อ่านละคร แค้นเสน่หา ตอนที่ 12 วันที่ 2 ส.ค. 56
ฟากรุ้งก็นอนหลับลึกด้วยความอ่อนเพลียเพราะอดนอนมาหลายวันติดกัน หญิงสาวฝันถึงท่านชายที่มาเตือนให้ระวังตัว เมื่อตื่นขึ้นมาจึงขอประทานท่านหญิงเข้าเฝ้าท่านชายอีกครั้ง ภาพสองพ่อลูกนั่งมองหน้ากันทำให้ท่านหญิงแสลงใจ โอดครวญกับผีบ่าวคนสนิทด้วยความสะเทือนใจ“เฟือง...ท่านมาหาลูกท่าน ท่านไม่เคยมาหาหญิงเลยตั้งแต่ท่านสิ้น ลูกของท่านมาแค่คืนสองคืนท่านกลับมาหา หญิงเป็นคนไร้ค่าสำหรับท่าน เป็นอย่างนี้มาตลอดไม่มีแล้ว...หมดแล้วที่เคยรักและคิดถึง”
“ไม่จำเป็นก็อย่ามาเพ่นพ่านแถวนี้ พ่อฉันย่าฉันให้แกอยู่ที่นี่ แต่แกเตรียมตัวไว้ วันใดที่ฉันเป็นเจ้าของ แกหาที่ซุกหัวนอนอื่นเหมือนเจ้านายแกได้เลย”
ยอดยืนนิ่ง มองมาด้วยแววตาไร้อารมณ์จนฉัตต์เลือดขึ้นหน้า ถลันไปต่อยเพื่อระบายอารมณ์ อดีตคนสวนไม่สะทกสะท้านและค่อยๆพยุงตัวไปหลังบ้านอย่างสงบ พิสินีมาถึงพอดี คล้องแขนฉัตต์อย่างสนิทสนมและขอปรึกษาเรื่องฤกษ์วันแต่งงาน ฉัตต์นิ่งไปอึดใจแล้วปรับสีหน้าเป็นปกติ
“ได้สิครับบัว...เราจะแต่งงานกันเมื่อไหร่ดี”
ooooooo
พิสินีเกาะแขนฉัตต์เข้าไปในบ้าน ยิ้มแย้มหน้าระรื่นราวกับไม่มีเรื่องหนักใจ คำพูดของปยุตเมื่อวันวานยังก้องในหัว การขัดขืนคำสั่งของพ่อไม่ใช่เรื่องง่ายจริงๆ
“คุณพ่อเป็นคนตรง รักษาสัญญาเป็นที่สุด แม้กระทั่งกับคนตาย”
“คุณพ่อตรง บัวก็ตรง ถ้าบัวได้ยินจากฉัตต์ว่าเขาจะทำตามที่พ่อเขาคลุมถุงชนกับผู้หญิงคนนั้น...บัวจะถอย”
แต่ ถึงกระนั้นก็ต้องลองดูสักตั้ง พิสินีดึงตัวเองออกจากห้วงความคิด หันไปมองฉัตต์ที่ทำท่าเฉยชาจนเธอเริ่มระแวง ตัดสินใจบอกความในใจตามประสาคนไม่ชอบเรื่องค้างคา
“บัวรักคุณ คุณต้องการเวลาเท่าไหร่ถึงจะรักบัวหรือว่ามันจะไม่มีวันมาถึง...และเราจะไม่ต้องหาฤกษ์”
“คุณพูดมีความหมายสองอย่าง หนึ่งคือแต่งและหาฤกษ์ สองคือไม่หาฤกษ์เพราะไม่แต่ง บัวหมายถึงข้อไหน”
พิสินีมองมานิ่งๆแล้วบอกรักเสียงหวาน ฉัตต์จึงตอบตกลงแต่งงานด้วย
ฟาก สำลีเห็นยอดเดินมาพร้อมเลือดที่ยังซึมตรงมุมปากจึงถลันไปหาเพราะนึกรู้ว่าคง ถูกฉัตต์ซ้อมเพื่อระบายอารมณ์เหมือนเคย ยอดซาบซึ้งใจมาก จับมือตอบเพราะอยากให้เธอรู้ความในใจบ้าง สำเนียงผ่านมาเห็นท่าทางพะเน้าพะนอของลูกสาวกับเจ้าใบ้ก็ของขึ้น สำลีไม่ยอมประกาศกร้าวว่ารักยอดและขออยู่กินด้วยกัน
“แม่ไม่ให้ฉันรักพี่ยอดแต่ฉันรักคนที่รักไม่ได้
คนนี้ ฉันรักเขา ถึงจะรักไม่ได้แต่ฉันก็รักเขาแล้ว”
สำเนียง อ้าปากค้าง เช่นเดียวกับคนอื่นในครัวแม้รู้มาตลอดว่าสำลีรู้สึกยังไงกับยอดแต่ก็ไม่คิด ว่าจะกล้าพูดตรงขนาดนี้ แม้แต่ฉัตต์ที่บังเอิญผ่านมาได้ยินก็ถึงกับทึ่งในความใจกล้า ไม่ต่างจากรุ้งที่เพิ่งมาถึงบ้าน สะเทือนใจมากที่เห็นการแสดงความรักแบบหนักแน่นของสำลี
