@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร สามี ตอน 3 วันที่ 23 พ.ย. 56

อ่านละคร สามี ตอน 3 วันที่ 23 พ.ย. 56

หมวยเป็นคนปากไวชอบพูดสองแง่สองง่าม “แต่ถ้าให้ฉันประเมิน แกตกลงใจจะบะๆ”
รสิกาหยิก หมวยร้องโอ๊ย...เปลี่ยนมาถามว่าฝ่ายชายช่วยเหลือทุกอย่างทั้งเรื่องวังและเรื่องคดีใช่ไหม รสิกาเครียดที่ตนจะต้องขายตัวหรืออย่างไร ท่านพ่อต้องเสียใจมาก เสื่อมเสียเกียรติว่าแล้วก็ร้องไห้ออกมาอย่างอัดอั้น หมวยกอดปลอบเหมือนปลอบเด็กให้เลิกร้องไห้

ในขณะเดียวกัน ราพณ์นั่งรอรสิกาติดต่อกลับมา มานพแปลกใจไม่เคยเห็นเพื่อนจริงจังกับใคร ราพณ์ยอมรับ “จะมีผู้หญิงกี่คนที่เราเห็นแล้ว รู้สึกอยากให้เขาอยู่ในสายตาตลอดไป ฉันรู้สึกแบบนั้นกับเขา...คุณหญิงเงียบแบบนี้ พรุ่งนี้แกคงต้องเหนื่อยหน่อย”...มานพยินดีจะช่วย

ooooooo

ทางอเมริกา รามยังคงโวยวายเคาะประตูเรียกปิ๋มจนโดนฝรั่งข้างห้องอัดน่วมกว่าจะรู้ว่าหญิงสาวหนีกลับเมืองไทยไปแล้ว รามตัดสินใจตามกลับไปทันที


เช้าวันใหม่ มานพพาตำรวจมาหารสิกาที่วังทำทีหาว่าเธอเบี้ยวไม่จ่ายค่าเสียหาย ตำรวจเชิญเธอไปโรงพัก รสิกาหน้าเสีย ราพณ์โผล่มาขอเจรจาแทน รสิกาปฏิเสธ มานพเร่งให้ตำรวจจัดการ แม่นมกับแหววเข้ามากอดรสิการ้องไห้ไม่ยอมให้ตำรวจพาเธอไป รสิกายิ่งใจเสียเหมือนโดนกดดันอย่างหนัก ราพณ์ส่งสายตาจะเอาอย่างไร มานพก็เร่งเร้า

“คุณหญิงจะให้เขาเป็นตัวแทนเจรจากับผมใช่ไหมครับ”

“ค่ะ...” รสิกาโพล่งออกไปอย่างไม่ตั้งใจ

ราพณ์อมยิ้มกับชัยชนะ...จากนั้น ราพณ์กลับมารายงานเจ้าสัวว่ารสิกายอมแต่งงานแล้ว เจ้าสัวหยั่งเชิงถาม ยินดีให้คุณหญิงแต่งงานกับรามหรือเปล่า ราพณ์หลบตา

“รามเป็นน้อง เป็นคนในครอบครัว ผมควรต้องยินดี”

เจ้าสัวสรุปว่าไม่ยินดี ราพณ์รีบบอกว่า สิ่งใดที่ทำให้พ่อสบายใจ ตนทำได้ทุกอย่าง เจ้าสัวยิ้มภูมิใจกับลูกชายคนโต “ลื้อแบกรับทุกอย่างไว้บนบ่าเพื่อครอบครัว ความกตัญญูจะทำให้ลื้อเจริญรุ่งเรืองนะอาราพณ์”...

