@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร สามีตีตรา ตอนที่ 3 วันที่ 15 ก.พ. 57

อ่านละคร สามีตีตรา ตอนที่ 3 วันที่ 15 ก.พ. 57

วันใหม่ น้ำผึ้งมาทำงานตามปกติ แต่ด้วยอาการแพ้ท้องทำให้เธอโก่งคออาเจียนอยู่ในห้องน้ำ พลันได้ยินลูกน้องเม้าท์กันว่าเธอแอบไปท้องโย้กับใคร น้ำผึ้งอับอายไม่รู้จะทำอย่างไรกับอนาคตตัวเองดี ...ตัดสินใจไปหาแม่ของภูเบศร์ที่อยู่ในชุมชนแออัด

บ้านแม่ของภูเบศร์เป็นร้านตัดเสื้อเล็กๆ มีหญิงสาวหน้าตาบ้านๆ ช่วยเย็บจักรและมีเด็กเล็กๆ นั่งเล่นข้างๆ...

นํ้าผึ้งแสดงตัวกับแม่ภูเบศร์ว่าตนเป็นเมียเขาและกำลังจะมีลูกด้วยกัน แม่เขาชะงักไม่ยินดียินร้าย กลับบอกว่าถ้าจะมาทวงสิทธิ์ขอบอกว่าไม่มี และถ้าจะบอกว่ามีทะเบียนสมรสก็จงรู้ไว้ว่านั่นเป็นทะเบียนซ้อน เพราะเมียและลูกถูกต้องตามกฎหมายของภูเบศร์คือหญิงหน้าบ้านๆคนนั้น ที่ยอมอยู่อย่างสงบปากสงบคำ เพื่อแลกกับเงินที่ผัวตอดจากเมียเศรษฐีมาให้


นํ้าผึ้งช็อก นํ้าตาร่วงพรูเมื่อรู้ว่าตนก็เป็นเมียน้อยเหมือนกะรัต นึกย้อนถึงคำพูดต่างๆของภูเบศร์ที่ขอแต่งงานกับกะรัตเพื่อจะเอาเงินมาสร้างครอบครัวกับตน...เสียงกะรัตผุดในความคิด

“นี่มันคงพล่ามให้เธอหลงเชื่อว่ามันมีสิทธิ์อย่างโน้นอย่างนี้ล่ะสิ...เธอมันโง่ๆๆๆ”

นํ้าผึ้งเดินโซเซสมเพชตัวเองกลับออกมา รู้สึกเหมือนโดนทิ้งอยู่ตัวคนเดียวในโลก...ด้านพิศุทธิ์ออกมาซื้อของกิน เดินผ่านนวลซึ่งกำลังเอารูปกะรัตเที่ยวถามใครต่อใครอยู่จึงหันมอง...

กะรัตนอนหลับสบายอยู่ในห้อง เสียงเคาะประตูปลุกให้สะดุ้งตื่น เธอรีบกะเผลกไปเปิดประตูเขินๆ ที่ตัวเองตื่นเกือบบ่าย ไม่ทันไร นวลแทรกตัวเข้ามาโผกอด

“คุณกั้ง! คุณกั้งจริงๆด้วย คุณกั้งขา รู้ไหมคะว่านวลออกตามหาคุณกั้งทั้งคืนเลย ทำไมคุณกั้งถึงมานอนอยู่ที่นี่ ทำไมไม่กลับบ้านคะ” นวลรัวคำถามเป็นชุด

“เขาคงลืมมั้งครับว่ามีบ้านอยู่ใกล้แค่นี้” พิศุทธิ์กัดเล็กๆ

กะรัตหน้าเสีย โกรธนวลก็โกรธ ไม่รู้จะแก้ตัวอย่างไรเดินปึ่งๆออกไป นวลขอบคุณพิศุทธิ์ที่ช่วยนายตนไว้ ไม่รู้ทำไมเธอถึงมารบกวนเขา พิศุทธิ์พูดเชิงเตือน

“ผมว่าตอนนี้เขาคงต้องการที่พึ่งทางใจ ที่ไม่ใช่การควบคุมกักขัง...คนดื้อแบบนี้ยิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งผลักเขาออกไป”

“เอ๊ะ แล้วทำไมคุณถึงได้พูดเหมือนรู้ใจคุณกะรัตมากขนาดนี้ล่ะคะ รึว่า...”

