@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร รักเกิดในตลาดสด ตอนที่ 13/3 วันที่ 25 ส.ค. 55

อ่านละคร รักเกิดในตลาดสด ตอนที่ 13/3 วันที่ 25 ส.ค. 55

ศึกษางานที่ห้างไว้บ้างก็ดีนะลูกเพราะสุดท้ายไม่ว่าจะห้างหรือตลาดก็ต้องตกเป็นของหนูอยู่ดี” ชายศักดิ์เอ่ย
“อืม ลำพังตลาดก็ยังทำได้ไม่ค่อยดี ถ้าจะไปยุ่งกับเรื่องอื่นอีกกลัวจะจัดการอะไรไม่ได้ซักอย่างน่ะค่ะ เดี๋ยวณดาขอตัวเข้าไปดูอะไรในตลาดก่อนนะคะคุณแม่” ณดาตอบสั้นๆก่อนจะขอตัวออกไป ชายศักดิ์ถึงกับยิ้มไม่ออก

“พยายามไปเรื่อยๆชายศักดิ์ ตอนนี้สิ่งที่ลูกต้องการที่สุดคือความเชื่อใจ มันจะเกิดได้มากน้อยแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับเธอ” สดศรีพูดให้กำลังใจ
“ไม่ต้องห่วง ถึงจะท้อบ้างแต่ชั้นไม่ยอมแพ้ง่ายๆหรอก”
ศักดิ์ชายพูดอย่างไม่ยอมแพ้ เมื่อเห็นณดายังไม่ยอมใจอ่อนยอมรับตนเป็นพ่อ

บรรยากาศในตลาดยิ่งคึกคักเมื่อมีบัตรลด กิมฮวยลดราคาสิบห้าเปอร์เซ็นต์สำหรับอาหารสดในร้าน
“ลดสิบห้าเปอร์เซ็นต์เหลือสองร้อยหกสิบสองบาทจ้ะ” กิมฮวยพูดกับลูกค้าที่มาคิวซื้ออย่างอารมณ์ดี ระหว่างที่ขายของกิมลั้งมองไปที่แผงผักเห็นติ๋มขายอยู่คนเดียว เธอเริ่มกังวลๆว่าต๋องหายไปไหน



ครู่หนึ่ง กิมลั้งเดินออกไปซื้อโอเลี้ยงร้านอาโกจึงสวนเข้ากับติ๋ม
“เอ้าพี่ติ๋ม ซื้อโอเลี้ยงเหรอ” กิมลั้งเอ่ยถาม
“จ้ะ...ช่วงนี้พี่กินวันละหลายถุงชดเชยช่วงที่อยู่แต่บ้าน โอเลี้ยงเจ้าไหนก็ไม่ถูกใจเหมือนโกชง” ติ๋มตอบ
“เอ้อ วันนี้ไม่เห็นต๋องมาช่วยพี่ขายผักเลย อยู่บ้านเลี้ยงหลานเหรอจ๊ะ” กิมลั้งเอ่ยถามอย่างแปลกใจ
“เปล่า ต๋องเค้าไม่ได้นอนบ้านมาสองสามคืนแล้ว เอ้า กิมลั้งไม่รู้เรื่องเหรอ” ติ๋มเอ่ยถามกลับ
กิมลั้งตกใจที่ไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อน ติ๋มเห็นหน้ากิมลั้งแล้วอดขำไม่ได้
“ดูทำหน้าเข้าซิ อย่างกะกลัวว่าต๋องจะไปนอนค้างบ้านสาวที่ไหนงั้นล่ะ” ติ๋มล้อ
“แล้วถ้างั้นต๋องไปไหนล่ะจ้ะ”
กิมลั้งถามกลับด้วยความอยากรู้

เวลาเดียวกัน อีกมุมหนึ่งของสวนข้างบ้านยายยิ้ม ยายมหาเศรษฐีผู้ที่ช่วยเหลือชาวตลาดร่วมใจเกื้อให้มีที่ขายของ กิมลั้งเดินดุ่มๆเข้ามาในสวนจนพบกับต๋องที่ขุดดินแปลงผักอย่างขะมักเขม้น
“ทำอะไรน่ะต๋อง” กิมลั้งถามขึ้นอย่างสงสัย
“กิมลั้ง”
ต๋องเหงื่อไหลท่วมแต่ไม่รู้สึกเหนื่อยหันมายิ้มกับกิมลั้ง