ตั้งแต่เกิดเรื่อง แม่นมเป็นห่วงรสิกาที่เอาแต่ซึมไม่ทานข้าว จึงตามหมวยมาช่วยปลอบ...ด้านรัตนาวลีไม่อยากเชื่อว่าลูกสาวยอมแต่งงานกับราม เจ้าสัวเรียวบอกเธอว่าจะรีบเตรียมงานแต่งเพื่อให้รสิกามาอยู่ใกล้เท่าไหร่ก็ยิ่งปลอดภัย ส่วนเรื่องวังประกาศเกียรติ ตนจะยื้อกับประสิทธิ์จนถึงที่สุดเพื่อไม่ให้เขาทำเรื่องที่คาดไม่ถึง รัตนาวลีอยากรู้ว่าราพณ์ใช้วิธีไหนถึงทำให้ลูกสาวยอมแต่งงาน ราพณ์อึกอักไม่กล้าตอบ ทันใดรามปรากฏตัวขึ้น ทุกคนแปลกใจ รามทัก

“เซอร์ไพรส์ไงครับป๊า ผมเพิ่งกลับมาถึง ผมตามแฟนกลับมา” รามมองรัตนาวลี “สวยสง่าแบบนี้ คุณแม่เลี้ยงของผมใช่ไหมครับ สวัสดีครับ” รามตีหน้าเศร้า ขอโทษรัตนาวลีที่ไม่อาจแต่งงานกับลูกสาวเธอได้เพราะตนมีคนรักแล้ว

เจ้าสัวเรียวกับราพณ์ตกใจ ดึงรามไปคุยในห้องทำงาน รามบอกว่าตนเลือกปิ๋ม เธอเป็นลูกสาวท่านทูต ราพณ์แอบดีใจ เจ้าสัวโกรธจนแน่นอก ราพณ์เข้าประคองพ่อ ตำหนิน้องชายทำให้พ่อผิดหวัง รามเอ่ยขอโทษแล้วกลับออกไปอย่างไม่ยี่หระ ราพณ์เกรงพ่อจะทรุดรีบบอกว่ายังมีตนเป็นลูกชายอีกคนที่จะรักษาหน้าพ่อ เจ้าสัวแอบยิ้มเข้าล็อก แต่ทำทีขอบอกขอบใจราพณ์

ooooooo

หลังจากที่ราพณ์อาสาแต่งงานกับรสิกาแทนราม เจ้าสัวเรียวกังวลว่า รสิกาไม่ชอบหน้าราพณ์ต้องไม่ยอมแน่ มีวิธีจัดการหรือ ราพณ์ยิ้มๆอย่างมีแผนการในหัวไว้แล้ว

กลางดึก โบตั๋นตื่นขึ้นมาพบว่า รามหิ้วผู้หญิงเข้ามานอนในบ้านก็โวยวายไล่อีตัวออกไปแทบไม่ทัน กราดเกรี้ยวใส่ลูกชายไม่รู้จักทำตัวให้เหมือนราพณ์บ้าง เข้าไปดูแลกิจการของพ่อ ทำตัวให้พ่อรักบ้าง รามโต้ว่าพ่อรักตนและพี่น้องทุกคนก็รักตน โบตั๋นตบหน้าราม

“ถ้ามันรักแกจริง ทำไมมันถึงไล่ม้ากับแกออกมา ทำไมป๊าถึงต้องส่งแกไปเมืองนอก”

“ก็ผมไม่สบาย...” รามท่าทางหวาดกลัวแม่ เพราะโดนเสี้ยมสอนฝังหัวมาแต่เล็ก

“แกมันโง่ ไอ้ราพณ์กับน้องๆมันเป่าหูป๊าแก มันบอกว่าแกเป็นบ้า”

รามออกอาการลนลาน ส่ายหน้าตนไม่บ้า โบตั๋นพยายามเป่าหูว่าทุกอย่างราพณ์กับน้องๆทำให้รามหัวเน่า หวังเขี่ยออกจากกองมรดก รามฮึดจะเอาชนะราพณ์ให้ได้

วันรุ่งขึ้น ท่าทางเจ้าสัวเรียวอารมณ์ดีจนรุ้งรายอดทักไม่ได้ เจ้าสัวบอกว่าดีใจที่ราพณ์จะเป็นฝั่งเป็นฝา

