@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร รักเกิดในตลาดสด ตอนอวสาน วันที่ 26 ส.ค. 55

อ่านละคร รักเกิดในตลาดสด ตอนอวสาน วันที่ 26 ส.ค. 55

ต๋อง ศักดิ์ชาย จาตุรงค์ เคี้ยง และชายศักดิ์ ยื่นหัวแอบดูสถานการณ์เรียงกันเป็นชั้น แล้วพร้อมใจกันชักหัวกลับมาปรึกษากันอีกครั้ง
“เราจะฝ่าด่านเข้าไปยังไง คนเฝ้าตั้งสามสี่คน” ต๋องเอ่ยขึ้น
“แล้วประตูหลังล่ะ” ศักดิ์ชายเอ่ยถามขึ้น
“ยิ่งหนักเข้าไปใหญ่ เป็นประตูเหล็กหนาแน่นปิดมิดชิด” จาตุรงค์ว่า
“ว่าแต่พวกฤทธิ์ยังไม่เคยเห็นชั้นมาก่อนใช่มั้ย” กิมลั้งโพล่งถามต๋อง
“ใช่ เธอจะทำอะไร” ต๋องถามกลับกิมลั้งอย่างงงๆ
กิมลั้งยิ้มเจ้าเล่ห์อย่างมีแผนการ

ครู่หนึ่งต่อจากนั้น จู่ๆเสียงดนตรีเกาหลีดังขึ้น จนลูกน้องฤทธิ์ต้องเดินตามหาต้นเสียง กิมลั้งกับกิมแช ผูกเสื้อเหนือเอวโชว์สะดือ โดยใช้ถือถือเปิดเพลงเกาหลี สองพี่น้องเต้นด้วยลีลาเซ็กซี่โฉบหน้าโรงน้ำแข็ง แสร้งว่าไม่เห็นลูกน้องฤทธิ์นั่งอยู่บริเวณนั้น ส่วนต๋อง กับจาตุรงค์และพรรคพวกที่แอบอยู่ตรงหัวมุม พอเห็นกิมลั้งกับกิมแชแล้วถึงกับจ้องตาค้าง
“นี่ถ้าไม่มีเรื่องคอขาดบาดตาย คงไม่ได้เห็นของดี” จาตุรงค์เอ่ยขึ้น
“นั่นซิ” ต๋องพูดอย่างเห็นด้วย
“อ่ะแฮ่ม” เคี้ยงกระแอม จนทั้งคู่ตื่นจากภวังค์

กิมลั้งกิบกิมแชยังคงเต้นกันอย่างสนุกสนาน ลูกน้องฤทธิ์อดรนทนไม่ได้เป่าปากแซวจน สาวๆสะดุ้ง แล้วแกล้งเหมือนเพิ่งเห็นว่ามีคนอยู่ ไม่นานลูกน้องฤทธิ์ทั้งหมดวิ่งตามออกไปตามแผนของกิมลั้ง พอได้จังหวะ ต๋อง ศักดิ์ชาย และเคี้ยง รีบวิ่งเข้าโรงน้ำแข็ง ขณะที่ชายศักดิ์ สดศรี และจาตุรงค์วิ่งตามลูกน้องฤทธิ์ที่วิ่งตามกิมลั้งกับกิมแชไปอีกทาง




ลูกน้องฤทธิ์เดินตามกิมลั้งกับกิมแชมาจนถึงมุมหนึ่ง
“จะรีบไปไหนล่ะจ๊ะคนสวย” ลูกน้องฤทธิ์คนหนึ่งเอ่ยขึ้น
“อุ๊ย” กิมลั้งกับกิมแชแกล้งประหม่า
“พี่ๆมีอะไรรึเปล่าจ๊ะ” กิมลั้งเอ่ยถามขึ้น
“พวกพี่ก็กำลังอยากจะมีอะไรๆอยู่เหมือนกันล่ะจ้ะ” ลูกน้องฤทธิ์ตอบ พร้อมส่งสายตาลวนลาม
“พูดอะไรจ๊ะ ไม่เห็นรู้เรื่องเลย” กิมแชพูดแล้วทำตาแอ๊บแบ๊วใส่
ระหว่างนั้นกับกิมลั้งหันไปเห็นชายศักดิ์ สดศรีและจาตุรงค์ เดินมาพร้อมอาวุธหนักในมือพร้อมฟาดศัตรู จึงออกอุบาย
“งั้นช่วยเข้ามาพูดใกล้ๆหน่อยได้มั้ยจ๊ะ” กิมลั้งเอ่ยขึ้น
ลูกน้องฤทธิ์เดินไปหากิมลั้งและกิมแช ชายศักดิ์ สดศรีและ จาตุรงค์ ค่อยๆย่องไปใกล้ๆจากทางด้านหลัง
กิมลั้งกับกิมแช พยายามกระดิกนิ้วให้พวกลูกน้องยื่นหน้าเข้ามาหาเหมือนจะแจกรอยจูบ และในจังหวะที่หน้าพวกลูกน้องฤทธิ์ใกล้จะประชิดหน้าของกิมลั้งกับกิมแช ทั้งหมดถูกทุบหัวอย่างแรงจนหมดสติหน้าเกือบคะมำใส่กิมลั้งและกิมแช แต่โชคดีหลบทัน แล้วทุกคนวิ่งไปสมทบที่โรงน้ำแข็งทันที

