@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร แค้นเสน่หา ตอนที่ 5-6 วันที่ 13 ก.ค. 56

อ่านละคร แค้นเสน่หา ตอนที่ 5

หลังอาหารกลางวัน...สี่หนุ่มสาวก็เตรียมไปเที่ยวบ้านสวน ยอดจูงจักรยานของตนมาให้ด้วยเพราะเห็นว่ามีแขก ฉัตต์เห็นสภาพแทบพังแล้วไม่อยากให้รุ้งขี่ แต่เพราะไม่เคยพูดดีด้วยเลยเลือกสั่งเสียงห้วนจนเด็กสาวหน้าเสีย ชายเดียวอดสงสารไม่ได้เลยอาสาขี่ให้ซ้อน ฉัตต์แอบไม่พอใจเพราะไม่อยากให้รุ้งอยู่ใกล้ชายเดียว

ฉัตต์กับจริมาถึงบ้านสวนก่อนเพราะขี่ไปคนละคัน คล่องตัวกว่าคันของชายเดียวกับรุ้ง ฉัตต์ชะเง้อมองรอคอย จริมาลอบยิ้มเพราะรู้ว่าพี่ชายเป็นห่วงรุ้งแต่ท่ามากไม่ยอมรับ เสหันไปแหย่หนูตุ่นลูกสาวมิ่งกับต้อยติ่งเพื่อฆ่าเวลา


ฟากรุ้งกับชายเดียวก็ช่วยกันประคับประคองจักรยาน รุ้งหัวเราะเบาๆแล้วอาสาขี่ให้เองเพราะคิดว่า

ตัวเองขี่แข็งกว่า ชายเดียวพลอยขำความไม่ได้เรื่องของตนไปด้วย ยอมลงจากจักรยานเปลี่ยนที่กับเธอแต่โดยดี

ฉัตต์หงุดหงิดอย่างบอกไม่ถูกที่เห็นรุ้งใกล้ชิดกับชายอื่นจึงฮึดฮัดไปรอในบ้าน จริมาเห็นเพื่อนรักมาถึงช้าก็อดแหย่ไม่ได้ ยิ้มย่องสะใจที่เห็นคู่ปรับหนุ่มซ้อนท้ายรุ้ง ชายเดียวไม่ถือสาแถมยิ้มยั่วจนจริมาแทบกรี๊ดหมุนตัวไปที่ท่าน้ำพร้อมตะโกนเรียกฉัตต์ให้รีบตามมาลงเรือ

ooooooo

กิจกรรมแรกของสี่หนุ่มสาวคือพายเรือชมบรรยากาศริมคลอง ฉัตต์รับหน้าที่พายเรือกับมิ่งเจ้าของสวน รุ้งจะช่วยด้วยแต่โดนฉัตต์ดุทางสายตาจนหน้าเสีย ชายเดียวสงสารเลยชวนคุย ทำให้ทราบว่าสามพี่น้องพายเรือเป็นทุกคน

“เพราะเรามาเที่ยวสวนของมิ่งตั้งแต่เด็กๆ ถีบรถมาแล้วก็มาพายเรือ” รุ้งอธิบายด้วยสีหน้าเปี่ยมสุข

“กลับไปผมจะให้คนที่วังสอนพายเรือ แล้วผมจะพายให้รุ้งกับริมานั่งตอนพี่ฉัตต์ไปเมืองนอกนะครับ”

“ชายเดียวไม่ต้องหัดหรอก ให้รุ้งเขาพายให้” ฉัตต์อดแขวะไม่ได้

“เรื่องอะไรมาใช้แรงงาน ไปหัดเถอะคุณชายจะได้ไม่ต้องนั่งเฉยๆ อายฟ้าอายดินเปล่าๆ” จริมาเหน็บ

ชายเดียวหัวเราะขำท่าทางเย้ยหยันที่น่าเอ็นดูมากกว่าน่าโกรธ แต่จริมาไม่เข้าใจ หาโอกาสเอาคืนด้วยการพาเขาไปปีนต้นไม้ แล้วก็จริงดังคาด...ราชนิกุลหนุ่มน้อยได้แต่ยืนมองสามพี่น้องปีนขึ้นปีนลงพร้อมรอยยิ้มเต็มหน้าแต่ก็สนุกและสบายใจมากที่ได้ใช้เวลาด้วย

