@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร ดาวเกี้ยวเดือน ตอนที่ 1 วันที่ 25 ส.ค. 56

อ่านละคร ดาวเกี้ยวเดือน ตอนที่ 1 วันที่ 25 ส.ค. 56

“35 แต่ยังไม่มีแฟนเป็นตัวเป็นตน เขาว่ากันว่า คุณชายไม่เคยจริงจังกับผู้หญิงคนไหน ฉายาของคุณชายคือ...เดทเดียวดับ...ถ้าผู้หญิงคนไหนได้ออกเดทกับคุณชายแล้วล่ะก็ คุณชายจะบอกเลิกทันที” มิลินทร์เล่าถึงสาวหลายๆคนที่คุณชายบอกเลิกหลังจากดินเนอร์ด้วย

ประกายดาวนึกถึงวันที่สาดกาแฟใส่เขา วันนั้นเขาคงบอกเลิกผู้หญิงคนนั้น “โรคจิต ฉันว่าเขาต้องมีปัญหาทางด้านความสัมพันธ์ เป็นคนที่เอาตัวเองเป็นที่ตั้ง ไม่เคยนึกถึงความรู้สึกของคนอื่น ไม่มีความปรานี ไม่มีน้ำใจไม่มีความอ่อนโยน ไม่มีความเมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา...”


“โว้ย! พอได้แล้ว...บางทีที่เขาทำแบบนั้น อาจจะเป็นเพราะเขาเป็นคนกลัวความรักก็ได้ เขาถึงไม่อยากผูกพันหรือผูกมัดกับใคร” จิตสุภางค์ตั้งข้อสันนิษฐาน

มิลินทร์เห็นด้วย แต่ประกายดาวปักใจว่าเขาเป็นเสือผู้หญิง ประเภทฟันแล้วทิ้ง มิลินทร์แย้งทันทีว่า

คุณชายคบทีละคน และเท่าที่เห็นมีผู้หญิงคนเดียวที่สนิทมากที่สุดคือ คุณหญิงนิ่ม เป็นญาติห่างๆ ห่างจนแต่งงานกันได้ ประกายดาวแขวะว่ารู้ลึก มิลินทร์โต้ถ้าตนยังไม่แต่งงาน เขาเสร็จตนแน่ ประกายดาวเบ้หน้า

“ถ้าโลกนี้เหลือคุณชายจันทร์เป็นผู้ชายคนเดียว ฉันยอมเป็นโสดไปจนตายดีกว่า”

แต่แล้วคืนนั้นประกายดาวก็เก็บไปฝันว่า มีเด็กมาร้องเรียกแม่ เธอดีใจกอดเด็กด้วยความรักและเอ็นดู ไม่ทันไร เด็กผละออกวิ่งไปกอดคนที่ร้องเรียกว่าพ่อ เธอหันไปมองแทบช็อกเพราะคือจันทรภานุ เธอสะดุ้งตื่นร้องลั่น ไม่จริง...พอรู้ตัวว่าฝันไปก็โล่งอก แล้วต้องตกใจอีกครั้งเมื่อมองนาฬิกาว่าจะไปทำงานสาย

ooooooo

ประกายดาวรับงานถ่ายภาพให้กับงานฉลองครบสิบปีของโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง เธอรีบร้อนเข้ามาอย่างเหนื่อยหอบ เจ้าหน้าที่ต้อนรับบอกว่างานยังไม่เริ่ม เธอค่อยโล่งอกเข้ามาถ่ายภาพเด็กๆที่เล่นเกมต่างๆในงาน จนกระทั่งคุณหมอขึ้นกล่าวบนเวที เธอก็ทำหน้าที่ถ่ายภาพไปเรื่อย

จนกระทั่งได้ยินคุณหมอพูดเรื่องความภาคภูมิใจของทางโรงพยาบาลที่สามารถช่วยคุณพ่อคุณแม่ที่มีบุตรยาก ประกายดาวหูผึ่ง หันมาตั้งใจฟัง

“หลายต่อหลายท่านในนี้มีความสงสัยว่า การทำ IVF หรือเด็กหลอดแก้ว ทำกันอย่างไร ต่อไปนี้เชิญชมพรีเซนเทชั่นดังกล่าวได้เลยครับ”

