@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร รักเกิดในตลาดสด ตอนที่ 11-12 วันที่ 20 ส.ค. 55

อ่านละคร รักเกิดในตลาดสด ตอนที่ 11

ศักดิ์ชายหวังยืมมือจาตุรงค์มาทำงานให้ตนอีก นัดพบกันที่สวนสาธารณะเล่าเรื่องห้างถูกถล่มทางอินเตอร์เน็ตให้ฟังบอกว่าณดา ประกาศไว้แล้วว่าจะไล่บี้จนพวกตนไม่มีที่ยืน

จาตุรงค์พูดอย่างเป็นธรรมว่า พวกณดาแค้นเพราะห้างไปทำเรื่องกับตลาดไว้เยอะ ศักดิ์ชายโทษว่าถ้าสดศรียอมขายที่เสียตั้งแต่แรกเรื่องก็จบไปนานแล้ว
“ชาย...ฉันว่าบางทีเรื่องอาจจะจบได้ง่ายๆที่ตัวนายกับพ่อแม่นายนะ คือถ้าหาทางซื้อที่ดินไม่ได้จริงๆ

พวกนายก็เลิกคิดที่จะซื้อซิ แค่นี้ก็จบ” ศักดิ์ชายถามอย่างไม่พอใจว่าตกลงเขาเข้าข้างใครกันแน่ “เฮ้อ...พ่อแม่ฉันก็ขายของอยู่ที่นั่น ไหนจะครอบครัวกิมแชอีก”

ศักดิ์ชายงงที่จาตุรงค์พูดถึงกิมแช เขารู้สึกตัวรีบเปลี่ยนว่าก็ครอบครัวกิมลั้งนั่นแหละ ศักดิ์ชายย้ำว่า ตนบอกแล้วว่าถ้าได้ตลาดมาจะหาที่ให้ป๊ากับแม่เขาขายของในห้าง



“แล้วครอบครัวกิมแช...เอ๊ย...ครอบครัวกิมลั้งล่ะ รู้ไหมว่าน้ากิมฮวยน่ะเกลียดแม่นายอย่างกับอะไรดี”

ศักดิ์ชายให้เลือกเอาระหว่างแม่ตนกับกิมลั้ง จาตุรงค์พลั้งปากว่าเลือกกิมแช จนศักดิ์ชายเอะใจว่าคิดอะไรกับกิมแช เพราะวันนี้พูดชื่อกิมแชตั้งสามครั้งแล้ว ถามว่าจะเปลี่ยนจากกิมลั้งหันมาสนใจกิมแชแล้วใช่ไหม

“ฉันว่านายเครียดจนหลอนแล้วล่ะ” จาตุรงค์กลบเกลื่อนแล้วตัดบท “แต่จะยังไงก็ช่างเถอะ ฉันจะบอกว่าตลาดคือที่ทำมาหากินของพ่อค้าแม่ค้าที่นั่น ถ้าไม่มีตลาด พวกเขาก็ไม่มีชีวิต เพราะฉะนั้น อย่าว่าแต่คุณนายสดศรีเลย แม้แต่คนในตลาดก็ไม่มีทางให้นายได้ที่ดินตรงนี้ไปหรอก สงครามนี้น่ะพวกนายเป็นคนเริ่ม ต่อไปนี้คุณนายสดศรีกับคุณณดาก็จะเอาคืนบ้างล่ะ”

“งั้นก็คอยดูไป!” ศักดิ์ชายพูดอย่างเจ็บใจก่อนแยกไป

ooooooo

คืนนี้เอง ศักดิ์ชายไปดักฉุดณดาขณะออกจากตลาดจะกลับบ้าน พาเธอไปที่ลับตาคน ข่มขู่ให้เธอหยุดสาดสีใส่ห้างตน และเก็บกวาดขยะทุกอย่างที่ทำให้หมด

“ไม่...ทุกอย่างที่ฉันทำไปมันก็เหมาะสมกับคนเลวๆอย่างพวกนายอยู่แล้ว แล้วฉันก็จะไม่หยุดแค่นี้ด้วย มาถึงขั้นนี้แล้วก็ต้องไปให้ถึงที่สุด ต่อให้ต้องลากนายกับพ่อแม่ไปลงนรกฉันก็จะทำ”

ศักดิ์ชายดึงเธอเข้าไปประกบปากอย่างดุดัน ณดาผลักเขาออกตบหน้าอย่างแรงด่า “แกมันไม่ใช่คน!”

ศักดิ์ชายขู่ว่าถ้าเธอไม่หยุดจะเจอแรงกว่านี้ ณดากลัว แต่บอกกับตัวเองว่าจะไม่ยอมให้คนเลวๆอย่างนี้มาทำอะไรตนได้อีก เธอยังซุกตัวเองอยู่ตรงนั้น ร้องไห้ด้วยความสับสนว่าทำไมชีวิตต้องเป็นอย่างนี้ด้วย...

