@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร แค้นเสน่หา วันที่ 8 ส.ค. 56

อ่านละคร แค้นเสน่หา วันที่ 8 ส.ค. 56

“แย่งทุกอย่างไป ก็ต้องเจอบทเรียนอย่างนี้ คุณหญิงทอแสงรัศมีไม่ใช่คนที่เธอจะล้อเล่นได้ ไหนบอกว่าจะไปจากวังไง ใช้เสน่ห์เล่ห์กลให้พี่ชายพากลับมาอีก”

“คุณหญิงเข้าใจผิด”

“เชอะ...คนอย่างเธอทำเป็นสงบเสงี่ยม นังจริมาว่าร้าย เธอร้ายกว่าหลายเท่าไป...ไปอยู่ในที่ที่ควรอยู่”


คุณหญิงทอแสงลากรุ้ง เหวี่ยงร่างรุ้งเข้ามาในห้อง...แล้วรุ้งก็หวีดร้องออกมาเต็มแรง นัยน์ตาเบิกกว้างตกใจสุดขีด เมื่อเห็นเฟืองนั่งอยู่ในมุมห้อง ค่อย ๆ หันตัวกลับมามองเธอ พร้อมยกมือที่ถือมีดปาดคอตัวเองอย่างแรง เลือดแดง ๆ ไหลพลั่ก ๆ รุ้งกรีดร้องอย่างตกใจ จนหมดสติไปอีกรอบ

คุณหญิงเพ็งดีใจมากที่ทำให้ฉัตต์เข้าใจเรื่องทั้งหมดได้แล้ว เรียกทุกคนมาคุยที่ห้องโถง แต่ยังไม่มีใครพูดถึงเรื่องเปิดร้านอาหาร เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการเรียนต่อที่ต่างประเทศของฉัตต์ เพราะรุ้งกลัวเขาจะเสียหน้า จึงขอร้องทุกคนไว้นานแล้ว ตั้งใจว่าให้ฉัตต์เรียนจบก่อนถึงจะบอก

“ย่าดีใจเหลือเกินนะลูก... จันทร์ แม่ยังจำได้รุ้งเคยพูดกับแม่ว่า ไม่เคยโกรธฉัตต์เลย เพราะจริง ๆ แล้วรุ้งรู้ว่าฉัตต์จิตใจดี ไม่เหมือนที่แสดงออก”

ฉัตต์หันมาสบตากับจันทร์ เพราะเหมือนที่จันทร์พูดเมื่อกี้

“ริมาพยายามบอกพี่ฉัตต์ ฟังซะเมื่อไหร่เล่า รุ้งกลับมา ริมาจะบอกให้โกรธพี่ฉัตต์ได้แล้ว”

“ไม่หรอกค่ะ รุ้งก็จะเหมือนเดิม งานแต่งงานคุณฉัตต์รุ้งคงช่วยสุดตัว ต้องสวยงามทุกอย่าง แต่งที่บ้านใช่มั้ยคะคุณแม่” จันทร์เอ่ยขึ้น

“คงงั้น” คุณหญิงเพ็งเสียงเฉยเมย

จริมาแสร้งชำเลืองดูพี่ชาย

“โอ้โฮ อย่างนี้พี่ฉัตต์มีหวังสวดมนต์ทุกวัน...อยากแต่งเร็ว ๆ ไงคะ”

ฉัตต์ลุกพรวดไป ยืนหันหลังให้ทุกคน ดูข้างหลังรู้ว่า ตัวสั่นสะท้านด้วยความในใจ...จันทร์เห็นบรรยากาศผ่อนคลายลงจึงขอตัวไปโรงพยาบาล

“อ๋อ ไปหารุ้งเหรอ”

“ค่ะ”

“ไปทำไมคะโรงพยาบาล รุ้งอยู่วังรังสิยาค่ะ คุณชายเดียวรับไป ตั้งแต่วันที่พี่ฉัตต์แสดงอภินิหารไล่รุ้งออกไปค่ะ”

คำบอกเล่าของจริมา ทำให้จันทร์ตกใจเซแทบล้มทั้งยืน ก่อนจะร้องไห้โฮออกมา

“น้าจันทร์เป็นอะไรคะ” จริมาตกใจ

“คุณริมา...น้าต้องไปเดี๋ยวนี้ต้องเอารุ้งกลับ มาทันที โธ่ รุ้ง...รุ้งลูกแม่ ทำไม...ทำไมต้องไปที่นั่น”

