@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร แค้นเสน่หา ตอนที่ 4 วันที่ 8 ก.ค. 56

อ่านละคร แค้นเสน่หา ตอนที่ 4 วันที่ 8 ก.ค. 56

“หม่อมฉันก็กลัวมังคะท่านหญิง...กลัวจนขึ้นสมองแล้วมังคะ” ผ่องช่วยเสริม

ท่านหญิงจนปัญญาจะรั้ง ลุกขึ้นช้าๆ “เอาล่ะ...ฉันพูดที่อยากพูดไปแล้ว จะเก็บไปคิดแค่ไหนก็แล้วแต่ ถ้าจะออกไปจริงๆก็มาเอาเงินเดือน ฉันจะให้เงินก้อนไปบ้างเผื่อว่ายังหางานไม่ได้”

ท่านหญิงลุกไปแล้ว ทิ้งความอึดอัดใจไว้กับสาลี่และผ่อง สำนึกในบุญคุณยังท่วมท้นแต่ประสบการณ์หวาดกลัวจับขั้วหัวใจยังตามหลอกหลอน ในที่สุดสองบ่าวก็คิดได้ พากันไปจุดธูปขออโหสิกรรมกับผีเฟืองเพื่อจะได้อยู่ในวังต่ออย่างสงบ ท่านหญิงประทับด้านบนมองลงมาก็โล่งอก พูดลอยๆกับผีเฟืองทั้งที่ยังไม่เห็นตัว


“ฟังกันมั่งนะ ฟังกันมั่ง วุ่นวายกันไปทั้งวังแล้ว เฮี้ยนไม่เข้าเรื่อง”

ลมพัดวนไปมาไม่แรงนักแต่ก็ทำให้ท่านหญิงรู้สึกว่าวิญญาณต้นห้องคนสนิทรับรู้ทุกอย่าง เธอจะพูดต่อแล้วต้องชะงักเมื่อลูกชายแวะมาหาเพราะเพิ่งกลับจากโรงเรียน ชายเดียวคลานไปกราบที่ตัก พูดอ้อนๆเหมือนรู้ใจว่าท่านแม่ประทับคอยเขาอยู่

“คอยสิลูก...ชายไปโรงเรียนแม่ไม่มีเพื่อน อยู่คนเดียววังออกใหญ่โต...แม่เหงา”

“ชายออกจากโรงเรียนมาอยู่เป็นเพื่อนท่านแม่ไหมคะ เรียนที่วังก็ได้ให้ท่านแม่สอน”

“พูดจริงหรือนี่ ใจดีจริงลูกชายฉัน แล้วไม่คิดถึงเพื่อนหรือจ๊ะ ไม่รักเพื่อนแล้วหรือ”

“ชายรักท่านแม่มากกว่าค่ะ คนเรารักพ่อรักแม่ ท่านพ่อสิ้นไปแล้ว ชายก็ย้ายมารักท่านแม่คนเดียว”

ท่านหญิงตื้นตันใจที่ชายเดียวรักเธอมาก นึกขอบใจเฟืองที่พาสิ่งพิเศษสุดในชีวิตมาให้

ค่ำวันนั้น...สองแม่ลูกรับประทานอาหารด้วยกันอย่างมีความสุข สาลี่กับผ่องมาดูแลปรนนิบัติเหมือนเคย

“ขอบใจมากนะ ทั้งผ่องและสาลี่”

“ยังไงหม่อมฉันก็ทิ้งคุณชายเดียวไปไม่ได้หรอกมังคะ” ผ่องทูลยิ้มๆ

“หม่อมฉันด้วยมังคะ ต่อไปนี้นังสาลี่ถวายสัญญาจะไม่คิดลาออกอีกแล้ว ถึงจะเจอกี่ครั้งก็ไม่ออกมังคะ”