ขณะนั้นเอง ต๋องเดินคุยโทรศัพท์กับกิมลั้งผ่านมา ณดาได้ยินต๋องบอกกิมลั้งว่า

“ฉันรักเธอมากๆ นะ มากกว่าเมื่อวานอีกด้วย”

ณดาได้ยินแล้วยิ่งเจ็บปวด พลันก็คิดอะไรได้ ร้องไห้โฮๆ ออกมาจนต๋องมาเจอถามว่าเป็นอะไร

ooooooo

ณดาระบายความอัดอั้นเรื่องศักดิ์ชายให้ฟัง ต๋องแค้นมากรับปากว่าจะช่วยเธอเอง ณดาขอร้องให้เขาช่วยอยู่เป็นเพื่อน ต๋องจึงไปอยู่เป็นเพื่อนเธอที่คอนโดฯ

เมื่อเข้าไปนั่งที่ห้องโถง ณดาดื่มอย่างหนัก พร่ำรำพันความน้อยเนื้อต่ำใจที่ตนเติบโตมาอย่างว้าเหว่เพราะขาดพ่อ ครั้นโตขึ้นตนพยายามหาคนที่รักจริงแต่ทุกคนก็มาเพื่อตักตวงแล้วจากไป แถมฝากบาดแผลทางกายและจิตใจไว้จนถึงวันนี้

ต๋องไม่อยากให้เธอดื่มมาก บอกให้พักผ่อนเสีย พลางลุกไปเตรียมน้ำเพื่อให้เธอเช็ดหน้าเช็ดตัว ณดาลุกไปชงกาแฟให้เขาแอบใส่ผงขาวๆ ลงไปในกาแฟ แล้วรีบเอามารอที่ห้องโถง ต๋องกลับมาบอกว่าน้ำไม่ไหล ณดาจึงชวนเขาดื่มกาแฟ

ต๋องหยอกเธอ ด้วยการเอากาแฟจากเธอมาดื่มแล้วยื่นของตัวเองให้ ณดาตกใจไม่กล้าดื่ม ต๋องแกล้งดักคอว่าไม่ใช่ถ้วยนี้มีอะไรหรือ?

ณดาช็อกคิดว่าต๋องรู้ทัน สารภาพกับเขาว่ารักเขา ตนต้องการคนที่รักจริงสักคนมาเป็นที่พึ่งทางใจ ต๋องพูดอย่างเข้าใจเธอดีว่า

“ณดา...คุณฟังนะ คุณไม่ได้รักผมหรอก คุณแค่ต้องการคนที่รักคุณจริงๆ สักคน” ณดาคร่ำครวญว่าเพราะตนไม่เคยมีคนแบบนั้นเลย “ใจเย็นๆ ณดา คุณต้องเลิกไขว่คว้า เพราะไม่งั้นคุณจะเลือกคนด้วยความโหยหา แต่ไม่ใช่ด้วยปัญญา แล้วคุณก็จะไม่เจอคนที่รอคอยสักที”

“ต๋อง...ณดาขอโทษ ณดาไม่ได้ตั้งใจให้เกิดเรื่องแบบนี้ คุณไม่เกลียดณดาใช่ไหม”

“ผมไม่เคยเกลียดคุณเลย ผมพร้อมจะช่วยคุณ ปกป้องคุณ เป็นที่ปรึกษาให้คุณ ถึงจะไม่ได้เป็นคนรัก แต่คุณเชื่อไหมว่าผมจะเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของคุณ”

“ขอบคุณมากค่ะต๋อง ขอบคุณที่ยังดีกับณดาจนถึงตอนนี้”

ทั้งคู่โผเข้ากอดกันด้วยความรู้สึกเป็นมิตรที่ดีต่อกัน...

ooooooo

กระแสข่าวโจมตีห้างเวรี่แฮปปี้ยังกระหน่ำทั้งทางอินเตอร์เน็ตและหนังสือพิมพ์ สดศรีเองก็ให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์ถึงการฟื้นตัวพัฒนาอย่างรวดเร็วของตลาดร่วมใจเกื้อ ทั้งยังตั้งเป้าหมายจะกวาดลูกค้ามาให้หมด ไม่เหลือไปเดินห้าง ตกเป็นเหยื่อของผู้ประกอบการที่ไร้หัวใจและไร้จริยธรรม

รัศมีนั่งดูทีวีที่สดศรีกำลังให้สัมภาษณ์อยู่กับลูกผัว เธอแทบคลั่งที่ห้างถูกกระหน่ำต่อเนื่อง แผดเสียงออกมาอย่างแค้นใจ จนทั้งชายศักดิ์และศักดิ์ชายทนไม่ไหวลุกเดินออกไป

เป็นจังหวะเดียวกับที่กรณ์ลูกชายของจะเด็ดจะขอเงินพ่ออีกห้าหมื่นไปซื้อกล้องถ่ายรูป จะเด็ดให้ไปได้แค่หมื่นห้า ลูกชายไม่พอใจบอกพ่อว่าจะไม่มาให้เห็นหน้าอีก แล้วเดินหนีไปทางตลาด

จะเด็ดตามไปอ้อนวอนลูกให้คุยกันก่อน ศักดิ์ชายเดินหนีจากบ้านมาเจอพอดี ถามว่ามีอะไรจะให้ช่วยไหม

ศักดิ์ชายเสนอให้จะเด็ดยืมเงินให้ลูกชาย แต่มีข้อแม้ว่า จะเด็ดจะต้องทำให้ตลาดร่วมใจเกื้อไม่มีทั้งคนซื้อและคนขาย ส่วนจะเด็ดเองไม่ต้องห่วงตนจะรับผิดชอบชีวิตที่เหลือให้เอง หรือจะย้ายสำนักไปอยู่บนห้างตนก็ได้