จันทร์ลนลาน ทำท่าจะวิ่งออกไป

“เดี๋ยว...จันทร์ พูดอะไรให้รู้เรื่องหน่อย อย่าลุกลี้ลุกลน” คุณหญิงเพ็งร้องถาม

“วังรังสิยาเป็นที่ที่อันตรายที่สุดของรุ้งค่ะ.. ถึงชีวิตค่ะ ถ้าที่ลูกกลัวเป็นความจริง” จันทร์เอ่ยเสียงสั่น

“กลัวอะไร” คุณหญิงเพ็งถามงง ๆ

“กลัวความโกรธ ความเกลียด ความอาฆาต พยาบาท ที่คนที่วังนั่นมีกับลูก...แม้ว่า บางคนที่เกลียดลูกมากจะตายไปแล้ว... แต่ลูกเชื่อว่าวิญญาณ เขายังอยู่” จันทร์บอกตามความรู้สึกของตน

“ทำไมเขาถึงโกรธถึงเกลียด” คุณหญิงเพ็งซักต่อ

จันทร์รวบรวมสติ แล้วตัดสินใจบอกความจริง

“ลูกคือ...หม่อมบุหลัน คนที่เกลียดลูกที่สุดชื่อเฟือง เป็นคนสนิทของท่านหญิงแขไข วันที่ลูกคลอดคุณชายเดียว เฟืองเจตนาฆ่าลูก ให้นายยอดพาลงเรือจะไปคว่ำให้ตายกลางแม่น้ำ ..แต่ลูกคลอดรุ้งอีกคน เขาถึงไว้ชีวิต...รุ้ง คือ หม่อมราชวงศ์ หญิงวิมลโพยม รังสิยา น้องสาวฝาแฝดของคุณชายศักดินาค่ะ”

ทุกคนพากันตกตะลึง เมื่อรู้ความจริง ฉัตต์ร้อนใจมาก บอกเขาจะไปพารุ้งกลับมาเดี๋ยวนี้ ทุกคนขอตามไปวังรังสิยาด้วย จันทร์บอกคุณหญิงเพ็งให้รออยู่ที่บ้าน...

“ย่าเป็นตัวถ่วงใช่มั้ย...ไปเร็ว ๆ คนตายไม่เป็นไร ทำอะไรรุ้งไม่ได้ ห่วงแต่ท่านหญิง บอกตรง ๆ ย่าสังเกตอยู่เหมือนกันว่าท่านมองจันทร์ มองรุ้ง แปลก ๆ ดูไม่ออกว่าดีหรือไม่ดี...”

“ไป...ริมาดูแลพี่ด้วย อย่าให้เขาใจร้อนจนเกินไป...จันทร์”

“ค่ะคุณแม่”

คุณหญิงเพ็งกอดจันทร์อย่างให้กำลังใจ

“ลูกแม่เป็นคนดี หลานแม่ก็เป็นคนดี ตัดสินปัญหาทุกอย่างด้วยความคิดที่ดี ความเมตตาเป็นที่ตั้ง ความดีจะคุ้มครองทั้งสองคน”

จันทร์ซึ้งใจทรุดตัวลงกราบคุณหญิงเพ็ง น้ำตาคลอ ยอดเห็นทุกคนออกมาท่าทางร้อนใจ จึงตรงเข้าไปหา สีหน้าถามจะไปไหน

“ฉันจะไปวังรังสิยา ไปรับคุณรุ้งกลับ ยอดดูแลทางนี้ เพราะคุณหญิงไม่ได้ไป” จันทร์บอก

“ผมไปด้วย” ยอดสวนทันที

ทุกคนพากันตกใจที่ยอดพูดได้ ยอดเข้าไปกราบคุณหญิง สีหน้าขอโทษ จันทร์พูดอธิบายแทน

“ยอดไม่ได้เป็นใบ้...เขาต้องทำเป็นใบ้เพราะเขาไม่รู้จะตอบใครอย่างไร ตอนที่มีคนพบเราสามคนที่ท่าน้ำค่ะ”

“เอาเถอะ ค่อย ๆ พูดกันทีหลัง”