พิศุทธิ์หน้าเจื่อนที่เผลอพูด พอดีกะรัตตะโกนเร่งนวลให้กลับ เขาโล่งอกหวังว่าจะไม่ต้องเจอกันอีกบ่อยๆ กะรัตค้อนเขาวงใหญ่ก่อนจะจํ้าอ้าวไป...ทันทีที่กะรัตกลับมาถึงบ้านพัก กันตาและกุนตีต่างแปลกใจกับเสื้อผ้าที่เธอใส่ ไม่ทันซักถามว่าหายไปไหนมาทั้งคืน กะรัตรู้สึกเขินๆ เดินรี่เข้าห้องนอนไป นวลรีบรายงานเท่าที่รู้ สองสาวตกตะลึงที่กะรัตไปค้างอ้างแรมบ้านผู้ชาย

“แต่เขาก็ดูเป็นสุภาพบุรุษมากนะคะ”

“ว่างไม่เท่าไหร่ก็เริ่มหาเรื่องใส่ตัวอีกแล้ว” กุนตีอ่อนใจกับน้องสาวคนนี้

“โธ่ พี่กุ้งก็...จะเป็นไรไปล่ะคะ ถ้าเขาคนนั้นทำให้พี่กั้งเริ่มรักชีวิตตัวเองขึ้นมาได้”

แต่กุนตีเกรงจะโดนหลอกอีก กันตาหันมาซักไซ้นวลว่า ผู้ชายคนนี้เป็นอย่างไรบ้าง นวลอวยซะเลิศเลอจนกันตารู้สึกจะต้องไปดูด้วยตาตัวเอง ว่าผู้ชายคนนี้ควรให้กะรัตเดินหน้าหรือไม่

กันตาเอาชุดที่กะรัตใส่กลับมา ใส่ถุงมาคืนพิศุทธิ์ พอเห็นว่าเขาคือคนที่ช่วยกะรัตตอนเกิดอุบัติเหตุก็ดีใจ เชื่อว่าคงเป็นพรหมลิขิตแน่ๆ กันตาปลื้มพิศุทธิ์อยู่แล้ว... กะรัตอาบน้ำแต่งตัวใหม่ มานั่งคิดถึงแต่สิ่งที่พิศุทธิ์ทำให้ต่างๆจนแปลกใจตัวเองว่า ไปคิดถึงเขาทำไม พอนวลยกของว่างมาให้จึงถามถึงเสื้อผ้าของพิศุทธิ์ นวลบอกว่ากันตาเอาไปคืนให้แล้ว เธอรู้สึกเคืองๆ

ooooooo

พิศุทธิ์เคลียร์ตัวเองกับกันตาว่า ตนไม่รู้ว่ากะรัตมีบ้านพักอยู่ใกล้ๆแค่นี้ เธอบอกว่าไม่มีบ้านจึงให้ที่พัก แต่กันตากลับเห็นว่าเขาเป็นอัศวินขี่ม้าขาวมาคอยช่วยเหลือกะรัต กันตาถือโอกาสรวบรัดเชิญเขาไปปาร์ตี้บาร์บีคิวที่บ้านคืนนี้ เขาถอนใจเฮือกที่ถูกมัดมือชก

พอกันตาเดินเข้าบ้าน กะรัตก็ถามทันที ไปไหนมา... กันตาหันมายั่ว “พี่กั้งไม่รู้จริงๆเหรอคะว่าก้อย ไปไหนมา เอ...รึถามเพราะอยากได้ยินชื่อเขากันแน่น้า”

