@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร สามีตีตรา ตอนที่ 5 วันที่ 25 ก.พ. 57

อ่านละคร สามีตีตรา ตอนที่ 5 วันที่ 25 ก.พ. 57

“ก็คุยว่าคุณชายจะเปลี่ยนใจไหม”
“ก๋ง” กะรัตชะงัก
เจ้าสัวบัญชาหัวเราะ
“ดุอย่างนี้นี่เอง คุณชายถึงไม่กล้าเปลี่ยนใจ”
กะรัตฟังเจ้าสัวบัญชาพูดแล้วดีใจ รีบเข้าไปกอดพิสุทธิ์ไว้
“ต่อให้คุณเปลี่ยนใจ กั้งก็ไม่มีวันยอมหรอก”
“ถ้าประกาศซะขนาดนี้ งั้นก็รีบไปจัดงานแต่งซะ” เจ้าสัวบัญชาขำกะรัต

“สรุป...ทุกอย่างโอเคแล้วนะคะ...เย้” กะรัตกระโดดกอดพิศุทธิ์
เนื้อแพรเดินออกจากประตูบ้านกะรัต กฤชรีบเดินตามมา


“แพร...”
เนื้อแพรชะงักแล้วถอนใจ เพราะรู้ว่าสุดท้ายต้องพูดกับกฤชอยู่ดี
“ก็อย่างที่ฉันพูดล่ะค่ะ เพื่อให้คุณพวงหยกเลิกคิด เลิกระแวง จนทำลายชีวิตความรักของลูก เราต้องเลิกติดต่อกัน”
“แต่เราไม่มีอะไร เราเป็นเพื่อนกัน คุณกับผมรู้ดี”
“ค่ะ เรายังเป็นเพื่อนกัน คุณยังเป็นเจ้าหนี้ของฉันฉันสัญญาว่าจะคืนเงิน คุณให้เร็วที่สุดเราจะคุยกันเฉพาะ เรื่องงาน ส่วนเรื่องอื่น...ขอให้จบ”
“เอาถึงขั้นนั้นเลยเหรอ”
“ตัวฉันเอง ใครจะว่า จะประนามยังไง ฉันไม่แคร์ แต่ที่ฉันแคร์ที่สุดคือลูก ฉันจะไม่ทำให้ชีวิต แต่งงานของชายต้องมาพังเพราะเสียง ซุบซิบของใครต่อใครว่าพ่อกับแม่ ลูกกับลูก ฉันทนไม่ได้”
“แพร...”
เนื้อแพรมองผ่านไหล่กฤชไปมองพิศุทธิ์ ที่เดินออกมาพร้อมกะรัต
“เดี๋ยวชายกลับไปทำงานต่อใช่ไหมลูก งั้นแม่กลับบ้านเลยนะจ๊ะ” เนื้อแพรหันมาพูดกับกฤช
“ลาก่อนนะคะ”
เนื้อแพรยิ้มให้กฤชแล้วหันหลังแล้วเดินไปที่รถ โดยไม่หันมามองกฤช เป็นการบอกว่าเธอตัดสินใจแน่วแน่แล้วและจะไม่มีการเปลี่ยนใจ กฤชมองเนื้อแพรซ่อนความเจ็บไว้ลึกๆในหัวใจ พิศุทธิ์กับกะรัตมองเนื้อแพรกับกฤชอย่างเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น
“ผมไปก่อนนะครับ”
พิศุทธิ์ไหว้กฤช แล้วจับมือกะรัต แล้วเดินไปขึ้นรถ กฤชเดินนิ่งๆเข้าบ้านไป กะรัตมองตามพ่อไป

กฤชยืนมองน้ำในสระนิ่งๆ กะรัตเดินมายืนข้างๆ แล้วมองไปทั่วว่าไม่มีพวงหยกมาแอบฟังจึง หันไปพูดกับพ่อ
“เพราะกั้งหรือเปล่าค่ะ ที่ทำให้พ่อกับคุณเนื้อแพรต้องมาจบความสัมพันธ์กัน”
“มันไม่เกี่ยงกันหลอกลูก พ่อกับเนื้อแพรไม่มีอะไร ที่พ่อชอบเขา เพราะเขาอยู่ด้วยแล้วสบายใจ ตรงกันข้ามกับเวลาอยู่กับแม่ของกั้ง”
“พ่อเคยรักแม่บ้างไหม”
“เคยรักสิ”
“แล้วทำไมตอนนี้ถึงเป็นแบบนี้”
“เพราะความไม่เชื่อใจกันไงลูก บ้านหนึ่งหลังมันต้องประกอบด้วยต้นเสาหลายต้น บ้านถึงจะมีความคงทน ก็เหมือนกับครอบครัวแหละลูก จะใช้เพียงแค่ความรักอย่างเดียว ไม่ได้ มันต้องประกอบด้วยความเชื่อใจ ไว้ใจ ให้อภัยกันและกัน ครอบครัวก็จะแข็งแรง จำไว้นะลูก”
กะรัตมองกฤชอย่างคิดๆ