จะเด็ดละอายใจ ไม่อาจทรยศคุณนายสดศรีได้ ศักดิ์ชายเป่าหูว่า แล้วคุณนายเคยแก้ปัญหาชีวิตให้จะเด็ด ได้ไหม แค่เงินร้อยก็ยังยืมยากอย่าพูดถึงเงินหมื่นเลย จะเด็ดก็ยังคิดถึงชาวตลาดที่ทำให้ตนมีกินมีใช้อยู่ทุกวันนี้

“น้าจะเด็ด...ทุกวันนี้ทุกอย่างที่น้าทำก็เพื่อลูกของน้าไม่ใช่เหรอ น้าก็เทียบเอาซิว่าใครสำคัญที่สุดในชีวิต รายจ่ายของลูกน้ามันยังไม่จบแค่นี้หรอก แถมมีแต่จะมากขึ้น...มากขึ้น จนน้ารับมือไม่ไหว น้าก็รู้ดีตอนนี้น่ะไม่มีใครช่วยน้าเรื่องนี้ได้ดีไปกว่าผมหรอก เชื่อซิ”

“ถ้างั้น...ข้าต้องทำยังไงบ้าง” จะเด็ดถามอย่างไม่สบายใจนัก

ooooooo

เพราะรับเงินศักดิ์ชายมาแล้ว จะเด็ดจึงต้องทำงานให้ โดยทำเป็นพ่อปู่เข้า ชี้หน้าด่ากราดชาวตลาดที่พากันมายกมือไหว้พ่อปู่ด้วยความเคารพศรัทธาว่า

“กูบอกให้พวกมึงออกไปจากที่ของกูไง ได้ยินไหม... กูจะไม่ปล่อยให้เสนียดจัญไรอย่างพวกมึงมาทำมาหากินเหยียบหัวกูอีกต่อไปแล้ว มึงทำให้อาณาจักรของกูแปดเปื้อน มีราคี ออกไปกันให้หมด”

สดศรีติงพ่อปู่ว่า จะเป็นของพ่อปู่ได้ยังไงในเมื่อตลาดเป็นชื่อตนและชาวตลาดก็ทำแต่เรื่องดีๆมาตลอด

“จะทำดีแค่ไหนก็ลบบาปที่พวกเอ็งทำกันไว้ตั้งแต่ชาติภพที่แล้วไม่ได้หรอก ออกไป...กูบอกให้ออกไป

ไม่งั้นกูจะทำให้ที่นี่ลุกเป็นไฟ พวกมึงต้องตายโหงตายห่ากันทั้งหมด”

“ฉันว่าพ่อปู่พูดแรงไปนะ พวกเรากำลังแข็งขัน

ทำมาหากินกันดีๆ พ่อปู่พูดแบบนี้พ่อค้าแม่ค้าก็ขวัญหาย ลูกค้าก็ขวัญกระจายกันหมด ในฐานะเจ้าของที่ พ่อปู่ก็ต้องมีหน้าที่คอยคุ้มกันทุกคนที่นี่ซิ ไม่ใช่มาทำลายกันแบบนี้” ต๋องโต้

“มึงบังอาจ! มึงบังอาจมาก!! ได้...ถ้าพวกมึงอยากลองดี ไม่ยอมไป งั้นก็ดูเอาไว้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น”

พูดจบ พ่อปู่ก็ลงไปนอนชักดิ้นชักงอ ครู่เดียวก็มีเลือดพุ่งออกมาจากปากจากจมูก พวกลูกค้าและพ่อค้าแม่ค้าบางส่วนพากันหวีดร้องด้วยความหวาดเสียว สยดสยอง หันหลังวิ่งหนีออกจากตลาดไป

สดศรี ณดา ต๋อง และกิมลั้ง มองตามลูกค้าที่วิ่งเตลิดกันออกไปด้วยสีหน้าวิตกหนัก

ไม่เพียงเท่านั้น พอจะเด็ดรู้สึกตัวขึ้นมาก็หลอกชาวตลาดให้ดื่มน้ำมนต์ชำระบาปกรรมหรือมลทินที่เคยมี พอชาวบ้านดื่มเข้าไป ครู่เดียวก็พากันอ้วกหน้าดำหน้าแดง จะเด็ดก็ไปอ้วกกับเขาด้วย

อ้วกกันจนเหนื่อย เมื่อมารวมกลุ่มกันอีกที จะเด็ด ย้ำว่าท่าทางพ่อปู่ไม่ยอมให้พวกเราอยู่ที่ตลาดนี่แน่ๆ ขืนอยู่ต่อไปอาจต้องตายโหงตายห่าอย่างที่พ่อปู่พูดไว้ก็ได้

พวกคิตตี้ ชมพู่ คำมูล พากันหวาดกลัว คิดว่าหนีไปอาจลำบาก แต่ถ้าอยู่มีหวังตาย พากันตัดสินใจจะไปจากตลาด

“หยุดได้แล้ว ใครจะไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น ไม่เห็นเหรอตอนนี้เรากำลังไปได้ดี คนเข้าตลาดมากมายอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน แล้วจะมาทิ้งขุมเงินขุมทองที่เรามีอยู่ไปทำไม” สดศรีหว่านล้อม

