@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร แค้นเสน่หา ตอนที่ 7 วันที่ 18 ก.ค. 56

อ่านละคร แค้นเสน่หา ตอนที่ 7 วันที่ 18 ก.ค. 56

คำพูดของจริมาเป็นจริงในหลายเดือนต่อมา จริมารู้ดีว่าเพื่อนตื่นเต้นแค่ไหนที่ได้จดหมายจากพี่ชายจึงแกล้งกระบิดกระบวนจนรุ้งทนไม่ไหว หยิบกรรไกรขึ้นมาตัดซองเปิดอ่าน จริมาแกล้งโวยวาย รุ้งจึงยื่นให้อ่านก่อน

“ถึงแล้ว...รายงานตัวที่โรงเรียนประจำ นักเรียนเข้ากันได้แต่ชอบขอของกิน ให้บ้างเพราะสงสาร แต่ขนมทองเอกใครอย่ามาขอไม่ให้เด็ดขาด อร่อยชื่นใจ ริมาเป็นไงบ้าง...คุณย่าและทุกคนทางบ้านสบายดีไหม”


จริมาอ่านแล้วเบ้หน้า เซ็งกับสำนวนทื่อๆของพี่ชาย เหลือบไปทางเพื่อนรักเห็นยิ้มน้อยยิ้มใหญ่จึงคิดแผนให้ทั้งสองใกล้ชิดกันมากขึ้นด้วยการให้รุ้งเขียนจดหมายตอบ

“ไม่ได้หรอกค่ะ...รุ้งเขียนไม่เป็น คุณฉัตต์รู้เข้าคงโกรธแย่ แล้วในนี้คุณฉัตต์ก็ไม่ได้พูดถึงรุ้งเลย”

“อยู่ไกลขนาดนั้น โกรธก็ทำอะไรไม่ได้หรอก กลัวอะไร...ถือว่าช่วยริมาแล้วกัน”

รุ้งทนเสียงรบเร้าไม่ไหวเลยลงมือเขียนด้วยความประหม่าแต่ก็เต็มใจเพราะคิดถึงฉัตต์ ไม่กี่อึดใจจดหมายก็เสร็จสมบูรณ์ จริมาปรายตามองเพื่อน เห็นยืนกำมือแน่นเหมือนกำลังลุ้นสุดตัวจึงแกล้งอ่านออกเสียงดังๆ

“เทอมนี้น้องทำคะแนนไม่ดี เอ๊ะ...ริมาต้องบอกด้วย หรือ พี่ฉัตต์ต้องรักษาตัวนอนห่มผ้าหนาๆ น้องไม่อยากให้พี่ฉัตต์ไม่สบายเพราะอยู่คนเดียวไม่มีคนดูแล พี่ฉัตต์ต้องเชื่อนะคะ โอ้โฮ...ริมาเป็นห่วงพี่ฉัตต์เอาจริงๆนะเนี่ย”

รุ้งตีหน้าซื่อ พยายามทำท่าทางเป็นปกติอย่างเต็มความสามารถ จริมารู้ทันเลยแกล้งแหย่

“รุ้งเก่งนะเขียนจนลายมือเหมือนริมาเลย แต่เราก็ลายมือคล้ายกันอยู่แล้ว หยิบปากกามาสิ...” จริมาเขียนคำว่ารักลงท้าย “มันต้องยังงี้...รู้ไหมแม่รุ้งกินน้ำ ทุกครั้งต้องเขียนว่ารัก...รักพี่ฉัตต์ รักเท่าฟ้า ยังไงก็ได้...แต่อย่าลืม”

รุ้งเขินอายหน้าแดงเป็นลูกตำลึง จริมาหัวเราะชอบใจเสียงดัง มีความสุขที่ได้ล้อเพื่อนรัก