ท่านหญิงปลาบปลื้มมากที่บริวารอยู่พร้อมหน้าอีกครั้ง นึกถึงเฟืองแล้วขอร้องในใจให้ต่างคนต่างอยู่อย่าจองเวรหรืออาละวาดผู้คนในวังอีกเลย

ooooooo

จริมาแวะมาคุยกับรุ้งที่ห้องและนินทาอากัป-กิริยาของชายเดียวที่นิ่งจนติดจะเย็นชาทั้งที่อยู่ในงานสวดศพพ่อตัวเอง รุ้งส่ายหน้าเบาๆเพราะเคยชินกับอาการไม้เบื่อไม้เมาของจริมากับชายเดียวแต่ก็อยากให้เข้าใจราชนิกุลหนุ่มน้อยว่าอาจทำใจได้แล้วเพราะได้ยินมาว่าท่านชายรังสิโยภาสเจ็บออดๆแอดๆมานาน

“ถึงยังไงริมาก็ต้องเห็นใจเขานะ ถ้าเจอคุณชายก็ต้องพูดกับเขาดีๆ เข้าใจไหม” จริมายังรวนว่าเข้าใจเรื่องอะไร รุ้งส่ายหน้าอ่อนใจ “ก็อย่างที่ควรเข้าใจนั่นแหละ ถ้าไม่รู้ว่าควรเข้าใจอะไรก็ตามใจ อยากเป็นคนใจร้ายก็ตามใจ”

“ไม่สงสารหรอก ไม่ได้ทำให้เขาเจ็บสักหน่อย อยากทำท่าเจี๋ยมเจี้ยมแบบชาววัง พูดครับครับอยู่นั่นแหละ ริมาฟังแล้วจั๊กจี้หู นี่ดีนะว่าเขาเป็นแค่คุณชาย ถ้าเป็นท่านชายเราคงต้องเพคะเพขา”

และแล้วบททดสอบของจริมาก็มาถึงในวันรุ่งขึ้นเมื่อเผชิญหน้ากับชายเดียวที่มาเยี่ยมฉัตต์ แต่เพราะความหมั่นไส้จึงลืมคำเตือนของรุ้งหมด ตั้งหน้าตั้งตารวนราชนิกุลหนุ่มจนเขาหน้าจ๋อย รุ้งตามมาปรามและอาสาพาชายเดียวไปหาฉัตต์แทน

ฝ่ายจันทร์ทราบว่าชายเดียวแวะมาก็จัดเตรียมของว่างและเครื่องดื่มไปต้อนรับ ชายเดียวจะยกมือไหว้ขอบคุณแต่ฉัตต์รีบจับมือไว้ จันทร์หน้าเสียนิดหน่อยแต่ยังฝืนยิ้มเจื่อนๆ

“คุณชายไม่ต้องไหว้ดิฉันหรอกค่ะ ดิฉันเป็นแค่คนทำขนมเท่านั้น”

“คุณทำขนมอร่อยมาก ร้อยมาลัยก็สวยมากครับ”

“ขอบพระคุณคุณชายที่ชมค่ะ ว่าแต่คุณชายเห็นมาลัยที่ดิฉันร้อยหรือคะ เคยเห็นที่ไหนคะ”

“เห็นในงานสวดศพท่านพ่อไงครับ ที่คุณร้อยให้รุ้งนำไปถวายพระโกศท่านพ่อ ท่านแม่ยังรับสั่งว่าคนร้อยเก่งมาก แถมยังเป็นดอกพุดที่ท่านพ่อทรงโปรดมาก”

จันทร์ได้ยินชายเดียวเรียกท่านหญิงแขไขฯ ว่าแม่และเรียกท่านชายว่าพ่อก็ตัวชา แต่สองหนุ่มไม่ทันสังเกต เธอน้ำตาคลอจ้องหน้าคุณชายไม่วางตา หูไม่ได้ยินอะไรจนกระทั่งชายเดียวขอลากลับวัง

“จะกลับไปอยู่เป็นเพื่อนท่านแม่ครับ ชายสงสาร... ตั้งแต่ท่านพ่อสิ้นท่านก็เงียบมาก ไม่เคยเห็นท่านยิ้มเลย”

“ชายเดียวก็ต้องทำให้ท่านยิ้มสิ เป็นลูกชายคนเดียวนี่นา” ฉัตต์เย้ายิ้มๆ

จันทร์ตัดสินใจลุกออกจากห้อง น้ำเสียงของคุณชายที่พูดถึงท่านชายกับท่านหญิงยังก้องในหัว น้ำตาไหลพรากๆด้วยความสะเทือนใจ...ในที่สุดก็ได้พบหน้าลูกชายที่พรากจากกันตั้งแต่เกิด!