ยอดกราบคุณหญิงเพ็ง ลุกขึ้น หันกลับมาเจอหน้าฉัตต์ ยืนประจันหน้า สีหน้าฉัตต์เหมือนจะพูดว่า เห็นมั้ยฉันดูไม่ผิด

“ฉัตต์!” คุณหญิงเพ็งปราม

ฉัตต์นิ่ง ทุกคนจ้องอย่างวิตก แล้วฉัตต์ก็ถอยไปขึ้นรถ ทุกคนพากันโล่งอก

“เฮ้อ...พายุพัดผ่านไปแล้ว ไปได้” จริมา บอกยิ้ม ๆ

ยอดรีบตามไปขึ้นรถด้วยทันที

คุณหญิงทอแสงข้องใจและสงสัยเรื่องท่านหญิงแขไขกับรุ้ง จึงเข้ามาถามท่านหญิงที่ในห้อง

“ท่านป้าคะ...ท่านป้าทรง...เอ่อ ไม่ชอบรุ้งใช่มั้ยคะ หญิงเห็นท่านป้า...”

ท่านหญิงแขไขไม่พอใจลุกขึ้นจะเดินออกไป แล้วหยุดชะงักหันมา

“เขาเป็นคนไม่ดี...แม่เขาก็ไม่ดี...ป้าไม่เคยคิดว่าเขาจะเป็นอย่างนี้

“ท่านป้าทรงรู้จักแม่ของเขาด้วยหรือคะ”

“รู้จัก” ท่านหญิงพูดเสียงเครียด

“เอ... น่ากลัวจะใช่ ว่าเขาเป็นคนที่ท่านแม่รับสั่งถึง ว่าท่านแม่เคยรู้จัก เขาเป็น...”

คุณหญิงทอแสงพูดไม่ทันจบประโยค ท่านหญิงแขไขตวาดสั่งให้หยุดพูด และไล่ให้ออกไป

“ท่านป้าคะ...” คุณหญิงทอแสงหน้าเสีย

“ถ้าเธอไม่ไป ฉันจะไปเอง...จะไปหรือไม่ไป”

ท่านหญิงทุบโต๊ะอย่างอัดอั้น คุณหญิงทอแสงตกใจ เมื่อจัดการทุกอย่างแล้ว ผีเฟืองก็กลับมาบอกท่านหญิงที่กำลังนอนหลับ และฝันว่าตนยืนจ้องมองภาพท่านชายอย่างสะใจอยู่ในห้องเก็บกระดูก

“อีกไม่ช้า...ก็พบกันแล้วนะคะ รอไม่นาน ทั้งเมีย ทั้งลูกที่เจ้าพี่รักเหลือเกินนั่นน่ะ หญิงจะส่งไปหาเจ้าพี่...ใครเป็นคนส่งไป ทรงทราบมั้ย...ทรงทราบมั้ยคะ ฮะ...ฮะ...นี่ไงคะ คนที่ส่งมันสองคนไปหาเจ้าพี่”

ท่านหญิงยิ้มเยาะ ขณะที่วิญญาณท่านชายในรูปถ่ายก็มองเห็นวิญญาณเฟืองด้วยความตกใจ

“นังเฟือง...”

“คอยนะมังคะ หม่อมฉันจะส่งให้ถึงหัตถ์เลย” เฟืองบอกอย่างสะใจ

“เป็นสัมภเวสีเร่ร่อนก็เป็นไปคนเดียว...ทำไมต้องมาชักชวนท่านหญิง...ไหนว่ารักนักรักหนา” ท่านชายตำหนิ

“องค์ท่านหญิงสั่งหม่อมฉัน...ท่านหญิงไม่รักองค์เองจะให้หม่อมฉันรักหรือมังคะ” เฟืองตวาด

“เอ็งผิดมาตลอดนังเฟือง” ท่านชายกล่าวโทษ

“ท่านหญิงสิ เป็นคนผิด ท่านหญิงทรงสั่งหม่อมฉันให้ฆ่า” เฟืองเถียงเสียงแข็ง

“ไม่ใช่...เจ้าพี่...เจ้าพี่ผิดองค์เดียว เจ้าพี่มีนังบุหลันทำไม...มีทำไม”

ท่านหญิงตะคอกใส่ท่านชาย ก่อนจะสะดุ้งตื่นจากฝัน...เวลาใกล้ค่ำ ฝนทำท่าจะตก ชายเดียวกลับมาจากโรงพยาบาลเห็นผ่องกำลังปิดหน้าต่าง จึงเข้ามาถามหาท่านหญิง

“ในห้องพระรูปค่ะ คุณชายมาเองหรือคะ”

“มารถแท็กซี่ สนไปรับคุณรุ้งรึเปล่า”

ผ่องยังไม่ทันตอบมีเสียงรถแล่นเข้ามาจอดที่หน้าตำหนัก ชายเดียวหันไปดูแล้วรีบออกไป...