ต๋อง ศักดิ์ชาย เคี้ยง เข้ามาภายในเห็นลูกน้องฤทธิ์กลุ่มใหญ่นั่งกินเหล้าเล่นไพ่อยู่ที่มุมหนึ่ง พวกต๋องจึงเลี้ยวหลบกลุ่มลูกน้องฤทธิ์เดินไปอีกทางดันมาพบกับกับลูกน้องคนหนึ่งของฤทธิ์เดินคุยโทรศัพท์กับแฟน
“คิดฮอดเจ้าหลายอีนาง” ลูกน้องฤทธิ์คุยโทรศัพท์กับปลายสาย
กลุ่มต๋องรีบหลบไปอีกทาง แต่ไปเจอกับลูกน้องฤทธิ์อีกคนหนึ่งซึ่งอยู่ในอาการเมาหนัก
“ห้องน้ำอยู่ไหนวะ เดินหามาจะชั่วโมงแล้วกู” ลูกน้องฤทธิ์อีกคนเมากำลังโวยวาย
เมื่อหาที่หลบไม่ทันต๋อง ศักดิ์ชาย เคี้ยงจึงยืนเรียงซ้อนร่างกันเอามือปิดหน้าตัวเองหวังจะอำพรางตัวจากชายตรงหน้าอย่างคนสิ้นหนทาง ลูกน้องฤทธิ์จ้องต๋องที่ยืนอยู่หน้าสุด
“อะไรวะเนี่ย” ลูกน้องฤทธิ์เมาจนจำไม่ได้
ต๋องเอามือที่ปิดหน้าตัวเองออก แล้วเกิดความคิดแบบฉับพลันทันด่วน พยายามจะเคลื่อนไหวร่างกายตามลูกน้องฤทธิ์ราวกับเป็นกระจก โดยศักดิ์ชายกับเคี้ยงที่ยืนอยู่ด้านหลังทำตามไปด้วยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
“อ้อ..”กระจก แต่เอ๊ะ...” ลูกน้องฤทธิ์ทำท่าจะเชื่อแต่แล้วเกิดแปลกใจขึ้นมากะทันหัน จนต๋องถึงกับสะดุ้ง
“ทำไมวันนี้กูหล่อชอบกล” ลูกน้องฤทธิ์ว่า
ต๋องถอนหายใจโล่ง
“เอ๊ะ...” ลูกน้องฤทธิ์ยังสงสัย ต๋องกังวลขึ้นมีอีก
“มีกระจก...ก็ถึงห้องน้ำแล้วซิ” ลูกน้องฤทธิ์รีบเอ่ยแล้วแก้กางเกงฉี่ทันทีจนพวกต๋องแทบหลบไม่ทัน ก่อนที่ต๋องจะเอาท่อนไม้ตีคอลูกน้องฤทธิ์จนสลบไป แล้วเดินหาณดากับกิมฮวยต่อ

ต๋องค่อยๆย่องมาจนถึงหัวมุม แต่แล้วเกือบช็อกหัวใจวายเมื่อไปเจอกับกลุ่มกิมลั้ง กิมแช จาตุรงค์ ชายศักดิ์ และสดศรี ต่างฝ่ายต่างจะอ้าปากร้องจนต้องปิดปากกันไว้ ส่งภาษาใบ้ให้สัญญาณให้เข้าไปข้างในโรงน้ำแข็งต่อ

ในที่สุดกลุ่มต๋อง เดินมาจนพบกับจุดที่ณดากับกิมฮวยถูกจับตัวไว้ โดยมีรัศมีกับฤทธิ์วนเวียนอยู่ใกล้ๆ
“ณดา...” สดศรีมองไปที่ณดาอย่างห่วงใย
“ม้า...” กิมแชกับกิมลั้งดีใจที่เห็นกิมฮวย แต่ยังไม่มีใครส่งเสียงออกมา
“ตกลงโทรไปนัดเวลาไอ้เสี่ยชายศักดิ์รึยัง” ฤทธิ์ถามรัศมี
“โทรไปพรุ่งนี้ก็ได้ ให้มันรู้สึกกระวนกระวายใจหน่อย” รัศมีเอ่ย
“ไม่ต้อง โทร.ไปเลย จะได้ย้ำกับมันเรื่องให้มาคนเดียวด้วย” ฤทธิ์ว่า
“โธ่ มันรับปากมั่นเหมาะแล้วน่ะ ภาวะแบบนี้มันไม่มีทางกล้ายกโขยงกันมาหรอก” รัศมีเอ่ยอย่างมั่นใจ
ชายศักดิ์ได้ยินดังนั้น รีบมองหน้าพรรคพวกที่พากันขนมาเป็นโขยงผิดกับที่รัศมีพูดอย่างสิ้นเชิง
“นี่พวกลื้อไม่คิดจะโทร.บอกผัวอั๊วให้มารับบ้างเหรอ” กิมฮวยโวยขึ้น
“เรื่องมากน่ะอีเจ๊ แกอาศัยรถไอ้เสี่ยชายศักดิ์กลับไปด้วยไม่ได้ใช่มั้ย ไม่งั้นชั้นจะได้ให้อยู่เป็นผีเฝ้าที่นี่ โทร.ไปบอกมันเดี๋ยวนี้เลยเร็ว พวกมันทำตัวเงียบๆแบบนี้มันน่าสงสัย” ฤทธิ์หันไปพูกับรัศมี
รัศมีหยิบมือถือมากดอย่างขัดใจ ส่วนชายศักดิ์ในที่ซ่อนรีบหามือถือเพราะกลัวจะเปิดเสียงไว้ พอพบว่าปิดเสียงไว้แล้วชายศักดิ์โล่งใจ
“โชคดีที่รอบคอบปิดเสียงไว้” ชายศักดิ์เอ่ยขึ้น
พูดไม่ทันขาดคำ เสียงมือถือจาตุรงค์ดังขึ้น โดยมีเสียงเรียกเข้าเป็นเพลงเจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้ จนทุกคนจ้องเป็นตาเดียว จาตุรงค์หน้ารีบหยิบมือถือขึ้นมาดูที่หน้าจอ
“งานเข้าผิดเวลา” จาตุรงค์หน้าจ๋อย
“คุณแม่...” ณดารู้ทันทีว่าสดศรีต้องมาช่วย
“ชาย...” รัศมีรู้ทันทีเช่นกันว่าศักดิ์ชายขับรถตามมา
“เป็นไงล่ะ ออกไปชักศึกเข้าบ้านแท้ๆโง่จริงๆ” ฤทธิ์หันไปด่ารัศมี แล้วคว้าวิทยุสื่อสารมาสั่งการ
“พวกมึงรีบหายเมาแล้วเข้ามาเดี๋ยวนี้เลย วันนี้ไอ้พวกเวรนี่ได้ตายหมู่แน่...”
ฤทธิ์เอ่ยขึ้น พร้อมคว้าปืนมายิงกราดไปที่พวกตลาดที่วิ่งหนีกระเจิง กลุ่มผู้หญิงมุ่งหน้ามาช่วยณดากับกิมฮวย
ฤทธิ์เดินมุ่งหน้ามาจ่อยิงให้ใกล้ขึ้น ต๋องเห็นกระป๋องตกอยู่ที่พื้นจึงเตะไปให้ฤทธิ์เหยียบสะดุดล้ม จนปืนหลุดมือ แล้วต๋องเข้าไปแย่ง ระหว่างนั้นพวกลูกน้องฤทธิ์กรูเข้ามา เกิดการต่อสู้ชุลมุน
กิมลั้งกับกิมแชช่วยกันแก้มัดให้กิมฮวย ขณะที่สดศรีจะเข้าไปช่วยแก้มัดให้ณดา แต่จู่ๆรัศมีโผล่มากระชากแขนสดศรีแล้วตบจนล้มคว่ำ
“คุณแม่...” ณดาร้องสุดเสียง
รัศมีคร่อมสดศรีหวังจะตบซ้ำ แต่เจอกิมฮวยกระชากผมแล้วใช้มวยไท้เก็กเล่นงานจนรัศมีต้องใช้มวยไทยต่อสู้
กิมลั้งกับกิมแชรีบเข้าไปช่วยแก้มัดให้ณดาจนสำเร็จ
“สำเร็จแล้วม้า” กิมลั้งตะโกนบอกกิมฮวย
พอได้ยินเสียงสัญญาณจากลูก กิมฮวยต่อยเสยคางรัศมีจนเซไป แล้วจังหวะนั้นทุกคนรีบวิ่งออกไป