จันทร์ร้องไห้คนเดียวพักใหญ่ก็ปาดน้ำตาและไปดักรอส่งคุณชายหน้าบ้าน เมื่อฉัตต์พาชายเดียวออกมาก็นิ่วหน้าไม่พอใจเพราะไม่ชอบให้จันทร์มาป้วนเปี้ยนใกล้ๆ แต่ชายเดียวกลับชอบใจ เดินไปหาและเอ่ยชมรสชาติขนมฝีมือจันทร์ที่เขาติดใจตั้งแต่ยังเด็ก

“ถ้าคุณชายชอบก็มาบ่อยๆนะคะ เอ่อ...ดิฉันจะทำไว้ให้ทานค่ะ”

“ชายคงมาบ่อยไม่ได้ ต้องดูแลท่านแม่ครับ”

จันทร์ถือโอกาสถามถึงท่านหญิง ชายเดียวบอกว่าสุขภาพจิตใจไม่ค่อยแข็งแรงเพราะคงกลุ้มใจเรื่องท่านพ่อประชวรหนักก่อนหน้านั้น ครั้นทรงสิ้นก็พลอยใจหาย ฉัตต์ไม่ชอบใจที่ชายเดียวเสวนากับจันทร์ ออกแรงดึงไป ขึ้นรถพร้อมบ่นกระปอดกระแปด ชายเดียวงงเล็กน้อยแต่ไม่ติดใจอะไร บอกว่าแค่รู้สึกดีและอยากพูดด้วยเท่านั้น ฉัตต์ถึงกับหัวเสีย เกือบพลั้งปากเล่าเรื่องที่เคยเห็นจันทร์ไปเคาะห้องพจน์ดึกๆดื่นๆแต่ยั้งปากไว้ทัน

ฉัตต์วิ่งหน้าตื่นไปหน้าบ้านอีกรอบเพราะได้ยินเสียงรถเบรกดังลั่น ปรากฏว่าเป็นสองสาววิ่งเล่นกันเพลินจนรุ้งล้มก้นกระแทกพื้นหน้ารถ ชายเดียวจะลงไปช่วยแต่ฉัตต์กลับสั่งให้ลุกขึ้นเอง จริมาโกรธที่พี่ชายหยาบคายจึงพาลลงกับชายเดียวที่ไม่เข้มแข็งพอจะขัดขืน ประกาศกร้าวไม่ให้มาเหยียบที่นี่อีกถ้าไม่คิดปรับปรุงตัว

รุ้งขยับจะลุกด้วยตัวเองแต่เป็นไปด้วยความยากลำบาก ฉัตต์ถอนใจหนักๆแล้วตัดสินใจยื่นมือให้เธอยึดและพากลับขึ้นบ้านแบบเสียไม่ได้ จริมาจะตามไปเพราะเป็นห่วงรุ้งแต่ไม่วายทิ้งท้ายไล่ชายเดียวออกจากบ้าน

ฝ่ายจันทร์ได้ยินเสียงเอะอะก็ตามมาดูเหตุการณ์พร้อมกับยอด เธอร้องไห้และปรับทุกข์กับอดีตคนสวนเสียงเครือ

“ยอด...รู้ไหมว่านั่นคุณชาย...ลูกชายของฉัน ฉันจะทำยังไงดี ท่านชายสิ้นแล้ว ลูกหญิงอยู่ทาง ลูกชายอยู่ทาง”

“หม่อมคิดจะให้คุณชายกับคุณหญิงมาอยู่ด้วยกันหรือครับ”

“ฉันทำได้หรือเปล่าล่ะยอด...ทำได้ไหม”