รุ้งรายยินดีด้วย แต่แล้วรามเข้ามาประกาศว่า จะแต่งงานกับรสิกา เจ้าสัวชะงักเล็กน้อยโอบไหล่ลูกชาย ก่อนจะบอกว่าตนเปลี่ยนใจแล้วให้ราพณ์เป็นคนแต่งงาน จบเรื่องเสียที

ด้านวังประกาศเกียรติ ประสิทธิ์กับสุรีย์ส่องเอาคนงานมายกของในวัง คนในวังห้ามเสียงเอะอะ รสิกาเข้ามาสั่งให้หยุดเหมือนเป็นประกาศิต คนงานชะงักวางของลง รัตนาวลีสั่งแหววโทร.เรียกตำรวจ ประสิทธิ์เยาะ

“ดี ให้ตำรวจมาเป็นพยาน เพราะได้เวลาที่ลูกหนี้จะต้องออกไปจากวังนี้”

“ยังไม่ครบกำหนด อ้ายจะไม่มีวันออกจากบ้านตัวเองเด็ดขาด”

“อีกสองชั่วโมงจะถึงกำหนดที่ตกลงไว้ เอามาสิ เงินแปดสิบล้าน มากองตรงหน้าพวกฉันเดี๋ยวนี้” สุรีย์ส่องเสียงกร้าว

รัตนาวลีจะโทร.หาเจ้าสัวเรียว รสิกาปราม สุรีย์ส่องหัวเราะร่าเพราะรู้ว่ารสิกาไม่มีปัญญาหาเงินมาได้ รสิกาเจ็บปวดแต่ก็โต้อย่างเจ็บแสบ

“ต่อให้ได้วังไปก็เปลี่ยนกำพืดเธอไม่ได้ อยากเป็นผู้ดีต้องดีจากข้างใน ถ้าดีเอ็นเอเป็นแค่การจะเชิดหน้าเป็นหงส์ด้วยการประโคมแอคเซสซอรีอย่างที่เธอชอบทำ ฉันว่า...มันน่าสมเพช”

สุรีย์ส่องเต้นผางจะเข้าตบ พลันเสียงแตรดังขึ้น รถแล่นเข้ามาจอดเจ้าสัวเรียวและราพณ์ลงจากรถ เจ้าสัวถามรัตนาวลีว่า คนพวกนี้ไม่ได้มาดีใช่ไหม ประสิทธิ์ประกาศกร้าววังนี้เป็นของตนแล้ว พร้อมโชว์ใบกู้หนี้ของท่านชัยประกาศ เจ้าสัวโต้ ครบกำหนดตอนหกโมงเย็น นี่เพิ่งจะสี่โมง ประสิทธิ์โวยไม่ใช่เรื่องของเขา เจ้าสัวเข้าโอบรัตนาวลีให้รู้ว่าเรื่องของภรรยาก็เป็นเรื่องของตน ประสิทธิ์หาว่ารัตนาวลีเป็นคนนอกไปแล้ว ราพณ์จึงก้าวมายืนคู่รสิกา

“งั้นผมก็มีสิทธิ์ยุ่งเรื่องนี้ เพราะผมกับคุณหญิงกำลังจะแต่งงานกัน”

สองพ่อลูกตะลึง รวมทั้งรสิกาและคนในวัง ประสิทธิ์ไม่ยอมหาว่ายังไม่ได้เงิน ราพย์วางกระเป๋าเงินสองใบลงตรงหน้า สุรีย์ส่องอึ้งแต่ยังไม่ยอมแพ้ ห้ามพ่อไม่ให้รับ ตนอยากได้วังนี้

“คุณประสิทธิ์คงไม่คิดทำตัวเหมือนเด็กเล่นขายของ พลิกลิ้นไปมาอย่างที่ลูกสาวคุณกำลังทำหรอกนะ” เจ้าสัวเยาะ