ครู่หนึ่ง ต๋องยกกระบะเพาะเมล็ดผักที่เพิ่งงอกมาอวดกิมลั้งอย่างภูมิใจ
“นี่ไง...ผักที่ชั้นเพาะไว้เพื่อไปปลูกแบบปลอดสารในแปลงดินเมื่อกี้” ต๋องว่า
“อยู่ๆเธอมาทำอะไรแบบนี้ที่สวนของยายยิ้มได้ยังไง” กิมลั้งถามอย่างสงสัย
“ก็ที่ชั้นเคยบอกยายเรื่องอยากปลูกผักทำไร่ไง ยายเลยถามว่าสนใจมั้ย จะให้เช่าถูกๆ เพราะที่ดินก็ไม่ได้ทำอะไรอยู่แล้ว ชั้นก็ตกลงทันทีซิ แถมมีบ้านพักให้อยู่ด้วย จะได้ไม่ต้องไปกวนครอบครัวพี่เต๋า” ต๋องรีบรายงานกิมลั้งทันที
“เอ้า แล้วตกลงเธอไม่กลับไปทำอะไรที่บ้านนอกแล้วเหรอ” กิมลั้งถาม
“ชั้นคุยกับพ่อแม่แล้วล่ะ ไปๆมาๆพ่อบอกว่าไร่นาบ้านเราน่ะมันอยู่ตัวอยู่แล้ว พ่อกับแม่อยากให้ชั้นสร้างอาณาจักรของตัวเอง ที่สำคัญ ถ้าชั้นหาทางตั้งรกรากในกรุงเทพได้ มันก็อาจจะง่ายขึ้นถ้าคิดจะเริ่มต้นชีวิตใหม่กับเธอ เพราะเธอจะได้ช่วยที่บ้านขายของต่อไปได้ด้วย” ต๋องรีบสาธยาย
กิมลั้งได้ยินแล้วยิ่งดีใจแต่ยังไม่คิดว่าต๋องจะจริงจัง
“เธอจะเอาจริงเอาจังกับมันแน่เหรอต๋อง” กิมลั้งถามเพื่อความมั่นใจ
“ใช่ซิ คอยดูนะ ชั้นจะใช้โมเดลไร่นาของพ่อกล้าแม่แก้วมาเสกให้ที่นี่เป็นนากลางกรุง แล้วก็สร้างรายได้จากผลิตผลทุกอย่างจากที่นี่ พอมีทุนมากพอก็ขยับขยายหาที่ทำมาหากินของตัวเอง แค่ที่ดินแปลงเล็กๆแถวชานเมืองชั้นก็พอใจแล้ว ถึงตอนนั้นชั้นจะได้พร้อมไปเจรจากับแม่เธอซักที” ต๋องพูดอย่างภาคภูมิใจ
“ฟังแล้วชั้นแทบอยากจะเลิกขายปลามาช่วยเธอวันนี้พรุ่งนี้เลยนะเนี่ย” กิมลั้งเอ่ยขึ้น
“ไม่คิดเลยนะว่าเธอจะรักชั้นมากขนาดนี้” ต๋องเอ่ยขึ้น
“ไม่ใช่ ชั้นกลัวว่ากว่าแผนเธอจะสำเร็จ ชั้นก็รอจนแก่พอดี” กิมลั้งว่า
“อุย...กว่าจะแก่ขนาดนั้น ชั้นก็มีลูกกับเธอเป็นโหล มีที่นาหลายเอเคอร์แล้วแม่ดอกกระถิน” ต๋องว่า
พลางเด็ดฝักกระถินใกล้มือแถวนั้นมาทัดหูแกล้งกิมลั้ง
“บ้า...นี่มันฝักไม่ใช่ดอก”
กิมลั้งยิ้มออกมาอย่างมีความสุข