“แต่บางทีเราก็ต้องยอมทิ้งบางอย่างเพื่อรักษาชีวิตนะอาคุณนาย” เต็กไฮ้ติง

“แต่ถ้าต้องออกไปจากที่นี่ ชีวิตทุกคนอาจจะจบก่อนจะถูกเจ้าที่ฆ่าตายก็ได้ คิดเหรอว่าสภาพเศรษฐกิจแบบนี้เราจะไปหาที่ทำกินใหม่ได้ง่ายๆ” กิมลั้งช่วยพูด

“ใช่...” ต๋องเห็นด้วย “ถ้าจะต้องเสี่ยงตายกับอนาคตที่ยังมองไม่เห็นแบบนั้น ฉันว่าเรามารวมใจกัน อยู่ที่นี่ต่อไปดีกว่า เราต่างหากที่เจ๋งกว่าเจ้าที่ ไม่ใช่สองมือ ของทุกคนนี่เหรอที่เสกตลาดของเราให้ดีวันดีคืนขึ้นมาได้เหมือนทุกวันนี้”

ชาวตลาดที่กำลังระส่ำระสายต่างชะงัก ลังเล

เมื่อจะเด็ดไปรายงานผลงานกับศักดิ์ชาย เขาชมว่าทำได้ดีมากแต่ยังดีไม่พอ เพราะตนต้องการให้ชาวตลาดหนีไปไม่ใช่แค่กลัว ว่าแล้วก็ควักเงินให้อีกห้าหมื่นสั่งว่า

“ขอให้รับผิดชอบงานที่เหลือให้เรียบร้อย ผมเชื่อว่าน้าจะทำให้มันสำเร็จ เพราะผมยังมีประโยชน์กับน้าไปอีกนาน”

แม้จะเด็ดจะหน้าเครียดหนักใจ แต่มือรับเงินหมับไปทันที

ooooooo

ขณะที่ทางตลาดกำลังวุ่นวายเพราะพ่อปู่แผลงฤทธิ์นั้น จาตุรงค์ที่ค้นพบตัวเองแล้ว ซื้อพิซซ่าไปหากิมแชที่บ้าน สารภาพความรู้สึกที่มีต่อกิมแชว่า

“ที่ผ่านมา พี่เชื่อมาตลอดว่าตัวเองชอบกิมลั้ง แต่พอมารู้ตัวอีกที พี่ก็เพิ่งรู้ว่าจริงๆแล้วพี่ใช้เวลาอยู่กับใครอีกคนมากกว่าด้วยซ้ำ เราทำอะไรด้วยกันตั้งหลายอย่าง เราฟังเพลงเหมือนกัน ดูหนังเหมือนกัน ไปไหนด้วยกัน ชอบกินอะไรเหมือนๆกัน แต่พี่กลับไปชะเง้อคอมองกิมลั้งจนมองข้ามคนที่อยู่ใกล้พี่ จนมองไม่เห็นความรัก ความห่วงใยที่เขามีให้พี่ พอถึงวันที่ต้องห่างจากคนคนนั้นออกมา มันก็ทำให้พี่รู้สึกว่า...ชีวิตพี่คงขาดเขาไปไม่ได้จริงๆ ตอนนี้พี่ขาดกิมแชไม่ได้แล้วจริงๆนะ...เชื่อไหม”

กิมแชตะลึงอึ้ง นํ้าตาคลอถามว่า “พี่รงค์...พี่พูดจริงเหรอ กิมแชไม่ได้ฝันไปใช่ไหม”

“จ้ะ...กิมแชไม่ได้ฝันไปแน่ๆ พี่ขอบคุณกิมแชมากนะที่ดีกับพี่มาตลอด แล้วก็สอนให้พี่รู้จักการให้ที่แท้จริง มาถึงตอนนี้ พี่คงต้องเป็นฝ่ายให้กิมแชบ้าง”

จาตุรงค์ตำหนิตัวเองที่ไม่มีแหวนและไม่มีช่อดอกไม้มาให้ แต่ขอมอบพิซซ่ากล่องนี้แทนความรักทั้งหมด แทนคำสัญญาว่าจะดูแลกิมแชตลอดไป เพียงเท่านี้กิมแชก็ตื้นตันใจรับพิซซ่าแล้วโผเข้ากอดกันด้วยความรัก

ooooooo

จะเด็ดเริ่มแผนหลอกชาวตลาดเรื่องพ่อปู่อีกครั้ง คราวนี้หลอกชาวตลาดจนแทบจับไข้กันหมด ต๋องไปไม่ทันเพราะซาเล้งถูกเจาะยาง เมื่อกิมลั้งวิ่งมาเล่าให้ฟัง ต๋องจึงชวนกิมลั้งไปที่สำนักของจะเด็ดเพื่อหาหลักฐานบางอย่าง

ที่ห้องพิธีของจะเด็ดนี่เอง ต๋องกับกิมลั้งเจอทั้งวิกผมพ่อปู่ ชุดเสื้อผ้าเหมือนนักพรต ถังใบใหญ่สำหรับใส่เลือด ซึ่งยังมีเลือดกรังที่ขอบถัง โคมไฟที่ใช้ส่องเงาของพ่อปู่ วิทยุที่มีแผ่นซีดี เป็นต้น

ทันใดนั้น ทั้งสองสะดุ้งสุดตัวเมื่อได้ยินเสียงกรณ์ลูกชายจะเด็ดคุยโทรศัพท์เข้ามา พอกรณ์รู้ว่าเพื่อนถอยไอโฟนมาก็โวยวายว่า “กูไม่ยอมนะเว้ย มึงซื้อที่ไหน เดี๋ยวพรุ่งนี้พากูไปด่วน”