กะรัตปฏิเสธเขินๆเงื้อมือจะตี กันตาวิ่งหนีหัวเราะร่า กุนตีถอนใจ “เฮ้อ...พอกัน คนนึงก็ไปค้างอ้างแรมกับเขาทั้งที่ยังไม่รู้หัวนอนปลายเท้า อีกคนก็ไปหาเขาถึงที่บ้าน แล้วนี่ยังมีอะไรเซอร์ไพรส์ให้พี่หัวใจวายอีกไหมเนี่ย แม่ตัวแสบ”

กันตาโพล่งขึ้น “มีค่ะ แต่ก้อยว่ามันจะทำให้หัวใจใครบางคนพองฟูเป็นบอลลูนมากกว่า”

นวลรีบถามว่าอะไร กันตาปรายตามองกะรัตยิ้มๆ ว่า ตนเชิญพิศุทธิ์มาดินเนอร์ที่บ้านคืนนี้ แล้วดึงนวลเข้าครัวไปเตรียมอาหาร กุนตีอ้าปากค้าง กะรัตแอบตื่นเต้นแต่พยายามกลบเกลื่อน

ด้านน้ำผึ้งโซเซกลับบ้าน รสสุคนธ์แปลกใจคิดว่าหลานไม่สบาย น้ำผึ้งบอกว่าตนลาออกจากงานแล้ว รสสุคนธ์ตกใจต่อว่าทำอะไรผลีผลาม ไม่ใช่คนตัวเปล่าเล่าเปลือยแล้ว ควรมีความรับผิดชอบบ้าง น้ำผึ้งระเบิดอารมณ์

“น้ารสไม่ใช่ผึ้ง น้ารสไม่เข้าใจหรอก ทุกคนรอบตัว มันพร้อมจะซ้ำเติมผึ้งกันทั้งนั้น”

“แต่ที่มันเป็นแบบนี้ก็เพราะเราทำตัวเองนะ”

“นี่น้ารสจะสมน้ำหน้าผึ้งอีกแล้วใช่ไหมคะ ทำไม คะ...ทีกั้งแย่งผัวผึ้ง ทำไมกรรมถึงไม่ไปสนองมันบ้าง” น้ำผึ้งปรี๊ด

“เรื่องแค่นี้ยังคิดไม่ได้ แน่ใจเหรอว่าเราจะเป็นแม่คนได้” รสสุคนธ์อ่อนใจ

“ไม่ต้องเป็นก็ดี ผึ้งก็อยากจะให้ทุกอย่างมันจบๆ ไปในวันนี้เหมือนกัน!”

รสสุคนธ์ตกใจว่าหลานสาวจะทำอะไร วิ่งตามหลานขึ้นไปบนห้อง เห็นน้ำผึ้งรื้อข้าวของที่เป็นของภูเบศร์กระจัดกระจาย เธอค้นหาขวดยาขับเลือดออกมา ฟูมฟายว่า

“ในเมื่อแม้แต่พ่อของมันยังไม่ต้องการ ก็อย่าให้มันเกิดมาประจานความโง่ของผึ้งอีกเลย” น้ำผึ้งเปิดฝาขวดจะยกดื่ม

รสสุคนธ์ปราดเข้าแย่งขวดเขวี้ยงทิ้ง “จะสร้างบาปสร้างกรรมไปถึงไหน”

“แล้วน้ารสจะให้ผึ้งทำยังไงถึงจะพ้นเรื่องบ้าๆ นี่ ผึ้งรักภู ลูกของผึ้งก็เกิดมาด้วยความรัก แต่ทำไมทุกอย่างมันถึงกลายเป็นแบบนี้ ผึ้งแค่อยากเริ่มต้นชีวิตกับคนที่ผึ้ง รักมันผิดตรงไหน ผึ้งทำผิดอะไร ทำไมผึ้งต้องถูกทุกคนรุมทำร้ายแบบนี้”

“แต่เด็กในท้องไม่ได้รู้เรื่องอะไรด้วย ผึ้งมีสิทธิ์อะไรไปทำร้ายชีวิตเขา ถ้าผึ้งบอกว่าเขาเกิดมาจากความรักจริงๆ ผึ้งก็ต้องดูแลเขา เลี้ยงเขาด้วยความรักถึงจะถูก”

น้ำผึ้งเอามือลูบท้องฟูมฟายว่าไม่รู้จะสู้หน้าคนอื่นได้อย่างไร รสสุคนธ์เข้ากอดปลอบให้ลืมเรื่องเลวร้ายทั้งหมด ตั้งต้นชีวิตใหม่ ไม่มีใครซ้ำเติมเราได้เท่ากับเราซ้ำเติมตัวเอง...น้ำผึ้งสะอื้นฮักกับความผิดหวังสูญเสียที่เกิดขึ้น...