ในขณะที่พวกผู้หญิงพยายามวิ่งหนี พวกลูกน้องฤทธิ์พยายามเข้าไปจัดการ ศักดิ์ชาย เคี้ยง จาตุรงค์ และชายศักดิ์ คอยต่อสู้ช่วยเหลือปกป้องราวกับฉากบู๊ในหนังจีน ต๋องต่อสู้กับฤทธิ์อย่างไม่ยอมแพ้ และใช้ไหวพริบ แต่สุดท้าย ต๋อง เคี้ยง จาตุรงค์ ชายศักดิ์และศักดิ์ชายเพลี่ยงพล้ำ โดนฤทธิ์และลูกน้องเอาปืนจ่อได้ในที่สุด

ต่อจากนั้น ต๋อง เคี้ยง ชายศักดิ์ ศักดิ์ชาย และจาตุรงค์ โดนลากมากองรวมกันอยู่ในห้องทำน้ำแข็ง โดยมีรัศมี ฤทธิ์และลูกน้องยืนอยู่ใกล้ๆ
“พวกเอ็งแบ่งคนไปตามล่านังพวกผู้หญิงมาให้ได้ มันยังไปไหนไม่ไกลหรอก” ฤทธิ์สั่ง
ลูกน้องฤทธิ์ส่วนหนึ่งแยกออกไป
“ส่วนพวกมึง เดี๋ยวกูจะจับทำน้ำแข็งซองให้ตายอย่างทรมานเลยคอยดู” ฤทธิ์ด่าใส่หน้ากลุ่มต๋อง
“คุณแม่ครับ อย่าทำอย่างนี้เลยนะครับ” ศักดิ์ชายเอ่ยกับรัศมี
“แม่น่ะไม่ทำอะไรชายอยู่แล้ว แต่รู้มั้ยวันนี้ชายทำให้แม่ผิดหวังมาก ชายพาพวกมันมา ชายไม่ห่วงเลยใช่มั้ยว่าแม่จะเป็นยังไง” รัศมีต่อว่าต่อขานศักดิ์ชาย
“ไม่ใช่อย่างนั้นนะครับคุณแม่ ผมแค่ไม่อยากให้คุณแม่ทำเรื่องเลวร้ายมากไปกว่านี้”
ขณะนั้นต๋องกวาดตามองสำรวจสถานที่เพื่อหาลู่ทางหนี กลุ่มผู้หญิงอย่างกิมลั้ง กิมแช และรัศมีแอบอยู่ในความมืดเอาเศษน้ำแข็งโยนไปที่ต๋อง แล้วแอบชี้ไปที่เครื่องยกน้ำแข็งซอง แล้วว่าให้กดสวิตซ์อยู่ด้านหลังเพื่อจะบอกให้พวกผู้หญิงปล่อยท่อนน้ำแข็งให้ไหลมาใส่พวกฤทธิ์ แต่กลุ่มกิมลั้งไม่เข้าใจว่า เลยเปลี่ยนมาส่งส่งสัญญาณมือ
“ทำอะไรของมึงไอ้ต๋อง” ฤทธิ์มองด้วยความสงสัย
ฤทธิ์เริ่มไม่พอใจเอามือที่ถือวอฟาดหน้าต๋อง ต๋องต่อสู้ปัดมือฤทธิ์จนวอกระเด็น ฤทธิ์จ้องหน้าต๋อง บรรยากาศตึงเครียด พรรคพวกคิดว่าต๋องต้องโดนเละแน่ ปรากฏว่าในที่สุดต๋องยกมือไหว้ฤทธิ์
“โทษที เดี๋ยวชั้นไปหยิบให้” ต๋องยกมือไหว้ฤทธิ์
ทุกคนพากันงงที่เห็นต๋องทำแบบนั้น ต๋องคลานไปเก็บวอใกล้กับพวกผู้หญิงอยู่ตามแผน แล้วกระซิบบอกกับกลุ่มกิมลั้งเบาๆ
“กดสวิตซ์ด้านหลัง ให้พวกน้ำแข็งมันไหลจากซองตกไปใส่พวกนั้น” ต๋องกระซิบบอกกิมลั้ง
“ชั้นไม่รู้ปุ่มไหนเป็นปุ่มไหน” กิมลั้งเอ่ยขึ้น
“ไม่ต้องรู้แล้วกิมลั้ง มั่วไปเลย” ต๋องบอกก่อนจะเดินไปหยิบวอส่งคืนให้ฤทธิ์ก่อนที่อีกฝ่ายจะสงสัย
“กูก็คิดว่ามึงจะแน่” ฤทธิ์เอ่ยขึ้นหลังจากคิดว่าต๋องออกไปเก็บวอให้
ต๋องรีบกลับไปนั่งกับพรรคพวกเพื่อให้พ้นแนวน้ำแข็ง ส่วนพวกกิมลั้งสำรวจแผงสวิตซ์
ครู่หนึ่งลูกน้องฤทธิ์กลับเข้ามา
“ไม่เจอนังผู้หญิงพวกนั้นเลยพี่” ลูกน้องฤทธิ์ตอบ
“เป็นไปได้ยังไง” ฤทธิ์เอ่ยขึ้น
“หรือว่ามันยังหลบอยู่ในนี้” รัศมีโพล่งขึ้น
ทันใดนั้นเสียงสวิตซ์เดินเครื่องน้ำแข็งดังขึ้นน้ำแข็งก้อนใหญ่หลายก้อนไหลพุ่งมา ฤทธิ์กับรัศมีล้มระเนระนาด ศักดิ์ชายรีบวิ่งไปช่วยแม่ให้พ้นทางน้ำแข็ง จากนั้นพวกต๋องรีบลุกขึ้นเข้าจัดการกับพวกฤทธิ์ที่ล้มไม่เป็นท่า ต่อสู้แย่งปืนกัน พวกผู้หญิงใช้อุปกรณ์ทำน้ำแข็งช่วยอีกทาง
“พวกผู้หญิงรีบออกไปก่อนเร็ว” ต๋องตะโกนบอก
กิมลั้ง กิมแช กิมฮวย และสดศรี รีบละทิ้งทุกอย่างแล้ววิ่งออกไป รัศมีเห็นท่าไม่ดีรีบคว้าสดศรีไว้ พอศักดิ์ชายเห็นอย่างนั้นรีบดึงแม่ตัวเองไว้เพื่อให้สดศรีจึงวิ่งหนีไปได้
“ปล่อยแม่... ปล่อยแม่...” รัศมีดิ้นหนีศักดิ์ชาย
ลูกน้องฤทธิ์เห็นรัศมีถูกดึง จึงกระโดดถีบศักดิ์ชายแล้วต่อยซ้ำ
“ทำลูกกูเหรอ” รัศมีเอ่ยขึ้นเพราะไม่ยอมให้ใครทำร้ายศักดิ์ชาย จึงกระโดดถีบลูกน้องฤทธิ์กลับทันที
ในที่สุด ต๋อง ชายศักดิ์ และเคี้ยงยึดปืนบางส่วนมาได้ช่วยกันกราดยิงใส่พวกฤทธิ์จนหลบกันระนาว ฤทธิ์จะยิงปืนกลับ แต่ถูกต๋องยิงจนปืนฤทธิ์กระเด็นหลุดจากมือไป ต๋องพากันวิ่งหนีตามกลุ่มกิมลั้งออกไป ฤทธิ์โผล่ออกมาด้วยความโมโห
“ถ้าวันนี้จัดการพวกแม่งไม่ได้ พวกมึงเตรียมตัวตายได้เลย”
ฤทธิ์ตะโกนด่าลูกด้วยความโกรธ แล้วรีบวิ่งออกไป

