@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร แค้นเสน่หา ตอนที่ 8 วันที่ 22 ก.ค. 56

อ่านละคร แค้นเสน่หา ตอนที่ 8 วันที่ 22 ก.ค. 56

จริมาแปลกใจที่พี่ชายหายเงียบ ไม่ยอมส่งข่าวคราวหรือทวงจดหมาย หารู้ไม่ว่าพี่ชายที่คิดว่าคร่ำเคร่งกับการเรียนกำลังทำความรู้จักเพื่อนใหม่อย่างพิสินีหรือบัวลูกสาวของหลวงวิเศษผ่านทางเจษฎาเพื่อนร่วมหอของฉัตต์

พิสินีติดใจฉัตต์แต่แรกเห็น ชอบใจในความหล่อและดูดีจนลงมือวางแผนทำความรู้จักด้วยตัวเอง แนะนำตัวเสร็จสรรพว่าเพิ่งย้ายจากอีกเมืองเพราะอยากเปลี่ยนบรรยากาศ ฉัตต์ไม่รังเกียจหญิงสาวหน้าตาสะสวย ท่าทางสุภาพและไม่ทำให้เขาอึดอัดเวลาอยู่ใกล้ ความสัมพันธ์ของทั้งคู่จึงก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว


พิสินีชื่นชมเพื่อนใหม่ให้ครอบครัวฟังผ่านทางจดหมาย หลวงวิเศษกับภรรยาถึงกับงงเมื่อทราบว่าอาการป่วยของพจน์ไม่รู้ถึงหูฉัตต์ นายตำรวจใหญ่สงสัยแต่ไม่อยากเซ้าซี้เพื่อน ไว้สบโอกาสค่อยลองหาทางพูดกับพจน์อีกที...

ด้านพจน์...ป่วยกระเสาะกระแสะอยู่ถึงสามปีจึง เข้ารักษาที่โรงพยาบาล รุ้งซึ่งเรียนปีสุดท้ายของโรงเรียน พยาบาลพาแม่กับย่ามาเฝ้าไม่ห่าง จันทร์ตัดสินใจบอก ลูกสาวให้ซื้อตั๋วเรือบินส่งให้จริมาเพราะพจน์อาการไม่ค่อยดี คุณหญิงเพ็งได้ยินก็คัดค้านเพราะไม่อยากขัดความตั้งใจของลูกชาย

จันทร์ไม่กล้าขัดคำสั่งแม่บุญธรรม ต่างจากรุ้งที่ยังมุ่งมั่นทำตามคำสัญญา จริมาจึงได้รับจดหมายจากเพื่อนรักไม่กี่วันหลังจากนั้น เธอน้ำตาไหลพรากด้วยความสะเทือนใจ

“คุณย่าไม่ให้คุณริมากลับเมืองไทยแต่รุ้งจะจัดการให้ เพื่อนคุณลุงที่สถานทูตจะออกตั๋วให้ก่อน...และถ้าคุณริมาไม่ไปเรียนต่อ รุ้งจะไม่พูดด้วยตลอดชีวิต อีกอย่าง... ห้ามบอกคุณฉัตต์เพราะเธอจะไม่มีวันกลับไปเรียน”

จริมากัดฟันแน่น หยิบกระดาษมาเขียนถึงพี่ชายแล้วเปลี่ยนใจฉีกทิ้ง เครียดจัดที่ต้องปิดเรื่องพ่อ

จริมามัวยุ่งเตรียมตัวกลับบ้านจนไม่มีเวลาส่งข่าวหาพี่ชาย ฉัตต์เริ่มกระวนกระวายเพราะไม่เคยขาดการติดต่อ พิสินีที่ตอนนี้กลายเป็นเงาตามตัวเขาทราบข้อนี้ดีแต่ไม่กล้าพูดอะไรมากเพราะข่าวที่ได้ยินจากทางบ้านไม่ใช่เรื่องดีนัก เธอทราบดีว่าเขาได้รับจดหมายจากพ่อทุกสองเดือน เป็นข้อความสั้นๆไต่ถามสารทุกข์สุขดิบธรรมดาแต่ที่น่าแปลกใจคือฉัตต์ไม่ระแคะระคายแม้แต่น้อยว่าพ่อของตัวเองกำลังอาการหนักอยู่ที่โรงพยาบาล

เวลาเดียวกันที่เมืองไทย...หลวงวิเศษ ภรรยาและปยุตลูกชายคนโตไปเยี่ยมพจน์ที่โรงพยาบาล รุ้งมาถึงพอดีพร้อมจริมา คุณหญิงเพ็งตกใจที่เห็นหลานแต่เพราะความรักและคิดถึงมีมากกว่าจึงโผเข้ากอดแน่น

“พ่อเขาสั่งไว้อยากให้เรียนจบ ย่าไม่ได้อยากขวางริมาแต่ต้องเห็นใจพ่อเขา เขาจะไปไม่สบายเพราะมีห่วง”