ต๋องกับกิมลั้งช่วยกันเก็บหลักฐานที่พบใส่ถุงที่เตรียมมา จัดของให้เข้าที่เหมือนเดิม พลันก็ได้ยินเสียงจะเด็ดวิ่งกระหืดกระหอบกลับมาคุยกับกรณ์ที่มารออยู่

พอมาถึงจะเด็ดก็รีบควักเงินห้าหมื่นบาทให้กรณ์ พูดอย่างนอบน้อมว่า “ทั้งหมดห้าหมื่น ครบถ้วนแล้วคราวนี้”

พลันจะเด็ดก็หน้าเสียเมื่อกรณ์บอกว่ากล้องที่ซื้อเมื่อวานยังต้องซื้ออุปกรณ์เสริมอีกห้าหมื่น จำเป็นมากเพราะตนต้องใช้ทำงานส่งอาจารย์ ถ้าไม่มีงานก็ดีสู้คนอื่นไม่ได้

จะเด็ดหน้าเสียเพราะไม่มีเงินให้แล้ว กรณ์แสดงความก้าวร้าวฉุนเฉียว ยื่นคำขาดกับพ่อว่า ถ้าพ่อไม่ให้ตนก็จะไม่กลับมาที่นี่อีก

ต๋องแอบฟังอยู่ทนไม่ได้ ปรากฏตัวออกไปด่ากรณ์ “พอสักทีไอ้ปลิงดูดเลือด นี่พ่อนะเว้ย ไม่ใช่ตู้เอทีเอ็ม”

“แกเป็นใคร” กรณ์มองต๋องตาขวาง

“ก็เป็นคนที่จะบอกให้แกสำนึกกะลาหัวไว้ว่า พ่อแก ทำงานหนักแค่ไหนเพื่อส่งควายอย่างแกไปเรียน”

“แกสิควาย” กรณ์พุ่งเข้าจะชกต๋อง ถูกต๋องจับมือไว้บีบและบิดมือกรณ์จนร้องลั่น

“นี่แกยังไม่รู้ตัวใช่ไหมว่าแกบาปหนาแค่ไหนที่ทำให้พ่อตัวเองต้องหลอกลวงเอาเงินชาวบ้านตาดำๆไปให้แกเสวยสุข แล้วดูสิ ขณะที่พ่อแกใส่ชุดเก่าๆ ใช้ชีวิตอยู่ในห้องโทรมๆ แกยังกล้าแต่งตัวหรู ใช้ของดีแต่หัวจรดเท้าได้”

จะเด็ดพยายามห้ามต๋อง ถูกต๋องปรามว่า “น้าก็เตรียมตัวไว้เถอะ ฉันรู้ความจริงทุกอย่างหมดแล้ว แล้วคุณนายสดศรีก็จะได้รู้ด้วย” แล้วหันไปบอกกรณ์ “ถ้าพ่อแกถูกตำรวจจับ ก็ให้รู้ไว้เถอะว่าลูกเลวๆ อย่างแกเป็นคนทำ!”

ต๋องกับกิมลั้งผละไปแล้ว จะเด็ดยืนตัวชาจังงังกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ในขณะที่กรณ์ตกใจถามพ่อว่ามันเกิดอะไรขึ้น??

จะเด็ดบอกกรณ์ว่าตนรับจ้างห้างไล่คนออกไปจากตลาดเพื่อหาเงินให้เขาใช้ สารภาพว่าตั้งแต่กรณ์เกิดมาตนก็ใช้ความเชื่อความศรัทธาหลอกกินเงินคนในตลาด เพราะถ้าไม่ใช้วิธีนี้ตนก็ไม่รู้จะหาเงินได้อย่างไร แล้วสั่งเสียกรณ์ว่า ถ้าตนถูกจับก็ให้ดูแลตัวเองให้ดี ตนจะเก็บกวาดสมบัติเท่าที่มีขายเอาเงินให้ลูกใช้ สุดท้ายพูดทั้งนํ้าตาว่า

“ขอโทษนะลูก ที่พ่อทำให้กรณ์ได้แค่นี้”

กรณ์สะเทือนใจ อยากจะเข้าไปกอดพ่อแต่ก็ไม่กล้า มองไปเห็นเด็กขายพวงมาลัยก็ฉุกคิดอะไรขึ้นมาได้...

ooooooo

ต๋องเล่าพฤติการณ์ของจะเด็ดให้คุณนายสดศรีฟัง คุณนายผิดหวังมากที่คนเก่าแก่ทำกันถึงขนาดนี้ พอดีจะเด็ดเดินคอตกเข้ามาสารภาพผิด บอกคุณนายว่าตนไม่มีอะไรจะแก้ตัว ถ้าคุณนายจะจับส่งตำรวจก็เป็นเรื่องที่สมควรแล้ว

เมื่อจะเด็ดสำนึกผิด คุณนายใจอ่อนยอมให้โอกาสแก้ตัว โดยให้จะเด็ดแก้ไขเรื่องยุ่งยากที่ทำไว้ด้วยตัวเอง รับปากว่า

“เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด จะถูกเก็บไว้เป็นความลับระหว่างพวกเราสี่คนเท่านั้น”

