อ่านละคร สามีตีตรา ตอนที่ 3 วันที่ 17 ก.พ. 57
วันต่อมา กะรัตพยายามโทร.หาพิศุทธิ์ แต่เขาลังเลจะรับดีหรือไม่ พอดีท่านชายอ๊อดมา โวยวายที่เขาลาออกจากงานโดยไม่บอก แถมให้เหตุผลว่า ที่ลาออกเพราะที่มหาวิทยาลัยมีแต่คนคุ้นเคยของพ่อ ไม่สะดวกจะทำงานต่อไป เขาจะไปทำงานบริษัทเอกชน ท่านชายตวาด“นี่แกอยากจะลองดีกับฉันใช่ไหม ถึงกล้าหักหน้าฉันแบบนี้”
พิศุทธิ์อายคนในมหาวิทยาลัย จึงขอให้ไปคุยกันที่บ้าน ว่าแล้วก็เดินหนีไปที่รถ แต่ท่านชายตามไปผลักประตูรถปิด สั่งให้เขาไปรับตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีอิสระ
ท่านชายอ๊อดข่มใจ เสนอบ้าน คอนโดหรือรถให้ แต่พิศุทธิ์ยืนยันจะทำงานที่ใช้ความสามารถตัวเอง ท่านชายโวยอยากเห็นตนเสียหายล้มละลายหรือ พิศุทธิ์ถอนใจที่พ่อยอมรับออกมาเสียทีแล้วย้ำ “ผมไม่เคยใช้นามสกุลของท่านพ่อแสวงหาผลประโยชน์อะไร ดังนั้นกรุณาอย่าเห็นผมเป็นสมบัติของตระกูล ที่มีเอาไว้เป็นเครื่องมือหากินอีกเลยครับ” พิศุทธิ์ขับรถออกไป
เช้าวันใหม่ กะรัตตัดสินใจมาขอโทษเนื้อแพรที่ร้านสปาของเธอ เนื้อแพรนึกไม่ถึงว่ากะรัตจะยอมทำขนาดนี้...พิศุทธิ์มาหาเนื้อแพรพอดี ได้ยินคำขอโทษของกะรัตแทบไม่เชื่อหูตัวเอง เนื้อแพรย้อนถาม “การที่ชายพัวพันกับคนอย่างฉัน คงจะทำให้คุณผิดหวังมาก”
กะรัตยอมรับว่าไม่ชอบเนื้อแพร เนื้อแพรติงเลยพาลรังเกียจพิศุทธิ์ กะรัตสวนทันควันว่า “เปล่า ฉันไม่เคยนึกรังเกียจเขา ฉันยังอยากจะเป็นเพื่อนกับเขา เพราะเขาเป็นคนเดียวที่ดีกับฉัน”
“สรุปก็คือ คุณแค่ไม่อยากผิดใจกับชาย คุณก็เลยจำเป็นต้องมาขอโทษฉัน”
“เปล่า ฉันรู้ตัวว่าฉันทำผิดต่อคุณก็เลยอยากขอโทษที่ต่อว่าคุณเสียๆหายๆ”
“ทั้งที่คุณยังเข้าใจว่าฉันเป็นเมียน้อยพ่อคุณ”
กะรัตว่ามันคนละเรื่อง เนื้อแพรจึงถามตรงๆทำไมถึงเชื่อว่าตนกับกฤชมีอะไรกัน กะรัตบอกว่าใครๆก็คิดกันทั้งนั้น เนื้อแพรถอนใจ “คุณเชื่อเพราะฟังคำพูดคนอื่น...”
