้วจ้ะ เราทำเต็มที่แล้ว ไม่มีคนกินลูกก็จะยอมรับ” จันทร์กอดลูกด้วยความปลื้มใจ
“แต่เราต้องทำให้ได้นะแม่ เงินคุณย่าหมดไปตั้งเยอะเพื่อทำร้าน แล้วไหนจะเงินลงทุนในช่วงแรกอีก”
เมื่อท่านหญิงแขไขเจิดจรัสได้ยินชื่อเสียงร้านสวนราตรีก็ตัดสินใจแวะมาเพื่อพิสูจน์บางอย่าง จันทร์เห็นเรือของวังรังสิยาแต่ไกลจึงบอกให้ยอดหลบไปก่อน ท่านหญิงเสด็จพร้อมคุณชายศักดินา คุณหญิงเพ็งรีบ
ออกไปต้อนรับและพาชมสวนรอบบ้านระหว่างรอเวลาตั้งโต๊ะเสวย
“คุณหญิงได้แม่ครัวมาจากไหน ได้ข่าวว่าทำอาหารชาววังเก่งและอร่อยมาก”
“อ้อ...ลูกสาวเพคะ เขาเก่ง”
“คุณหญิงส่งลูกสาวไปเรียนทำอาหารที่ไหนหรือ”
“เรียนเองเพคะ เพื่อนๆหม่อมฉันก็สอนบ้างและอ่านจากตำราบ้างเพคะ”
ขณะนั้นชายเดียวไปนั่งรอด้านในโดยมีจันทร์ดูแลไม่ห่างเพราะอยากใกล้ชิดลูกชาย ราชนิกุลหนุ่มพูดคุยอย่างสนิทสนมเพราะคุ้นเคยกันตั้งแต่เด็ก อดีตหม่อมอดปลื้มไม่ได้ ตัดสินใจถามถึงสาเหตุที่เขาเลือกเรียนหมอ
“ผมตั้งใจแต่เด็ก เห็นท่านพ่อเจ็บบรรทมอยู่
แต่พระที่ตลอด ท่านแม่ถึงไม่เป็นไรแต่ก็ชันษามากขึ้นเรื่อยๆ ผมคิดว่าต้องเป็นหมอเพื่อดูแลท่านครับ ท่านพ่อสิ้นเสียก่อนแต่ผมต้องดูแลท่านแม่ต่อไป”
ฟังแล้วจันทร์กลั้นน้ำตาไม่อยู่ ร้องไห้จนชายเดียวแปลกใจ
“คุณน้าครับ...ขอโทษนะครับ คุณน้าก็มีรุ้งเหมือนกัน เธอเป็นลูกสาวที่น่ารักของคุณน้า เธอคงคิดแบบผมที่เรียนพยาบาลก็เพื่อดูแลคุณย่ากับคุณน้า”
จันทร์สะเทือนใจมาก สองพี่น้องช่างเหมือนกันจนน่าตกใจ แม้แต่สาเหตุที่เลือกเรียนก็ยังทำเพื่อคนอื่นโดยไม่ห่วงตัวเอง...ท่านหญิงแขไขเสด็จมาถึงที่โต๊ะพอดีอดีตหม่อมจึงต้องถอยฉากและเข้าไปเตรียมอาหารในครัว
ooooooo
อาหารชาววังฝีมือจันทร์ทำให้ท่านหญิงรับสั่งชมไม่ขาดปาก แต่อดีตหม่อมก็ไม่ภูมิใจแม้แต่น้อย สายตาเพ่งพินิจของท่านหญิงทำให้รู้สึกตะครั่นตะครอตามเนื้อตัวอย่างบอกไม่ถูก ชายเดียวไม่รู้เรื่องหยิบโน่นตักนี่ให้ท่านแม่ จันทร์เฝ้ามองด้วยแววตาร้าวรานอิจฉาท่านหญิงเหลือเกินที่ได้รับความรักและความเอาใจใส่จากลูกชายของเธอ
ท่านหญิงที่จับสังเกตอาการจันทร์อยู่ตลอด
เห็นท่าทางซึมๆเลยแกล้งทักเพราะอยากดูปฏิกิริยา