ราพย์ขู่ถ้าทำก็คงต้องฟ้องศาลกัน รสิกาจะค้านการช่วยเหลือนี้ พอดีประสิทธิ์โพล่งขึ้นอย่างเยาะหยัน คิดจะซื้อวังนี้ให้สองแม่ลูกหรือ ราพณ์สวนทันควันว่าซื้อสถานะความเป็นเจ้าหนี้ต่างหาก ถึงวังนี้จะเก่าแต่ก็มีคุณค่าสำหรับทุกคนที่อยู่ที่นี่ ราพณ์สบตาแม่นมและแหวว...รัตนาวลีดึงสัญญาเงินกู้มาฉีกทิ้งต่อหน้า พร้อมประกาศ

“ทุกอย่างอยู่ในเวลาที่กำหนดและเป็นไปตามข้อตกลง นอกจากเงินแปดสิบล้านจะซื้อสถานะเจ้าหนี้ของพวกคุณแล้ว ก็ขอให้เงินจำนวนนี้ซื้อความเป็นญาติจากพวกคุณด้วย...เมื่อขายขาดกันไปแล้ว ก็ขอให้สิ้นสุดการเป็นญาติกันเพียงเท่านี้ ต่อไปพวกคุณไม่มีสิทธิ์ในวังของท่านชายอีก วังประกาศเกียรติจะต้อนรับแต่ญาติและมิตรแท้เท่านั้น ขอให้ทุกคนจำไว้”

เจ้าสัวเรียวยิ้มพอใจกับการเอาจริงของภรรยา ประสิทธิ์โกรธจนตัวสั่น รัตนาวลีย้ำ เมื่อไม่ใช่ญาติก็เชิญออกไปจากวัง ถ้าพูดกันไม่รู้เรื่องให้แหววเรียกตำรวจแจ้งข้อหาบุกรุก ประสิทธิ์ขู่ทำแบบนี้กับตนจะต้องเสียใจ รัตนาวลีโต้ มีเพียงท่านชายที่เสียใจเพราะไปนับญาติกับสัมภเวสีโดยไม่รู้ตัว สุรีย์ส่องดูถูกตั้งแต่ขายตัวดูเก่งขึ้นเยอะ รัตนาวลีหันบอกแหววแจ้งข้อหาหมิ่นประมาทเพิ่มด้วย แล้วบอกรสิกาให้เตรียมขึ้นศาล ถ้าต้องฟ้องศาลเพื่อสั่งสอนคนที่ดูถูกเรา

“ค่ะหม่อมแม่” รสิกาเออออไปอย่างอึ้งๆ

“ปกติผมไม่ค่อยว่าง แต่ถ้าต้องไปเป็นพยาน ผมก็น่าจะจัดคิวให้ได้นะครับหม่อม”

รัตนาวลีขอบคุณราพณ์ เจ้าสัวเรียวออกปากไล่ซ้ำ สองพ่อลูกหมดทางต่อกรปึงปังกลับไป ราพณ์เอ่ย จบเรื่องเสียที จะได้จัดการแต่งงานให้จบๆ รสิกาของขึ้นทันที

“ที่คุณพูดว่าฉันต้องแต่งงานกับคุณ มันหมายความว่ายังไง”

ราพณ์ยิ้มกวนชวนไปคุยในบ้านไม่ควรคุยต่อหน้าคนรับใช้ รัตนาวลีข้องใจเช่นกันให้เจ้าสัวอธิบายด่วน...พอเข้ามาคุยตามลำพัง รสิกาถามทันทีว่า ตามข้อตกลงตนต้องแต่งงานกับน้องชาย ราพณ์กวนกลับ จะแต่งกับคนไหนก็เหมือนกัน เพราะเธอไม่ได้พิศวาสทั้งตนและน้อง

“ฉันไม่เคยนึกพิศวาสอะไรในตัวคุณเลยนะ”