จริมาไม่ละความพยายามจะแก้แค้นจึงพาชายเดียวไปทดสอบอีกเรื่อง งานนี้ฉัตต์สนับสนุนเพราะอยากแกล้งเพื่อนรุ่นน้องเต็มแก่ ฐานทำตัวสนิทชิดเชื้อกับรุ้งเกินเหตุ ชายเดียวกลืนน้ำลายดังเอื๊อกเมื่อเห็นจริมากับฉัตต์เดินกลับไปกลับมาบนต้นมะพร้าวที่ทอดยาวเพื่อข้ามท้องร่องกลางสวน รุ้งไม่อยากให้ลองเพราะกลัวชายเดียวจะตกน้ำ

“ไม่ให้ตกแล้วเมื่อไหร่จะเดินเป็น” ฉัตต์แย้ง

“ก็...ทำไมต้องเดินเป็นล่ะคะ ไม่ได้จำเป็นนี่คะ”

“แต่ฉันเห็นว่าจำเป็นมาก เธออย่ายุ่งดีกว่า”

ชายเดียวนึกสนุกอยากลองแต่มีข้อแม้ว่าจริมาจะไม่หัวเราะเยาะถ้าเขาพลาดตกน้ำ จริมาไม่ยอมโวยลั่น

“จะไม่หัวเราะได้ไง เสียธรรมเนียมหมด ถ้าตกก็ต้องหัวเราะ ส่วนอย่างอื่นขอได้...สัญญาว่าจะไม่ทำ”

ชายเดียวเปลี่ยนใจไม่ยอมเลยโดนล้อหนัก รุ้งสงสารจึงฉวยโอกาสตอนฉัตต์กับจริมาเผลอจูงมือชายเดียวข้ามท้องร่องอย่างรวดเร็ว จริมาไม่เชื่อว่าชายเดียวจะทำได้จึงแหวใส่ด้วยความหมั่นไส้

“ริมารับรองว่าคุณชายไม่มีทางเดินมาคนเดียว เพราะถ้าเดินเองคุณชายต้องตกน้ำไปแล้วแน่นอน ต้นมะพร้าวมันเล็กแล้วก็ดิ้นได้ด้วย ตอนเรายังหัดเดินตั้งหลายวัน...จริงไหมพี่ฉัตต์ จริงไหมรุ้ง” ไม่มีใครตอบอะไรทำเอาจริมาหงุดหงิดหันไปกดดันชายเดียวอีก “จะให้เชื่อก็เดินอีกหน ว่าไงคุณชาย...แล้วรับรองนะ ฉันพูดเรื่องนี้จนตายเลย”

ฉัตต์มั่นใจว่ารุ้งต้องช่วยเลยหมดอารมณ์เล่นต่อ ก้าวไปลากรุ้งกลับบ้านสวนด้วยกัน ส่วนจริมาหันมาท้าทายชายเดียวให้เดินอีกรอบ ราชนิกุลหนุ่มทนแรงยุไม่ไหวเลยก้าวไปยืนเก้ๆกังๆที่กลางลำมะพร้าว จริมานึกสนุกเข้าไปจูงและแกล้งผลักเขาตกน้ำจนเลอะโคลนทั้งตัว แต่ก็โดนเอาคืนแบบทันท่วงทีเมื่อถูกดึงลงไปด้วย ทั้งคู่มองหน้ากันเคืองๆ แล้วอดหัวเราะไม่ได้...ขำที่ต่างก็หน้าตาเลอะเทอะจนดูแทบไม่ออกว่าเป็นใครมาจากไหน!

จริมากับชายเดียวแหย่กันไม่เลิก จนกระทั่งไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าบนบ้านก็ยังแกล้งสาดน้ำใส่กันไม่หยุดหย่อน รุ้งอดยิ้มไปด้วยไม่ได้ ในที่สุดจริมาก็ยอมญาติดีกับชายเดียว ต่างจากฉัตต์ที่อารมณ์เสีย หาเรื่องติโน่นนี่แม้กระทั่งเรื่องของว่างที่รุ้งเตรียมมา

“แต่รุ้งเป็นคนทำ เป็นคนจัด แล้วให้สำลีเอามาส่งไว้ที่มิ่งตั้งแต่เช้า คุณฉัตต์น่ะไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีของรับทาน”

“แต่ของเนี่ย...มันก็ทำมาจากกับข้าวของคุณ...”