“อาหารอร่อยมาก...ที่วังท่านชายมีต้นเครื่องคนหนึ่ง...เขาทำอาหารเก่งและถ่ายทอดวิชาให้หลานสาว ต่อมาหลานสาวคนนั้นก็กลายมาเป็นหม่อมของเจ้าพี่” ท่านหญิงยิ้มน้อยๆแล้วมองจันทร์นิ่งๆ อดีตหม่อมได้แต่หลบตาและฝืนทำสีหน้าปกตินิ่งฟังต่อไป “ไม่มีใคร
รู้หรอก...เขาอยู่ในวังนั่นแหละแต่ไม่มีใครกระโตกกระตาก ส่วนฉัน...จะทำอะไรได้เพราะเกิดเป็นหญิง ที่เขาพูดกันว่าน้ำท่วมปากก็เป็นแบบนี้นี่เอง ฉันรู้ดีเชียวล่ะ”
“ท่านแม่...ชายไม่ทราบเลยค่ะว่าท่านพ่อทรงมีหม่อมอื่น แล้วตอนนี้หม่อมคนนั้นไปไหนแล้วคะ”
“ถึงแม้จะดูเหมือนว่าเขาไม่ได้ไปไหนแต่เขาก็ตายไปแล้ว...ตายไปจากวังรังสิยา”
ชายเดียวโล่งใจที่ไม่ต้องเจอให้ลำบากใจ ท่านหญิงจึงแกล้งถามว่าเขาจะทำยังไงถ้ามีโอกาสเจออดีตหม่อม
“ชายไม่ทำอะไรเขาหรอกค่ะเพราะเป็นเรื่องของท่านพ่อกับเขาคนนั้น ชายเป็นลูกจะก้าวก่ายเรื่องของท่านหรือแม้แต่กับคนที่ยอมทำผิดกับท่านพ่อไม่ได้หรอกค่ะ”
จันทร์นิ่งไป ท่านหญิงชักสีหน้าย้อนถามเสียงขุ่นว่าลูกชายจะไม่ทำอะไรเลยหรือ
“ค่ะ...ชายจะไม่ทำอะไรแต่ชายคงเกลียดเขาเพราะเขาทำร้ายท่านแม่ ชายคงเลี่ยงไม่พูดและไม่มองหน้าเขา ชายจะไม่ลงโทษแต่ก็จะไม่ยกโทษให้ เขาจะเหมือนฝุ่นละอองที่ลอยไปมา...ไม่มีความหมายในสายตาชาย”
ท่านหญิงอ้าแขนโอบกอดลูกชายด้วยความรัก ในขณะที่จันทร์น้ำตารื้นขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ สะเทือนใจเหลือเกินที่ได้ยินลูกพูดถึงด้วยน้ำเสียงเย็นชา ชายเดียวไม่รู้เรื่อง เห็นจันทร์ร้องไห้ก็คิดเอาเองว่าเธอคงเห็นใจ เอ่ยปากขอบคุณในน้ำใจและขอตัวพาท่านแม่กลับวังเพราะออกมานานพอสมควร ท่านหญิงเกาะแขนลูกชายแต่ไม่วายส่งสายตาลึกล้ำบางอย่างให้จนจันทร์ใจไม่ดี สังหรณ์ว่าเธอคงสงสัยแต่ยังหาข้อพิสูจน์ไม่ได้เท่านั้น
ท่านหญิงอารมณ์ดีที่ได้แดกดันจันทร์ ระหว่างทางเดินกลับจึงถือโอกาสถามเรื่องคาใจจากคุณหญิงเพ็งว่าทำไมรุ้งถึงเรียกคุณหญิงว่าย่าแทนที่จะเป็นยายอย่างที่ควรจะเป็น คุณหญิงเพ็งนิ่งไปอึดใจแล้วตัดสินใจตอบ
“ควรจะเป็นอย่างนั้นเพคะ แต่เด็กๆชอบเรียกตามกัน หม่อมฉันเลยไม่ว่าอะไร”
ท่านหญิงแสร้งพยักหน้ารับแต่ในใจไม่เชื่อแม้แต่น้อย...ฝากไว้ก่อนเถอะ ฉันต้องรู้ให้ได้ว่าเรื่องจริงมันเป็นยังไง!