เสียงบรรยายประกอบภาพบอกว่า IVF เป็นการนำเอาเซลล์สืบพันธุ์จากฝ่ายหญิง ได้แก่ไข่ และตัวเชื้ออสุจิจากฝ่ายชายมาผสมกันในจานเพาะเลี้ยง ทำให้เกิดการปฏิสนธิ และมีการแบ่งตัวของเซลล์ตัวอ่อน จากนั้นจึงนำตัวอ่อนย้ายกลับเข้าไปเลี้ยงต่อในโพรงมดลูก ความสำเร็จในการตั้งครรภ์แต่ละครั้ง ประมาณ 20-50% ...ประกายดาวมองภาพไข่กลายเป็นเด็กแล้วนำกลับเข้าไปในมดลูก เจริญเติบโตในครรภ์ คุณหมอเรียกเด็กที่เล่นอยู่ในงานขึ้นเวที ทุกคนล้วนมาจากการทำหลอดแก้ว เธอตื่นตาตื่นใจอย่างมาก ราวกับได้เจอสิ่งที่รอคอย

“ในที่สุด ความฝันของฉันที่อยากมีลูกที่เกิดจากสายเลือดของตัวฉันเองก็เป็นความจริง”

ประกายดาวมายืนดักรอคุยกับคุณหมอ พอหมอรู้ถึงกรณีของเธอที่ไม่อยากแต่งงานแต่อยากมีลูกก็อธิบายว่า “ส่วนใหญ่จะเป็นชาวต่างชาติ ส่วนที่ทำแล้วประสบความสำเร็จก็ยังไม่มี เพราะว่าเขาจะมาฟรีซไข่เก็บเอาไว้ก่อน”

“ฟรีซไข่เก็บเอาไว้ก่อน คืออะไรเหรอคะ” ประกายดาวแปลกใจ

“ผู้หญิงที่ยังไม่มีสามี แต่อยากเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว การหาน้ำเชื้อมันต้องใช้เวลา อาจจะเป็นปี เพราะฉะนั้นเขาจะเก็บไข่ฟรีซเอาไว้ตอนอายุปัจจุบัน เพื่อจะได้ไม่ต้องกังวลกับอายุที่มากขึ้น ซึ่งมันจะมีความเสี่ยงต่อการมีบุตรครับ”

แววตาของประกายดาววิบวับสมชื่อ เธอดีใจมาก นำความมาปรึกษาแดนดิน พี่ชายกำลังดูแลร้านต้นไม้ของตัวเอง ตกตะลึงกับความคิดแผลงๆของน้อง

“หยุดพูดเรื่องสะปงสเปิร์มในร้านของฉันนะ แกเพี้ยง แกปัญญาอ่อนรึเปล่า คิดอะไรเป็นผู้เป็นคนกับเขาบ้างไหม ฉันไม่คุยกับแกแล้ว”

“พี่ดินก็รู้ว่าดาวรักเด็ก ดาวอยากมีลูก มันทำได้จริงๆนะพี่ดิน”

“ไอ้ดาว ลูกนะเว้ยไม่ใช่ข้าวของเครื่องใช้ที่จะจับจ่ายซื้อหาได้ เด็กมีชีวิตมีจิตใจ ถ้าเกิดเขาโตขึ้นมาแล้วอยากรู้ว่าตัวเองเกิดมาได้ยังไง แกจะตอบลูกแกได้เหรอ”

ประกายดาวยักไหล่ จะตอบไปตามตรง ถ้าเพื่อนล้อก็บอกว่าเท่ดีเสียอีกไม่เหมือนใครและตนก็จะเป็นแม่ที่รักลูกมากๆ สมบัติเงินทองก็มีพอ แดนดินอ่อนใจ ประกายดาวดักคออย่ามาตัดพี่ตัดน้องกับตน ที่มาบอกเพราะเห็นว่าเป็นญาติคนเดียวที่เหลืออยู่ อย่างไรเสียตนก็จะทำ...