พวงหยกกับกุนตียืนอยู่ริมระเบียงห้อง มองกะรัตกับกฤชที่ยืนคุยกันริมสระน้ำ
“ดูสองพ่อลูกเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยเลยนะ ใช่ซิ หลงคนบ้านเดียวกันนี่” พวงหยกหมั่นไส้
“คุณแพรก็บอกแล้วไงว่าเขาจะหยุดติดต่อกับพ่อ แม่ก็น่าจะเลิก...”
กุนตีพูดไม่ทันจบพวงหยกสวนทันที
“นี่ยายกุ้ง ฉันกินข้าวเป็นอาหารไม่ได้กินหญ้า ฉันไม่โง่เชื่อคำพูดนังนั่นหรอก คอยดูนะ ฉันจะทำให้ทั้งพ่อทั้งน้องแกเห็น ว่าสองแม่ลูก มันไม่ได้มีความจริงใจอะไรเลย มันหวังแต่จะเข้ามา ปอกลอก”
สายน้ำผึ้งเดินมายืนหน้าประตูรั้วบ้านพิศุทธิ์พยายามชะเง้อ มองภายในบ้านว่ามีใครอยู่ไหม เธอเอื้อมมือไปที่กริ่งหน้าบ้านจะกดกริ่งแล้วชะงัก ลังเลว่าจะกดกริ่งดีไหม เพราะใจหวาดหวั่นกลัวว่า คนที่มาเปิดประตูเป็นภรรยาของพิศุทธิ์ สุดท้ายเธอก็ตัดสินใจกดกริ่งพร้อมกับชะเง้อรออย่างลุ้นๆว่า ใครจะมา เปิดประตูรั้วให้ แต่พอไม่เห็นใครออกมาสักที เธอจึงเลิกกดมองไปทางซ้ายมองไปทางขวา มองหาคนข้างบ้านเพื่อนถามเรื่องของพิศุทธิ์ว่า มีภรรยารึยังไม่เห็นใคร
เนื้อแพรขับรถเลี้ยวมาตามถนนเข้าบ้าน สายน้ำผึ้งกับรถของเนื้อแพรสวนกัน ทั้งสองหันมองเห็นกัน สายน้ำผึ้งมองเนื้อแพรด้วยความช็อค เนื้อแพรเองก็แทบไม่เชื่อสายตา สายน้ำผึ้งหันมองไปตามทางรถที่แล่นไปจอดที่หน้าบ้าน สายน้ำผึ้งรีบผละออกไป เป็นจังหวะที่เนื้อแพรจอดรถที่หน้าบ้านและลงมามองตามแต่สายน้ำผึ้งหายไปแล้ว
“สายน้ำผึ้ง” เนื้อแพรแปลกใจว่าสายน้ำผึ้งมาทำไม

