อ่านละคร แค้นเสน่หา ตอนที่ 7 วันที่ 19 ก.ค. 56
ฝ่ายผ่องวิตกที่ชายเดียวสงสัยเรื่องผีเฟือง แม้ยังไม่รู้ว่าเป็นใครและมีที่มาจากไหนแต่ท่าทางและคำถามหลายอย่างของราชนิกุลหนุ่มน้อยทำให้แม่นมเก่าแก่เป็นกังวล ท่านหญิงซาบซึ้งใจที่ข้าเก่าเต่าเลี้ยงเป็นห่วง รับปากจะจัดการทุกอย่างด้วยตัวเอง เมื่อผ่องออกไปแล้ว ผีเฟืองก็ปรากฏร่างลางๆและบอกให้ท่านหญิงเสด็จบ้านปัณณธร“คุณชายไม่ยอมไปเรียนเพราะชอบผู้หญิงบ้านนั้น หม่อมฉันจะแสดงให้เห็นว่าชอบคนไหน”
ท่านหญิงเสด็จไปบ้านปัณณธรวันต่อมาพร้อมชายเดียว จันทร์ออกมาต้อนรับอย่างนอบน้อม ท่านหญิงมุ่งสู่ประเด็นสำคัญว่าต้องการตัวรุ้งไปช่วยสอนทำขนมที่วังเพราะทราบว่าชายเดียวติดใจจนต้องมารบกวนบ่อยๆ อดีตหม่อมมีสีหน้ากระอักกระอ่วน ไม่รู้ว่าท่านหญิงจะมาไม้ไหนแต่ไม่อาจขัดรับสั่งได้ จำใจอนุญาตให้ลูกสาวไปที่วังในวันรุ่งขึ้น
ชายเดียวอาสาพารุ้งไปหาสาลี่ถึงโรงครัวของวังรังสิยา แม่ครัวใหญ่เอ็นดูสาวน้อยหน้าหวานเป็น
พิเศษเพราะกิริยาอ่อนน้อมถ่อมตนและไม่ถือตัว ตั้งท่าซักถามว่าขนมอะไรที่คุณชายติดใจนักหนา รุ้งตอบ
ทันทีว่าขนมบุหลันดั้นเมฆ สาลี่ถึงกับสะดุ้งแล้วหันไปมองหน้าสาวน้อยทึ่งๆ
“บุหลันดั้นเมฆ...ยังจะมีใครทำเป็นอีกหรือ ขนมโบร่ำโบราณขนาดนั้น”
รุ้งยิ้มน้อยๆเมื่อนึกถึงคนสอน แม่ของเธอเป็นคนทำขนมเก่งที่หาตัวจับได้ยาก สาลี่สังหรณ์ใจบางอย่าง
“แม่ของหนูชื่อบุหลันใช่ไหม”
“ไม่ใช่ค่ะ...แม่ของรุ้งชื่อจันทร์ค่ะ”
เมื่อตกลงกันเรื่องรายการอาหารและขนมกันเรียบร้อย สาลี่ก็ออกไปซื้อวัตถุดิบที่ตลาด ชายเดียวเลยถือโอกาสพารุ้งไปเดินเล่นรอบวัง ผีเฟืองเฝ้ารออยู่แล้ว แอบสะกดจิตเด็กสาวและสั่งให้ไปที่เรือนข้าหลวงเก่าริมน้ำ ชายเดียวมัวแต่ระวังข้างทางเลยไม่ทันสังเกตว่ารุ้งเดินถึงหน้าประตูเรือนและกำลังจะเข้าไป
“ในที่สุด...วันที่ข้ารอคอยก็มาถึง ในที่สุดเอ็งก็มาหาข้าจนได้”
รุ้งตาเบิกโพลงเหมือนคนไม่มีสติ เสียงหัวเราะบาดหูลอยมาตามลมทำให้รู้สึกอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก เด็กสาวพยายามขัดขืนแต่เหมือนมีพลังมืดจากไหน
ไม่รู้คอยดึงให้เธอเข้าไปข้างใน
“มา...เข้ามานังตัวมาร...มารเหมือนแม่เอ็ง”
ชายเดียวตามมารั้งไว้ทัน ผีเฟืองโกรธมากแต่ทำอะไรไม่ได้ ส่วนรุ้งก็หน้ามืดเป็นลมตรงหน้าเรือนนั่นเอง!