พอประกายดาวเอาเรื่องมาปรึกษาจิตสุภางค์

กับมิลินทร์ ทั้งสองก็ท้วงเหมือนกัน จิตสุภางค์รู้ว่าห้ามเพื่อนไม่ได้ จึงเสนอให้เอาลูกๆตนไปลองเลี้ยงดูก่อนค่อยตัดสินใจใหม่

หลังจากวันนั้น ประกายดาวแวะมาที่มูลนิธิเด็ก เพื่อขอระงับเรื่องขออุปการะเด็กไว้ก่อน เผอิญเจอจันทร–ภานุที่มาบริจาคเงินตามปกติ ทั้งสองทะเลาะกันเรื่องที่จอดรถ สุดท้ายจันทรภานุต้องยอมด้วยความหงุดหงิด

ooooooo

วันต่อมา ประกายดาวมาเลี้ยงเด็กตามคำชวน จิตสุภางค์ให้เลือกลูกว่าจะเลี้ยงคนไหน ทั้งหมวย หลิงและหลิน แย่งกันให้เลือกตัว ส่วนคนเล็กที่เพิ่งคลอดคือหลง แค่สองเดือน จึงให้เฮียเชาดูแลเอง ประกายดาวสงสารที่เด็กๆแย่งกันจึงบอกว่าจะเลี้ยงทั้งสามคน

จิตสุภางค์อึ้ง

ครึ่งวันผ่านไป ประกายดาวหัวปั่นกับการที่เด็กๆ ทะเลาะกัน แย่งที่จะให้ตนทำอะไรให้ ร้องไห้กระจองอแง จนประกายดาวต้องขอให้จิตสุภางค์ช่วยห้ามทัพให้ จิตสุภางค์แกล้งนั่งกินขนมดูทีวีอย่างสบายใจ แต่พอเสียงลูกๆทะเลาะกันดังมากขึ้นๆ จึงเข้ามาเอ็ด

“ถ้าใครร้องจะเอาลูกโป่งอีก อดกินไอติม...” เด็กทั้งสามเงียบกริบ

“พูดแค่นี้ก็สงบศึกได้แล้วเหรอ สุดยอดว่ะ” ประกายดาวทึ่ง

“ใช่ แต่แกต้องพาสามลิงไปหาไอติมกินนะ เพราะที่บ้านไม่มี ไม่งั้นเดี๋ยวก๊อกสอง ก๊อกสามตามมาแน่”

ประกายดาวเลิ่กลั่ก รีบพาเด็กๆออกไป...เฮียเชาเดินลงมาแปลกใจที่บ้านเงียบ พอรู้ว่าประกายดาวพาเด็กๆ ออกไปก็ตื่นตระหนก เกรงลูกพลัดหลงกับประกายดาว หรือทะเลาะกันจนเกิดอุบัติเหตุได้ แต่จิตสุภางค์กลับเห็นว่า ดี...เพื่อนจะได้ล้มเลิกความคิดอยากมีลูกเสียที

ในห้างสรรพสินค้าที่ประกายดาวพาเด็กๆมาซื้อไอศกรีม พอดีมีร้านพวกเซเลบเปิดใหม่ข้างๆ นักข่าวมารอทำข่าว แต่พอเห็นประกายดาว พวกนักข่าวก็มารุมสัมภาษณ์เรื่องที่เป็นข่าวกับศิวะแฟนเก่า ระหว่างนั้น จันทรภานุเดินตรวจห้างฯ ก่อนที่จะถึงงานฉลอง 50 ปี ของห้างฯ ประกายดาวกำลังปฏิเสธกับนักข่าว ที่รุมถามว่าเด็กคนไหนเป็นลูกเธอกับศิวะ พลันเห็นหลินเดินตรงไปยังบันไดเลื่อน ประกายดาวตาเหลือกผละจากพวกนักข่าววิ่งร้องห้ามหลิน

ทันใด มีชายคนหนึ่งมาอุ้มหลินไว้ทันก่อนที่เธอจะก้าวขึ้นบันไดเลื่อน ประกายดาววิ่งเหนื่อยหอบมาถึงเอ่ยปากขอบคุณ ชายที่หันมาคือ จันทรภานุ ต่างคนต่างตกใจ เขาตำหนิทันที