คุณชายศักดินามาหารุ้งวันเดียวกันนั้น จริมาจึงแยกไปดูพจน์แต่ต้องตกใจแทบแย่เมื่อเห็นพ่อไอออกมาเป็นเลือด ทุกคนในบ้านวุ่นวายมากเพราะต้องพาผู้พิพากษาใหญ่ไปโรงพยาบาล ชายเดียวขอไปด้วยแต่จริมาให้กลับไปก่อน เด็กหนุ่มขัดใจแต่ไม่มีทางเลือก ได้แต่จูงจักรยานกลับวังด้วยความน้อยใจ

ฟากวังรังสิยาก็ปั่นป่วนไม่แพ้กันเพราะท่านหญิงประชวรหนัก เมื่อชายเดียวกลับมาถึงจึงตามผ่องไปดูพระอาการ ผีเฟืองปรากฏตัวให้เห็นลางๆระหว่างทาง คุณชายเอะใจเล็กน้อยแต่เป็นห่วงท่านแม่มากกว่า ท่านหญิงน้อยพระทัยลูกชายที่อยู่ไม่ติดบ้าน และเคืองหนักเมื่อเขาบอกว่าไปบ้านปัณณธรเพื่อเยี่ยมรุ้งกับจริมา

“เพื่อนก็ไปเมืองนอกแล้ว ยังเทียวไล้เทียวขื่ออยู่นั่น...ชอบเด็กผู้หญิงคนไหนล่ะ หรือว่าติดใจแม่ของเด็กนั่น...ทำไม...เขาทำอาหารอร่อย ทำขนมที่ชายชอบหรือว่าเขาเอาอกเอาใจชาย”

ชายเดียวงงกับท่าทีแข็งกร้าว มองมาด้วยสายตาพิศวงจนท่านหญิงเริ่มรู้สึกตัวว่าพาลพาโล โบกมือไล่ลูกชายและพลิกองค์ลงนอน เมื่อเขาออกไปแล้ว ท่านหญิงก็สะอื้นไห้อย่างสุดกลั้น หนักใจที่ลูกชายชอบไปบ้านปัณณธร คิดเอาเองว่าเขาอาจมีสายใยกับจันทร์เพราะเป็นแม่ลูกกัน ผีเฟืองปรากฏร่างหมอบกราบหน้าเตียงเหมือนเคย

“หม่อมฉันทูลแล้วว่าไม่ใช่...เขาตายไปแล้ว หม่อมฉันให้ไอ้ยอดมันเอาศพไปโยนทิ้งกลางแม่น้ำ ตัวมันก็ตายด้วยเพราะหม่อมฉันให้เจาะเรือ มันไม่รอดทั้งนายและบ่าว ต่อไปนี้ก็อย่าทรงวิตกเรื่องนี้อีกเพราะจะประชวร”

ท่านหญิงยังกรรแสง ผีเฟืองปลอบใจและทำท่าบอกไม่ให้พูดอะไรอีก ขณะเดียวกันที่หน้าห้องท่านหญิง... ชายเดียวเอาหูแนบประตูเพราะสงสัยบางอย่าง ผ่องพยายามบอกให้กลับห้องแต่คุณชายยืนยันจะขอฟังให้หายคาใจ ผ่องจึงเปลี่ยนไปถามเรื่องเรียนต่อ คุณชายจะไม่ไปเพราะเป็นห่วงท่านแม่ แม้แม่นมจะกล่อมแค่ไหนก็ไม่ได้ผล

ooooooo

พจน์ต้องพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลเพราะอาการไม่ค่อยดี จริมาร้องไห้คร่ำครวญไม่ยอมกลับบ้าน ยืนยันหนักแน่นจะอยู่เฝ้าพ่อด้วยตัวเอง พจน์ขอร้องให้กลับบ้านแต่เด็กสาวยังดื้อจนรุ้งต้องลากออกจากห้อง จริมาขืนตัวไว้แล้วถามว่าทำไมถึงอยู่เฝ้าไม่ได้ รุ้งรู้ดีว่าเพื่อนรักใจเสียแต่ไม่อยากให้ขัดคำสั่งพจน์

“คุณพ่อก็ต้องพูดอย่างนั้นเพราะเป็นห่วงเรา แต่เราต้องเป็นห่วงคุณพ่อมากกว่าสิ”