สายน้ำผึ้งเดินหน้าตาช็อคๆมาที่ร้านมินิมาร์ทที่มีแผงหนังสืออยู่หน้าร้าน แม่ค้าเห็นหน้าเธอดูตกใจก็ทักขึ้น
“หนู ทำไมหน้าซีดแบบนั้นหล่ะ จะเป็นลมรึเปล่า”
สายน้ำผึ้งได้สติ
“เอ่อ...ป้าจ๊ะ บ้านนั้นเป็นบ้านดาราใช่มั้ยจ้ะ”
“อ๋อ...ใช่แล้ว...บ้านนั้นก็บ้านคุณเนื้อแพรไง ว่าแต่หนูเป็นแฟนคลับเขาเหรอ ถึงตามมาถึงที่บ้าน”
“อ๋อ ค่ะ...เอ่อ ป้าจ้ะแล้วเขาอยู่กับใครจ้ะ”
“เป็นแฟนคลับภาษาอะไรเรื่องแค่นี้ก็ไม่รู้ คุณเนื้อแพรเขาก็อยู่กับลูกชายเขาไงคุณพิศุทธิ์น่ะ”
สายน้ำผึ้งยิ่งช๊อคเมื่อได้ยินชื่อพิศุทธิ์ เธอนึกถึงคำพูดของเนื้อแพรในงานศพภูเบศร์
“เธอยังมีทางเลือกอยู่นะสายน้ำผึ้ง เลือกว่าจะเดินออกไปจากชีวิตของทุกคน โดยไม่ทำให้ใคร บาดเจ็บ หรือจมอยู่ในโศกนาฏกรรมที่เธอ ไม่มีวันเป็นผู้ชนะ”
สายน้ำผึ้งเครียดเพราะเนื้อแพรเป็นคนรู้เบื้องลึกของตัวเอง แล้วยังเป็นแม่ของพิศุทธิ์อีก เธอมองไปทางบ้านของพิศุทธิ์
“หรือว่าที่คุณพิศุทธิ์ยังไม่ให้แหวนเราเพราะเนื้อแพรพูดเรื่องนั้น”

สายน้ำผึ้งพยายามคิดหาวิธีว่าจะอธิบายให้พิศุทธิ์เข้าใจยังไง
พิศุทธิ์เดินมาที่ห้องทำงาน ฟองดาวรีบลุกจากโต๊ะมาหาด้วยหน้าตายิ้มแย้ม

“แสดงความยินดีด้วยนะคะคุณพิศุทธิ์”
พิศุทธิ์ชะงักมองฟองดาวงงๆ
“แสดงความยินดีผมเรื่องอะไรครับ”
“แหม...ก็เรื่องที่คุณพิศุทธิ์กำลังจะเป็นเจ้าบ่าวน่ะสิคะ”
พิศุทธิ์ชะงัก ไม่คิดว่าฟองดาวจะรู้เพราะเขายังไม่ได้บอกใครเลย
“คุณฟองดาวรู้ได้ยังไงครับ”
“ก็ชายนี่ฝ่ายการตลาดเปิดเวปซุบซิบไฮโซให้ดูน่ะสิคะ เขารู้กันทั้งบริษัทแล้วล่ะค่ะ”
โทรศัพท์ของพิศุทธิ์ดังขึ้นเขาเอาโทรศัพท์ออกมาดูเป็นชื่อ เนื้อแพร พิศุทธิ์หันไปขอตัวกับฟองดาว ก่อนเดินปลีกตัวมากดรับสาย
“ครับแม่”
“ชายรู้จักกับสายน้ำผึ้งรึเปล่าลูก”
พิศุทธิ์แปลกใจที่เนื้อแพรถามถึงสายน้ำผึ้งขึ้นมา
“แม่ทราบเรื่องคุณผึ้งได้ยังไงครับ”
“แสดงว่าคำตอบคือ ใช่”
“ครับแม่ ผมทำงานที่เดียวกับคุณผึ้ง”
เนื้อแพรถอนหายใจเฮือก
“มิน่า...”
“ทำไมหรือครับแม่”
“แม่เห็นสายน้ำผึ้งแถวบ้านเรา นึกอะไรไม่มีผิดว่าต้องเกี่ยวกับชายแน่ๆเรื่องนี้กะรัตรู้รึยังลูก”
“ยังครับ ผมยังไม่มีโอกาสได้บอกกั้งครับ”
“ชาย แม่ขอเตือนนะลูก สายน้ำผึ้งกับกะรัตมีอดีตที่เลวร้ายต่อกันมากกะรัตจะรู้สึกยังไงถ้ารู้ว่าลูกปิดเขาเรื่องนี้”
“เพราะผมคิดว่ามันไม่น่ามีอะไร ตอนนี้สายน้ำผึ้งก็เริ่มต้นทำงานที่ใหม่เพื่อดูแลลูก กั้งก็อยู่ส่วนกั้ง ผมว่าไม่น่ามีปัญหา”
“ชายรู้จักผู้หญิงน้อยไป เรื่องของสายน้ำผึ้งกับหนูกั้ง ไม่ใช่การทะเลาะเพราะการไม่มีแล้วถึงแย่ง แต่มันเป็นเรื่อง ของความอิจฉาริษยา สายน้ำผึ้งหักหลังเพื่อนอย่าง เลือดเย็น แม่เตือนชายไว้เลยนะลูก ผู้หญิงคนนี้อันตราย ว่าถ้าสายน้ำผึ้งรู้ว่าชายเป็นคนรักของหนูกั้ง เขาต้องไม่ปล่อยหนูกั้ง มีความสุขกับ ชายแน่ๆ”
เนื้อแพรวางสายไป พิศุทธิ์ฟังเนื้อแพรพูดแล้วคิดๆอย่างกังวล