เวลาเดียวกัน ชายศักดิ์ลงมือสั่งงานพนังงานด้วยตัวเองอยู่หน้าห้างเวรี่แฮปปี้
“เอามาตั้งตรงกลางๆซิ ไปหลบอยู่ตรงนั้นทำไม ดิสเพลย์เค้ามีไว้ให้โชว์ เอาไปตั้งอายๆแอบๆ คนเค้าจะรู้มั้ยว่าห้างกำลังมีโปรโมชั่นอะไร” ชายศักดิ์ยืนสั่งการลูกน้องที่ยังไม่ได้ดั่งใจ
“ตื่นกันรึยังเนี่ย ทำไมมันอืดอาดยืดยาดนักฮะ” ชายศักดิ์โวยขึ้นแล้วรีบเข้าไปช่วยยกด้วยตัวเอง
ศักดิ์ชายแอบมองชายศักดิ์ผู้เป็นพ่ออยู่ไม่ไกลกันนัก
“ถึงกับต้องมาคุมงานเองเลยเหรอ” ศักดิ์ชายเอ่ยขึ้นด้วยความห่วงใย
ทันใดนั้นชายศักดิ์ยกของแล้วเกิดเสียหลักล้ม
“คุณพ่อ” ศักดิ์ชายอุทาน อยากเข้าไปช่วยแต่ไม่กล้า พนักงานจึงช่วยกันพยุงเพราะชายศักดิ์มีเลือดซึมที่มือ
“เสี่ยเป็นอะไรมั้ยครับ” พนักงานถามขึ้น
“ไม่เป็นไร ขอบใจ” ชายศักดิ์เอ่ยอย่างไร้ความรู้สึก และเหงาขึ้นมาจับใจ
“ทำไมต้องเป็นแบบนี้” ศักดิ์ชายเอ่ยขึ้นอย่างสงสารพ่อจับใจ จึงตัดใจเดินข้ามถนนกลับไปหาชายศักดิ์อีกครั้ง
ทันใดนั้นชายศักดิ์เห็นคนข้ามถนนมาหน้าตาคล้ายศักดิ์ชาย
“ชาย” ชายศักดิ์รีบเรียก
พอมีรถขับผ่านไป กลับเป็นคนอื่นที่หน้าคล้ายเท่านั้น ชายศักดิ์ผิดหวังอย่างบอกไม่ถูก

เวลานั้น ที่ตลาดร่วมใจเกื้อ สุดคึกคัก จาตุรงค์ช่วยกิมแชขนปลา ส่วนกิมฮวยกำลังคุยโทรศัพท์กับเคี้ยง
“ได้ๆเฮีย อั๊วจะไปเดี๋ยวนี้ล่ะ” กิมฮวยรีบคุยแล้ววางสายไป
“ม้าจะไปไหนเหรอ” กิมแชถาม
“ป๊าลื้อให้อั๊วไปที่ห้องเย็นน่ะ เผอิญช่างตกแต่งภายในมาพอดี อั๊วจะได้ไปอธิบายให้ฟังว่าอยากได้อะไรบ้าง” กิมฮวยตอบ

“ลื้อเฝ้าแผงให้ดีล่ะ ลองอยู่ๆเจ้ลื้อหายหัวไปแบบนี้ อั๊วรู้เลยว่าไปขลุกอยู่กับใคร คนอะไร เห็นผู้ชายดีกว่าปลาที่แผง” กิมฮวยพูดแล้วรีบถอดผ้ากันเปื้อน แล้วล้างไม้ล้างมือออกไป
“อย่าว่าอีเลยม้า อีคงเห็นว่าอั๊วอยู่ช่วยทั้งคนให้อีได้ไปปลดปล่อยบ้าง” กิมแชแก้ตัวแทน
“ปลดปล่อยอะไร ลื้อพูดจาน่าเกลียด” กิมฮวยว่า
“ม้าคิดอะไรเนี่ย อั๊วหมายถึงว่าอีน่ะเสียสละนั่งปักหลักอยู่กับตลาดขายปลาให้พวกเราตั้งสิบปีแล้ว ถ้ามีอะไรที่จะทำให้อีผ่อนคลายได้ ก็น่าจะปล่อยให้อีทำตามใจตัวเองบ้างซิ” กิมแชอธิบาย
“จริงครับน้ากิมฮวย คนเราถ้าเก็บกดมากๆก็จะเครียด บางคนเครียดมากแล้วอาจจะอ้วน แต่บางคนไม่ทันอ้วนก็ฆ่าตัวตายซะก่อน” จาตุรงค์รีบเสริม
“พอๆ อาจาตุรงค์ ฟังแล้วอั๊วเครียด ยังไงลื้อก็อยู่ช่วยอากิมแชหน่อยละกัน อั๊วจะรีบไปรีบกลับ” กิมฮวยรีบเอ่ย
“ไม่ต้องห่วงครับ เดี๋ยวน้ากิมฮวยกลับมา ผมจะขอดเกล็ดปลาโชว์เลย” จาตุรงค์บอก
พอกิมฮวยไปแล้ว จาตุรงค์แข็งขันทำงานราวกับมีพลังพิเศษ
“เอ้า กุ้ง หอย ปู ปลา อาหารทะเลสดๆ ลูกชายเขียงหมูมาช่วยขาย เพราะว่าที่แม่ยายอยู่แผงปลาจ้ะ” จาตุรงค์เรียกลูกค้า พลางส่งสายตาหยาดเยิ้มไปให้กิมแชที่ขอดเกล็ดปลาอายม้วนอยู่ข้างๆกัน