“แต่เราอยู่ที่นี่ก็ไม่มีประโยชน์”

“พูดบ้าๆรุ้ง...ริมาหรือไม่มีประโยชน์กับคุณพ่อ ทำไม...ต้องแม่เธอคนเดียวหรือ”

รุ้งโกรธมาก จริมาเริ่มรู้สึกตัวจึงตามไปง้อพร้อมสะอื้นไห้สุดแรง ขนาดรุ้งที่โกรธอยู่ยังอดสงสารไม่ได้

“ริมาอยากเป็นอย่างรุ้ง ใครดูว่าอ่อนหวานแต่ข้างในแข็ง กล้าคิดไปเรียนพยาบาล แต่ริมาคงกลัว...แค่ต้องหยิบเข็มมาฉีดยาก็อาจสลบแล้ว ถ้าคุณพ่อเป็นอะไรแล้วจริมาจะเหลือใคร คุณย่าก็แก่มากแล้ว รุ้งอย่าโกรธจริมาเลยนะ”

รุ้งกระชับอ้อมแขน สัญญาจะอยู่ข้างๆและไม่ว่ากล่าวอะไรอีก จริมาตื้นตันใจ กอดกับเพื่อนพักใหญ่จึงกลับบ้าน

ข่าวเรื่องคุณชายศักดินาจะไม่ยอมไปเรียนต่อเมืองนอกแพร่สะพัดจนกลายเป็นหัวข้อสนทนาของบ่าวไพร่ในวัง ท่านหญิงแขไขเจิดจรัสหนักใจมากเพราะไม่อยากให้ลูกชายขัดคำสั่งพินัยกรรมของท่านพ่อ

“ชายพูดไปท่านแม่ก็คัดค้าน ชายไม่อยากพูดแต่จะทูลว่าเป็นเหตุผลที่สมควรอย่างยิ่ง”

“จะเรียนหมอในเมืองไทยเพราะเป็นห่วงแม่ใช่หรือไม่”

“ชายจะทำอะไรไม่เคยเลยที่ท่านแม่จะไม่ทรงทราบ ใช่ค่ะ...ชายเป็นห่วงท่านแม่”

“แม่ขอบใจแต่แม่ยังไม่เป็นอะไรช่วงที่ชายไปเรียนหรอก แม่ยังไม่แก่ปานนั้น ไปเรียนเสียก่อนเถอะลูกชายเรียนจบกลับมาตอนนั้นแม่ก็กำลังพร้อมให้ชายดูแลพอดี”

“ชายไม่คอยถึงตอนนั้นหรอกค่ะ ชายจะดูแลท่านแม่ตั้งแต่เดี๋ยวนี้ ถ้าปล่อยไปอาจไม่ทันการณ์ก็ได้”

ท่านหญิงถอนใจยาวเหนื่อยใจจะกล่อม ได้แต่ปรามเสียงอ่อนไม่อยากให้ลูกดื้อกับเธอ

“ถึงจะพูดกันอีกสามวันเจ็ดวัน ชายก็ต้องปฏิบัติตามพินัยกรรมท่านพ่อ เราอย่าเถียงกันให้เหนื่อยเลย”

ท่านหญิงยืนกรานความต้องการของท่านชายและสั่งให้เขาเตรียมตัว ชายเดียวคุกเข่านิ่ง ไม่ยอมพูดหรือตอบรับเรื่องใดๆ และทูลลาเมื่อถึงเวลาพักผ่อน ท่านหญิงนอนพักสักครู่แล้วอดเปรยกับผีบ่าวคนสนิทไม่ได้

“จะให้ฉันทำยังไงดีเฟือง ฉันเหนื่อยจริงๆ อะไรนะ... เฟืองว่าอะไรนะ ชายเดียวรักผู้หญิง...แน่ใจหรือ”