เวลาเดียวกันที่วังรังสิยาก็ได้ต้อนรับคุณหญิงทอแสงรัศมีที่มาเยี่ยมชายเดียวแต่คลาดกันเพราะเขาพาท่านแม่ไปร้านสวนราตรี ผ่องพยายามบอกให้รออย่างสงบแต่ไม่ค่อยได้ผลแถมถูกด่าอย่างหยาบคายจนบ่าวเก่าแก่ทนไม่ไหว ขอตัวไปทำงานและเก็บไปบ่นกับพวกพ้องที่ห้องครัว กว่าครู่ใหญ่ผ่องจึงออกไปรอที่ท่าน้ำเพราะได้ยินจากสนว่าท่านหญิงเสด็จกลับมาพร้อมคุณชาย
ฝ่ายคุณหญิงทอแสงเมื่อได้ยินญาติหนุ่มรับสั่งกับท่านแม่เรื่องรุ้ง ก็รู้สึกเจ็บร้าวไปทั้งอก เขาเอ่ยถึงสาวน้อยศัตรูหัวใจด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนและทูลว่าอยากให้เธอมาทำอาหารที่วังบ่อยๆหรือมาอยู่ด้วยกันเลยก็ยิ่งดี ผ่องยิ้มรับด้วยความเอ็นดู ต่างจากคุณหญิงที่กำหมัดแน่นด้วยความแค้นใจ...แกไม่มีวันแย่งพี่ชายไปจากฉันได้หรอกนังรุ้ง!
ooooooo
คุณหญิงทอแสงโกรธชายเดียวมากที่ชื่นชมรุ้งออกนอกหน้าจึงตามไปเอาเรื่องถึงในตำหนักตามประสาคนไม่ยอมแพ้ ชายเดียวเอือมระอาแต่ไม่อยากทำให้เป็นเรื่องใหญ่จึงเฉไฉกลบเกลื่อนแต่ไม่ได้ผล
“พี่ชายพูดเองหญิงได้ยิน พี่ชายรักมันทำไม...ทำไมพี่ชายเห็นมันดีกว่าหญิง หญิงรักพี่ชาย”
ชายเดียวอึ้งไปอึดใจ รู้อยู่ตลอดว่าญาติสาวรู้สึกยังไงแต่ไม่คิดว่าจะกล้าพูด “หญิงคะ...เรายังเด็ก อย่าเพิ่งคิดเรื่องรักเรื่องใคร่เลย เรายังต้องเรียนหนังสือ พี่อยากให้หญิงสอบเข้ามหาวิทยาลัยให้ได้ พอจบปริญญา...”
“ไม่...พี่ชายไม่ต้องพูดเรื่องเรียน หญิงจัดการของหญิงเอง พูดเรื่องพี่ชายเถอะ...ทำไมต้องรักอีรุ้ง หญิงไม่เคยคิดว่ามันเป็นเพื่อน มันเป็นศัตรูตลอดชาติ ไม่มีวันดีด้วย คนอย่างมันขอให้ตายเร็วๆ”
ชายเดียวอึ้งมาก ไม่คิดว่าญาติสาวจะพูดถึงเพื่อนได้หยาบคายขนาดนี้
“ถ้ายังคิดอะไรเลวๆแบบนี้ก็อย่ามาพูดกัน แล้วอย่าคิดทำร้ายรุ้งเพราะเขาเป็นคนดี เธอทำอะไรเขาไม่ได้หรอก”
คุณหญิงถึงกับเลือดขึ้นหน้า ผลุนผลันกลับวังอย่างหัวเสีย เมื่อเจอท่านหญิงปั้นซึ่งซื้อข้าวของมาเยี่ยมก็ทำกิริยาปั้นปึ่งใส่จนโดนเอ็ด แต่ราชนิกุลสาวก็ไม่ยี่หระ ทูลลาและขอขึ้นห้องไปด้วยท่าทีเฉยเมย ท่านหญิงปั้นเตือนให้อบรมเสียบ้างแต่ท่านชายวรจักรก็ยังนิ่งจนท่านหญิงเล็กทนไม่ไหว
“ขอหญิงพูดสักครั้งเถอะค่ะพี่หญิง หญิงไม่เคยพูดอะไรเลย ทุกอย่างเกี่ยวกับลูกสาวคนนี้ เจ้าพี่วรจักรเป็นคนตัดสินทัยทุกอย่าง หญิงไม่เคยมีเสียง ทรงตามทัยมากถึงได้เอาแต่ใจตัวขนาดนี้”
ท่านหญิงปั้นถอนใจยาว ส่วนท่านชายวรจักรได้แต่ส่ายหน้าพร้อมส่งสายตาเคืองๆไปทางภรรยา
“นี่ยังน้อยไปนะคะพี่หญิง...ถ้าเขาไม่พอใจแม่ เขาก็จะกระทืบเท้าใส่ ทั้งเถียงและกระแทกโน่นนี่ เขาไม่เคยคิดเลยว่าหญิงเป็นแม่!”