เมื่อจนตรอก ท่านชายอ๊อดบุกมาบ้านเนื้อแพร ต้องการพบพิศุทธิ์ เนื้อแพรบอกว่าลูกไม่อยู่และสงสัยต้องมีอะไรกดดันให้ลูกหนีไป พอดีกฤชแวะมารับพลอยโดนแขวะ

“ฉันว่าเธอควรจะโทษตัวเองมากกว่า ที่ชายมันต้องหลบหน้าไปแบบนี้ก็เพราะมันหน้าบางเกินกว่าจะอยู่รับรู้เรื่องคาวโลกีย์ของแม่มันนั่นแหละ” ท่านชายอ๊อดมองกฤชอย่างรังเกียจก่อนจะกลับออกไป กฤชหน้าเสียจะตามไปอธิบายแต่เนื้อแพรรั้งไว้

“คุณจะตามไปจัดการทุกคนที่ไม่เข้าใจเราได้เหรอคะ ยังไงแพรก็ไม่มีวันดีในสายตาพวกเขาอยู่แล้ว ตอนนี้แพรเป็นห่วงก็แต่ลูก แพรว่าท่านอ๊อดต้องเกี่ยวข้องกับเรื่องที่ลูกหนีหน้าไปแน่”

กฤชกังวลไปด้วย ถามจะทำอย่างไร เนื้อแพรคิดว่าจะปล่อยลูกสู้ปัญหาลำพังไม่ได้...ค่ำวันนั้น พิศุทธิ์กำลังจะออกไปบ้านกะรัต โทรศัพท์ในบ้านดังขึ้น เขาชะงักก่อนจะรับสาย เนื้อแพรกรอกเสียงถาม “บอกแม่ได้ไหมว่าอะไรทำให้ชายไม่สบายใจถึงกับต้องหลบหน้าทุกคนแบบนี้”

พิศุทธิ์อึ้งที่แม่ถามอย่างจู่โจม พยายามปฏิเสธว่าไม่มีอะไรอย่าคิดมาก เนื้อแพรโพล่งขึ้น ถ้าไม่มีอะไรแล้วทำไมท่านชายอ๊อดถึงมาตามหาเขาที่บ้าน เรื่องนี้เกี่ยวกับพ่อใช่ไหม พิศุทธิ์หนักใจที่ปัญหาชักบานปลาย

ooooooo

สนามริมหาดบ้านพักตากอากาศ นวล สมหวัง และสาวใช้ช่วยกันเตรียมบาร์บีคิว กันตากุลีกุจอจัดสถานที่จนกุนตีหมั่นไส้ ดูจะเชียร์หนุ่มคนนี้จนเกินไป กันตาจึงบอกว่าถ้ากุนตีเห็นพิศุทธิ์จะรู้สึกเหมือนตน ไม่ทันไรพิศุทธิ์โทร.เข้ามาขอโทษที่มาไม่ได้ กันตาผิดหวัง

กะรัตแต่งตัวเฉิดฉายทั้งที่ปากว่าไม่สนใจ พอรู้ว่าพิศุทธิ์มาไม่ได้ก็ผิดหวังกึ่งเจ็บใจที่อุตส่าห์แต่งตัว

สวย สักพักกะรัตก็โพล่งขึ้น สั่งนวลยกอาหารไปที่บ้าน พิศุทธิ์ กุนตีตกใจเกรงจะยุ่งกับเขามากเกินไป แต่กะรัตอ้างว่า

“เราอุตส่าห์จะเลี้ยงตอบแทน เขาก็ควรจะรักษาน้ำใจเราบ้าง เรื่องแบบนี้มันเป็นมารยาท ผู้ชายอย่างเขาน่าจะเข้าใจ ยกเว้นแต่ว่าเขาจงใจจะหักหน้ากั้งเท่านั้น”...