“พูดแบบนี้หรือว่าคุณพิศวาสน้องชายผม ทั้งที่ยังไม่เห็นหน้า คุณนี่ไวไฟใช่เล่นนะ”

“ปากสกปรก!” รสิกาเงื้อมือจะตบ

ราพณ์จับมือเธอดึงมาประชิดอก รสิกาโวยว่าเขาเป็นผู้ชายที่น่าขยะแขยง ยิ่งเป็นการปลุกอารมณ์ราพณ์ เขารวบมือเธอทั้งสองข้าง “งั้นคุณคงต้องฝึกให้ชินกับความสกปรกของผมแล้วล่ะ เพราะผู้ชายที่คุณขยะแขยงคนนี้กำลังจะได้เป็นสามีของคุณหญิงรสิกา ประกาศเกียรติ... แล้วคุณจะได้รู้ว่า ผมสกปรกจริงรึเปล่า” ราพณ์จ้องลึกไปในดวงตาเธอ เผลอโน้มหน้าไปใกล้

รสิกาผลักเขาออกอย่างโกรธๆโวยตนไม่ใช่สิ่งของที่คิดจะโยนให้ใครก็ได้ ราพณ์ยั่วอารมณ์ให้เธอคิดเสียว่าเป็นข้อตกลงทางธุรกิจ ทั้งเรื่องเงิน คู่กรณีและเงินค่าวังนี้

“คุณกำลังจะพูดว่า ที่ฉันได้มา มันเกินคุ้มใช่ไหม... นายทุน! ฉันไม่ยอมเป็นลูกหนี้คนอย่างคุณแน่”

“คุณยังมีทางเลือกอีกเหรอครับ คุณหญิง”

“ถ้าฉันต้องแต่งงานกับคุณ ฉันยอมเป็นหม่อมไร้วังซะยังดีกว่า” รสิกาโกรธจัด เดินออกมาบอกแม่นมและแหววให้ไปบอกทุกคนเก็บข้าวของย้ายออกจากวัง

แม่นมใจหายวาบ รัตนาวลีตกใจกับการตัดสินใจของลูกสาว เจ้าสัวเรียวสะกิดถามราพณ์ไปพูดอะไรให้คุณหญิงโกรธแบบนี้ รัตนาวลีตามไปคุยกับลูกสาวหน้าห้อง เธอโวยทันที

“อ้ายไม่ใช่สิ่งของที่จะโยนให้ใครเมื่อไหร่ก็ได้ อ้ายเป็นคนมีศักดิ์ศรี มีหัวใจ แต่หม่อมแม่กลับร่วมมือกับพวกเขาเหยียบย่ำศักดิ์ศรีของอ้ายไม่เหลือดี”

“ทุกคนทำเพื่ออ้ายนะลูก”

“ถ้าหม่อมแม่จะทำเพื่ออ้ายจริงๆ ทำไมไม่ทำหน้าที่ของแม่ แม่ที่ยืนเคียงข้างลูก แต่นี่หม่อมแม่แสดงให้เห็นแล้วว่า เลือกที่จะอยู่ข้างสามีของหม่อมแม่”
สองแม่ลูกเสียใจไม่แพ้กัน รสิกาเข้าห้องปิดประตูใส่ แม่นมเข้ามาปลอบรัตนาวลี และว่าการยิ่งพูดเหมือนยิ่งโถมไฟเข้าหากัน รอไฟมอดลงก่อน ระหว่างนี้ตนจะดูแลคุณหญิงเอง

ooooooo

เมื่อสุรีย์ส่องเอาเรื่องรสิกาขายตัวแลกวังประกาศเกียรติมาบอกปฐวี เขาไม่อยากเชื่อแถมว่าน้องสาว อย่าพยายามเอาชนะความเป็นผู้ดีของรสิกาเลย เพราะทำอย่างไรก็ได้แค่พยายาม สุรีย์ส่องร้องกรี๊ดๆด้วยความโกรธ