พวกต๋องวิ่งออกมาข้างนอกโรงน้ำแข็ง โดยมีพวกฤทธิ์วิ่งตามออกมาไล่ยิง จนต๋องและกลุ่มผู้หญิงต้องวิ่งหนีกระจัดกระจายกันไปแถวสะพานปลา กิมแชกับจาตุรงค์หนีไปมุมหนึ่งที่มีพวกอาหารทะเลใส่ถังวางไว้ พอลูกน้องฤทธิ์วิ่งมา ทั้งคู่ช่วยกันเทหอยถังใหญ่ลงพื้น จนลูกน้องฤทธิ์เหยียบเปลือกหอยลื่นเสียหลัก แล้วจาตุรงค์กับกิมแชช่วยกันหยิบอาหารทะเลข้วางใส่ซ้ำ
อีกมุมหนึ่ง ชายศักดิ์ สดศรี ณดา และศักดิ์ชาย ถูกลูกน้องอีกกลุ่มของฤทธิ์ตามมา ชายศักดิ์กับศักดิ์ชายช่วยกันต่อสู้และป้องกันสดศรีกับณดาสุดชีวิต

ส่วนต๋อง กิมลั้ง เคี้ยง และกิมฮวย จนมุมอยู่บนสะพานปลาจึงจำเป็นต้องกระโดดลงไปในเรือประมงลำใหญ่ที่จอดอยู่ ฤทธิ์กับลูกน้องจำต้องตามลงมา ฤทธิ์ลงมากลับไม่เห็นใครในเรือ ต๋องใช้อวนคลุมลูกน้องฤทธิ์ได้ส่วนหนึ่งแล้วรีบกวาดลงน้ำด้วยความรวดเร็ว เหลือฤทธิ์กับลูกน้องอีกสองคน ทั้งคู่ไล่ยิงเคี้ยงกับต๋องไม่ยั้ง เคี้ยงกับลูกน้องคนหนึ่งสู้ที่ท้ายเรือ ขณะที่ฤทธิ์กับต๋องสู้กันที่หัวเรือ กระสุนปืนของต๋องหมดกะทันหัน ฤทธิ์จะยิงต๋อง กิมฮวยกับกิมลั้งที่แอบอยู่ใกล้ๆโผล่มาดึงกางเกงฤทธิ์ลง ฤทธิ์ตกใจรีบดึงกางเกงจนปืนหลุดมือ กิมลั้งจึงรีบคว้าปืนโยนน้ำ ฤทธิ์หันมาตบกิมลั้งด้วยความเจ็บใจ กิมฮวยเข้ามาช่วย ต๋องเข้ามาต่อยกับฤทธิ์อีก