เวลาต่อจากนั้น ที่สำนักงานตลาด ณดาถือซองเอกสารเตรียมจะออกไปข้างนอก
“งั้นณดาไปก่อนนะคะคุณแม่ แล้วจะรีบกลับมารับคุณแม่ไปทานอาหารเหนือกัน” ณดาว่า
“จ้ะ...ขับรถดีๆลูก” สดศรีเอ่ย
จังหวะที่ณดาจะเดินออกไป ชายศักดิ์เดินเข้ามาพร้อมเอกสารบางอย่างในมือ
“ณดา พ่อว่าจะมาปรึกษาหนูเรื่องอาร์ตเวิร์คโบรชัวร์ของห้างหน่อยน่ะ หนูพอมีเวลาช่วยดูให้พ่อหน่อยมั้ย” ชายศักดิ์เอ่ยขึ้น
“คือ...ณดาต้องรีบไปธุระ ยังไงทิ้งไว้ให้ดูก็แล้วกันนะคะ” ณดาพูดตัดบทแล้วรีบเดินออกไป
ชายศักดิ์หน้าจ๋อยจนสดศรีต้องเดินเข้ามาหา
“ไหน ชั้นช่วยดูก่อนก็ได้ เห็นว่าชั้นเป็นแม่ค้าตลาด แต่ก็พอมองขาดนะว่าลูกค้าจะชอบไม่ชอบอะไร” สดศรีเอ่ยขึ้น ชายศักดิ์จึงรีบยื่นเอกสารให้

ครู่หนึ่ง กิมฮวยออกไปยืนรอแท็กซี่หน้าตลาด
“วันนี้แห่ไปไหนกันนักนะ ทำไมแท็กซี่ไม่ว่างกันซักคัน” กิมฮวยบ่นพึมพำกับตัวเอง
ขณะเดียวกัน ณดาเลี้ยวรถออกมาจากตลาดเห็นกิมฮวยยืนรอแท็กซี่หน้าเครียดอยู่ จึงชะลอรถจอดถาม
“น้ากิมฮวยจะไปไหนคะ” ณดาถามอย่างมีน้ำใจ
“อั๊วจะไปหาเฮียเคี้ยงที่ห้องเย็นน่ะ” กิมฮวยตอบ
“อยู่แถวไหนคะ ไปด้วยกันก็ได้ค่ะ” ณดาเอ่ย
“ขอบคุณมากนะอาคุณณดา” กิมฮวยเอ่ยขอบคุณ
ทันทีที่ณดาขับรถออกไป รถคันหนึ่งขับตามรถณดาไป โดยมีฤทธิ์กับลูกน้องนั่งอยู่ในนั้น

ณดาขับรถเข้ามาในซอย กิมฮวยชี้ไม้ชี้มือบอกทางมาด้วยกันในรถ
“เลี้ยวซ้ายเลยค่ะ” กิมฮวยบอก
แล้วจู่ๆเสียงบีบแตรจากด้านหลังดังขึ้น
“ไอ้หยา” กิมฮวยตกใจ
ณดารีบจอดรถแล้วลงจากรถพร้อมกิมฮวย หวังจะไปเอาเรื่อง แต่พอลงมาทั้งคู่ชะงักเมื่อเห็นชายฉกรรจ์ 4-5 คน ลงมาจากรถคันดังกล่าว ณดากับกิมฮวยจะหนีแต่ไม่ทันแล้วเพราะพวกนั้นได้เข้ามาจู่โจมอย่างรวดเร็ว