นวลคุมสาวใช้หอบอาหารมากมายมาที่บ้านพิศุทธิ์ บอกว่ากะรัตให้นำมา เขามองอาหารอย่างครุ่นคิดก่อนจะฝากนวลไปขอบคุณกะรัตและขอโทษที่ไปไม่ได้...แต่พอนวลกลับมาบอกกะรัต เธอกลับคิดว่าเขาหาเรื่องแก้ตัวให้มันจบๆไป กันตาติงพี่สาวคิดมาก เขาอาจเกรงใจก็ได้

“เธอนั่นแหละที่รู้จักเขาน้อยไป เขาอาจจะมองพี่เหมือนคนอื่นๆ...ผู้หญิงกินผัว นี่เขาคงกลัวพี่จะไปตอแย เขาถึงได้กล้าทำแบบนี้ เขาไม่ตะโกนใส่หน้าหาว่าฉันบ้าผู้ชายก็บุญแค่ไหนแล้ว” กะรัตเดินตึงๆเข้าห้องเจ็บใจที่ไม่เคยมีผู้ชายคนไหนปฏิเสธตนแบบนี้มาก่อน...

เช้าวันใหม่ กันตาต้องกลับไปเข้าเวรที่โรงพยาบาลจึงให้สมหวังขับรถไปส่ง กุนตียืนส่งน้องโดยไม่รู้ว่ากะรัตได้ออกจากบ้านไปแต่เช้าแล้วเช่นกัน

กะรัตมาที่บ้านพิศุทธิ์ ถือวิสาสะเข้าบ้านเดินหาเขาไปทั่ว พิศุทธิ์กลับจากวิ่งออกกำลังกายเห็นกะรัตยืนอยู่ในบ้านก็แปลกใจ พอเธอหันมาเจอก็ใส่ทันที อุตส่าห์หลบหน้าตนแทบตายไม่คิดว่าตนจะตามมาหลอกหลอนล่ะสิ พิศุทธิ์นิ่งไม่อยากต่อปากต่อคำ เดินเลยเธอไปเข้าครัวคั้นน้ำส้มหน้าตาเฉย กะรัตตามตอแย

“ทำไมเมื่อคืนต้องหนีหน้าฉันด้วย ถ้าไม่อยากไปแต่แรกทำไมไม่ปฏิเสธกันตรงๆ”

“แน่ใจเหรอว่าถ้าผมบอกปัดคุณตรงๆคุณจะรับได้”

“คุณรังเกียจอะไรฉันนักหนา ทำไมเราถึงจะทำความรู้จักกันดีๆไม่ได้”

“อย่าดึงผมไปในวงโคจรของคุณเลย ต่อให้คุณจะประชดชีวิตอีกกี่ครั้งก็ใช่ว่าทุกคนบนโลกจะต้องแคร์”

กะรัตโกรธที่เขาหาว่าตนประชดชีวิตเพื่อเรียกความสนใจจากเขา พิศุทธิ์แย้งว่าไม่ถึงขนาดนั้นแต่เธอคงชินว่าทุกคนต้องมาโอ๋ กะรัตจะโวย พิศุทธิ์ยื่นแก้วน้ำส้มให้ บอกดื่มเสียจะได้ใจเย็นลง กะรัตชะงักงงๆที่เขามาทำดีด้วย พิศุทธิ์เองก็งงตัวเองนึกถึงสัมผัสที่เขากอดปลอบเธอเมื่อคืนตอนเธอฝันร้าย เขารีบสลัดความรู้สึกนั้นทิ้ง

“แค่น้ำส้มแก้วเดียวมันคงไม่ได้สรุปว่าผมอยากทำดีกับคุณหรอก”