กลุ่มของศักดิ์ชาย ณดา ชายศักดิ์ และสดศรี ยังคงต่อสู้กับลูกน้องฤทธิ์ดุเดือดเลือดพล่าน ครู่หนึ่งเสียงรถหวอดังขึ้น
“ตำรวจกำลังมา” สดศรีเอ่ยขึ้น
ลูกน้องฤทธิ์เริ่มละล่ำละลัก รัศมีวิ่งผ่านมาพอดี จังหวะที่ลูกน้องฤทธิ์ไม่ทันตั้งตัวทั้งชายศักดิ์และศักดิ์ชายจึงรีบจู่โจม ศักดิ์ชายยิงลูกหนึ่งของฤทธิ์ล้มลง รัศมีสติหลุดคว้าปืนจากลูกน้องฤทธิ์ขึ้นมา
“นังณดา...แกตายซะเถอะ” รัศมีโพล่งขึ้นอย่างไร้สติ ชายศักดิ์รีบวิ่งพุ่งมาที่ณดาเพื่อปกป้อง
“พ่อ...” ณดาตกใจแทบสิ้นสติ
ขณะที่รัศมีจะลั่นไก ศักดิ์ชายวิ่งเข้นมาผลัก เอาร่างตัวเองรับกระสุนกันณดาไว้
“ชาย...” รัศมีช็อก รีบวิ่งเข้าไปหาศักดิ์ชายด้วยความตกใจ

เวลานั้นรถหวอของรถตำรวจใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ต๋องกับฤทธิ์สู้กันอย่างเอาเป็นเอาตาย โดยมี
กิมฮวยกับกิมลั้งยืนดูอยู่ไม่ไกล ส่วนลูกน้องฤทธิ์วิ่งหนีเคี้ยงที่วิ่งไล่มาจากท้ายเรือ ในที่สุดถูกเคี้ยงยิงจนล้มลงใกล้ๆ
ฤทธิ์ต่อสู้กับต๋องท่ามกลางเสียงหวอที่ใก้ลเข้ามาทุกทีฤทธิ์หยิบปืนจากมือลูกน้องยิงไปที่ต๋องกับกิมฮวยทันที เป็นจังหวะเดียวกับที่ฤทธิ์ถูกต๋องผลักกระเด็นไป ฤทธิ์หันไปมองรถตำรวจที่แล่นเข้ามาจอดหน้าโรงน้ำแข็ง
“อ๊าย...” กิมลั้งร้องขึ้น เมื่อเห็นกิมฮวยตกลงไปในน้ำ
เคี้ยงรีบเข้ามาจัดการฤทธิ์ที่ทำท่าจะยิงต๋องอีกคน โดยผลักเครนขนาดใหญ่ไปกระแทกหัวฤทธิ์จนล้มลง แล้วเคี้ยงรีบเข้าไปจับฤทธิ์ไว้ได้
“ต๋อง...ช่วยม้าด้วย ม้าว่ายน้ำไม่เป็น” กิมลั้งตะโกนบอกต๋องให้ช่วยกิมฮวย

ครู่หนึ่ง ต่อจากนั้น ต๋องพาร่างกิมฮวยขึ้นฝั่งได้ ทั้งคู่ดูอ่อนแรง โดยเฉพาะต๋อง
“อั๊วรอดแล้ว...อั๊วรอดแล้ว...” กิมฮวยเอ่ยขึ้น
“ไอ้หยา...ที่แท้ลื้อถูกยิงเหรอเนี่ยอาต๋อง” กิมฮวยเพิ่งเห็นว่าต๋องถูกยิง
“ก็ใช่น่ะซิ...เมื่อกี้น้ากิมฮวยโดดน้ำทำไม รู้มั้ยว่าทำให้คนถูกยิงเหนื่อย” ต๋องว่า
“ก็อั๊วตกใจนึกว่าโดนยิงนี่” กิมฮวยเอ่ยเพราะเข้าใจว่าตัวเองถูกยิงจึงกระโดดลงน้ำด้วยความตกใจ ทันใดนั้นต๋องหงายหลังตกน้ำไปอีกครั้งเพราะร่างกายทนบาดแผลไม่ไหว
“อ๊าย ช่วยด้วย อาต๋องตกน้ำ ช่วยด้วย...” กิมฮวยตะโกนให้คนช่วย
ตำรวจสองคนวิ่งเข้ามากระโดดลงน้ำไปช่วยต๋องทันที
“อย่าให้อีตายนะ...อย่าให้อีตาย”
กิมฮวยตกโกนบอกตำรวจอย่างห่วงใยต๋อง