“ถึงจะเป็นของคุณลุงพ่อคุณฉัตต์ แต่คุณลุงก็เลี้ยงรุ้งมา ถึงเวลาอาหารรุ้งก็ต้องทาน ไม่งั้นรุ้งก็ตายน่ะสิคะ”

ฉัตต์พูดไม่ออกเมื่อเจอตอกกลับซื่อๆ รุ้งได้แต่ก้มหน้าหลบตาแต่ก็อดขำในใจไม่ได้...สมน้ำหน้าพ่อคนขี้เก๊ก!

ooooooo

ขากลับมีการสลับคู่นิดหน่อย ฉัตต์ขี่จักรยานให้ชายเดียวซ้อน ส่วนสองสาวปั่นกันคนละคัน จริมาร้องเพลงนำก่อนส่งให้รุ้งรับช่วงต่อ...เสียงหวานใสก้องกังวานของรุ้งทำให้ฉัตต์กับชายเดียวถึงกับเคลิ้ม

“อันความกรุณาปรานี จะมีใครบังคับก็หาไม่หลั่งมาเองเหมือนสายฝนอันชื่นใจ จากฟากฟ้าสุราลัยสู่แดนดิน”

ชายเดียวปรบมือชื่นชม มีเพียงฉัตต์ที่ชักสีหน้าเพราะคิดว่าเธอร้องเพลงว่ากระทบ ชายเดียวไม่เข้าใจ จริมาเลยเฉลยว่าพี่ชายร้อนตัวเพราะชอบแกล้งรุ้ง

“ไม่เกี่ยวค่ะ รุ้งร้องเพลงนี้เพราะชอบ มันเป็นเพลงประจำของพยาบาลค่ะ”

ฉัตต์ทำเมิน จริมาหมั่นไส้แต่ขี้เกียจเถียงด้วย รุ้งได้แต่ก้มหน้าจ๋อยๆ อ่อนใจที่ถูกเขาดุอยู่เรื่อย เธอตัดสินใจบอกแม่คืนนั้นว่าจะเรียนพยาบาล

“ต่อไปบ้านเราจะมีคนแก่หลายคน รุ้งจะเรียนเพื่อได้พยาบาลคนในบ้านไงคะ”

“รุ้ง...แม่อยากให้ลูกเรียนมหาวิทยาลัย เรียนจุฬาฯหรือธรรมศาสตร์นะลูก ลูกต้องสอบได้แน่นอน” รุ้งเหมือนจะคล้อยตาม จันทร์จึงกล่อมต่อ “แม่อยากเห็นลูกเรียนมหาวิทยาลัย อยากเห็นรุ้งแต่งชุดนิสิตนักศึกษา”

“ชุดนักเรียนพยาบาลก็น่ารักนะจ๊ะแม่ รุ้งเรียนพยาบาลน่ะเหมาะที่สุดแล้ว”

จันทร์เริ่มคล้อยตาม ปลาบปลื้มในจิตใจใสสะอาดของลูกสาว ดึงร่างเล็กบางเข้ามาในอ้อมแขนน้ำตาคลอ

“แม่รู้แล้ว...แม่รักหนูนะ รักที่สุด รุ้งเป็นความชื่นใจของแม่ ไม่อย่างนั้นแม่คงไม่อยากมีชีวิตอยู่ วันหนึ่งนะลูก...แม่จะเล่าให้ฟังทุกอย่างที่เกิดขึ้นในชีวิตแม่”

“รุ้งควรรู้ใช่ไหมจ๊ะ”

“ใช่ลูก...แต่วันนี้แม่ขอบใจ ขอบใจที่รุ้งไม่เคยถามแม่ถึงชีวิตหนหลัง ไม่เคยถามถึงพ่อทั้งที่แม่รู้ว่าลูกสงสัย”