สายน้ำผึ้งยืนคิดเครียดกังวลเรื่องเนื้อแพรกับพิศุทธิ์อยู่หน้าร้านมินิมาร์ท แม่ค้ามองๆ
“หนูเป็นอะไรรึเปล่า หน้าซีดเชียว”
สายน้ำผึ้งสะดุ้งตื่นจากภวังค์
“ปละ...เปล่าจ้ะ”
“แล้วตกลงหนูถามทำไม”
“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ หนูทำงานกับคุณพิศุทธิ์ พอดีเห็นคุณเนื้อแพรเลยนึกว่าเข้าบ้านผิด”
“อ๋อ หนูรู้จักคุณพิศุทธิ์เหรอ งั้นป้าฝากแสดงความยินดีกับเขาด้วยนะ”
สายน้ำผึ้งมองแม่ค้างงๆ
“แสดงความยินดีอะไรจ้ะ”
“อ้าว...หนูไม่รู้เหรอ ข่าวเขาออกจะดัง...” แม่ค้ามองไปทางแผงหนังสือแล้วหยิบหนังสือพิมพ์มา “น่าจะฉบับนี้แหละ”
แม่ค้ากำลังเปิดหนังสือพิมพ์ไปที่หน้าข่าวสังคมเพื่อให้สายน้ำผึ้งดูข่าวพิศุทธิ์ขอกะรัตแต่งงาน

พิศุทธิ์นั่งที่โต๊ะทำงานครุ่นคิดถึงคำพูดของเนื้อแพร
“แม่เตือนชายไว้เลยนะลูก ผู้หญิงคนนี้อันตราย ว่าถ้าสายน้ำผึ้งรู้ว่าชายเป็นคนรักของหนูกั้ง เขาต้องไม่ ปล่อยหนูกั้งมีความสุขกับชายแน่ๆ”
พิศุทธิ์หยิบมือถือกดโทรหาสายน้ำผึ้ง
“ฮัลโหล...คุณผึ้งครับ เอ่อ...เย็นนี้คุณผึ้งว่างไหมครับ ผมมีเรื่องอยากคุยกับคุณผึ้งน่ะครับ”
แม่ค้ายังเปิดหนังสือพิมพ์หาหน้าข่าวสังคมอยู่
สายน้ำผึ้งคุยมือถือกับพิศุทธิ์ด้วยใบหน้ามีความหวัง
“ค่ะ...แล้วเย็นนี้เจอกันค่ะ”
สายน้ำผึ้งกดวางสายด้วยหัวใจพองโต แม่ค้ากำลังเปิดหนังสือพิมพ์หาข่าวของ พิศุทธิ์กับกะรัตแล้วพึมพำ
“อยู่หน้าไหนนะ เพิ่งอ่านไปหยกๆ”
“ข่าวอะไรจ้ะ”
“ก็ข่าวคุณพิศุทธิ์เขาขอแตะ...”
แม่ค้าจะพูดว่าแต่งงาน แต่พูดไม่ทันจบ ลูกค้าเข้ามาสั่งของเสียก่อน
“ป้า เอาผงซักฟอกกล่องนึง”
แม่ค้าวางหนังสือพิมพ์ แล้วเดินไปหยิบของให้ลูกค้า สายน้ำผึ้งจะหยิบหนังสือพิมพ์มาเปิดดู ทันใดนั้นแผงหนังสือล้มระเนระนาด หนังสือหล่นกระจาย หนังสือพิมพ์หล่นที่พื้นเปิดหน้ารูปพิศุทธิ์ เอาริบบิ้นผูกข้อมือกะรัต แต่ในรูปไม่เห็นหน้ากะรัตเห็นแต่ด้านหลังของกะรัต
สายน้ำผึ้งเหลือบมองรูปนั้นแล้วจะรีบไปหยิบหนังสือพิมพ์ พอดีลูกค้าเดินออกจากร้านตัดหน้า สายน้ำผึ้งจะพุ่งไปหยิบหนังสือพิมพ์จึงชนกับ ลูกค้าเธอล้มลงกับพื้นอย่างแรงจุกท้อง
“โอ้ย”
แม่ค้าและลูกค้ามองสายน้ำผึ้งที่จุกท้องอย่างตกใจ
“หนูเป็นอะไรรึเปล่า” แม่ค้าหันไปพูดกับลูกค้า “พาไปโรงพยาบาลเถอะ”
สายน้ำผึ้งพยายามจะเอื้อมมือไปหยิบหนังสือพิมพ์ที่มีรูปพิศุทธิ์มาดู ลูกค้าเข้ามาอุ้มร่างของเธอไปหน้าร้านเพื่อเรียกแท็กซี่ สายตาของสายน้ำผึ้งมองไปที่หนังสือพิมพ์อย่างค้างคาใจอยากรู้