เช้าวันใหม่ ที่โรงพยาบาล ศักดิ์ชายประคองศักดิ์ชายที่โดนยิงแถวไหปลาร้าลงนอนบนเตียง
“เพราะพ่อแท้ๆ แกเลยต้องเจ็บตัวแบบนี้” ชายศักดิ์เอ่ยขึ้นกับศักดิ์ชาย
“อย่าพูดอย่างนั้นซิครับ ไม่ให้ผมช่วยพ่อแล้วจะให้ผมช่วยใคร ขอโทษครับ ผมลืมไปว่าผมไม่ใช่ลูก” ศักดิ์ชายเอ่ยขึ้น
“อย่าพูดอย่างนั้นชาย แกรู้มั้ยพ่อแทบขาดใจตอนที่เห็นแกถูกยิง ถ้าแกเป็นอะไรไปพ่อคงแย่ พ่อรักแกนะ” ชายศักดิ์พูดพลางโผเข้ากอดศักดิ์ชายด้วยความรัก
“ผมก็รักคุณพ่อครับ” ศักดิ์ชายกอดชายศักดิ์ไว้แน่นเช่นกัน
“งั้นเรากลับมาอยู่ด้วยกันเหมือนเดิมนะลูกนะ” ชายศักดิ์เอ่ยขึ้น
“แล้วคุณแม่...” ศักดิ์ชายเอ่ยอย่างกังวลเรื่องรัศมี
“แม่เค้าก็ต้องไปรับโทษที่ต้องได้รับโชคดีแค่ไหนแล้วที่ไม่โดนข้อหาหนักไปกว่านี้ ยังไงซะพ่อจะช่วยเหลือเค้าให้เต็มที่ที่สุดเท่าที่จะทำได้ ถือว่าพ่อทำให้แกละกัน” ชายศักดิ์ว่า
“ขอบคุณครับคุณพ่อ” ศักดิ์ชายยกมือไหว้ขอบคุณพ่อ
ครู่หนึ่งสดศรีกับณดาเดินเข้ามา
“เป็นยังไงบ้าง ดีขึ้นมั้ย” สดศรีว่า
“ดีขึ้นมากแล้วครับคุณนาย” ศักดิ์ชายว่า
“ไม่ต้องเรียกคุณนงคุณนายหรอกให้ถือว่าชั้นเป็นญาติผู้ใหญ่คนนึงละกัน” สดศรีเอ่ยขึ้น
“ตกลงคุณไม่เป็นไรใช่มั้ย” ศักดิ์ชายมองณดาแล้วถามขึ้นอย่างสำรวจด้วยความเป็นห่วง
“ชั้นปลอดภัยดีค่ะมีแค่แผลถลอกนิดหน่อยเท่านั้นเอง ขอบคุณคุณมากนะคะที่ช่วยชีวิตชั้นไว้” ณดาตอบ
“ถ้ามันจะชดเชยเรื่องเลวร้ายทุกอย่างที่ผมเคยทำไว้กับคุณได้ ต่อให้ต้องตายผมก็ยินดี” ศักดิ์ชายจ้องณดาด้วยความลึกซึ้ง
“อย่าพูดอย่างนั้นค่ะ จะด้วยเหตุผลไหนคุณก็ไม่ควรจะต้องตายทั้งนั้น” ณดาเอ่ย
“ตกลงคุณยกโทษให้ผมแล้วใช่มั้ย” ศักดิ์ชายโพล่งขึ้น และเผลอลืมตัวจับมือณดา
“ชั้น...” ณดาอึกอัก พูดไม่ออก
“ใช่มั้ยณดา” ศักดิ์ชายคะยั้นคะยอ
“เฮ้ย...ชาย อะไรของแกเนี่ย พ่อว่าแกชักจะยังไงๆกับลูกสาวพ่อนะ” ชายศักดิ์แกล้งพูดขึ้น
ศักดิ์ชายรีบปล่อยมือณดาด้วยอาการเขิน
“เอ่อ แล้วคุณพ่อจะโกรธมั้ยครับ ถ้าจะบอกว่าผมคิดว่าผมชอบลูกสาวคุณพ่อ “ ศักดิ์ชายโพล่งขึ้น จนณดาอายหน้าร้อนผ่าว
“พ่อจะไปว่าอะไรได้ ต้องถามแม่เค้านั่น” ชายศักดิ์โยนลูกให้สดศรี
ศักดิ์ชายหันไปส่งสายตาขอความเห็นใจจากสดศรี
“ชั้นน่ะให้โอกาสคนเสมอล่ะโดยเฉพาะคนที่เนื้อแท้ใฝ่ดีอย่างเธอ ที่ผ่าน มาอาจจะหลงผิดไปบ้าง เพราะมีพ่อแย่ แม่ไม่ดี” สดศรีเอ่ยพลางเหล่ตาไปที่ชายศักดิ์
“ขอโทษที่พูดตรง แต่ถ้าฟังให้ดีเธอก็จะรู้ว่าชั้นกำลังชมเธอต่างหาก แต่ก็นะ สุดท้ายแล้วมันก็อยู่ที่ณดาว่าจะว่ายังไง” สดศรีว่า
“ณดา คุณพอจะให้โอกาสผมแก้ตัวได้บ้างมั้ย” ศักดิ์ชายเอ่ยขึ้น
“เอาเป็นว่าระหว่างคุณกับชั้น เรามาเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่ละกัน คุณรอได้มั้ย” ณดาโพล่งขึ้น
“ขนาดตายผมยังตายแทนคุณได้ แล้วจะกลัวอะไรกับรอ” ศักดิ์ชายรีบตอบ
“นั่นซินะ อย่างมากก็แค่รอจนตายเนอะลูกเนอะ” ชายศักดิ์รีบแกล้งว่า
“โห คุณพ่อ” ศักดิ์ชายจะโวย
ชายศักดิ์ สดศรี และณดา ต่างหัวเราะกันอย่างมีความสุข

ที่ห้องพักผู้ป่วยใกล้ๆกัน ต๋องลืมตาฟื้นขึ้นมาได้ กิมลั้งที่นั่งอยู่ข้างๆดีใจอย่างบอกไม่ถูก
“ต๋องฟื้นแล้ว” กิมลั้งโพล่งอย่างดีใจ
เคี้ยง กิมฮวย จาตุรงค์ และกิมแช ที่นั่งอยู่ตรงโซฟาลุกมาที่เตียงรีบดูอาการ
“อาต๋อง...ลื้อเป็นยังไงบ้าง” กิมฮวยถามขึ้น
“เหมือนตายแล้วเกิดใหม่” ต๋องตอบ
“ก็น่าจะเป็นยังงั้น ลื้อรู้มั้ย...หมอบอกว่ากระสุนเฉียดปอดไปนิดเดียวเอง” เคี้ยงเล่า
“หมอยังแปลกใจเลยนะว่าต๋องฝืนว่ายน้ำลงไปช่วยม้าไหวได้ยังไงกัน” กิมลั้งเล่าต่อ
“ไม่ฝืนได้ไงล่ะ ก็เธอบอกเองว่าน้ากิมฮวยว่ายน้ำไม่เป็น” ต๋องกล่าว
“อั๊วขอบใจมากนะที่ลื้อสละชีวิตตัวเองไปช่วยอั๊วขนาดนั้น” กิมฮวยเอ่ยขึ้น
“โห ชั้นทำขนาดนี้ แต่น้าแค่พูดว่าขอบใจเท่านั้นเหรอ” ต๋องแกล้งสวนขึ้น
“ขอบใจไม่พอ แล้วลื้อจะให้อั๊วทำอะไรวะ” กิมฮวยเอ่ยอย่างหงุดหงิด
“ชีวิตมันต้องแลกด้วยชีวิตซิน้า” ต๋องว่า
“จะแลกด้วยชีวิตอะไรล่ะ หมู หมา กาหรือไก่” กิมฮวยถามกลับ
“อะไรกัน ชีวิตน้านี่มีค่าแค่หมู แค่หมาเท่านั้นเองเหรอ” ต๋องยังกวน
“ไอ้ต๋อง ตกลงลื้อจะเอายังไงฮะ” กิมฮวยปรี๊ดแตก
“ชั้นไม่เอาอะไรมากหรอก แค่เอาหัวใจน้ากิมฮวยมาก็พอ” ต๋องตอบ แล้วหันไปยิ้มกับกิมลั้ง
กิมฮวยเพิ่งเข้าใจจึงเล่นแง่บ้าง
“หัวใจเหรอ หัวใจอั๊วน่ะมันแพงมากๆนะ ถ้าอยากได้ก็ต้องเอาทองมาแลกเว้ย” กิมฮวยว่า
“อะไรกันม้า พี่ต๋องเค้าช่วยชีวิตม้าขนาดนี้แล้วนะ” กิมแชเอ่ยขึ้น
“ถ้าจะเป็นทอง ก็เป็นรูปทองที่ซ่อนอยู่ในรูปร่างหน้าตาหน้าเกลียดของนายต๋องแทนได้มั้ยครับ” จาตุรงค์ช่วยเสริม
“ไม่ได้ ไม่ได้ ต้องเป็นทองที่เห็นได้ด้วยตาซิ ถ้าลื้อไม่ให้ความสำคัญก็เท่ากับลื้อไม่เห็นว่าอากิมลั้งมีคุณค่ามีราคาเหมือนทอง” กิมฮวยว่า
“โธ่...น้ากิมฮวย เมื่อคืนทำไมน้าไม่ปล่อยให้ชั้นจมน้ำตายไปให้สิ้นเรื่อง เรียกคนมาช่วยชั้นทำไมถ้าจะปลุกชั้นมาเพื่อฆ่าซ้ำด้วยความงกของน้าแบบนี้” ต๋องพูดหน้าเครียด
“ลื้อนี่มันโง่จริงๆอาต๋อง” กิมฮวยโพล่งขึ้น
“ชั้นไม่ได้โง่ แต่ชั้นมีเงินไม่มากพอกับความต้องการของน้าต่างหาก” ต๋องแจง
“เอ้า...ลืมเรื่องทรัพย์ในดินของลื้อไปแล้วรึไง” กิมฮวยเอ่ย
ต๋องทำหน้างง
“ยังมาทำหน้าโง่อีก เห็นว่าลื้อไปเช่าที่ยายยิ้มทำนากลางกรุงไม่ใช่เหรอ” กิมฮวยถามขึ้น
“แล้วมันไปเกี่ยวอะไรด้วย” ต๋องถามกลับ
“เอ้า ก็ถ้าอาต๋องอีทำให้ที่ดินนั่นกลายเป็นสีทองเพราะรวงข้าวที่งอกงามได้ อั๊วก็จะยอมยกอากิมลั้งให้ทันที เพราะถือว่าอีมีของมงคลให้ลูกสาวอั๊วแล้ว” กิมฮวยเอ่ยเสียงอ่อนลง
“เฮ”
เคี้ยง กิมลั้ง กิมแช และจาตุรงค์ พากันดีใจกับท่าที่เป็นมิตรของกิมฮวยกับต๋องในเวลานี้