รุ้งเลี่ยงไปทางร้านอาหาร ฉัตต์เหลือบเห็นพอดีจึงตามติดและหาเรื่องรวนเหมือนเคย
“รุ้งขอโทษที่มาในที่ที่ไม่ควรมา ต่อไปจะไม่มาอีกแล้วค่ะ ขอโทษนะคะ”
“เธอจะมาทำไมในเมื่ออยู่ที่วังก็มีความสุขดี บ้านนี้ไม่มีอะไรเทียบได้”
“รุ้ง ไม่ได้คิดจะไปอยู่ที่นั่น เวลานี้กำลังหาห้องเช่า ที่ไหนๆรุ้งก็อยู่ได้...รุ้ง แม่และนายยอดเหมือนผักตบชวาที่ลอยมาติดท่าน้ำบ้านคุณฉัตต์เหมือนกองสวะรกตา เพราะฉะนั้น...รุ้งอยู่ไหนก็ได้ที่มีที่ซุกหัวนอน”
ฉัตต์อึ้งไปอึดใจ ความรู้สึกผิดถาโถมแต่กลับแสดงท่าทีเกรี้ยวกราดเพื่อปกปิดอารมณ์อ่อนไหวในจิตใจ
“หยุดสร้างภาพเสียที ไม่อย่างนั้นเธอจะยอมไปกับชายเดียวทำไม”
“คุณฉัตต์อย่าคิดแทนรุ้ง คุณไม่ใช่รุ้ง คุณไม่เคยเข้าใจ ไม่เคยรู้จักรุ้ง!”
ฉัตต์พูดไม่ออกเพราะไม่เคยเห็นรุ้งโต้ตอบอย่างโกรธจัดเช่นนี้ ส่วนรุ้งก็โมโหจนไม่เก็บอาการอีกต่อไป
“คุณ ฉัตต์โตกว่าแต่ใจคุณเล็กกว่ารุ้ง...แต่ยังไงก็ขอบคุณนะคะที่ไล่รุ้งออกจาก บ้าน คุณฉัตต์ไม่ได้ทำอะไรผิดเลยค่ะ ถูกต้องทุกอย่าง รุ้งทำให้คุณฉัตต์โกรธ รุ้งจึงไม่ควรอยู่ที่นี่อีกต่อไป”
ฉัตต์สงสารจับใจแต่เพราะปลอบใครไม่เป็นจึงเลือกนิ่งเฉย รุ้งน้อยใจมากจนอดตัดพ้อไม่ได้
“คุณ ฉัตต์ทำให้รุ้งคิดได้ว่าควรจะยืนด้วยตัวเองไม่พึ่งใคร...นกถึงจะพเนจรมา พักพิงสุขสบายยังไงมันก็ควรไปสร้างรังของตัวเอง ไม่อย่างนั้นก็จะเป็นกาฝากแบบนี้เรื่อยไป คุณฉัตต์เมตตารุ้งมามากแล้ว รุ้งจะคิดถึงบุญคุณเสมอ”
รุ้งจากไปแล้ว ฉัตต์ได้แต่มองตามตาละห้อย รู้ดีว่าทำร้ายเธออย่างแสนสาหัสแต่ก็ขี้ขลาดเกินกว่าจะขอโทษ
ooooooo
ท่าน หญิงประทับในห้องทำงานและมองพระรูปท่านชายเหมือนที่ชอบทำบ่อยๆในช่วงหลายวัน ที่ผ่านมา คำพูดสัญญาและคำบอกรักของสามียังตราตรึงอยู่ในใจ เช่นเดียวกับพฤติกรรมนอกใจที่ทำให้เธอเจียนคลั่งจนถึงบัดนี้
“เจ้า พี่ยกย่องมันเพราะมันใจถึงกว่าหญิงใช่ไหม เจ้าพี่ว่าหญิงเย็นชาและจืดชืด เจ้าพี่ไม่มีความสุข แล้วมันขนาดไหนเจ้าพี่ถึงรักและหลงมันนัก รู้องค์ไหมว่าเจ้าพี่กับมันเหยียบย่ำหัวใจหญิง เจ้าพี่สิ้น...หญิงก็ยังทุกข์เพราะหญิงรักและคิดถึง แต่วันนี้หญิงหมดแล้ว...ไม่มีอีกแล้ว เจ้าพี่ตายแล้ว”
ท่านหญิงยกมือ ทุบหน้าอกด้านซ้ายของตัวเองหลายครั้ง นึกถึงบ่าวคนสนิทที่ต้องสังเวยชีวิตและวิญญาณให้ความเจ็บแค้นของเธอเบาบาง แล้วก็พานน้ำตาไหลออกมาอย่างช่วยไม่ได้
“เจ้าพี่ฆ่าเฟือง...ฆ่าเพื่อนคนเดียวของหญิง เฟืองตายไปหญิงไม่เคยมีความสุขเลย ทำไมเฟืองต้องตาย”