“ขอบคุณมากครับคุณนาย” จะเด็ดยกมือไหว้ด้วยความซาบซึ้งใจ

คุยกันเสร็จจะเด็ดออกจากตลาด เจอกรณ์ยืนรออยู่ พอเห็นพ่อเดินออกมา กรณ์เรียกพ่อแล้วเดินเข้าไปกราบแทบเท้าพ่อพร้อมพวงมาลัยในมือ กรณ์ขอโอกาสแก้ตัว สองพ่อลูกกอดกันด้วยความรัก

แยกจากกรณ์แล้ว จะเด็ดขอคุยกับต๋องส่วนตัว พากันไปนั่งคุยที่ท่านํ้า ทั้งสองคุยอย่างเข้าใจกัน ต๋องขอให้จะเด็ดเรียกขวัญของคนในตลาดให้กลับมาตนก็พอใจแล้ว จะเด็ดรับปากแต่ต๋องต้องช่วยด้วย ต๋องขอโทษจะเด็ดด้วยถ้าที่ผ่านมาตนล่วงเกินอะไรไป

ต๋องชี้แจงว่าที่จริงตนไม่ได้ปฏิเสธเรื่องความเชื่อและพิธีกรรมที่จะเด็ดทำอยู่ เพียงแต่ทั้งจะเด็ดและอีกหลายคนใช้ความเชื่อของคนไปในทางที่ผิด กลายเป็นเรื่องงมงายหลอกลวงต้มตุ๋นไป

ทั้งสองคุยกันอย่างเกลอต่างวัย แต่ถ้าต๋องพูดขัดหูก็มีสิทธิ์ถูกจะเด็ดถีบตกนํ้าเหมือนกัน

คืนนี้ ต๋องป่าวประกาศให้ชาวตลาดมาหาพ่อปู่กันที่ตลาด พอชาวตลาดมากันอย่างกลัวๆ กล้าๆ จะเด็ดก็สวมวิญญาณพ่อปู่ อบรมสั่งสอนชาวตลาดว่า

“พวกมึงมันจิตใจไม่แน่วแน่แข็งแรง พอเจอขู่จะไล่ออกจากที่ก็ท้อก็กลัวซะแล้ว ทั้งที่กูก็แค่แกล้งมาวัดใจพวกมึงว่า จริงจังทำมาหากินบนที่ของกูสักแค่ไหน”

พ่อปู่ด่าชาวตลาดว่าใจปลาซิวปลาสร้อย ทั้งที่ทำสิ่งที่ถูกต้องดีงามอยู่แล้ว แต่กลับไม่มั่นใจ ย้ำว่า “ถ้าใจมึงพร้อม ใจมึงสู้ จะพ่อปู่ แม่ปู่ โคตรปู่ก็ทำอะไรมึงไม่ได้ แต่ถ้ามึงลังเล อ่อนแอ แค่มดตัวเล็กๆ ก็ฆ่ามึงให้ตายได้แล้ว เพราะฉะนั้น ต่อไปนี้มึงต้องฆ่าความกลัวในหัวใจให้ตาย ทุกคนมียักษ์อยู่ในตัว และพร้อมจะทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่าที่พวกมึงคิดได้เสมอ เอ้า...หลับตาแล้วจับมือคนข้างๆ”

ชาวตลาดทุกคนทำตาม พ่อปู่จะเด็ดบอกว่า

“หนึ่งนาทีจากนี้ขอให้ทุกคนสงบนิ่ง แล้วส่งผ่านความรัก ความตั้งมั่น ความตั้งใจดีไปให้ถึงกัน นับจากวันนี้ ทุกคนจะรวมพลังกันปลูกสิ่งดีงามลงบนผืนดินแห่งนี้ เพื่อดอกผลที่งดงามทั้งการกระทำและความคิด จะได้งอกเงยต่อไป”

ชาวตลาดหลับตาจับมือต่อๆ กัน ส่งจิตด้วยความสงบ

แต่ระหว่างนั้น ต๋องกับจะเด็ดแอบหรี่ตามองและยิ้มให้กัน เหมือนสัญญาใจที่ได้บรรลุแล้ว...

ooooooo

อ่านละคร รักเกิดในตลาดสด ตอนที่ 12

สดศรีกับณดาสองแม่ลูกพากันไปที่ห้างเวรี่แฮปปี้ ถูกยามกันไว้ไม่ให้เข้าไปในบริเวณส่วนออฟฟิศ แต่เป็นจังหวะที่รัศมีไปสั่งงานเสร็จจะเดินกลับห้องทำงาน จึงเจอสองแม่ลูกเข้าอย่างจัง

รัศมีถามว่าจะมาหาเรื่องอะไรกันอีก สดศรีพูดอย่างสงบเยือกเย็นว่า ตนไม่ได้มาหาเรื่องแต่จะเอาเงินมาให้ต่างหาก ขณะที่รัศมีงงๆ อยู่นั้น สดศรีเอาเงินออกมาสะบัด

“ก็เงินสกปรกที่พวกเธอเอาไปซื้อนายจะเด็ดไง” พูดแล้วปาเงินไปที่โต๊ะ “เอาคืนไป”

ศักดิ์ชายแก้ต่างให้แม่ว่านั่นควรเรียกว่าสินน้ำใจ ซ้ำขู่สดศรีว่าพูดอะไรลอยๆ ออกมาโดยไม่มีหลักฐานเขาเรียกว่าปรักปรำ สดศรีไม่สนใจ พูดให้พวกรัศมีเจ็บใจยิ่งขึ้นว่า