เวลาผ่านไปหลายชั่วโมง บ้านกิมลั้งและบ้านเต๊กไฮ้ว้าวุ่นไม่ต่างกัน หลังทราบข่าวกิมฮวยหายตัวไป เคี้ยงพยายามติดต่อแต่ไม่สำเร็จ
“อากิมฮวย ลื้อไปไหนของลื้อนะ ป่านนี้ยังติดต่อไม่ได้อีก” เคี้ยงเอ่ยขึ้น พร้อมกันมาถามกิมแช
“กิมแช...ลื้อแน่ใจนะว่าม้าบอกว่าจะไปหาป๊าเลยไม่แวะไหน” เคี้ยงถามเพื่อความมั่นใจ
“แน่ใจซิป๊า พอป๊าโทรมา ม้าก็รีบไปทันที แล้วยังบอกเลยว่าจะรีบกลับ เพราะห่วงแผง” กิมแชว่า
“ป๊าก็รออยู่ที่ห้องเย็นตั้งสามชั่วโมงโทรหาเท่าไหร่ก็ไม่เปิดเครื่อง” เคี้ยงเริ่มกังวล
“หรือว่าจะเกิดอุบัติเหตุป๊า เราแจ้งตำรวจกันดีกว่ามั้ย” กิมลั้งเริ่มไม่สบายใจ
“ไม่น่าใช่ ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงต้องมีคนใช้มือถือม้าลื้อโทรมาหาพวกเราแล้วป่านนี้” เคี้ยงว่า
“จะแจ้งคนหายก็ไม่ได้ด้วยซิครับ เพราะยังไม่ครบยี่สิบสี่ชั่วโมง” จาตุรงค์รีบเอ่ย
“ตกลงเราต้องเรารอต่อไปอย่างเดียวเหรอเนี่ย” กิมลั้งเอ่ยขึ้น
ในขณะที่ทุกคนเริ่มกังวลกับสถานการณ์ตอนนี้มากขึ้นเรื่อยๆ
เวลาต่อจากนั้น ชายศักดิ์เดินออกมาจากห้างเตรียมกลับบ้าน แต่แล้วเสียงมือถือดังขึ้น
ชายศักดิ์หยิบมือถือขึ้นมาดูพอเห็นเป็นเบอร์รัศมี ชายศักดิ์ชักสีหน้าแต่กดรับสายแต่โดยดี
“ชั้นว่าเราไม่มีเรื่องอะไรต้องพูดกันอีกแล้วนะ” ชายศักดิ์รับสาย
“แล้วถ้าเรื่องที่กำลังจะพูดมันเกี่ยวกับนังลูกสาวคนใหม่ของเสี่ยล่ะ” รัศมีหัวเราะอย่างเป็นต่อ
ชายศักดิ์หน้าเครียดเพราะคงไม่ใช่เรื่องดีแน่

ไม่นานนัก บ้านกิมฮวยกับบ้านเต๊กไฮ้ มารวมตัวกันที่สำนักงานตลาด สดศรี กิมลั้ง และกิมแช ร้องไห้่เมื่อรู้ว่ากิมฮวยกับณดาถูกจับตัวไป
“เลวที่สุด ทำไมมันถึงทำกันอย่างนี้ โธ่...ป่านนี้ลูกแม่จะเป็นยังไงบ้าง” สดศรีพูดทั้งน้ำตาและร้องไห้แทบขาดใจจนลักษณ์ต้องคอยช่วยลูบเนื้อลูบตัวให้
“มันเรียกค่าไถ่สิบล้านแล้วอั๊วจะเอาเงินที่ไหนไปให้” เคี้ยงว่า
“สิบล้านน่ะชั้นจ่ายให้ได้อยู่แล้วถ้าต้องแลกกับณดาแล้วก็กิมฮวย เพียงแต่ชั้นไม่ไว้ใจคนเจ้าเล่ห์อย่างรัศมีว่าจะเล่นอะไรตุกติกรึเปล่า” ชายศักดิ์ว่า
“ผมว่าเราปรึกษาเรื่องนี้กับตำรวจดีมั้ยครับ” ต๋องเอ่ยขึ้น
“ไม่เด็ดขาดนะ มันบอกแล้วไงว่าถ้าเรื่องถึงหูตำรวจ ณดากับกิมฮวยต้องตายแน่ๆ แล้วชั้นก็คิดว่าคนเลือดเย็นอย่างรัศมีทำได้” สดศรีว่า
“ถ้างั้นตอนนี้คงมีคนเดียวแล้วล่ะครับที่พอจะช่วยเราได้”
ต๋องเอ่ยขึ้นอย่างมีคำตอบในใจ

ครู่หนึ่งต่อจากนั้น ศักดิ์ชายนั่งหน้าเครียดอยู่ในห้องประชุมของห้างเวรี่แฮปปี้ เมื่อรู้เรื่องที่รัศมีลักพาตัวณดากับกิมฮวยไปเรียกค่าไถ่
“ทำไมคุณแม่ถึงได้คิดสั้นแบบนี้” ศักดิ์ชายเอ่ย
“ชั้นว่าเรื่องนี้มันต้องเกี่ยวข้องกับไอ้ฤทธิ์แน่ๆ” ต๋องเอ่ย
“ใครคือฤทธิ์” ศักดิ์ชายถามขึ้น
“ก็...” ต๋องดูเกรงใจที่จะพูด
“เค้าเป็นพ่อที่แท้จริงของชายไง” ชายศักดิ์ตัดสินใจพูดแทน
ศักดิ์ชายฟังแล้วอึ้งไป
“ตอนนี้พวกเราคิดว่าคนที่จะเจรจาเรื่องนี้ได้ก็มีแต่นาย” เคี้ยงรีบเอ่ย
“แล้วคุณแม่นัดให้คุณพ่อเอาเงินไปให้เมื่อไหร่ครับ” ศักดิ์ชายเอ่ยถามขึ้น
“พรุ่งนี้ แต่พ่อไม่อยากรอ บอกตรงๆว่าพ่อไม่ไว้ใจแม่แกกับไอ้นั่นว่าคิดจะตลบหลังอะไรรึเปล่า ชายช่วยพ่อด้วยนะ ถ้าณดาเป็นอะไรไป พ่อจะรู้สึกผิดบาปที่สุดในชีวิต” ชายศักดิ์ว่า
“ผมว่าเราคงเจรจาไม่สำเร็จหรอกครับ” ศักดิ์ชายพูดอย่างเข้าใจรัศมีดี
ทุกคนเริ่มหมดหวัง แต่จู่ๆศักดิ์ชายโพล่งขึ้นว่า
“...แต่คงต้องใช้วิธีอื่น”
ทุกคนจ้องศักดิ์ชายอย่างมีความหวังขึ้นมาอีกครั้ง