ในร้านขายของชำ รสสุคนธ์ยื่นใบรายการให้พ่อค้า
“เอาของตามนี้นะเฮีย”
พ่อค้าเข้าไปจัดของให้ รสสุคนธ์รอของอยู่ก็เดินเตร็ดเตร่ไปดูที่แผงหนังสือ หยิบหนังสือดู 2-3เล่มแล้วหยิบหนังสือพิมพ์มาดู เปิดไปที่หน้าข่าวสังคม ภาพที่เห็นทำให้รสสุคนธ์ตกใจ ข่าวในหนังสือพิมพ์เป็นภาพพิศุทธิ์เอาริบบิ้นผูกข้อมือกะรัต รสสุคนธ์อ่านพาดหัวข่าวอย่างอึ้งๆ
“งานแฟชั่นเปิดตัวแบรนด์เสื้อกะรัต ม.ล. พิศุทธิ์มีเซอร์ไพร์สขอไฮโซสาวแต่งงานกลางเวที”
หนังสือพิมพ์ร่วงหลุดจากมือของรสสุคนธ์ที่อึ้ง ด้วยความคิดถึงสายน้ำผึ้งจะเป็นยังไงหากรู้เรื่องนี้ มือถือของรสสุคนธ์ดังขึ้น เธอกดรับสาย
“สวัสดีค่ะ...ผึ้ง” รสสุคนธ์ตกใจ
รสสุคนธ์ยืนคุยกับหมออยู่หน้าห้องพักฟื้นของสายน้ำผึ้ง
“เด็กยังปลอดภัยครับ แต่แรงกระแทกค่อนข้างแรง คนไข้รู้สึกปวดหน่วงๆที่ท้องน้อย พอปวด...ท้องก็แข็ง หมอคิดว่าเป็นอาการของ มดลูกบีบตัว คนไข้อาจเสี่ยงต่อการคลอดก่อนกำหนด ดังนั้นหมอขอ ให้คนไข้นอนพักที่นี่ ให้นอนนิ่งๆ อย่าขยับมาก สักหนึ่งสัปดาห์...คงไม่มีปัญหาใช่ไหมครับ”
รสสุคนธ์นิ่งคิดอย่างรู้ดีว่าสายน้ำผึ้งต้องมีปัญหาแน่ เธอมองหนังสือพิมพ์ที่อยู่ในกระเป๋าสะพาย ของตัวเอง