รสิกาเสียใจที่ไม่อาจรักษาวังไว้ได้ แม่นมแม้จะใจหายแต่ก็ปลอบคุณหญิงว่าตนพร้อมจะออกไปอยู่กับเธอทุกที่ แหวว ป้านวล ป้านางคนรับใช้ก็ขอตามไปอยู่กับเธอ รสิกาซาบซึ้งใจ...คืนนั้น แหววเห็นแม่นมเก็บข้าวของน้ำตาคลอด้วยความผูกพัน

ขณะเดียวกัน รัตนาวลีซักไซ้เจ้าสัวเรียวเรื่องรามไม่ยอมแต่งงานกับรสิกา จึงให้ราพณ์แต่งแทนใช่ไหม ทำแบบนี้เหมือนเห็นลูกสาวตนเป็นสิ่งของ เจ้าสัวอธิบาย ที่ตนทำแบบนี้เพราะรู้ว่าราพณ์รักคุณหญิง รัตนาวลีไม่อยากเชื่อเพราะสองคนเพิ่งจะพบกัน

“ราพณ์รู้จักคุณหญิงมานานแล้วครับ นายธีเพื่อนเจ้าราพณ์บอกผมเอง และผมเชื่อสายตาของผม เวลาเห็นราพณ์มองคุณหญิงมันมีความหมาย หม่อมจำได้ไหมครับวันที่คุณหญิงเป็นลมอาการของราพณ์เป็นยังไง”

รัตนาวลีนึก “ฉันก็แปลกใจอยู่เหมือนกัน ฉันคิดว่าคุณราพณ์ไม่ถูกกับหญิงอ้าย”

เจ้าสัวถามว่ารังเกียจราพณ์ไหม รัตนาวลีส่ายหน้า เท่าที่เห็นราพณ์เป็นคนดีแต่ก็คงต้องแล้วแต่รสิกา...เจ้าสัวเรียก ราพณ์มาคุย เมื่อรสิกาไม่ยอมแบบนี้เขาจะทำอย่างไรต่อไป

“ผมยังมืดแปดด้านครับป๊า ผมไม่คิดว่าคุณหญิงจะเกลียดผมมากขนาดนี้ คิดไม่ถึงจริงๆ”

“ตอนนี้ประสิทธิ์มันคงแค้นที่ไม่ได้วังอย่างที่หวัง ลื้อต้องให้คุณหญิงแต่งงานกับลื้อให้เร็วที่สุด ก่อนที่มันจะลงมือ ยิ่งช้าคุณหญิงจะยิ่งตกอยู่ในอันตราย”...ราพณ์รับคำเจ้าสัว

วันรุ่งขึ้น ราพณ์มาที่วังประกาศเกียรติเพื่อจะแหย่ให้รสิกาจนตรอก โดยการบอกให้ย้ายออกจากวังภายในวันพรุ่งนี้ ไม่ทันไรแหวววิ่งมาบอกรสิกาว่าแม่นมเป็นลม ทั้งสองตกใจรีบพาส่งโรงพยาบาล ท่าทางรสิกากังวลใจอย่างมาก ราพณ์แสดงความเป็นห่วงอยู่ไม่ห่างจนหมอ ออกมาบอกว่า แม่นมเป็นโรคลิ้นหัวใจรั่วทำให้โลหิตไหลเวียนไปเลี้ยงหัวใจได้ไม่ปกติ ประกอบกับอายุมากทำให้อาการทรุด ทางที่ดีควรผ่าตัดด่วน รสิกาผงะตกใจ

“ผ่าได้เลยครับหมอ เรื่องค่าใช้จ่ายผมรับผิดชอบ เอง” ราพณ์ตัดสินใจแทนทันที รสิกาอึกอักไม่อยากรับ ราพณ์ติง “ศักดิ์ศรีของคุณไม่สำคัญเท่าชีวิตคนในปกครองหรอกนะ วางมันตรงนั้นเถอะคุณหญิง”