ชายเดียวตวัดร่างสาวน้อยไว้ในอ้อมแขนแล้ววิ่งไปที่ตำหนัก ร้อนใจมากเมื่อเห็นรุ้งยังไม่ได้สติ คุณหญิงทอแสงรัศมีมาหาที่วังพอดี ปรี่เข้าขวางและทำท่าขัดใจเมื่อเห็นพี่ชายคนสำคัญเป็นห่วงผู้หญิงคนอื่นมากกว่า
“รู้หรือเปล่าว่ามันน่ะมารยา เล่นละครจนเคยตัว มันทำยังไงเข้าล่ะถึงต้องอุ้มกันมาอย่างนี้”
ชายเดียวไม่พอใจที่ญาติสาวพูดจาดูถูกรุ้งแต่ไม่มีเวลาต่อล้อต่อเถียง ได้แต่สั่งเสียงเข้มให้หลีกทาง คุณหญิงไม่ยอม ทำกร่างขวางทางจึงโดนเขาดันจนล้มไปนั่งกับพื้น
ท่านหญิงตกใจมากเมื่อเห็นสภาพรุ้ง ร้องเรียกผ่องให้มาช่วยปฐมพยาบาล ชายเดียวเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดตั้งแต่เพื่อนสาวหายตัวไปแล้วจู่ๆก็ปรากฏตัวที่หน้าเรือนข้าหลวงเก่า ท่านหญิงหน้าซีดรับสั่งเสียงดัง
“แล้วไปทำไม...มันไม่ใช่ที่ที่ควรจะพาแขกไปดู งูเงี้ยวเขี้ยวขอมีออกมากมาย”
“แต่รุ้งไม่ได้เจอสัตว์ร้าย เขาขึ้นไปบนเรือนไปยืนหน้าห้องที่มีไม้ตอกเอาไว้และรุ้งก็ทำท่าเหมือนพูดกับใครไม่รู้”
ผ่องสะดุ้ง มั่นใจมากว่าเป็นฝีมือผีเฟือง ท่านหญิงก็คิดเช่นกันแต่ต้องกลบเกลื่อนไม่ให้ลูกชายสงสัย จังหวะเดียวกัน...คุณหญิงทอแสงที่พยุงตัวเองมาอย่างทุลักทุเล ทูลฟ้องท่านป้าว่าถูกชายเดียวผลักและพูดจาด้วยอย่างเย็นชา
“ก็หญิงทำไมจิกหัวเรียกคนอื่น เขาก็เป็นลูกมีพ่อมีแม่เหมือนกัน หญิงทำถูกหรือ ไม่คิดดูให้ดี”
“ท่านป้าขา...ทรงได้ยินแล้วนะคะ พี่ชายเดียวปากจัดแค่ไหน หญิงแตะต้องรุ้งเป็นไม่ได้ ป้องกันกันดีนัก”
คุณหญิงจะฟ้องต่อแล้วชะงัก เมื่อทุกคนหันไปสนใจรุ้งที่เพิ่งฟื้น ทิ้งให้เธอฮึดฮัดอยู่คนเดียว
ooooooo
แม้ท่านหญิงแขไขเจิดจรัสจะกลุ้มเรื่องชายเดียวกับรุ้งมากแค่ไหนก็คงไม่เท่าคุณหญิงทอแสงรัศมีราชนิ-กุลสาวกลับเข้าวังด้วยอารมณ์ขุ่นมัวจนใครก็แทบเข้าหน้าไม่ติด ท่านหญิงปั้นพี่สาวท่านชายวรจักรมาเยี่ยมพอดี ได้ยินเรื่องราวและเห็นท่าทางของหลานสาวก็อดเคืองไม่ได้ เพราะถึงแม้เธอจะเป็นผู้หญิงหัวสมัยใหม่แต่ก็ไม่นิยมดูถูกคนฐานะต่ำกว่า
“ได้ยินเธอพูดจิกหัวคนแบบนั้น เธอคิดว่าเป็นใคร สูงแค่ไหนถึงเหยียดหยามเหมือนเขาอยู่ใต้ฝ่าเท้าเธอ”
คุณหญิงทอแสงรัศมีหน้าเจื่อน ท่านหญิงปั้นเลยหันไปทางน้องชาย
“สั่งสอนลูกเสียมั่งชายวรจักร หญิงอัปสรา ที่ที่
เราเกิดมาไม่ได้ทำให้เราสูงกว่าคนอื่นหรอกก็คนเท่าๆ กันแหละ”
ท่านหญิงปั้นเสด็จออกไปแล้ว ท่านชายวรจักรกับท่านหญิงเล็กหน้าม้าน มองกันไปมาเครียดๆ ไม่ต่างจากคุณหญิงทอแสงรัศมีที่หงุดหงิด โกรธที่ถูกดุไม่ไว้หน้า...วันนี้ช่างไม่ใช่วันของเธอจริงๆ!