ครู่หนึ่งต่อจากนั้น มือถือของรัศมีดังขึ้น ฤทธิ์นั่งกินเบียร์อยู่ในห้องที่จับณดาและกิมฮวยขังไว้ รัศมีรีบเดินมาหยิบมือถือ พอเห็นเป็นเบอร์ศักดิ์ชายเธอรีบกดรับสาย
“ว่าไงลูก...ชาย” รัศมีเอ่ยขึ้นด้วยความดีใจ
“ชาย...” ณดาแอบมีความหวังเมื่อได้ยินชื่อศักดิ์ชาย
ศักดิ์ชายคุยโทรศัพท์อยู่ที่มุมหนึ่งของห้าง
“คุณแม่อยู่ไหนครับเนี่ย” ศักดิ์ชายหลอกถาม
“เอ่อ แม่อยู่บ้านเพื่อนน่ะ ชายเป็นยังไงบ้าง มีอะไรรึเปล่าลูก” รัศมีถามขึ้น
“วันนี้คุณแม่ว่างมั้ยครับ ผมอยากทานข้าวกับคุณแม่” ศักดิ์ชายรีบเอ่ย
“เอาไว้มะรืนนี้ได้มั้ยชาย แม่กำลังวุ่นๆ” รัศมีเริ่มโกหก
“คือ...พรุ่งนี้ผมจะย้ายไปทำงานต่างจังหวัดกับเพื่อนแล้วน่ะครับ เลยอยากเจอคุณแม่เป็นครั้งสุดท้าย” ศักดิ์ชายเข้าแผนต่อ
“ครั้งสุดท้าย พูดอะไรไม่เป็นมงคลอย่างนั้น ได้ๆ จะให้แม่ไปเจอที่ไหนบอกมา” รัศมีเอ่ยถามต่อ
พอคุยกับศักดิ์ชายเสร็จ รัศมีวางสายไปแล้วหันไปคุยกับฤทธิ์
“ชั้นจะออกไปเจอลูกนะ พรุ่งนี้ลูกจะไปทำงานต่างจังหวัดแล้ว พี่อยากจะไปเจอลูกซักครั้งมั้ยล่ะ” รัศมีเอ่ยถามขึ้น
“อย่าเลย พี่อยู่เฝ้านังสองคนนี่ดีกว่า” ฤทธิ์พูดอย่างไม่ได้สนใจอยากเจอลูกแม้แต่น้อย
“ชั้นนึกอยู่แล้วล่ะพี่ต้องไม่ไป บางทีมันอาจจะเป็นเรื่องดีก็ได้ที่พี่ไม่เจอลูกเลยตลอดชีวิต” รัศมีเอ่ย พอรัศมีออกไป ฤทธิ์เหลือบมองณดาด้วยสายตาไม่น่าไว้วางใจ เขาวางแก้วเบียร์แล้วเดินพุ่งไปหาณดาหมายจะทำมิดีมิร้าย ณดาแอบหวั่นใจ กิมฮวยเห็นท่าไม่ดีจึงทำเป็นถูกยุงกัดเพื่อยื่นขาไปขัดขาฤทธิ์ที่กำลังเดินไปหาณดาให้ล้มลง
“โอ๊ย” ฤทธิ์กับกิมฮวยอุทานออกมาพร้อมกัน
ฤทธิ์ล้มลงหน้ากระแทกพื้นปากแตก
“เป็นบ้าอะไรอีเจ๊ อยู่ๆก็ชักกระตุกขึ้นมา” ฤทธิ์บ่นกิมฮวย
“ก็ยุงมันกัดอั๊วน่ะซิ ทำไมในนี้ยุงมันเยอะนัก ลื้อช่วยเอาพัดลมมาเปิดให้หน่อยได้มั้ย” กิมฮวยว่า
“เข้าใจอะไรผิดรึเปล่า ชั้นไม่ได้จับแกมาให้ชี้นิ้วออกคำสั่งนะ” ฤทธิ์เอ่ย
“โอ๊ย อั๊วจะเอานิ้วที่ไหนไปชี้ มือก็ถูกมัดอยู่อย่างนี้ งั้นลื้อแก้มัด อั๊วมั้ยล่ะ อั๊วจะได้เดินไปหยิบพัดลมมาเอง พวกอั๊วน่ะค่าตัวตั้งเท่าไหร่ ดูแลให้มันดีๆหน่อยซิ” กิมฮวยเอ่ย
“หุบปากได้แล้ว...” ฤทธิ์ตะคอกกิมฮวย แต่ยอมเดินไปเอาพัดลมด้วยความรำคาญ
“ขอบคุณนะคะน้ากิมฮวย” ณดาเอ่ยขอบคุณ
“ไม่เป็นไรอาคุณณดา มีกันอยู่แค่นี้ ไม่ช่วยกันแล้วจะช่วยใครยังไงเรา ต้องเข้มแข็งไว้นะ อะไรจะเกิดค่อยว่ากันอีกที” กิมฮวยเอ่ยขึ้น
ณดาพยักหน้ารีบด้วยความเศร้า