รสิกาอึ้งสักพักก่อนจะยินยอมให้หมอผ่าตัดแม่นมได้เลย ราพณ์แอบยิ้มอย่างพอใจ...ระหว่างรออยู่หน้าห้องผ่าตัดปฐวีโผล่มาบอกรสิกาว่าไปที่วังมา พอรู้ว่าแม่นมต้องผ่าตัดจึงอาสาออกค่าใช้จ่ายให้ รสิกาไม่อาจรับเพราะเกรงถูกสุรีย์ส่องหยามเกียรติ แม้เขาจะบอกว่าเป็นเงินส่วนตัวของเขา เธอก็ปฏิเสธและขอตัวไปดูแลแม่นม ให้เผอิญสกรรจ์ผ่านมาทัก

ราพณ์โทรศัพท์รายงานเจ้าสัวเรียวเสร็จ มองไปเห็นสกรรจ์และปฐวีเดินมากับรสิกาก็รู้สึกหึงอดแขวะไม่ได้ “ที่จริงคุณนมกำลังผ่าตัดอยู่ จะคุยอะไรกันก็น่าจะให้มันกระชับๆหน่อยนี่อะไรหายไปตั้งนาน”

รสิกาเถียงว่าตนไปคุยแค่สิบนาที นาฬิกาเขาคงเสีย แล้วหันไปบอกปฐวีให้กลับไปทำงานไม่ต้องห่วง ราพณ์หันมาถามสกรรจ์ไม่มีงานทำหรือ สกรรจ์ยิ้มตอบกวนๆว่าตนออกเวรแล้ว

“นี่มันเรื่องในครอบครัว คุณไม่ต้องยุ่งก็ได้นะครับ” ราพณ์หมั่นไส้

“ไม่เป็นไรครับผมเป็นคนนอกที่...ว่าง”

รสิกาเกรงจะไปกันใหญ่จึงถามสกรรจ์มาเยี่ยมใคร เขาตอบว่ามาเยี่ยมสิริโสภา เขาหมั่นมาเยี่ยมแทนไม่ต้องกังวล รสิกาขอบคุณ ราพณ์ยิ่งไม่พอใจติงว่าดึงคนนอกมายุ่งจะวุ่นวาย

“แต่คนนอกที่หวังดีอย่างจริงใจ ย่อมดีกว่าคนในที่ทำทุกอย่างเพื่อประโยชน์ของตัวเองไม่ใช่เหรอคะ งูพิษร้อยตัวยังไม่ร้ายเท่าคนรอบตัวที่ไม่จริงใจ” รสิกาแขวะ พลันกอบกู้ โทร.มาให้เธอเข้าออฟฟิศมีลูกค้ารอคุยงาน เธอจึงรับปากจะรีบไป

ราพณ์ได้ยินบอกให้เธอไปทำงานไม่ต้องห่วงแม่นม ตนดูแลแทน สกรรจ์ได้ทีอาสาไปส่งเธอ ราพณ์หน้าตึงทันที

ooooooo

เมื่อรสิกามาถึงออฟฟิศ กอบกู้รอพาเธอเข้าห้องประชุมสีหน้าไม่ค่อยดี พอเธอเข้ามาก็พบรุ้งรายและวศินนั่งอยู่ด้วยกัน รุ้งรายลุกขึ้นเกาะแขนวศินแสดงความเป็นเจ้าของให้เห็น

“สวัสดีค่ะคุณหญิง ฉันมาวันนี้เพื่อจะแจ้งให้ทราบว่า งานออกแบบที่จะจ้างคุณหญิงทำน่ะ ฉันจะให้คุณวศินเป็นคนประสานงานเรื่องนี้ ในฐานะตัวแทนของฉัน” รุ้งรายเน้น

“คุณรุ้งต้องการให้ผมเป็นคนตัดสินใจในเรื่องแบบทั้งหมด คุณหญิงทำงานมาพรีเซนต์ให้ผมภายในสองอาทิตย์ ผมต้องการงานที่ตรงเวลา ขอให้คุณหญิงเข้าใจตามนี้นะครับ”