เช้าวันใหม่ ที่ตลาดร่วมใจเกื้อในรูปโฉมใหม่ ภายใต้ป้ายอันใหม่ที่มีตัวอักษรครบ และได้รับการดูแลอย่างดี เปลี่ยนแปลงไปจากวันเดิมๆที่ผ่านมาพ่อค้าแม่ค้ายังคงสวดมนต์ ทำกิจกรรมต่างๆด้วยความเบิกบานเหมือนปกติ
“นับแต่ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาตลาดร่วมใจเกื้อก็อบอวลไปด้วยความสงบสุข ทุกๆวัน ความรักรูปแบบต่างๆ ก็ยังคงเกิดขึ้นในตลาดสดแห่งนี้” ต๋องที่ยืนพูดกับไมโครโฟน โดยมีวงดนตรีอยู่ด้านหลัง
“จนวินาทีนี้ ความรักที่ว่าก็ยังเกิดอยู่ และจะเกิดต่อไปอย่างไม่หยุดพัก” ต๋องเอ่ยขึ้น

บรรยากาศของตลาดร่วมใจเกื้อที่เต็มไปด้วยความรัก ตลบอบอวลทั้งไออุ่นที่มากกว่าตลาด หลวงรวมหัวใจของพ่อค้าแม่ค้าและลูกค้าไว้อย่างมีความสุข
เลื่อนกับรักเร่เข็นผักประกบกันมาตามประสาคู่หู เลื่อนแกล้งเป็นลมหมดแรง รักเร่บอกให้ขึ้นรถเข็นแล้วเข็นให้ เลื่อนหัวเราะชอบใจที่แกล้งเพื่อนได้ ทั้งสองคนหยอกล้อกันอย่างมีความสุขกับมิตรภาพที่เกิดขึ้น

เขียวหวานสาวน้อยลูกจ้างของป้าพิณ ยืนนวดบ่าให้คำมูล แต่อีกมือเขาพัดให้ป้าพิณที่นั่งอยู่ข้างๆ เขียวหวานขยับไปให้ป้าพิณเกาอย่างเป็นคู่ฝีปากที่หยอกล้อกันแต่แสนอบอุ่น

ที่เขียงหมูจาตุรงค์มาช่วยเต๊กไฮ้กับลักษณ์แล่เนื้อหมูขาย เต๊กไฮ้ซับเหงื่อให้อย่างเอาใจ ลักษณ์ส่งน้ำให้ดูด จาตุรงค์เลยเผลอเฉือนนิ้วตัวเอง แล้วเดินเอานิ้วที่มีเลือดไหลไปหากิมแชที่แผงปลา ส่วนกิมแชรีบหาพลาสเตอร์ปิดแผลให้จาตุรงค์ หันไปอีกทีเจอกิมฮวย เคี้ยง กิมลั้ง เหล่ตามองมาในความรักที่แสนหวานและโอเวอร์มากกว่าคู่อื่นๆ

กิมฮวยเอามือไปจัดปูปลาแบบไม่ทันมอง เพราะมัวแต่แซวกิมแชกับจาตุรงค์ เลยถูกก้ามของกุ้งบาดเลือดไหล เคี้ยงตกใจรีบจับมือกิมฮวยมาดูดเลือดให้ กิมลั้ง กิมแช และจาตุรงค์เห็นแล้วหัวเราะเพราะหวานเกินลูกเสียอีก
อีกมุมหนึ่งติ๋มขายของพร้อมเลี้ยงลูกไปด้วย เต๋าที่เพิ่งเลิกงานวิ่งกระตือรือร้นมาหาลูกเมีย เต๋าเอาของเล่นที่ซื้อมาให้มาล่อลูก ปรากฏว่าพอติ๋มส่งลูกให้ ลูกฉี่ใส่หน้าเต๋าแถมหัวเราะเยาะพ่อเสียอีก