คืนนั้น ศักดิ์ชายนัดรัศมีที่ร้านอาหารร้านหนึ่ง รัศมีเอามือลูบหัวลูกชายอย่างเอ็นดู
“เป็นเพราะแม่แท้ๆลูกเลยต้องพลอยตกระกำลำบากไปด้วยแบบนี้” รัศมีเอ่ยขึ้น
“เรื่องในอดีตเราแก้ไขไม่ได้หรอกครับคุณแม่ มีแต่อนาคตเท่านั้นที่เราจะเลือกทำให้มันดีหรือไม่ดีได้” ศักดิ์ชายเอ่ยอย่างเตือนสติแม่ และจับมือรัศมีไว้แน่น
“แต่กับบางคนมันก็ไม่ทางให้เลือกหรอก” รัศมีตอบ
“พูดเหมือนคุณแม่จะทำอะไรอย่างนั้นล่ะครับ” ศักดิ์ชายเอ่ยถามขึ้น
“ดูทำหน้าเข้า คิดว่าผู้หญิงตัวคนเดียวอย่างแม่จะมีปัญญาไปสร้างเรื่องอะไรได้อีก เอาเป็นว่าแม่ทำธุระสำคัญเสร็จเมื่อไหร่ แม่จะตามไปอยู่กับชายทันทีนะลูกนะ” รัศมีกลบเกลื่อนไปเรื่องอื่น
“ทำไมคุณแม่ไม่ไปพร้อมกับผมเลยละครับ แม่คนเดียวผมดูแลได้อยู่แล้ว” ศักดิ์ชายยังพยายามพูดเพื่อเปลี่ยนใจรัศมี
“คนอย่างแม่ไม่มีทางทนอยู่แบบคนสิ้นเนื้อประดาตัวหรอก รอแม่แค่วันสองวันเท่านั้นเองลูก แล้วเราก็จะมีเงินทุนไปตั้งต้นชีวิตใหม่กัน” รัศมีเอ่ยขึ้น พร้อมจับมือลูกชายไว้แน่น
ศักดิ์ชายมองรัศมีด้วยใบหน้าเศร้าแต่ต้องฝืนยิ้มเหมือนไม่รู้เรื่องในสิ่งที่แม่บังเกิดเกล้าพูด

คืนนั้น ที่บ้านกิมฮวย เคี้ยงเดินลงบันไดบ้านเหลียวมองรอบบ้านวันที่กิมฮวยไม่อยู่ช่างแสนเงียบเหงา กิมแชกับกิมลั้ง ถือจานข้าวออกมาพอดี
“ป๊า จะไปไหน ไม่เจี๊ยะปึ่งเหรอ” กิมลั้งเอ่ยถาม
“ป๊า จะออกไปคุยแผนเรื่องวันพรุ่งนี้กับต๋องแล้วก็เสี่ยชายศักดิ์น่ะ ป๊ารีบไปก่อนนะ เดี๋ยวสาย” เคี้ยงเอ่ย แล้วรีบออกจากบ้านไป
“กิมแช ลื้อว่าป๊าดูมีพิรุธแปลกๆมั้ย” กิมลั้งเอ่ยถามขึ้น
“นั่นซิ ทำลับๆล่อๆเหมือนมีอะไรปิดบัง” กิมแชตอบ
“อั๊วว่าเรารีบสะกดรอบตามป๊าไปดีกว่าจะได้รู้ๆไปเลย” กิมลั้งเอ่ยขึ้น
“เอาซิเจ๊...พี่รงค์ กิมแชเองนะ” กิมแชรับโทร.หาจาตุรงค์ทันที
“เร็ว ป๊าถอยรถออกแล้ว” กิมลั้งรีบคว้ามือกิมแชออกไปเพราะกลัวไม่ทันเคี้ยง