รสิกาตะลึงกับการเปลี่ยนแปลงของวศิน พยายามเก็บอาการรับคำ รุ้งรายให้วศินตามไปเอาเอกสารกับกอบกู้ พอสองคนออกไป รุ้งรายก็หันมาพูดกับรสิกา รู้แล้วใช่ไหมว่าตอนนี้เธอเป็นแค่แฟนเก่า รสิกาสะอึกยืนนิ่งเก็บความรู้สึก รุ้งรายพูดย้ำหลายครั้ง รสิกาจึงเอามือถือออกมากดอัดเสียง รุ้งรายงงถามทำอะไร รสิกาตอบยิ้มๆ

“ก็อัดเสียงคุณไว้ไงคะ ฉันเห็นคุณพูดซ้ำๆก็เกรงว่าฉันจะเป็นสาเหตุให้คุณเป็นโรคย้ำคิดย้ำทำ อัดเสียงคุณไว้ว่างแล้วฉันจะเปิดฟัง คุณจะได้ไม่เหนื่อยและ...ไม่ป่วย พูดต่อสิคะ”

รุ้งรายอึ้งก่อนจะหัวเราะออกมา ถามรสิการักวศินหรือเปล่า รสิกาเห็นว่าไม่จำเป็นต้องตอบ รุ้งรายว่าจำเป็นเพราะตอนนี้วศินเป็นของตน เธอคงไม่คิดเปลี่ยนสถานะมาเป็นชู้

รสิกาหัวเราะในคอ “ฉันมีเรื่องในชีวิตที่ต้องทำอีกมาก เรื่องไร้สาระกับชีวิต ฉันไม่สนใจแล้วฉันก็ไม่ชอบยุ่งกับของของคนอื่น...คำตอบของฉันคงบำบัดอาการคุณได้แล้วใช่ไหมคะ”

รุ้งรายยักไหล่เชิงโอเค รสิกาขอตัวไปเอาแบบตัวอย่างงานมาให้ดูเป็นไอเดีย รุ้งรายมองไล่หลังพึมพำ... คนแบบนี้สิถึงจะเหมาะกับเฮียราพณ์

ไม่วายที่รุ้งรายยังลองใจ ทำทีทิ้งให้วศินอยู่ดูงานกับรสิกา แม้รสิกาจะอึดอัดใจแต่ก็วางตัวได้เหมาะสม ต่างจากวศินที่รู้สึกเสียดายและอาลัยในตัวเธอ อยากจะสารภาพผิด แต่เธอก็ยืดอกอย่างไว้ตัว เอ่ยปากบอกเขาให้เกียรติกันบ้าง ทุกอย่างมันจบสิ้นตั้งแต่ถูกทรยศไปแล้ว รุ้งรายกลับเข้ามาปรบมือชื่นชมที่รสิกาเป็นผู้ดีทั้งต่อหน้าและลับหลัง รสิกาสะเทือนใจเดินเลี่ยงไป รุ้งรายหันมาตำหนิวศิน ถ้ารู้ว่าทำตัวไม่เชื่องอีก ตนไม่ยอมเสียแค่เงินแน่ วศินขยาดเกรงถึงชีวิต...

อ่านละคร สามี ตอน 3 วันที่ 23 พ.ย. 56

ละครสามี บทประพันธ์โดย พัดชา
ละครสามี บทโทรทัศน์โดย สองปุณณณฐ
ละครสามี กำกับการแสดงโดย แมน เมธี
ละครสามี ผลิตโดย บริษัท เมกเกอร์ เจ กรุ๊ป จำกัด
ละครสามี ควบคุมการผลิตโดย จริยา แอนโฟเน่
ละครสามี ออกอากาศทุกวันพุธ และวันพฤหัสบดี เวลา 20.25 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