“ขอบใจมากๆ นะกับแผนชั่วของพวกเธอ เพราะมันทำให้ฉันได้นายจะเด็ดคนใหม่ที่กลับตัวกลับใจมาทำความดี แถมนายจะเด็ดยังได้ลูกชายคนใหม่ที่น่ารักกลับมาอีกด้วย”

“ที่สำคัญ...เรื่องที่เกิดขึ้นมันทำให้คนในตลาดรักกันเหนียวแน่นมากขึ้น แล้วก็มีพลังพร้อมที่จะทำ

ทุกอย่างให้ตลาดรุ่งเรือง” ณดาแทรกขึ้น สดศรีบอกให้เตรียมรับมือกับการบดขยี้ต่อไป คราวนี้ห้างเวรี่แฮปปี้ได้กลายเป็นเวรี่แซดแน่ๆ

พอสดศรีกับณดากลับไป รัศมีก็อาละวาดด่า

ชายศักดิ์ที่ไม่จัดการกับสดศรีจนกล้ามาเหยียบหน้าเราถึงบ้าน หาว่าชายศักดิ์ยอมแพ้เมียเก่า

“พอสักทีเถอะน่า...แค่นี้ก็เครียดจะตายอยู่แล้ว ฉันชักจะเบื่อกับการไล่ตามเป็นเจ้าของที่ไอ้ตลาดบ้านี่เต็มทน ยิ่งพยายามเท่าไหร่ก็มีแต่เข้าตัวเท่านั้น” รัศมีก็ยังไม่เลิกอาละวาด เลยถูกตวาด “เฮ้ย...หยุดบ้าสักที ถ้าจะเป็นแบบนี้ ไม่ใช่แค่เธอจะเสียตลาดนั่นไปนะ แต่เธอจะเสียฉันไปด้วย” พูดแล้วเดินออกไปทันที ปล่อยให้รัศมีแผดเสียงคลั่งอยู่กับศักดิ์ชาย

ooooooo

หลังจากจะเด็ดกลับตัวกลับใจแล้ว ก็หันมานำชาวตลาดสวดมนต์ให้อันตรายวินาศสันติกลับคืนมา

“ดีจัง...ไปๆมาๆ พวกเราก็เลยได้สวดมนต์ให้เป็นมงคลชีวิตกันทุกวัน ไม่น่าเชื่อเลยนะว่าน้าจะเด็ดจะเปลี่ยนไปเป็นคนละคนได้ขนาดนี้” กิมลั้งเดินคุยมากับต๋องหลังร่วมสวดมนต์เสร็จ

“ความรู้น่ะ มันจะเป็นวิชา หรืออวิชชา ก็อยู่ที่จะใช้ ก็เป็นโชคดีของแกที่กลับตัวกลับใจได้ แล้วก็เป็นโชคดีของคนที่นี่ด้วย ที่ได้อานิสงส์จากการกลับตัวกลับใจของแก”

ระหว่างนั้น มีคุณยายคนหนึ่งที่กระเดียดกระจาดขายขนมเดินมาท่าทางโงนเงน พลันก็ถูกมอเตอร์ไซค์คันหนึ่งขับผ่านไปด้วยความเร็ว ต๋องพุ่งเข้าไปดึงคุณยายออกมาได้ก่อนจะถูกชน ประคองคุณยายถามว่า “ยายเป็นอะไรรึเปล่า”

นอกจากช่วยคุณยายแล้ว ต๋องกับกิมลั้งยังช่วยเหมาขนมทั้งหมด พาคุณยายไปส่งที่บ้าน คุณยายขอบคุณทั้งสองและถามชื่อ ต๋องบอกชื่อและอาชีพขายผักในตลาด ส่วนกิมลั้งบอกชื่อและอาชีพขายปลาในตลาดเช่นกัน

“งั้นฉันลานะยาย เหงาก็แวะไปหากันนะ” ต๋องกับ กิมลั้งไหว้ลา คุณยายมองตามไปด้วยความชื่นชม

แต่พอกลับมาถึงตลาด ก็ถูกกิมฮวยตีหน้ายักษ์รออยู่ หาว่าทั้งสองแอบไปจู๋จี๋กัน กิมลั้งเล่าเรื่องช่วยคุณยายคนนั้นให้ฟัง แล้วพูดอย่างน้อยใจว่า

“อั๊วทำก็แค่คิดว่าถ้าวันหนึ่งแม่อั๊วเกิดไปเป็นอะไรที่ไหนขึ้นมา กุศลผลบุญที่ทำไปจะทำให้มีคนใจดีช่วยเหลือแม่อั๊วบ้างเท่านั้น ถ้าม้าไม่ชอบ วันหลังอั๊วจะได้ไม่ทำ”

“ทำไมอั๊วจะไม่ชอบ ช่วยมนุษย์เป็นเรื่องดี เจ้าแม่กวนอิมก็บอกไว้” กิมฮวยเสียงอ่อนลงทันที

ทันใดนั้นเอง เลื่อนวิ่งหน้าตื่นมาบอกต๋องให้รีบกลับบ้านด่วนจี๋ ต๋องตกใจว่าเกิดอะไรขึ้น

