@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร แค้นเสน่หา ตอนที่ 10 วันที่ 28 ก.ค. 56

อ่านละคร แค้นเสน่หา ตอนที่ 10 วันที่ 28 ก.ค. 56

ท่านหญิงแขไขไม่พอพระทัยคุณหญิงทอแสงที่โทร.ตามชายเดียวกลับวังทั้งที่ไม่จำเป็น แต่ราชนิกุลหนุ่มกลับรู้สึกตรงข้าม เห็นด้วยกับญาติสาวเป็นครั้งแรกเพราะเป็นห่วงอาการท่านแม่เป็นทุน...กว่าสองพี่น้องจะมีเวลาส่วนตัวก็หลังมื้อค่ำ ชายเดียวอ่านหนังสือเตรียมสอบ ส่วนคุณหญิงทอแสงพุ่งความสนใจที่จอทีวี จนเขาอ่อนใจ

“พี่อยากให้หญิงเรียนต่อ หญิงเรียนแค่เตรียมอุดมไม่ได้ ต่อไปหญิงจะได้มีงานดีๆทำ” แต่คุณหญิงทอแสงอยากแต่งงานมากกว่า ชายเดียวจึงต้องเตือนสติ “แต่งแล้วก็ต้องทำงาน แต่งงานอยู่กับบ้านเฉยๆจะเป็นคนไร้ค่ามาก”


“ผู้หญิงเขาก็แต่งงานอายุสิบแปดสิบเก้าเท่าหญิง เพื่อนหญิงที่เรียนจบด้วยกันแต่งไปแล้วหลายคน”

ชายเดียวคร้านจะเถียงจึงก้มหน้าก้มตาอ่านตำรา ส่วนคุณหญิงใจเสีย กลัวเขาปฏิเสธการแต่งงานกับเธอ

ฟากจริมาก็วุ่นวายกับการเรียนจนเกือบลืมเรื่องฉัตต์กลับเมืองไทย จนกระทั่งวันหนึ่งเมื่อเพื่อนร่วมหอแจ้งว่ามีโทรศัพท์ทางไกลมาหาหลายครั้งระหว่างที่เธอไปเรียน จริมาเป็นห่วงรุ้งเพราะสังหรณ์ว่าพี่ชายอาจอาละวาด หนักกว่าที่คิด จึงลงมือเขียนจดหมายถึงเพื่อนรักอีกครั้ง โดยหารู้ไม่ว่ารุ้งกำลังอ่านจดหมายฉบับแรกที่โรงพยาบาลในเมืองไทย

“รุ้งเตรียมตัวให้ดี...เขาต้องโกรธมากแน่ พูดดีๆ และอย่าเถียง มันเป็นคำสั่งของคุณพ่อ เขาไม่น่าโกรธหรอก”

คำเตือนของเพื่อนรักทำให้รุ้งหวนคิดถึงเหตุการณ์เมื่อหลายวันก่อน ยิ่งมั่นใจว่าชายผมยาวที่ก่อเรื่องในร้านก็คือฉัตต์ ภาพในอดีตตอนเขาไม่สบายผุดขึ้นมาในหัวอย่างช่วยไม่ได้ จำได้ว่าเธอนั่งเฝ้าตลอดจนโดนเขาที่เพ้อจัดเพราะพิษไข้ดึงมากอดโดยไม่ทันตั้งตัว เธอเคลิ้มกับสัมผัสอบอุ่นนั้นแต่เมื่อเขารู้สึกตัวก็กลับผลักไสเธออย่างไม่ไยดี รุ้งสะบัดหน้าเพื่อเรียกสติ เมื่อได้ยินเพื่อนพยาบาลเรียกไปดูอาการคนเจ็บจากอุบัติเหตุจึงรีบตามไปดู

ขณะเดียวกันที่วังรังสิยา...อาการของท่านหญิงดีขึ้นแต่ยังต้องพักกับที่เพราะไม่ค่อยมีแรง ชายเดียวจะกลับหอเพราะต้องเตรียมสอบเย็นวันรุ่งขึ้น ผ่องจึงโทร.ตามรุ้งในช่วงบ่ายเพื่อขอให้มาเฝ้าท่านหญิงแทน หญิงสาวรับปากด้วยความยินดีและอาสานั่งรถรับจ้างไปเองเพราะไม่อยากรบกวนสน