ผี เฟืองนอนหมอบน้ำตาคลอที่พุ่มไม้รกๆหน้าตำหนัก ความเจ็บปวดที่ท่านหญิงประสบทำให้ผีร้ายร้อนรน ความอาฆาตแค้นหวนมาใหม่ ใบหน้าที่ซีดเซียวก็ดำคล้ำและเริ่มเกรี้ยวกราด ภาพความทรงจำสุดท้ายก่อนตายโดยเฉพาะเมื่อท่านชายอาละวาดทำร้ายจนถึงกับเลือด ตกยางออกทำให้อารมณ์พุ่งถึงขีดสุด ตวัดสายตาไปทางห้องคุณหญิงทอแสง ใช้อิทธิฤทธิ์สะกดให้ราชนิกุลสาวออกมาหน้าตำหนักและบงการให้ทำตามแผนร้ายใน วันรุ่งขึ้น
ฝ่ายท่านหญิงก็เข้านอนด้วยความกระสับกระส่าย ความกังวลเรื่องอดีตหม่อมทำให้ฝันร้าย ภาพชายเดียวเดินจูงมือกับจันทร์ค่อยๆเด่นชัด ท่านหญิงโผไปแทรกกลางและขอร้องให้คืนลูกชายแต่จันทร์กลับปฏิเสธเสียงเย็น
“อย่าเสียเวลาอ้อนวอนเลยมังคะ ทรงได้ในสิ่งที่ไม่ควรได้มานานแล้ว ถึงเวลาที่อะไรๆจะถูกต้องเสียที”
“มันเป็นไปไม่ได้ที่อีขี้ข้าอย่างแกจะเป็นแม่ของหม่อมราชวงศ์ศักดินา...ฝันไปเถอะ”
“แต่อีขี้ข้าคนนี้ก็ท้องคุณชายจนทำให้บางคนที่ท้องไม่ได้คลุ้มคลั่งแทบจะเป็นบ้าเพราะท่านชายไม่ทรงร่วมมือ”
“อี บุหลัน...อีตัวมาร แกบังอาจด่าฉันเชียวหรือ ฉันท้องไม่ได้เพราะแกคนเดียว อีคนหน้าด้านที่แย่งผัวฉันไป แกไม่ละอาย ทำผิดศีลธรรมยังลอยหน้ามาว่าฉัน แกนั่นแหละที่ตายไปจะต้องตกนรกไม่ได้ผุดไม่ได้เกิด”
“หม่อมฉันตายแล้วตกนรก...แต่ท่านหญิงตกนรกทั้งๆยังไม่ตาย”
อดีต หม่อมยิ้มสะใจและพาชายเดียวจากไป ท่านหญิงอึ้งไปอึดใจแล้วกรีดร้องเสียงดัง ทรงวิ่งไล่ตามจนแทบหมดแรงแล้วทุกอย่างก็ดับวูบ...เมื่อตื่นขึ้นอีกครั้งก็ ผวาลุกจากพระที่และตะโกนเรียกผีบ่าวคนสนิท ทรงกรรแสงอยู่นานแต่ก็ไม่เห็นวี่แววผีเฟืองจะปรากฏตัวเหมือนเคย...ไปไหนกัน นะเฟือง มาหาหญิงเดี๋ยวนี้ได้ยินไหม!
ขณะที่ท่านหญิงคลุ้มคลั่ง เรื่องจันทร์...ฉัตต์เองก็แทบบ้าตายเพราะความคิดถึงรุ้ง เขาเข้าไปในห้องนอนเธอเหมือนหลายคืนที่ผ่านมาและผล็อยหลับไปพร้อมกับกรอบรูป ของเธอแนบอก ความเครียดทำให้ฟุ้งซ่าน ภาพงานแต่งงานระหว่างชายเดียวกับรุ้งผุดขึ้นมาในหัวจนทำให้เขาทรมานและนอน ไม่หลับเกือบตลอดทั้งคืน
ฉัตต์ตื่นแต่เช้ามืด มองกรอบรูปด้วยความประหม่าเพราะไม่รู้ตัวว่าอาการหนักถึงขั้นนอนกอดรูปเธอ ทั้งคืน เขาลุกไปวางคืนบนโต๊ะเขียนหนังสือตัวเล็ก ลังเลใจนิดหนึ่งก่อนเปิดลิ้นชัก เห็นจดหมายหลายฉบับจึงหยิบขึ้นอ่านทีละแผ่น
อ่านละคร แค้นเสน่หา ตอนที่ 12 วันที่ 2 ส.ค. 56
ละครแค้นเสน่หา บทประพันธ์โดย : วราภาละครแค้นเสน่หา บทโทรทัศน์โดย : อ.แดง ศัลยา
ละครแค้นเสน่หา กำกับการแสดงโดย : สำรวย รักชาติ
ละครแค้นเสน่หา ผลิตโดย : บริษัท ฮูแอนด์ฮู จำกัด
ละครแค้นเสน่หา ควบคุมการผลิตโดย : วรายุทธ มิลินทจินดา
ละครแค้นเสน่หา ออกอากาศทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