“แรกๆที่เจอกันคุณก็ยังให้ความช่วยเหลือฉัน แล้วทำไมตอนนี้คุณทำเหมือนรับฉันไม่ได้ขึ้นมา ฉันไม่รู้ตัวว่าทำผิดอะไร ถ้ามันคือเหตุผลที่ทำให้ทุกคนพากันทิ้งฉันไป คุณช่วยสงเคราะห์ฉันทีได้ไหม ว่าฉันต้องทำตัวยังไงกันแน่”

พิศุทธิ์อยากจะหนีห่างแต่อดสงสารไม่ได้ จึงตอบเลี่ยงๆว่า ที่ดีกับเธอเพราะมนุษยธรรม กะรัตเศร้าลงรู้สึกตัวเองไม่มีค่าอะไรเลย พิศุทธิ์ปลอบ “ผมแค่จะบอกว่า แทนที่คุณจะมัวเกาะเกี่ยวคนอื่น คุณควรจะหันมารักตัวเองมากๆจะดีกว่า”

กะรัตยิ่งน้อยใจ “ถึงฉันตายไปตรงหน้าตอนนี้ คุณก็คงไม่แคร์สินะ”

พิศุทธิ์หน่ายใจบอกเธอถ้าคิดจะเรียกร้องความสนใจ ตนบอกได้เลยว่าไม่หลงกลง่ายๆ กะรัตไม่ยอมแพ้เกิดความคิดชั่ววูบ พรวดไปคว้ามีดที่วางอยู่มาจะกรีดข้อมือตัวเอง เพียงอยากรู้ว่าเขาจะยืนดูอยู่เฉยหรือไม่ พิศุทธิ์ตกใจเข้าแย่งมีด เกิดการยื้อแย่งกัน พลาด ปลายมีดเฉี่ยวโดนข้างลำตัวเขาทรุดลง กะรัตเห็นเลือดติดปลายมีดก็ตกใจ เห็นเขากุมแผลเลือดทะลัก ทิ้งมีดพร่ำขอโทษ แต่เขากลับหันมาสำรวจว่าเธอบาดเจ็บตรงไหนบ้าง กะรัตใจไหววูบกับความห่วงใยของเขา เข้ากอดประคองเขาลุกขึ้นจะพาไปโรงพยาบาล แต่เขาปฏิเสธเกรงเป็นเรื่องใหญ่

“ไปโรงพยาบาลกับฉันเดี๋ยวนี้ ไม่งั้นฉันจะกรีดตัวเองให้เจ็บเท่าๆคุณ”

พิศุทธิ์เกรงลูกบ้าของเธอ จึงยอมให้เธอประคอง ไปขึ้นรถ กะรัตขับรถของเขามุ่งหน้าไปโรงพยาบาลปากก็พร่ำขอโทษ พิศุทธิ์กัดฟันตอกกลับว่า เห็นแล้วใช่ไหมชีวิตไม่ใช่เรื่องล้อเล่น

“อย่าเป็นอะไรนะ ถ้าคุณเป็นอะไรฉันคงรู้สึกผิดจนวันตาย” กะรัตบีบมือพิศุทธิ์แน่น

อ่านละคร สามีตีตรา ตอนที่ 3 วันที่ 15 ก.พ. 57

ละครเรื่อง สามีตีตรา บทประพันธ์โดย นาวิกา
ละครเรื่อง สามีตีตรา บทโทรทัศน์โดย วรรณวิภา สามงามแจ่ม
ละครเรื่อง สามีตีตรา กำกับโดย อำไพพร จิตต์ไม่งง
ละครเรื่อง สามีตีตรา ผลิตโดย บริษัททองเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด โดยผู้จัด แอน ทองประสม
ละครเรื่อง สามีตีตรา ออกอากาศทุกวันพุธ และวันพฤหัส เวลา 20.15 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ละครเรื่อง สามีตีตรา เริ่มออกอากาศตอนแรกในวันพุธที่ 19 กุมภาพันธ์ 2557
ที่มา ไทยรัฐ