เมื่อถึงเวลาเลิกงาน...รุ้งก็มุ่งหน้าไปวังรังสิยา ฉัตต์ที่มาดักรอหน้าโรงพยาบาลเฝ้ามองด้วยหัวใจสับสน ทั้งรักและแค้น ตาลุกโพลงเมื่อเห็นนายตำรวจหนุ่มแปลกหน้าทักทายเธอด้วยใบหน้ายิ้มแย้มจนน่าหมั่นไส้ แถมหญิงสาวเจ้าปัญหาก็เสวนาตอบจนแทบอยากไปกระชากออกมาเพราะโมโหหึง

ฉัตต์ผลุนผลันขึ้นรถจากไปโดยไม่รู้แม้แต่น้อยว่านายตำรวจหนุ่มคนนั้นคือปยุต ซึ่งแวะมาโรงพยาบาลเพราะคดีอุบัติเหตุ เขาดีใจที่เจอรุ้งอีกและถือโอกาสแนะนำตัวอย่างเป็นทางการ เธอพูดคุยด้วยพอเป็นมารยาทจึงขอตัวเพราะต้องรีบไปที่วังรังสิยา ปยุตได้แต่มองตามตาเป็นประกาย หมายมั่นปั้นมือว่าต้องทำความรู้จักกับเธอมากกว่านี้ให้ได้

ooooooo

ผ่องมารอต้อนรับรุ้งและพาไปห้องท่านหญิง โดยไม่ทันสังเกตว่าคุณหญิงทอแสงนอนหลับบนโซฟาไม่ใกล้ไม่ไกลกันนั้น เมื่อไปถึง...รุ้งก็แทบกลั้นน้ำตาไม่อยู่ เมื่อเห็นภาพชายเดียวกอดและหอมท่านแม่ด้วยความรัก

“ชายรักท่านแม่ที่สุดในโลก ท่านแม่ต้องอยู่กับชาย อีกนาน ชายจะดูแลท่านแม่ให้แข็งแรงไม่เป็นอะไรเลยค่ะ”

ผีเฟืองซึ่งกำลังตื้นตันใจกับภาพสองแม่ลูกเปลี่ยนสีหน้าเป็นเกรี้ยวกราดทันทีที่เห็นลูกสาวอดีตหม่อม รุ้งไม่รู้เรื่อง คลานไปกราบท่านหญิงและบอกว่าผ่องโทร. ตามให้มาดูแลแทนคุณชาย ท่านหญิงยิ้มรับน้อยๆต่างจากเฟืองที่แววตาดุดัน...กล้ามากนังบุหลันที่ส่งลูกสาวมาหยามกูกับท่านหญิงถึงที่นี่!

ระหว่างที่รุ้งจัดยาและดูแลท่านหญิง ผ่องเข้ามาขอให้ลงไปหาสาลี่ในครัว รุ้งถึงกับยิ้มกว้างเมื่อแม่ครัวใหญ่ขอให้สอนทำอาหารจานโปรดของท่านหญิงกับคุณชาย เธอถ่อมตัวว่าทำเป็นแต่ของโบราณ ผ่องแปลกใจนิดหน่อยแต่ไม่อยากคิดมากเพราะคิดว่าหญิงสาวคงได้รับการถ่ายทอดวิชามาจากแม่

“ใช่ค่ะ...แม่ทำเก่งค่ะ บางอย่างหนูยังไม่รู้จัก อย่างขนมบุหลันดั้นเมฆที่ทำเมื่อคราวก่อน”

ขนมไทยโบราณชื่อแปลกทำให้คนฟังไพล่คิดถึงอดีตหม่อม แต่คงเป็นไปไม่ได้เพราะบุหลันตายไปนานแล้ว