กะรัตย้อนถามว่าเธอกับพ่อไม่มีอะไรกันหรือ เนื้อแพรยอมรับว่าความสัมพันธ์ระหว่างตนกับกฤช ค่อนข้างจะหมิ่นเหม่ต่อความเข้าใจผิดของคนทั่วไป พิศุทธิ์ที่แอบฟังลุ้นคำตอบ
“ไม่ว่าคุณจะเชื่อฉันหรือไม่ก็ตาม ฉันขอยืนยันว่าฉันไม่เคยแย่งสามีใคร ฉันกับคุณกฤชคบหากันด้วยความบริสุทธิ์ใจ ในฐานะเพื่อนและคนที่ทำธุรกิจร่วมกันเท่านั้น” พิศุทธิ์ที่แอบฟังอยู่รู้สึกผิด “ไหนๆเราก็เปิดใจกันมาขนาดนี้ ฉันขอบอกคุณตามตรงว่า ไม่ว่าคุณจะรู้สึกยังไงกับฉันก็ตาม แต่ฉันไม่สบายใจที่คุณคบหากับพิศุทธิ์...ลองถามใจตัวเองดูว่าคุณอยากหาเพื่อน หรือแค่หาใครมาเยียวยาความเหงาของคุณ ถ้าแค่จะหาอะไรแบบนั้น ลองมองหาจากคนอื่นเถอะค่ะ”
กะรัตรู้สึกชาวูบไปทั้งตัวแต่ยังยืดคอตั้งหลังตรง “ไม่ว่าคุณจะคิดยังไง ฉันยืนยันว่าฉันมาที่นี่เพราะต้องการขอโทษคุณเท่านั้น ส่วนเรื่องพิศุทธิ์ ไม่ว่าเขาแค่สมเพช เวทนาหรือจะเกลียดขี้หน้าฉันไปแล้วก็ไม่เป็นไร ฉันก็แค่ทำในสิ่งที่คิดว่าควรจะทำ ไม่ได้หวังอะไรมากไปกว่านั้น”
พิศุทธิ์เหมือนใจหล่นวูบ กะรัตลุกเดินออกจากที่นั่ง เนื้อแพรมองการตัดพ้อของกะรัตแล้วหวั่นใจ เกรงลูกชายจะถลำใจไปกับกะรัตเสียแล้ว...กะรัตเดินอึดอัดออกมาจากร้าน ต้องตกใจเมื่อพบพิศุทธิ์ยืนมองอยู่ สายตาเขาอ่อนโยนลง กะรัตรีบบอกว่าตนมาขอโทษแม่เขาและเสียใจที่พูดจาเหลวไหลออกไปอย่างนั้น ชายหนุ่มเปรยคนไม่รู้ย่อมไม่ผิดจริงไหม
กะรัตตาโพลง “คุณไม่โกรธฉันแล้วเหรอ ไหนว่าไม่อยากให้ฉันมาเจอหน้าอีกแล้วไง”
“คนเอาแต่ใจอย่างคุณ ผมคงห้ามไม่ได้”
กะรัตรู้สึกละอายใจ “คุณเป็นคนดีจริงๆด้วย ฉันขอโทษที่เข้ามาป่วนให้ชีวิตคุณวุ่นวาย”
“คนเป็นเพื่อนกันก็ต้องยกโทษให้กันได้”
กะรัตใจแป้วกับคำว่าเพื่อน “แค่คุณยอมเป็นเพื่อนกับคนอย่างฉันก็นับว่าบุญแล้ว ขอโทษนะคะที่ทำให้คุณเดือดร้อนหลายครั้ง ฉันจะพยายามไม่กวนใจคุณไปมากกว่านี้ก็แล้วกัน”
กะรัตเดินหนีไปดื้อๆ พิศุทธิ์มองตามไม่สบายใจ เนื้อแพรจับตาดูทั้งคู่อย่างอ่อนใจ...พอสองแม่ลูกกลับมาถึงบ้าน เนื้อแพรก็ถามทันทีว่าลูกได้ยินที่ตนคุยกับกะรัตใช่ไหม พิศุทธิ์ยอมรับ
“แม่ไม่ได้อคติอะไรกะรัตนะลูก แม่แค่ไม่อยากให้ลูกไปจริงจังกับคำพูดเขานัก ช่วงนี้เขาเหงา ก็เห็นค่าของเรา แต่ผู้หญิงรักสนุกอย่างนั้น ไม่หยุดอยู่กับใครคนใดคนหนึ่งได้นานแน่”
“แม่อย่าเพิ่งคิดมากสิครับ เขาอาจไม่ทันได้คิดอะไรทำนองนั้นกับผมก็ได้”
เนื้อแพรเปรียบเปรยกะรัตเหมือนไม้เลื้อย อยู่ด้วยตัวเองไม่ได้ถึงต้องเปลี่ยนสามีปีเว้นปี พิศุทธิ์แก้ต่างว่าเธออาจไม่มีความสุขที่ต้องเปลี่ยนสามีบ่อย เนื้อแพรย้ำ
“แต่มันไม่ใช่เรื่องที่ชายจะต้องไปคอยรับผิดชอบความอ่อนไหวของเขานี่จ๊ะ เชื่อเถอะว่ามีคนห่วงเขามากพอแล้ว ลูกแม่ไม่จำเป็นต้องเข้าไปในวังวนของเขาอีกคนหรอกนะลูก ลูกกับเขาต่างกันเกินไป อยู่ให้ห่างเขาไว้จะดีกว่านะลูกนะ”...พิศุทธิ์ครุ่นคิดเครียดๆ
ooooooo
บรรยากาศคืนนี้ กะรัตรู้สึกมันช่างเหงาสุดๆ เธอครุ่นคิดถึงการปฏิบัติต่างๆที่พิศุทธิ์ทำต่อเธอ ทำให้อยากลุกขึ้นมาทำตัวเองให้มีค่าคู่ควรกับเขาบ้าง จึงตั้งใจจะเปิดร้านเสื้อ ทุกคนในบ้านแปลกใจที่จู่ๆคนที่เอาแต่กรีดกรายไปวันๆจะหันมาทำงาน แต่กะรัตยืนยันจะพิสูจน์ตัวเองให้ดู
สองเดือนที่ผ่านมา น้ำผึ้งพยายามหางานทำมาตลอด แต่ไม่มีที่ไหนยอมรับคนท้องเข้าทำงาน เธอเริ่มจะท้อ ในขณะที่กะรัตเปิดร้านเสื้อสวยหรู ส่วนพิศุทธิ์
ลาออกจากการเป็นอาจารย์มาทำงานบริษัทเอกชน แต่จิตใจของกะรัตและพิศุทธิ์ไม่ได้มีความสุข ต่างโหยหากันและกัน...