“เคยอ่านป้ายที่ติดไว้ในห้างฯบ้างหรือเปล่า ว่าอย่าปล่อยเด็กให้อยู่ตามลำพังในห้างฯ”

ไม่ทันที่จะต่อปากต่อคำ พวกนักข่าวก็จูงหมวยกับหลิงมาส่งและจะสัมภาษณ์ต่อ ประกายดาวจูงเด็กๆ

เดินหนี มาถึงเห็นลิฟต์กำลังจะปิดจึงรีบเอามือคั่นแล้วต้องชะงัก เมื่อเจอจันทรภานุอยู่ในนั้นก่อนแล้ว แต่พอหันไปมองเห็นกลุ่มนักข่าววิ่งตามมา จำต้องดันเด็กๆเข้าไป

ชายหนุ่มเหลือบมองก่อนเปรยๆว่า “วันนี้ต้องเป็นวันซวยของผมอีกแน่ที่เจอคุณ”

“ฉันต่างหากที่ต้องพูดประโยคนี้...” ประกายดาวฉุนกึก ไม่ทันไร ลิฟต์กระตุกแล้วดับ

เด็กๆร้องไห้กอดขาประกายดาวกันใหญ่ จันทร–ภานุโทษ “เห็นไหม พูดไม่ทันขาดคำ”

“อย่ามาโทษฉัน ถ้าจะโทษก็ต้องโทษไอ้เจ้าของห้างฯนี้ ที่ทำงานชุ่ย ไม่รู้จักตรวจสภาพลิฟต์ก่อนใช้งาน ทำให้ลูกค้าไม่ได้รับความปลอดภัย”

จันทรภานุสะอึก เด็กๆร้องไห้กระจองอแงกลัวตาย ประกายดาวปลอบว่าไม่ตายถ้ามีอากาศหายใจ ชายหนุ่มได้ทีตำหนิ “นอกจากจะชอบปล่อยลูกไว้ตามลำพังแล้วยังชอบขู่ลูกอีก แม่แบบไหนกันเนี่ย”

ประกายดาวแหวใส่ ให้รีบกดปุ่มเรียกคนมาช่วย ชายหนุ่มกดปุ่มแล้วทำเสียงเข้ม “ผม จันทรภานุ ตอนนี้ผมติดอยู่ในลิฟต์ รีบส่งคนมาช่วยด่วน”

ประกายดาวแขวะ แค่นี้ต้องประกาศให้รู้ว่าตัวเองเป็นใครด้วย หลินแทรกขึ้นว่าตนปวดฉี่ ประกายดาวบอกให้ฉี่ใส่ผ้าอ้อมได้เลย หมวยรีบบอกว่าน้องไม่ได้ใส่ เธอตาเหลือกปลอบให้อดทนไว้ก่อน จันทรภานุต่อว่าไม่รู้จักใส่ผ้าอ้อมให้ลูก เด็กที่ไหนจะอั้นไว้ได้ ประกายดาวจึงถอดกางเกงหลินจับนั่งให้ฉี่ไปเลย ชายหนุ่มร้องห้ามเดี๋ยวเหม็นล้างไม่ออก

อ่านละคร ดาวเกี้ยวเดือน ตอนที่ 1 วันที่ 25 ส.ค. 56

ละครดาวเกี้ยวเดือน บทประพันธ์โดย : รอมแพง
ละครดาวเกี้ยวเดือน บทโทรทัศน์โดย : ปณธี - สุธิสา วงษ์อยู่
ละครดาวเกี้ยวเดือน กำกับการแสดงโดย : ธรธร สิริพันธ์วราภรณ์
ละครดาวเกี้ยวเดือน ผลิตโดย : บริษัท บรอดคาซท์ ไทยเทเลวิชั่น จำกัด
ละครดาวเกี้ยวเดือน ดำเนินงานโดย : อรุโณชา ภาณุพันธ์
ละครดาวเกี้ยวเดือน ออกอากาศทุกวันพุธ - พฤหัสบดี เวลา 20.25 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