รุ้งพยักหน้ารับ จันทร์ลูบศีรษะลูกสาวเบาๆ...แม่สัญญาว่าลูกจะได้รู้ทุกอย่าง

เวลาเดียวกันที่วังรังสิยา...ท่านหญิงยืนเหม่อไปทางเรือนของบุหลัน ภาพและคำพูดบาดหูของสามียังก้องในหัว

“ถึงมันจะเป็นเมียก็เป็นเมียบ่าว มันอยู่แต่ที่เรือนมัน พี่จะไม่ให้มาเกี่ยวข้องหรือตีเสมอหญิงเป็นอันขาด”

ครั้งนั้นเธอเจ็บปวดแสนสาหัส แต่ก็ต้องช้ำใจหนักขึ้นเมื่อนังหม่อมคนโปรดตั้งท้อง

“พี่ขอโทษที่ไม่ได้ขึ้นมานอนข้างบนหลายวัน บุหลันมันแพ้ท้องมาก...แพ้จนน่ากลัว” ท่านหญิงกัดฟันน้ำตาคลอแต่ท่านชายเหมือนจะมองไม่เห็น “พี่ฝากหญิงสั่งคนดูแลมันด้วย พี่จะรีบไปเยี่ยมหม่อมแม่แล้วจะรีบกลับ บุหลันจวนคลอดแล้ว หวังว่าวังรังสิยาจะได้ทายาทสืบสกุลเสียที”

ท่านหญิงสั่นพระพักตร์เรียกตัวเองกลับมา ความแค้นที่สั่งสมมานานยังอยู่ในใจเสมอ เมื่อชายเดียวเข้ามาหาเพื่อรายงานตัวเหมือนเคยก็ทนดูหน้าลูกไม่ได้เพราะกำลังคิดถึงบุหลัน ไล่ตะเพิดออกจากห้องเสียงดัง ครั้นชายเดียวออกไปจึงเรียกหาเฟือง และเมื่อผีต้นห้องคนสนิทปรากฏร่างลางๆจึงลุกขึ้นยืนพร้อมพึมพำเสียงเคร่ง

“เฟือง...มันยังอยู่ บุหลันมันยังอยู่ อยู่ใกล้ๆนี่เอง”

ooooooo

อ่านละคร แค้นเสน่หา ตอนที่ 6

ความคิดเรื่องอดีตหม่อมคนโปรดของท่านชายอาจมีชีวิตและเป็นคนเดียวกับจันทร์รบกวนท่านหญิงจนไม่เป็นอันทำอะไร ผีเฟืองเข้ามาหมอบเฝ้าเหมือนเคยในคืนนั้น ยืนยันหนักแน่นว่าไม่ใช่แต่ท่านหญิงยังคาใจ

“หญิงว่าใช่ คนเราจะเหมือนกันได้ถึงเพียงนี้หรือเฟือง”

“ถึงจะใช่ มันก็พ้นทางไปแล้วนะมังคะ”

“พ้นทาง...แล้วหญิงมีความสุขงั้นหรือ เฟืองคิดว่าหญิงมีความสุขหรือที่บุหลันไม่อยู่ เจ้าพี่ทรงโศกเศร้าถึงมัน คิดถึงแต่มันแม้แต่ตอนนอนเจ็บ สิ้นไปแล้ววิญญาณก็อาจวนเวียนอยู่ใกล้มัน” ท่านหญิงอารมณ์ขึ้น ก้มลงมองเฟืองด้วยแววตาแข็งกร้าว “คิดจะฆ่ามัน...แต่มันก็ไม่ตาย”

อ่านละคร แค้นเสน่หา ตอนที่ 5-6 วันที่ 13 ก.ค. 56

ละครแค้นเสน่หา บทประพันธ์โดย : วราภา
ละครแค้นเสน่หา บทโทรทัศน์โดย : อ.แดง ศัลยา
ละครแค้นเสน่หา กำกับการแสดงโดย : สำรวย รักชาติ
ละครแค้นเสน่หา ผลิตโดย : บริษัท ฮูแอนด์ฮู จำกัด
ละครแค้นเสน่หา ควบคุมการผลิตโดย : วรายุทธ มิลินทจินดา
ละครแค้นเสน่หา ออกอากาศ: เร็ว ๆ นี้ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