รสสุคนธ์คอยดูแลหาอาหารบำรุงร่างกายและเป็นกำลังใจให้น้ำผึ้ง อยากให้พักบ้าง แต่น้ำผึ้งโต้
“ผึ้งพักไม่ได้หรอกค่ะ มีคนคอยสมน้ำหน้าผึ้งอยู่ไม่รู้เท่าไหร่ ผึ้งจะต้องรีบหางานใหม่ให้ได้ ผึ้งไม่ยอมให้ใครมาหัวเราะเยาะผึ้งกับลูกได้ทีหลัง” น้ำผึ้งยกหนังสือพิมพ์หางานมาวางอีกปึก
จนกระทั่งมีที่หนึ่งตกลงรับน้ำผึ้งเข้าทำงาน เธอดีใจมาก แต่พอผู้จัดการบอกเหตุผลที่รับว่า เขาจำเธอได้ว่าเป็นเพื่อนกับกะรัต กะรัตมีบุญคุณกับบริษัทเขามาก น้ำผึ้งปรี๊ดทันที
“ขอโทษนะคะ ดิฉันคงไม่สะดวกที่จะร่วมงานกับคนที่ต้องอาศัยใบบุญพวกตระกูลเทพทัต” พูดจบน้ำผึ้งก็ลุกออกไป ผู้จัดการยืนเหวอ
แม้จะตั้งหน้าทำงานแต่จิตใจไม่สงบ ทำให้กะรัตออกแบบเสื้อได้ไม่ถูกใจ ขยำกระดาษทิ้งเกลื่อนห้องทำงาน กันตารู้ว่าพี่สาวคิดถึงพิศุทธิ์จึงแนะให้ติดต่อไปหา แต่กะรัตกลุ้มใจ
“เธอจะให้พี่ทำยังไง แม่เขาออกโรงตีกันขนาดนั้น”
“ให้อีกเดือนเดียว คิดดีๆนะ ถ้าพี่กั้งไม่บุก ผู้ชายดีๆอย่างคุณพิศุทธิ์...หลุดแน่” กันตาขู่
ระหว่างนั้น น้ำผึ้งได้งานที่บริษัทวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูป เพราะเธอยอมแม้กระทั่งต้องเดินทางออกต่างจังหวัด เธอดีใจมากมายืนรอลิฟต์ ลูบท้องบอกลูกว่าแม่ได้งานแล้ว พอเอื้อมมือไปกดลิฟต์ก็ชนกับมืออีกคนเข้าพอดี เธอเงยหน้ามองต้องตะลึงเมื่อคนคนนั้นคือพิศุทธิ์ เธอจำเขาได้รีบบอกว่าตนเพิ่งได้งานที่นี่ และพอรู้ว่าเขาทำงานที่นี่อยู่ก่อนก็ยิ่งดีใจ
พิศุทธิ์อึดอัดใจจำเธอได้เช่นกัน แต่ต้องพูดคุยตามมารยาท เขาฟังเธอรำพันถึงความลำบากในการหางาน จึงเปรย เรื่องดีๆมักจะเกิดตอนที่เราไม่ได้ตั้งตัวแบบนี้แหละ ไม่ทันไร กันตาโทร.มา พิศุทธิ์เลี่ยงไปรับสาย น้ำผึ้งมองเขาอย่างมีความหวังใหม่...กันตาโทร.มาเพื่อขอให้พิศุทธิ์ช่วย กะรัตเอาแต่ซึมไม่ยอมกินยอมนอนตั้งแต่กลับจากขอโทษแม่เขา ตอนนี้นอนให้น้ำเกลืออยู่โรงพยาบาล ขอให้เขาช่วยมาเยี่ยมพี่สาวตน พิศุทธิ์เป็นห่วงกะรัตยอมตกลงทันที
กันตาวางสายแล้วหันมายักคิ้วให้กะรัต กำชับอย่าปล่อยให้พิศุทธิ์หลุดมือไปได้
“ขอแค่รู้ว่าเขายังมีเยื่อใยให้พี่บ้าง รับรองพี่จะเดินหน้าทำทุกอย่างไม่ให้เขาหลุดมือไป”