ฟ้าแลบแปลบปลาบแล้วฟาดเปรี้ยง...เปรี้ยง ฉัตต์ จริมา จันทร์ และยอดลงมาจากรถอย่างรีบร้อน ชายเดียวออกมาเร็ว ๆ

“คุณชาย” จริมาเรียกชายเดียว

“พี่ฉัตต์”

“ผมมารับรุ้งกลับบ้าน”

ชายเดียวเห็นแต่ละคนท่าทางลุกลี้ลุกลน จึงถามว่าเกิดอะไรขึ้น จันทร์น้ำตาคลอเดินเข้ามาจับมือชายเดียว

“คุณชาย ช่วยเรียกรุ้งให้น้าด้วย รุ้งอยู่ไหนคะ เราจะพารุ้งกลับบ้าน”

“ผมยังไม่เห็นรุ้งครับ อาจจะยังไม่ได้กลับหรือกลับมาแล้วอยู่ข้างบน เชิญนั่งรอข้างในก่อนนะครับ เดี๋ยวผมจะตามรุ้งให้”

“เราจะรอตรงนี้ คุณย่ากับคุณน้าเพิ่งกลับจากวัดคิดถึงรุ้ง”

ชายเดียวมองหน้าจริมา และหันไปมองฉัตต์

“ตามรุ้งมาเถอะชายเดียว”

ระหว่างนั้นผ่องเดินออกมาพอดี

“ผ่อง คุณรุ้งกลับมาหรือยัง” ชายเดียวถาม

“คุณรุ้งไปค้างบ้านปัณณธรค่ะ”

ทุกคนหันไปดูผ่อง อย่างตกใจ

“เมื่อเช้าไปโรงพยาบาลค่ะ แล้วจะไปค้างบ้านโน้นสองสามวัน เธอบอกคุณหญิงทอแสงไว้อย่างนั้นค่ะ”

จันทร์เซ...ล้มในอ้อมแขนชายเดียวทันที จากนั้นชายเดียวก็โทรศัพท์เช็กที่โรงพยาบาล ปรากฏว่ารุ้งไม่ได้ไปทำงาน ทุกคนตกใจมาก จันทร์ใจไม่ดี ซักถามผ่องต่อ

“แล้วทำไมผ่องบอกว่าไป”

“ไปเมื่อเช้าค่ะ...แต่ดิฉันไม่เห็นนะคะ พี่สนเค้ามาตามจะไปส่ง...ในห้องไม่มีแล้วค่ะ” ผ่องบอกตามจริง

“แต่รุ้งไม่ได้กลับบ้าน รุ้งต้องอยู่ที่นี่ ฉันเชื่อว่าอยู่ คุณชายให้ใครไปดูในห้องรุ้งหน่อย” จันทร์ขอร้อง

“มีเรื่องอะไรกันครับ” ชายเดียวทำหน้า งง ๆ

จริมาจับแขนชายเดียว แล้วบีบแน่นเป็นสัญญาณ

“คุณชายให้ผ่องไปดูรุ้งในห้องหน่อย”

อ่านละคร แค้นเสน่หา วันที่ 8 ส.ค. 56

ละครแค้นเสน่หา บทประพันธ์โดย : วราภา
ละครแค้นเสน่หา บทโทรทัศน์โดย : อ.แดง ศัลยา
ละครแค้นเสน่หา กำกับการแสดงโดย : สำรวย รักชาติ
ละครแค้นเสน่หา ผลิตโดย : บริษัท ฮูแอนด์ฮู จำกัด
ละครแค้นเสน่หา ควบคุมการผลิตโดย : วรายุทธ มิลินทจินดา
ละครแค้นเสน่หา ออกอากาศทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