จันทร์อยากพารุ้งกลับไปอยู่ที่วังรังสิยาเพราะเฟืองตายแล้วแต่ยอดยังกังวล

“ไม่มียายเฟืองก็ยังมีท่านหญิงนะครับหม่อม ถึงท่านหญิงคืนคุณชายให้ หม่อมก็คงอยู่วังรังสิยาลำบากพอดู” จันทร์เห็นด้วยกับยอดที่สถานการณ์ของเธอไม่น่าไว้ใจนัก แต่ก็ร้อนใจเพราะเป็นห่วงลูกชายที่อาศัยตามลำพังกับท่านหญิง จึงตัดสินใจไปปรึกษาพจน์ในวันถัดมา

“น้องเพิ่งทราบว่าคุณชายศักดินาก็คือคุณชายเดียวเมื่อวานนี้เอง เธอมาที่นี่หลายครั้งตั้งแต่ยังตัวเล็กๆ น้องหาขนมหาน้ำให้เธอรับทาน มองเธอก็ยังว่าเธอน่ารักเหลือเกิน ที่แท้เธอก็คือลูกชายของน้องเอง”

“พี่ดีใจ เธอคงมีความสุขที่ได้พบลูกชายบ้าง”

“น้องจะตอบคำถามที่คุณพี่เคยถามว่าจะทำยังไงต่อไปเพราะเฟืองตายแล้ว” พจน์พยักหน้ารับรอฟังด้วยใจจดจ่อ “เวลานี้ท่านแม่ของคุณชายเดียวคือท่านหญิงแขไขเจิดจรัส ถ้าความจริงปรากฏว่าน้องคือแม่คุณชาย ท่านหญิงจะเอาพักตร์ไปไว้ที่ไหน ตัวคุณชายก็จะสับสนระหว่างท่านแม่กับแม่ที่มาจากไหนไม่ทราบ ถ้าน้องแสดงตัว...คุณพี่คิดว่าคุณชายจะยอมรับได้โดยไม่เสียใจหรือคะ ลูกอาจจะเกลียดน้องไปเลย แล้วมันจะมีประโยชน์อะไร”

“พี่ชื่นชมการตัดสินใจของเธอ แต่น้องจะจัดการกับรุ้งยังไง ให้เป็นรุ้ง ปัณณธร ตลอดไปก็ไม่ยุติธรรมกับรุ้ง”

“น้องก็คิดถึงเรื่องนี้เหมือนกัน แม้ตอนนี้แกจะมีความสุขอยู่แล้วเพราะความกรุณาของคุณแม่กับคุณพี่ แต่รุ้งก็ควรมีสิทธิ์ชอบธรรมจะใช้ชื่อที่ท่านพ่อประทานให้ เราไม่ได้แอบอ้าง หลักฐานที่ท่านชายเคยประทานก็ยังอยู่ เวลานี้น้องจดบันทึกทุกอย่าง พอรุ้งอายุยี่สิบเอ็ดก็จะมอบให้ แล้วให้รุ้งเลือกระหว่างเป็นรุ้งกับคุณหญิงวิมลโพยม รังสิยา”

“พี่เห็นด้วย ถึงเวลานั้นรุ้งจะเป็นผู้ใหญ่พอจะตัดสินใจด้วยตัวเอง พี่หวังว่าจะมีชีวิตยืนยาวถึงเวลานั้น”

“คุณพี่ต้องไม่เป็นอะไร น้องกับลูกจะดูแลคุณพี่และคุณแม่ให้สมกับความเมตตาปรานีที่ได้รับ”

ooooooo

อ่านละคร แค้นเสน่หา ตอนที่ 4 วันที่ 8 ก.ค. 56

ละครแค้นเสน่หา บทประพันธ์โดย : วราภา
ละครแค้นเสน่หา บทโทรทัศน์โดย : อ.แดง ศัลยา
ละครแค้นเสน่หา กำกับการแสดงโดย : สำรวย รักชาติ
ละครแค้นเสน่หา ผลิตโดย : บริษัท ฮูแอนด์ฮู จำกัด
ละครแค้นเสน่หา ควบคุมการผลิตโดย : วรายุทธ มิลินทจินดา
ละครแค้นเสน่หา ออกอากาศ: เร็ว ๆ นี้ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