บรรดาคนครัวมัวยุ่งเตรียมของจนไม่ทันมองว่ารุ้งหายออกไปตั้งแต่เมื่อไหร่ ผ่องคิดว่าเธอคงกลับขึ้นตำหนักแล้วจึงรีบตามไป แต่เมื่อไม่เห็นก็เริ่มกังวล ขอร้องชายเดียวให้ตามหาเพราะสังหรณ์ว่าผีเฟืองอาจแผลงฤทธิ์ และก็เป็นจริงดังคาด ผีเฟืองฉวยโอกาสทีเผลอ สะกดจิตรุ้งให้มาที่เรือนพักเก่า แล้วแกล้งปรากฏตัวให้เห็น แต่ทุกอย่างก็ล้มไม่เป็นท่าเมื่อชายเดียวเข้ามาขัดขวาง ทันเวลาและอุ้มร่างบางที่หมดสติกลับตำหนัก ผีร้ายเจ็บใจมาก ส่งกระแสจิตอาฆาตสองแม่ลูกที่ทำให้ท่านหญิงเสียพระทัย...อีรุ้ง อีบุหลัน กูไม่ยอมหยุดแค่นี้แน่!

ฝ่ายชายเดียวก็เซ็งจัดเมื่อเจออิทธิฤทธิ์ของคุณหญิงทอแสงที่อาละวาด เมื่อเห็นเขาอุ้มรุ้งเข้ามาในตำหนักเธอปราดเข้ายื้อยุดจนรุ้งร่วงลงกระแทกพื้น เขารีบพยุงไปนั่งพัก ส่วนผ่องปราดไปห้ามราชนิกุลสาว

“คุณหญิงไม่มีสิทธิ์ทำร้ายคน ไม่อย่างนั้นอิฉันจะฟ้องตำรวจ” คุณหญิงทอแสงปรี๊ดแตก จิกหัวด่าบ่าวเก่าแก่เสียๆหายๆ จนผ่องทนไม่ไหว “ท่านหญิงยังไม่เคยรับสั่งเรียก อีผ่องหรือนังผ่อง คุณหญิงเรียกอีก อิฉันจะเรียกอีหญิง”

คุณหญิงโผไปเอาเรื่องแต่ถูกญาติหนุ่มลากไปหน้าประตูตำหนักเสียก่อน พร้อมตวาดให้หยุดอาละวาด คุณหญิงโมโห ประกาศกร้าวจะจองล้างจองผลาญทั้งผ่องและรุ้ง ชายเดียวสุดทนตอกกลับว่าญาติสาวทำตัวไม่เหมาะเป็นเชื้อพระวงศ์ ทุกคนชะงัก แม้แต่ตัวต้นเหตุก็แทบไม่เชื่อหูเพราะไม่เคยเห็นเขาโกรธขนาดนี้ ชายเดียวเข้าตำหนักไปแล้ว ทิ้งคุณหญิงน้ำตาไหลพรากด้วยความแค้นใจ...ฉันไม่มีวันยอมให้แกแย่งพี่ชายไปแน่อีรุ้ง!

ooooooo

ชายเดียวไปดูอาการรุ้ง สิ่งแรกที่เธอถามถึงคือหญิงชราท่าทางทรุดโทรมซึ่งพบแถวเรือนพักเก่าริมน้ำ ผ่องอึกอักแล้วตัดสินใจบอกแค่ว่าเป็นนางข้าหลวงเก่า รุ้งพยักหน้ารับน้อยๆ

“รุ้งเคยเจอแก คราวก่อนแกเหมือนคนไม่ปกติ ผมยาวรุงรังและพูดอะไรแปลกๆ แต่คราวนี้แกดูเรียบร้อย”

“ถ้างั้นผมก็เคยเห็นนะ เขาไปเฝ้าท่านแม่ตอนกลางคืน เคยเห็นสองสามครั้ง ได้ยินเสียงเขาคุยกันด้วย”

ผ่องใจไม่ดีเพราะกลัวความลับแตก เมื่อชายดียวถามชื่อข้าหลวงคนนั้น ก็เลี่ยงไม่ได้ต้องบอกไปว่าชื่อเฟือง

ท่านหญิงถึงกับพูดไม่ออกเมื่อผ่องมารายงานว่าคุณชายทราบชื่อและเคยเห็นเฟือง เธอเข้าใจสถานการณ์ดีจึงโกรธผ่องไม่ลง ได้แต่ขอร้องให้ช่วยหาวิธีเจรจากับเฟือง ผ่องจนปัญญาเพราะขนาดท่านหญิงที่เลี้ยงดูกันมายังพูดไม่ได้