ความแค้นของคุณหญิงทอแสงทำให้เธอไม่ลังเลที่จะส่งจดหมายไปหาฉัตต์เพื่อแจ้งข่าวเรื่องการเสียชีวิตของพจน์ ราชนิกุลสาวเล่าเสริมเติมแต่งเอาเองว่ารุ้งเป็น
ต้นคิดทั้งเรื่องพจน์และเรื่องทำร้านอาหารจนฉัตต์ที่ได้อ่านจดหมายไม่กี่วันต่อมาถึงกับมือสั่น หยิบรูปรุ้งในลิ้นชักโยนทิ้งอย่างไม่ไยดี...เธอกล้าทำขนาดนี้เชียวหรือ แล้วเราจะได้เห็นดีกัน!
จดหมายจากบุคคลนิรนามทำให้ฉัตต์แทบคลั่ง หลบหน้าผู้คนและไม่ยอมไปเรียนจนพิสินีหนักใจ เธอไปหาเขาถึงห้องในวันหนึ่ง สะดุ้งตกใจเมื่อโดนเขาซักไซ้เรื่องพจน์เพราะแน่ใจว่าเธอรู้ทุกอย่างแต่ไม่ยอมบอก แถมพาลไปถึงจริมาซึ่งเขาเชื่อว่ารู้เรื่องแต่เก็บเงียบ แม้เธอจะแก้ต่างให้เท่าไหร่เขาก็ไม่ฟัง
“ฉัตต์คะ...ใจเย็นๆไว้ก่อนนะคะ บัวว่าต้องมีเหตุผลจำเป็นบางอย่าง”
“ผมรับไม่ได้...สังเกตเหมือนกันว่าก่อนผมมาเมืองนอก คุณพ่อมอบสิทธิ์ขาดให้คนคนหนึ่ง ผมสังหรณ์อยู่แล้ว...รู้ว่าคนที่มามือเปล่าต้องพยายามกอบโกยให้มาก ที่สุด ตอนนี้คุณพ่อเสียแล้ว เสียเพราะอะไร เสียเพราะใคร”
ท่าทีแข็งกร้าวทำให้พิสินีนึกกลัว เธอพยายามถามว่าใครคือผู้ต้องสงสัยแต่ไม่ได้คำตอบ หญิงสาวได้แต่โอบกอดเขาด้วยความเห็นใจ ฉัตต์ยอมให้ปลอบครู่ใหญ่จึงผละจากไปดื้อๆเพราะต้องเตรียมตัวกลับเมืองไทยอย่างเร่งด่วน!
หลังไปส่งฉัตต์กลับเมืองไทย ในอีกหลายวันต่อมา พิสินีก็รีบไปหาจริมาเพื่อแจ้งข่าวร้าย เล่าเรื่องจดหมายปริศนาที่บอกเรื่องราวทางเมืองไทยแต่ไม่ยอมลงชื่อ
จริมาถอนใจหนักหน่วง เดาได้เลยว่าพี่ชายต้องอาละวาด หนักแน่
อ่านละคร แค้นเสน่หา ตอนที่ 9 วันที่ 26 ก.ค. 56
ละครแค้นเสน่หา บทประพันธ์โดย : วราภาละครแค้นเสน่หา บทโทรทัศน์โดย : อ.แดง ศัลยา
ละครแค้นเสน่หา กำกับการแสดงโดย : สำรวย รักชาติ
ละครแค้นเสน่หา ผลิตโดย : บริษัท ฮูแอนด์ฮู จำกัด
ละครแค้นเสน่หา ควบคุมการผลิตโดย : วรายุทธ มิลินทจินดา
ละครแค้นเสน่หา ออกอากาศทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