สายน้ำผึ้งจะลุกออกจากเตียง พยาบาลสองคนพยายามช่วยกันจับให้นอนนิ่งๆ
“ปล่อยฉัน ฉันจะไปทำงาน” สายน้ำผึ้งพยายามสะบัดตัวออกจากการจับของพยาบาล
“ไม่ได้ค่ะ คุณหมอให้คุณนอนนิ่งๆ”
“ฉันไม่นอน”
รสสุคนธ์เข้าห้องมาเห็นเหตุการณ์ จึงรีบเข้าไปจับตัวสายน้ำผึ้ง
“ผึ้ง นอนนิ่งๆ”
สายน้ำผึ้งขืนตัวไม่ยอมนอน
“ผึ้งไม่นอน ผึ้งจะไปหาคุณพิศุทธิ์ เขานัดผึ้งไปเจอเย็นนี้ เขาต้องเอาแหวนให้ผึ้งแน่ๆ”
รสสุคนธ์มองสายน้ำผึ้งอย่างสงสาร แล้วพยายามพูดนิ่งๆสงบความคลุ้งคลั่งของหลาน รสสุคนธ์จับไหล่ให้นอน
“นอนก่อนเถอะผึ้ง”
สายน้ำผึ้งปัดมือรสสุคนธ์ พร้อมกับผลักพยาบาลที่จับล็อคมือสายน้ำผึ้งกระเด็นออกไป แล้วลุกจากเตียงเพื่อเปิดประตู พยาบาลและรสสุคนธ์ช่วยกันเข้าไปจับตัวไว้
“ปล่อยฉัน ฉันจะไปหาคุณพิศุทธิ์” สายน้ำผึ้งพยายามดิ้น
รสสุคนธ์ทนเห็นสายน้ำผึ้งคลั่งต่อไปไม่ไหว
“ไม่ต้องไปหาเขาแล้ว เขาไม่มีวันเอาแหวนนั่นให้ผึ้งหรอก เพราะแหวนนั่น เขาเอาไปขอกั้ง แต่งงานแล้ว”
สายน้ำผึ้งชะงักกึก หันขวับมามองรสสุคนธ์
“น้ารสว่ายังไงนะ”
รสสุคนธ์หยิบหนังสือพิมพ์จากในกระเป๋าสะพาย ยื่นให้สายน้ำผึ้ง
“อ่านเอาเอง จะได้ตาสว่างสักที”
สายน้ำผึ้งมองหนังสือพิมพ์ที่รสสุคนธ์ยื่นมาให้รู้สึกหัวใจกำลังจะแตก เป็นเสี่ยงๆ เธอไม่อยากรับหนังสือพิมพ์มาเปิดดูเพราะกลัวว่าสิ่งที่รสสุคนธ์พูด เป็นความจริง ทันใดนั้นเธอก็ปัดหนังสือพิมพ์จากมือรสสุคนธ์ทิ้ง ไม่ยอมรับมาเปิดดู พยายามวิ่งหนีความจริง
“ไม่จริง สองคนนั้นไม่เคยรู้จักกัน เขาจะขอแต่งงานกันได้ยังไง ไม่จริง ผึ้งไม่เชื่อ”
สายน้ำผึ้งเป็นลมล้มไป รสสุคนธ์และพยาบาลรีบเข้าไปประคองไว้ด้วยความตกใจ

ค่ำนั้น รสสุคนธ์ยืนมองสายน้ำผึ้งที่นอนหลับสงบอยู่บนเตียงลูบผมที่ ปรกหน้าหลานด้วยความรักและสงสาร
“ผึ้งเอ้ย ยอมรับเถอะลูก อะไรไม่ใช่ของเรา มันก็ไม่ใช่ของเรา”
รสสุคนธ์ลูบผมเห็นสายน้ำผึ้งหลับจึงเดินไปหยิบถุงใส่เสื้อผ้า เดินเข้าห้องน้ำไปอาบน้ำเตรียม นอนเฝ้าหลาน รสสุคนธ์ปิดประตูห้องน้ำ สายน้ำผึ้งลืมตาขึ้นทันที

ศิวานั่งรถเข็นหมุนล้อมาหน้าลิฟท์โดยชะเง้อหน้ามองหากันตา ประตูลิฟท์เปิดออกสายน้ำผึ้งเดินออกจากลิฟท์เซๆไปชนศิวา เขาหันไปมองเธอแต่เห็นด้านหลัง สายน้ำผึ้งไม่หันหน้ามาขอโทษเดินออกไป
“ไม่คิดจะขอโทษสักคำรึไง”
ศิวาเข้าลิฟท์ ประตูลิฟท์ปิด

รสสุคนธ์อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ เดินออกจากห้องน้ำหันไป มองสายน้ำผึ้งที่เตียง แต่ไม่เห็นอยู่บนเตียงแล้ว รสสุคนธ์ตกใจมาก
สายน้ำผึ้งนั่งนิ่งในรถแท็กซี่ มือกำหนังสือพิมพ์หน้าที่เป็นข่าวพิศุทธิ์ขอกะรัตแต่งงาน ใบหน้านิ่งสงบแต่ตรงกันข้ามกับเสียงโวยวายที่พร่ำร้องกึกก้องในใจ

“คุณพิศุทธิ์ต้องเป็นของฉัน ไม่ใช่ของแก...นังกั้ง”