“เพราะแกรักเฟืองจึงหาวิธีไล่ไม่ได้ เหมือนฉัน... ฉันก็คิดไม่ออก ที่จริงก็มีวิธีแต่ไม่อยากทำเพราะเฟืองจะเจ็บปวดมาก” ผ่องฟังแล้วนิ่วหน้า ท่านหญิงถอนหายใจหนักๆ ก่อนเฉลย “หาคนมาไล่เฟือง แต่ผ่องคิดว่าฉันจะทำร้ายเขาลงหรือ”

เวลาเดียวที่เรือนพักเก่าริมน้ำ...เฟืองได้แต่หมอบติดพื้นน้ำตาไหลพราก ตื้นตันในน้ำพระทัยของท่านหญิงที่ทรงรักและเอื้ออาทรเสมอมา แต่ถึงกระนั้นผีร้ายก็ไม่สำนึกเพราะยังอาฆาตอดีตหม่อมกับลูก ท่านหญิงก็ตระหนักข้อนี้ดี ทรงหยิบจดหมายเหลืองกรอบขึ้นมาอ่านอีกครั้งแล้วน้ำตาคลอ ขอร้องและอ้อนวอนผีบ่าวคนสนิทในใจ

“เฟือง...ไม่ต้องห่วงหญิง ไปเสียเถอะเฟือง หญิงขอให้เฟืองไป...อย่าให้หญิงต้องหาคนมาพาเฟืองไปเลย”

เมื่อถึงเวลาเย็น...ชายเดียวเข้าไปกราบลาท่านแม่เพื่อกลับหอ เขาอาสาไปส่งรุ้งแต่เธอปฏิเสธเพราะอยากดูอาการท่านหญิงก่อน ท่านหญิงซาบซึ้งมาก ประทานยิ้มให้รุ้งและมองตามชายเดียวขึ้นรถไปจนลับสายตา

คุณหญิงทอแสงเห็นเหตุการณ์ตลอด คับแค้นใจที่ทุกคนเอ็นดูรุ้งมากกว่าตนที่เป็นเชื้อพระวงศ์และญาติสนิท ราชนิกุลสาวเดินเรื่อยเปื่อยจนถึงบริเวณสวนรกชัฏ เจอกับผีเฟืองที่แกล้งปรากฏตัวและชวนคุย ผีร้ายรับรู้ถึงจิตใจริษยา ตั้งใจจะเก็บไว้ใช้ประโยชน์ในเวลาอันสมควร ส่วนตอนนี้ก็ได้แต่พยักพเยิดให้ตายใจไปก่อน!

ด้านฉัตต์...คิดถึงและอยากคุยกับรุ้งให้รู้เรื่องจึงไปเยือนร้านสวนราตรีอีกครั้ง โดยปลอมตัวเหมือนเดิมแต่ไม่เอะอะโวยวายเหมือนคราวก่อน ชายหนุ่มนั่งนิ่งเหมือนรูปปั้นและไม่ยอมสั่งอาหารใดๆจนทุกคนในร้านอึดอัด จันทร์ลอบมองจากในครัวด้วยสายตาครุ่นคิด เริ่มเชื่อข้อสันนิษฐานของลูกสาวว่าชายหนุ่มแปลกหน้าท่าทางฉุนเฉียวก็คือฉัตต์

ทุกคนในครัวจะไปพูดให้รู้เรื่องแต่จันทร์รั้งไว้เพราะกลัวจะไปกันใหญ่ สั่งการให้อยู่ในความสงบและจัดการเรื่องเด็กเสิร์ฟที่รับมาใหม่เพราะคนในร้านเริ่มไม่พอ ส่วนเธอจะออกไปรับหน้าชายหนุ่มปริศนาคนนั้นเอง

ooooooo

อ่านละคร แค้นเสน่หา ตอนที่ 10 วันที่ 28 ก.ค. 56

ละครแค้นเสน่หา บทประพันธ์โดย : วราภา
ละครแค้นเสน่หา บทโทรทัศน์โดย : อ.แดง ศัลยา
ละครแค้นเสน่หา กำกับการแสดงโดย : สำรวย รักชาติ
ละครแค้นเสน่หา ผลิตโดย : บริษัท ฮูแอนด์ฮู จำกัด
ละครแค้นเสน่หา ควบคุมการผลิตโดย : วรายุทธ มิลินทจินดา
ละครแค้นเสน่หา ออกอากาศทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