ที่แท้ติ๋มพี่สะใภ้ไปคลอดที่โรงพยาบาลแล้ว ต๋องไปเยี่ยมพี่สะใภ้และหลาน เต๋าบอกว่าเมื่อติ๋มคลอดแล้วต๋องก็กลับบ้านนอกไปทำอะไรบ้าๆบอๆของตัวเองได้แล้ว

ต๋องใจหายวาบ ทำทีถามว่าติ๋มไปขายผักแล้วใครจะเลี้ยงลูกให้ ติ๋มวางแผนจะให้แม่ช่วยเลี้ยง ต๋องเลยเศร้าไปถนัดใจ

ooooooo

ไม่เพียงไม่สบายใจเรื่องท่ีจะไม่ได้ขายผักอีกแล้ว ต๋องยังได้รับข่าวจากกิมลั้งว่า เต็กไฮ้กับลักษณ์กำลัง เตรียมไปพูดเรื่องงานแต่งงานระหว่างกิมลั้งกับจาตุรงค์ด้วย

ทั้งกิมลั้งและต๋องถูกกดดันมาก พากันไปนั่งเศร้าๆที่ริมคลอง กิมลั้งปรารภว่าทำไมผู้ใหญ่ถึงไม่เข้าใจเราเลย คิดแต่จะทำสิ่งที่เขาอยากได้ โดยไม่เคยถามเราเลยว่าต้องการอะไร

“ถ้าเชื่อมั่นในสิ่งที่ทำอยู่ เราก็ต้องยืนยันในสิ่งที่เราต้องการต่อไป ต่อให้หมดแรงยืนก็ต้องทำ ไม่งั้นความพยายามที่ผ่านมาจะกลายเป็นแค่เรื่องสูญเปล่า”

กิมลั้งบอกว่าถ้ามีต๋องอยู่ใกล้ๆเหมือนเดิมตนก็มีกำลังใจที่จะสู้ต่อ แต่ถ้าไม่มีต๋องแล้วตนก็ไม่รู้จะสู้อย่างไร ขอร้องต๋องให้อยู่เป็นเพื่อนตนนานหน่อยได้ไหม ตนยังไม่อยากกลับบ้านไปเจอเรื่องที่ทำให้หมดกำลังใจมากไปกว่านี้

ระหว่างนั้น กิมฮวยก็ระดมโทร.เข้ามือถือของกิมลั้งแต่ติดต่อไม่ได้ เคี้ยงเปรยๆว่าสงสัยกิมลั้งจะมีลางสังหรณ์ว่าจะเกิดเรื่องไม่ดี กิมฮวยถามเสียงขุ่นว่าการที่จาตุรงค์มาสู่ขอเป็นเรื่องไม่ดียังไง

กิมแชกำลังนั่งปอกผลไม้อยู่ได้ยินเต็มสองหูก็ใจหายวาบ ทำมีดบาดมือ กิมฮวยกับเคี้ยงรีบเข้าไปดู

“อากิมแช...เป็นอะไรของลื้อ ทำกับข้าวมาสิบกว่าปี อั๊วไม่เคยเห็นลื้อถูกมีดบาดเลย” กิมฮวยแปลกใจ

กิมแชไม่ตอบ แต่น้ำตาคลออย่างเก็บกลั้นไม่ได้

ooooooo

กิมลั้งกับต๋องปรึกษาหาวิธีแก้ปัญหากัน กิมลั้งเสนอว่าวันที่ต๋องกลับตนจะหนีตามไปเลยดีไหม ต๋องไม่เห็นด้วยเพราะนั่นเป็นวิธีของคนขี้แพ้ ขอให้กิมลั้งอยู่สู้ต่อไป ตนกลับบ้านนอกเพื่อคิดทำอะไรให้พร้อมจะได้กลับมาบอกแม่เธอได้เต็มปากว่าสามารถดูแลชีวิตเธอได้แน่นอน

ต๋องไปส่งกิมลั้งเพื่อเป็นกำลังใจและพร้อมจะต่อสู้เพื่ออนาคตของเราทั้งสองคน ถ้ากิมฮวยไม่ยอม

ตนก็ไม่ยอมเหมือนกัน จะบอกว่ากิมลั้งท้องกับตนแล้ว ทำเอากิมลั้งเขินทุบเอาดังอั้ก

อ่านละคร รักเกิดในตลาดสด ตอนที่ 11-12 วันที่ 20 ส.ค. 55

ละคร รักเกิดในตลาดสด บทประพันธ์โดย : นราวดี
ละคร รักเกิดในตลาดสด บทโทรทัศน์โดย : สนุกคิด-สนิทเขียน
ละคร รักเกิดในตลาดสด กำกับการแสดงโดย : พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง
ละคร รักเกิดในตลาดสด แนวละคร : โรแมนติก คอมเมดี้ เบาสมองตลกสนุกสนาน
ละคร รักเกิดในตลาดสด ผลิต : บริษัท แอ็คอาร์ต เจเนอเรชั่น จำกัด โดยผู้จัด ธัญญา วชิรบรรจง
ละคร รักเกิดในตลาดสด ออกอากาศ : ทุกวันศุกร์-เสาร์ และวันอาทิตย์
หลังข่าวภาคค่ำ 20.30 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3 ออกอากาศต่อจากละครเรื่องธรณีนี่นี้ใครครอง
ละคร รักเกิดในตลาดสด เริ่มออกอากาศ ตอนแรกวันเสาร์ที่ 4 สิงหาคม 2555
ที่มา ไทยรัฐ