ส่วนที่ร้านเสริมสวยของชมพู่ เธอขะมักเขม้นช่วยงานน้อยหน่าในร้านหน้าดำคร่ำเครียดโดยมีทวีกับเครือฟ้าเป็นลูกค้า น้อยหน่าเห็นน้องแล้วปลื้ม ชมพู่ขยันทำงานทุกอย่างจนเป็นลม จนน้อยหน่าต้องหายาดมให้ โดยมีทวีกับ เครือฟ้าคอยบีบนวด

ครู่หนึ่งคิตตี้เข้ามาในร้านกระซิบกระซาบกับชมพู่ พอเปิดประตูร้านออกไป ชมพู่หูตาสดใสราวกับไม่ได้เป็นลม เพราะมีชายร่างบึกบึนให้ทั้งคิตตี้และชมพู่มองเป็นอาหารตา ทั้งสองนางรีบวิ่งเริงร่าไปหาหนุ่มๆด้วยอาการดี๊ด๊า

จะเด็ด บะหมี่และเกี๊ยวเดินจงกรมตามกันอยู่อย่างศรัทธา ครู่หนึ่งมีเงินมายื่นตรงหน้า จะเด็ดเบิกจาดู แล้วหยุดเดินกะทันหันจนบะหมี่กับเกี๊ยวแทบหัวทิ่ม แต่คนที่ยื่นเงินให้จะเด็ดคือกรณ์ ลูกชายที่กลับเนื้อกลับตัวแล้วเอาเงินมาให้พ่อ จะเด็ดโผกอดลูกชายอย่างสุดปลื้ม บะหมี่กับเกี๋ยวทำเป็นเข้าไปกอดจะเด็ด จนได้เงินมาคนละห้าร้อย แล้วจึงค่อยกันมากอดกันเองอย่างมีความสุข

ลุงอ่ำ คนเฝ้าตลาดร่วมใจเกื้อเปิดกล่องของขวัญที่สดศรีกับณดาให้ปรากฏว่าเป็นสร้อยทอง ลุงอ่ำยกมือขึ้นไหว้ขอบคุณกับขวัญและกำลังใจที่เจ้าของตลาดมอบให้

มุมหนึ่งนั้น ชายศักดิ์ยื่นตลับแหวนให้สดศรีแบบไม่ทันตั้งตัว สดศรีอึ้งไป ลุงอ่ำกับณดารีบเดินแยกไปไม่อยากเป็นก้างขวางคอ สดศรีรับตลับแหวนนั้นมาแล้วเปิดออกดูปรากฏว่าเป็นพระพิมพ์ สมศรีแกล้งงอน คิดว่าจะเป็นแหวนเพชร แต่แล้วเธอแอบยิ้มชอบใจแววตาเป็นประกาย

ณดาเดินออกมาจากสำนักงานตลาด ศักดิ์ชายยื่นช่อดอกไม้ให้ตรงหน้า แล้วเดินเคียงข้างกันอย่างมีความสุข

ที่ร้านกาแฟ อาโกเอาโอเลี้ยงมาแขวนให้อย่างรวดเร็วแล้วต๋องหยิบมาดูด อาโกเห็นแล้วโวยชี้ไปที่โต๊ะหนึ่ง กิมลั้งที่อ่านหนังสือพิมพ์อยู่แล้วเดินมาหาราวกับจะหาเรื่อง ต๋องไม่ยอมแพ้เช่นกันรีบหยิบหลอดออกมาปักลงในถุงโอเลี้ยง แล้วดูดไปพร้อมๆกัน แต่กิมลั้งสังเกตเห็นถึงความผิดปกติบางอย่างในถุงโอเลี้ยง จึงแกะถุงโอเลี้ยงดูปรากฏว่ามีแหวนอยู่ในนั้น กิมลั้งถึงกับตะลึง ต๋องรีบหยิบแหวนออกจากถุงแล้วคุกเข่าลงสวมแหวนให้กิมลั้ง จากนั้นชมพู่คิตตี้ก็เข้ามาสวมมงกุฎดอกไม้ให้ทั้งคู่ แล้วชมพู่กับคิตตี้ดึงมือทั้งคู่ออกไปนอกร้านกาแฟอาโก

วงดนตรีร่วมใจเกื้อเล่นดนตรีคลอเบาๆ คนในตลาดทยอยออกมาแสดงความยินดีกับต๋องและกิมลั้ง และคนสุดท้ายที่ออกมายินดีคือ “กิมฮวย” คู่กรณีตลอดกาลของต๋องที่พ่ายแพ้ความจริงใจ และความดีของว่าที่ลูกเขย ชาวตลาดร่วมกันร้องเพลงกันอย่างมีความสุข ภายในตลาดร่วมใจเกื้อที่ดูแลกันด้วยความรักและความปรารถนาดีที่ร้อยรักนี้ให้ตลาดอบอวลแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

******อวสาน*******

อ่านละคร รักเกิดในตลาดสด ตอนอวสาน วันที่ 26 ส.ค. 55

ละคร รักเกิดในตลาดสด บทประพันธ์โดย : นราวดี
ละคร รักเกิดในตลาดสด บทโทรทัศน์โดย : สนุกคิด-สนิทเขียน
ละคร รักเกิดในตลาดสด กำกับการแสดงโดย : พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง
ละคร รักเกิดในตลาดสด แนวละคร : โรแมนติก คอมเมดี้ เบาสมองตลกสนุกสนาน
ละคร รักเกิดในตลาดสด ผลิต : บริษัท แอ็คอาร์ต เจเนอเรชั่น จำกัด โดยผู้จัด ธัญญา วชิรบรรจง
ละคร รักเกิดในตลาดสด ออกอากาศ : ทุกวันศุกร์-เสาร์ และวันอาทิตย์
หลังข่าวภาคค่ำ 20.30 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3 ออกอากาศต่อจากละครเรื่องธรณีนี่นี้ใครครอง
ละคร รักเกิดในตลาดสด เริ่มออกอากาศ ตอนแรกวันเสาร์ที่ 4 สิงหาคม 2555
ที่มา manager