คืนนั้น ที่หน้าร้านอาหาร รัศมีโผกอดศักดิ์ชายหลังคุยธุระเสร็จ
“อีกสองวันเท่านั้นลูก แล้วแม่จะตามไป” รัศมีพูดแล้วคลายกอดออกจากศักดิ์ชายแต่ลูกชายกลับกอดแม่ไว้แน่น
“ดูแลตัวเองด้วยนะครับคุณแม่” ศักดิ์ชายเอ่ยขึ้น
“จ้ะ...แม่ไปนะ” รัศมีกล่าว
สองแม่ลูกแยกย้ายกันไปขึ้นรถของตัวเอง แต่พอรัศมีออกรถ ศักดิ์ชายรีบขับรถตามไป

คืนนั้นที่ หน้าตลาดร่วมใจเกื้อ เคี้ยง ต๋อง ชายศักดิ์ และสดศรีเดินมาที่รถกระบะของเคี้ยงด้วยใบหน้าเคร่งเครียด
“ความจริงเธอไม่ต้องไปก็ได้นะ เคี้ยงเค้ายังไม่เอาลูกๆไปเลยเห็นมั้ย ปล่อยให้เป็นหน้าที่พวกเราจัดการกันเองดีกว่า” ชายศักดิ์พูดกับสดศรี
“ไม่เอาหรอก ขืนให้ชั้นรอฟังข่าวได้อกแตกตายกันพอดี ชั้นอยากเห็นว่าลูกเป็นยังไงบ้าง” สดศรีเอ่ยขึ้น
“งั้นเรารีบไปกันเถอะครับ เดี๋ยวจะตามชายไม่ทัน” ต๋องรีบโพล่งขึ้น
ทุกคนกำลังจะเดินทางออกไป จู่ๆกิมลั้งกับกิมแชดันโผล่มาจนทุกคนตกใจ
“จะไปวางแผนกันถึงไหนเหรอป๊า” กิมลั้งถามขึ้น
เคี้ยง ต๋อง ชายศักดิ์ และสดศรีมองหน้ากันอ้ำอึ้งไม่รู้จะอธิบายกิมลั้งอย่างไร

คืนนั้น รัศมีขับรถมาที่สะพานปลา โดยมีศักดิ์ชายขับรถตามมาห่างๆ โดยมีเคี้ยงขับรถกระบะมาพร้อมกับต๋อง กิมลั้ง กิมแช จาตุรงค์ ชายศักดิ์และสดศรีตามมาด้วย
รัศมีขับรถมาจอดแถวโรงน้ำแข็ง ซึ่งด้านหน้ามีลูกน้องของฤทธิ์ดูแลคุมเข้มอยู่หนาแน่น 3-4 คน
ต๋อง ศักดิ์ชาย จาตุรงค์ เคี้ยง และชายศักดิ์ ยื่นหัวแอบดูสถานการณ์เรียงกันเป็นชั้น แล้วพร้อมใจกันชักหัวกลับมาปรึกษากันอีกครั้ง

อ่านละคร รักเกิดในตลาดสด ตอนที่ 13/3 วันที่ 25 ส.ค. 55

ละคร รักเกิดในตลาดสด บทประพันธ์โดย : นราวดี
ละคร รักเกิดในตลาดสด บทโทรทัศน์โดย : สนุกคิด-สนิทเขียน
ละคร รักเกิดในตลาดสด กำกับการแสดงโดย : พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง
ละคร รักเกิดในตลาดสด แนวละคร : โรแมนติก คอมเมดี้ เบาสมองตลกสนุกสนาน
ละคร รักเกิดในตลาดสด ผลิต : บริษัท แอ็คอาร์ต เจเนอเรชั่น จำกัด โดยผู้จัด ธัญญา วชิรบรรจง
ละคร รักเกิดในตลาดสด ออกอากาศ : ทุกวันศุกร์-เสาร์ และวันอาทิตย์
หลังข่าวภาคค่ำ 20.30 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3 ออกอากาศต่อจากละครเรื่องธรณีนี่นี้ใครครอง
ละคร รักเกิดในตลาดสด เริ่มออกอากาศ ตอนแรกวันเสาร์ที่ 4 สิงหาคม 2555
ที่มา manager