ผีเฟืองเงยหน้าแล้วเหยียดยิ้ม ท่านหญิงแทบลมจับ อยากรู้เป็นกำลังว่าผู้หญิงคนไหนที่ลูกชายหลงรัก

ooooooo

จันทร์โทร.บอกให้ยอดมาเฝ้าพจน์ที่โรงพยาบาลเพราะเธอเป็นผู้หญิงเฝ้าตามลำพังไม่ได้ ผู้พิพากษาใหญ่ถือโอกาสถามหมอเรื่องระยะเวลาที่เหลือ เมื่อได้ยินว่าไม่เกินหนึ่งปีจันทร์ก็แทบยืนไม่ไหว พจน์ต้องเรียกมาปลอบใจ ยอดจะออกไปรอข้างนอกแต่พจน์ให้อยู่ก่อนเพราะมีเรื่องจะฝาก

“เวลาฉันมีเท่านั้น ฉันฝากบ้านไว้กับแก ที่บ้านไม่มีผู้ชาย ถ้าแกไม่ต้องไปไหน ฉันขอให้แกอยู่ที่บ้านตลอดไป”

ยอดก้มลงกราบที่ริมเตียง ทำท่าใบ้เหมือนยืนยันว่าจะอยู่บ้านปัณณธรตลอดไป

“จันทร์...อย่าทำให้ทุกคนตกใจ น้องต้องเข้มแข็งเพราะพี่ฝากความหวังทุกอย่างไว้ที่น้อง”

“คุณพี่คือร่มโพธิ์ร่มไทรของเราทุกคน ทำไมถึงต้องตาย”

“น้องต้องอยู่เป็นหลักให้บ้าน ลูกพี่อายุยังน้อยต้องการคนชี้นำซึ่งน้องเหมาะสมที่สุด พี่จะได้นอนตายตาหลับ”

จันทร์น้ำตาซึม หนักใจแต่คงขัดไม่ได้ ยอดยืนก้ม หน้าไม่ห่าง...เห็นใจอดีตหม่อมที่ต้องเจอเรื่องลำบากใจ

พจน์ได้ออกจากโรงพยาบาลในเวลาต่อมา กำชับจันทร์กับยอดให้เก็บเรื่องเขาจะมีชีวิตอยู่ได้ไม่ถึงปีเป็นความลับเพราะไม่อยากให้ทุกคนไม่สบายใจ คุณหญิงเพ็งหยิบขวดน้ำมนต์มารดหัวลูกชาย อวยพรให้อายุมั่นขวัญยืนอยู่กับทุกคนไปนานๆ จันทร์ได้แต่กลั้นน้ำตาที่รื้นขึ้นด้วยความยากลำบาก...สงสารทุกคนที่ต้องมาเจอเรื่องแบบนี้

ฝ่ายผ่องวิตกที่ชายเดียวสงสัยเรื่องผีเฟือง แม้ยังไม่รู้ว่าเป็นใครและมีที่มาจากไหนแต่ท่าทางและคำถามหลายอย่างของราชนิกุลหนุ่มน้อยทำให้แม่นมเก่าแก่เป็นกังวล ท่านหญิงซาบซึ้งใจที่ข้าเก่าเต่าเลี้ยงเป็นห่วง รับปากจะจัดการทุกอย่างด้วยตัวเอง เมื่อผ่องออกไปแล้ว ผีเฟืองก็ปรากฏร่างลางๆและบอกให้ท่านหญิงเสด็จบ้านปัณณธร

อ่านละคร แค้นเสน่หา ตอนที่ 7 วันที่ 18 ก.ค. 56

ละครแค้นเสน่หา บทประพันธ์โดย : วราภา
ละครแค้นเสน่หา บทโทรทัศน์โดย : อ.แดง ศัลยา
ละครแค้นเสน่หา กำกับการแสดงโดย : สำรวย รักชาติ
ละครแค้นเสน่หา ผลิตโดย : บริษัท ฮูแอนด์ฮู จำกัด
ละครแค้นเสน่หา ควบคุมการผลิตโดย : วรายุทธ มิลินทจินดา
ละครแค้นเสน่หา ออกอากาศทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