พิศุทธิ์นั่งที่โต๊ะในร้านอาหาร รอสายน้ำผึ้งอยู่ ได้ยินเสียงกระดิ่งที่แขวนที่ประตูร้านดัง เขาคิดว่าเป็นสายน้ำผึ้ง มองไปทางประตูร้านเห็นลูกค้าคนอื่นเดินเข้ามา จึงมองนาฬิกาอย่างกังวลว่า สายน้ำผึ้งท้องแก่ จะเดินทางติดขัดอยู่ที่ไหนรึเปล่า… รถแท็กซี่ขับมาจอดหน้าร้านอาหาร สายน้ำผึ้งลงจากรถพร้อมถือถุงใส่ของบางอย่างลงมาด้วย

กะรัตนั่งออกแบบชุดแต่งงานให้ตัวเองอยู่ในห้องเสื้อ กุนตีเดินเข้ามาหยุดยืนมองด้านหลังอยู่พักหนึ่ง จึงหันไปมองแล้วทำหน้าชะงัก
“มาเงียบๆ กั้งตกใจหมดเลยพี่กุ้ง”
“ก็พี่เห็นว่าพอคุณพิศุทธิ์กลับไป กั้งก็พุ่งออกจากบ้าน นึกว่าจะไป ดื่มน้ำหมักองุ่นที่ไหน ที่แท้แอบมาออกแบบชุดแต่งงานตัวเองนี่เอง”
“วันนี้เป็นวันที่กั้งมีความสุขที่สุด ทำให้กั้งได้ไอเดียบรรเจิด เลยต้องรีบมาวาดไว้”
กุนตีมองกะรัตที่วาดแบบชุดด้วยใบหน้ามีความสุข
“ท่าทางงานครั้งนี้จะพิเศษจริงๆ เพราะงานแต่งทั้งสามครั้ง กั้งไม่เคยออกแบบชุดเอง”
“ก็เพราะครั้งนี้กั้งแต่งงานกับผู้ชายที่พิเศษที่สุดในชีวิตกั้งไงคะ ผู้ชายที่ไม่แคร์เงินของกั้ง ไม่แคร์อดีตของกั้ง ผู้ชายที่ให้ความรักจากหัวใจ นี่จะเป็นงานแต่งครั้งสุดท้ายและชีวิตต่อจากนี้ กั้งจะมีคุณพิศุทธิ์ คนเดียว”
“งั้นพี่ก็ขอให้กั้งสมหวังอย่างที่คิด อย่าทำพังเพราะความใจร้อนและขาดสติอีก”
“ไม่มีทาง กั้งจะเปลี่ยนเป็นคนใหม่ ไม่ยอมให้ใครมาทำให้กั้งขาดสติอีก”
“รวมถึงสายน้ำผึ้งด้วยใช่ไหม”
กะรัตหันไปมองหน้ากุนตีขวับ

สายน้ำผึ้งเปิดประตูเดินเข้ามาในร้านอาหาร มองไปทาง มุมนึงของร้าน เห็นพิศุทธิ์นั่งอยู่ จึงเดินไปนั่งด้วย
“ขอโทษนะคะที่มาสาย พอดีฉันมีเรื่องนิดหน่อยน่ะค่ะ”
พิศุทธิ์เห็นหน้าสายน้ำผึ้งซีดๆ
“คุณผึ้งดูหน้าซีดๆนะครับ เป็นอะไรรึเปล่า”
“สงสัยจะเพลียมั้งคะ”
พิศุทธิ์มองสีหน้าสายน้ำผึ้งที่ซีดอย่างเห็นใจ จึงตัดสินใจ
“งั้นผมคุยธุระที่นัด คุณผึ้งมาเจอเลยแล้วกันนะครับ คุณผึ้งจะได้กลับไปพักผ่อน คือว่า...”

อ่านละคร สามีตีตรา ตอนที่ 5 วันที่ 25 ก.พ. 57

ละครเรื่อง สามีตีตรา บทประพันธ์โดย นาวิกา
ละครเรื่อง สามีตีตรา บทโทรทัศน์โดย วรรณวิภา สามงามแจ่ม
ละครเรื่อง สามีตีตรา กำกับโดย อำไพพร จิตต์ไม่งง
ละครเรื่อง สามีตีตรา ผลิตโดย บริษัททองเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด โดยผู้จัด แอน ทองประสม
ละครเรื่อง สามีตีตรา ออกอากาศทุกวันพุธ และวันพฤหัส เวลา 20.15 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ละครเรื่อง สามีตีตรา เริ่มออกอากาศตอนแรกในวันพุธที่ 19 กุมภาพันธ์ 2557
ที่มา ไทยรัฐ