ฟากบ้านปัณณธรก็อดเป็นห่วงรุ้งไม่ได้ โดยเฉพาะคุณหญิงเพ็งที่ได้ฟังเรื่องราวของท่านหญิงแขไขเจิดจรัสมามาก ไม่สบายใจเลยที่ต้องปล่อยหลานสาวไปตามลำพัง
“ได้ยินว่าเด็จมานี่ทีไรก็มีอารมณ์เรื่อยๆหรือจันทร์ แม่ได้ยินริมาบ่นบ่อยๆ มันก็แปลกดี...ลูกชายมาวิ่งเล่นบ้านนี้ ทำไมถึงไม่เกรงใจเรา ริมาบอกว่าเป็นเฉพาะ กับลูกด้วยใช่ไหมจันทร์”
จันทร์นิ่งไปเพราะไม่รู้จะพูดยังไง คุณหญิงเพ็งนึกถึงเรื่องในอดีตแล้วเปรยให้ฟังเสียงอ่อน
“ตอนท่านเสกกับท่านชายลือลั่นกันว่าเหมือนกิ่งทองใบหยก ต่อมาก็ได้ยินว่าท่านชายทรงมีหม่อมเสียแล้ว ก็คงเพราะพระนิสัยเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายแบบนี้ล่ะ”
ขณะเดียวกันที่วังรังสิยา...ท่านหญิงกระวนกระวายใจเรื่องรุ้ง เก็บองค์แต่ในห้องเพื่อระงับอารมณ์แต่ท้ายที่สุดก็ทนไม่ไหว ตะโกนเรียกผีบ่าวคนสนิทมาพูดกันให้รู้เรื่อง ผีเฟืองจะหนีหน้า ท่านหญิงรู้ทันจึงรีบดักคอ
“ถ้าไป...ก็ไม่ต้องกลับมาอีกเลยไปให้พ้นถึง
กลับมาฉันก็จะไม่พูดด้วย เราอยู่กันคนละโลกก็ให้ขาดกันไป”
ผีเฟืองกลัวท่านหญิงกริ้วหนักเลยเข้ามาหมอบกราบตรงหน้าเหมือนเคย
“ยังไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร ทำกับเขาแบบนั้นได้ยังไง ถ้าเขาเป็นอะไรไปใครเดือดร้อน มีความคิดบ้างไหม”
“มันทำเสน่ห์เล่ห์กล คุณชายไม่ยอมไปเรียนต่อเพราะมัน ท่านหญิงไม่สบายทัยบังคับคุณชายไม่ได้ เดี๋ยวท่านชายก็มาพิโรธท่านหญิงของหม่อมฉัน”
“ท่านชายเด็จไปสวรรค์แล้ว ไม่เหมือนเอ็งหรอกนังเฟือง ไปไหนไม่ได้เพราะจิตอาฆาตพยาบาท เป็นสัมภเวสีเร่ร่อนคอยรังควาญผู้คนอย่างนี้ หลอกหลอนคนในบ้านจนเขาระอา นี่ยังไปหลอกคนนอกบ้าน เอ็งทำร้ายเขาแล้วเห็นแก่หน้าข้ากับคุณชายบ้างไหม เขาตายที่นี่จะเป็นยังไง"
อ่านละคร แค้นเสน่หา ตอนที่ 7 วันที่ 19 ก.ค. 56
ละครแค้นเสน่หา บทประพันธ์โดย : วราภาละครแค้นเสน่หา บทโทรทัศน์โดย : อ.แดง ศัลยา
ละครแค้นเสน่หา กำกับการแสดงโดย : สำรวย รักชาติ
ละครแค้นเสน่หา ผลิตโดย : บริษัท ฮูแอนด์ฮู จำกัด
ละครแค้นเสน่หา ควบคุมการผลิตโดย : วรายุทธ มิลินทจินดา
ละครแค้นเสน่หา ออกอากาศทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