จริมาอึ้งเมื่อได้ยินว่าเวลาของพ่อเหลือน้อย ทรุดตัวลงนั่งก้มหน้าร้องไห้ ครู่ใหญ่จึงรู้สึกตัวและทำความเคารพครอบครัวหลวงวิเศษ นายตำรวจใหญ่เห็นใจสาวน้อยที่ต้องสูญเสียพ่อในวัยที่ยังเยาว์เหลือเกิน

ooooooo

รุ้งพาจริมาไปเยี่ยมพจน์ที่ยังนอนหายใจรวยรินบนเตียง ลูกสาวถึงกับพูดไม่ออก กล้ำกลืนน้ำตาลง อย่างยากลำบาก รุ้งประสานมือกับเพื่อนรักและบีบแน่นราวกับสัญญาว่าจะอยู่เคียงข้างตลอดไป

ขณะเดียวกันที่หน้าห้อง...หลวงวิเศษตัดสินใจถามคุณหญิงเพ็งถึงสาเหตุที่พจน์ปิดบังเรื่องอาการป่วยจากลูกๆ

“เขาคิดว่าเรื่องตายเป็นธรรมชาติ ทุกคนต้องตายแต่คนหนุ่มสาวยังมีอนาคตต้องก้าวต่อไป ลูกจะกลับหรือไม่พ่อก็ต้องตายอยู่ดี เขาว่าไม่ต้องดูใจกันเพราะตัวเขาไม่เคยไม่คิดถึงลูกชาย ส่วนฉัตต์เขาก็เชื่อว่าไม่มีวันจะไม่คิดถึงพ่อ”

นายตำรวจใหญ่หน้าไม่ดี เข้าใจหัวอกพ่อแต่ก็สงสารเด็กๆที่เห็นมาแต่เล็กแต่น้อย...มันจะใจดำเกินไปหรือเปล่า

ในห้อง จริมาเฝ้าอยู่ครู่ใหญ่พจน์ก็รู้สึกตัว สองพ่อลูกกอดกันด้วยความรักและคิดถึง เป็นที่เศร้าสะเทือนใจของผู้พบเห็นโดยเฉพาะหลวงวิเศษที่เข้ามาพอดี พจน์ฝากฝังครอบครัวกับเพื่อนรักและทวงสัญญาจากจริมา

“ลูกสัญญาว่าจะกลับไปเรียนให้จบ คุณพ่อไม่ต้องห่วงนะคะ”

“ขอบใจมากริมา บอกฉัตต์ว่าพ่อขอโทษ อย่าโกรธพ่อเลยที่ไม่บอก”

จริมาร้องไห้แทบขาดใจ สงสารพี่ชายที่ไม่มีโอกาสรับรู้และล่ำลาพ่อเป็นครั้งสุดท้าย พจน์เข้าใจดีแต่รู้จักนิสัยของลูกชายมากกว่าจึงยืนยันขอจากไปอย่างหมดห่วง

รุ้งพยายามดึงจริมาออกไปเพราะอยากให้พจน์พักผ่อน แต่เพราะไม่ทันระวังเลยชนกับปยุต ชายหนุ่มตะลึงงันในความสวยน่ารักแต่ไม่ใช่เวลาสมควรเลยได้แต่อมยิ้ม สองสาวจึงพากันไปรอข้างนอก

ระหว่างที่พจน์รักษาตัวที่โรงพยาบาล ฉัตต์เองก็ใจไม่ดีเพราะเป็นห่วงน้องสาวที่หายเงียบจนผิดสังเกต ความกังวลใจทำให้เขาฝันถึงพ่อในวันหนึ่ง พจน์ยืนที่ท่าน้ำและหันมาพูดเสียงอ่อนแต่หนักแน่นเหมือนเคย

“จำไว้นะฉัตต์...สายน้ำเหมือนชีวิต ทำอะไรต้องระวังเพราะทำแล้วเปลี่ยนไม่ได้...เหมือนสายน้ำไม่ไหลกลับ”

การได้เห็นหน้าพ่อในฝันทำให้ฉัตต์คลายความเหงาได้บ้าง เขาสะดุ้งตื่นตอนเช้าเพราะเสียงเคาะประตู พิสินีมาหาแต่ต้องกลายเป็นพยาบาลจำเป็นเพราะฉัตต์ตัวรุมๆเหมือนจะเป็นไข้ เขายอมให้เธอเช็ดตัวเพราะไม่อาจขัดความปรารถนาดี ผ่อนตัว
ตามสบายแล้วเล่าเรื่องความฝันและความคิดเกี่ยวกับพ่อ

“คุณพ่อจวนเกษียณแล้ว อีกสามปีผมก็จะเรียนจบปริญญาโทพอดี ท่านจะได้พักผ่อน”