ทันทีที่พิศุทธิ์มาถึงโรงพยาบาล กะรัตทำทีนอนหลับเพ้อว่าหนาว มือไขว่คว้าเปะปะ เขาเข้ามาห่มผ้าให้อย่างห่วงใย กะรัตปรือตาขึ้นมาดีใจที่เห็นหน้าเขา พิศุทธิ์เอ็ดที่เธอไม่กินไม่นอนเป็นการทำร้ายตัวเอง บอกแล้วไม่ใช่หรือให้รู้จักรักตัวเอง กะรัตคว้ามือเขามากุม น้ำตาคลอ
“ฉันพยายามจะรักตัวเองแล้ว แต่พอรู้ว่าต้องอยู่โดยไม่มีใครรัก ฉันก็ไม่อยากอยู่อีก”
พิศุทธิ์อึ้งพูดไม่ออก กะรัตแทรกขึ้นว่า ตลอดสามเดือนที่ผ่านมา ตนเหงาคิดถึงเขา พลันพิศุทธิ์เห็นปลาสเตอร์ที่ปิดเข็มตรงมือเธอหลุด ไม่มีเข็มสักเล่มจึงแขวะ
“ผมเชื่อแล้วว่าคุณเหงามาก ถึงได้มีเวลาว่างมาแกล้งนอนป่วยแบบนี้” พิศุทธิ์ยกมือเธอขึ้น “ตกลงคุณเล่นตลกอะไร วันๆคุณคงว่างมากถึงได้เที่ยวแกล้งคนอื่นไปทั่วแบบนี้”
กะรัตหน้าเจื่อนที่ถูกจับได้ แต่ยังโต้ “ก็คุณอยากใจดำกับฉันก่อนทำไม”
พิศุทธิ์บอกให้พอทีแล้วจะเดินออกจากห้อง กะรัตรีบวิ่งตามออกมาขอโทษ ยอมรับว่าที่ทำครั้งนี้ตั้งใจ เพราะคิดถึงเขา แต่พิศุทธิ์หาว่าเธออยากเอาชนะมากกว่า
“ตกลงคุณเชื่อคำพูดของแม่คุณจริงๆใช่ไหม คุณไม่เชื่อว่าฉันจะเริ่มต้นใหม่ได้จริงๆ... ฉันเสียใจ ฉันหลงคิดว่าคุณจะมองฉันต่างจากคนอื่น ไม่คิดเลยว่าคุณจะ...” กะรัตน้ำตาร่วง
พิศุทธิ์รีบขัดไม่ใช่อย่างนั้น กะรัตฟูมฟายว่าตนเสียใจที่มีสามีมาถึงสามคน เพียงอยากมีคนที่รักตนจริง ที่หลอกเขาไม่ใช่เห็นเขาเป็นของเล่น ตนอายที่จะต้องแอบรักเขาข้างเดียว พิศุทธิ์ใจเต้นรัวที่เธอพูดออกมาตรงๆ กะรัตกล่าวขอโทษที่ทำให้เขาเสียเวลา แล้วก้มหน้าเดินกลับห้อง
เข้ามาเจอกันตา กะรัตโผกอดน้องร้องไห้โฮ มันจบแล้ว กันตาเหวอ กอดปลอบ ไม่ทันไรพิศุทธิ์กลับเข้ามา กะรัตไม่ทันเห็น พร่ำรำพันว่าตนไม่เจียมตัวดันไปรักผู้ชายดีๆ ทุกอย่างถึงเป็นแบบนี้ พิศุทธิ์เอ่ย “ผมคงบาปมากเลยนะที่ทำให้คุณเป็นทุกข์ขนาดนี้”
อ่านละคร สามีตีตรา ตอนที่ 3 วันที่ 17 ก.พ. 57
ละครเรื่อง สามีตีตรา บทประพันธ์โดย นาวิกาละครเรื่อง สามีตีตรา บทโทรทัศน์โดย วรรณวิภา สามงามแจ่ม
ละครเรื่อง สามีตีตรา กำกับโดย อำไพพร จิตต์ไม่งง
ละครเรื่อง สามีตีตรา ผลิตโดย บริษัททองเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด โดยผู้จัด แอน ทองประสม
ละครเรื่อง สามีตีตรา ออกอากาศทุกวันพุธ และวันพฤหัส เวลา 20.15 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ละครเรื่อง สามีตีตรา เริ่มออกอากาศตอนแรกในวันพุธที่ 19 กุมภาพันธ์ 2557
ที่มา ไทยรัฐ