พิสินีที่ทราบอาการป่วยของพจน์ถึงกับพูดไม่ออก ได้แต่โอบกอดเขาด้วยความสงสารจับใจ เธอค่อยๆผละตัวเมื่อรู้สึกว่าแสดงออกมากเกิน หัวเราะน้อยๆกลบเกลื่อนและชวนเขาไปทานข้าวข้างนอก สองหนุ่มสาวพูดคุยกันอย่างสนิทสนมมากขึ้น ฉัตต์สบายใจจนกล้าพูดถึงความรักที่มีต่อครอบครัวให้ฟัง พิสินีประทับใจมาก หวนคิดถึงบรรยากาศเรียบง่ายของครอบครัวตัวเองแล้วถอนใจเบาๆ

“ถึงครอบครัวบัวจะใหญ่ มีพี่น้องลูกหลานหลายคนแต่ก็ไม่อบอุ่นเท่าครอบครัวฉัตต์”

“เรามีกันสี่คนเท่านั้น...ตอนนี้คงเหงาเพราะมีแต่คุณย่ากับคุณพ่อ ผมกับน้องมาเรียนไกล ผมต้องรีบเรียนให้จบจะได้กลับเมืองไทย ถ้าเราอยู่พร้อมหน้า พร้อมตาก็จะมีความสุขกันมากกว่านี้”

พิสินีอึ้งไป ความรู้สึกเหมือนน้ำท่วมปากเป็นแบบนี้นี่เอง เธอสอดประสานมือกับเขาเหมือนต้องการส่งกำลังใจ ฉัตต์ชะงักแต่ก็บีบมือตอบอย่างนุ่มนวล คิดเอาเองว่าเป็นมิตรภาพที่เพื่อนแสดงต่อกัน

หลังแยกจากพิสินี...ฉัตต์กลับเข้าบ้านด้วยความรู้สึกแปลกใหม่ ความรู้สึกอ่อนหวานจากพิสินีทำให้คิดถึงรุ้ง เขาชำเลืองมองที่กรอบรูปบนหัวเตียง ภาพเธอแสดงรำในงานโรงเรียนยังติดตรึงในใจเขาเสมอ พาลเคืองไปถึงจริมาที่หายเงียบไม่ส่งข่าวจากเมืองไทยและลงมือเขียนจดหมายตัดพ้อน้องในคืนเดียวกันนั้น

“ริมา...ทำไมใจร้ายอย่างนี้ ไม่เขียนจดหมายถึงพี่เลย เป็นอะไร...เจ็บป่วยไม่สบายหรือเปล่า พี่โทรศัพท์หาน้องสองครั้งแล้วก็ไม่พบ น้องไม่รู้หรือว่าจดหมายของทุกคนเป็นกำลังใจให้พี่ตั้งใจเรียน สำหรับพี่...ครอบครัวสำคัญที่สุด”

ความน้อยใจกลายเป็นความโกรธ เขาพับจดหมายลงซอง คว่ำรูปรุ้งลงลิ้นชักและปิดอย่างแรง!

ooooooo

พจน์จากไปไม่นานหลังจากนั้น เขาหมดลมอย่างสงบที่โรงพยาบาล คุณหญิงเพ็งก้มหน้าร้องไห้เงียบๆ เช่นเดียวกับจันทร์ จริมาและรุ้ง ทุกคนโอบกอดกันเพื่อปลอบใจ เสียงสั่งเสียสุดท้ายของพจน์ยังก้องในหัว

“จันทร์...ขอบใจสำหรับทุกอย่างที่ทำให้พี่ รุ้ง...ลุงขอบใจ ดูแลแม่ให้ดี คุณแม่...ชาติหน้าผมขอเกิดเป็นลูกคุณแม่อีก ริมา...ต้องเข้มแข็งให้สมที่เป็นลูกพ่อ พ่อฝากคำถึงฉัตต์ไปกับริมา ริมาต้องบอกพี่เขาให้เข้าใจ”

เช้าวันรุ่งขึ้น...จริมาไปหาคุณชายศักดินาถึงวังรังสิยาเพื่อแจ้งเรื่องพ่อและขอร้องไม่ให้เขาบอกฉัตต์จนกว่าจะเรียนจบ คุณหญิงทอแสงรัศมีที่มาหาญาติหนุ่มเห็นเข้าก็ปราดมาขวางและคาดคั้นถามเหตุผลที่คู่ปรับมาถึงวัง ชายเดียวเข้ามาขวางทันเวลาและชวนจริมาเข้าไปคุยข้างใน คุณหญิงทอแสงรัศมีของขึ้นเอ่ยปากขอไปด้วย

อ่านละคร แค้นเสน่หา ตอนที่ 8 วันที่ 22 ก.ค. 56

ละครแค้นเสน่หา บทประพันธ์โดย : วราภา
ละครแค้นเสน่หา บทโทรทัศน์โดย : อ.แดง ศัลยา
ละครแค้นเสน่หา กำกับการแสดงโดย : สำรวย รักชาติ
ละครแค้นเสน่หา ผลิตโดย : บริษัท ฮูแอนด์ฮู จำกัด
ละครแค้นเสน่หา ควบคุมการผลิตโดย : วรายุทธ มิลินทจินดา
ละครแค้นเสน่หา ออกอากาศทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